 |
ความคิดเห็นที่ 4 |
Part 3 (by แอร์ริโกะ)
เรื่องราวของรอธแมน (ทนายความของแชนดเลอร์) จากคำบอกเล่าของอดีตผู้ที่เคยทำงานร่วมกันในคดีของไมเคิล ผู้ทำหน้าที่จดบันทึกการสนทนาของรอธแมนและแชนดเลอร์ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่พวกเขาทำร่วมกันในสำนักงานของรอธแมน ทำให้เชื่อได้ว่าแบร์รี่ น่าจะเป็นคนที่คิดแผนการณ์ขึ้นมาทั้งหมด มันไม่น่าแปลกใจเลย หากคนแบบเขาจะทำเรื่องแบบนี้ อดีตผู้ร่วมงานของรอธแมน เปิดเผยรูปแบบของการจัดการแผนชั่ว
รอธแมนเคยเป็นทนายความอยู่ที่ เซนจูรี่ ซิตี้ (Century City) ครั้งหนึ่ง เขาเคยทำหน้าที่เป็นผู้ต่อรองในเรื่องของเพลงและคอนเสิร์ตให้กับ ลิตเติ้ล ริชาร์ด (Little Richard), โรลลิ่ง สโตน (Rolling Stones), เดอะ ฮู (The Who), อีแอลโอ (ELO) และออสซี่ ออสบอร์น (Ozzi Osbourne) รางวัลต่าง ๆ (Gold and platinum records) ที่ได้มาในช่วงเวลานั้น ยังคงแขวนอยู่บนผนังสำนักงานของเขา หนวดสีเงิน และผิวสีแทนที่รอธแมนเฝ้าทะนุถนอมทำให้เพื่อนร่วมงานของเขานึกถึงเลปพราคอน (Leprechaun - เลปพราคอนเป็นความเชื่อของชาวไอริช เป็นคนแคระที่มีรูปร่างเล็กมากแต่งตัวค่อนข้างซอมซ่อแต่มิดชิดเนื่องจากอยู่ในเมืองหนาวบางครั้งอาศัยอยู่ในห้องเก็บไวน์ใต้ดิน บางครั้งในบ้านในไร่นาส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแถบชนบทชานเมือง แถบเนินเขาสูงชอบช่วยเหลือคนในงานต่างๆ) ในความคิดของอดีตเพื่อนร่วมงาน รอธแมนเปรียบเสมือนปีศาจ ที่มีอารมณ์ร้าย สมบัติที่เขาหวงแหนเหลือเกินคือรถ โรสรอยซ์ คอร์นิช (Rolls-Royce Corniche) ปี 1977 ติดเลขทะเบียน BKR 1
ในช่วงเวลาหลายปี รอธแมนสร้างศัตรูมากมาย ครั้งหนึ่งภรรยาเก่าของเขา เปิดเผยกับทนายความของเธอว่า เธอรู้สึกประหลาดใจ ที่ไม่มีใครจัดการกับเขาได้เสียที เขามีชื่อเสียงในเรื่องความร้ายกาจที่มีต่อคนอื่น เขาเป็นคนเหนียวหนี้ตัวฉกาจ ที่แทบไม่เคยจ่ายเงินใครเลย เอ็ด มาร์คัส (Ed Marcus) สรุปไว้ในสำนวนสอบสวน (ประจำศาลสูงของเมืองลอสแองเจอลิส ส่วนหนึ่งของคดีฟ้องร้องรอธแมน) หลังจากทบทวนข้อมูลของเจ้าหนี้ที่มีมากกว่า 30 รายที่กำลังไล่ล่ารอธแมนอยู่ในขณะนั้น นอกจากนี้ รอธแมนยังพัวพันในคดีแพ่งที่บรรจุอยู่ในการพิจารณาของศาลสูงอีกมากกว่า 20 คดี ยังไม่รวมถึงข้อร้องเรียนที่มีต่อสมาพันธ์แรงงาน และการทำผิดทางวินัยอีก 3 ครั้งที่ได้รับการลงโทษโดยสภาเนติบัญญัติ แห่งแคลิฟอร์เนีย ในปี 1992 เขาโดนพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นเวลา 1 ปี แต่ในภายหลังเขาถูกตัดสินให้ถูกคุมประพฤติแทนการพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ในปี 1987 รอธแมนยังคงติดค้างการจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นจำนวนเงิน 16,800 ดอลลาห์สหรัฐ ทนายความของอดีตภรรยา (Joanne Ward : โจแอน วอร์ด) เรียกร้องเอาทรัพย์สินจากรอธแมน แต่เขาขอผ่อนผัน โดยการขอชำระหนี้สิน แต่ในช่วง 1 ปีถัดมา ก็ยังไม่มีการจ่ายเงินใด ๆ จากรอธแมน ทนายความของโจแอน พยายามที่จะทำเรื่องขอครอบครองบ้าน เชอร์แมน โอ๊ค (Sherman Oaks) ของรอธแมน แต่ก็ต้องพบกับความประหลาดใจเมื่อรู้จากรอธแมนว่า เขาไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยเขาได้ยกกรรมสิทธิ์ของบ้านไปให้กับบริษัท Tinoa Operation ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ (Shell company) สัญชาติปานามา จากการอ้างอิงของทนายความของโจแอน ทำให้ทราบว่า รอธแมนอ้างว่าเขาทำเงินสดของบริษัท Tinao หายไป 2 แสนดอลลาห์สหรัฐ ในคืนที่เขาโดนปล้นในบ้านของตัวเอง และหนทางเดียวที่จะสามารถปลดหนี้นั้นได้ คือการโอนกรรมสิทธิ์ของบ้านหลังนี้ให้กับบริษัทไป โดยที่โจแอนและทนายความของเธอสันนิษฐานว่าเรื่องที่รอธแมนเล่านั้น ไม่เป็นความจริง แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้ เพียงครั้งเดียวที่รอธแมนยอมชำระหนี้สิน คือครั้งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะมาลากรถโรสรอยซ์ของเขาไป
เอกสารทางคดีที่บันทึกอยู่ที่ศาลสูง แห่งลอสแองเจอลิส ช่วยตอกย้ำความคลางแคลงใจของโจแอน และทนายความได้เป็นอย่างดี โดยเนื้อหาของเอกสารแสดงว่า รอธแมนได้เปิดบัญชีในต่างประเทศ และบริษัทนี้ดูเหมือนจะเป็นที่เก็บซ่อนทรัพย์สมบัติบางอย่างของเขา ทรัพย์สมบัติดังกล่าวได้แก่ บ้านของเขา และรายได้มากกว่า 531,000 ดอลล่าห์สหรัฐ ในปี 1989 มีการสืบสาวความเกี่ยวพันของนายรอธแมน และบริษัทต่าง ๆ (รวมถึงบริษัท Tinao) เขาทำการซื้อบริษัทที่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ สัญชาติปานามา (ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่แต่ไม่มีการดำเนินธุรกรรมใด ๆ) และปกปิดไม่ให้มีรายชื่อของเขาปรากฏอยู่ในรายชื่อพนักงานของบริษัท รอธแมนเป็นผู้ถือหนังสือมอบฉันทะแบบไม่มีเงื่อนไข เพื่อที่เขาจะมีอำนาจเต็มที่ในการควบคุมทางการเงิน
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 52 22:38:22
จากคุณ |
:
แอร์ริโกะ
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ย. 52 21:39:24
|
|
|
|
 |