ความคิดเห็นที่ 1   ฉันเดินซวนเซ เข้าไปหาไมเคิล เพื่อที่จะเชคแฮนด์กับเขา ฉันจะจำเอาไว้ว่า มันช่างนุ่มนิ่มอย่างไม่น่าเชื่อเพียงใด เพื่อที่ฉันจะเล่าให้เพื่อนๆของฉันฟังในวันหลังได้ จีนพูดขึ้นมาว่า เขาไม่เคยเห็นคนคู่ไหนที่เหมือนกันอย่างเราสองคนเลย เราต่างรักเสียงดนตรี เป็นนักเขียน รักเด็กและรักสัตว์ เขาคิดว่า เราเป็นคู่ที่เหมาะสมไร้ที่ติ   ในขณะที่จีนเขากำลังพร่ำเพ้ออยู่นั้น ไมเคิลกลับเลี่ยงที่จะไม่มองฉัน ส่วนฉันก็พยายามที่จะประคองตัวเอง  ไม่ให้เป็นลม   "คุณอยากไป ที่บ้านผมมั้ย" ไมเคิลถามออกมาในที่สุด ฉันหันไปมองหน้าจีน "ไปสิ" เขากล่าว คล้ายจะไล่เราออกไป "จอร์จให้คุณลางานช่วงที่เหลือของวันนี้ได้" เสียงเม็ดกรวดบดกันใต้รองเท้าของเราสองคน ที่ต่างก็ท่าทางเคอะเขิน ขณะพากันเดินไปตามทางเดินหลังสำนักงาน  ฉันไม่รู้จะพูดอะไรกับไมเคิล และเขาก็ไม่กล่าวอะไรกับฉัน สักพักเราก็เดินไปถึง  Rolls Royce Shadow II สีเงิน ของเขา ที่จอดรออยู่พร้อมคนขับรถที่ชื่อว่า 'แดนนี่' ฉันหัวเราะคิกคัก เมื่อเขาเรียกรถของเขา "ผม กับ'เจ้าเงา'(Shadow)ของผม" ฉันแทบไม่อยากเชื่อว่านั่นเป็นเสียงหัวเราะของฉันเอง  เมื่อฉันเสือกตัวเข้าไปนั่งข้างหลังบนเบาะหนังสีเทาเรียบร้อยแล้ว ฉันก็คิดขึ้นมาว่า 'นี่ฉันเป็นใครกันเนี่ย...' ระหว่างทางไป Encino ฉันรวบรวมความกล้า แอบเหลือบมองหน้าไมเคิล เห็นเขากำลังแทะเล็บนิ้วหัวแม่มือตัวเองอยู่ แต่ถึงกระนั้น ฉันก็คิดว่า ไม่เคยเห็นใครหล่อเท่าเขาเลย  25 ปีต่อมาหลังจากนั้น เมื่อฉันได้เห็นรูปของเขา ที่ผ่านการทำศัลยกรรมพลาสติกครั้งแล้วครั้งเล่า บนหน้าปกหนังสือแทบลอยด์ต่างๆ ฉันมักจะนึกถึงใบหน้างดงามไร้ที่ติที่ได้เห็นบนรถในวันนั้น แล้วหลั่งน้ำตาออกมา ไม่กี่นาทีต่อมา รถพาเรามาถึงรั้วเหล็กดัด หน้าบ้านของครอบครัวแจ๊คสันบนถนน  Hayvenhurst  บ้านของไมเคิล ตั้งตระหง่าน สง่างามอยู่ตรงเบื้องหน้า มันทำให้ฉันนึกถึงทำเนียบขาว ที่เคยได้เข้าชมเมื่อตอนเป็นเด็ก มันทำให้ฉันคิดว่า ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ใน Valley Center อีกต่อไป จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 20:52:47

ความคิดเห็นที่ 2   เราใช้เวลาเกือบตลอดบ่ายบน chaise lounges (SOS)ข้างสระน้ำ ทีแรก มันก็ยาก สำหรับการเริ่มต้นการสนทนา แต่เมื่อเราได้ค้นพบว่า เราต่างเคยได้พักที่ 'The Kahala Hilton'  ตอนไปเที่ยวที่ฮาวาย เหมือนกัน ฉันบอกเขาว่า ฉันฝันอยากไปแต่งงานที่นั่นตลอดมา ถ้าเขาเป็นคนขาวเขาคงต้องหน้าแดงแปร๊ดแน่ๆ " นั่น...มีนัยอะไรหรือเปล่าครับ "เขาถามยิ้มๆ "ไม่นะ" ฉันรีบตอบ อายมากๆ มันไม่ได้มีความหมายพิเศษใดๆแอบแฝงอยู่ทั้งสิ้น "พี่สาวของฉันต่างหาก ที่จะเป็นคนที่คุณจะอยากแต่งงานด้วย เธอเป็นคนสวยมากๆ I'll bet she can't hold a candle to you(SOS)" เขาบอก "โอ้ว...เธอต้องทำได้สิ " ฉันยืนกราน "และชื่อของเธอก็คือ 'ไดอาน่า รอสส์' คุณคงชอบสินะ" "คุณล้อเล่นใช่มั้ย" เขาถาม "ไม่ ฉันไม่ได้ล้อเล่น เด็กที่โรงเรียนพากันล้อเธอเรื่องนี้อยู่ตั้งหลายปี" เขาหัวเราะ หึๆกับเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่าเขาเชื่อฉันจริงๆหรือเปล่า ฉันบอกเขาเกี่ยวกับลูกชายอายุ 15 เดือนของฉัน ที่ตอนนี้อยู่กับตายายของแกที่ซานดิเอโก "พ่อของเขาอยู่ที่ไหน" ไมเคิลถาม "ฉันไม่รู้ เขาจากไปแล้ว" "แย่จัง" เขาพูด ขณะจับจ้องไปที่ใบไม้แห้งที่ลอยอยู่ในน้ำ เขาเงียบไปสักพัก เหมือนกำลังครุ่นคิด ตอนนี้ ฉันรู้สึกว่า อยากจะเข้าห้องน้ำ แต่ก็อายเกินกว่าจะกล้าถาม แต่ในที่สุด ฉันก็ต้องเอ่ยปากจนได้ "ตรงไปในบ้านแล้วก็เลี้ยวซ้าย" เขาบอก "และถ้าคุณเห็นของจุกจิกที่คุณถูกใจ โปรดอย่านำมันกลับไปล่ะ" "โอเค" คำพูดเขาช่างแสบนัก ไม่เคยมีใครว่าฉัน ว่าจะขโมยอะไรมาก่อนเลย จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:05:45

ความคิดเห็นที่ 3   บ่ายแก่ๆ ไมเคิลและ แดนนี่ พาฉันกลับมาที่ซอยเดิมที่มีรถฮอนด้าซิวิคของฉันจอดรออยู่ ความรู้สึกที่มีไมเคิลยืนอยู่ข้างหลัง มันทำให้รู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลย ฉันมองตัวเองเสียบกุญแจลงในรู มือของฉันสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้น ร่างของฉันก็ถูกคว้าสู่วงแขนของเขา มันเป็นอะไรที่แปลก เกินคาดหมาย และไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล อย่างที่ทุกคนเคยได้เห็นเขาแบบที่เป็นในช่วงหลังๆนั้น  ฉันคิดในใจ ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง แต่แทนที่เขาจะกอดจูบลูบคลำแบบที่ผู้ชายที่คนอื่นๆพยายามจะทำกัน เขากลับกอดฉันเอาไว้เฉยๆ มันเป็นกอดที่ปลอบประโลมและให้ความรู้สึกผ่อนคลายนิดๆ แต่ฉันก็ยังรู้สึกเกร็งอยู่ดี "อย่ากังวลไปเลย" เขากระซิบบอกข้างๆหู "ทำไมฉันต้องกังวลด้วยล่ะ" ฉันตอบ พลางหัวเราะ ฉันกลั้นลมหายใจตัวเองเอาไว้ เพื่อที่จะได้ไม่พ่นลมใส่เขา สงสัยจังว่า แดนนี่กำลังมองพวกเราอยู่หรือเปล่านะ ไมเคิลตัวใหญ่จัง ฉันรู้สึกอย่างกับเป็นเด็กตัวเล็กๆในก้อมแขนของเขา อะไรทำให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้นะ ในที่สุด ฉันก็ทิ้งความกังวลทั้งปวง และปล่อยตัวเองไปตามจังหวะการหายใจของเขา ซอกคอของเขามีกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่หรือโคโลญจ์กลิ่นบางเบา เขากดร่างของฉันกับร่างของตนเองเบาๆ  I could feel his hardness (SOS) ซึ่งมันพิสูจน์ได้โดยแท้ ว่าเขาไม่ได้เป็นพวกรักร่วมเพศ หลายปีต่อมา ฉันท้าทายกับทุกคนที่กล่าวหาว่าเขาเป็น(เกย์) แม้จะไม่ได้บอกพวกเขา ว่าทำไม(ฉันถึงรู้ดี)ก็ตาม เมื่อฉันกล้าพอที่จะลูบไล้ด้านหลังของศีรษะเขา ก็รู้สึกว่า ผมของเขาแข็งเหมือนฟาง ฉันไม่เคยสัมผัสเส้นผมของชาวแอฟริกันอเมริกันมาก่อน เมื่อฉันเอามือออก ก็พบว่า มือของฉันชุ่มไปด้วย heri Curl  เจ้าน้ำมันจากผลิตภัณฑ์ ตัวนี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของเขาติดไฟในปี 1984 ก็เป็นได้ จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:12:40

ความคิดเห็นที่ 4   วันต่อมา เขาโทรหาฉัน "นี่ผมเอง ไมเคิล" เขากล่าว "ผมคิดว่าคงไม่เป็นไรนะ จีนให้เบอร์คุณมา" "ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันตอบ "ฉันกำลังเดินทางไปรับลูกที่ซานดิเอโก" เราตกลงกันว่าจะเจอกันตอนฉันกลับมาแล้ว เขาเสนอจะจ้างเบบี้ซิทมาเลี้ยงลูกให้ฉัน เพื่อที่เราจะได้ออกไปข้างนอกได้ แต่ฉันก็ได้พบเห็นด้านมืดของสังคมเมืองมามากเกินกว่าจะไว้ใจใครได้  เมื่อฉันปฏิเศษข้อเสนอของเขา เขาก็พูดขึ้นว่า "อากาศเย็นเกินกว่าที่จะพาเขาออกมาข้างนอกบ้าน งั้น ขอผมไปที่บ้านคุณได้ไหม" โอ พระเจ้า! ฉันไม่รู้จะตอบว่าไงดี แต่ก็..."ค่ะ" การมีไมเคิลมาอยู่ในบ้านของฉัน มันคงเปรียบได้กับการที่เจ้าชายต้องไปอยู่ในรูตุ่น อพาร์ตเมนต์ของฉันคงเทียบไม่ได้เลยกับตู้เสื้อผ้า หลังหนึ่งในบ้านของเขา  ฉันไม่มีปัญญาซื้อเครื่องดูดฝุ่น และเครื่องเรือนที่ฉันครอบครองเป็นเจ้าของ ก็มีเพียงแค่เตียงคู่หลังหนึ่ง เตียงเด็กของลูกชาย โต๊ะมรดกตกทอดจากคุณยาย และเก้าอี้พับสองตัวเท่านั้น ฉันตื่นเต้นเหลือเกิน ที่จะได้พบเขา แต่ก็อายแสนอายในเวลาเดียวกัน เห็นเขาเคยบอกว่า ตัวเขาเองตอนอยู่ที่แกรี่ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก บางทีเขาอาจจะพอจำได้ถึงรสชาติความจนและให้อภัยฉัน(ที่ไม่มีอะไร)ได้บ้างละ ฉันเชิญเขาเข้ามาข้างในโดยที่ในหัวของฉัน spinning from inebriation (SOS) เขากล้าที่จะจ้องตาฉันแล้วในตอนนี้ แถมยังส่งยิ้มหวานมาให้เสียด้วย ทีนี้ฉันยิ้มตอบเขาได้โดยไม่รู้สึกเหมือนจะเป็นลมอีกแล้ว เขามีวิธีที่ทำให้รู้สึกราวกับว่า ไม่มีใครอื่นใดในโลกนี้ ที่ควรค่าที่ฉันจะฟังนอกจากเขา  I basked in the glory of it ครั้นเมื่อลูกชายของฉันเริ่มส่งเสียงร้องขึ้นมา ไมเคิลก็เดินไปที่เตียงของเขาที่อยู่ในห้องทานข้าว  เอามือแตะแขนป้อมๆของเขา แล้วทำเสียงคุ๊กคูๆ "เขาชื่อว่าอะไรครับ" เขาถาม "แรมซี่ค่ะ" ฉันตอบ "อย่าร้องนะ แรมซี่" เขาส่งยิ้มให้ลูกชายของฉันอย่างยินดีมากๆ ฉันอยากให้พ่อของเจ้าหนูมองเขาด้วยสายตาแบบนี้บ้างจัง เมื่อลูกเอื้อมมือหาฉัน ฉันก็อุ้มเขาขึ้นมา เขาขยี้ตาปรือๆด้วยความง่วง "คุณอยากทำอะไรล่ะคะ ทีนี้" ฉันถามไมเคิล ฉันสังเกตุว่า  He was slurring my words (SOS) "ไม่รู้สิ" เขาตอบ "เฮ้!คุณเล่นกีต้าร์ด้วยเหรอ" เขาถามขึ้น เมื่อมองไปเห็นกีตาร์ของฉันที่วางอยู่ตรงมุมหนึ่ง "ก็ไม่ซะทีเดียวนะ" ฉันตอบ แต่เขาทำอย่างกับฉันตอบรับเขาอย่างนั้นแหละ  เขาหยิบมันขึ้นมา นั่งลงบนขอบเตียง แล้วก็เริ่มไล่คอร์ด "ฟังนี่สิ แรมมี่"เขาเล่นตัวโน๊ตไปมา ขณะกัดริมฝีปากล่างของเขา "นี่คือการริฟ" เขาบอก "การริฟที่ดีนั้นสำคัญพอๆกับเนื้อเพลงเลยนะ ถ้าคุณอยากจะให้เพลงหนึ่งฝังอยู่ในหัวใคร" หลังจากนั้นสักพัก เขาก็วางกีต้าร์ลง แล้วเอนหลังล้มตัวลงนอน เขายกเท้าที่ยังสวมบู๊ทของเขาขึ้นมาวางบนที่นอนด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ก็อายเกินกว่าที่จะห้ามไมให้เขาทำอย่างนั้น จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:31:07

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เธอคนนี้ก็คงเป็นคนที่น่าอิจฉามากๆ อ่ะ ตรงข้อความ " ฉันรู้สึกอย่างกับเป็นเด็กตัวเล็กๆในก้อมแขนของเขา อะไรทำให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้นะ ในที่สุด ฉันก็ทิ้งความกังวลทั้งปวง และปล่อยตัวเองไปตามจังหวะการหายใจของเขา ซอกคอของเขามีกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่หรือโคโลญจ์กลิ่นบางเบา เขากดร่างของฉันกับร่างของตนเองเบาๆ" นึกภาพตามแล้วโอ้ววว...เป็นเราคงขาอ่อนลงไปกองกับพื้นนน จิตใจเราคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วแหละ จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:31:10

ความคิดเห็นที่ 6   แฮ่ะๆ คุณ แตมมี่ แล้วไมสนใจจะช่วยแปลข้อความที่มันต่อจากตรงนั้นให้หน่อยเหรอคะ แบบว่ามัน...อะค่ะ จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:33:23

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ Better off มีต่อรึป่าวคะ   เห็นภาพเรยอ่ะค่าาาา สนุกๆๆๆ ชอบๆๆ ช่างเป็นนวนิยายที่น่าติดตามจิงๆ   ปล.ประโยคท้ายๆที่บรรยายนี่ นึกว่าจะมีฉาก เลิฟ ซีน โอไม่นะ ฮ่าๆๆ จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:38:59

ความคิดเห็นที่ 8   I could feel his hardness . . . โอ้วววว  ไม่กล้าแปลเลย แต่คาดว่า กระทู้นี้ คงจะฮิตในเร็วๆนี้แน่นอนนนนน ว่าแต่ทำไมดันเลื่อนมาเจอประโยคนั้นพอดี เรด้าแรง 555555 ขอนั่งอ่านละเอียดๆ (และจิ้นไปด้วย)ก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : I 'm The River Jordan เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:43:07

ความคิดเห็นที่ 9   ตอนสุดท้ายนี้ ออกแนวดราม่าไปนิด หลังการหยุดชะงักขัดเขินไปครู่ใหญ่ เขาก็พูดออกมาว่า "บ้าชะมัด" ฉันหัวเราะออกมา "ใช่ บ้ามาก ฉันคงไม่วิตกอย่างนี้ ถ้าเพียงแต่คุณไม่หล่อขนาดนี้"   "...ผมไม่รู้สึกแบบนั้นนะ" เขากล่าว ท่าทางเศร้าๆ ฉันมองไปที่เขา เพื่อที่จะดูท่าทีว่าเขาจริงจังหรือไม่ "คุณได้มองใบหน้าเดียวกันกับที่ฉันมองอยู่ตอนนี้ หรือเปล่าคะ" เขาหัวเราะอย่างกับว่าฉันเพิ่งปล่อยมุขเชยๆอะไรออกไปยังงั้นแหละ "มันมีการทำศัลยกรรมพลาสติกทุกชนิดเท่าที่ผมจะอยากทำ"  เขากล่าว "ผู้คนในวงการธุรกิจบอกว่ามันช่วยได้มาก สำหรับอาชีพอย่างเรา" "ถ้าคุณขี้เหร่นะ...ไมเคิล  คุณไม่ได้น่าเกลียดตรงไหนเลย ที่คุณเป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว" "จมูกของผมมันใหญ่เกินไป เหมือนหัวหน้าเผ่าคนป่า เด็กผู้ชายที่โรงเรียนคนหนึ่งบอกว่าผมน่าเกลียด น่าเกลียดมากจริงๆ เขาบอกว่าผมเหมือนสัตว์ประหลาด" "เขาก็แค่อิจฉาน่ะ" ฉันบอก "ดูนะ มานี่สิ" ฉันจูงเขาเข้าไปในห้องน้ำ และพาเขาไปส่องกระจกหน้าตู้ยาของฉัน "มันยังไม่ดีพอ"  เขากล่าว "ไม่ มันดีอยู่แล้ว" ฉันบอกเขา "มันเป็นใบหน้าของคุณ มันช่างงดงาม ดูที่ดวงตากลมโตนี่สิ โหนกแก้มนี่ด้วย" เขาบอกฉันว่า ผู้คนต้องการเห็น'ไมเคิลน้อยผู้แสนน่ารักเท่านั้น' เขาทำให้ทุกคนผิดหวังด้วยการที่เขาโตเป็นหนุ่ม การเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายในช่วงวัยรุ่น สร้างความหวาดกลัวให้เขามาตลอด เขาไม่รู้จะจัดการกับสิ่งที่ดำเนินไปอย่างไรดี "ผมต่อสู้กับกระจกเงา" เขาบอก "ผมหวังอยากเห็นมันดูดี แต่ก็ต้องผิดหวังเสมอ บางทีหนักเข้า ผมต้องเอาผ้าห่มไปปิดมันเสียเลย" แล้วเขาก็เล่าให้ฉันฟัง ถึงความหลงไหลใน ผีเสื้อ ของเขา พวกมันสามารถเปลี่ยนร่าง ไปสู่สิ่งที่สวยงาม แล้วก็บินจากไป... เขาทำจมูกฟุดฟิด ฉันได้เห็น ว่าเขาเจ็บปวด และเริ่มที่จะร้องไห้ออกมา  มันทำให้ใจฉันแทบละลาย ฉันเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่คิดว่าตัวเองน่าเกลียด ฉันไม่รู้จะปลอบโยนเขายังไง เขาเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่ม้วนสุดท้าย แล้วว่า "ผมว่าคุณน่าจะมีทิชชู่มากกว่านี้นะ ลงไปที่ร้าน Alpha Beta กันดีกว่า ไปซื้อทิชชู่และก็.....อะไรก็ตามที่คุณต้องการ เราจะซื้อนมให้ลูกคุณด้วย" "ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าฉันปลุกเขาขึ้นมา เขาจะไม่ยอมหลับอีกเลย" เขาเช็ดน้ำมูกอีกครั้ง "งั้นผมจะอยู่ที่นี่เอง ให้แดนนี่ขับรถพาคุณไปซื้อทุกอย่างที่คุณต้องการ อย่าขัดเลยนะ" ฉันลังเลที่จะทิ้งลูกไว้กับคนแปลกหน้า แต่เมื่อคิดขึ้นมาว่า นี่คือไมเคิล แจ๊คสัน นะ เขาไม่ใช่บุคคลอันตรายที่ไหน จะต้องกลัวอะไร โปรดติดตามตอนต่อไป... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:44:46

ความคิดเห็นที่ 10   คุณ NarzizuZ คือว่า ตอนต่อไป คนเขียนเขายังไม่ได้โพสเลยอะคะ แต่ เมื่อเดือน เมษายน เธอเคยไปโพสไว้ในกระทู้หนึ่งว่า เธอเคยออกเดทกับไมเคิล แจ๊คสัน แต่ไม่สามารถสานสัมพันธ์ต่อไปได้ เพราะเธอมีคู่หมั้นหมายเอาไว้แล้วหรือไงนี่แหละ เดี๋ยวไปหาข้อมูลก่อนนะคะ  แต่รู้สึกคนจะไม่เชื่อเธอเท่าไหร่ (ก็ไม่มีหลักฐานนี่เนอะ) เจอละ เวปเดียวกันน่ะแหละ คุณเธอใช้ login ว่า the storyteller  มันเลยยิ่งดูไม่น่าเชื่อ(เกี่ยวป่าว?) I turned down a blind date with Michael Jackson. I knew a famous music arranger in Hollywood in 1980. I saw him one day and he asked if I'd ever heard of a singer named Michael Jackson. This arranger was humble and probably knew that I had, but didn't want to seem like he was bragging. I said that I had heard of him and he said he wanted to set me up with him. He said that we were the same age, and something about me reminded him of Michael. We were both quiet. Michael had been a child star, but hadn't made it big as an adult yet. I turned the date down, because I had a fiance. By Mindy1114 2:41 p.m., Apr 23, 2009 > Report it" แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 21:59:49 จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 21:51:21

ความคิดเห็นที่ 11   มาช่วยต่อด้วยความรู้งูๆปลาๆค่า แก้ขัดไปก่อนน้า ^^ Chaise lounges คือประมาณว่า เก้าอี้ริมสระว่ายน้ำอะค่ะ ที่นานอาบแดดสบายๆ I'll bet she can't hold a candle to you = ผมพนันได้เลยว่าเธอ(ประมาณว่าสวย,ดีละมั้งคะ)สู้คุณไม่ได้ **ว่านว่าตรงนี้ ผู้หญิงเขาคงพูดว่าพี่สาวเขาล่ะมั้งที่ไมเคิลน่าจะอยากแต่งด้วย แล้วไมเคิลก็พูดว่า "ผมว่าเธอคงสู้คุณไม่ได้" แล้วผู้หญิงก็เลยตอบไปว่า "ได้แน่นอน (ประมาณว่าพี่สาวเธอสุดยอด) เธอชื่อ ไดอาน่า รอสนะ" I basked in the glory of it = ประมาณว่า ฉันปลื้มมากๆ ไปอ่านต่อค่า.... จากคุณ : I 'm The River Jordan เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:04:31

ความคิดเห็นที่ 12 อืมมมมมมมมมม ติดตามตอนต่อไปด้วยค๊า จากคุณ : สวนสวย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:09:08

ความคิดเห็นที่ 13 ให้เราแปลตรง I could feel his hardness  อ่ะเหรออ...อย่าเล้ยยยย...แค่นี้ก็สยิวพอแย้วววววววววววววววววว จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:12:40

ความคิดเห็นที่ 14   ^ ^ คห. 8 น้องว่านนิ เดี๋ยวตีเลย -*- ประโยคอื่นมีเยอะแยะไม่อ่าน อ่านประโยคนี้ทำไมเนี่ยะ ไม่เหมาะกับเยาวชนนะจ๊ะ ไม่เหมาะ ... อิอิ (ล้อเล่น ... เจอประโยคนี้ พี่ก็ไม่ไหวจะแปลเหมือนกัน *^^*) คุณอ๊อฟแปลได้เคลิ้มมากค่ะ (อ่านแล้วเขิน) ... ว่าแต่นี่มันเรื่องจริงเหรอ? ไม่จริงม้าง ... ไม่จริ๊ง ไม่จริง รับมะด้ายยยย T-T ขอบคุณคุณอ๊อฟมาก ๆ ค่ะ ... และขอบคุณน้องว่านกับคุณ NarzizuZ ด้วยนะจ๊ะ ... ช่วยกันแปลต่อไปนะลูก ^^ จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:13:27

ความคิดเห็นที่ 15   (เอ่อ ว่านกำลังจะทำให้กระทู้ฟิคนี้กลายเป็นกระทู้วิชาการแปล 555555) >>> ฉันสังเกตุว่า  He was slurring my words ตรงนี้ว่านลองเปิดไปดูต้นฉบับภาษาอังกฤษแล้วมันเป็น I was slurring my words อะคะ จะได้ความหมายประมาณว่า   "ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากไปโดยไม่ทันคิด" หรือเปล่าคะ?? I let him in with my head spinning from inebriation. ฉันให้เขาเข้ามาโดยที่หัวฉันมึนๆอยู่ (ตรงนี้ไม่รู้ เจ๊คนเขียนเขาเมาจริงๆ หรือว่า เขาเคลิบเคลิ้มเพราะเห็นหน้าไมเคิลสุดหล่อ กันแน่ -*-) จากคุณ : I 'm The River Jordan เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:20:47

ความคิดเห็นที่ 16 ขยายความศัพท์ซ้ำกับคุณ i'm river gordan  55 แง๊ะ เอาออกๆ -------------- คุณ Better Off    เรื่องราวดูเพ้อออฝันนน มากเลยคะ บอกใครใครจะเชื่อ ถึงไมเคิลจะดูแอบเจ้าชู้ แต่เค้าเป็นคนไม่ชอบใครง่ายๆนี่นะถ้าไม่เฟอร์เฟ็กจิงๆ คุณP.S.T. (Pretty Small Thing) ขอบคุณค่ะ ได้กำลังใจดีๆ แล้วอยากจะลอยจังค่าาาาาาาาาา ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 22:24:45 จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:22:02

ความคิดเห็นที่ 17   โอ้ว อ่านเพลินเลย สวัสดีพี่ส่วง คุณแตมมี่ คุณ NarzizuZ และผู้แอบแฝงอ่านฟิคยามดึกด้วยนะค้าบ^^^ จากคุณ : I 'm The River Jordan เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:24:20

ความคิดเห็นที่ 18 โอววววววววววววววววววววววว  สวาทดีค่ะ  I 'm The River Jordan เพิ่มเซลล์สมองดีนะคะ แคะคำคัพท์ห้องนี้ จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:29:37

ความคิดเห็นที่ 19 อ่า..สวัสดีเช่นกันค่ะคุณ  I 'm The River Jordan จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:40:59

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณน้องว่าน มากๆจ๊ะ สำหรับการขยายความ ไขโจทย์ปัญหาได้ครบถ้วน เก่งมากเลยจ้ะ ทีนี้ก็เหลือประโยคเดียว ที่ยังคงเป็นปริศนา(หรือเปล่า!) สวัสดีคุณส่วงกับคุณเล็กด้วยนะจ๊ะ เห็นคลับต่างประเทศเขาก็มีถกกันเล็กน้อย บางคนไม่ชอบเอาซะเลยก็มี แต่เห็นหลายคนชอบกันนะคะ จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:41:41

ความคิดเห็นที่ 21 หาๆๆๆๆ ไมเคิลไปเคาะประตูห้องผู้หญิง ตอนสี่ทุ่ม มันอะไรกันนี่  แปะไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่านต่อ จากคุณ : mr.roof NOKZA JACKSON. (MR.ROOF) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 22:42:08

ความคิดเห็นที่ 22 I could feel his hardness โอวววว...อยากได้บ้างจังเลย อ่านไปก็ตบเตียงไป ประมาณว่าจิ้นว่าเป็นตัวเองอ่า ถ้าเป็นเรื่องจริง ผู้หญิงคนนี้น่าอิจฉามากเลย จากคุณ : rpgqueenii เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 23:36:53

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริงนะ อิจฉาอ่ะ จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 00:23:51

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งกลับบ้าน ยังไม่ได้อ่านค่ะ มาลงชื่อไว้ก่อนน จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 00:39:16

ความคิดเห็นที่ 25 กลับมาอ่านอีกรอบ อ่านแล้วเห็นภาพเลย ฉันรู้สึกอย่างกับเป็นเด็กตัวเล็กๆในก้อมแขนของเขา อะไรทำให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้นะ ในที่สุด ฉันก็ทิ้งความกังวลทั้งปวง และปล่อยตัวเองไปตามจังหวะการหายใจของเขา ซอกคอของเขามีกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่หรือโคโลญจ์กลิ่นบางเบา เขากดร่างของฉันกับร่างของตนเองเบาๆ" ชอบตรงนี้เหมือนกันค่ะ แต่เราอยากกอดไมเคิลเหมือนกันแต่ขอเป็นกอดจากข้างหลัง ตื่่งๆๆๆๆๆๆสงสัยจะหลับในแล้วฝันด้วย ขอบคุณคุณอ๊อฟ คุณ I 'm The River Jordan กู๊ดไนท์ค่ะ ง่วงๆๆๆๆ จากคุณ : mr.roof NOKZA JACKSON. (MR.ROOF) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 00:45:22

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ Better off ค่ะ เอาตอนต่อไปมาลงเร็วๆ นะค่ะ...อยากรู้เป็นไง (จะมีแบบที่เราคิดมั้ยเนี่ย หุๆ ) จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 01:13:53

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่า    เราชอบอ่านฟิคมากๆเลย   อิอิ  เราก็เคยหัดแต่งฟิคกะไมเคิลนี่แหล่ะ   จะเอาแบบไหนก็ด๊าย    ตามใจเราปราถณา    แต่ไม่กล้าให้ใครอ่านน่ะ   กลัวเค้าว่าบ้า  ก็บ้าจริงๆด้วยดิ ปอลอ   รอติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 05:56:50 จากคุณ : เราอุ้มนะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 05:25:19

ความคิดเห็นที่ 28 I could feel his hardness สงสัยคลำไปเจอหัวเข็มขัดเคิ่ลมั่งคะ เธอเลยบอกว่าแข็ง -*- แค่ลองคิดว่าเป็นเรื่องจริง ก็ตาร้อนสุดๆแล้ว ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ที่สาวๆหลายๆคนออกมาบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง 555 ให้เป็นเรื่องจริงไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:50:39

ความคิดเห็นที่ 29 ทำไม link ภาคภาษาอังกฤษ มันเข้าไม่ได้ละคะ อยากอ่านภาษาอังกฤษด้วยคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : superturbo เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:13:19

ความคิดเห็นที่ 30   ยาวมาก จองไว้ก่อน เดี๋ยวเข้ามาอ่านนะจ๊าา จากคุณ : พี่ชายชื่อฮิเดะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:19:04

ความคิดเห็นที่ 31 เราอ่านภาษาปะกิตไม่ได้ละค่ะ มันโชว์ว่า page not found T_T จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 16:33:08

ความคิดเห็นที่ 32   แล้วกัน...สงสัยชีจะโดนอุ้มไปแล้ว แล้วนี่จะมีโอกาสได้อ่านตอนต่อไปของเธอรึเปล่าละเนี่ย.. ลืมเซฟไว้ด้วยอะค่ะ  ว้า... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 17:24:47

ความคิดเห็นที่ 33   อ่อ นี่ลิ้งค่ะ  อันที่คุณ Better Off แปะไว้ มันเป็น... อะค่ะ http://www.sandiegoreader.com/weblogs/writing-to-remember/2009/sep/23/memories-of-michael-jackson-part-i/ อ่านอีกรอบแล้วก็ยังรู้สึกว่ามัน... ไม่จริงอะ!!! จากคุณ : I 'm The River Jordan เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 18:03:57

ความคิดเห็นที่ 34   มันเป็น ... ??? (งง - -" เหลือบขึ้นไปมองข้างบน) อ้อ มันเป็น "..." (จุดจุดจุด) นี่เอง ^^" ขอบคุณน้องว่านค่ะ ^^ thestoryteller: I didn't want to admit it because as I told my daughter, "No one is going to believe a thing I say about Michael Jackson, because to most people, he's just a fantasy. They'll think I've gone mental. They'll accuse me of lying." ... จริงอ่ะ? จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 19:04:26