Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+++อยากจะฟังฉันบ้างไหม เรื่องเหลวเรื่องไหล ใครได้ฟังก็คงหัวเราะร่า[วิจารณ์เร่ขายฝันแบบทั้งติและชมรวมถึงมีคะแนนให้]+++  

อยากจะฟังฉันบ้างไหม เรื่องเหลวเรื่องไหล ใครได้ฟังก็คงหัวเราะร่า

อย่าไปเอาเป็นเรื่องราวว่า มีอะไรข้างใน แค่เพียงฟังให้เพลินก็พอ....

เพิ่งไปดูละครเวทีเรื่อง The Legend of เร่ขายฝัน เฉลียง The Musical รอบ 19.30น. จบมาหมาดๆ เลยอย่างจะเขียนข้อติชมละครเรื่องนี้ตามความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ดูจบครับ

อนึ่งการวิจารณ์ครั้งนี้ของผมจะแบ่งเป็นหลาย Part ทั้ง ชื่อเรื่อง ฉาก แสงสี เสียง บท การจัดการ รวมถึงบทสรุปจบท้ายว่าในความเห็นผมโดยรวมแล้วคิดว่าละครเรื่องนี้เป็นอย่างไร โดยจะมีการเตือนทุกครั้งที่จะเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเนื้อเรื่องเพื่อป้องกันการเสียอรรถรส

ปล คำว่าวิจารณ์แปลว่าไม่ได้ชมอย่างเดียว และไม่ได้ด่าอย่างเดียว แต่หมายถึงทั้งติและชมรวมถึงการให้ข้อเสนอแนะ ถ้าคำติบางคำเกิดทำให้ใครไม่พอใจก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

มาเริ่มกันเลยนะครับ





[ชื่อเรื่อง]

เริ่มจากชื่อเรื่องก่อนเลยนะครับ มีเรื่องตลกเกี่ยวกับชื่อเรื่องของละครเวที The Legend of เร่ขายฝัน เฉลียง The Musical ที่ใครได้ฟังก็คงหัวเราะร่า อยู่หลายอย่างนะครับ เริ่มตั้งแต่

1. ละครเรื่องนี้ชื่อ "The Legend of เร่ขายฝัน" แต่ทั้งเรื่องจนจบไม่มีร้องเพลง "เร่ขายฝัน" เลยแม้แต่ครั้งเดียว

2. ท่อนต่อมาของชื่อเรื่องคือ "เฉลียง" แต่เรื่องนี้เอาเพลงเฉลียงมาแปลงทั้งเนื้อ และทำนอง ทั้งๆ ที่เพลงเฉลียงความหมายก็กินใจอยู่ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งบางฉากก็แปลงเพียงเพื่อใส่มุกใต้สะดือลงไปในเนื้อเพลง รวมถึงมีเพลงที่ไม่ใช่เพลงเฉลียงปนอยู่ในเรื่องด้วย -___-" (เข้าใจนะครับว่าคุณประภาส ชลศรานนท์เค้าตั้งใจว่าจะแต่งให้เฉลียง แต่สุดท้ายเฉลียงก็ไม่ได้ร้องนี่ครับพี่จุ้ยยังเคยเล่นมุกเลยว่าเค้าทำเนื้อเพลงหาย พี่ประภาสเลยให้คนอื่นไปร้องแทน)

3. คำต่อมาคือ "The Musical" แต่ละครเวทีเรื่องนี้เป็นละคร The Musical เรื่องที่ผมจ่าย 3,500 มาดูแล้ว ไม่ได้เล่นดนตรีประกอบแบบบรรเลงสด!!!!

*******เพิ่มเติมครับ***********

ได้ยินว่ารอบหลังมีการเปิดให้ดูข้างหลังแล้วว่ามีนักดนตรีเล่นบรรเลงสดจริง เพียงแต่ใช้วงขนาดเล็ก ทำให้เสียงไม่ดังมาก ผมคงต้องขออภัยทางทีมงานมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ/u]

ถ้าใครฟังชื่อเรื่องแล้วคิดว่าจะได้มาดูละครเวทีแบบร้องสดเล่นดนตรีสดเอาเพลงเฉลียงมาต่อกันเป็นเนื้อเรื่องก็คงต้องลองคิดดูอีกรอบนะครับ


[u][ฉาก]

ในส่วนของฉากนะครับ โดยส่วนตัวผมว่าฉากทำได้สวยดีทีเดียว แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าจะช่วยเปลี่ยนฉากให้เร็วกว่านี้ เพราะเท่าที่เคยดูละครเวทีของโต๊ะกลมมาทุกเรื่องเปลี่ยนฉากช้ามากๆ


[แสงสี]
หลายๆ ฉากทำได้ดีมากครับโดยเฉพาะฉากป่าที่ทำเป็นแสงอาทิตย์รอดลงมาจากต้นไม้ดูดีมากๆ ทีเดียว แต่จะดีกว่านี้ถ้าจะช่วยทำหิ่งห้อยให้ดูเป็นหิ่งห้อยจริงๆ ไม่ใช่ให้ความรู้สึกเหมือนเอาคนมาถือไฟฉายแล้วเอามือหมุนเป็นวงกลม อาจจะเผอิญผมนั่งแถวหน้าครับมั้งครับเลยรู้สึกหิ่งห้อยมันมีแสงสว่างเป็นลำๆ แยงเข้าตาเลยเนอะ (ฮา)


[เสียง]
ถ้าใช้คำว่าแย่สุดๆ ก็คงไม่เกินเลยเกินไป เพราะรอบผมไมค์จะติดช้ากว่าที่นักแสดงเริ่มพูดเกือบทุกฉาก แถมช่วงองค์ 2 มีเสียงที่นักแสดงคุยกันหลังเวทีหลุดมาให้คนดูฟังมากกว่า 3 ครั้ง (และบางครั้งนานมากด้วย)
ถ้าใครได้ดูรอบเดียวกับผมคงงงเหมือนผมแน่เลยว่าคำว่า "สนุกเนอะ" ของปุยปุย ที่ลอยมาจากหลังเวทีกลางปล้องระหว่างฉากที่ปุยปุยไม่ได้เล่นมันเป็นความตั้งใจ หรือ ความไม่ตั้งใจ แต่เท่าที่ดูฉากนั้นจนจบแล้วน้องมินท์เค้าก็ไม่ได้เข้าฉากนะ -__-"


[บท]

คงเป็นการยากถ้าจะวิจารณ์บทโดยไม่เปิดเผยเนื้อหาของเรื่อง ดังนั้นถ้าใครไม่อยากอ่านกรุณาข้ามไปเลยนะครับ

************Spoiled Alert เนื้อหาบางส่วนของคำวิจารณ์เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเนื้อเรื่อง**************



























คนเขียนบทเรื่องนี้แอบกินบุญเก่าจากงานละครถาปัดการละครมาเยอะมากเลยนะครับ เพราะเอามุกเก่ามาเล่นใหม่เยอะมากทีเดียว ทีชัดๆ ก็ 01000 ที่เอามาจาก 007 พยัคฆ์(ลอง)ร้าย ซึ่งผมว่าคงไม่ใช่ความบังเอิญนะครับ
นอกจากนี้ยังเป็นบทละครเวทีที่ใช้คำว่า "ตรรกะ" กับ "เอกเขนก" เป็นเกณฑ์ในการแบ่งคน 2 กลุ่มออกจากกัน แต่คนเขียนบทตีความคำว่า ตรรกะ กับ เอกเขนก ได้แย่มากๆ

เร่ิมจากตรรกะก่อน ตรรกนคร เป็นเมืองที่ทุกอย่างมาจากหลักตรรกะ คนทำอะไรตกเป็นไม้บรรทัด ทุกคนต้องผ่านการคัดเลือกความเหมาะสมมาจากคะแนนประเมินเพื่อที่จะให้ได้ทำอาชีพนั้น

แต่ผู้นำสูงสุดของตรรกะนครคือ 50/50 ซึ่งเป็นคนไม่มั่นใจในตนเอง แต่กลับได้รับคะแนนประเมินสูงสุดจนได้เป็นผู้นำของเมืองตรรกะ

โอ้แม่เจ้า คนเขียนบทใช้ตรรกะอะไรในการคิดเนี่ย เพราะมันทำให้เหตุผลที่บ่มเพาะให้เกิดความบาดหมางระหว่างพันหนี่งกับแสนเก้ามันดูเป็นเรื่องตลกไปเลยนะ เพราะแค่ระบบที่ใช้คัดเลือกก็ไม่เหมาะสมแล้ว
อันต่อมาในฉากไฟดับ ตรรกะของคนเมืองนี่้ที่ว่า ช่างไฟที่มัวแต่เมืองผู้หญิงกระโปรงเปิดจนตัดสายไฟผิด ไม่ใช่คนที่ผิดที่แท้จริง แต่คนผิดที่แท้จริงคือ เด็กล้างจานที่มัวแต่วาดรูปเลยไม่ได้มาล้างจาน ผมถามจริงๆ เหอะคุณตีความในแง่ไหนถึงคิดว่าเรื่องที่ช่างไฟพลาดเป็นเรื่องที่ยอมรับได้เหรอครับ


ในส่วนของเมืองเอกเขนกคำว่า "ทำสบายๆ ทำหัวใจเอกเขนก" ไม่ได้แปลว่าทำอะไรบ้าๆ บอๆ นะครับ ทั้งฉากประชุมหมู่บ้าน หรือ ฉากเอาลูกมาโยนเล่น เข้าใจนะครับว่าเป็นมุก แต่การยัดมุกมากเกินไปมันก็ทำให้ห่างไกลจากคำว่าเอกเขนกเยอะเลยนะครับ


[Character]

ส่วนในเรื่องของ Character ของแต่ละคน บทออกมาแบบนี้ผมว่านักแสดงอินได้ก็ถือว่านักแสดงเก่งมากเลยนะครับ

พันหนึ่ง: เป็นคำทำอะไรด้วยหลักตรรกะเป็นคนที่มีตรรกะ Top สุดของตรรกะนคร แต่พอขับเครื่องบินมาชนเฉลียงของพระจันทร์กับบอกว่าเป็นความผิดของพระจันทร์ที่สร้างเฉลียงมาขวางทางลงจอด -__-"

พระจันทร์: เป็นสาวที่รอคอยพอมา 20 ปี เพราะเชื่อว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ ทั้งๆ ที่คนอื่นเชื่อว่าพอน่าจะตายไปแล้ว แต่พอได้เบาะแสชิ้นแรกขอพ่อจากพันหนึ่ง แทนที่จะถามว่า "ตอนนี้พ่ออยู่ไหนพ่อเป็นยังไงบ้าง" กลับพูดว่า "พ่อรักษาสัญญาที่จะเอาของมาให้จริงๆ ด้วย"  สรุปที่รอ 20 ปีนี่รอของใช่มั๊ยครับ ไม่ได้รอพ่อ

แสนเก้า:  ในความเห็นผมเป็น Character ที่ออกแบบมาได้ดีที่สุดในเรื่อง จะขัดใจก็แต่ว่าทำไมถึงได้ยึดมั่นในระบบที่ตัดอนาคตตัวเองขนาดนั้น ดีที่ตอนจบหาทางลงได้ดีก็ถือว่าโอเคครับ

พายอาร์: ไม่เข้าใจตั้งแต่ชื่อแล้วว่า 3.14 ทำไมต้องเป็น พายอาร์ ไม่เรียกว่า พาย เฉยๆ เพราะ "อาร์" ของ  พายอาร์ คือค่าตัวแปรรัศมี ไม่ได้มีความเกี่ยงข้องกับ 3.14 แต่อย่างใด แต่อย่างว่าละครับมันผิดตั้งแต่พายอาร์เป็นตัวละครในเมืองไร้อารมณ์ ที่ทำอะไรด้วยอารมณ์ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ทั้งๆ ที่เมืองนี้มีกฏว่าใครทำอะไรด้วยอารมณ์จะมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นกบฏด้วยซ้ำ -___-"

50/50: สั้นๆ เลยครับ ผู้นำสูงสุดของเมืองตรรกะ ที่ไม่ทำอะไรด้วยตรรกะ

ปุยปุย: สาวน้อยจอมพลังที่สามารถเตะหมีตับแตกได้ด้วยเท้าเปล่า ตัดสินใจไม่หนีจากอันตราย เพื่อปกป้องสิ่งสำคัญที่เพื่อนรักฝากไว้ด้วยการนั่งรอความตายโดยไม่ทำอะไร -__-" (อาจจะปกป้องด้วยหัวใจเอกเขนกตามแบบที่คนเขียนบทตีความละมั๊ง)

โดยตัวบทเข้าใจนะครับว่าพยายามจะเอาปรัชญาจากเพลงเฉลียงมาใช้ แต่ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องแปลงเนื้อในหลายๆ ท่อน เพราะความหมายในเพลงมันก็ลึกซึ้ง ครบถ้วย สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นเพลงอื่นๆ อีกมากมายนะครับ
เด็กหนีไม่ยอมเรียน
โดดเรียนเพราะเหตุใด
ลองตอบกันไหม
เด็กไปเพราะใจเบ่ง
แม่ให้ไปขายของ
ครูสอนไม่ดีเอง
เด็กรักเป็นนักเลง
อื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งอย่างที่เห็นนะครับว่าเนื้อหามันครบถ้วนกินใจดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องเพิ่มท่อนที่บอกว่าคนเกิดมาเพราะอะไร เพราะ สเปิร์มชนไข่ หรือ เพราะพ่อปิดไฟ มาใส่ในเนื้อเพลงเลย
ผมไม่ได้แอนตี้การเปลี่ยนแปลงเพลงเดิมน่าถ้ามันทำให้ได้อารมณ์ใหม่ๆ อย่างเพลง "เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ" หรือเพลง "อยู่ที่ใคร" ผมว่าก็แปลงทำนองได้ดีนะ ไม่ได้ทำให้เสียคุณค่าของเพลงเดิมแต่อย่างใด
จริงๆ แล้วละครเรื่องนี้น่าจะดีกว่านี้ถ้่ามีการคุม Theme ของเรื่องด้วยคำว่า "เร่ขายฝัน" หรือ "เฉลียง"  มากกว่านี้ เพราะอย่าง Mama Mia!! เค้าก็ตั้งชื่อเรื่องโดยเล่นกับเหตุการณ์ที่ทำให้อยากจะร้องโอ้แม่เจ้า หรือ We will rock you ทีได้ชื่อว่าเป็นละครเวทีที่สร้างออกมาสไตล์หนังเกรด B (แต่ได้รางวัลละครเวทียอดเยี่ยม) ก็เอาเพลง Bohemian Rhapsody มาสอดแทรกตลอดทั้งเรื่อง แต่ละครเร่ขายฝัน กับเป็นการพยายามยัดปรัชญาของเพลงเฉลียงหลายๆ เพลงมาลงในบทละครแบบโต้งๆ ขาดความละเมียดละไม ในการแบ่งสัดส่วนให้กระจายไปทั่วๆ เหมือนเอาเพลงเฉลียงมาประกอบละคร มากกว่าสร้างเฉลียง The Musical ที่สำคัญจนจบเรื่องยังไม่มีการร้องเพลงเร่ขายฝันแม้แต่ครั้งเดียว (ขนาดเปิดเทปยังเปิดไม่จบเพลงเลย) อย่างน้อยตอนจบน่าจะให้น้อง AF มาร้องสดให้ฟัง หรืออย่างน้อยที่สุดก็น่าจะให้นักแสดงทุกคนมาร้องพร้อมกันซักรอบนะครับ  

ปล เรื่องนี้ใช้คำว่า "ไม่ต้องพูดแล้ว/หยุดพูดได้แล้ว" เปลืองมากๆ เกือบ 30 ครั้งได้มั๊ง ซึ่งปฏิกิริยาตอบรับก็มีแค่ 2 แบบคือ อึกอักพูดอะไรไม่ออก กับ พูดไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจคนห้าม น่าจะมีปฏิกิริยาแบบปรับความเข้าใจกันได้ โดยไม่ใช่แบบการเอาแต่พูดในสิ่งที่อยากจะพูดอยู่ฝ่ายเดียวบ้างนะครับ












************จบการวิจารณ์แบบเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเนื้อเรื่อง**************


[การจัดการ]

ไม่แน่ใจว่าทีม Organize เป็นของโต๊ะกลมหรือ M Theater นะครับ แต่ขอติหน่อยเถอะว่าน่าจะมีการจัดคิวกับสปอนเซอร์บ้าง ไม่ใช่ว่าการแสดงเริ่ม 19.30 แต่ 19.29 ยังมีการเล่นเกมแจกรางวัลอยู่หน้าโรงละครอยู่เลย น่าจะดูวิธีจัดการเรื่องนี้ของค่ายอื่นๆ บ้างนะครับ เพราะผมว่าละครเวทีโรงใหญ่ของเมืองไทยร้อยละ 98 (ตามหลักของตรรกะนคร) จะเริ่มตรงเวลานะครับ

บทสรุป

1. ถ้าคุณเป็นแฟน AF: แนะนำให้ไปดู ขนาดผมไม่ใช่แฟน AF ผมยังว่าน้องๆ หลายๆ คนร้องได้ดีมากครับ ถึงแม้ว่าบางฉากอาจจะแสดงได้ไม่ดีเท่าที่ควรแต่ผมว่าส่วนใหญ่น่าจะมาจากบทมากกว่าเพราะขนาดนักแสดงรุ่นใหญ่หลายๆ คนบางฉากยังเล่นไม่ค่อยดีเลย
2. ถ้าคุณเป็นแฟนเฉลียง: ในฐานะที่เป็นแฟนเฉลียงมาเป็น 20 ปี บอกเลยครับว่าผิดหวัง เพราะเหมือนเอาเพลงเฉลียงมาประกอบละคร มากกว่าสร้างเป็น เฉลียง The Musical
3. ถ้าคุณเป็นแฟนถาปัดการละคอน:  คุณจะได้ดูบทละครคุณภาพเท่าเดิม นักแสดงประกอบฝีมือระดับนักเรียนมหาลัยเหมือนเดิม (เช็คจากสูจิบัตรแล้ว) เลยเต้นไม่ค่อยพร้อมกันในฉากที่ควรจะเน้นความพร้อมเพรียง เปลี่ยนฉากนานเหมือนเดิม ฟังเพลงจากเทป (หรือ CD) เหมือนเดิมไม่ได้บรรเลงสด ในราคาที่เพิ่มจากเดิมมากกว่า 10 เท่า

เนื่องจากผมเป็นแฟน 2 ใน 3 อย่างนี้ ผมจึงขอให้คะแนน 7/10 นะครับ ถ้าราคาตั๋วใบละ 200 บาทเท่าละคอนถาปัด แต่เผอิญเรื่องนี้ผมซื้อ 3 ใบรวมเป็นเงิน10,500 บาท ก็คงต้องลดคะแนนไปตามสัดส่วนของราคานะครับ

แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 11:26:29

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 52 09:50:20

แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 52 02:28:35

จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า
เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 52 02:19:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com