|
ความคิดเห็นที่ 5 |
Part 5: Narzizus การแพร่กระจายอย่างกว้างขวางของรูปภาพในห้องที่ดูน่ากลัว ที่ที่ไมเคิล แจ๊คสันต้องทรมานจากการใช้ยาเกินขนาดจนเสียชีวิตจนกระทั่งทีคนเห็นเป็นภาพติดวิญญาณนั้น อย่างไรก็ตามมันสะดุดตาตรงที่ว่าการใช้ยาเล็กน้อยของดาราดังผู้นี้เหมือนว่าจะมีผลกระทบในชีวิตที่แตกต่างกันภายในบ้าน
จวบจนวาระสุดท้าย ไมเคิลก็ยังเป็นผู้ที่เก่งเรื่องการแบ่งแยกและการเก็บความลับ ชั้นล่างของแมนชั่นที่ตกแต่งสไตล์ Faux Chateau ในย่าน Bel Air เป็นห้องชุดที่โปร่งโล่งสบาย ซึ่งไมเคิลใช้ซ้อมท่าเต้นของเขาเพื่อขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ที่ O2 ร่วมกับนักออกแบบท่าเต้น Travis Payne หรือออกกำลังกายในขณะที่เด็ก ๆ กำลังเล่นกัน ทานอาหาร หรือเรียนหนังสือกับครูที่มาทำการสอนที่บ้าน บนระเบียงมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่
2-3 ครั้ง ที่ไมเคิล และลูก ๆ ของเขา ออกไปข้างนอก เขาก็เล่นบทบาทตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนเพี้ยน ๆ (Wacko) โดยในเดือนเมษายนเขาถูกพบที่ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในลอสแองเจอลิสในชุดเสื้อแจ๊คเก็ตสีเขียวปรี๊ด ปิดหน้าด้วยหน้ากากผ่าตัดสีขาว สวมแว่นกันแดดและหมวกสีดำ ข้าง ๆ เขา ลูก ๆ ของเขาสวมหน้ากากสำหรับงาน Mardi Gras มีขนนกปิดหน้าปิดตา ขณะที่การพรางตัวดำเนินไป ก็เป็นความสิ้นหวังจนเกือบจะน่าขัน ด้วยความเชื่ออันยาวนานของไมเคิลที่ว่าการเป็นดาราดังจะต้องทำตัวให้ลึกลับในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่บนเวที "คุณต้องให้พวกเขาเกิดความโกลาหล" เขากล่าวประโยคที่ยืมมาจากละครเพลงเรื่องChicago.
การกลัวการเป็นที่สนใจจากสื่อมวลชน ทำให้ไมเคิลไม่ค่อยปล่อยให้ลูก ๆ ของเขาไปไหนโดยลำพัง แม้ว่าในบางครั้งพวกเขาจะพากันเดินทางไปเพื่อเล่นกับลูก ๆ ของเพื่อนเก่าที่ฟลอริด้า บางครั้งลูกพี่ลูกน้องของเขาก็จะมาเยี่ยมเยียน อย่างเช่น เจเนท แจ๊คสัน น้องสาวของไมเคิล ที่เริ่มจะสนิทสนมกับปารีส ไม่เช่นนั้น ก็จะเป็นที่รู้กันว่า พวกเด็ก ๆจะเล่นกันเองหรือไม่ก็เล่นกับไมเคิลพ่อของพวกเขา
Lou Ferrigno เพื่อนเก่าและดาราในอดีตจากภาพยนตร์โทรทัศน์ที่มีชื่อว่า Incredible Hulk ทำหน้าที่เป็นครูฝึกส่วนตัว (ออกกำลังกาย) ของไมเคิลในเดือนสุดท้ายของเขา เขาหวนระลึกถึงการที่มีเด็ก ๆ มาทักทายรายล้อมวิ่งไปมาอย่างสนุกสนานทุกเช้า หลังจากการออกกำลังกายกับ Ferrigno ที่ห้องด้านหลัง บนลู่วิ่ง และลูกบอลที่ใช้ออกกำลังกายโดยไมเคิลจะใส่ชุดดำทั้งชุดและไปร่วมวงเล่นซ่อนหากับลูกๆ
ไมเคิลจะส่งเสียงร้องหวูด (แบบนกเค้าแมว - Narzizus) Ferrigno เล่าว่า "เมื่อหลายปีก่อนไมเคิลบอกกับผมว่าเขารู้สึกเดียวดายมากเหลือเกิน แต่เมื่อผมมาอยู่กับเขา นั่นทำให้เขาดูถูกเติมเต็มและมีความสุข เขาเป็นเหมือนกับ Mr Mom (คนที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในคนเดียวกัน - Narzizus) ไมเคิลยังเป็นคนขี้เล่น บางครั้งเขาก็จะโทรมาหาผม และดัดเสียงเป็นเวลา 10 นาที" Ferrigno กล่าวว่า "ผมคิดว่าเจอพวกโรคจิตซะแล้ว แล้วเขาจะบอกว่าเขาชื่อ Omar และเขาตามหาผมอยู่" ชื่อนี้เป็นชื่อเดียวกับที่เขามักใช้เพื่อสั่งยา
ในตอนเย็นหลังจากการเลิกฝึกซ้อม ไมเคิลจะถูกบังคับให้รับประทานอาหาร เคนนี่ ออร์เทก้า ตำแหน่งผู้กำกับคอนเสิร์ตจะคอยบอกให้เขาจิ้มอาหารเข้าปาก เช่น เนื้อไก่ หรือบร๊อคโคลี่ เหมือนที่ทำกับเด็ก ๆ ซึ่งมันก็ได้ผล "เขาจะพุ่งความสนใจไปจุดเดียวจนลืมนึกถึงเรื่องของอาหาร" แต่ถ้าไมเคิลอยู่บ้าน ก็จะมีเวลามานั่งทานอาหารที่มีประโยชน์กับลูกๆเช่นเดียวกับตอนอยู่ที่บาห์เรน
ทุก ๆ เช้าหมอ คอนราด เมอร์เรย์เป็นผู้เดียวที่ได้รับอนุญาตให้นำอาหารเช้าส่วนตัวที่ประกอบด้วยน้ำผลไม้ที่เตรียมมาเป็นพิเศษและกราโนล่า (อาหารเช้าที่ประกอบด้วยน้ำนมใส่ผลไม้แห้ง,ผลไม้เปลือกแข็ง,ข้าว) มาส่งยังห้องนอนของไมเคิล สำหรับมื้อกลางวัน ไมเคิลจะรับประทานกับลูก ๆ เมนูที่เขาสั่งบ่อย ๆ คือ สลัดผักขมและไก่ โดยบางครั้งหมอ Murray ก็จะมาร่วมทานอาหารค่ำมื้อที่มี seared tuna
เชส (Chase) เชฟประจำของครอบครัว เล่าว่า บ่อยครั้งที่หมอเมอร์เรย์มาพูดคุยกับเธอเรื่องอาหารของไมเคิล โดยไมเคิลบอกเธอว่า "คุณจะต้องดูแลผมนะ ผมเป็นนักเต้น" เธอระลึกได้ว่า"เขาต้องการอาหารที่ไม่ทำให้เค้าเป็นตะคริวขึ้นมาขณะเต้น"
เมื่อ เชฟ เชส เสนอว่าครอบครัวน่าจะได้รื่นเริงกับ "อาหารสบาย ๆ สไตล์วันเสาร์" ที่มีบาบิคิวไก่ ไส้กรอกเยอรมัน ทาโก้สไตล์แม๊กซิกัน ไว้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ซึ่งเป็นความคิดที่ไมเคิลเห็นด้วยในตอนแรกแต่ยกเลิกในภายหลัง ขณะที่วันเปิดคอนเสิร์ตใกล้จะมาถึง ทุกคนในครอบครัว รวมถึงเชฟเชส เตรียมการเพื่อจะเดินทางไปยังลอนดอน "เขายิ่งติดการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์"
เมื่อปริ๊นซ์ ปารีส และแบล๊งเคท สูญเสียพ่อของพวกเขาไป บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ซับซ้อนของพวกเค้า ที่ได้ค้นพบว่าอะไรคือความหมายของการเป็นสมาชิกขี้วีนตัวน้อย ๆ ของครอบครัวใหญ่อย่างครอบครัวแจ๊คสัน ทันทีที่ไมเคิลจากไป พี่สาวของเขา ลา โทย่า แจ๊คสัน ก็มาที่บ้านพวกเขา รื้อ ค้นทรัพย์สมบัติของไมเคิล เพื่อค้นหาเงื่อนงำการเสียชีวิตของเขา หลายวันต่อมา แคทเธอรีน ย่าของเด็ก ๆ เข้าใจผิดว่าไมเคิลจากไปโดยยังไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ จึงเดินทางไปศาลเพื่อยื่นขอดูแลจัดการ มรดกทรัพย์สินของไมเคิล รวมถึงสิทธิในการเลี้ยงดูหลานทั้ง 3 คน.
แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 52 15:42:26
จากคุณ |
:
แอร์ริโกะ
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเกิด PANTIP.COM 15:37:13
|
|
|
|
|