ความคิดเห็นที่ 1 1. The Emancipation of Mimi = MusicBox      2 อัลบัมนี้เหมือนกันคือ         1. เป็นอัลบัมที่ต้องพยายามชดเชยความล้มเหลวจากอัลบัมก่อนหน้าให้ได้ (Emotions, Charmbracelet ซึ่งถึงแม้ว่าไม่ล้มเหลวถึงขีดสุด แต่ถ้าเทียบกับความคาดหวัง ทั้ง mimi และ musicbox มาในฐานะที่ห้ามพลาดอีกครั้งเด็ดขาด ไม่งั้นจะไม่มีโอกาสกลับมาเกิดอีกแน่ และ 2 อัลบัมก่อนหน้านั้น ต่างมีแนวทางเพลงที่ประหลาดออกจากอัลบัมของมารายห์อื่นๆอีก 10 อัลบัมมาก จึงอาจถือได้ว่า Charm = Emotions ได้เช่นกัน)         2. เป็นอัลบัมที่มารายห์เริ่มพบแนวทางเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองชัดเจนขึ้น และเป็นแนวทางที่ทำให้เธอเข้าถึงคนเข้าถึงคนกลุ่มกว้างได้มากกว่าเดิม เธอได้เพลงที่เป็น Signature ของเธอในยุคแรกและยุดหลังจาก 2 อัลบัมนี้ซึ่งก็คือ Hero และ WBT        3. เป็นอัลบัมที่เริ่มมีโพรดิวเซอร์คู่บุญมาคุมเพลง ทำให้อัลบัมมีแนวชัดขึ้น แต่ก็ยังสะเปะสะเปะอยู่      [Walter Afanasieffe คู่บุญในยุคแรก ที่เริ่มปรากฏเครดิตอย่างเป็นทางการครั้งแรกจากการแต่งเพลงช้าใน Emotions และ Jermaine Dupri ที่หลังจากมาแบบผลุบๆโผล่ๆเพลง 2 เพลงในชาร์ม กลับกลายมาเป็นโพรดิวเซอร์ที่ทำเพลงมากที่สุดในชุด Miทร แบบเดียวกับ Walte ใน Musicbox ซึ่งในชุดต่อจากชุดเหล่านี้ ทั้งสองสามารถขึ้นคุมบังเหียนทำเพลงได้แบบเบ็ดเสร็จ (Daydream,E=MC2) ก่อนจะถูกถีบไปช่วยนิดๆหน่อยๆในชุดต่อมา (Butterfly,Memoirs)]         อย่างไรก็ดี เพลงทั้ง 2 อัลบัมนี้ถือว่ามีคนรักเป็นเพลงๆไป มากกว่าจะมีคนบอกว่า ชอบทั้งอัลบัม เพราะเพลงมันหลากอารมณ์เกิน ฟังแล้วสะดุดๆบ้าง เป็นผลจากการที่ 2 อัลบัมนี้ถือว่ามีทีมทำเพลงให้หลากหลายเอามากๆ จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 23:46:03

ความคิดเห็นที่ 2 4. มีคู่หูเพลงแดนซ์มาทำเพลงเร็วให้อย่างละ 2 เพลง แล้วไม่ได้กลับมาอีกเลยในอัลบั้มต่อๆมา คือ  David Cole, Robert Clivillés [C+C Music Factory] [Now That I Know, I've Been Thinkin' About You] เพราะ David Cole ตาย ทำให้ Robert Clivillés ไปสร้างทีมใหม่ชื่อ MVP แทน ส่วนใน Mimi คือ The Neptunes [Say Somethin', To The Floor] ซึ่งมอบเพลงที่ไม่ค่อยเข้าท่ามาให้ เห็นเป็นการสมควรยิ่งที่เช้มาร์ไม่ใช้บริการต่อ    5. คู่เพลงที่เข้ากันได้       Hero = WBT เพลงลำดับที่ 2 ในอัลบัม จากโพรดิวเซอร์คู่บุญในยุคนั้นๆ ดังระดับโลก ต่ออายุให้เจ้ได้มาอีกนาน        Shake It Off = Anytime you need a Friend ซิงเกิลที่ไปไม่ถึงดวงดาวในชาร์ต       MusicBox = Mine Again เพลงที่เล่นกับเสียงเพียวๆของเจ้กับดนตรีเปล่าๆ คร่ำครวญถึงใครคนหนึ่งเหมือนกัน แต่นัง Mine Again น่ารำคาญกว่ามาก      Get Your Number = Now That I Know สะเดิดพอกัน      Never Forget You = Circle เพลงเนื้อหาเดียวกัน ยังลืมผัวเก่าไม่ได้      Just to Hold You Once Again = One&Only ตามหาของหาย      I've Been Thinking About You = To The Floor ระบำรำเซิ้งพอกัน      All I've Ever Wanted=I Wish You Knew อารมณ์อยากได้เหมือนกัน    สุดท้าย 2 อัลบัมนี้เหมือนกันชัดเจนคือ เป็นอัลบัมที่เป็นจุดเริ่มความสำเร็จแบบเน้นๆให้มารายห์ในทั้ง 2 ยุค และปูพื้นให้อัลบัมที่ตามต่อมามีการตอบรับที่ดีมากๆ ถือว่า Daydream,E=MC2 ต่างได้พึ่งใบบุญของ 2 อัลบัมนี้จริงๆ จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 00:09:32

ความคิดเห็นที่ 3 2. E=MC2 = Daydream    1. ทั้ง 2 อัลบัมคือการย้อนรอยความสำเร็จจากอัลบัมก่อนหน้า แต่นำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดย 2 อัลบัมนี้เป็นอัลบัมที่โดนผีโพรดิวเซอร์เข้าสิงเกือบเต็มรูปแบบ [Walter/JD] โดยอิงแนวทางหลักจากเพลงที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้ามาใช้ [Without You----->Open Arms, WBT----> I Stay In Love เป็นต้น]  ทำให้ภาพรวมอัลบัมเป็นเนื้อเดียว และได้สร้างจุดเด่นขึ้นคือ            1.1 ความเป็นภาพรวมของอัลบัม E=MC2  และ Daydream ถือว่าการวางลุคส์ให้สอดคล้องกับดนตรี ในขณะที่มีมี่จะเป็นแบบโซลโอลด์สคูลย้อนยุค สลับกับอาร์แอนด์บีไฮเทคสังเคราะห์ แต่ E=MC2/Daydream จะกลิ่นอาร์แอนด์บีสมัยใหม่ผสมพ๊อพเนียนๆ แม้จะหลายโพรดิวเซอร์ แต่เพลงก็ดูมีดครงสร้างไปทางเดียวกัน ไม่สะดุดอารมณ์แบบอัลบัมก่อนหน้า แบบไม่กางเครดิต ก็อาจแยกไม่ออกว่าใครมาทำเพลงให้ ต่างจาก 2 อัลบัมข้างบน และการเรียงเพลงก็ลื่นๆ ไม่กระโดด ถือว่าทำได้ดีกว่า Mimi/MusicBox มากๆ (2 อัลบั้มหลังนี้อยากจะช่วยจัดแทรคให้ใหม่มากโดยเฉพาะมีมี่)                1.2 ความตลาด เพลงหลายๆเพลงฮุคติดหู ดนตรีฟังง่าย แต่ไม่ใช่ความตลาดแบบบ้านๆนะ ความติดหูมาจากเมโลดี้ที่สวย การเรียบเรียงเสียงประสานและเครื่องดนตรีที่ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญ ****** E=MC2 / Daydream เจ้มาร์หยุดหวีดแบบแรงๆ ไปเกือบทุกเพลง แถมไม่โหนตะเบ็งวิเวกโหวงแบบชุดก่อนหน้า แต่เน้นการใช้เทคนิคการร้องมาช่วยสร้างเสน่ห์แทน อาทิ เสียงหลบ เสียงผ่อน***** ใครๆจึงมักจะบอกว่า 2 อัลบัมนี้เพราะ เพราะมันเป็นเพลงที่กลืนง่าย เหมือนขนมหวานที่กินง่าย เน้นอร่อยจากความเรียบง่ายมากกว่าบรรจงแต่ง   2. เป็นอัลบัมที่ทำให้เจอคู่บุญในอนาคต       Always Be My Baby -------> JD  -------------------->E=MC2             ถึงแม้ตาเจดีย์จะเคยมาทำรีมิกซ์ให้ Never Forget You แล้ว แต่ Always Be My Baby ถือเป็นเพลงที่สร้างแนวทางใหม่กับมารายห์ และจากการที่เพลงได้รับความสำเร็จมากๆ ทำให้มารายห์เชื่อมือได้ และกลายมาเป็นคู่บุญกัน ดังนั้น E=MC2 มองอีกในแง่หนึ่ง ก็คือ Daydream เวอร์ชั่นที่ถูกขายจำนวนเพลงให้เจดีย์ทำมากขึ้น แล้วตัดส่วนที่เป็นบัลลาดของ Walter ไปนั่นเอง โดยเฉพาะว่าพิจารณาผลงานของเจดีย์ที่ทำกับมารายห์ในอัลบัมช่วง Butterfly - Charmbracelet เป็นต้นมา จะเห็นว่าเพลงของเจดีย์ในชุด E=MC2 มีความคล้ายกับเพลงในยุคเดย์ดรีมมากที่สุด          Touch My Body -------> The Dream & Tricky Stuart  -------------------->Memoirs         จากแอบมามีผลงานแค่เพลงเดียวแต่ดังเปรี้ยง และมีแนวทางเฉพาะ ทำให้มารายห์ชื่นชอบถึงขั้นยกให้ทำอัลบัมใหม่ทั้งอัลบัม แบบเดียวกับ Always Be My Baby ที่มารายห์ใช้อธิบายเหตุผลในการเลือกตาเจดีย์มาทำ E=MC2 แทบทั้งอัลบัม     3. คู่เพลง     Migrate = Fantasy     เพลงมีจังหวะมากที่สุด จากโพรดิวเซอร์สุดฮอตที่ไปฉกมาจากดิว่าแดนซ์เหมือนกัน คือ Dave Hall (Fantasy) แบ่งกันใช้ระหว่างเจ้แม่มาดอนน่าุชุด Bedtimes Stories (เคยมาทำ Dreamlover ให้ก่อนเจ้แม่อีกนะ) ส่วน Danja (Migrate) ไปฉกหนูหอกจากชุด Blackout มา     เทียบแล้ว Dreamlover --------------> ภาค2 = Fantasy                   It's Like That -------------> ภาค2 = Migrate     ต่างเป็นเพลงภาค 2 ที่เต้นหนักขึ้น ดนตรีดุขึ้น มีแรพเพอร์ฟันดำมาแรพให้ทั้งคู่ (O.D.B/T-Pain) และต่างเป็นเพลงเร็วแนวใหม่สำหรับมารายห์ทั้งคู่      Underneath The Stars = I'm That Chick      เพลงนี้ยอมให้ค้านว่าไม่เหมือนได้      ที่จับมาคู่กันเพราะว่าต่างเป็นเพลงที่ใช้อิทธิพลของเพลงยุค 70's มาสร้างเพลงใหม่แบบพริ้วๆ และเป็นเพลงแบบที่มารายห์ยังไม่เคยทำมาก่อน 2 เพลงนี้เหมือนกันตรงที่ เอาความสดแบบดนตรีสดของเพลงโซล มาทำใหม่ในแบบโปรแกรมมิ่งสังเคราะห์เหมือนกัน แต่ได้ผลลัพธ์เป็นเพลงที่สวยได้แบบงามด้วยเมโลดี้ยุคเก่า แต่บรรยากาศเป็นยุคใหม่       One Sweet Day = Bye Bye       เพลงซิงเกิ้ลที่ 2 เหมือนกัน แต่งให้คนตายเหมือนกัน      Always Be My Baby = Love Story      จับมาชนกันได้เพราะต่างเป็นการสร้างโครงสร้างดนตรีใหม่เหมือนกัน ตอนปล่อยเพลง Love Story มาทีแรก รู้สึกแอบเชียร์เลยว่าเป็นเพลงที่มีโอกาสจะทำให้มารายห์เข้าชิงแกรมมี่ได้ มันเป็นเพลงที่มีการสร้างโครงสร้างเพลงที่เยี่ยมมากทั้งคู่ คือเป็นดนตรีโพรแกรมมิ่งธรรมดานี่แหละ แต่มีการใช้ลูกเล่นของดนตรีแบบอาร์แอนด์บี การประสานเสียงแบบคอรัสคนดำอ่อนๆ มีลูกเล่นกับการร้อง และเนื้อหาที่แม้จะเกี่ยวกับความรักก็จริง แต่ก็เป็นมุมมองที่สวยงามและเฉียบคมมากๆ      Always Be My Baby กับ ความรักแบบไม่ยึดติด จริงใจแบบไม่มีกาลเวลา เนื้อหาแบบนี้เกิดขึ้นในวันที่ชาร์ทเพลงมีแต่เพลงฉันรักเธอ เธอต้องเป็นของฉัน ถึงเธอจะจากชั้นไป ช้นก็ยังจะรักเธอแบบไม่ยอมปล่อยวาง     Love Story นอกจากการด้นร้องแบบ Improvise ได้อารมณ์ดิบๆแบบเพลงลำตัดบนดนตรีโพรแกรมมิ่งโป๊งๆชึ่งสังเคราะห์แล้ว เนื้อหายังเฉียบคมด้วยการพูดถึงมุมมองความรักแบบกฤษณาสอนน้อง เป็นมุมมองจากคนที่ผ่านโลกมามากขึ้น และบอกให้รุ่นน้องปล่อยวางให้ความรักเป็นไปตามพรหมลิขิต ฟังแล้วลึกซึ้งดูดีอยู่นะ     I'll Be Lovin' U Long Time = Forever     เพลงดนตรีโบราณ เื้นื้อหาจะรักเธอนิรันดร์กาลเหมือนกัน     Looking In = I Wish You Well     เพลงโชว์เสียงเพียวๆเหมือนกัน    สรุปว่า 2 อัลบัมนี้คือ Daydream/E=MC2 ถ้าวัดความสำเร็จเป็นเพลงๆแล้ว ถือว่าอาจไม่เปรี้ยงแรงๆแบบอัลบัมก่อนหน้า แต่ค่อนข้างดังพอๆกันหลายๆเพลง และเป็นอัลบัมที่มีจุดเด่นที่คนมักพูดถึงคือสามารถฟังต่อลื่นๆได้ทั้งอัลบัมโดยไม่รู้สึกรำคาญ หรือทนเสียงเจ้ไม่ไหวตรงไหน แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือ ความตะเบ็ง เนื้อหาเพลงแรงๆแนวดิว่าสาวกร้านโลกหรือรันทดรัก หรือ เพลงแบบดิบๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่อัลบัมก่อนๆหน้า 2 อัลบัมนี้เคยมี ทำให้เช้มาร์มีการเปลี่ยนแนวแบบพลิกมือกลับมาเอาใจแฟนดั้งเดิมบ้างในอัลบั้มต่อมา คือ Butterfly / Memoirs To Be Continued.....     แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 52 01:11:18 จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 01:02:18

ความคิดเห็นที่ 4 ว้ายๆๆมาปาดคะ ชอบอ่านมาก ขอบคุณคะ จากคุณ : Carcare@Mariah เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 01:19:05

ความคิดเห็นที่ 5 อนุญาตให้ปาดได้เลยจ้ะทุกคน แสดงความคิดเห็นกันก่อนได้เลย ตอนนี้ยังเขียนชุดเมมัวร์กะบัตเตอร์ฟลายไม่ออกอ่ะ ฝากแสดงความเห็นกันก่อนละกัน จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 01:28:04

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยอย่างมากทีว่า มีมี่ เป็นอัลบัมที่ต้องพยายามชดเชยความล้มเหลวจากอัลบัมก่อนหน้าให้ได้   เพราะคิดแบบนี้มาโดยตลอดเช่นกัน   เจ๊เติมเต็มส่วนที่หายไปของชาร์มซะสะใจมากก จากคุณ : Johan Carey เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 01:31:26

ความคิดเห็นที่ 7 เบ้ลสะใจมากกมีมี่ จากคุณ : ifwedo เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 01:47:42

ความคิดเห็นที่ 8 3. Memoirs = Butterfly      นับตั้งแต่เปิดศักราชมีมี่มา รู้สึกว่าเจ้มารายห์คนเดิมที่เคยรู้จักไม่เคยกลับมาเลยอ่ะ มันไม่ใช่มารายห์คนที่เซี้ยวแก่นแบบยุคเรนโบว์-กลิตเตอร์ ไม่ใช่ลุคส์คุณนายแบบ Emotions-Daydream รู้สึกว่าแม้กระทั่งอัลบัมที่ผิดหวังมากที่สุดอย่าง ชามสแตนเลส ก็ยังมีบางเพลงที่ทำให้โยงไปหาเจ้มาลัยคนเดิมได้      ลองนึกถึงเพลงอย่าง You Got Me, Lullaby, Irresistible ดูสิว่ามันเป็นเพลงแบบที่ดูไม่ใช่มารายห์เอามากๆ ถ้าอัลบัมชาร์มไม่ได้เพลงอย่าง       TTR ที่ชวนให้นึกถึงเพลง Musicbox       Boy (I Need You) -----> Loverboy       Yours ------------------> Bliss       I Only Wanted ---------> My All/After Tonight       Bringing on -------------> Without You/Open Arms       ชาร์มก็เป็นอัลบัมที่บอกตามตรงว่ามันไม่ได้ให้เพลงแบบที่เราคาดหวังหรือคุ้นเคยจากมารายห์อ่ะ       ลองนึกถึงยัยติ๊ จาก Genie ----> Stripped -----> Back To Basics ดูว่าการเปลี่ยนแปลงมากๆจากสูตรที่ตอนแรกก็โอเคอยู่แล้ว เพื่อแสดงศักยภาพ มันอาจไม่ได้ให้ผลที่ดีเสมอไป บอกตามตรงว่ากลับชอบความย่ำอยู่กับที่ของยัยบิดหนี แบบ Baby One ----> Oops! ----> Slave มากกว่าด้วยซ้ำ       ชุดชาร์มยังพอเอาตัวรอดไปในความรู้สึกแฟนๆตรงที่มีบางเพลงฟังแล้วต่อติดกับอารมณ์แบบมารายห์อย่างที่คาดหวัง แต่นึกถึงชุดมีมี่ แม้จะชอบ WBT ชอบเพลงช้าแบบ Circles/I Wish You Knew พอใจกับบัลลาดดิบๆแบบ Mine Again แต่ปัญหาที่ทุกคนถามหาคือ Ballad หมาหงอยแบบเช้มาร์อยู่ไหน?       นึกถึงตอนแรกๆที่ชุดมีมี่วางขาย รู้สึกว่าชอบเพลงในอัลบัมจริง แต่ความรู้สึกขาดมันเยอะมากอ่ะ ไอ้เพลงช้าแบบดนตรีสดมันทดแทนความอิ่มแบบเพลงช้าเนิบโศกซึ้งแบบมารายห์อย่าง Lead The Way / Never Too Far ไม่ได้ ครั้นจะหาเพลงแบบอาร์แอนด์บีจริตแตกก็หาได้มีเพลงใดโดนโต้งๆไม่มีอีก       กล่าวได้ตามตรงว่า Mimi / E=MC2 เป็นมารายห์ในอีก 1 ร่างที่เธอสร้างขึ้นเพื่อหนีความจำเจ และหนีคำครหาว่าทำแต่เพลงบัลลาดมหาหอน ไอ้ตอนทำมีมี่ การไม่มีบัลลาดแบบเดิมๆนั้น ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะนั่นทำให้เพลงของเธอโดยรวม มีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักวิจารณ์ให้ความชื่นชมมากขึ้นกว่าเดิม พอมาถึง E=MC2 ซึ่งเป็นโครงการ 2  ซึ่งการทำเพลง แทบจะลอกแบบกันแบบวางคู่กันได้ Track By Track เลย การที่จะมีเพลงแบบเก่าๆหลุดมาก็คงจะทำให้ภาพรวมอัลบัมคู่เสียลงได้ ซึ่ง 2 อัลบั้มที่ผ่านมาถือว่าตอบโจทย์ได้ดีพอควร ตามคอนเซปต์ที่ตั้งขึ้น แต่พอมาถึงชุดใหม่ เมื่อโครงการเดิมเสร็จแล้ว จะทำยังไงให้พ้นเพลงแบบ Mimi Series ได้นี่สิปัญหา         มาถึงตรงนี้เชื่อว่ามาลัยคงเจอทางตันในการทำเพลงเหมือนกันว่าจะพุ่งไปทางไหนดี ลองทวนสเตปในอดีตดูดีกว่า         MusicBox --- Mimi =====>ขั้นกู้ชีพ         Daydream -- E=MC2 ===> กอบโกย         ฺีButterfly ---- Memoirs ==> ????????      ตอนแรกเชื่อว่าเจ้คงไม่คิดเป็นคอนซง คอนเซปต์อะไรหรอกมั้งน่ะ แต่คงตามสไตล์เจ้แบบแต่งเพลงมาเรื่อยๆ นั่งรถตู้ไปก็แต่งรถไปอะไรเทือกนั้น แล้วค่อยมาเลือกเพลงแกนแลวทำเป็นอัลบัมขึ้น (กรณีนี้เคยเกิดขึ้นในช่วงชุด Emotions มารายห์ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า สาเหตุที่เธอสามารถออกอัลบัมที่ 2 ได้ทั้งที่ซิงเกิลสุดท้ายจากอัลบัมแรกแทบจะยังไม่หยุดโปรโมตเลยนั้น เพราะว่าระหว่างเธอเดินทางออกทัวร์ เธอจะจดเพลงในไดอารี่(จะใช้คิตตี้หรือยังไม่รู้นะ) แบบมีคอนเซปต์ มีเมโลดี้คร่าวๆอยู่แล้ว เหลือแค่หาคนมาสร้างเพลงต่อให้ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ เมมมัวร์ ออกต่อจาก E=MC2 ได้แบบปีต่อปีเลยเช่นกัน)     ลองฟัง Skydiving กับ 100% ดู ก็คงจะรู้ว่าเพลงมันออกนอกกรอบอัลบัมไปขนาดไหน มีทั้งอวกาศ และผีเจดีย์แบบเดิมๆ มารายห์คงต้องเก็บข้อมูลว่าจะทำอะไรดีที่เธออยากทำ และแฟนๆอยากฟัง     เมื่อสมัยกลิตเตอร์ เคยอ่านสัมภาษณ์เช้มาร์ว่า เธอใช้คอมไม่ค่อยเป็น ดังนั้นเรื่องเนทนี่เซย์โน ใครที่โพสเป็นเธอ นั่นคือตัวปลอม ทำให้เห็นว่า การที่ยุคนี้เจ้เริ่มเล่นเนต เล่นทวิตเตอร์ แอบปล่อยเพลงมาชิมลาง อะไรเทิอกนี้ คิดได้ว่าส่วนหนึ่งจากฟีดแบกของแฟนทั่วโลกนี่ล่ะที่มีผลทำให้เช้มาร์ได้คำตอบที่ลงตัวจนเกิดเป็นเมมมัวร์นี้ขึ้นมา จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 02:10:29

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ขอตั้งตารอ ยุคของ rainbows เลยอ่ะ ความแรดอะไรต่าง ๆ เจ๊หนึ่งวิเคราะห์ได้เริ่ดมาก เห็นด้วยมาก ๆ เลย โดยเฉพาะตรงนี้ MusicBox --- Mimi =====>ขั้นกู้ชีพ Daydream -- E=MC2 ===> กอบโกย ฺีButterfly ---- Memoirs ==> ???????? ???????? = ขอใช้คำว่า ลองของได้มั๊ย           เป็นการลองอะไรหลาย ๆ อย่าง อย่าง honey,  my all ทำให้มารายรู้ว่าอัลบั้มต่อไปต้องเซ็กซี่ when ever you call ทำให้รู้ว่าอัลบั้มถัดไปต้องมีบัลลาดร้องคู่กับผู้ชาย ซึ่งก็แอบมีซะเยอะ breakdown ทำให้รู้ว่าพอก่อนเพลงเรื่อย ๆ อ้อยอิ่ง เก็บไว้ก่อน ฺbutterfly เจ๊คงคิดว่าอัลบั้มหน้าชั้นต้องเอาเรื่องตัวเองมาแต่งเพลงอีก และอัลบั้มผีเสื้อ ก็แอบทำให้เจ๊คิดได้ว่า อัลบั้มถัดไปต้องมี แรปเปอร์มาแรบให้เจ๊ เพราะมันเก๋ ส่วนอัลบั้มนี้ล่ะ  เจ๊ได้ไอเดียอะไรอีกมั๊ย สำหรับอัลบั้มถัดไป .. ปล. สำหรับอัลบั้มนี้ มี กอชเปลนะจ๊ะ นั้นคือ i wanna know อินักวิจารย์คนไหนบอกว่าเพลงนี้เวอร์เกินจริง ต้องตามตบนะ เพราะฟังไปฟังมาเอ๊ะ you ในความหมายของมารายคือพระเจ้าหรือเปล่า... เพราะทุกสิ่งอย่าง ทุกองประกอบของเพลงเป็นกอชเปลจริง ๆ แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 52 03:35:33 จากคุณ : karnclue เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 03:31:37

ความคิดเห็นที่ 10 สุดยอดอีกแล้ว แซมมี่ ... เขียนอะไรน่าอ่านไปหมดเลย จากคุณ : bluefish pop เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 14:17:11

ความคิดเห็นที่ 11   เริ่ดดดดดดดดดดดด จากคุณ : เห็ดถอบจัง เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 15:18:10

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับแซมมี่ จากคุณ : istillbelieve เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 17:17:44

ความคิดเห็นที่ 13 มาอ่านกระทู้คับ นั่งอ่านกระทู้พี่แซมมี่แล้วคิดตามที่พี่เขียนแล้ว มันก็เป็นไปอ่ย่างที่พี่ว่านั้นละนะ ยิ่งภาษาที่พี่ใช้อีกมันโดนเลยละ ขอบคุณสำหรับความรู้เพิ่มเติมคับ จากคุณ : นู๋ลักซ์...Oops!!! (หุ่นขี้ผึ้ง) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 22:55:36

ความคิดเห็นที่ 14 ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  แซมมี่หรอ   นึกว่าเจ๊หนึ่ง ไม่ไหวจะเครียกับล็อกอินสองพี่น้อง  55555555   ตายแระ นึกว่าเจ๊หนึ่งจะสลัดภาพเหยี่ยวข่าวสาว มาเป็นนักเขียนเชิงวิเคราะห์ ม่ะ แอบหน้าแตกจริง ๆ จากคุณ : karnclue เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 23:46:26

ความคิดเห็นที่ 15 อะไรคะเธอ เจ้หนึ่งนี่ละค่ะต้นแบบการเขียนวิเคราะห์ของชั้น ไม่เชื่อลองกลับไปหารีวิวเพลง Anytime You Need A Friend By เจ้หนึ่งดู ขอบกว่าพี่สาวชั้นเริ่ดมาก Ifwedo ตระกูลนี้มีแต่เริ่ดค่ะ! จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 01:46:52

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยวเมมัวร์จะมาเขียนต่อให้พรุ่งนี้นะจ้ะ มันยังไม่จบ ถ้าใครยังอยากอ่านต่อ ลงชื่อไว้ด้วยนะคะ จะเอาไปใบ้หวยค่ะ ฮิฮิ จากคุณ : ifwudo เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 01:48:19

ความคิดเห็นที่ 17 /ลงชื่อ จากคุณ : Carcare@Mariah เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 09:38:03

ความคิดเห็นที่ 18 ติดตามผลงานแซมมีตลอด เขียนสนุกมากๆ รออ่านเมมมั่วน่ะ จากคุณ : Maven เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 09:53:50

ความคิดเห็นที่ 19 เขียนน่าอ่านมากกกกกกกกกกกกกก ชั้นชอบงานเขียนของแกมาตั้งแต่พระนายหมื่นไร่แร้วน๊า  อิอิอิ มีสาระ มีเหตุผลรองรับ พิสูจน์ได้  เก๋มากกกกกกกกกกก ปล.ตลก ก้านจังเลย ขำมากชั้นเองก็เคย งง กะชื่อล็อคอินนางเหมือนกัน ปวดแก่นพอกันทั้งพี่และน้อง 5555555+++ จากคุณ : Por_dragonfly เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 12:30:59