สาส์นถึงต้นเหตุแห่งตรรกะนครและเมืองเอกเขนก (มิบังอาจวิจารณ์ แค่อยาก...)
|
|
ด้วยความที่เป็นมือใหม่ในฐานะของผู้ชมละครเวทีคงมิบังอาจจะคอมเม้นท์ในเรื่องใดๆ เพราะจากการที่ความตั้งใจตั้งแต่ครั้งแรกคือการเดินเข้าไปเสพความสุขเพียงอย่างเดียว จึงมองหาข้อขัดใจใดๆไม่เจอ หรือว่าเจอแต่ก็ไม่รู้ว่าเจอมั้ง รู้แต่ว่าตอนเดินออกมารู้สึกว่าบรรลุความตั้งใจก็เพียงพอ ปรัชญาเก็บได้บ้างไม่ได้บ้างก็ช่างเหอะ (คนทำละครจะเสียใจไหมอ่ะ)
หลังจากดูเสร็จ (รอบบ่ายวันอาทิตย์ที่แล้ว คงต้องระบุหน่อย เพราะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอยู่ในแต่ละรอบ) ก็เห็นว่ามีกระทู้และ reply เกี่ยวกะละครค่อนข้างมาก (ทำให้เผลอสปอยก่อนไปดูจริงหลายอยู่) จึงขี้เกียจเขียนบ้างอะไรบ้าง (สำนวน FC AF อย่างเปิดเผย) แต่...วันนี้ ได้ลองกลับมาเปิดซีดีที่ซื้อมา กลับรู้สึกแปลกประหลาดดี จากที่เคยรู้สึกชื่นชมเนื้อเรื่อง แต่วันนี้กลับอยากรู้สึกคารวะตัวเอกที่ชื่อว่า บท หรือ เนื้อเรื่อง จากใจจริง เอามาเรียงเป็นเรื่องเดียวกันได้ไงอ่ะ แถมเป็นเรื่องที่ทำให้คนรุ่นใหม่อย่างเราที่ไม่เคยได้มีความทรงจำจากเฉลียงเป็นพื้นฐานมาก่อน รู้สึกจับใจ (เพิ่งรู้สึกว่า จับใจ มันเป็นไง) อาจเป็นเพราะไม่เคยมีความเป็นคนหวงแหนเฉลียงมาก่อน จึงไม่รู้สึกว่าเฉลียงโดนดัดแปลงเสียหายไปบ้างหรือเปล่า แต่สำหรับเราคารวะจากใจจริง
ถือซีดีในมือแล้วก็คิดเล่นๆ จุดประสงค์ของการทำซีดีเพลงออกขายคืออะไร?
ถ้าหากคำตอบคือเพื่อเงิน คุณก็บรรลุวัตถุประสงค์ เพราะเรายอมจ่ายให้
ถ้าหากคำตอบคือเพื่อให้เราคิดถึง moment ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ N17 ในห้องมืดๆ วันอาทิตย์ก่อน คุณก็บรรลุวัตถุประสงค์อีกเช่นกัน เพราะเมื่อแต่ละเพลงได้ถูกเล่น เราก็คิดถึงแต่ละฉาก แต่ละรอยยิ้ม และแต่ละหยดน้ำตาได้อย่างดี นี่ละมั้งศาสตร์แห่งศิลปะที่วิทยาศาสตร์อย่างเราไม่สามารถอธิบายได้ (บอกแล้วว่าเป็นมือใหม่หัดดู ก็เลยไม่ค่อยสนใจจุดขัดใจเลย)
พอรู้สึกดีก็จะรู้สึกเสียดายไม่ได้ ถ้าไม่ได้บอกขอบคุณใครก็ได้ คุณ คนที่แปลงศิลปะที่สวยงามมาให้คนวิทยาศาสตร์อย่างเราได้เห็น เสียดายที่ละเลยพี่จิก เสียดายที่อายที่จะเดินเข้าไปบอกคนที่เราแอบปลื้ม (ในตัวตน) มาตั้งแต่ยังเด็ก และสร้างความประหลาดใจให้แก่คนรอบข้างว่า Idol ของแกไม่ใช่คนในเส้นทางชีวิตเดียวกะแกซะหน่อยว่าเราทึ่งในตัวเค้ามากแค่ไหน แม่บอกว่า ถ้าเป็นแม่ แม่จะวิ่งเข้าไปบอกพี่จิกโดยไม่รีรอแน่นอน เพราะการที่ได้แสดงความรู้สึกดีๆกับใครสักคน น่าจะเป็นสิ่งที่ให้ผลบวกมากกว่าลบเสมอ (แต่วิญญาณ FC ก็ครอบงำให้เราไปแสดงความรู้สึกดีๆกะ ศลป หน้าเวทีแทน เอิ้กๆ) ไม่ได้เสียใจที่ไม่ได้ทำ แต่เสียดายโอกาสนั้นมากกว่า กับคนอย่าง ประภาส ชลศรานนท์ ก็ได้แต่สัญญากับตัวเองว่า ถ้าเจอกันคราวหน้ากลางสะพานลอย กลางตลาดนัด หรือที่ไหนก็ได้ เราต้องไม่ปล่อยโอกาสนั้นอีกแน่
นอกจากพี่จิก ขอบคุณคนที่พาแสงแต่ละสีมาวางร้อยเรียงกันในแต่ละตำแหน่ง ขอบคุณคนที่พาเครื่องดนตรีมาวางและบังเกิดเสียงให้มันขึ้นมา(เสียดายมากที่รอบเราอดเห็นวงดนตรีหลังฉาก เพราะจำได้ว่าเป็นฉากที่ทำให้เราประทับใจมากตอนดูโจโจ้ซัง ณ เอ็มเธียเตอร์) ขอบคุณแต่ละฉาก ใบไม้แต่ละใบ ขนนกกังหันบนเฉลียงของพระจันทร์ สมุดบันทึกของชานะยม กล่องดนตรีในมือพายอาร์ (ที่สงสัยจังว่าสื่อถึงอะไรอยู่หรอ หรือว่าเรากำลังพยายามคิดลึกไป) วิทยุสื่อสารของพันหนึ่ง กล่องหิ่งห้อยของคุณพ่อหนุ่มสุดอบอุ่น และเวอร์ชั่นที่สังขารไม่เที่ยงแท้แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิด
ความจริงแล้วเสียดายเหมือนกันที่อดได้เก็บความทรงจำอย่าง อยากมีหมอน และ ฝากเอาไว้ ไว้ด้วย เพราะคาดว่าตอนฟังคงกระชากรอยยิ้มและบ่อน้ำตาได้ไม่รู้เบื่อแน่นอน
จบดีกว่า เพราะเวิ่นเว้อไปสำหรับการ ขอบคุณ
ถ้าวัตถุประสงค์ของการทำละครเวทีสักเรื่องคือความสุขที่ซ่อนอยู่ ไม่ได้ต้องการการวิเคราะห์อย่างละเอียด คิดไปอีกสามร้อยตลบละก็ คนบ้านๆอย่างเราก็อยากตะโกนดังๆ ให้ได้ยินจริงๆ ว่า ขอบคุณ เพราะเราชอบมันจริงๆ
จากคุณ |
:
หนำเลี๊ยบสีชมพู
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 52 21:55:20
A:110.164.168.214 X: TicketID:181884
|
|
|
|