ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่ ๑: กำเนิดแห่งบทเพลง - ไร้สาวสวยบนหาดอิปานิมา? หากเราลองจินตนาการย้อนกลับไปราว 40 ปีก่อน...ในปี ค.ศ. 1962...ข้ามขอบฟ้าไกลไปถึงทวีปอเมริกาใต้ ประเทศบราซิล ณ กรุง ริโอ เดอ จาเนโร่ บนชายหาดอิปานิมา Helo Pinheiro..สาวบราซิลเลี่ยนร่างระหงวัย 19 ปี เดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่งบนถนนมอนเตเนโกร (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อ Vinicius de Moraes Street ตามชื่อของผู้แต่งคำร้องต้นฉบับภาษาโปรตุกีสของเพลง Garota de Ipanema) สาวสวยผู้มีนัยน์ตาสีเขียวและผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้ม กิจวัตรประจำวันของเธออย่างหนึ่งคือ เธอต้องเดินมาซื้อซิกาเล็ตต์ให้กับแม่ของตนเสมอๆที่บาร์แห่งนี้ ซึ่งมักเป็นที่ชุมนุมของเหล่าบรรดาคอมโพสเซอร์บทเพลงบอสซาโนว่าหลายคน ในจำนวนนี้รวมถึง Antonio Carlos Jobim, Vinicius de Moraes และ Ronaldo Boscoli สาวลาตินผู้คมเข้ม.. เฮโลกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทอม โจบิม และ เดอ มอเรส แต่งเพลง Garota de Ipanema อันลือลั่นนี้ขึ้นมา ซึ่งต่อมาภายหลัง Normal Gimbel ได้ถอดความเนื้อร้องมาเป็นภาษาอังกฤษว่า... The Girl from Ipanema จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:32:39

ความคิดเห็นที่ 2 Tall and tan and young and lovely, the girl from Ipanema goes walking, and when she passes, each one she passes goes a-a-h... When she walks she's like a samba that swings so cool and sways so gentle, that when she passes, each one she passes goes a-a-h... Ronaldo Boscoli ผู้แต่งเนื้อร้องบทเพลงบอสนาโนว่าผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของวงการ ในเวลานั้นเขายังเป็นนักหนังสือพิมพ์ ขณะนั้นบอสโครี่และช่างภาพของเขา Helio Santos อยู่ในบาร์แห่งนั้นด้วย บอสโครี่ได้เขียนบันทึกไว้ในเรื่องราวที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Fatos & Fotos ในปี ค.ศ. 1965 หรือภายหลังที่บทเพลง Garota de Ipanema ได้รับการประพันธ์ขึ้นมาแล้ว 3 ปีว่า สาวสวยนาม พินเฮโร คนนี้เธอสวยและน่ารักจนสามารถทำให้สายตาชายทุกคู่ในบาร์ต้องจับจ้องมาที่เธอ เขามั่นใจว่าโจบิมและวินิเชียสแต่งบทเพลงนี้เพื่อเธอจริงๆ เนื้อหาที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Fatos & Fotos ดังกล่าวได้รับการยืนยันจากโจบิม และ เดอ มอเรส ว่าเป็นความจริง (นอกจากนี้ พินเฮโร ยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักประพันธ์เพลงและมือเบส Phil Morrison และ นักร้องและนักเพียโน Keith Williams ซึ่งได้แต่งบทเพลง Helo from Ipanema ในผลงานชุด Philantropy (Dr. Mac) ที่เพิ่งออกมาในฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 2004 อีกด้วย) จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:35:44

ความคิดเห็นที่ 3 Oh, but I watch her so sadly. How can I tell her I love her? Yes, I would give my heart gladly. But each day when she walks to the sea, she looks straight ahead not at me. Tall and tan and young and lovely the girl from Ipanema goes walking, and when she passes I smile, but she doesn't see. ทั้งโจบิมและ เดอ มอเรสเองก็คงแทบไม่อยากเชื่อว่าบทเพลง The Girl from Ipanema ที่ร่วมกันประพันธ์เพลงนี้.. เพลงที่มีความหมายสื่อออกมาตรงๆ..ง่ายๆ.. จะสามารถจับจิตจับหัวใจคนฟังทั่วโลกจนกลายเป็นเพลงอมตะตลอดกาลเพลงหนึ่งไปแล้ว! นี่ต้องยกเครดิตให้กับท่วงทำนองดนตรีบอสซาโนว่าโดยโจบิมที่ไพเราะสะดุดหูและมีเสน่ห์ลึก เมื่อรวมเข้ากับเนื้อหาของ เดอ มอเรส ที่มหาชนทุกระดับซาบซึ้งและเข้าถึงได้ง่าย และสุดท้ายได้รับการขัดเกลามาเป็นอย่างดีในภาษาที่เป็นสากล(อังกฤษ) จึงกลายเป็นส่วนผสมให้บทเพลงนี้คงความเซ็กซี่และให้ความรื่นรมย์มาทุกยุคทุกสมัย แต่แม้จะมีการยืนยันเรื่องสาวสวยเฮโล โดย 2 คอมโพสเซอร์คนดัง โจบิมและวินิเชียส รวมถึงบันทึกของบอสโครี่ แต่ก็ยังมีคนไม่เชื่อในเรื่องนี้ Amando Pittigliani โปรดิวเซอร์ดนตรีบราซิลเลี่ยนผู้คร่ำหวอดในวงการ เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ดังๆในแวดวงบอสซาโนว่าในต้นทศวรรษที่ 60 เล่าไว้ว่าเขาเคยได้ยินมาว่า ทั้งโจบิมและเดอ มอเรสไม่ได้แต่งเพลงๆนี้จากสาวสวยเฮโล่คนเดียว เฮโลเป็นเพียงหนึ่งในสาวคนหนึ่งที่เดินผ่านสองคอมโพสเซอร์คนดัง และต่อมาภายหลังทั้งสองก็อุปโลกว่ามันเป็นเธอคนนี้ที่ชื่อเฮโล.. ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาทั้งสอง ทั้งที่ในความเป็นจริงมีสาวสวยมากมายเดินขวักไขว่บนหาดอิปานิมา เขาคิดว่าความจริงแล้ว ทอม(โจบิม) และวินิชิอุสมีสาวสวยอิปานิมาอยู่ในใจหลายคน และเฮโล่น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น! จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:37:41

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับในทัศนะของผู้เขียนคิดว่า เรื่องนี้อาจจะมีส่วนจริง เพราะหากเราพิจารณาในแง่ที่ว่า ในต้นฉบับคำร้องของบทเพลงที่ยิ่งใหญ่เพลงนี้.. ซึ่งเป็นลายมือที่ถูกเขียนด้วยดินสอลงบนกระดาษสมุดบัญชี (ที่แสนจะธรรมด๊าธรรมดา) สมัยก่อนนั้น ซึ่งยังคงถูกเก็บรักษาไว้ ในใบเนื้อเพลงต้นฉบับดังกล่าวไม่มีปรากฏคำว่า Garota หรือ Girl เลยแม้แต่คำเดียว หรืออาจกล่าวได้ว่า ไร้สาวสวย(ปรากฏในบทเพลง)บนหาดอิปานิมา! อย่างไรก็ตามกระดาษลายมือต้นฉบับดังกล่าวได้ประกาศตนให้เราเห็นว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่มาจากสิ่งที่แสนธรรมดาๆ เช่นนี้เอง อย่างไรก็ตาม แม้วินิเชียสจะเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 1980 และอีก 14 ปีต่อมาโจบิมก็ตามเพื่อนรักนักแต่งเพลงคนนี้ไปอีกคน Paulo Jobim ลูกชายคนโตวัย 55 ปีผู้เจริญรอยบนเส้นทางดนตรีต่อจากพ่อของเขา..ทอม โจบิม ก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เขาเชื่อว่า เฮโลคือ‘ตัวจริง’ของสาวจากอิปานิมาในบทเพลงของพ่อและเดอ มอเรส เพียงแต่บทเพลงนี้ควรเป็นตัวแทนของสาวบนหาดอิปานิมาทั้งหมด มิใช่เพียงเฮโล่ที่บัดนี้ย่างเข้าสู่วัย 63 ปีเพียงคนเดียว นั่นเพราะต่อมาภายหลังที่บทเพลงๆนี้ได้ถูกประพันธ์ไปแล้ว 3 ปี ในปี 1965 วินิชิอุสซึ่งเป็นผู้เขียนคำร้องต้นฉบับได้ให้สัมภาษณ์กับบอสโครี่ว่า เฮโล คือ muse เธอคนนั้นของเขานั่นเอง จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:40:03

ความคิดเห็นที่ 5 แต่โดยส่วนตัวเปาโลแสดงทัศนะว่า เรื่องนี้มันมิใช่เรื่องสำคัญแต่ประการใดเลย เพราะตัวบทเพลงลอยอยู่เหนือจากการโต้แย้งเหล่านี้ทั้งหมด สำหรับเขา สาวสวยจากอิปานิมามีได้หลายใบหน้า และหลากหลายทรงผม ผู้ฟังทุกคนที่ได้ฟังบทเพลงนี้ล้วนมีมโนภาพแตกต่างกันออกไป หากวันนี้เราไปนั่งในบาร์แถวหาดอิปานิมาแล้ว เราจะเห็นสาวสวยมากมายเดินผ่านไปผ่านมา พวกเธอเหล่านี้ล้วนเป็น‘`the girl’ในบทเพลงได้ทั้งสิ้น สาวสวยในบทเพลงนี้ครั้งหนึ่งเธออาจเคยเป็น concrete girl ใครคนหนึ่ง แต่ตอนนี้สาวสวยแห่งอิปานิมาในบทเพลง เธอกลายเป็น abstract girl ไปแล้ว! Marcos Valle ในวัย 61 ปี เขาเป็นนักประพันธ์บอสซาโนว่าที่บัดนี้กลายเป็นหนึ่งในบทเพลงสแตนดาร์ดที่มีชื่อว่า Samba de Verao หรือ So Nice ปัจจุบันวอลล์ยังคงรักและเล่นดนตรีบอสซาโนว่า เพื่อบอกเล่าและบรรยายถึงความงดงามของอิปานิมาและกรุงริโอ เดอ จาเนโร วอลล์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าในปีที่โจบิมและวินิเชียสแต่งเพลง Garota de Ipanema นั้น เขายังเป็นหนุ่มน้อยที่พึ่งเริ่มอาชีพนักดนตรี โดยในระหว่างนั้น (ปี 1965) เขากำลังออกทัวร์อยู่กับ Sergio Mendes’s Group แต่วอลล์ก็ได้อ่านบทความของบอสโครี่เช่นกัน และจำได้ว่าทั้งโจบิมและวินิชิอุสออกมายืนยันสิ่งที่บอสโครี่เขียนว่าเป็นความจริงอีกด้วย วอลล์เชื่อว่าเฮโลคือสาวสวยตัวจริงในบทเพลงนั้น วอลล์แสดงความประทับใจว่า เมื่อเขามองไปที่เฮโล เขาเห็น The Girl from Ipanema ในตัวเธอ แต่วอลล์ก็มี Astrud Gilberto เป็น The Girl from Ipanema อีกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน ในแง่ของเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของแอสตรึดที่ส่งให้บทเพลงนี้ประสพความสำเร็จอย่างงดงาม จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:42:36

ความคิดเห็นที่ 6 หลายคนอาจคิดว่าทอม โจบิม และวินิเชียสเป็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ย้อนกลับไปในปี 1956 ทอม โจบิม นักเพียโนและผู้เรียบเรียงเสียงประสานวัย 29 ปีในขณะนั้น ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ วินิเชียส เดอ มอเรส นักกวีวัย 43 ปี อันเป็นจุดเริ่มต้นของคู่หูทางดนตรีต่างวัยคู่หนึ่งที่ผลิตผลงานเพลงบอสซาโนว่าอมตะด้วยกัน ในขณะนั้นวินิชิอุสกำลังมองหาคอมโพสเซอร์ให้กับโปรเจ็คที่อยู่ในความ คิดของเขา... เพื่อร่วมกันประพันธ์ดนตรีในเพลง Orfeu da Conceicao ที่จะอยู่ในมหากาพย์นิยายกรีซ มิวสิคัล เรื่อง Orpheus ให้กับ shanty town ในกรุงริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งความสำเร็จอย่างล้นหลามของเพลง Orfeu da Conceicao ในประเทศบราซิลถูกต่อเติมให้แผ่ขจรไปทั่วโลกอีกครั้งในปี 1958 เมื่อผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศส.. Marcel Camus นำเอาบทเพลงนี้ไปใช้เป็นธีมในหนังเรื่องเยี่ยมของเขา...Black Orpheus อันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการแนะนำบทเพลงบราซิลเลี่ยนยุคใหม่ให้กับคนทั่วโลก ในช่วง 6 ปีที่ทำงานเป็นคู่หูกัน วินิเชียสและโจบิมยังช่วยกันถักทอก่อตำนานบทเพลงบอสซาโนว่าระดับคลาสสิคเพลงอื่นๆอย่าง Insensatez, Chega de Saudade, Ela E Carioca, A Felicidade, และ Agua de Beber อีกด้วย  แต่ภายหลังการประพันธ์เพลง Garota de Ipanema แล้วทั้งคู่ก็มีงานเพลงที่แต่งร่วมกันอีกเพียง 2 เพลงเท่านั้น จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:45:19

ความคิดเห็นที่ 7 ในสองเพลงดังกล่าวนั้น เพลงแรกชื่อ Olha Maria ซึ่งเป็นงานที่เกิดจากวงทริโอ้ที่ทั้งสองทำร่วมกับ Chico Buarque และอีกบทเพลงชื่อ Chora Coracao ที่ถูกประพันธ์ขึ้นในช่วงปี 1970 และ 1971 เพื่อใช้ในซาว  แทร็คของภาพยนตร์เรื่อง Croica da Casa Assassinada หลังจากประพันธ์เพลงนี้ร่วมกันแล้ว โจบิมและวินิชิอุสยังคงมีสัมพันธภาพในฐานะเพื่อนต่างวัยที่ดีต่อกัน แต่โจบิมบินไปทำงานในอเมริกา ขณะที่วินิชิอุสยังคงทำงานร่วมกับคนอื่นๆต่อไปในบราซิล อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ทางดนตรีได้จารึกชื่อของคู่หูทางดนตรีนี้ไว้ในฐานะผู้มีอิทธิพลสำคัญของวงการพ็อพพูล่ามิวสิค แม้ว่าบทเพลง The Girl from Ipanema จะโด่งดังไปทั่วโลกในปี 1964 แต่ความจริงแล้วบทเพลง Garota de Ipanema นี้ถูกประพันธ์ขึ้นก่อนหน้านั้นราว 2 ปี แรกเริ่มทีเดียว วินิชิอุส เดอ มอเรสได้แต่งเพลงที่มีชื่อว่า Menina Que Passa (หรือ Girl Who Goes By) ไว้ร้องและบรรเลงประกอบในภาพยนตร์เพลงตลกเรื่อง Blimp และในปี 1962 ทอม โจบิม, วินิชิอุส เดอ มอเรส, จาว จิลแบร์โต้ และนักร้อง Os Cariocas ได้นำเพลง Garota de Ipanema  ออกแสดงครั้งแรกในภัตตาคาร Copacabana’s Au Bon Gourmet แล้วต่อมาในปี 1963 นักร้องชื่อ เพอรี่ ริเบโร่ (Pery Ribeiro) และวง The Tamba Trio จึงได้นำเพลงนี้ไปร้องอัดเสียงเป็นครั้งแรก และในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน ทอม โจบิม จึงได้รวมเอาเวอร์ชั่นบรรเลงของเพลง Garota de Ipanema นี้ไว้ในอัลบั้ม The Composer of “Desafinado” Plays  ของเขาด้วย (ออกในค่าย Verve) ในปี 1963 ปีเดียวเพลงๆนี้ถูกนักร้องนักดนตรีบราซิลเลี่ยนทำออกมาถึง 17 เวอร์ชั่น กับอีก 1 เวอร์ชั่นโดยชาร์ลี เบิร์ด นักกีต้าร์ชาวอเมริกันที่ทำร่วมกับเฮอร์บี้ มานน์ จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:50:09

ความคิดเห็นที่ 8 และหากนับตามสถิติที่รวบรวมโดยเปาโล โจบิม พบว่าจนถึงปี 1997 เพลง Garota de Ipanema มีทั้งหมดมากถึง 169 เวอร์ชั่นทั่วโลก! (เฉพาะที่มีการอัดเสียง) ความจริงข้อนี้เป็นเครื่องชี้วัดถึงกระแสความนิยมของบทเพลงๆ นี้ในทุกยุคทุกสมัย น่าแปลกที่ทั้งที่เวลาผ่านไปหลายทศวรรษแล้ว แต่ท่วงทำนองเพลงรวมถึงเนื้อหาของบทเพลง The Girl from Ipanema  กลับไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเพลงล้าสมัยเลยแม้แต่น้อย     ดนตรีบอสซาโนว่าคงจะไม่ฮิตฮอตหรือเป็นที่ถูกอกถูกใจคนทุกมุมทั่วโลกได้ขนาดนี้ หากดนตรีสายนี้ไม่มีทีมนักดนตรีระดับ“ดรีมทีม” หรือวงในฝันอีกวงหนึ่งของวงการแจ๊ส โดยบางท่านถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับที่ ไมลส์ เดวิส มีทีมนักดนตรีอย่าง จอห์น โคลเทรน และ บิล อีแว่นส์ เลยทีเดียว ในตอนต่อๆไปเราจะมารู้จักกับทีมสิงห์หนุ่มบอสซาโนว่า (เมื่อต้นทศวรรษที่ 60) สามคนอย่าง Antonio Carlos Jobim (เพียโน), Joao Gilberto (กีต้าร์) และ Stan Getz (เทเนอร์แซกโซโฟน) ผู้ซึ่งร่วมกันสร้างสรรค์ซาวด์ดนตรีบอสซาโนว่าให้รุ่มรวยและรื่นรมย์ จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:51:32

ความคิดเห็นที่ 9 เอาซะหน่อย เจงๆรู้ว่าไม่มีใครมาลอกหรอก แต่ใส่ให้ดูขลังๆ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำ ห้ามคัดลอกทั้งหมด หรือบางส่วนของซีรี่ส์บทความนี้ เว้นแต่จะได้อนุญาตจากผู้เขียนเท่านั้น Pat @ 2009 จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 08:00:00

ความคิดเห็นที่ 10 เยือนถิ่นแซมบ้า "ริโอ เดอ จาเนโร" เจ้าภาพโอลิมปิก 2016 http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000124106 จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 21:38:02

ความคิดเห็นที่ 11 ตามไปฟังเพลง The Girl From Ipanema ที่ Astrud Gilberto พร้อม Stan Getz ร่วมแสดงร้องและบรรเลงปรากฎอยู่ในจอภาพยนต์เรื่อง "Get Yourself a College Girl" ในปี 1964 ( นำแสดงโดย Mary Ann Mobley, Joan O'Brien, Nancy Sinatra ) ( ที่มา http://www.imdb.com/title/tt0161612/ ) จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 10:16:13

ความคิดเห็นที่ 12 และอีกครั้งกับบันทึกการแสดงโชว์สดเพลง The Girl From Ipanema โดย Astrud Gilberto และ Stan Getz จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 10:23:48

ความคิดเห็นที่ 13 (จาก คห.ที่ 7) Pery Ribeiro ที่ได้ชื่อว่านำเพลง Garota de Ipanema ไปร้องอัดเสียงเป็นครั้งแรก ( Pery Ribeiro was the first in the world to record "The girl from Ipanema". ) ในอัลบั้มชุด Pery e Todo Bossa ปี 1963 ลองไปฟังซุ่มเสียงของเขา...( YouTube ชุดนี้เป็นภาพ slideshow อัลบั้มของเขา ไม่ได้เป็นภาพ MV ยังหาไม่เจอคาดว่าสมัยหนุ่มๆอาจจะไม่ได้ถ่ายเอาไว้ ) จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 19:04:25

ความคิดเห็นที่ 14 Pery Ribeiro - Garota de Ipanema สำหรับ MV ชุดนี้เป็นการบันทึกการแสดงสดของเขาที่ Rio de Janeiro ในปี 2005 ช่วงเวลาห่างกันกว่า 40 ปี ในเพลงเดียวกันนี่ละ ลองเปรียบเทียบลีลาจังหวะว่าเป็นยังไง? จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 19:12:32

ความคิดเห็นที่ 15 จาก คคห.ที่ 7  คณะ Tamba Trio นำเอาเพลง Garota de Ipanema  รวมอยู่ในอัลบั้ม Avanco ในปี 1963 เช่นกัน ในวีดีโอจาก YouTube นี้ไม่ได้เห็นตัวเป็นๆ เป็นเพียงเพลงประกอบภาพและจากเสียงของ Tamba Trio เท่านั้น จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:58:19

ความคิดเห็นที่ 16 Bossa nova medley (Girl From Ipanema) : Antonio Carlos Jobim & Frank Sinatra (1967) จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 20:32:57

ความคิดเห็นที่ 17 Andy Williams & Antonio Carlos Jobim - Girl From Ipanema จากคุณ : tanodom เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:59:18