Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“This Is It” แรงบันดาลใจ...ใครบันดาลใคร  

คำเตือน  : บทความนี้จะเต็มไปด้วยอคตินะครับ  ขอย้ำ!!  เพราะผมรักMJ  ไม่รักกันอย่าว่ากันนะครับ...

         เสียงร้องแหลมสูง  ท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ และ การลูบเป้า  ที่เคยเป็น Talk of the world (ไม่ใช่แค่ Town) มาจนถึงวันนี้ ของ ‘King of Pop’  Michael Jackson  และความสูญเสียที่ช๊อคโลกที่สุดของปีนี้  ทำให้ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายอีกแล้วสำหรับภาพยนตร์สารคดีเบื้องหลังคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของราชาเพลงป๊อปผู้นี้  กับการนำเอาภาพการซ้อมครั้งสุดท้ายของคอนเสิร์ต “This is it” ที่ชาวโลกยังไม่มีโอกาสได้เห็นการร่ายรำบนถนนสายดนตรีครั้งสุดท้ายของเขา  เพียงแค่ภาพยนตร์ยังไม่ได้ลงโรงฉายก็ทำเอาแฟนคลับทั่วโลกเกิดความกระหายใคร่ดูคอนเสิร์ตครั้งนี้มากขนาดไหน  ซึ่งผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด  การนำเสนอภาพคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่  การตัดต่อที่ทรงพลัง และ สำคัญที่สุดการนำเสนอตัวตนเบื้องหลังฉากแต่เต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพของ MJ ก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

         ผมเองเป็นแฟนคลับของMJ มานาน  ได้ชมคอนเสิร์ตของเขาแทบจะทุกอัลบั้ม  ได้รับรู้ความตั้งใจ และ สัมผัสความเป็นมืออาชีพของผู้ชายคนนี้ได้มาตลอด  แต่ครั้งนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป  อาจเป็นเพราะว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย  ที่จะได้เห็นอัจฉริยะผู้นี้  ร่ายรำอยู่บนบทเพลงและจังหวะดนตรีที่เขาได้ส่งผ่านความรู้สึกออกมา  ราวกับเทวทูตแห่งเสียงดนตรีที่นำพาความสุขมาสู่ผู้คน  หลายคนอาจบอกว่าสิ่งที่ผมเขียนมันเกินความจริง  แต่คำว่า ‘ความสุข’ ของผม  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความไพเราะของเสียงดนตรีเท่านั้น  แต่คือพลังที่ส่งออกมาให้เราได้สัมผัสจริงๆครับ  พลังที่ทำให้คนที่ได้เห็นเขาเต้น และ ร้องเพลง  ลืมสิ่งที่อยู่ในชีวิตจริง และ พร้อมที่จะเดินทางไปกับเขาบนเส้นทางของเสียงเพลง

         ครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนที่ดูคอนเสิร์ตของเขากรี๊ดเหมือนคนบ้า เบียดเสียดกันดูคอนเสิร์ตจนเป็นลมนั้น  ก็มีความเห็นไม่ต่างจากคนทั่วไปที่คิดว่าคนเหล่านั้นเหมือนคนบ้าไปแล้ว  แต่พอได้สัมผัสถึงผลงานของเขาจริงๆก็ได้เห็นถึงพลังที่แตกต่าง  พลังที่ไม่เพียงแต่ดึงตัวเองออกจากโลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้น แต่ยังดึงอารมณ์ของผู้คนที่อยู่รอบข้างเขาเดินทางไปพร้อมกันด้วย

          หากเราสังเกตเห็น  จะพบว่า MJ ตอนที่ไม่ได้ร้องเพลง กับตอนที่อยู่บนเวทีแตกต่างกันเป็นคนละคน  แทบมองไม่เห็นคราบของผู้ชายขี้อาย ถ่อมตัว เก็บตัวเลย  แต่เมื่อเขาได้จับไมโครโฟน หรือ เต้นรำไปรอบๆเวที  สิ่งที่ผมเห็นกลับเป็นเหมือนเด็กคนหนึ่งซึ่งได้ของเล่นที่ชอบ และ เล่นกับมันไปโดยไม่ได้สนใจผู้อื่น  การร้องเพลงของ MJ อาจจะไม่ไพเราะที่สุด  ท่าเต้น Moonwalk ของ MJ อาจจะสู้ Dancer เก่งๆระดับโลกหลายคนไม่ได้  แต่สิ่งที่เรารับรู้ได้จากความรู้สึกว่าชายคนนี้กำลังสนุกกับสิ่งที่ตัวเองทำ และ รักกับมัน  เราจะรู้สึกได้เลยว่าเขามั่นใจ และ ปล่อยใจไปกับเสียงเพลงอย่างเต็มตัว  เขาไม่ได้ร้องเพลง และ เต้นรำด้วยร่างกายของเขา  แต่เขาขับขานสิ่งเหล่านั้นออกมาจากใจ  หลายฉากของการซ้อมที่เหล่าทีมงานบนเวทีจะต้องรอสัญญาณต่างๆจาก MJ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี หรือ การเต้น  ซึ่งเขาใช้เพียงความรู้สึกเท่านั้นที่บอกตัวเอง  การดื่มด่ำกับอารมณ์ในขณะนั้น  นี่ต่างหากที่ทำให้เขาไม่เหมือนใคร และ ไม่มีใครเหมือนอีกแล้วบนโลกใบนี้

          และด้วยพลังที่เขาถ่ายทอดออกมานี่เองที่เราได้รับรู้  และ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลากหลายคนบนโลกใบนี้  คนที่ไม่เข้าใจคงถามว่าท่าเต้นลูบเป้าจะกลายเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างไร?  ใช่ครับ! ท่าเต้นไม่ใช่แรงบันดาลใจ  แต่สิ่งที่เขาตั้งใจสร้างสรรค์ออกมาต่างหากที่เป็นแรงบันดาลใจ  ภาพของการทุ่มเทฝึกซ้อมเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุด  ทำให้หลายคนต้องหยุดหายใจด้วยความประทับใจ  และความประทับใจนี่เองที่สร้างต้นแบบแห่งแรงใจ  ให้หลายคนอยากทำตาม หรืออย่างน้อยก็ได้เข้าไปสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น  ในความเห็นของผมความอยากใกล้ชิดนี้เองกระมังที่ทำให้เขาต้องการช่องว่างสำหรับตัวเองบ้าง  มากกว่าการถูกรุกล้ำโดยพวกเราเองที่ชอบเขา  แต่ไม่เคยรู้ตัวว่ากำลังทำร้ายเขาอยู่เหมือนกัน

         ภาพของแฟนคลับรายล้อมในทุกที่ที่เขาปรากฏตัว  หรือแม้กระทั่งช่วงต้นเรื่องที่เป็นการสัมภาษณ์ Dancer ที่เข้ามาออดิชั่น  คงเป็นคำตอบของคำว่าแรงบันดาลใจที่เขามีให้กับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี  แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น  เราเคยได้หันกลับไปมองหรือไม่ว่า แล้วแรงบันดาลใจของ MJ นั้นล่ะ  คือใคร  ในความเห็นของผมแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ออกมาก็คือเหล่าแฟนคลับของเขานั้นเอง  คำพูดหนึ่งที่ MJ พูดกับทีมงานว่า “...ขอให้ทุกคนทุ่มเทให้เต็มที่  คนดูต้องการเห็นสิ่งที่แตกต่าง  หลุดพ้น และ หลีกหนีจากชีวิต ต้องการเห็นความเก่งกาจที่เขาไม่เคยเห็น  ต้องการไปในที่ที่พวกเขาไม่เคยไป  เราจะพาเขาไปในที่นั้น  เพราะฉะนั้นเราต้องทุ่มเทให้เต็มที่แบบสุดๆ” (ประมาณนี้แหละ)  และทุกครั้งที่เขาคิดอะไรในคอนเสิร์ตของเขา  เขาจะนึกถึงคนดูเป็นอย่างแรก  แสดงให้เห็นว่า  เหล่าคนดูที่ติดตามเขา  จัดให้เขาเป็นแรงบันดาลใจนี่เอง  ที่ทำให้เขาทำในสิ่งที่ดีที่สุดออกมาได้  แม้ว่าแฟนคลับทุกคนจะมองตามหลังเขาที่เป็นแรงบันดาลใจอยู่  แต่เชื่อไหมครับว่า เขาเองก็ไม่เคยที่จะหันหลังให้กับเรา  เขาหันหน้าเข้าหาเราที่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยู่เหมือนกัน

         สิ่งเหล่านี้แหละครับ  ที่ทำให้เขาต้องอดทนต่อสู้กับสิ่งที่เขาเผชิญอยู่  ความทุกข์ที่พวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าคืออะไร  แปลกนะครับ  แม้ว่าอุปสรรคในชีวิตมันจะยากแค่ไหน  ตราบใดที่เรามีแรงบันดาลใจ  เราก็จะพร้อมฝ่าฟันมันไปเสมอ  หลายคนมองว่าคนที่คลั่งใคล้ในตัวเขาเป็นคนบ้า  วัยรุ่นไร้สาระ  แต่ผมว่าเขากำลังหาแรงบันดาลใจมากกว่า  เราต้องอิจฉาเขามากกว่าที่อย่างน้อยเขาก็มีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเอาไว้และพร้อมจะเติบโตไปกับมัน  ต่างกับคนในสมัยนี้ส่วนใหญ่ที่ไร้ซึ่งแรงบันดาลใจแม้แต่ชีวิตของตัวเอง  เราจึงได้เห็นคนที่ฆ่าตัวตายบ่อยๆเพราะปัญหา  นั่นก็เพียงเพราะเขาขาดความหวัง ความฝัน และ เป้าหมาย  ปัญหาของเราหากเปรียบกับที่ MJเจออยู่ก็คงเทียบกันไม่ได้  แต่เขาก็พร้อมเสมอที่จะมีชีวิตอยู่  เพื่อทำในสิ่งที่เขารัก และ เพื่อคนที่เขารัก  แรงบันดาลใจของแต่ละคนคงไม่เหมือนกันหรอกครับ  และคงไม่จำเป็นด้วยที่จะต้องเหมือนกัน  แต่สำคัญว่าแรงบันดาลใจของเรานั้น    แรงมากพอที่จะบันดาลชีวิตเราด้วยหรือไม่มากกว่า....
         
         หลังจากที่ผมชมภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จ  ผมเก็บทุกภาพที่เห็น  ทุกความประทับใจที่มีต่อครั้งสุดท้ายของฮีโร่คนนี้  มาเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง  เพื่อจะได้กลับไปเผชิญกับชีวิตจริงด้วยความเป็นมืออาชีพแบบ MJ  ... แล้วผมก็ยังแอบภูมิใจในตัวเองเงียบๆคนเดียวด้วยความเห็นแก่ตัวว่า  ‘คนอย่างเรานี่แหละก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับ King of Pop ได้เหมือนกัน’  ใครจะบันดาลใคร  ผมก็คงไม่อาจรู้ได้  แต่ที่แน่ๆ Michael  Jackson ,  “This is it” – คนนี้แหละ นี่แหละใช่เลย!!!!!!  

ยาวไปหน่อย  ขอบคุณครับที่อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 52 01:49:15

จากคุณ : คนขี่แผ่น
เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 01:44:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com