ความคิดเห็นที่ 1   เกริ่นนิดหนึ่งนะครับ Miller เป็นมือเบสที่มีชื่อเสียงมากอีกคนหนึ่งใน USA ครับ ทำงานในห้องอัด ทำเพลงภาพยนตร์ ร่วมงานกับศิลปินดังๆมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมี "Prince of Darkness" Miles Davis นักทรัมเป็ตแจ๊สหัวก้าวหน้าอีกคนรวมอยู่ด้วย ซึ่งบทความที่ลงนี้ก็มีพูดถึง Miles นิดหนึ่งด้วยครับ เอาเป็นว่า Miles เป็นคนที่มีความคิดความอ่านไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านเท่าไร สั้นๆครับ ค่อนข้างจะ "ติสต์" เลยครับ โลกส่วนตัวทางความคิดจะสูงมาก ผลงานทางดนตรีถึงออกมาเป็นอย่างนั้น น้าน....ลืมจนได้จริงๆอยากจะตั้งชื่อกระทู้ว่า "Triple M" นะครับ (Michael, Miles and Marcus) มาดูกันครับว่าบทความนี้เกี่ยวข้องอะไรกับสามคนนี้กันบ้าง จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:30:59 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 3   In my neighborhood in NY, we dressed like them, wore our hair like them. I'm sure it was the same all over the country. He and his brothers really defined our childhood. ในละแวกบ้านผมซึ่งอยู่ในรัฐนิวยอร์คนั้น พวกเราแต่งตัวเหมือนกับพวกเขา เราไว้ผมแบบพวกเขา ผมมั่นใจว่าทั้งประเทศก็เป็นกันแบบนี้ MJ และพี่ๆของเขานั้นได้ให้คำจำกัดความช่วงเวลาในวัยเด็กของพวกเราอย่างแท้จริง I never played with him but I never minded that because it allowed me to really stay a fan forever without being concerned with playing the bass or writing songs. I just enjoyed his records like everyone else. ผมไม่เคยได้เล่นดนตรีกับเขา แต่ผมก็ไม่เคยสนใจในเรื่องนั้น เพราะมันทำให้ผมได้เป็นแฟนเพลงของเขาตลอดกาลโดยที่ไม่ต้องกลุ้มกับการเล่นเบสหรือแต่งเพลง ผมเพียงแค่สนุกกับเพลงของเขาเหมือนกับคนอื่นๆ I eventually went on make music in a more jazz and R&B vein than him but I always felt like I carried that spark that Michael Jackson instilled in me. I used to make Miles listen to Michael Jackson records! He loved "Shake Your Body Down To The Ground"! He said, "Man, that's some bad s**t!!" ในที่สุด ผมก็ไปทำดนตรีในรูปแบบที่เป็น jazz และ R&B มากกว่าดนตรีของ MJ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าผมเอาความสนุกสนาน ความกระตือรือร้นที่ Michael Jackson ค่อยๆให้แก่ผมติดตัวไปด้วยอยู่ตลอดเวลา ผมเคยให้ Miles ฟังเพลง Michael Jackson นะ! เขาชอบเพลง “Shake Your Body Down To The Ground”! เขาพูดว่า “เฮ้ย นั้นมันเจ๋งสั...ๆเลยนะนั้น” จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:33:39 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 4   In the eighties, Michael put it all together. In his slender frame, he embodied the entire black entertainment tradition. From the Nicholas Brothers through Sammy Davis Jr., Little Richard, Sam Cooke, James Brown, Sly and the Family Stone, Smokey Robinson, the Delphonics, Stevie Wonder, and on into the future. Watching MJ was like taking a history lesson and a lesson on the future at the same time. Michael รวมทุกอย่างเข้าด้วยกันในยุค 80 เขารวบรวมวัฒนธรรมการแสดงของคนผิวดำทั้งหมดไว้ในรูปร่างที่เพรียวบางของเขา ไล่ไปตั้งแต่ทีมเต้น the Nicholas Brothers ไปจนถึง Sammy Davis Jr., Little Richard, Sam Cooke, James Brown, วง Sly and the Family Stone, Smokey Robinson, กลุ่มนักร้อง the Delphonics, Stevie wonder และไปจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การดู MJ นั้นเป็นเหมือนกับการเรียนประวัติศาสตร์และอนาคตในเวลาเดียวกัน If that weren't enough, MJ then went and single-handedly revolutionized music videos. It's amazing that today, some twenty-five years later, everyone who makes a pop music video still feels obligated to include a "group dance" sequence like the one MJ pioneered in "Beat It". That's how influential and ahead of the times he was. ถ้าเกิดนั้นยังไม่พอแล้วล่ะก็ MJ ยังปฏิวัติมิวสิควิดิโอโดยตัวเขาเพียงคนเดียว มันน่าประหลาดนะที่วันนี้ 25 ปีให้หลัง ทุกคนที่สร้างมิวสิควิดิโอดนตรี pop ยังรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ต้องใส่ฉาก “เต้นกลุ่ม” แบบเดียวกันกับที่ MJ เป็นคนริเริ่มในเพลง “Beat It” นั้นคืออิทธิพลและความล้ำสมัยของเขา I truly feel sorry for people who only know the Michael Jackson of the later years. It's unfortunate that they will only see the "out there" Michael Jackson who was very obviously dealing with demons created by a childhood that none of us can ever imagine or understand. ผมรู้สึกเสียใจกับคนที่ได้รู้จักแต่เพียง Michael Jackson ในช่วงหลังจริงๆนะ โชคไม่ดีที่พวกเขาได้เห็นเพียงแค่ Michael Jackson ที่ “แปลกประหลาด” เป็น MJ ที่ต้องรับมือกับปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นในวัยเด็กอย่างชัดเจน ซึ่งไม่มีใครในหมู่พวกเราที่สามารถจินตนาการหรือเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นได้ จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:35:21 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 5   I feel sorry for people who only know Michael Jackson as "Wacko Jacko" - because they've missed witnessing a display of talent that, most likely, the world will never, ever see again. ผมรู้สึกเสียใจกับคนที่รู้จัก Michael Jackson เพียงแค่ในชื่อ “Wacko Jacko” เพราะพวกเขาพลาดที่จะได้เห็นการแสดงพรสวรรค์ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เห็นบนโลกใบนี้อีกแล้ว Rest In Peace MJ ขอให้คุณพักผ่อนตลอดนิรันดร์นะ MJ Marcus Miller จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:37:06 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 7   ปิดท้ายด้วย link ครับ ที่บอกตอนแรกว่า 3M นี้เกี่ยวกันยังไง ขอเริ่มที่ Miles นะครับ Miles นั้นเริ่มเล่นดนตรีแจ๊สตั้งแต่ยุค 50 ไล่มา ผ่านการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยทางดนตรีใน USA มาแล้วอย่างมากมาย ช่วงท้ายนี่ Miles จะไปเล่น jazz แบบเดิมๆเลยครับ เขายังคงเดินหน้าทำสิ่งใหม่ๆอยู่โดยตลอด สิ่งหนึ่งที่ Miles ชอบทำในช่วงนี้คือ เขาชอบจะหยิบเพลง pop มาเล่นด้วยครับ และหนึ่งในเพลง pop ที่ว่าคือ เพลงนี้ครับ http://www.youtube.com/watch?v=0jkKTcG0xuw อยากให้ลองฟังการสื่ออารมณ์ของ Miles นะครับ Miles เป็นเจ้าแห่ง space หรือการใช้ความเงียบในการเล่นดนตรีครับ จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:44:20 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 8   เย้ย ผมงงกับระบบตรวจกระทู้พันธิปครับ ยังไง ถ้าเขาไม่ให้ผ่าน เมลล์มาที่นี่ครับ Jazzatstar@yahoo.com จะส่งให้อ่านครับ ส่วน Marcus....งานพิเศษแบบวงล่าสุดที่เขาทำ คือ การรวมเอามือเบสชั้นเยี่ยมใน USA อีก 2 คนคือ Stanley Clarke และ Victor Wooten รวมกับตัวเขา ทำผลงานร่วมกันชุดหนึ่ง โดยใช้เบสเล่น 3 ตัว! ครับ 3 ตัวจริงๆ 555+ แต่งานที่ออกมานั้น ผมว่าเขาทำได้โอเคเลยนะครับ แต่ละคนรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีครับ แม้ว่าเครื่องดนตรีที่เล่นนั้นจะย่านเสียงเดียวกันก็ตาม ช่วงที่ MJ พึ่งเสียนั้นทางวงได้ออกเดินสายไปแล้วครับ และทางวงก็ได้ใส่เพลงนี้แทรกเข้าไปตรงกลางของเพลง School Day เพลงชั้นครูของ Stanley Clarke http://www.youtube.com/watch?v=EU1z6k88-e0 จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:50:29 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 9   ยิ่งดึกยิ่งเบลอครับ 555+ ขอแก้ไขเรื่อง Miles คห 7 นิดหนึ่งครับ คือ Miles ช่วงหลังๆนี่เขาจะไม่กลับไปเล่นเพลง Jazz แบบเดิมๆเลยครับ .............................. ช่วงนี้ ผมมีซ้อมงานดนตรีเล่นงานแต่งครับ วันจันทร์ผ่านมาพอดีนักร้องติดงาน ผมต้องซ้อมเพลงล่วงหน้าไปก่อน นึกยังไงไม่รู้ ผมเล่น Billie Jean ขึ้นมา แล้วทั้งวงก็เริ่มเล่นตามๆกัน ถึงแม้อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็รู้สึกได้ครับว่าเพลง MJ นี่พิเศษขนาดไหน Billie Jean เพลงที่ฟังดูแล้วใช้เครื่องดนตรีไม่มากชิ้นเลย แต่เวลาที่เราฟังมันกลับสนุก ชวนให้อยากออกท่าทางอย่างบอกไม่ถูก ไม่นับถึงเรื่องของเบสเพลงนี้ ซึ่งจะว่าไปก็เป็นต้นแบบให้กับเบสในเพลงแนวนี้อีกมากมาย..... คุณมหัศจรรย์จริงๆครับ MJ ...................... คงต้องแว๊บก่อนล่ะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 03:58:49 A:124.121.99.189 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 10 แปะคลิปให้ค่ะ จากคุณ : mymac เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 04:55:20

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากเลยนะคะ คุณMr.Sak  มาเงียบๆดึกๆ ยังอุตส่าห์แปลมาให้อีก....น่าเสียดายที่กิ๊ฟหมดแล้ว....หมดทั้งกิ๊ฟ ทั้งแกลบ ทั้งกะตังค เรยค่ะ อิอิ เอาใจดวงเล็กๆไปก่อนนะค๊า อารุณสวาทค่าาาาาา จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 06:00:45

ความคิดเห็นที่ 12 ยินดีต้อนรับค่ะ คุณ Mr.Sak และ ขอบคุณมากจริง ๆ สำหรับบทความที่อุตส่าห์แปลมาให้พวกเราได้อ่านกัน อ่อ !! แม่เราเป็นแฟนคลับ AF ด้วยนะคะ คุณ Sak ชอบใครเป็นพิเศษรึป่าว อิอิ จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 07:16:07

ความคิดเห็นที่ 13 แวะมาขอบคุณ จขกท ก่อนค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่าน ขอเคลียร์งานก่อน แล้วจะรีบวิ่งมาอ่านอีกรอบจ้าาา ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 07:36:47

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณ MR.SAKมากเลยค่ะ ที่ให้สาระความรุ้ทางด้านดนตรี และยังแปลบทความที่อ่านแล้วประทับใจมากๆ ไมเคิลเป็นคนเก่งมากๆถึงมากที่สุดและเป็นคนที่มีจิตใจงดงามค่ะ ปล กิ๊ฟหมดเหมือนกันค่ะ อย่าลืมแวะนำสาระดีๆมาฝากอีกนะคะ จากคุณ : mr.roof nok mj (MR.ROOF) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 08:02:51

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ  ขนาดเราเป็นคนฟังธรรมดาที่เล่นดนตรีไม่เป็นยังรู้สึกถึงความเจ๋งของดนตรีเลย แล้วคนที่เล่นดนตรีอยู่แล้วจะสัมผัสถึง ความไม่ธรรมดาของดนตรีของไมเคิลขนาดไหนเนี่ย จากคุณ : ต้าปิ่ง เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 08:04:47

ความคิดเห็นที่ 16 "Billie Jean เพลงที่ฟังดูแล้วใช้เครื่องดนตรีไม่มากชิ้นเลย แต่เวลาที่เราฟังมันกลับสนุก ชวนให้อยากออกท่าทางอย่างบอกไม่ถูก ไม่นับถึงเรื่องของเบสเพลงนี้ ซึ่งจะว่าไปก็เป็นต้นแบบให้กับเบสในเพลงแนวนี้อีกมากมาย....." ู^ ^ โดนจ่ะ นานๆ จะมีคนพูดถึงตัวดนตรี ท่วงทำนองของ MJ แบบโดนใจ โดนความรู้สึกข้าน้อยสักที ข้าน้อยแค่อ่านประโยคนายท่าน ก็นึกอยากเต้นอยากโยกขึ้นมาตะหงิดๆ ณ บัดดล จากคุณ : ลาช่า เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 09:23:11

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ Mr. SK เจ้าของกระทู้ที่นำบทความดี ๆ มาแปลพร้อมคลิปนะคะ   รู้สึกเสียดายแทนคนที่รู้จัก MJ เพียงด้านลบ เช่นเดียวกับบทความนี้ตรง  "ผมรู้สึกเสียใจกับคนที่รู้จัก Michael Jackson เพียงแค่ในชื่อ “Wacko Jacko” เพราะพวกเขาพลาดที่จะได้เห็นการแสดงพรสวรรค์ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เห็นบนโลกใบนี้อีกแล้ว" เพราะ เขาไมเคิล แจ๊คสัน มหัศจรรย์จริงๆ จากคุณ : superturbo เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 09:32:48

ความคิดเห็นที่ 18 Mr.Sak  นี่ใช่ มิสเตอร์แซกแมน อ่ะป่าวอ่ะคะ? อ่ะ คริ คริ จากคุณ : ลาช่า เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 09:37:41

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณนะคะ คุณ Mr. Sak สำหรับบทความดี ๆ และคำแปล :) จากนักดนตรี ถึงนักดนตรี เพื่อนักดนตรีด้วยกัน ... เจ๋งค่ะ โชคดีจริง ๆ ที่พวกเราไม่ได้รู้จักเค้าในนามของ Wacko Jacko แต่รู้จักเค้าในนามของ Michael Jackson ทั้งในฐานะราชาเพลงป๊อบและบุคคลธรรมดาที่มีจิตใจงดงามคนนึง ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 10:00:46

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นบทความที่อ่านแล้วปลื้มแทนไมเคิลจริงๆ ขอบคุณคุณMr.Sak ค่ะ จากคุณ : Kz เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 11:31:12

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ คุณ MR.SAK จากคุณ : แม่น้ำนิรันดร์ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 12:04:30

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากๆนะคะหรับบทความดีๆแบบนี้ แถมแปลมาให้เรียบร้อยเลย จากคุณ : rpgqueenii เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 12:28:55

ความคิดเห็นที่ 23   ขอบคุณมากนะคะ ทั้งเรื่องราวดีๆที่คุณนำมาเป็นความรู้และความประทับใจกับเรา แปลได้ซาบซึ้งมากเลยค่ะ คำพูดของ Marcus Miller สะท้อนถึงอิทธิพลและแรงบันดาลใจที่ MJ มีต่อศิลปิน และวงการดนตรีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งในอนาคตด้วย ไมเคิลยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนทั่วไปรู้สึกเสียอีกค่ะ อ่านข้อความนี้แล้วเศร้าจัง "ผมรู้สึกเสียใจกับคนที่ได้รู้จักแต่เพียง Michael Jackson ในช่วงหลังจริงๆนะ โชคไม่ดีที่พวกเขาได้เห็นเพียงแค่ Michael Jackson ที่ “แปลกประหลาด” เป็น MJ ที่ต้องรับมือกับปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นในวัยเด็กอย่างชัดเจน ซึ่งไม่มีใครในหมู่พวกเราที่สามารถจินตนาการหรือเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นได้ " จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 12:39:34

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณนะคะที่แปลบทความดีๆ แปะคลิปด้วยค่ะ ได้เห็นมุมมองของนักดนตรีที่มีต่ออัจริยภาพของไมเคิล ได้ความรู้เกี่ยวกับเพลงของเค้าเพิ่มด้วย ทุกทีก็ฟังแล้วรู้ว่าเพราะอย่างเดียว จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 19:35:37

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณมากค่ะ แอบสงสัยเหมือนคุณลาช่าเหมียนกัลล จากคุณ : เจ้าหญิงวาฟา เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 20:43:34

ความคิดเห็นที่ 26   คุณ mymac - ขอบคุณมากครับที่แปะคลิปให้ คุณ NarzizuZ - ขอบคุณมากครับ ไม่เป็นไรครับ บัตรผ่านรับกิ๊ฟไม่ได้ครับ 555+ คุณแอร์ริโกะ - ส่วนตัวที่รู้สึกประทับใจเวลาเจอตัวจริง ก็ โบว์ รุ่น 5 ครับ ส่วนตัวเริ่มได้ดูตั้งแต่รุ่น 3 เป็นต้นมาครับ ^^ คุณ wanvisa - ตอนนี้ก็คงได้อ่านไปแล้วคร่าวๆนะครับ คุณmr.roof nok mj (MR.ROOF) - ไม่เป็นไรครับผม ส่งกิ๊ฟ ติดผมมาให้ล่ะกันนะครับ แฮะๆ คุณ ต้าปิ่ง - ตอนที่พี่หมึกเข้าไปเล่าเรื่อง MJ ให้ AF รุ่นนี้ฟัง ผมเห็นด้วยเลยครับ ถ้าใครก็ตามมีประสบการณ์และความรู้เรื่องดนตรีมากขึ้น ผมยืนยันเลยว่า เขาจะรู้สึกอึ้งและทึ่งเลยว่า เพลงของ MJ นี่มันมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายไปหมด แต่ทุกเพลงที่ออกมานั้น ลงตัว มากๆครับ คุณลาช่า - ผมไม่แปลกใจนะครับที่ตอนแรก Quincy รู้สึกว่าเพลงนี้อาจจะเบาไปสำหรับ Thriller แต่ใครจะเชื่อละครับ ว่าสิ่งเหล่านั้นกลับกลายเป็นเสน่ห์ของเพลงนี้ไปได้ คุณ superturbo - ใช่ครับ รู้สึกเสียดายว่าตอนนั้นเราไม่โตพอที่จะไปดูคอนของ MJ ตอนที่เขามาไทยได้ บ้านผมอยู่ห่างจากเมืองทองไม่เกิน 20 กม.ได้ยินเสียงเบสจากคอนน่ะครับ ^^ คุณP.S.T. (Pretty Small Thing) - ด้วยความยินดีครับ คุณ Kz คุณ แม่น้ำนิรันดร์- ไม่เป็นไรครับ คุณ rpgqueenii - เรื่องนี้เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆครับ พอดีต้องเข้าไปที่เว็บของเขา เลยถือโอกาสแปลมาเลยครับ คุณ Better Off - ผมก็คิดอย่างนั้นครับ MJ เป็นเหมือนกับทูตของวงการดนตรีเลยจริงๆ คุณ Snow Crystal - เป็นบทความที่บอกอะไรหลายๆอย่างจากมุมมองของนักดนตรีคนหนึ่งเลยครับ และคุณลาช่า กับคุณเจ้าหญิงวาฟา - แฮะๆผมไม่ใช่พี่โก้ครับผม ชื่อบัตรผ่านอันนี้ (จริงๆเป้นชื่ออมยิ้มด้วย แต่อมยิ้มผมโดนลักไปยังกู้มาไม่ได้เลยครับ โดยไม่รู้ด้วยว่าทำอะไรผิด TT) ตัดชื่อหน้าของผมมาครับ ที่มามาจากเพื่อนเรียกกันตอนมัธยมครับ จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 23:00:56 A:124.121.99.37 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 27   อันนี้มาเพิ่มเติมนะครับ ลิ้งนี้ เป็นบทแปลเต็มๆครับผม http://www.upload-thai.com/download.php?id=13d8ca4236d3eb7f79effcbe5656cb5f จากคุณ : Mr.Sak เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 23:02:39 A:124.121.99.37 X: TicketID:111007

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากค่า ... ขยันจริงๆ จากคุณ : เจี๊ยบเหมียว เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 00:09:00

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ จขกท. มากๆค่ะ จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 19:22:46