|
ความคิดเห็นที่ 7 |
จำไม่ได้ว่าเริ่มชอบ MJ ตอนแรกวิ้งไหน รู้แต่ว่าเค้าส่งผลต่อพฤติกรรมวัยเด็กของเรา 5 ประการดังนี้
1. เด็กนิ้วปาสเตอร์ - ทุกวันเราจะแปะปาสเตอร์ไปโรงเรียนข้างละ 3 นิ้ว (เทนโซพลาส รุ่นแฟนซี สีชมพู ฟ้าลายจุด) รวมเป็น 6 นิ้วเมื่อครูและเพื่อนถามว่า "เธอๆเป็นอะไรอ่ะ" ก็จะตอบหน้าตาเฉยว่า "อ๋อ เจ็บนิ้ว" (6 นิ้วรวดเนี่ยนะ แกรโดนปังตอสับเหรอ?)
2. เป๋าตังเหนียว - สืบเนื่องจากพาสเตอร์ในข้อ 1 เมื่อซื้อมาแล้วมันเหลือเลยเอามาแปะในกระเป๋าตัง ที่ข้างในมีรูป MJ (หน้าโรงเรียนสตรีมักจะมีร้านขายรูปดารา ไซส์เล็ก 2 ใบ 5 ไซส์ใหญ่ใบละ 5 บาท) แล้วพร้อมเขียนว่า Heal the world และ King of POP แต่ปาสเตอร์เนี่ยพอแปะไปนานๆมันจะเหนียวเหนอะมาก (แน่ล่ะ ก็มันออกแบบให้แปะนิ้ว ไม่ใช่แปะเป๋านี่ยะ! ) แต่ก็ทนใช้มันไป เป๋าตังรุ่น MJ เชียวนะเฮ้ย
3. นักห้อตะบึง - ตอนนั้นจะไปเรียนพิเศษทุกเสาร์เช้า ( ติวเข้า ม.1) เลิกเที่ยง เพื่อให้ทันดู Jackson5 ตอนบ่าย จึงต้องรีบห้อตะบึง (นั่งรถเมล์) จากที่เรียนพิเศษ ให้ถึงบ้านก่อนบ่ายโมง (ทำให้ติดนิสัยการดูซีรีย์เสาร์บ่ายเป็นเวลายาวนาน เช่น หกตกไม่แตก , จุดนัดฝัน - อร๊ายย บอกอายุ)
4.นักคณิตศาสตร์ - จิ๊กคู่สร้างคู่สมแม่มาอ่าน จึงได้อ่านบทความที่ ดร. คนหนึ่งบอกว่าไมเคิลเป็นเกย์ 1000% บ้าดิ! จะเป็นไปได้่ยังไง..(เถียงหัวชนฝา) ฉันเพิ่งเรียนเรื่องเปอร์เซนต์มา เปอร์เซ็นมันมีแค่ 100 ย่ะ ( พันเปอร์เซ็นมีที่ไหน) อีตาด๊อกเตอร์นี่ !! ( โปรดให้อภัย เนื่องจากเป็นเด็ก เลยไม่รู้จักคำว่าเถียงให้ตรงประเด็น)
5. เหม่อ - วันที่ MJ เล่นคอนเสิร์ต ไปปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อนแก้เซ็ง แล้วก็ "เหม่อ".... ทำไงได้ ใช่ซี้ เรามันได้ตังวันละ 20 บาท เรามันไม่มีตังไปดูนิ (ขนาดเทป Dangerous แกรยังทำได้แค่ลูบเอาตามห้างเลย) ถึงกับเพ้อกับเพื่อนว่า "เราน่าจะอายุเท่าเค้านะ" เด็กหญิงคนนั้นก็สาระแนตอบว่า "แหม เธออยากเป็นแฟนไมเคิลล่ะสิ" (กรุณานึกภาพเด็กป.6) สมัยก่อนไร้เดียงสามากเลยตอบไปว่า "บ้าสิ เราก็แค่อยากทำงานมีตังไปดูคอนเสิร์ตเค้า"
และแล้ว... เด็กหญิิงนิ้วปาสเตอร์ เป๋าตังเหนียว ผู้เป็นนักคณิตศาสตร์ที่ชอบเหม่อ ก็เติบโตขึ้นมา ท่ามกลางเพลงอัลเตอร์ คอนเสิร์ตเล็กชิ้นสด และเพลงจีนบ้างในบางที
เมื่อกลับมาดูข่าว MJ อีกทีก็เริ่มคิดว่า
"เอ๊ะ หรือตาดร.นั่นจะพูดถูก"
[ PART นี้ค่อนข้างโหดร้าย ใจไม่แข็งให้ข้ามไป]
เมื่อว่างเว้นจากการวิ่งควายคอลัมน์ซ้อเจ็ด ก็จะเจอข่าวไมเคิลบ้างตามเวบผู้จัดการ เช่น ไมเคิลนอนโลง...อยากเป็นอมตะ ,"ช็อกโลก" จมูกใหม่แจ๊คสัน, เพี้ยนหนัก...แจ๊คโก้จับลูกใส่หน้ากาก ฯลฯ และล่าสุดก็คือ
"แจ๊คโก้ ประกาศจัดคอนเสริ์ต ณ กรุงลอนดอน"
แวบแรกที่เห็นก็แบบ...เอ่อ จมูก.. โอ๊ย พอเหอะ แค่ยืนยังจะไม่ไหวเลย แถมยังจะมาพูดอะไร "from bottom of my heart" รู้สึกว่าเฟคมาก รับไม่ได้ (ยิ่งโตยิ่งจิตใจเถื่อน ไม่เชื่อหรอกใครมาพูดอะไรมายฮาร์ทๆ)
จนกระทั่ง เช้าวันหนึ่งที่มาทำงานสาย
เพื่อน : สงสารไมเคิลอ่ะ เรา : ทำไม ( แต่ในใจคิดไปแล้วว่าต้องเป็นเรื่องนี้แน่ ไม่รู้ทำไม) เพื่อน : ก็เค้่า...
หัวใจเราร้องไห้เลย แบบ "from the bottom of my heart " มันรู้สึกผสมกันหลายอย่างมาก ซึมไปเป็นอาทิตย์เลย จนกระทั่งรวบรวมความกล้าทั้งหมดถามเพื่อนในเอ็ม
ขึ้นต้นคำถาม
"เฮ้ยแกอย่าไปบอกใครนะ" "ทำไมวะ" "ฉันเศร้าเรื่องไมเคิลมากเลยว่ะ เหมือนญาติตาย"
คำตอบกลับมา
"เฮ้ยแกก็อย่าไปบอกใครนะ เหมือนกันว่ะ นึกว่าเป็นคนเดียวซะอีก"
เมื่อความรู้สึกต่อคนๆนี้กลับมาใหม่ก็ก่อให้เกิดพฤติกรรม 6 ประการดังต่อไปนี้
1.นักไถ่ - กลับมาฟังเพลงเค้าตั้งแต่ยุคเก่า เหมือนกลับมาสะสมสิ่งมีค่าใหม่ เปรียบดั่งคนทำทองหลุดจำนำแล้วอยากจะไถ่คืนกลับมา (เปรียบเทียบอะไรของแกรห๊่า) ถึงจะสายไปแต่ก็คิดว่าจะสะสมไปให้ลูกก็ยังดีวะ (ข้ามเสต็ปการมีสามีครั้งที่ 1)
2.นัก..เปิดดิค - ตอนนี้กำลังฝึกภาษาก็เลยมานั่งอ่านเนื้อเพลงเค้าพร้อมเปิดดิคอย่างละเอียด...ช็อคมาก ตอนที่รู้ว่าเพลง smooth criminal ร้องว่า "Annie R U OK?"เข้าใจมาเป็น 10ปีว่าเป็นภาษาญี่ปุุุุ่่่น
3.นักวิเคราะห์ - อ่านมันอยู่นั่นแหละบทสัมภาษณ์ (อืม...ตาคนนี้พูดจาฉลาด พูดจาใช้ศัพท์สวยงาม) ทุกครั้งที่อ่านก็จะมีกำลังใจฮึกเหิมกับความฝันของตัวเองมาก อยากที่จะ "do it better than anybody in the world, no matter what it is that you do. Be the best at it than any other" เพื่อที่จะได้กล่าวคำว่า "I'm a perfectionist" แบบเค้่า
4.นักอ่าน - นั่งอ่าน moonwalk หนึบหนับ มันส์เยี่ยงอ่านนิยาย...นายนี่ทำไมเก่งไปทุกด้านเลยห๊า
5.นักวางแผน - เริ่มวางแผนว่าจะฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกด้วยการเปิดเพลง MJ และเพื่อให้ลูกมีแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตก็จะ..."ไม่ต้องอ่านหรอกลูกนิทงนิทาน มันเป็นเรื่องเพ้อฝัน เดี๋ยวแม่อ่าน moonwalk ชีวิตของคนจริงกระทิงแดงให้ฟังก่อนนอนวันละบทดีฝ่า" (ข้ามเสต็ปการมีสามีเป็น ครั้งที่ 2และ3)
6.นัก..- ไม่รู้เหมือนกัน (อันนี้ส่วนตัวมากๆ) ไม่เคยคิดว่าศรัทธากับศิลปะจะไปด้วยกันได้เลย เคยเห็นแต่ artist ที่เก่งๆแต่ไม่ศรัทธาอะไร แต่ MJ ทำให้เรารู้สึกว่าศรัทธานั้นยิ่งใหญ่ มนุษย์คนนึงจึงข้ามขอบเขตของคำว่า"เก่ง" เป็น "มหัศจรรย์" ได้
สุดท้ายนี้เราไปร่วมงาน thrill the world เพราะอยาำกทำอะไรให้เค้านิดนึงก็ยังดี
ขอบคุณนะคะ MJ " from the bottom of my heart"
จาก อดีตเด็กหญิิงนิ้วปาสเตอร์ เป๋าตังเหนียว ผู้เป็นนักคณิตศาสตร์ที่ชอบเหม่อ
แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 52 03:11:10
จากคุณ |
:
peterpansbride (บานาน่าจัง)
|
เขียนเมื่อ |
:
4 พ.ย. 52 03:04:18
|
|
|
|
|