ความคิดเห็นที่ 1 ผมไปถึง Impact Arena ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ หลังจากเลิกงาน เนื่องจากทราบว่ามีวงเปิดเลยไม่ต้องรีบมาก  ตั๋วก้อกะจะไปซื้อหน้าเหมือนทุกๆครั้ง เพราะพอทราบว่ายังเหลือที่ว่างอีกประมาณหนึ่งเลย  พอไปถึงหน้า Booth Ticket คนต่อคิวเป็นแถวยาว 5-6 แถว ทั้งที่จองผ่าน online แล้วมารับตั๋วหน้างาน ปนกับพวกรอซื้อบัตรหน้างานแบบผม เรียกได้ว่าวุ่นวายกันพอสมควรเลยคับ เพราะพวกซื้อบัตรนี่กว่าจะรูดบัตรเครดิตผ่าน พนักงานก้อต้องวิ่งไปนู้นนี่  ส่วนพวกจองผ่าน online ก้อต้องแสดง ID เลขอะไรต่อมิอะไร คนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 5 นาที เสียเวลามากๆ!!  จะโทษระบบจัดการของผู้จัดก้อไม่ถูก เพราะเค้าก้อเปิดให้ซื้อกันกว่า 3 เดือน แต่นิสัยคนไทย (รวมถึงตัวผมเอง!!) มันเอาง่ายเป็นหลัก ก้อน่าจะเป็นสาเหตุให้หน้างานยุ่งเหยิงพอสมควร   ตรงนี้ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้หลายๆคน รู้จักจองบัตรซื้อบัตรกันมาก่อน เพราะมันมีข้อดีหลายประการ อย่างแรก ผู้จัดสามารถรู้ได้ว่าคนจะมาดูมากน้อยแค่ไหน เท่าไรจะไม่เจ๊ง จะได้ไม่มีการยกเลิกคอนเสิร์ตกลางคัน เหมือนอย่าง คราววง Muse เมื่อ 2-3 ปีก่อน  อีกประการก้อทำให้ท่านๆสะดวกไม่ต้องมาต่อคิวเป็นชั่วโมงหน้างาน แล้วก้อยังเสี่ยงต่อการไปดูคอนเสิร์ตไม่ทันเสียอีก  อยากจะย้ำให้เห็นภาพนะครับ อย่าง Green Day นี่ ถ้าเป็นเมืองนอก หรือบ้านเมืองใกล้เคียงอย่าง สิงคโปร์หรือฮ่องกงนี่ ผมลองไป search ดูนี่ บัตรยืนเต็มไปเป็นชาติแล้วคับ!! วัฒนธรรมการดูการแสดงของเขามันต้องจองล่วงหน้าคับ  มาหาบัตรหน้างานนี่ส่วนมากจะอด หรือไม่ก้อถูกขูดในราคาอันสูง   เท่าที่สังเกตเห็นนะคับคนกลุ่มนี้กว่าจะเสียเวลาซื้อบัตร แล้วยังต้องมาผ่านการ์ดตรวจก่อนเข้า ซึ่งจะต้องผสมไปกับคนอีกกลุ่มประเภทที่แบบว่า “ถ้าตูไม่ได้ยินเพลงสรรเสริญฯหรือเสียงคนเฮ ก้อจะไม่มีวันเข้าแม้มันจะเลทมากี่ชั่วโมงแล้วก้อตาม” ดังนั้นแถวมันเลยออกันยาวเหยียด  สงสารหลายๆคนเหมือนกันที่กว่าจะได้เข้าไปดู  วงก้อเล่นไปกว่า 3-4 เพลงแล้ว!! จากคุณ : cunut เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:09:37

ความคิดเห็นที่ 2   เอาน่ะค่ะ อย่างน้อยความประทับใจก้คงจะไม่ต่างกันเลยยยย GREEN DAY เยี่ยมมมมาก พี่บิลลี่ร้องเพลงเพระจับใจ เหมือนในแผ่นเดี๊ยะ ดนตรีก็สุดยอด เอนเตอร์เทนเยี่ยมมมมมม สรุปแล้ว มันส์สะใจเต็มที่เกือบ 3 ชม  เสียดายแอบอยากได้เสื้อ 555 ปล. ก้นพี่บิลลี่ขาววมากก 555555 ^^ จากคุณ : Allegra เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:17:53

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวได้เข้าไปใน Hall ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง โดยซื้อบัตรที่โซน F1 (2600) จากสายตาที่มองผ่านแล้วดูคนไม่ค่อยเยอะเท่าที่คาดไว้ ทั้งบนอัฒจันทน์และโซนยืนหน้าหลัง แต่คาดว่าส่วนหนึ่งคงยังไม่เข้ามา  พอประมาณ 3 ทุ่มไฟดับ ม่านเปิด เพลงแรกของอัลบัมปัจจุบันอย่าง “Song of the Century” บรรเลงขึ้นเท่านั้นล่ะ คนจากทุกสารทิศเข้ามาอัดกันแน่นเต็มไปหมด ส่วนผมวัยไม่ให้แล้วก้อขอยืนมาทางหลังให้มีอากาศระบายหน่อย  แต่ก้อรู้สึกได้เลยว่าคืนนี้มันส์แน่ๆ (ตรงนี้ อยากแสดงความเห็น กับพวกที่มาหลังแล้วมุดไปแย่งที่คนข้างหน้าที่เค้ารอต่อกันมาก่อนนะคับ  เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมาก หากคุณอยากได้ที่ดี ก้อต้องลงทุนหน่อย อย่าไปเอาเปรียบคนอื่นเค้า พฤตินิสัยแบบนี้เลิกซะเถอะครับ!!)  บทเพลงถูกแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนอย่างค่อนข้างชัดเจน มี setlists คล้ายๆกับ Live in New Zealand ที่มี่ผู้ได้โพสไปก่อนหน้านี้  โดยช่วงแรกเป็นเพลงจาก 2 อัลบัมล่าสุด ถูกนำมาเล่นติดต่อกันทั้ง “21st Century Breakdown” “Know Your Enemy” และ “East Jesus Nowhere”  จนพออินโทร “Holiday” ขึ้นเท่านั้นล่ะคับ ผมว่าอารมณ์คนใน Hall ได้ถึงพีคแล้ว โดดกันกระจาย  ( จริงๆแล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบัม American Idiot เลย ทั้งเนื้อหา ทำนองและจังหวะ สุดๆไปเลย ) ตัดอารมณ์มากับ “Give me Novacaine” จนไปจบกับบัลลาดอมตะอย่าง “Boulevard of Broken Dreams” ที่คนดูร้องตามกันได้หมด  ผมถือว่าเป็นการจบเพลงในช่วงแรก  หลังจากนั้นมีการเล่นกับคนดูก่อนส่งเข้าสู่ “Hitchin’ A  Ride” แบ็กกราวด์เสตจเปลี่ยนเป็นชื่อวงกับตัวอักษรสีเขียว เท่านั้นล่ะคับ ทราบได้เลย ว่าช่วงที่คนสูงวัยอีกกลุ่ม อย่างผมตั้งตารอมากว่า 10 ปี เกือบทุกเพลงดังจากอัลบัมก่อนๆที่ Green Day จะมาดังเป็นพลุแตกอีกครั้งในชุด American Idiot  ถูกสาดกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอัลบัมตอร์ปิโดอย่าง Dookie ไม่ว่าจะเป็น “Burnout” “Longview” “Welcome to Paradise” “She” “When I Come Around” และเพลงเอกที่ไม่เล่นไม่ได้ เพลงที่ทำให้ Green Day เกิดครั้งแรกกับ “Basket Case” ที่มีการตั้งวงแท็คกันอย่างเมามันส์  สลับกับ “Brain Stew” และ “Jaded” จากอัลบัม Insomniac ชุดถัดมา  ผมว่าการแสดงช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กๆรุ่นใหม่อาจจะอารมณ์ขาดไปบ้าง เพราะไม่เคยฟังหรือฟังแค่ผ่านๆ แต่หารู้ไม่ว่าไอ้ชุดนี้แหละ ที่คนอย่างพวกผมตั้งตารอ เต้นกันลืมแก่เลย!!  สังเกตได้ว่าชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะมันส์มากกับช่วงนี้  ทั้งร้องตามและมีการกระโดดแท็คให้เห็นกันอยู่หลายที  “King of the Day” ขาเร็คเก้ สกา คงจะชอบล่ะคับ เรียกว่าเรียกเสียงฮาได้อย่างสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวย้อนยุคของสมาชิก การเล่นกับเสียง sax สลับกับท่าทาง sexy ออกเรทของตา Bille กับตา Tre Cool สนุกมากคับ  ระหว่างการแสดงในช่วงนี้ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทัวร์นี้เลยก้อว่าได้ คือต้องมี เพลง cover เล่นอย่างละนิดละหน่อย ส่วนในทัวร์ BKK มีเพลงที่ถูกนำมาเล่น ได้แก่ เพลงร็อคอมตะอย่าง “Highway To Hell (AC/DC)” “Shout (The Isley Brothers)” “Satisfaction (The Stones)” หรือเพลงฮาๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่า Billy จะเอามาร้องล้อเลียนอย่าง “Love me Tender (Elvis)” หรือ “Hey Jude (The Beatles)”  โดยเฉพาะท่อน นา นา นา นะ น้า นา นา นะ น้า นา . กอดคอร้องกันแทบสลบ ยอดเยี่ยมมากคับ       จากนั้นเพลงที่ทุกคนรอคอยก้อมาถึง “21 Guns” เพลงที่คนทุกชาติ ทุกวัย ทุกภาษา ใน Hall ช่วยกันเปล่งเสียงร้อง แม่นบ้าง มั่วบ้างแบบไม่ต้องอายใคร  ประกอบกับ effect พลุแบบ waterfall ที่หล่นมาจากหลังคา  เล่นเอาผมขนลุกเลยจริงๆ โดยเฉพาะถ้าใครเข้าใจถึงเนื้อหาของเพลง  มันยิงแปล๊บไปที่หัวใจชาวไทยอย่างเราจริงๆ ( ผมว่าถ้าท่านนายกอภิสิทธิ์ได้มาฟัง คงจะรู้สึกไม่แตกต่างกัน ) หลายๆคนคงมองตรงกันว่าเราจะมีศึกสงครามภายในกันไปทำไม  แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ทั้งๆที่เมื่อก่อนตั้งแต่เกิดมาจนเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกมาโดยตลอดว่าประเทศไทย เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด แม้จะมีทะเลาะให้เห็นกันบ้างเป็นสีสัน แต่ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานที่พวกเราทุกคน “รักกัน” แต่ 2-3 ปีนี้ มันไม่ใช่แล้ว . ไม่อยากจะพูดมากคับ เพราะหลายๆคนที่ฟังเพลงนี้แล้วน้ำตาไหล คงจะเข้าใจตรงกัน “Do you know what worth Fighting for, When it’s not worth dying for??” “21 Guns, Lay down your arms Give up the fight” “21 Guns, Throw up your arms in to the sky You and I” แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 00:14:56 จากคุณ : cunut เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:23:56

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้กิ๊ฟท์ คห.2 ด้วย แอบขำ 555+ จากคุณ : สตีฟ แม็คมานานแล้ว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:24:05

ความคิดเห็นที่ 5 จากนั้นทางวงจึงขอบคุณแฟนๆ เซย์กู๊ดบาย และปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย “Minority”  ซิงเกิ้ลเอกจากอัลบัม Warning  ก่อนจะเข้าสู่ช่วงอังกอร์ แม้ใครไม่เคยดูคอนเสิร์ตมาก่อน ก้อคงจะรู้ว่ามันไม่มีทางจบแบบนี้แน่ๆ เพราะยังขาดเพลงพระเอกอยู่อีกหลายเพลง  ไม่เกิน 5 นาที สมาชิก Green Day ก้อออกมาปรากฎตัวอีกครั้ง กับสองเพลงแรกใน Concept Studio Album ชุดที่ 7 ของวง ซึ่งกวาดทั้งเงินและกล่องไปไม่รู้กี่สถาบัน โดยเฉพาะอัลบัมร็อคยอดเยี่ยมของ Grammy Award เมื่อปี 2005  นอกจากนี้ยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 100 อัลบัมที่ดีที่สุดแห่งทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นของสำนัก Rolling Stones, NME, Kerrang  ตลอดจนกวาดซิงเกิ้ลยอดเยี่ยมไปอีกนับไม่ถ้วน  ผมกำลังหมายถึง “American Idiot” เพลงเดียวกับอัลบัม และเพลงที่ทุกคนรอคอยอย่าง “Jesus of Suburbia” ไม่ต้องห่วงคับ ทุกคนโดดเป็นตาย  กว่า 9 นาทีของเพลงนี้บวกเนื้อหา คงไม่ต้องบอกถึงความยอดเยี่ยมใดๆมาเทียบอีก  ผมเสียดายแค่ตา Billie น่าจะขออาสาสมัครคนไทยขึ้นไปเล่นกีตาร์ในเพลงนี้เหมือนหลายๆครั้ง ซึ่งผมว่าพวกที่ซ้อมไว้แล้วน่ะ มีแน่ๆ!! หลังจากจบอังกอร์ชุดแรก Bille จึงสะพายอคูสติกกีตาร์ มาฉายเดี่ยวต่อในเพลงช้าอย่าง “Last Night on Earth” จากนั้นอินโทรอีกเพลงที่ทุกคนตั้งตารอ “Wake Me Up When September Ends”  ไม่ต้องห่วงคับ ทุกคนร้องเพลงนี้ได้แน่ๆ  ( ซึ่งส่วนตัว แอบเสียดายนิดๆที่อยากจะให้เป็น version เต็มมากกว่า acoustic  อยากฟังเสียง effect กีตาร์ตอน full band มากๆ )  แต่เห็นมีหลายคนชอบ version นี้ซึ่งก้อดูสบายไปอีกแบบ  ปิดท้ายด้วย “Good Riddance (Time of Your Life)”  เป็นอันจบคอนเสิร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ จากคุณ : cunut เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:29:59

ความคิดเห็นที่ 6 ความแตกต่างของ Green Day : Live in Bangkok เมื่อ 14 ปีก่อนกับปัจจุบันปี 2010  สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ “ความยิ่งใหญ่” ของวงดนตรีวงนี้คับ  เมื่อครั้งปี 1996 สมัยที่ MBK Hall ยังอยู่  เท่าที่จำได้ บัตรเต็มไปแล้วเป็นเดือนๆ บัตรหายากมากๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องยอมซื้อบัตร ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 500 แต่เป็นในราคาสองเท่าจากราคาหน้าบัตร  เพื่อที่จะได้ดูวงๆนี้เล่นสด   Green Day ในสมัยนั้นถือว่ากำลังอยู่ในช่วงพีคสมัยที่พวกเค้ายังเป็นวัยรุ่น ทั้งบุคลิก การแต่งตัว บทเพลง เป็นไปในทางเถื่อน เกรี้ยวกราด ก้าวร้าว ซึ่งเป็นตามอายุของพวกเค้า  คนดูก้อเช่นกัน ในวันนั้นมีแต่นักเรียน พวกแต่งตัวกันหลุดโลก สไตล์พังค์แบบหลุดมาทั้งดุ้น เจาะหน้า เจาะจมูก เสื้อกางเกงหนัง ผมทรงโมฮ็อคย้อมสี เขียนหน้าเขียนตา ซึ่งสมัยนั้นหาดูได้ยากตามท้องถนน   แตกต่างจากในยุคปัจจุบัน ที่เปลี่ยนไป เนื่องจากวงได้พัฒนาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  ลดดีกรีของความเกรี้ยวกราด ความดิบความห่าม ลงไปเยอะมาก  สังเกตได้จากตัวบทเพลงที่หันมาเน้นแนวคิด สื่อความหมาย เสียดสีและตีแผ่สังคมอเมริกันในยุคปัจจุบัน (โดยเฉพาะใน 2 อัลบัมล่าสุด)  ทำให้เราเห็นได้ชัดในความเป็นอัจฉริยภาพของตัวนักร้องนำที่สามารถกรั่นกรองทั้งความคิดความอ่านของเขา นอกเหนือไปจากท่วงทำนองเพลง  เนื้อเพลงทุกส่วนที่ถูกนำมาร้อยเรียงนั้นมีความปราณีตไม่แพ้กัน   ตลอดจน ตัว Bille Joe เองก้อมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างชัดเจน (ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการที่เค้ามีภรรยาและมีลูกแล้ว)  บุคลิกจากที่ดูเป็นเด็กเถื่อน กลับกลายมาเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีแต่ความยียวนกวนประสาท ทะลึ่ง ทะเล้น ขี้เล่น จนหลายๆคนบอกเป็นเสียงเดียวว่า “น่ารักโคตร” ตลอดการแสดงแกจะพยายามเล่นกับคนดู เสมือนที่มีเพื่อนๆวิจารณ์ไว้ว่าอย่างกับ “ประธานเชียร์” ทั้งดึงเด็กและคนดูขึ้นมาบนเวที พยายามให้มีส่วนร่วมกับการแสดง ชงให้เล่นเซิร์ฟ นำให้ร้องตาม (จนบางทีแกเล่นซะจนคนดูเองยังเหนื่อย!!)  อีกทั้งของเล่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปืน สายยางฉีดน้ำ ปืนยิงเสื้อ เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงพฤติกรรมโชว์ “ก้น”  ที่น่าจะดู “อุบาทว์” กลับกลายเป็น “น่าเอ็นดู” ไปซะได้   การพูดการจาล้วนป้อหยอดคำหวานมาโดยตลอดอย่างที่ใครๆทุกคนคงได้ยิน เช่น “รู้ตัวมั๊ยว่าพวกคุณร้องดังกว่าที่อเมริกาซะอีก” ซึ่งก้อไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นพลอตที่แกหยอดอย่างนี้ทุกที่หรือป่าว??  แต่ก้อทำให้พวกเรามีความสุขได้   นี่ยังไม่รวมถึงความครบเครื่องอื่นๆของคอนเสิร์ตนี้ ทั้ง effect พลุไฟบนล่าง ที่ยิงกันอย่างไม่กลัวเปลือง (จริงๆแอบกลัวนะคับ เพราะยังฝังใจกับไอ้พลุที่จุดขึ้นไปบนฟ้าตอนกรณี Zantika อยู่เลย ทำให้ต้องแอบชำเลืองดูทุกครั้งว่ามันดับไปแล้วจริง!! แต่ต้องยอมรับเลยว่ามืออาชีพจริงๆ ) นอกจากนี้ยังมีฝนกระดาษที่ถูกเป่าขึ้นไปบนอากาศที่สร้างความโรแมนติคให้กับคู่รักที่พากันมาดู   ส่วนซาวด์ดนตรีนับว่า “ใช้ได้ทีเดียว” ในตำแหน่งที่ผมอยู่ เมื่อเทียบกับคอนเสิร์ตนอกที่ impact หลายๆครั้งก่อน  ส่วนคนดูก้อมีความแตกต่างกันจากครั้งก่อนอย่างมาก เพราะครั้งนี้น่าจะประกอบไปด้วยคน 2 วัยด้วยกน ได้แก่ วัยรุ่นที่เพิ่งมาเริ่มฟังซัก 2-3 อัลบัมล่าสุด กับวัยดึกพวก 30+ ที่เป็นแฟนฝังราก และอยากมาย้อนประสบการณ์กับวงในความทรงจำอย่างตัวผมเอง (ต่างจากครั้งที่แล้วที่เหมือนจะเป็นแต่นักเรียน พวกเด็กนุ่งขาสั้น หัวเกรียนมาดูเยอะมาก)  แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือ “ความมันส์” ที่ไม่ต่างกันเลยคับ เพียงแต่วันนี้ไม่ต้องมานั่งกลัวพื้นเด้งดึ๋ง จะถล่มเหมือนเมื่อครั้งการแสดงที่ MBK Hall รวมไปถึงไม่มีตีกันอีกด้วย!! จากคุณ : cunut เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:36:17

ความคิดเห็นที่ 7 บทสรุปส่งท้าย... เอาเป็นว่า Green Day : Live in Bangkok  เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดในชีวิตของผม  กว่า 2 ชั่วโมงครึ่งไม่มีพัก ทางวงได้สร้างความ Entertain ให้แก่คนดูแบบไม่มีกั๊ก เพลงฮิตถูกขนมาเล่นกันอย่างครบถ้วน ซึ่งตัวผมเองก้อคิดว่า Bille และสมาชิกในวงมีอารมณ์ร่วมไปกับพวกเราจริงๆ  นับว่าได้ใจคนไทยทั้งหมดไปเลย  จะว่าไปสิ่งเหล่านี้คุณแทบจะหาไม่ได้เลยจากวงฝั่งอังกฤษ ที่ส่วนมากมักจะหยิ่งยโส ข้าแน่ ติ๊สแดก!! ไร้ความเป็นกันเองกับคนดู อย่างน้อยลองพิจารณาเทียบกับ Oasis ดูก้อคงไม่มีใครเถียง!! (แต่ทำไมเราก้อยังชอบฟังทางนั้นมากกว่าอยู่ดี 555)  หลังคอนเสิร์ตนี้ผมว่าเอาแค่คนดูจากพวกที่แค่ “เฉยๆ” ฟังเอามันส์กลายเป็น “รัก” วงนี้ไปเลย ผมว่าน่าจะมีเยอะอยู่!!   ไม่แปลกเลยที่พวกเขา ถูกยกให้เป็น 1 ในวงที่มีคนอยากดู Live มากที่สุดในโลก บอกได้คำเดียวว่า “สุดยอด” คับ  ทุกองค์ประกอบผมให้ 10 เต็ม 10 เลย เสียดายกับแฟนๆหลายคนที่ติดธุระหรือไม่มีโอกาสได้ดู เพราะกว่าจะได้ดูอีกครั้ง ถ้าจะอีกนานล่ะคับ   ** ขอให้ความเห็นเพิ่มอีกนิดนะคับ  เนื่องจากยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้จากการไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้... คือดีใจที่ยังเห็นเด็กไทยยังฟังเพลงสากลกันอยู่ (แม้ว่ามันจะไม่มากนักก้อตาม!!) ยังมีคนที่รักดนตรีร็อคกันอยู่ เพราะผมกลัวและรู้สึกเป็นห่วงเหลือเกินจริงๆว่า เยาวชนไทยจะถูกกระแส Korean Fever ที่มีอยู่ในปัจจุบัน กลบไปซะหมด จนไม่สนใจว่าแนวดนตรี"หลัก"ของคนทั้งโลกเขาเป็นอย่างไร  เมื่อก่อนก้อว่าน้อยแล้ว เดี๋ยวนี้นี่แทบหาไม่เจอ!!  ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ บรรดาเด็กนักเรียนและเยาวชนรอบๆตัวผมนั้น ให้ความสนใจกับรายละเอียดเนื้อหาและของโครงสร้างทางดนตรีน้อยมาก แต่กลับไปยึดติดอยู่กับตัว idol กับการเต้นเสียมากกว่า!! (ผมมิได้มีเจตนาที่จะเสียดสีหรือประชดประชัน แนวดนตรีใดๆ หรือคนฟังกลุ่มใดทั้งสิ้นเพราะเข้าใจว่ามันเป็นความชอบส่วนตัวคับ แต่ตรงกันข้ามกลับรู้สึกยกย่องจากใจจริงในดนตรีทุกชาติทุกภาษา)  เพียงแค่อยากสื่อให้เด็กๆรุ่นใหม่ลองเปิดใจฟังและศึกษาดนตรีหลายๆแนวดู เพราะประสบการณ์เหล่านี้ที่ผ่านไปในแต่ละช่วงชีวิต ผมเชื่อว่าคุณจะได้ประโยชน์ติดไปไม่มากก้อน้อยและจะบันทึกอยู่ในความทรงจำที่ดีร่วมไปกับหลายคนในบอร์ดนี้และคนอื่นๆทั่วโลกคับ ก้อคงต้องบอก Green Day เลยว่า ยังมีแฟนๆคนไทยที่รักพวกคุณอยู่และอยากให้พวกคุณมาเปิดการแสดงอีกในทุกๆทัวร์  พวกเรารอมานานแล้ว . แต่อย่าให้มากกว่าอีก 14 ปีเลย เพราะตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าจะโดดไหวอีกหรือป่าว!! ปล. เจอกันครั้งหน้า กับ Review “The Killers : Live in Singapore” กับ “Muse : Live in Hong Kong”  จะพยายามเก็บเอาบรรยากาศมาฝาก ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบและให้ความเห็นนะคับ . แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 11:14:30 จากคุณ : cunut เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:41:48

ความคิดเห็นที่ 8 สุดยอดจริงๆค่ะ เจ้าของกระทู้ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 20:59:34 จากคุณ : สตีฟ แม็คมานานแล้ว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:58:59

ความคิดเห็นที่ 9 เสียดายมากรู้งี้ซื้อเสื้อมาด้วยดีกว่า T_T จากคุณ : สตีฟ แม็คมานานแล้ว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:01:05

ความคิดเห็นที่ 10 อ๊ากกกกกกกกก อิจฉาอ่ะ Muse : Live in Hong Kong เป็นไงมาบอกกันด้วยนะครับ จากคุณ : BarOnz เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:04:14

ความคิดเห็นที่ 11 แบบว่าข้างหน้ามันส์มากกกกกกกกกก *มีไอฝรั่งหัวโล้นนิสัยไม่ดี เบียดจะเข้าข้างหน้า โดนด่าซะ เพลง 21 Guns ไอฝรั่งข้างหน้าเรา มันร้องไม่ได้ 555+ งงเลย เลยร้องโชว์ซะ เอกเซนท์แรดสุดฤทธิ์ สุดท้ายย รีเทิร์นอะ ขอให้จริง...เพลง Boulevard of broken dreams ปลื้มมาก พี่บิลลี่บอก Louder than America ! สุดท้ายอีกนิด รักก้นขาวๆ ของเฮียค่ะ มีใครเก็บช้อตนี้ได้บ้าง อยากได้เว่ออออ จากคุณ : FAii_MUFC เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:06:07

ความคิดเห็นที่ 12 #9 เก็บกระดาษที่โปรยมาด้วยหรอ ตอนโปรยลงมา ร้องเพลงอยู่ เข้าปากเลย 555+ จากคุณ : FAii_MUFC เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:09:14

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่รู้จะตอบอะไรครับ จขกท เขียนได้สมบูรณ์แบบแล้ว คืนวันที่ 12 มกรา 53 ผมจะไม่มีวันลืมเลยจริงๆ จากคุณ : All I wanna do is rock เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:21:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณเจ้าขอกระทู้มากค่ะที่มาเขียนบทความดีๆให้อ่าน ชอบอ่านมากเลย เวลาเล่าถึงคอนเสิร์ตเมื่อสิบสี่ปีก่อน ก่อนนั้นหนูยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้าเลย อยากให้มาเมืองไทยอีกจัง กรีนเดย์!!!! เรารักพวกคุณ จากคุณ : autumn...story เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:34:37

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนตัว ถือว่า มันมาก แต่ยังไม่สุด เพราะขาดเพลงโปรดไปบ้าง ผมก็เขียนรีวิว ไว้คร่าวๆ ในบล๊อก เช่นกันครับ จากคุณ : realp** เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:43:50

ความคิดเห็นที่ 16 ผมจะรอชมน่ะครับ “The Killers : Live in Singapore” กับ “Muse : Live in Hong Kong” จากคุณ : gOlf :-) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:01:18

ความคิดเห็นที่ 17 #15 แอบไปอ่านแล้ว ผมก็ชอบครับ เพลง Redundant กับ Warning แต่ยังไง Green Day คงทำลิสต์เพลงที่ถูกใจแฟนเพลงทุกคนไม่ได้ล่ะเนาะ เพลงใหม่ๆอย่าง Viva La Gloria ผมก็แอบคิดลึกๆว่าจะได้ฟังเหมือนกัน :-P ผมแอบเสียดายเพลง Wake Me Up When September Ends ที่เป็นอะคูสติค ถ้าได้ฟังเพลงเต็มในท่อนโซโล่พร้อมพลุน้ำตก คงมีน้ำตาไหลแน่ๆล่ะ จากคุณ : PoDox-Fi เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 23:11:17

ความคิดเห็นที่ 18 เขียนได้สมบูรณ์แบบจริงๆครับ ผมสุดทั้งสองครั้ง ครั้งแรกดิบ มัน รั่ว ... ครั้งนี้มันเป้นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก เอาเป็นว่า Green day รอบหน้าหวังว่าคงไม่ต้องรอถึง 14 ปีนะ จากคุณ : Hernf@ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 23:33:50

ความคิดเห็นที่ 19 #5 "ผมเสียดายแค่ตา Billie น่าจะขออาสาสมัครคนไทยขึ้นไปเล่นกีตาร์ในเพลงนี้เหมือนหลายๆครั้ง ซึ่งผมว่าพวกที่ซ้อมไว้แล้วน่ะ มีแน่ๆ!!" แน่นอนครับ ผมซ้อมรอมาเต็มที่เลย แถมจังหวะที่จะเล่น Jesus of Suburbia ผมโดนดันไปเกือบติดขอบแล้ว จังหวะดีทุกอย่าง  แต่พี่แกไม่เรียก ฮ่าๆๆ แต่แค่ได้ฟัง JoS ผมก็ปลื้มสุดๆแล้วล่ะครับ ทำบทสรุปส่งท้ายได้ดีมากเลยครับ  ขอชื่นชมจริงๆ ปล.น่าจะมีเวปแฟนคลับของ Greenday ที่ดูเป็นทางการมั่งเนาะ (หรือมีอยู่แล้ว ?) จากคุณ : Straight Edge เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 23:54:37

ความคิดเห็นที่ 20 #12 คือว่ากระดาษ 2 แผ่นนี้ตกใส่ตัวพอดีเลยเก็บใส่กระเป๋าไว้ค่ะ พอมาถึงห้องถึงรู้ว่ามีลวดลายด้วย รู้งี้กวาดมาเยอะๆเก็บใส่โหลไว้ดีกว่า คงสวยน่าดู เสียดายค่อดๆ ใครมีเยอะ แบ่งให้มั่งสิ T_T จากคุณ : สตีฟ แม็คมานานแล้ว เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:06:45

ความคิดเห็นที่ 21 #20 คิดเหมือนกันเลย ว่าจะเอามาใส่ขวด ผมกำๆใส่กระเป๋ากางเกงมา กลับมาถึงบ้าน ทำไมมันเหลือนิดเดียวเองง่าาาา จากคุณ : Straight Edge เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:12:36

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ cunut เขียน review ได้เยี่ยมมากค่ะ สุดยอดจริงๆ ปล. เราโดนแย่งกระดาษที่ตกลงมาอะ เสียดายจัง พอดีแขนสั้นเลยหยิบไม่ได้เลยซักกะอันน 555 #23 เออ เนอะ ไมเราไม่เก็บที่พื้นอะ แบบว่าตอนนั้นแขนมันล้า ขามันปวด มือมันสั่นอะค่ะ แถมน้ำตายังไม่หยุดไหล (อินกะเพลง wake we up when september ends ไม่หาย) เลยคิดไรไม่ออกมั้ง 555 แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 20:07:14 จากคุณ : Deana เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:27:23

ความคิดเห็นที่ 23 #22 น่าจะเก็บที่พื้นอ่าครับ  เกลื่อนเต็มพื้นเลย ^^ จากคุณ : Straight Edge เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:29:46

ความคิดเห็นที่ 24 เก็บมาเป็นกำเลยกระดาษที่โปรย เพราะยืนเอามือรองไว้ เข้าปากเข้าคออีกตะหาก เพราะเตี้ยจะถ่ายคลิปก็ไม่เหมาะ จะถ่ายรูปก็ไ่ม่ถนัด ยืนร้องยืนโยกอย่างเดียวละกัน เอิ๊กๆ จากคุณ : hidepod เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 02:42:04

ความคิดเห็นที่ 25 . . . เป็นบทรีวิวขั้นเทพครับ A+ สมกับเป็นบทสรุปส่งท้าย เก็บทุกรายละเอียด ขอบคุณมากที่ตั้งใจรจนามาให้เราอ่าน ^ ^ ผมรอคอยอย่างจดจ่อกับบทรีวิว MUSE และ The Killers ที่คุณ cunut จะนำมาแชร์ในโอกาสต่อๆ ไปนะฮ่ะ ยอดเยี่ยมครับ . . . จากคุณ : berry (bui_berry) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 03:08:11

ความคิดเห็นที่ 26   ผมเป็นอีกคนที่แต่ก่อน รู้สึกเฉยๆ แต่พอไปดูคอนเสิร์ตกลับมาแล้ว รักวงนี้ไปโดยปริยาย จะเรียกได้ว่า สุดยอดคอนเสิร์ต เท่าที่ดูมาก็ว่าได้ ครบเครื่อง จากคุณ : วัวพันปี เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:34:49 A:58.10.216.127 X: TicketID:193249

ความคิดเห็นที่ 27 ทั้งให้กิ๊ฟและโหวตให้เลยนะค่ะ ฺBig Thanks and Big Kiss จขกท มากค่ะ จากคุณ : LittleSister เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:54:38

ความคิดเห็นที่ 28 กระดาษนี่ใบแรกๆที่ได้ไม่มีลายเลย นึกว่ากระดาษธรรมดา ยังหันขำกับคนข้างๆเลย ตอนหลังเห็นมีลายเลยเก็บ ดึงเอาบนตัวน้องข้างหน้าแทน 555  ที่พื้นไม่ไหวหรอกครับทั้งเปียก แฉะและเน่า เหอๆๆๆ จากคุณ : Hernf@ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:58:32

ความคิดเห็นที่ 29 ครับ รักครับ สุดยอด และ มาอีก ซิ จะซื้อบัตร ไปดูอีก แง่ม แง่ม จากคุณ : Deucers เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 09:31:55

ความคิดเห็นที่ 30 เราไปคนเดียวค่ะ แรกๆ ก็หวั่นๆ เหมือนกันว่าจะได้ไปยืนข้างใครที่ไม่รู้จักก็เลยยืนหงิมๆ อยู่ตั้งนาน แต่พอเพลง 21st century.... ขึ้นเท่านั้นแหละ กรี๊ดและเต้น อย่างไม่แคร์ใครอีกแล้ว  ฮ่าๆๆๆๆๆ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ช่วงคอนเสิร์ต 14 ปีที่แล้วเราไม่ได้ไปดู เพราะยังอยู่แค่ ม.1 ม.2 เองมั้ง แต่รีวิวของคุณทำให้เราเห็นภาพ และทำให้เรารักพวกเค้ามากขึ้นไปอีกค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : 2000lightYearsAway เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 09:40:29

ความคิดเห็นที่ 31 ประทับใจที่สุด เหมือนกลับมาเป็นสาวๆ อีกครั้ง 555555555 ฟังเพลงเก่าๆ แล้วนึกถึงตอนเรียนเลยค่ะ เราอยู่โซน 2600 มันส์มาก ดิ้นไม่คิดชีวิตเลยค่ะ อยู่ตรงกลางๆ ด้วยความที่ตัวเตี๊ย เลยเห็นแต่จั๊กแร้ฝรั่ง เซ็งตัวเองที่เกิดมาเตี๊ย อิอิ สักพักวิ่งออกมาด้านหลัง โลงเห็นชัดกว่าอีก พื้นที่มีให้เหวี่ยงได้เยอะ ตูแดนซ์ตรงนี้หล่ะว่ะ เพื่อนก็มันส์กัน กลับมานั่งเม้ากันมีความสุขทั่วหน้า เป็นคอนเสริตที่อยู่ในใจไปอีกนาน จากคุณ : tom sillyfools เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 12:04:09

ความคิดเห็นที่ 32 Green Day ครั้งนี้ทำให้ผมรักพวกเขามากๆ เป็นการโชว์ที่หลากหลายที่สุด คุ้มค่ากับราคาบัตรจริงๆ โฮ้ยยยยยย จะบ้าตาย ชอบ ชอบ ชอบ ตอนนี้กำลังควานหาอัลบั้มเก่ามาเป็นของตัวเองอยู่ครับ ประทับใจคอนเสิร์ตครั้งนี้ แล้วก็ประทับใจ จขกท ครับ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด !!! จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:47:47

ความคิดเห็นที่ 33 "...Did you try to live on your own? when you burn down the house and home. Did you stan too close too the fire? Like a liar looking for forgiveness from a stone..." ผมน้ำตาแทบไหลเลยตอนอยู่ในคอนเสริตแล้วแหกปากร้องตาม ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ ชอบรีวิวนะครับ เขียนได้เห็นภาพและทำให้มีอารมณ์ร่วมได้ดีเลย เพราะผมไม่ได้ไปดูเมื่อ 14 ปีก่อน ตอนนั้นยังไม่ 10 ขวบเลย ฮ่าๆๆๆ แต่มาเก็บฟังย้อนหลังเอาตอนอัลบั้ม Nimrod ครับ แล้วก็ชอบวงนี้มาตลอดครับ (ควบไปกับ LP^^) กลับมาอีกนะครับ Green Day จากคุณ : Mike Chezt เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:53:21

ความคิดเห็นที่ 34 มันส์มาก ๆ ถ้าจะบอกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่สุดยอดและสนุกที่สุดตั้งแต่เคยได้ดูมาในชีวิตก็คงไม่ผิดเท่าไหร่ ทุกอย่างเพอร์เฟ็ค... แสง สี เสียง เอฟเฟ็คท์ (โดยเฉพาะ Waterfall ตอนเพลง 21 guns เข้าใจคิดดี) เพลง...ไม่ต้องพูดถึง เพราะรู้ว่า Green Day ต้องเต็มที่แน่นอน เล่นหนัก ร้องแน่น ต้องขอชมป๋าBJ จากใจจริงที่ป๋าเสียงไม่ตกเลย แถมคอยเอ็นเตอร์เทนคนดูตลอด ทำเอา 2 ชม.ครึ่งผ่านไปไวเหมือนโกหก ว่าแต่ ป๋าเหมือนประธานเชียร์จริง ๆ เพราะเล่นเอาเราต้องกลับไปโด๊ปน้ำมะนาวที่บ้านต่อ จนแม่ถามว่าอายุปูนนี้แล้วไปขึ้นแสตนด์เชียร์กีฬาสีงานไหนมาอีก 55555+ แฟน ๆ ทุกคนก็สุดยอดได้อีกกกก จนแอบคิด(ไปเอง)ว่า Green Day คงจะจำ Bangkok ไปอีกนาน ^^v คราวหน้าก็อย่าให้รอถึง 14 ปีนะ (ถึงตอนนั้นคงต้องหอบลูกมาดูด้วยแหง ๆ) ป.ล. จะเสียอย่างเดียวคือไม่มีจอมอนิเตอร์ รู้งี้ซื้อบัตรยืน 2600 แต่แรกก็ดีร้อกกก -"- จากคุณ : หลานสาวเชอร์ล็อคโฮล์มส์ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 14:27:35

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นอีกคนที่มีประสบการณ์ทั้ง2ครั้ง ครั้งที่แล้วความดิบเถื่อนน่าจะมากกว่าครั้งนี้แต่ความมันส์นี้สูสีน่ะครับ แต่เรื่องการแต่งตัวนี้ผมว่าครั้งที่แล้วหลุดโลกกว่าเยอะ อาจจะเนื่องด้วยตอนนั้นแฟนเพลงส่วนใหญ่ยังเด็กอยู่มาก ความบ้ามันเลยมีมากกว่า แต่ก็เป็น concert ในความทรงจำของผมทั้ง2อันเลยครับ จากคุณ : TEEYAI2HAND เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 14:43:22

ความคิดเห็นที่ 36 ไปดู the Killers กับ Muse เหมือกัน แต่ไปที่ฮ่องทั้งสองคอนเสิตร์เลย หวังว่าจะได้เจอกันที่ Muse live in Hong Kong นะครับ ;) เด๊ยวหลังไมค์ไปหา จากคุณ : พอล (pice) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 15:32:23

ความคิดเห็นที่ 37 ้ผ่านมาแล้ว 3 วัน อารมณ์ผมยังค้าง คิดถึง greenday ไม่หายเลยครับ ยิ่งฟังเพลง good riddance แล้ว โอ้ยยย อยากจาร้องห้ายย จากคุณ : บิ๊ดอิท เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 16:36:50

ความคิดเห็นที่ 38 จาก คห. ที่ 7 บทสรุปส่งท้าย *** หลังคอนเสิร์ตนี้ผมว่าเอาแค่คนดูจากพวกที่แค่ “เฉยๆ” ฟังเอามันส์กลายเป็น “รัก” วงนี้ไปเลย ผมว่าน่าจะมีเยอะอยู่!! *** เห็นด้วยคะ ตอนแรกน้องชวนไปเป็นเพื่อนเฉยๆ ฝึกร้องบ้างเป็นบางเพลงที่คุ้นๆหูแต่เอาเข้าจริง เรียกได้ว่าตกหลุมรักกันเลยทีเดียว จากคุณ : auLP เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 17:14:12

ความคิดเห็นที่ 39 เขียนได้ดีมากครับ แถมแอบอิจฉาที่ได้ดู The Killers กะ Muse อีก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ 2 วงนี้จะมาเมืองไทยบ้างนะ... คอนเสร์ตสมบูรณ์แบบมากๆ สิ่งเดียวที่ไม่ประทับใจในคอนเสิร์ทก็คือมารยาทคนดูบางคน โดยเฉพาะพวกเด็กอินเตอร์ อย่างที่ จขกท. บอกละครับ ถ้าคุณอยากอยู่หน้าก็รีบเข้ามาเร็วเท่านั้นเอง แต่ที่ผมเจอนี่เล่นส่งเพื่อนมา 2 คน ก่อนที่จะชวนเพื่อมาทั้งห้องอย่างนี้มันทุเรศเกินไปหน่อย... ปล. ถึงผมจะเคยดู Green Day มาทั้ง 2 รอบ แต่ผมไม่ใช่พวก 30 อัพนะ (ถึงจะเกือบๆ แล้วก็เถอะ) แต่เห็นด้วยเลยว่าพอช่วงเล่น Dookie นี่วิญญาณเด็กมอปลาย เข้าสิงร่างอีกครั้งโดดลืมตายไปเลย เหมือนย้อนกลับไปตอนครั้งแรกที่มา ครั้งนั้นผมยังฉีดหัวสีเขียวไปดูอยู่เลย... จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 17:27:50

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยกับ  39   โดนเบียดมาเหมือนกันครับ ทั้งเด็ก ฝรั่งและผู้ใหญ่ที่เป็นฝรั่งด้วย มันมาทีหลังแล้วมาเบียดเราไปข้างหน้าอ่ะ เล่นที่ไทยแท้ ๆ แต่ดันมาเบียดคนไทยอย่างเราซะ ทั้งที่เรามาจองที่ก่อน แต่ที่หนักหน่อยก้เป็นคนไทยเนี่ยแหละครับ ผมยาวใส่แว่นพวกบอกว่า  ขอทางหน่อยครับ  จะตามหาเพื่อนครับ  แล้วมันก็เบียด ๆ เข้าไป ทำเป็นยืนมองหาเพื่อน คนเขาจะดูคอนเสิร์ต แล้วมันจะมาตามหาอะไรตอนนี้ ว ่ะ เนี่ย ที่หนักก็คือ ตอนพวกมองหาเพื่อนอยู่ พวกอ้าปากง่า อยากบอกว่า ปากคุณง่า  เหม็น มากกกกกกกกกกกก ได้คิดในใจเมื่อไหร่ เมิง  จะไปเนี่ย  เวง ๆ ปล. ประทับใจและรักกรีนเดย์มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า สมแล้วที่ตั้งหน้ารอมานาน ครั้งแรกไม่ได้ครับ ยังเด็กอยู่  แม่ไม่ให้ง่า  T^T จากคุณ : sumofthat เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:37:35

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยมากๆกับ "ตัว Bille Joe เองก้อมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างชัดเจน (ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการที่เค้ามีภรรยาและมีลูกแล้ว)  บุคลิกจากที่ดูเป็นเด็กเถื่อน กลับกลายมาเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีแต่ความยียวนกวนประสาท ทะลึ่ง ทะเล้น ขี้เล่น จนหลายๆคนบอกเป็นเสียงเดียวว่า “น่ารักโคตร”" หลังจากดูกลับมาแล้วรู้สึกถึงความแตกต่างกันกับวงอังกฤษเลย แต่พูดไม่ถูก พอได้มาอ่านกระทู้แล้วใช่เลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ กระทู้ดีมาก ตรงใจสุดๆ   ปล. ก้นนั่นน่าเอ็นดูมากๆจริงๆด้วยค่ะ จากคุณ : โต๋เต๋อ๊ะงงงง เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 23:58:06

ความคิดเห็นที่ 42 แหม..รีวิวซะเสียดายเลยที่ไม่ได้ไปดู 2 thumbs up!! จากคุณ : Suede_g เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 00:48:44

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาอีกรอบเพราะรู้สึกจะอ่านตกกรอบสุดท้ายไป ชอบที่คุณจขกท.เขียนเรื่อง Korean Fever ในย่อหน้าสุดท้ายมาก จำได้ว่าตอนยังเป็นเด็กหญิงผูกคอซอง มีเพลงให้เสพย์หลากหลายมาก ตอนนี้ก็หลากหลายอยู่ แต่กระแสมันไปทางเดียว ไอ้ที่เป็นชนกลุ่มน้อยก็ได้แต่อยู่บนดอยเป็นชนกลุ่มน้อยวันยังค่ำ เมื่อก่อนถึงเราจะชอบบอยแบนด์อย่าง Take That, Boyzone, Backstreet Boys แต่เราก็ยังรู้จักพวก Green Day, The Offspring, Bon Jovi, Aerosmith ถึงไม่ได้เชี่ยวมากมาย แต่ก็รู้จักเพลงดัง ๆ ของวงเหล่านี้อย่างน้อย 1-2 เพลง (พอโตขึ้น ความชอบเริ่มผันแปรไปทางพังค์ขึ้นเยอะ... 555+) ศิลปินไทยเองก็มีกระแสที่หลากหลาย ไอดอลก็คือไอดอล ทว่าแต่ละคนก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันไป นุก-สุทธิดา ขายความน่ารักสดใส, แอนเดรีย ถึงจะน่ารักแต่มีความเป็นทอมบอยเสริมขึ้นมา, อ้อม-สุนิสา อันนี้ห้าวเต็มพิกัด แต่ ณ ขณะนี้ที่ไทยแลนด์ (ไม่รู้จะเรียกว่าไทยแลนด์หรือโคเรียดี) ไอดอลแทบทุกคน เพลงแทบทุกกระแสจะมีกลิ่นไอของเกาหลีแฝงอยู่ จะแฝงมากแฝงน้อยก็แล้วแต่คนหรือวงไป มีตั้งแต่ 30% ไปจนถึง 100% หรือที่เรียกว่า "ก็อปปี้" อยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้ฟังเพลงที่หลากหลาย เพราะนั่นจะนำไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความเป็นตัวของตัวเอง อย่างน้อยก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ชั้นชอบแนวนี้หลังจากมีประสบการณ์ฟังมาแล้วหลายแนว! และทุกแนวก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป นั่นยิ่งจะเสริมสร้างให้ได้ใช้สมองกลั่นกรองความคิดด้วย ยาวยืด... แต่ไม่เกี่ยวกับ Green Day เล้ย ^^" ปล. ขอบคุณจขกท.สำหรับรีวิวดี ๆ อย่างนี้นะคะ ปล.2 ยกมาแต่ละตัวอย่าง รู้อายุกันหมด -"- จากคุณ : หลานสาวเชอร์ล็อคโฮล์มส์ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 22:04:15

ความคิดเห็นที่ 44 รีวิวได้ตรงใจในหลายๆเรื่องเลย สุดยอดมากๆ อ่านแล้วนึกภาพวันนั้นได้เลย ^[]^ จากคุณ : เด็กเกเรกับอมยิ้มที่ขโมยมา เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 22:09:43

ความคิดเห็นที่ 45 รีวิวคุณอ่านง่ายดีครับ อ่านแล้วเข้าใจ ขนาดผมไม่ได้ไปก็ยังเห็นภาพลอยมาเลยครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : HanmarU เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 20:51:18