ความคิดเห็นที่ 1   นั่นพอที่จะกล่าวได้ว่า ไมเคิล ไม่ได้มองเด็กๆเป็นเพียงกลุ่มคนที่รอความช่วยเหลือ  แต่เขาเห็นเป็นเพื่อนที่จริงใจ  ที่ควรค่าแก่การเคารพและปกป้อง การใช้ชื่อเสียงและเงินทองของเขาเพื่อทำประโยชน์ต่อชีวิตเด็กๆเป็นเป้าหมายสูงสุดของเขา  และ จากตรงนี้ อาจทำให้เราเข้าใจได้ถึงหายนะ ความเสียหายทางจิตใจ จากการทำลายล้าง ที่สื่อได้กระทำกับเขา ตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา ซากสิ่งบางอย่างกำลังผุพังอยู่ในใจสื่ออย่างพวกเรา มันได้มาจากความตายของใครคนหนึ่งที่พวกเราเคยต้องการมากที่สุด ให้ได้มาปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือ เพื่อที่จะได้เผยเรื่องราวที่ให้ผลตอบรับเป็นเท่าทวี ของการโจมตีทางอารมณ์และจิตใจ ต่อบุคคลนี้ตามที่เราจะเห็นเขาเป็น ถึงตอนนี้ มันชัดเจนแล้ว ว่าระบบตรวจสอบที่เรามีอยู่ในระบบของสื่อนั้น มันยังไม่เพียงพอ ยิ่งกว่านั้น ประสิทธิภาพของมาตรการจัดการกับสื่อก็ยังไม่สามารถป้องกัน การพุ่งเป้า หรือจ้องทำลาย เป้าหมาย ที่สื่อตามไล่ล่าแบบผิดที่ผิดทาง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว จากคุณ : blue gourami เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:39:28

ความคิดเห็นที่ 2   การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของไมเคิล ไม่ใช่เรื่องเข้าใจยากหากเราไม่ได้มองอย่างคนไม่รู้สึกรู้สา เราคงปฏิเศษไม่ได้ว่า ยาสลบ ที่คร่าชีวิตเขานั้น เป็นเพียงสาเหตุที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการเท่านั้น สิ่งที่ฆ่าไมเคิล แจ็คสัน จริงๆแล้ว คือความทนทุกข์ทรมานที่ตกตะกอนจากคดีความอันยืดเยื้อและไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อยนั่นต่างหาก  ทั้งที่รู้ว่าหากถูกตัดสินว่าเขามีความผิดจริง เขาจะถูกกันออกจากชีวิตของลูกๆของเขาทันที แม้เมื่อพ้นข้อกล่าวหา ก็ต้องเผชิญกับการประณามอย่างไร้ความปราณี จากสื่อที่เลือกที่จะไม่นำพากับผลคำพิพากษาที่พวกเขาเห็นว่าไม่เกื้อในทางเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวชาวชาวอังกฤษ ชาร์ล ทอมสัน ได้ทำการวิเคราะห์อย่างชัดเจนในรายละเอียดของแฟ้ม FBI ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งสามารถเข้าไปชมได้ที่ http://charlesthomsonjournalist.blog...iles-support-j... ทอมสันได้วิเคราะห์ตีความสำนวนในแฟ้มชนิดจุดต่อจุด และมันได้เปิดเผยถึง ความจริงที่ว่า ไม่เพียงแต่ FBI และ LAPD จะไม่พบหลักฐานใดๆแม้แต่ชิ้นเดียวที่แสดงถึงการกระทำผิดโดยแจ๊คสัน จากการสืบสวนที่กินเวลานานกว่าทศวรรษ แต่สื่อกลับมีบทสรุปไปในทางตรงกันข้าม โปรดสังเกตว่า มีความแตกต่างอย่างลึกล้ำ ระหว่างการระบุของFBI ว่า XกับY ถูกตั้งข้อกล่าวหา FBI กล่าวว่าพวกเขาสืบสวนทั้ง XและY และว่า ทั้งXและY ต้องถูกตรวจสอบ บทวิเคราะห์ของทอมสันนั้น เป็นสิ่งต้องอ่าน สำหรับใครที่อยากแยกความจริงออกจากบทปั้นแต่งที่สื่อพากันนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากคุณ : blue gourami เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:41:00

ความคิดเห็นที่ 3   ความจริงก็คือ หลังจาก กระบวนการสืบสวนของคดีที่ใช้เงินภาษีของบุคคลผู้มีเงินได้ของอเมริกามากที่สุดได้จบสิ้นลง สำนักงานที่รวบรวมผู้มีปัญญาไว้มากที่สุด(FBI) กับหน่วยสืบสวนสอบสวนแห่งลอสแองเจลลิส(LAPD) ได้ออกมาเน้นย้ำว่า ไม่มีความผิดใด แต่สารที่ผู้คนได้รับ กลับเป็นเรื่องราวอันไม่ประติดประต่อ จากข้อความบิดเบือนของสื่อแทบลอยด์เจ้าหนึ่งของอังกฤษ ที่นำเสนอเรื่องราวน่าแคลงใจจากคำบอกเล่าของหญิงบนรถไฟที่ไม่มีความน่าเชื่อถือใดๆ กับคำบอกเล่าของอดีตลูกจ้างที่เพิ่งเข้าทำงานหลังคดีปี1993 และบังเอิญกำลังจะพิมพ์หนังสือเพื่อเร่ขายให้กับใครก็ตามที่อาจเชื่อแทน นานมาแล้ว ก่อนที่หมอ เมอร์เรย์ จะเขียนใบสั่งยา ‘คลายทุกข์’ใบแรกให้กับไมเคิล  ระลอกแห่งความหายนะของลำดับเหตุการณ์ที่นำไมเคิลไปสู่ภาวะสิ้นสูญ อย่างกู่ไม่กลับ ดังที่เราได้เห็นในปี 2005 เมื่อ อีวาน แชนด์เลอร์ บุคคลที่เป็นที่รู้กันว่ามีนิสัยโหดร้ายทารุณ และเจเน็ต  อาร์วิโซ ผู้มีประวัติฉ้อโกงและหากินจากการเรียกร้องค่าชดเชย ได้อาศัยระบบอาชญากรรมอเมริกันและสื่อที่เป็นใจ ในการที่จะ ฝังไมเคิลให้จมอยู่ภายใต้การตีตราของสังคมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ไม่มีใครเรียกร้องการพิสูจน์ สนใจแต่เพียงข้อเสนอแนะ โลกเพียงนั่งมองเฉยๆ  ขณะที่การเบิกความที่เป็นเท็จ ของพยานถูกมองข้ามเหมือนแกล้งทำไม่เห็น เพื่อร่วมจับผู้ชายคนที่เคยเจิดจรัสเหนือใครไปตรึงให้ตายบนไม้กางเขน จากคุณ : blue gourami เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:42:44

ความคิดเห็นที่ 4   ความจริงก็คือ หลังจาก กระบวนการสืบสวนของคดีที่ใช้เงินภาษีของบุคคลผู้มีเงินได้ของอเมริกามากที่สุดได้จบสิ้นลง สำนักงานที่รวบรวมผู้มีปัญญาไว้มากที่สุด(FBI) กับหน่วยสืบสวนสอบสวนแห่งลอสแองเจลลิส(LAPD) ได้ออกมาเน้นย้ำว่า ไม่มีความผิดใด แต่สารที่ผู้คนได้รับ กลับเป็นเรื่องราวอันไม่ประติดประต่อ จากข้อความบิดเบือนของสื่อแทบลอยด์เจ้าหนึ่งของอังกฤษ ที่นำเสนอเรื่องราวน่าแคลงใจจากคำบอกเล่าของหญิงบนรถไฟที่ไม่มีความน่าเชื่อถือใดๆ กับคำบอกเล่าของอดีตลูกจ้างที่เพิ่งเข้าทำงานหลังคดีปี1993 และบังเอิญกำลังจะพิมพ์หนังสือเพื่อเร่ขายให้กับใครก็ตามที่อาจเชื่อแทน นานมาแล้ว ก่อนที่หมอ เมอร์เรย์ จะเขียนใบสั่งยา ‘คลายทุกข์’ใบแรกให้กับไมเคิล  ระลอกแห่งความหายนะของลำดับเหตุการณ์ที่นำไมเคิลไปสู่ภาวะสิ้นสูญ อย่างกู่ไม่กลับ ดังที่เราได้เห็นในปี 2005 เมื่อ อีวาน แชนด์เลอร์ บุคคลที่เป็นที่รู้กันว่ามีนิสัยโหดร้ายทารุณ และเจเน็ต  อาร์วิโซ ผู้มีประวัติฉ้อโกงและหากินจากการเรียกร้องค่าชดเชย ได้อาศัยระบบอาชญากรรมอเมริกันและสื่อที่เป็นใจ ในการที่จะ ฝังไมเคิลให้จมอยู่ภายใต้การตีตราของสังคมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ไม่มีใครเรียกร้องการพิสูจน์ สนใจแต่เพียงข้อเสนอแนะ โลกเพียงนั่งมองเฉยๆ  ขณะที่การเบิกความที่เป็นเท็จ ของพยานถูกมองข้ามเหมือนแกล้งทำไม่เห็น เพื่อร่วมจับผู้ชายคนที่เคยเจิดจรัสเหนือใครไปตรึงให้ตายบนไม้กางเขน การตีพิมพ์ข่าวของหมอเมอร์เรย์ อย่างบ้าระห่ำและเกาะติด ย้อนรายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาการเสียชีวิตของไมเคิลเป็นเวลาหลายเดือน ได้มาถึงจุดที่ทวีความเข้มข้นขึ้นทุกที มันช่างน่าสลด ที่ได้เห็นกลุ่มคนกลุ่มเดิมที่เคยสุมหัวกันคอยทำลายชื่อเสียงและบั่นทอนทั้งจิตวิญญาณและเกียรติยศของไมเคิลมากว่า 15 ปี พากันพุ่งเป้าไปที่หมอเมอร์เรย์ในฐานะ “คนผิด” ในบทบาทที่เขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับการตายของแจ๊คสัน ความผิดของหมอเมอร์เรย์ไม่สามารถปฏิเศษได้ก็จริง แต่เขาไม่ได้สร้างโอกาสให้ตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้ ด้วยตัวคนเดียวแน่ ตอนนั้นไปอยู่ไหนกันหมดล่ะ พวกที่ตอนนี้ทำมาเรียกร้องเกี่ยวกับความสูญเปล่าของทรัพยากร และ เงินภาษีอากรจำนวนหลายล้านดอลล่าร์ที่เจ้าหน้าที่รัฐ ทอม สเนดดอน นำไปทุ่มหาพยานหลักฐานไล่ล่าไปถึงความเป็นส่วนตัวที่สุดของไมเคิล และ สอยเอาดาวดวงใหญ่ที่สุดร่วงลงมาในชั่วพริบตา ไมเคิล แจ๊คสัน ไม่ได้ทำให้เมืองแห่งเทวดา( Los Angeles) ล้มละลาย แต่พวกเขาล้มลงด้วยตัวของพวกเขาเอง สำหรับประเทศที่สามารถจะส่องแสงได้เจิดจ้าเท่าที่ใจปรารถนา สิ่งที่อเมริกาทำกับชายผู้นี้ เป็นหนึ่งในตัวอย่างอันน่าอดสู ของทารุณกรรมที่ผ่านการวางแผนและการข่มเหงอย่างไร้ความปราณี ที่ประจักษ์ได้ในยุคสมัยนี้ http://www.sawfnews.com/Gossip/62205.aspx แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 53 16:47:54 จากคุณ : blue gourami เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:46:56

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่แน่ใจว่าปาดหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือกำลังปาดน้ำตาอยู่ T-T ระลอกแห่งความหายนะของลำดับเหตุการณ์ที่นำไมเคิลไปสู่ภาวะสิ้นสูญ อย่างกู่ไม่กลับ ดังที่เราได้เห็นในปี 2005 เมื่อ อีวาน แชนด์เลอร์ บุคคลที่เป็นที่รู้กันว่ามีนิสัยโหดร้ายทารุณ และเจเน็ต  อาร์วิโซ ผู้มีประวัติฉ้อโกงและหากินจากการเรียกร้องค่าชดเชย ได้อาศัยระบบอาชญากรรมอเมริกันและสื่อที่เป็นใจ >>> ในการที่จะ ฝังไมเคิลให้จมอยู่ภายใต้ การตีตราของสังคมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา <<< ไม่มีใครเรียกร้องการพิสูจน์ สนใจแต่เพียงข้อเสนอแนะ >>> โลกเพียงนั่งมองเฉยๆ <<< ขณะที่การเบิกความที่เป็นเท็จ ของพยานถูกมองข้ามเหมือนแกล้งทำไม่เห็น >>> เพื่อร่วมจับผู้ชายคนที่เคยเจิดจรัสเหนือใครไปตรึงให้ตายบนไม้กางเขน <<< T-T ขอบคุณคุณ blue gourami มากค่ะ . จากคุณ : Winter Wonderland เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:53:10

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากค่ะ คุณแปลได้เยี่ยมยอดมาก เคยอ่านเองแล้วครั้งนึง แต่ไม่เสียน้ำตาได้มากเท่านี้ ยิ่งได้รับรู้เรื่องราวของผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่ ยิ่งรักและคิดถึงเค้าจับใจมากยิ่งขึ้น และยืนยันว่า หากจะทำอะไรได้บ้าง ณ เวลานี้เพื่อบอกเล่าให้ผู้คนและโลกได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นกับเค้า เราจะทำ และจะทำตลอดไป he says "'LIES RUN SPRINT, BUT THE TRUTH RUNS MARATHONS" (แปลอีกนะคะ ถ้ามีเวลา) จากคุณ : . (SIMONBIRCH) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:42:00

ความคิดเห็นที่ 7   ขอบคุณคุณ blue gourami มาก ๆ ค่ะ แต๊ะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอ่านอีกทีนะคะ ^^ จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:44:00

ความคิดเห็นที่ 8   ขอบคุณมาก ไม่มีคำพูดใด คิดถึง MJ จากคุณ : guya เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:59:00

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับบทแปลค่ะ คิดไม่ผิดเลยที่รักไมเคิล เราไม่เคยรักคนผิดเลย ไชโย.. เคิ้ล เรารักเคิ้ลนะ ^^ จากคุณ : i can't do it !! เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 18:10:39

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ ..... ไม่รู้จะพิมพ์อะไร สมองหนักมาก ขอโทษนะคะที่คอมเมนท์ได้เท่านี้ จากคุณ : NattMJ (jian1975) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 18:23:17

ความคิดเห็นที่ 11 เศร้าจัง คิดถึงไมเคิล T___T จากคุณ : If only I could turn back time เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 18:24:00

ความคิดเห็นที่ 12 มันยังไม่สาย ที่ใคร ๆ ต่อใคร จะลุกขึ้นมาเสนอข่าว ในแง่ใหม่ ไม่มีคำว่า สายไป สำหรับการเริ่มลงมือทำอะไร แม้ว่าสิ่งเลวร้ายที่พวกเค้าทำ ได้ทำลายดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดดวงนั้นไปแล้วก็ตาม แต่โลก ยังไม่หยุดกระหาย ที่จะได้รับความจริง ขอบคุณนะคะ ที่เอามาฝาก และแปลให้เรียบร้อยเลย กิฟท์หมด >_< จากคุณ : nangyoon เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 19:56:38

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแปล จากคุณ : บวรจ้า เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 20:15:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณblueค่ะ แปลได้เยี่ยมยอดมากๆเลยค่ะ อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ได้แค่น้ำตาคลอๆ แต่ก็อดไม่ได้มีคนทักอีกว่าทำไมนั่งเล่นเน็ตหน้าตาเศร้าจัง ก็ได้แต่ตอบไปว่า แหะ แหะ เปล่าไม่มีอะไร จากคุณ : mr.roof miss you MJ. (MR.ROOF) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:00:39

ความคิดเห็นที่ 15   อ่านแล้วจะร้อง น้ำตาคลอ สำนวนแปลเยื่ยมมากค่ะ ทำไมสื่อถึงต้องโหดร้ายกับที่รักอย่างนี้ด้วยนะ เกลียดสื่อบ้าบอ พวกนั้นจิงๆ พวกสื่อบ้านั่นจะรู้ไหมว่ามันได้ทำให้ที่รักของพวกเราใจสลาย TT____TT~ จากคุณ : Love Live Forever เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:35:19

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะ เศร้าและคิดถึงไมเคิลมาก จากคุณ : บรรณาลัย เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:43:57

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะ . . พวกนี้มันน่าแค้นจริงๆ มีคนดีๆอย่างไมเคิลอยู่บนโลก คอยสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ทำประโยชน์เพื่อคนที่ทุกข์ยาก แล้วดันไม่พอใจ ไม่พอใจอะไรของพวกมันอ่ะ จะมาทำร้ายกันทำไม เขาเรียก ทารุณกรรมชัดๆ จากคุณ : Poy_Kun เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:44:28

ความคิดเห็นที่ 18 สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ที่ออกมาหลังจากไมเคิลจากไปแล้ว.... เรามีเพียงคำถามในใจเสมอมาว่า ทำไม...ถึงทำกับเขาอย่างนี้ ทำไม...ถึงไม่มีใครช่วยเขาเลย ทำไม...อเมริกาที่เจริญทางด้านอารยธรรมจึงปล่อยให้เรื่องราวเหล่านี้เป็นไปแบบนี้ อ่านแล้วได้แต่น้ำตา่ไหล.... จากคุณ : Jeeup เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:48:37

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณ blue gourami สำหรับข้อมูลและคำแปลที่ละเมียดและเยี่ยมจริงๆ . จริงๆไม่รู้จะเมนต์อะไรดี เพราะอ่านแล้วก็เจ็บจิ๊ดอยู่ลึกๆ เวลานั้นเราไปอยู่ไหน มัวทำอะไร อดคิดไม่ได้ว่า เราคงไม่ต่างอะไรจาก >> โลกเพียงนั่งมองเฉยๆ << ในตอนนั้น T_T . ทุกวันนี้ถึงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว.. อาจยังคงมีคนอคติ ไม่อยากรับรู้ ไม่สนใจใดๆ แต่ก็ขอมุ่งมั่นเหมือนคุณblue คุณไซม่อน และทุกๆคน ที่จะคอยบอกเล่าเรื่องราว ข่าวสารความจริง ความถูกต้อง และความดีของไมเคิลอย่างนี้ ต่อไปและตลอดไป ถึงจะเป็นสิ่งเล็กน้อยที่ทำได้ แต่ก็ขอทำอะไรเพื่อไมเคิลบ้าง เค้าคงยินดีถ้าจะมีคนค่อยๆเริ่มเข้าใจเค้ากันมากขึ้น จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:00:31

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านบทความนี้แล้ว สิ่งแรกที่เราทำทันทีคือ หลับตาลง และส่งใจไปถึง MJ  ที่ตอนนี้คงกำลังเอาใจช่วย "ชาวเฮติ" อยู่บนสรวงสวรรค์ และคอยบอกรักและให้กำลังใจกับแฟน ๆ ที่ยังรักและเพิ่งรักเขาอยู่เสมอ ทำไมคนบางกลุ่มถึงเพิ่งตาสว่าง ทำไมถึงเพิ่งมาเห็นค่าในวันที่สายเกินไป และเราเองก็ได้ก้มมองตัวเราเอง เพราะเราเองก็เคยเพิกเฉยกับเขาในช่วงระยะเวลานึง ไม่กล้าจะบอกใครว่าเราชอบเขา เพราะไม่อยากฟังคำถามบ้าบอ? ที่บั่นทอนจิตใจ ไม่อยากรับรู้ว่าคนพวกนั้นคิดอย่างไรกับเขา จนเราก็หลงลืมเขาไป จนวันที่สายไป แต่เราก็ยังรู้สึกดีใจที่เราไม่เคยสนใจข่าวเหล่านั้นเลย แม้แต่นิดเดียว เรายังคงรักและศรัทธาในผลงานของเขา แม้เราจะไม่ได้ฟังทุกชุด แต่เราก็ชอบทุกเพลงที่เป็นผลงานของเขา เมื่อได้รับรู้เรื่องราวของเขามากมาย จาก Youtube ภาพ เสียง การแสดง รอยยิ้ม สิ่งดี ๆ ที่เขาได้ทำเอาไว้ มันทำให้เรารู้สึกว่า เขาโชคดีที่จากพวกเราไปก่อน ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณ มนุษย์คนนึงจะทนได้นานแค่ไหนกัน แต่เขาก็ทำได้ดีเกินกว่าที่เราคาดไว้ แม้มันจะไม่ใช่ทางออกที่ดีในสายตาของใครหลายคน และเมื่อลืมตาเราได้แต่แสยะยิ้มให้กับโลกใบนี้ที่แสนโสมม และสกปรกด้วยจิตใจอันต่ำช้า ของพวกมนุษย์บางกลุ่ม บางจำพวกที่เรียกตัวเองว่า "สื่อมวลชน" และ มีท่าทีเย้ยหยันต่อบรรดาผู้คนที่ เคยหัวเราะเยาะ ประนาม MJ มาก่อนหน้านั้น และเพิ่งมาสำนึกได้เมื่อเวลามันสายเกินไป สำนึกเพราะด้วยความโง่เขลา เพียงเพราะเชื่อสื่อมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดี หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่สื่อมวลชนตีแผ่ออกไป คนในโลกนี้ก็พร้อมจะให้ความสนใจและส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จะเชื่อตามเสมอ พอมาวันนี้ผู้คนเหล่านั้นที่เคยหัวเราะเยาะ เชื่อตามสื่อ ก็มาพึ่งนึกเสียใจ และรู้สึกผิด ที่น่าจะได้มีโอกาสสรรเสริญเขาก่อนที่เราจะต้องมาเสียเขาไป เขาควรจะได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาได้ทำ เขาควรจะได้ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจจากความดีต่าง ๆ ที่เขาได้ทำเอาไว้ให้กับโลกใบนี้ เขาให้อะไรกับโลกใบนี้ไว้มากมายมหาศาล ในขณะที่พวกคนชั่วเหล่านั้น ที่เรียกตัวเองว่า "สื่อมวลชน" รวมถึงผู้คนที่ต่างพร้อมประนามเขา ก่อนที่คดีจะถูกตัดสิน กลับไม่เคยคิด และทำไม่ได้อย่างที่เขาทำ แม้ในวันที่เขาจากไป เขาก็ยังให้อะไรกับโลกใบนี้ เขาได้มอบมรดกทางเสียงเพลง ที่ล้ำค่าที่สุด เท่าที่มนุษย์คนนึงพึ่งกระทำ ในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ วันนี้เขาจากไป และทิ้งเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจเอาไว้ให้พวกเรา ได้จำไว้เป็นบทเรียน ว่า "อย่าทำแบบนี้กับใครอีก" ขอบคุณ จขกท. ค่ะ ยิ่งนานวันมีเรื่องราวของเขามาให้อ่านมากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ยิ่งนึกเกลียดโลกใบนี้มากขึ้นทุกที จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:41:42

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแปล แปลได้ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกจุกในอก นึกไปถึงคำพูดของมาดอนน่าในวันประกาศรางวัล MTV VMA 2009 "we abandon him" นอกจากเราจะละเลยเขาแล้ว เรายังปล่อยความเชื่อของเราให้ไหลไปตามกระแสข่าวที่ถูกถาโถมถ่ายทอดออกมาจากบรรดาสื่อ แต่วันนี้ .. เราและเพื่อน ๆ ทุกคน จะคอยบอกเล่าเรื่องราว ความจริง คุณงามความดี ที่ไมเคิลควรจะได้รับครั้งยังมีชีวิตอยู่ให้โลกได้รับรู้ แม้ว่ามันจะสาย.. แต่ยังดีที่ได้ทำค่ะ จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:43:06

ความคิดเห็นที่ 22 #20 "อย่าทำแบบนี้กับใครอีก" ได้ยินมั้ย?? จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:45:16

ความคิดเห็นที่ 23   ขอบคุณ คุณ  blue gourami มากๆ สำหรับข่าว และ คำแปลดีๆนะคะ จากคุณ : Can U Feel It (Can U Feel It) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:48:32

ความคิดเห็นที่ 24 จริงด้วยนะคะ คิดเหมือนคุณลูกโป่งสีน้ำเงินเลยค่ะ หลังจากที่ไมเคิลไม่อยู่กับเรา... มุมมองของเราที่มีต่อการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมาก เรารู้สึกปลงกับสิ่งไม่ดีที่ได้พานพบ ให้ความสนใจกับคนที่ลำบากรอบตัวไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือไม่ ตั้งใจจะไม่ละเลยกับคนรอบตัวที่ได้พบไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่ก็ตาม กลัวว่าตัวเราจะพลาดเหมือนอย่างที่เราเคยพลาดกับไมเคิลมาแล้ว ที่สำคัญ เรามองสื่ออย่างพิจารณามากขึ้น (ปกติก็พิจารณาอยู่แล้ว) อีกหลายเท่าตัว.... และพยายามใช้ทรัพยากรในชีวิตอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ปกติก็ทำอยู่บ้าง ไม่ทำบ้าง ตั้งแต่เขาไม่อยู่ เราตั้งใจจะทำดีเพื่อคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส... ขอบคุณไมเิคิลที่ให้สิ่งที่ดีมากมายแก่ชีวิตของเรา จากคุณ : Jeeup เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 23:30:54

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่นำเรื่องราวมาแบ่งปันกัน...อ่านแล้ว พูดไม่ออกเลย T_T สงสาร MJ มาก จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 00:27:22

ความคิดเห็นที่ 26   อ่านแล้วนึกไปถึงไทเกอร์ วูด จะเป็นเหยื่อของสื่อรายต่อไปหรือเปล่าเนี่ย ดาวจรัสพอๆกัน แต่มาเสียเพราะเรื่องเที่ยวผู้หญิงกลางคืน บรรดาผู้หญิงที่ออกมาพูดมาแฉเป็นสิบที่สื่อไปหามาเนี่ยคนไหนเป็นของจริงใครรับรองได้บ้าง จากคุณ : jan เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 00:38:30 A:114.128.152.249 X: TicketID:203390

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณ คุณblue gourami มากน่ะค่ะ สำหรับข่าว และคำแปลจ๊า... จากคุณ : TUTTU (chang_xpro) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 06:44:13

ความคิดเห็นที่ 28   ขอบคุณคุณ blue มาก สำหรับคำแปลดี ๆ ทำให้ใครหลาย ๆ คนที่ไม่เข้าใจ MJ ได้รู้อะไรมากขึ้น  ในตอนที่มีข่าวไม่ดีกับเค้า เราเป็นคนนึงที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย  รู้สึกว่าพวกสื่อชอบเขียนข่าว ใสสีตีไข่ไปเลย บางข่าวมีมูลความจริง บางข่าวก็เขียนขึ้นมาเอง เพื่อต้องการขายข่าว เพราะพวกเค้ารู้ว่า คนชอบอ่านข่าวฉาว ๆ ของดาราอยู่แล้ว ก็คล้ายกับสื่อบ้านเรานะแหละ แต่ตอนนี้ บุคคลที่สื่อติดตามอยากจะได้ข่าวมากที่สุดคนหนึ่ง ไม่อยู่ ให้พวกเขาได้กระหน่ำซ้ำเติมต่อไปแล้ว ก็เพราะพวกสื่อเองแหละ ที่ตอกย้ำรอยช้ำในใจของไมเคิล  ให้เค้าจมอยู่กับความเจ็บปวดตลอดมากว่า 15 ปี จากนี้คุณคงจะสบายใจขึ้นมากแล้ว  เพราะว่าดินแดนที่คุณเลือกที่จะไปอยู่คงทำให้คุณสบายใจขึ้น  คิดถึงคุณจัง MJ จากคุณ : aor_mj เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 12:58:11

ความคิดเห็นที่ 29   ขอบคุณ คุณ blue gourami มากๆเลยค่ะ อ่านแล้วเศร้าสลดจริงๆ จากคุณ : catky เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 13:50:25

ความคิดเห็นที่ 30 ...แปลได้ดีจริงๆครับ  ทำให้ผมเข้าใจและ"เข้าถึง"ความรู้สึกของคนเขียนได้จริงๆT-T ...แล้วความรู้สึกเศร้าลึกๆที่เกิดขึ้นนี่มันคืออะไรนะ.... จากคุณ : Armenhotep เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 23:01:58

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วถึงกับ........Speechless มันหมดใจจิงๆ ...  ถ้าจะถามว่าใครคือคนที่ฆ่าไมเคิลจิงๆ พวกนั้นต่างหากที่ ต้องมองกระจกแล้วถามตัวเอง  พวกที่เรียกตัวเองว่าสื่อ แต่หากินบนความ ทุกข์ของคนอื่น และจนทุกวันนี้ยังไม่สำนึก และคิดว่าคงไม่ได้สำนึกอะไรได้ อีกแล้วในชีวิตนี้   ขอให้กรรมตามสนองเถิด ขอคุณ คุณ blue gourami  ที่เอื้อเฟื้อเวลาสำหรับคำแปล นะคะ จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 01:53:39

ความคิดเห็นที่ 32   ขอบคุณสำหรับบทความ+บทแปลเรื่องนี้ค่ะ ไม่ได้เข้าคลับหลายวัน พอเห็นอันนี้ก็เปิดก่อนเลย อ่านแล้วเจ็บใจค่ะ มนุษย์ทำร้ายกันได้ขนาดนี้ได้ยังไงกัน สงสารไมเคิล T^T จากคุณ : Another Part Of Me เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 22:55:47