ความคิดเห็นที่ 1 เช้าวันต่อมา ทอม เมสเซอโรว บอกคณะลูกขุนว่า เขาจะพิสูจน์ให้เห็นผ่านทางคำให้การของพนักงานและแขกของ Neverland ว่าเด็กๆอาร์วีโซ่นั้นเกเรมากจนคุมไม่อยู่ขณะที่อยู่ที่ Neverland เมสเซอโรวต้องการชี้ให้ลูกขุนเห็นว่า ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับแอลกอฮอลล์นั้นไม่ได้เป็นเพียงข้อหาเดี่ยวๆ เขาต้องการให้ลูกขุนเห็นถึงแก่นแท้ของข้อกล่าวหานี้ที่ว่า ทางอัยการกำลังจะบอกว่า ไมเคิล แจ๊คสันให้เด็กๆอาร์วีโซ่ดื่มแอลกอฮอลล์เพื่อต้องการจะกระทำชำเราผู้ป่วยโรคมะเร็งตัวน้อย แกวิน อาร์วีโซ่ นั่นเอง “ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับแอลกอฮอลล์นั้น เชื่อมโยงโดยตรงกับข้อกล่าวหากระทำชำเรา” เมสเซอโรวอธิบาย “ถ้าไม่มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับแอลกอฮอลล์ ก็จะไม่มีข้อกล่าวหากระทำชำเรา และ คุณแจ๊คสันได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้” เมสเซอโรวเปิดเผยรายละเอียดพฤติกรรมของเด็กๆอาร์วีโซ่แก่คณะลูกขุน เขากล่าวว่าเด็กๆพวกนี้แอบเข้าไปในห้องเก็บไวน์ และโดนจับได้ว่าดื่มแอลกอฮอลล์ด้วยตนเอง โดยที่ไมเคิลไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยซ้ำและไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย นอกจากนี้เด็กๆพวกนี้ยังถูกจับได้ว่าแอบเปิดตู้เย็น ดื่มเหล้าที่อยู่ในครัวและหยิบเหล้าออกมาจากตู้เก็บของในครัว “มีพยาน 1 ปากที่จะบอกท่านว่า คุณแจ๊คสันสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาสำหรับตัวเขาเองและสำหรับแขกที่มาพัก และเด็กๆพวกนี้ไปขโมยมา” เมสเซอโรวกล่าวต่อ “เด็กๆพวกนี้ถูกจับได้ในสภาพที่เมามายและมีขวดเหล้าอยู่ในมือ ซึ่งคุณแจ๊คสันไม่ได้อยู่แถวนั้นเลย เราจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่า ขณะนี้พวกเขากำลังพยายามจะบอกว่าไมเคิลอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย” จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:15:03

ความคิดเห็นที่ 2 เมสเซอโรวอธิบายถึงพฤติกรรมของเด็กๆอาร์วีโซ่ขณะที่อยู่ที่ Neverland โดยกล่าวว่าในช่วงแรก เด็กพวกนี้ดูเรียบร้อยดี แต่พอเวลาผ่านไป พฤติกรรมของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เมสเซอโรวยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพว่า พนักงานประจำเครื่องเล่นคนหนึ่งรู้สึก “ช็อคและตกใจเป็นอย่างมาก” หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เด็กพวกนี้จำรหัสผ่านของเครื่องเล่นต่างๆได้ และขึ้นขี่ชิงช้าสวรรค์จนไปอยู่ข้างบนตามลำพัง และปาสิ่งของลงมาใส่ช้าง และคนที่อยู่ข้างล่าง “เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาทำแบบนี้กับอีกหลายๆจุดภายในบ้านที่ต้องใช้รหัสผ่าน เด็กพวกนี้สามารถเดินร่อนไปทั่วบ้านได้อย่างตามใจชอบ ในขณะที่คุณแจ๊คสันไม่ได้อยู่ในเมืองด้วยซ้ำ” เมสเซอโรวกล่าว “เด็กพวกนี้ถูกจับได้ในห้องของคุณแจ๊คสัน พยานจะบอกเล่าความจริงเหล่านี้ให้ท่านฟังว่า ไม่มีใครควบคุมเด็กเหล่านี้ได้เลย” เมสเซอโรวกล่าวถึง “นิตยสารสำหรับผู้ใหญ่” ที่ถูกพบที่บ้านของแจ๊คสัน เขากล่าวว่า ไมเคิล ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขาอ่าน Playboy และ Hustler บ้างเป็นบางครั้ง โดยให้พนักงานของเขาไปซื้อให้ที่ตลาดแถวบ้าน อย่างไรก็ตาม ไมเคิลปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่เคยให้เด็กๆดูนิตยสารพวกนี้เลย เมสเซอโรวกล่าวว่า นิตยสารเหล่านี้ที่สเนดดอนกล่าวในแถลงการณ์เปิดคดีของเขาว่า เป็นนิตยสารที่แจ๊คสันใช้เพื่อล่อลวงเด็กๆอาร์วีโซ่นั้น ในความเป็นจริงแล้ว ถูกเก็บล็อคอยู่ในกระเป๋าเก็บเอกสารที่ซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าด้านหลัง “คุณแจ๊คสันจะบอกกับพวกท่านว่า เขาจับได้ว่าเด็กๆพวกนี้แอบดูนิตยสารของเขา เขาจึงดึงเอานิตยสารออกมาจากเด็กๆและเอาไปเก็บล็อคไว้ในกระเป๋าเก็บเอกสารของเขา” เมสเซอโรวกล่าว แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 13:16:59 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:15:56

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับสารคดีของบาร์เชีย ที่จะเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่ถูกนำเสนอในการพิจารณาคดีนั้น เมสเซอโรวต้องการชี้ให้เห็นว่า ไมเคิล แจ๊คสัน ไม่ได้รับเงินตอบแทนใดๆจากการถ่ายทำสารคดีชิ้นนี้เลย ข้อตกลงเดิมระหว่างแจ๊คสันกับบาร์เชีย คือผลกำไรจากสารคดีชิ้นนี้จะถูกบริจาคให้กับองค์กรการกุศลในประเทศอังกฤษ จริงๆแล้วทั้งสองตกลงกันเอาไว้ว่าจะบริจาคเงินจากโปรเจคนี้เป็นจำนวน 250,000 ปอนด์ให้กับการกุศล เมสเซอโรวกล่าวว่า อันที่จริง ไมเคิลตกลงถ่ายทำสารคดีชิ้นนี้ด้วยเหตุผลทางการกุศล และถ้าในอดีต ไมเคิลจะถูกกล่าวหาว่าเขาชอบนำเสนอตัวเองให้ดูยิ่งใหญ่หรือชื่นชมเยินยอตัวเองเกินไป ในสารดดีของบาร์เชียเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ในสารคดีชิ้นนี้ที่ไมเคิลยอมเปิดบ้านของเขานั้น ทุกอย่างเป็นไอเดียของไมเคิล ที่อยู่บนคำสัญญาของบาร์เชีย ว่าจะสร้างสารคดีที่ช่วยเหลือเด็กๆทั่วโลก เมสเซอโรวชี้ให้เห็นว่าไมเคิลเชื่อบาร์เชียอย่างเต็มหัวใจจนเขาไม่รู้สึกว่าจะต้องมีการต่อรองอะไรใดๆกับนักข่าวชาวอังกฤษผู้นี้ ไมเคิลไว้ใจบาร์เชียมากจนเขาคิดว่าเขาไม่ต้องมีคนกลาง ไม่ต้องมีการตกลงล่วงหน้าถึงตารางงานหรือค่าตอบแทนต่างๆ จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:17:51

ความคิดเห็นที่ 4 “ไมเคิลไว้ใจบาร์เชีย ว่าบาร์เชียจะให้เกียรติเขาและนำเสนอเขาอย่างถูกต้อง เหมาะสม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น” เมสเซอโรวกล่าว “เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณแจ๊คสันดึงดูดแต่ผู้คนที่เสาะแสวงหากำไร เพราะว่าเขาเป็นบุคคลทางดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก” เมสเซอโรวกล่าวกับคณะลูกขุน “เราจะแสดงให้ท่านเห็นว่า สิ่งนี้แหละคือสิ่งที่สร้างปัญหาในชีวิตให้กับเขา คุณแจ๊คสันเป็นศิลปิน เขาคือผู้มีความคิดสร้างสรรค์ที่เคลื่อนขยับร่างกายไปกับจังหวะเสียงกลอง” “คุณบาร์เชียดูจะแปลกใจตอนที่ไมเคิลบอกกับเขาว่า “ผมมีต้นไม้อยู่ที่บ้าน ผมชอบปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนนั้นตามลำพัง ผมรู้สึกสงบนิ่งและผมก็จะทำสมาธิ หลายๆครั้งพระเจ้าก็ประทานประกายแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้ผมเอาไปใช้ในงานที่ผมทำได้ดี”” เมสเซอโรวกล่าว “เราจะแสดงให้ท่านเห็นว่า ที่ Neverland คุณแจ๊คสันมักจะตื่นขึ้นมาตอนตีสาม เขาจะเดินออกจากบ้านเพียงลำพังไปภายใต้ท้องฟ้า พระจันทร์และดวงดาว เขาทำสมาธิในแบบของเขา และรอให้ความคิดและแรงบันดาลใจเกิดขึ้น” จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:18:47

ความคิดเห็นที่ 5 ในวันแรกที่เริ่มมีการเบิกพยานขึ้นให้การ ไมเคิลแต่งตัวราวกับทหารชั้นนายพล โดยใส่แขนทุกข์สีทอง เสื้อกั๊กสีแดงและสวมแจ๊คเก๊ตขลิบทอง เขานั่งอย่างสงบนิ่งที่โต๊ะของจำเลย เขาดูมีอำนาจอันประหลาดเหนือผู้คน ในครอบครัวของเขามีเพียงแคทเธอรีนและแจ๊คกี้ผู้ซึ่งเป็นพี่ชายเท่านั้นที่อยู่กับเขา ในเช้าวันนั้น ขณะที่ไมเคิลเดินไปที่โต๊ะของจำเลย แคทเธอรีนเอื้อมมือเข้ามาดึงเส้นไหมออกจากแจ๊คเก็ตของไมเคิล ภายใต้บรรยากาศความกดดันของห้องพิจารณาคดีแห่งนี้ เธอปฏิบัติหน้าที่แม่ที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนจนหยดสุดท้ายเลยจริงๆ เช่นเดียวกันกับทุกวัน ไมเคิลยิ้มให้กับคณะลูกขุนที่ทยอยเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี เขาสวมแว่นขอบโลหะที่ทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่และเป็นจริงเป็นจังอย่างที่คนทั่วไปไม่เคยได้เห็นมาก่อน ก่อนที่การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้น พวกนักข่าวต่างเริ่มซุบซิบกันถึงเครื่องสำอางบนและแป้งรองพื้นสีขาวบนใบหน้าของไมเคิล สื่อเหล่านี้ชอบคุยกันถึงเครื่องคลุมเครือ เพื่อที่จะหาเรื่องเอาไปทำข่าวล้อเลียนซุเปอร์สตาร์ผู้นี้ และถึงแม้ในขณะนี้ทุกคนกำลังอยู่ในห้องพิจารณาดี สถานที่ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นเรื่องจริงและเป็นจริงเป็นจัง และถึงแม้ไมเคิลจะไม่ได้แสดงออกอะไรที่จะทำให้พวกนักข่าวเอาไปเขียนได้เลยว่าเขาเพี้ยนหรือแปลก แต่นั่นก็ดูเป็นเพียงสิ่งเดียวที่คนหวังจะได้เห็น แกรี่ โคลแมน อดีตดาราทีวี ที่ตอนนี้อยู่หน้าศาลเพื่อมาทำสารคดีให้กับรายการโชว์ตลกรายการหนึ่ง เริ่มล้อเลียนไมเคิล ก่อนหน้านี้ไม่นาน โคลแมนกล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้ว ไมเคิลก็ได้คณะลูกขุนที่เป็นพวกเดียวกับเขา “เขาไม่ได้เป็นคนดำมาตั้งแต่ปี 1988 แล้ว” โคลแมนเสียดสี แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 13:21:10 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:19:58

ความคิดเห็นที่ 6 เพื่อเป็นการเปิดคดี ฝ่ายอัยการเบิกตัว มาร์ติน บาร์เชีย ขึ้นให้การ นักข่าวจากสหราชอาณาจักรผู้ซึ่งเคยทำงานที่ BBC และอยู่ในวงการสื่อมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ผู้นี้ บอกกับคณะลูกขุนว่า ก่อนที่จะทำสารคดีเกี่ยวกับแจ๊คสัน เขาเคยทำหนังเกี่ยวกับ “Satanic Lovers” และเคยสร้างหนังความยาว 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับฆาตรกรต่อเนื่อง 1 เรื่อง เขากล่าวว่าผลงาน 2 ชิ้นนี้ สร้างชื่อเสียงให้เขาก่อนปี 1995 ก่อนที่เขาจะได้สัมภาษณ์เจ้าหญิงไดอาน่า บาร์เชียสร้างหนังสารคดีความยาวกว่า 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับไดอาน่า ที่ได้ออกฉายทาง ITV ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ ตอนที่บาร์เชียเข้ามาให้ห้องพิจารณาคดี แคทเธอรีนถึงกับลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องพิจารณาคดีนั้นทันที เธอไม่สามารถทนอยู่ร่วมห้องเดียวกับชายผู้ซึ่งหลอกลวงลูกชายของเธออย่างไร้ยางอายได้ และถึงแม้ในเวลาต่อมา แคทเธอรีนจะกลับเข้ามาและนั่งฟังการพิจารณาคดีจนตลอด แต่การกระทำนี้ก็ไม่วาย ตกเป็นหัวข้อให้นักข่าวโจมตีแจ๊คสันได้อีก บาร์เชียบอกกับคณะลูกขุนว่าหนังสารคดีของเขา Living with Michael Jackson ถูกผลิตขึ้นโดย Granada Productions และได้ออกอากาศครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2003 และในขณะที่หนังสารคดีชิ้นนี้ถูกนำขึ้นมาเป็นหลักฐานนั้น ผู้พิพากษาได้กล่าวเตือนกับคณะลูกขุนว่า DVD อันนี้ไม่ได้ถูกนำมาเป็นหลักฐานเพราะว่ามันเป็นความจริงทั้งหมด ผู้พิพากษาอธิบายว่า สิ่งที่อยู่ใน DVD นี้ มีเพียงบางอย่างเท่านั้นเป็นความจริง เป็นการเตือนให้คณะลูกขุนดูสิ่งที่เหลือใน DVD ให้เป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:22:14

ความคิดเห็นที่ 7 หลักจากนั้น หลักฐานชิ้นแรกชิ้นนี้ก็ได้ถูกนำขึ้นฉายบนจอขนาดยักษ์ในห้องพิจารณาคดี คณะลูกขุนและผู้สังเกตการณ์ในห้องทุกคนถูกนำไปยังโลกที่ภาพลักษณ์ของไมเคิล แจ๊คสัน นั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน ในขณะที่พวกเขานั่งตื่นตะลึงไปกับความงดงาม ตระการตาของ Neverland นั้น พวกเขาก็รู้สึกประทับใจในตัวซุปเปอร์สตาร์คนนี้ ทุกคนเริ่มโยกตัวตามเสียงเพลงในสารคดีที่บาร์เชียได้ใส่เอาไว้ ขณะที่เสียงเพลงของไมเคิลดังไปทั่วห้อง ผู้คนเริ่มรู้สึกเพลิดเพลินและไกวไปกับเสียงเพลง ลูกคุณบางคนเคาะมือตามจังหวะของเสียงเพลง แม้แต่ตัวไมเคิลเองก็อดโยกหัวไปตามจังหวะไม่ได้ มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังอยู่เลยทีเดียว แต่มันก็รู้สึกสนุกอยู่แค่ช่วงแรกเท่านั้น ลูกขุนดูขณะที่ไมเคิลคุยกับบาร์เชียถึงสวนสนุกของเขา และการที่เขาชอบขึ้นไปเล่นเครื่องเล่นมากเพียงใด พวกลูกขุนเริ่มสังเกตเห็นถึงระดับของความใกล้ชิดและไว้วางใจที่มีอยู่ในสัมภาษณ์ชิ้นนี้ มันเป็นความใกล้ชิดและความไว้ใจของไมเคิล ที่คนส่วนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ไมเคิลกำลังเปิดเผยถึงจิตวิญญาณของเขา เขาพูดถึงความชอบที่เขามีต่อเกมส์และเครื่องเล่นอย่างเป็นทำชาติ ไม่ได้ซักซ้อมมาก่อน ในขณะที่ไมเคิลและบาร์เชียกำลังเดินอยู่ในบริเวณสวนสนุก ไมเคิลเปิดเผยว่าเขารู้สึกว่าชิงช้าสวรรค์เป็นสิ่งที่สงบและผ่อนคลาย เขาบอกกับบาร์เชียว่า เขามักจะขึ้นไปเล่นบนเครื่องเล่นคนเดียวเสมอในยามค่ำคืน ในห้องพิจารณาคดี บาร์เชียที่นั่งอยู่ในคอกพยานไม่กล้าเผชิญหน้ากับไมเคิล เขานั่งก้มหัวตลอดเวลา ในขณะที่หนังสารคดีถูกฉาย บาร์เชียได้รับอนุญาตให้ลงมานั่งรวมกับกับกลุ่มคนที่อยู่ในนั้นเพื่อความสะดวก บาร์เชียดูเหมือนจะยิ้มเยาะและแสดงตนว่าเหนือกว่านักข่าวคนอื่นในที่นั้น เขาดูพอใจกับตัวเอง เขาฉลาดแกมโกงแล้วก็ภูมิใจในตัวเองมากๆ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 13:25:30 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:24:47

ความคิดเห็นที่ 8 ในขณะที่ดู DVD ทุกคนต่างเห็นได้ชัดว่า สำเนียงอังกฤษและสุ่มเสียงอันอ่อนโยนซ่อนความฉลาดแกมโกงของบาร์เชียนั้น คือสิ่งที่ทำให้ไมเคิลประทับใจ ทุกคนดูขณะที่บาร์เชียหลอกล่อซุเปอร์สตาร์ผู้นี้ บาร์เชียกล่าวเยินยอและแสดงทีท่าว่าประทับใจในพรสวรรค์ของไมเคิล สำหรับบาร์เชียแล้วการแสดงเหล่ามันเป็นเรื่องง่ายดายมาก บาร์เชียสามารถทำให้ราชาเพลงป๊อปเปิดเผยทุกอย่างในโลกของเขาได้ด้วยคำสรรเสริญและคำมั่นสัญญา บาร์เชียได้รับความไว้วางใจจากไมเคิลอย่างมาก มากจนไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ แต่ในตอนท้าย บาร์เชียก็ใช้ไมเคิล แจ๊คสัน ในการสร้างเรื่องราวที่หลอกลวงขึ้นมา ตอนนี้ ลูกขุนกำลังดูตอนที่ไมเคิลพาบาร์เชียไปเล่นขับรถแข่งในบริเวณที่ 2,700 เอเคอร์ของ Neverland ไมเคิลดูเหมือนเด็กๆ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่ทั้งคู่เล่นแข่งรถโกคาร์ตกันอยู่ บาร์เชียก็เล่นด้วย ทำเป็นมีความสุขทีได้เล่นแบบเด็กๆ บาร์เชียแข่งรถกับไมเคิล ทุกอย่างดูเป็นไปอย่างราบรื่น ทันใดนั้นเองบาร์เชียก็ออกตัวรถตัดหน้าไมเคิล ลูกขุนดูขณะที่ไมเคิลตะโกน “ขี้โกง เฮ้ คุณขี้โกงนี่” ช่างเป็นคำที่ตรงเสียนี่กระไร จบ part I ค่ะ จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:27:14

ความคิดเห็นที่ 9 โอ้ววว ถึงกะตกใจ เราเพิ่งแปลพาร์ท 5 ได้สองหน้า T_T ใจเย็น ๆ นะคะ ขอเราผ่านวิกฤติช่วงนี้ไปก่อน แต่ช่วงนี้ก็จะพยายามทยอย ๆ ทำค่ะ จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:23:46

ความคิดเห็นที่ 10 คุณแอร์ เราก็ยังแปล chapter 4 ไม่เสร็จเลยค่ะ แต่เนื่องจากมันยาวมากจิงๆเลยคิดว่าแบ่งลงดีกว่า และพรุ่งนี้เราก็จะไม่อยู่อีกแล้ว และก็ไม่รู้ว่าที่เหลือจะได้แปลอีกเมื่อไหร่แต่คิดว่าจะเอาหนังสือติดไปด้วย คุณแอร์ทำตามที่คุณแอร์สะดวกเลยค่ะ ไม่ต้องสนใจเราเพราะเราบ้าค่ะ แปลเสร็จแล้วต้องเอาลงเลย real-time สุดฤทธิ์ เก็บไม่เป็น กั๊กไม่เป็นค่ะ 555555 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:43:37

ความคิดเห็นที่ 11 แปลกันไปสี่ห้าแชปเตอร์แล้ว หนังสืออิชั้นยังไม่มาเลย เหอ สงสัยได้อ่านภาษาไทยหมดก่อนแน่เลย ขอบคุณคุณ PK เช่นเคยค่ะ เชียร์อัพ แอร์รี่ .... ^^ จากคุณ : nangyoon เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 17:45:43

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนอื่นใด ขอขอบคุณท่านพี่หม่าฮั่นและคุณ PK มากที่สุดของที่สุดในการ Duet การแปลร่วมกัน ทำให้เราที่นี่มีโอกาสได้อ่านพากย์ไทย และคงเป็นที่เดียวด้วยกระละมัง   โอช่างโชคดีจิงๆที่ได้มีโอกาสเห็นภาพแบบนี้. ส่วน บทนี้ เห็นพวกเด็กเกเร ฟังแล้วยิ่งเกลียดเด็ก -*-  ไปรื้อค้นข้าวของบ้านเค้าทั้งที่เค้าก็อุตส่าห์ เปิดใจให้เข้ามา แค่นี้ก็รู้แล้ว ใครเลวกันแน่  นอย!!!  แม้แต่เรื่องส่วนตัวในบ้านเเค้าก็ยัง ต้องถูกขุดคุ้ยออกมาทุกตารางนิ้ว..โถเอยย T_T i บ้าเชี้ย อีก คงไม่ต้องแช่งแล้วมั้งตานี่ได้ข่าวว่ากะลังจะตายอยู่แล้วพอดี   น่าส่งพวงหรีดล่วงหน้าไปให้จิงๆ  กร๊อดดดดด ปล.ขอบคุณท่านพี่หม่าฮั่นและคุณ PK อีกครั้งด้วยนะคะ ฮึ่มมม แค้นมัน... จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 18:58:05

ความคิดเห็นที่ 13 ตามมาอ่านค่ะ วันนี้เพิ่งได้นั่งไล่อ่านตั้งแต่ part แรก เล่นเอาน้ำตาซึมเลยค่ะ คิดถึงไมเคิลที่สุด.... ขอบคุณ คุณPK (myriostigma)  และคุณแอร์ริโกะ มากๆเลย จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : Walk Two Moons เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 19:29:05

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่า พี่แอร์รี่ & คุณ PK สุดน่ารัก จากคุณ : Poy_Kun เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 21:00:26

ความคิดเห็นที่ 15 โหย เพิ่งรู้ว่าeพวกเด็กเปรตก็แผลงฤทธิ์ในบ้านไมเคิลกัน (นึกว่าหงิมๆปล่อยให้พ่อแม่บงการ) นอกจากไม่สำนึกบุญคุณคนอื่นแล้ว ยังร่วมมือกันทำร้ายเค้าอีก เลวมากกกกก . ขอบคุณคุณ Pk มากนะคะ อ๊ะ หม่าฮั่น ก็ร่วมโครงการด้วยหรือ นี่เรากำลังจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นฉบับภาษาไทยทั้งเล่มเลยหรือนี่ โอววว ขอบคุณทั้งสองมากๆเลยนะคะ ซึ้งใจจังเลย T^T . ปล. นอกเรื่อง - - "ไมเคิล ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขาอ่าน Playboy และ Hustler บ้างเป็นบางครั้ง โดยให้พนักงานของเขาไปซื้อให้ที่ตลาดแถวบ้าน" แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 21:59:09 แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 21:56:37 จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 21:53:34

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งกลับมาอ่านอีกที เพิ่งเห็น งี้แหละน๊า "ลูกเสือ ลูกตะเข้" จริง ๆ เด็ก เวงงงงง เอ๊ยยยยยย เคือง จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 22:59:55

ความคิดเห็นที่ 17 ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณ PK & คุณ แอร์รี่ ที่น้ำใจประเสริฐยิ่งนัก แปลให้เพื่อนๆได้อ่านกันอย่างสนุกสนาน ขอนอกเรื่องแบบท่านเปาด้วย.......อ่านถึงตรงนั้นแบบว่า เอิ่มมมมมมมมมม จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 23:19:47

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณ PK อ่ะค่ะ อ่านแล้วก็แค้นใจ แต่พออ่านมาถึงตรงนี้ "ไมเคิล ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขาอ่าน Playboy และ Hustler บ้างเป็นบางครั้ง โดยให้พนักงานของเขาไปซื้อให้ที่ตลาดแถวบ้าน" โอ้ เฮียเรา ไม่เบาจริง ๆ ด้วย จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:50:26

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณคุณ PK มาก ๆ เลยนะคะ ^^ ขอเชียร์ต่อไป ให้กำลังใจเต็มที่เลยจ้า หม่าฮั่นด้วยอีกคนนะ เค้าเป็นกำลังใจให้ตัวเองด้วย เย้ ๆ ^^ และขอแอบนอกเรื่องแบบท่านเปาด้วยคนสิ ฮี่ ๆ จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 23:42:25

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณ คุณPK และหม่าฮั่นนะคะ   ขอเป็นกำลังใจให้แปลต่อนะคะ จากคุณ : superturbo เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 10:49:30

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณมากครับ จากคุณ : blue gourami เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 15:10:11

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากๆค่า ^_^ จากคุณ : ต้าปิ่ง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 10:04:00