ความคิดเห็นที่ 1 รูปไม่ขึ้น นี่คือ Samantha ค่ะ จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:17:57

ความคิดเห็นที่ 2 ฉันไม่รู้จะเริ่มถ้อยแถลง ของฉันว่าอย่างไรดี มันเต็มไปด้วยความรู้สึกโศกเศร้า เสียใจ โกรธ สับสนและรู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่อย่างไรฉันก็ต้องบอกเล่าเรื่องนี้ให้กับพวกคุณรับรู้เพราะว่ามันคุ้มค่าที่จะทำ มันคงไม่ทำให้ไมเคิลกลับคืนมาและบรรดาอีแร้งรอบๆตัวเขาก็คงยังต่อสู้แย่งทรัพย์สมบัติที่เหลืออยู่ในกองมรดกของเขาต่อไป พวกเราไม่ได้เริ่มแคมเปญนี้ขึ้นมาเพื่อจะหยุดสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราต้องการให้ความเป็นธรรมกับไมเคิลโดยบอกกับคนที่เราสามารถบอกได้ว่า ไมเคิลไม่สบายและเขาก็หันมาหาพวกเราจริงๆ พวกเราติดค้างไมเคิลอยู่ เราถึงได้ต้องมาบอกความจริงกับพวกคุณถึงสิ่งที่ไมเคิลบอกและแสดงให้พวกเราเห็นในช่วงอาทิตย์ท้ายๆของชีวิตเขา เขาแสดงความโกรธและระทมทุกข์ ทั้งทางคำพูด ทางร่างกายและสภาวะจิตใจ ฉันและหลายๆคนชื่อว่า เขากำลังร้องขอความช่วยเหลือแต่คนรอบๆตัวเขาไม่มีใครช่วยเขาเลย คนพวกนี้ถูกความละโมบ ความกลัว ความเห็นแก่ตัว เข้าครอบงำจนทำให้ตาบอดและขาดความเมตตาไปจนสิ้น ฉันเป็นแฟนเพลงไมเคิล แจ๊คสัน มากว่า 20 ปี แต่ฉันเพิ่งมาเริ่มเป็น Follower ของไมเคิลในช่วง 8 เดือนสุดท้ายในชีวิตของไมเคิล ที่ฉันบอกว่าฉันเป็น Follower ฉันหมายความว่า ฉันตามไมเคิลไปทุกๆที่เป็นประจำเกือบทุกวัน ฉันได้เห็นว่าเขาไปที่ไหน เขาเป็นอย่างไร คนรอบๆตัวเขาเป็นอย่างไร ฉันได้เห็นสภาพร่างกายและจิตใจของไมเคิล และได้เห็นว่ามันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงอย่างรวดเร็วเพียงใดในช่วงอาทิตย์ท้ายๆของชีวิตไมเคิล นี่คือเหตุการณ์ก่อนหน้าไมเคิลเสียชีวิตเพียงไม่นานที่ฉันจำได้ พวกเรารู้ว่าเวลาของไมเคิลกำลังจะหมดลงและเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เราพยายามเข้าแทรกแซงแล้ว แต่พวกเราก็ช้าเกินไป แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:29:54 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:29:14 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:19:29

ความคิดเห็นที่ 3 เดือนพฤศจิกายน 2008 ตอนนั้นไมเคิลอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน Bel-Air ไมเคิลออกมาพบพวกเราข้างนอกและพูดคุยกับพวกเราอยู่พักหนึ่ง และเขาก็ใจดีมาก เขาสั่งอาหารจากภัตตาคารโปรดของเขามาเพื่อตัวเขาเอง และยังเผื่อแผ่มาถึงพวกเราด้วย ตอนนั้นเขาดูดีมาก สุขุมและชัดเจน ไม่มีอะไร “ผิดปกติ” เกี่ยวกับตัวเขาในวันนั้น เขาคุยกับพวกเราหลายเรื่อง พร้อมทั้งแย้มว่ากำลังมีโปรเจคหลายๆอย่างเกิดขึ้น ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่ากำลังมีการจัดเตรียมคอนเสิร์ตอยู่ สองสามอาทิตย์ต่อมาไมเคิลมีประชุมเยอะมากที่โรงแรม ซึ่งต่อมาเราจะรู้ว่าประชุมเหล่านี้เป็นประชุมเกี่ยวกับคอนเสิร์ตนั่นเอง หลังจากได้มีการแถลงข่าวเรื่องคอนเสิร์ตในเดือนมีนาคม ไมเคิลก็เริ่มมาซ้อมที่ Center Staging ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม ตอนนั้นเองที่เราเริ่มสังเกตเห็นว่าไมเคิลไปหาหมอไคลน์บ่อยมากขึ้น มากขึ้น ความถี่และระยะเวลาที่ไมเคิลใช้อยู่ในคลีนิคหมอไคลน์เริ่มส่งสัญญาณบางอย่างให้กับพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเริ่มสังเกตถึงผลกระทบที่มันมีต่อไมเคิล ไมเคิลมักจะออกจากคลินิกของหมอไคลน์ในสภาพเบอๆมึนงง เราเริ่มตกใจกันแล้วว่าการรักษานี้ต้องมียาอันตรายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ มันไปถึงจุดที่พวกเราคิดกันว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะให้จดหมายและของขวัญกับไมคิลหลังจากที่เขาเพิ่งออกมาจากคลินิก เพราะไมเคิลก็จะรับไปเซนต์แล้วส่งกลับคืนมา ทั้งๆที่ของเหล่านั้นเป็นจดหมายที่เขียนถึงไมเคิล ไม่ใช่รูปถ่ายจากพวกนักล่าลายเซนต์ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:32:23 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:20:14

ความคิดเห็นที่ 4 วันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2009 มีบางอย่างส่งสัญญาณเตือนฉันอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้ง นั่นเป็นครั้งแรกที่ไมเคิลไปหาหมอไคลน์ในวันสุดสัปดาห์ และอยู่จนถึงเวลามืด  ไมเคิลอยู่ที่นั่นตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 3 ทุ่มครึ่ง ตอนเขากลับออกมา ตัวเขามีกลิ่นยาแรงมาก ฉันคิดว่าไม่เป็น rubbing alcohol ก็ Ether วันที่ 29 พฤษภาคม ไมเคิลพาพวกเราเข้าไปใน Center Staging เพื่อพูดคุยและบอกกับพวกเราถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น (หลังจากที่มีแฟนบางคนบอกไมเคิลว่า พวกเขาไม่สามารถจองตั๋วได้ และการจัดการการขายตั๋วดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เพราะทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมดและถามไมเคิลว่าไมเคิลรู้เรื่องเหล่านี้หรือไม่) ไมเคิลกล่าวว่าเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่ามีการจัดที่นั่ง พร้อมทั้งบอกว่าเขาจะเข้าไปจัดการปัญหาเหล่านี้ เขาบอกกับพวกเราว่า เขาเข้านอนไปโดยที่เข้าใจว่าเขาจะขึ้นแสดงเพียง 10รอบ แต่ตอนเขาตื่นขึ้นมากลับพบว่ามันกลายเป็น 50รอบ! เขาพูดว่า “พวกเขาทำไปโดยที่ผมไม่ได้รับรู้หรือเห็นชอบด้วยเลย เห็นได้ชัดเลว่าพวกเขาทำไปเพราะอะไร” ไมเคิลกล่าวเพิ่มเติมว่า “เขาทำตารางผิดด้วย มันควรจะเป็น “หยุดแสดง, วัน, หยุดแสดง, วัน, หยุดแสดง, วัน, หยุดแสดง, วัน” (ที่จริงแล้วเขากำลังหมายความว่า วันแสดง, วันหยุด, วันแสดง, วันหยุด, วันแสดง, วันหยุด) แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:34:06 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:21:05

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำเสียงของเขาแตกพร่าเหมือนเขากำลังจะร้องไห้ออกมา เขายกมือขึ้นประสานขึ้นไหว้บนหน้าอกและยืนนิ่งเงียบ พวกเราก็เงียบไปกับเขาด้วย มันเป็นช่วงเวลาอันเคร่งเครียดที่เต็มไปด้วยความเศร้าและวิตกกังวล วันนั้น ฉันกลับออกมาด้วยความรู้สึกที่ว่า ความกังวลต่างๆของพวกเรา ไม่ได้เป็นเรื่องที่เราคิดกันไปเอง แต่มันเป็นเรื่องจริง แต่โชคก็ไม่เข้าข้าง หลังจากวันนั้น ข่าวนี้ก็หลุดออกไปสู่สาธารณชน เราไม่รู้ว่าข่าวนี้หลุดออกไปได้อย่างไร แต่ AEG ออกมาปฏิเสธอย่างรวดเร็วและบอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก เหตุการณ์นี้ประจวบเหมาะกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพวกเราที่เคยได้ใกล้ชิดกับไมเคิล หลังจากที่ AEG รู้ว่าไมเคิลพูดกับพวกเราว่าอย่างไร ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป พวกบอร์ดีการ์ดคอยกันไม่ให้พวกเราเข้าใกล้ไมเคิล และด้วยเหตุผลบางอย่างไมเคิลก็ “ไม่ว่าง” อีกต่อไป ด้วยความคุ้มกันที่แน่นหนา (ถึงแม้ว่าเราจะยังได้พบและได้พูดคุยกับไมเคิลบ้าง) ไมเคิลเริ่มไปหาหมอบ่อยขึ้น และเราก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่มากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำหนักตัวของไมเคิล เขาดูผอมมาก มีบางสิ่งบางอย่างที่มันผิดปกติ แม้กระทั่งบอร์ดี้การ์ดของเขาก็ทำตัวแปลกๆและเปลี่ยนไป แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:35:30 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:22:39 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:22:06

ความคิดเห็นที่ 6 วันที่ 1 มิถุนายน ไมเคิลเริ่มไปซ้อมที่ Forum ใน Inglewood สองสามอาทิตย์ถัดมา ไมเคิล อามีร์ (ผู้ช่วยส่วนตัวและบอร์ดี้การ์ดของไมเคิล) บอกว่า ไมเคิลเหนื่อยมากและเขาไม่ได้นอนเลยตลอดสุดสัปดาห์เพราะว่า AEG คอยโทรมาไม่หยุด นั่นเป็นช่วงเวลาที่ไมเคิลเริ่มไปซ้อม สายขึ้น สายขึ้น และบางทีก็จะยกเลิก ไม่ไปเลย หนึ่งในครั้งนั้นก็คือวันที่ 12 มิถุนายน ไมเคิลไปซ้อมสาย และตอนที่มาถึง  เขาไม่ได้หยุดทักทายพวกเราเหมือนทุกครั้ง หลังจากนั้นไม่ได้นาน บอร์ดี้การ์ดของเขาขับรถออกมาหาพวกเรา และมาจอดรถรออยู่ห่างจากพวกเราไปประมาณ 1 บล็อก โดยที่ไม่บอกว่ามาทำอะไร ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสองสามทุ่ม พอเวลาประมาณเที่ยงคืน Biggie หนึ่งในบอร์ดี้การ์ดของเขาก็เดินมาบอกพวกเราว่า “ไมเคิลบอกว่านี่ ‘อันตราย’”(?!) และ “ไมเคิลไม่ได้อยากมาซ้อมคืนนี้” “เขาเหนื่อย” หลังจากนั้น พวกเราก็ถูกขอให้ยืนเรียงคิวกันเพื่อที่จะได้ไปพบกับไมเคิลตามลำพังคนละ 15วินาที ทุกอย่างดูแปลกๆสำหรับพวกเรา เราไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นแต่แน่นอนว่าเราก็เข้าคิวตามที่ถูกขอร้อง และได้ใช้เวลากับไมเคิลทุกคน แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเลยเพราะว่าพวกเราถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:24:20

ความคิดเห็นที่ 7 ในช่วงวันท้ายๆของไมเคิล ฉันสังเกตว่า อัลเบร์โต้ อัลวาเรซ บอร์ดี้การ์ดของไมเคิลดูเป็นกังวลจนถึงกับเหงื่อตก พวกเราถามว่าไมเคิลสบายดีหรือเปล่า เขาบอกเราว่าไมเคิลกำลัง “โฟกัส” และกำลังอยู่ใน “อารมณ์เตรียมทัวร์” ซึ่งก็ไม่ได้ตอบคำถามของเรา แต่เราเห็นๆกันอยู่ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น ว่าไมเคิลเปลี่ยนไปมาก เขาดูมึนๆและผ่ายผอมเหลือเกิน และก็เห็นได้ชัดว่าบอร์ดี้การ์ดของเขากำลังเป็นกังวลกับอะไรบางอย่าง ที่จริง แทนที่จะมีบอร์ดี้การ์ดเพียงแค่ 2-3 คนหลังประตูรั้วบ้านของเขา แต่มันกลับเพิ่มจำนวนขึ้นมาเป็น 2-3 เท่า และในคืนที่ไมเคิลเสียชีวิต ฉันนับได้ถึง 12 คน มีบางอย่างผิดปกติ บางอย่างเปลี่ยนไป และเราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำอะไรซักอย่าง ด้วยความพยายามที่จะเข้าแทรกแซงและช่วยชีวิตไมเคิล พวกเรากลุ่มหนึ่งเขียนจดหมายให้กับไมเคิล 1 อาทิตย์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ความตั้งใจของพวกเราก็คือ ต้องการให้จดหมายเหล่านี้กับไมเคิลเพื่อเป็นบอกกับไมเคิลว่าเรารู้สึกว่ากำลังมีอะไรบางอย่างไม่ปกติ เรารู้ว่า ไม่ช้าก็เร็วไมเคิลต้องตาย ถ้าไม่มีใครตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง คนรอบๆตัวเขาไม่มีใครสนใจพอที่จะทำ หลังจากที่จดหมายทั้งหมดถูกรวบรวมและได้มีการวางแผนกันอย่างดีแล้ว เราตัดสินใจที่เข้าแทรกแซงในวันที่ 24 มิถุนายน 2009 เราประสบความสำเร็จในการนำจดหมายไปให้ไมเคิลในคืนนั้น คืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่ฉันได้เห็นเขา ตอนที่เขากำลังออกจาก Staples Center เวลาประมาณ ตีหนึ่งครึ่งของรุ่งเช้าของวันที่ 25 มิถุนายน 2009 นี่เป็นจดหมายที่ฉันเขียนให้เขา: แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:37:56 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:25:20

ความคิดเห็นที่ 8 “ไมเคิล, ฉันชื่นชมและรักคุณมาตั้งแต่ฉันอายุ 14ปี ตอนที่คุณช่วยชีวิตฉันครั้งแรก คุณช่วยชีวิตฉันตลอดมา มันอาจจะฟังดูแปลกสำหรับคนที่ไม่รู้จักฉันเลย แต่คุณทำให้ฉันยังก้าวต่อไป คุณให้ความหวังและพลังกับฉัน คราวนี้ถึงตาของฉัน ถึงตาของพวกเราแล้วที่จะช่วยคุณ และบอกคุณว่าพวกเราอยู่ตรงนี้และเราอยากจะช่วยคุณ ได้โปรดเข้าใจว่าเรารักคุณมากจนเราไม่สามารถจะทนสูญเสียคุณไปได้ คุณมีความหมายกับพวกเราเหลือเกินและเราก็รู้สึกเจ็บปวดมากที่ต้องเห็นคุณไม่มีความสุขอย่างที่เราเห็นในระยะหลังมานี้ ไม่ว่าคุณจะพยายามปกปิดมันมากเพียงใด เรารู้สึกและเห็นได้ว่ากำลังมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ไมเคิล อย่าทำอะไรที่คุณไม่อยากทำ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตหรืออะไรก็ตามที่คนอื่นอยากให้คุณทำเพื่อหาเงิน อย่าให้ใคร หรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้คุณรู้สึกกดดันและเครียดจนคุณนอนไม่หลับ เป็นกังวล หรือทำอะไรก็ตามที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณ ไม่มีอะไรคุ้มค่าและคุณไม่ได้ต้องพิสูจน์ตัวคุณเองกับใครเลย เพราะคุณได้ทำมันไปแล้ว มากกว่า 1 ครั้งด้วย ฉันต้องการคุณและรักคุณอย่างสุดซึ้งด้วยใจจริง พวกเราทุกคนรักและต้องการคุณ ซาแมนต้า” แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 14:49:48 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 13:38:55 จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:26:25

ความคิดเห็นที่ 9 ท้ายที่สุด ฉันอยากจบแถลงการณ์ฉบับนี้โดยพูดอะไรบางอย่างให้ชัดเจน ฉันไม่ได้บอกว่าไมเคิลดูเมายาหรือมึนงงตลอดเวลา ฉันอยากให้ทุกคนเข้าใจในข้อนี้ พวกเราไม่ได้มองว่าเขาเป็นขี้ยา แต่เราเป็นกังวล (ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง) ว่าเขาเครียดและถูกกดดันมากจนเขาไม่สามารถกินและดำเนินชีวิตได้โดยไม่ใช้ยา และคนรอบๆตัวเขาก็รู้ว่าเขาไม่สบายแต่เลือกที่จะปิดหูปิดตาเพื่อเงิน หรือถ้าจะมีเหตุผลอื่นอีกก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ แต่ฉันรู้ในสิ่งที่ฉันเห็น และฉันก็รู้ว่า คนๆนั้นไม่ใช่ผู้ชายที่แข็งแรง มีความสุขและฟิตมากพอที่ขึ้นเวทีภายในเวลาไม่ถึง 3 อาทิตย์ และคนเหล่านั้นก็รู้เหมือนกัน ถึงเวลาที่ความจริงต้องได้รับการเปิดเผยแล้ว ซาแมนต้า จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:27:34

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากค่ะคุณ PK เห็นภาพมากๆเลยค่ะ พูดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้ T-T จากคุณ : Winter Wonderland เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:52:55

ความคิดเห็นที่ 11 พูดไม่ออกเลยจริง ๆ ไอ้พวกบ้านี้มันทำอะไรกับไมเคิล ทำอะไร ไอ้บริษัท Sony Suck มันทำอะไร? กับเขา แค้นใจ This is it คือ คอนเสิร์ต ที่ควรจะทำให้ Mj มีความสุขในการกลับคืนเวที มากกว่าจะต้องกลายเป็นคอนเสิร์ตที่ทำให้เขาระทมทุกข์แบบนี้ ได้แต่คิดว่า โลกนี้มันสกปรกเกินกว่าที่คนแบบเขาจะอยู่ บางทีพระเจ้าคงรู้ในข้อนี้ เลยเรียกเขากลับคืนไป สำหรับพวกเลวนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 14:07:02

ความคิดเห็นที่ 12 T_T น้ำตาร่วงเลยพออ่านถึงจดหมายที่คุณซาแมนต้าเขียนถึงไมเคิล ถ้าไม่มีไอ้คอนเสิร์ตห้าสิบรอบนั่น ไม่เคิลคงไม่จากเราไปใช่ไหม จากคุณ : ต้าปิ่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 14:45:44

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากคะ คุณ pk วันนีัมีแต่เรื่องเสียน้ำตา..Q-Q จากคุณ : บวรจ้า เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 14:56:44

ความคิดเห็นที่ 14 คุณลูกโป่ง งานนี้ Sony มีเอี่ยวหรือเปล่าไม่รู้ แต่หลักๆเป็น AEG ค่ะ จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 15:00:31

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านแล้วนึกถึงกระทู้นี้เลยค่ะ http://topicstock.pantip.com/chalermkrung/topicstock/2009/09/C8381552/C8381552.html T_T จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 15:42:34

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้ว   เศร้า  จุก พูดไม่ออก จากคุณ : เราอุ้มนะ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 16:07:34

ความคิดเห็นที่ 17 ^ เหมือนไม่ได้เจอแม่บ้านอุ้มจ๋าตั้งนาน T__T . นึกถึงกระทู้ที่หม่าฮั่นแปะเหมือนกัน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นในเวลาช่วงนั้น มันทำอะไรกับไมเคิลกันแน่ และพวกเราจะทำอะไรได้บ้าง... ควรทำยังไง ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องหดหู่ใจ จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 16:30:32

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ RockwithU ความคิดส่วนตัวของเรานะคะ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ รับรู้ เผยแพร่ และไม่ตกเป็นเหยื่อค่ะ ทุกครั้งที่เราเห็นอะไรเกี่ยวกับ This Is It เราจะคิดในใจตลอดเวลาว่า No, this is not it, this is not it, this is NOT it. THIS is really it. จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 16:44:43

ความคิดเห็นที่ 19 เราไม่ได้ไปดูTHIS IS ITที่โรงหนัง แต่ดูจากBlu-ray พยายามจับตาดูว่าไมเคิลไม่ค่อยแข็งแรงแบบที่เค้าว่าหรือเปล่า? สะดุดใจมากตอนไมเคิลร้องเพลง Smooth Criminal ท่อนที่ว่า you've been hit by,  you've been struck by, a smooth criminal รู้สึกว่าไมเคิลร้องไม่เหมือนคอนเสิร์ตเก่าๆ เหมือนเค้นๆร้อง ร้องไม่ทัน พละกำลังไม่พออะไรแบบนี้ ลองกลับไปดูกันนะ แล้วเพลง Smooth Criminal ก็ไม่มีท่าเต้นต้านแรงโน้มถ่วง ทั้งที่เป็นจุดขายของเพลงนี้  คิดว่าคงตัดออกเพื่อเซพกำลังของไมเคิล เฮ้อ...ชักเริ่มเชื่อแล้วว่าไอ้ AEG นี่แหละฆาตกรตัวจริง ทำให้ไมเคิลเสียชีวิต แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 18:49:35 จากคุณ : mymac เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 18:46:13

ความคิดเห็นที่ 20   ใช่คนที่ให้เสื้อแจ๊คเก็ตแดงกับไมเคิลหรือเปล่าคะ ที่ก่อนหน้านั้น เคยเขียนโพสในบอร์ดหนึ่งว่าไม่ชอบมาพากล แต่ตอนนั้นไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งไมเคิลเสีย อ๊อฟสงสัยหมอไคลน์นี่ที่สุด รู้สึกหมอนี่น่ะตัวดี แล้วช่วงก่อนเหมือนมันพยายามสร้างข่าวบ้าๆบอๆเพื่อเบี่ยงประเด็นกลบข่าวบางอย่าง (หมอเมอเรย์โทรหามันครั้งหนึ่งหลังหัวใจไมเคิลหยุดเต้นด้วยไม่ใช่หรือ) และหมอนี่ไม่ใช่เหรอที่แนะนำ และเป็นที่ปรึกษาในการให้ยาอันตรายกับไมเคิลแต่แรก   ช่วงแรกไมเคิลอาจไม่พอใจที่อยู่ดีๆ AEG เพิ่มรอบแบบบ้าบิ่นน่าตกใจขนาดนี้ แล้วเหมือนเขาทำอะไรไม่ได้ คงเครียดมาก แต่ความเป็นไมเคิล เขาเป็นperfectionist เวลาอยู่บนเวที ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ ทุ่มเทเกินร้อย ไม่ว่าจะสิบรอบหรือห้าสิบรอบ  เพียงแต่ เหมือนทุกครั้งที่เริ่มทัวร์  ไมเคิลจะทุ่มเทพลังทั้งหมด และก็อินมาก...มากเกินไปด้วยซ้ำ เหมือนสมองเขาทำงานตลอดเวลาจนลืมกินลืมนอน(หรือมันไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้น) ไมเคิลไม่ใช่แค่ Perfectionist แต่เหมือนตัวเขากลายเป็นทุกส่วนประกอบของความสมบูรณ์แบบ ในห้วงความคิดที่ลึกล้ำของเขาเอง แล้วเขาหยุดมันไม่ได้ ไม่อยากโทษ AEGทั้งหมดเพราะตัวไมเคิลเองเป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อออกทัวร์คอนเสิร์ต เขาพยายามที่จะหาคนมาช่วย เพียงแต่เขาโชคร้าย อ๊อฟว่าความเป็นไมเคิลมันดึงดูดนะ ดึงดูดพวกที่เห็นจรรยาบรรณทางวิชาชีพสำคัญน้อยกว่าเงินทอง ขอบคุณ คุณ PK ที่แปลมาให้อ่านนะคะ หลายกระทู้แล้วที่สังเกตุว่าคุณ PK ยังทำใจไม่ได้อยู่มาก เป็นกำลังใจให้นะคะ ตัวอ๊อฟเอง ลึกๆไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย จึงทุรนทุรายเสียดาย โกรธแค้น โมโหกับการจากไปของไมเคิลมากๆ เมื่อเร็วๆนี้ก็ตะบะแตกจนเพื่อนในคลับต้องตามไปลบกระทู้ให้ แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่า คนเราทุกคนต้องมีวันนี้ ต้องพลัดพรากจากคนที่รักไม่ช้าก้เร็ว ไมเคิลจากไปอย่างงามสง่า ไม่เจ็บไม่ปวด (อย่างน้อยก็ cardiac arrested ไม่ไช่ heart attacked ) ถ้อยคำที่เขาพูดกับเพื่อนร่วมงาน เหมือนสั่งเสียช่างเป็นถ้อยคำที่ศักดิ์สิทธิ  และสิ่งที่เขาทำตั้งแต่เริ่มจนจบมันทำให้เขาเป็นอมตะและภูมิใจในตัวเองได้เลย เป็นวาระสุดท้ายของมนุษย์ ที่งดงามมากที่สุดเท่าที่เคยได้เห็นT_T พูดแบบนี้อาจโดนด่า และไม่ถูกใจใครหลายคน ต้องขอโทษนะคะ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวอ๊อฟนะ  คิดแบบนี้ล่ะ จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 19:08:18

ความคิดเห็นที่ 21   ไอ้AEG แค้นนะเนี่ย กรอดดดด โทรหาไมเคิลอยู่ได้ คนเค้าจะหลับจะนอน ชิ แง๊ สงสารเฮียเหลือเกิน ขอบคุณพี่PKด้วยนะคะ อิอิ ชื่อคล้ายๆกัน ^^ จากคุณ : jinnypk เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 19:17:36

ความคิดเห็นที่ 22 ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องเศร้า T_T จากคุณ : mr.roof miss you MJ. (MR.ROOF) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 20:16:23

ความคิดเห็นที่ 23 คุณอ๊อฟคะ คิดว่าไม่น่าใช่คนที่ให้เสื้อแจ๊คเก็ตนะคะ ขอบคุณคุณอ๊อฟมากค่ะ เราคิดว่าเราคงความรู้สึกช้าน่ะค่ะ คนอื่นเค้าคงผ่านช่วงเศร้าเสียใจที่มันพีคๆมากๆไปกันแล้ว แต่ของเราความรู้สึกตอนแรกแค่เสียใจนิดหน่อย (ประทานโทษ ปกติญาติสนิทเสียยังไม่ร้องไห้เลยค่ะ) แต่มันก็ค่อยๆมากขึ้นๆๆๆๆๆ ยอมรับว่าตอนนี้กราฟยังขึ้นสูงอยู่ค่ะ แต่เราก็ใช้ชีวิตตามปกติได้นะคะ อยู่กับเพื่อนๆก็เฮฮาปาจิงโกะไปตามเรื่อง แล้วก็พูดถึงเรื่องไมเคิลบ้างให้พวกมันเซ็งกันเล่นๆ 55555 เราไม่ได้กำลังพยายามบอกว่า เราเป็นแฟนพันธุ์แท้ของไมเคิล แจ๊คสันและก็รู้ไปซะทุกอย่าง แต่เราคิดว่ามันยังมีเรื่องราวอีกมากมายเหลือเกินที่แม้กระทั่งแฟนๆของไมเคิลก็ยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ แล้วจะไปคาดหวังให้คนที่เค้าไม่ใช่แฟนเข้าใจได้ยังไง และแน่นอน เราไม่ได้กำลังชี้นิ้วว่าใครผิด เพราะถึงจะอย่างไรตัวไมเคิลเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในการกระทำและการตัดสินสินใจของตัวเองเหมือนกัน เราเองก็แฮปปี้ที่ได้คุยเรื่องสนุกๆ เฮฮา เรื่องดีๆ สรรเสริญความเป็นอัจฉริยะต่างๆของไมเคิล (เราก็ชอบกางเกงทองเหมือนกันนะ! เลือดกำเดาไหลทุกที 55555) แต่เรื่องพวกนั้นมีคนพูดถึงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ฉะนั้น เราก็ขอพูดถึงอีกด้านนึงบ้างก็แล้วกัน จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 20:26:47

ความคิดเห็นที่ 24   ขอบคุณคุณ PK มาก ๆ ค่ะ หลายเรื่องหลายราวมากที่เคยได้อ่านและได้รับรู้ โดยเฉพาะช่วงก่อนที่หนัง This Is It จะเข้าฉาย ... ข้อมูลมันเยอะและชวนสับสนไปหมด จนเราเกิดอาการ "ปลง" ไปเลย ... สังคมมนุษย์เรานี่ช่างวุ่นวายซะจริง ๆ T_T ได้รับรู้เรื่องราวจากอีกมุมแล้วก็เก็บไว้ใช้เป็นวิจารณญาณ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ marketing ของใครอีก ... แต่ก็อย่าเศร้ากันไปเลยเนอะ ... เราเชื่อว่าไมเคิลได้อยู่ในที่ที่ดี ๆ แล้วล่ะค่ะตอนนี้ จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 21:26:41

ความคิดเห็นที่ 25 แฟนคลับที่นู้นเค้ารักไมเคิลมากเหมือนกับที่พวกเรารัก อ่านแล้วซึ้งแทนไมเคิล + ความเสียใจ  ไร้คำบรรยายค่ะ พูดไม่ออก มันจุก จากคุณ : hartle เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 21:42:21

ความคิดเห็นที่ 26   แล้วใครล่ะที่ทำให้MJ ต้องใช้ยา เริ่มจากตัวแปรที่มันทำร้ายเขา กดดันแล้วก็ต้อนเขาให้จนมุม เจ็บปวด จนนำไอ้พวกหมอไร้จรรยาบรรณพวกนี้มาหาเขา ผมโทษครอบครัวและสื่อนะ ทั้งที่พื้นฐานของMJ เป็นคนที่แข็งแรงมากทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเป็นคนจิตใจดีเกินไปด้วย อะไรที่ดีเกินไปมักอยู่ไม่ได้นาน เพราะคำว่าดีเกินไปหมายถึงการปราศจากอาวุธป้องกันตัวเอง และการตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เรื่องที่ลึกกว่านั้น ผมไม่รู้นะ อาจเป็นไปได้ พวกสมคบคิด แต่หลักๆ ผมว่า MJ ถ้าไม่ใช้ยาตั้งแต่แรก เขาไม่ไปนะ คอนเสริ์ต 50 รอบ ไม่ใช่สาเหตุหลัก เครียดน่ะมันเครียดแน่นอน แต่ถ้าเพียงแต่หมอช่วยเขาถูกวิธีหรือตัวMJเองไม่ต้องข้องแวะกับมัน(จากการแนะนำของหมอ)ตั้งแต่แรก ไมเคิลไม่ไปแน่ครับ จากคุณ : blue gourami เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 22:03:06

ความคิดเห็นที่ 27 AEG Suck Shit hear!!! จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 22:12:02

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณ คุณPK นะคะ อ่านแล้วทั้งเศร้าและเครียดเลยอ่ะ หากเราเป็นแฟนคลับคนนั้น ได้มีโอกาสใกล้ชิดและสามารถเข้าช่วยไมเคิลได้...แต่ในที่สุดก็ช่วยไม่ได้แบบนี้ หัวใจสลายจริงๆค่ะ ทำเราไม่อยากซื้อ DVD แล้วอ่ะ.......ฮือๆ ใจนึงก็อยากดูไมเคิล ฮือๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 22:50:22

ความคิดเห็นที่ 29 ... จากคุณ : The Girl Is Mine เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 22:53:45

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ทำให้เรารู้ว่าบนโลกใบกลมนี้ ยังมีการแก่งแย่งชิงดีและความเห็นแก่ตัวอยู่บนทุกหนแห่ง....แม้แต่กับคนที่ดีที่สุด คนที่บริสุทธิ์มากที่สุดบนโลกใบนี้ เขายังโดนทำร้ายมากมายขนาดนี้.... สุดท้าย...ใครทำสิ่งใดไว้ ก็จะได้รับผลตอบแทนแบบนั้น พวกเขาจะต้องเจ็บปวด และทรมานมากกว่าสิ่งที่ไมเคิลได้รับ..ไม่ช้าก็เร็วแน่นอนค่ะ God bless you,Michael จากคุณ : แมวสามสีเพื่อนหมีพุงโต เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 23:19:43

ความคิดเห็นที่ 31   ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆนะค่ะ....... รู้สึกโกรธมากๆที่ได้รู้ว่าผู้ที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม 2 คนที่ได้ทำกับไมเคิลขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นไอ้หมอที่ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ ไอ้คนจัดคอนเสริต์ที่มีแต่ความโลภเกลียดมากๆๆๆๆ เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าอยู่ที่นั่นคงจะทำอะไรสักอย่างและคิดอย่างเดียวกับที่ แฟนคลับ Follower ผู้หญิงคนนั้นได้บอกกับไมเคิลว่าเป็นห่วงเค้ามากขนาดไหน .......เฮอ ขอให้ความยุติธรรมและสิ่งที่ ผู้ใจร้ายได้ทำกับไมเคิลจงได้รับสิ่ง ที่เค้าได้ทำกับไมเคิลจงได้รับบทลงโทษด้วยเถิด......งานนี้คงได้ตามกันยาว อยากบอกผู้จัดว่าคุณควรรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณได้ทำไว้นะ...... DVD นี้เพื่อ MJ ของพวกเรา But it's not yours....... MJ ......i love u so much จากคุณ : AUM MJ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 23:33:01 A:125.24.185.135 X: TicketID:222010

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ คุณ PK สำหรับเรื่องราวค่ะ ..วันวานมันย้อนคืนมาไม่ได้..ชะตาได้ถูกกะหนดไว้แล้วแบบนี้... พระเจ้าคงคิดแล้วว่า หากเค้าอยู่นานกว่านี้มันคงจะทุกข์ทรมานอย่างที่สุด ตอนนี้เค้าคงจะกำััลังมองพวกเราและส่องแสงอยู่ในที่ไกลๆ คงมีแต่เราที่ต้องต่อสู้กับพวกมันต่อไป และไม่ให้มันมาทำร้ายสิ่งที่เป็นตัวแทน ของเค้าได้อีก... I miss u like crazy mike  T_T แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 53 02:55:05 จากคุณ : NarzizuZ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 02:54:17

ความคิดเห็นที่ 33   คิดถึงที่สุด จากคุณ : nokatow (nokatow) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 07:54:12

ความคิดเห็นที่ 34 แสดงว่าที่พี่เลี้ยงเด็กของไมเคิลพูดว่า ไมเคิลไม่เป็นตัวของตัวเอง แปลก ๆ และเขาเข้าใจว่าคอนเสริ์ตมีแค่ ๑๐ รอบเอง ก็เป็นจริงน่ะสิ พี่เลี่ยงเลยพยายามกันเด็ก ๆ ห่างไมเคิล เพื่อความปลอดภัย และดูเหมือนเคยดูสัมภาษณ์ไมเคิลบอกว่าเกลียดการออกทัวร์คอนเสริ์ต และเคยพูดว่ามันจะทำให้เขาตายได้ อันนี้คือการให้สัมภาษณ์นานแล้วก่อนริเริ่มคอนเสริ์ตนี้ จากคุณ : หน้ากากแตน เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 11:03:43

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวค่ะ อ่านแล้วน้ำตาร่วงอีกแล้ว T^T พูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ จากคุณ : Liliia (EK-KS) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 11:29:42

ความคิดเห็นที่ 36   ขอบคุณ คุณ PK มากค่ะ อ่านแล้วพูดอะไรไม่ออกเลย จากคุณ : catky เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 13:35:38

ความคิดเห็นที่ 37   อยากเข้าร่วมทุกกิจกรรม อยากเข้าต่อชื่อ ริบบิ้นด้วย แต่ไม่รุว่าจะต้องเข้าเวบอะไร วิธีอะไร มีใครพอแนะนำบ้างด้ายมั้ย เอาเราไปด้วยยยย "ขอร้อง" 0873276388 mokkungja@hotmail.com ปล. ใครมีหรือดู vcd misster lonely ที่มีMJ บ้าง รบกวนเอามาแชร์กันหน่อยนิดนุง T T จากคุณ : LOVE_MJ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 14:44:28 A:58.9.76.87 X:

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านไป..น้ำตาไหลไป :~ .. ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง ไม่ว่าความจริงจะปรากฏออกมาอีกมากมายแค่ไหน ถึงยังไง วันนี้ ก็ไม่มีไมเคิลอีกแล้ว .. คิดถึงเหลือเกิน T.T จากคุณ : ซาจา เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 14:47:28

ความคิดเห็นที่ 39   อ่านแล้วจุก พูดไม่ออก และรู้สึกกดดัน เฮียในตอนนั้นก็คงกดดันมาก แต่คงมากกว่าที่เรารู้สึกตอนนี้เป็นแสนเป็นล้านเท่า สงสารเฮียเหลือเกิน ถ้าก่อนหน้านี้เราได้ลองพยายามทำอย่างที่ซาแมนต้าทำ ทำให้เฮียรู้ว่ามีคนมากมายเพียงใดที่รักเฮีย อยากอยู่ข้างๆเฮีย และทนไม่ได้ที่จะสูญเสียเฮียไปแบบนี้ มันจะดีกว่านี้มั้ย เฮียจะยังอยู่กับเรามั้ย ก็ได้แต่คิด... แม้จะรู้ว่าวันนี้มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แล้วเฮียได้อ่านจดหมายซาแมนต้ามั้ยคะ ใครรู้บ้าง เหมือนวันนั้น วันที่เฮียหลับไปมีคนบอกว่ามีจดหมายจากแฟนเพลงอยู่ในห้องของเฮียด้วย T T เห็นด้วยกับคุณออฟนะคะ เฮียจากไปอย่างสบายที่สุดเลยค่ะ ไม่ทุกข์ทรมาน เพราะเฮียหลับไป จากไปอย่างผู้มีบุญค่ะ ขอบคุณคุณ PK มากๆเลยค่ะกับเรื่องราวดีๆ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 53 20:45:24 จากคุณ : MyMike เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 53 19:47:24