ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มเป็นวงปี 1990 Nigel Martin Smiths เป็นเอเจนต์ในวงการที่มีความคิดจะทำวงบอยแบนด์แบบอังกริ๊ดอังกฤษขึ้น เปิดออดิชั่นใหญ่โตมาก มีคนถูกเรียกมาออดิชั่นตั้ง "6" คน สุดท้ายกลายมาเป็น Take That ทั้ง 5 วงไม่ได้ออกซิงเกิ้ลแรกจนกระทั่ง 1991 ซิงเกิ้ลและมิวสิกวีดีโอที่มาจากการขายบ้านขายนาของผู้จัดการวง NMS ซิงเกิ้ลแรกที่เป็นอินดี้เต็มขั้น (ยังไม่มีสังกัด) แล้วก็ไม่รู้ว่าทำกันไปได้ยังงัยไอ้พวกนี้ คีย์เวิร์ดของงานคือ "เจลลี่" "ไม้ถูพื้น" และ "ก้น" " ...ที่น่าตกใจสำหรับวีดีโอนี้คือ พวกเราตอบ 'yes, we'll do it' ง่ายชะมัด..."   Jason Orange Do What You Like กับสุดยอดมิวสิควีดีโอแห่งทศวรรษ จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:04:08

ความคิดเห็นที่ 2 ข้างบนจะโดนแบนมั้ยเนี้ย ลืมนึกไป เด็กต่ำกว่า 18 ห้ามดูคลิปบนนะจ๊ะ Take That 5 คน คือ Gary Barlow Mark Owen Jason Orange Howard Donald และ Robbie Williams ซิงเกิ้ลแรก แน่นอนว่าเขย่าชาร์ทเพลงด้วยความถี่สูงมากจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย วงใช้วิธีตระเวณทัวร์ตามโรงเรียน และตาม "บาร์เกย์" (NMS ผู้จัดการเป็นเกย์ เลยจะเห็นอาการแต๋วแตกใน concept การขายงานของวงอยู่) ระหว่างนั้นก็หาสังกัดไปเรื่อย (โดน Simon Cowell เจ้าพ่อวงการเพลงอังกฤษตอนนี้ปฏิเสธมาแล้ว) จนสุดท้ายก็ลงที่ RCA ในค่ายลูกของ BMG ที่ให้ออกซิงเกิ้ลนี้ออกมา พอมีสังกัด มีงบสนับสนุน เอ็มวีเลยเริ่ดมากกกกก (ประชดน๊ะ) Once You've Tasted Love   ปล. เพลงมาฟังตอนนี้มันเชยจัง แต่ Jason ตอนละอ่อนน่ากรี๊ดมากกก แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 16:44:56 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:22:26

ความคิดเห็นที่ 3 มา Give ให้ก่อน ในฐานะแฟน Take that ครับ จากคุณ : Master Obi-Wan เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:40:20

ความคิดเห็นที่ 4 Take That ทุกคนมาจากชนชั้นกลาง (คือกลางจริงๆ ไม่ได้เรียนต่อมหาลัย เหมือนชั้นกลางในกรุงเทพ) ถ้าไม่มีออดิชั่นในวันนั้น Mark คงเป็นเสมียนธนาคาร Howard ช่างทำสีรถ Jason แดนเซอร์ตามรายการทีวี Gary ร้องเพลงตามผับ และ Robbie คงเป็นจิ๊กโกติดยาแทนที่จะเป็นสุดยอดนักร้องชายของโลกในวันนี้   ซิงเกิ้ลที่สาม เป็นซิงเกิ้ลแรกที่เริ่มเขย่าชาร์ท ด้วยอันดับที่น่าพึงพอใจมากกกกก อันดับที่ 38 !!!! จากผู้ชายที่ขายอัลบั้มได้มากกว่า 50 ล้านแผ่นทั่วโลก Robbie Williams "....เพลงเข้าชาร์ทที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตการทำงานผม ทั้งตอนเป็น Take That หรืองานเดี่ยว คือ Promises ที่ 38" Promises ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นนิดนึง งานนี้ Break Dance กันสนั่นเลย (แอบกรี๊ด Jason อีกแล้ว ทำไมแต่ก่อนหลุดเรดาร์ไปได้เนอะ มัวแต่บ้า Robbie) แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 16:56:34 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 16:46:30 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:43:40

ความคิดเห็นที่ 5 แทรกได้เลยค่ะ โพสไปเรื่อยๆ น่าจะเสร็จค่ำๆ โน้น เพราะทำอย่างอื่นไปด้วย จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:47:27

ความคิดเห็นที่ 6 เรารู้จัก Take That ช้าไปหน่อย อัลบั้มแรกที่ซื้อตอนวางแผงใหม่ๆ ก็เป็นอัลบั้มรวมตอนแยกวง Take That ซะแล้ว มาลงชื่อติดตามอ่านด้วยคนค่ะ ^^ จากคุณ : Orange Jasmin เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:59:32

ความคิดเห็นที่ 7 รออ่านอยู่นะคะ จากคุณ : นางมารร้ายใส่Lacroix เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:30:21

ความคิดเห็นที่ 8 ตลอดเวลา วงเดินสายมันทุกวัน ไม่ใช่ตามรายการทีวี แต่เป็นโรงเรียนกับผับ เช้าซ้อม บ่ายโรงเรียน เย็น Under 18 pub กลางคืน Gay club เป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน ความพิเศษของ Take That คือเป็นบอยแบนด์ที่มีสมาชิกเป็นนักแต่งเพลงหลัก กับผู้ชายที่ชื่อ Gary Barlow สามซิงเกิ้ลก็แล้ว (Gary แต่งเองหมด) ยังไม่ได้คืบหน้าไปไหนเลย ถ้าเป็นปัจจุบัน วงคงโดนโละเรียบร้อย ที่พึ่งสุดท้ายก็คือเพลงคัฟเว่อร์ "....ผมรู้สึกว่าแพ้แล้ว..." Gary Barlow It Only Take A Minute เป็นคัฟเว่อร์เพลงดิสโก้ของวง Tavarse   ท๊อปเท็นแรกของ Take That อันดับที่ 7 วีดีโอจริงๆ อยู่ที่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=Y3mt2Kvucz4 แต่ที่จะให้ดูคือเวอร์ชั่นที่ทำให้เราปลงว่าไอ้การไข่วคว้าหาดาวมันไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ คลิปหายากที่ TT แสดงตามโรงเรียนแต่ก่อน ไม่มีอะไรพร้อมซักอย่าง สังเกตวิทยุด้านหลัง ที่มาของ backing track แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 17:34:06 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 17:31:53 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:30:26

ความคิดเห็นที่ 9 อื้ม คิดถึง Take That มากที่สุดเลย เมื่อวานเพิ่งไปสอย the Circus Live มาจาก B2S ขอเกาะกระทู้อ่านด้วยคนนะคะ จากคุณ : หนูน้อยช่างฝัน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:31:32

ความคิดเห็นที่ 10 ในที่สุดมันก็มา ความสำเร็จเริ่มคืบคลานเข้ามา แฟนเบสของ Take That เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่น่าตกใจคือส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิงประถมถึงมัธยมต้น (10 ขวบก็เป็นกันแล้ว) นึกถึง Image ของวงแล้วก็แอบสยองนิดนึง วงขายเซ็กซ์ค่อนข้างโจงครึ้ม แต่กลายเป็นเวิร์คกับทั้งกลุ่มเด็กผู้หญิงและเกย์ กว่าจะออกอัลบั้มแรก พวกเขาออกซิงเกิ้ลเยอะมาก เพราะไม่ได้มีการเข้าห้องอัดครั้งเดียว โปรโมทกันไปทำแผ่นกันไปตลอดทั้งปี I Found Heaven เป็นซิงเกิ้ลแรกที่ Robbie ได้ร้องนำชัดเจน เพลงโปรดเพลงหนึ่งของเราด้วย เวลาร้องสด ชอบเสียง Robbie ชอบเสียงสูงของ Gary ที่ตามขึ้นมา แล้วก็ Howard ที่ตามประกบ ทำนอง ดนตรี แต่นี้กลับเป็นเพลงที่วงเกลียดที่สุด Gary เกลียดนักแต่งเพลงที่แต่งเพลงนี้คู่กับเขา คงจะยากที่จะหวังได้ฟังสดอีกในปัจจุบัน I Found Heaven เอ็มวีเพลงนี้มีทุกอย่างที่ควรจะมีในยุคนั้น โรเลอร์เบลด บานาน่าโบ๊ท แฟชั่น และทรงผมแย่ๆ ปล เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นมองข้ามพี่ Jay เฮียอย่าตัดผมอย่างนี้อีกนะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 18:15:01 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 18:12:43

ความคิดเห็นที่ 11 ว่ากันว่า NMS ตัดสินใจฟอร์ม Take That หลังจากได้ยินเดโมเพลงนี้ Million Love Songs เพลงที่ (เกือบจะเด็กชาย) Gary Barlow แต่งไว้ตอนอายุ 15 ขวบ ก่อน Take That  Gary ทำงานร้องเพลงในผับพร้อมคีย์บอร์ดคู่ใจตั้งแต่อายุ 13 เพลงที่ปัจจุบันเป็นอมตะบัลลาด กลายมาเป็นสไตล์บัลลาดที่เป็น signature ของวง และเป็นท๊อปเทนที่สองของวง ผู้ชายคนเดียวที่เล่นแซ็กโซโฟนเวลาเล่นสดคือ Mike Steven ผู้คุม live band ของวงตั้งแต่อดีต (1993) จนปัจจุบัน (2009) Million Love Songs Live at Berlin เวลาเป็นบัลลาดแบบนี้มันเข้ากับเสียง Gary มากๆ จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 18:42:55

ความคิดเห็นที่ 12 เกิดไม่ทัน Take That ยุคเก่าอะค่ะ เริ่มฟังก็ตอนรวมวงใหม่ ก็ชอบนะค่ะ แต่พอได้ดู The Circus live แล้วกรี๊ดสุด ๆเลย ซื้อแผ่นมาแพงแสนแพง 55 ไม่เสียดายเงินเลยค่ะ ดูมันทุกวันจะสองอาทิตย์ละยังไม่เบื่อเลย ขอบคุณ จขกท. ที่นำเรื่องราวมาแบ่งนะค่ะ กำลังค้นประวัติวงนี้พอดี แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 20:42:42 จากคุณ : ENTER_EMMY เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 19:04:11

ความคิดเห็นที่ 13 ถามว่าทำไมถึงชื่อ Take That ... "แค่มันดีที่สุดกับในหลายชื่อห่วยๆ ที่มีมาให้เลือก" (จำไม่ได้แล้วใครพูด น่าจะ Gary) อัลบั้มแรก Take That & Party ทำเอาวัยละอ่อนที่อังกฤษกรี๊ดกราดกันเป็นแถว เข้าชาร์ทอันดับที่ 2 โดย 10 ใน 12 เพลงแต่งโดย Gary แต่ไม่จนกระทั่งซิงเกิ้ลนี้ที่ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Take That Mania เริ่มปะทุ และกินเวลาไปอีกกว่า 4 ปี Could It Be Magic เป็นคัฟเว่อร์เพลงบัลลาดของ Barry Manilow ในแบบดิสโก้ ถือว่าเป็นเพลงที่ดังที่สุดเพลงหนึ่งของวง เพลงเข้าชาร์ทแค่อันดับที่ 3 แต่ว่ากันว่าเป็นเพลงที่จุดกระแสการขายซิงเกิ้ลที่ซบเซาอยู่ตอนนั้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ที่สำคัญหลังจากออกงานนี้ กราฟของ Take That ก็มีแต่พุ่งขึ้นๆ ไม่มีตกอีกเลยจนวันสุดท้ายของวง (จริงๆ ว่าจนถึงปัจจุบันด้วย) "...และแล้วความมันก็เริ่มต้นขึ้น..." Mark Owen Could It Be Magic เวอร์ชั่นเอ็มวีดูได้ที่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=VbiEOYv2Dyo ส่วนตัวชอบ Live in Berlin (อีกแล้ว) Robbie เป็นคนที่มี showmanship สูงมากๆ ดูจนถึง End Credit แล้วจะพอเห็นภาพคำว่า Take That Mania แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 19:44:27 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 19:43:01

ความคิดเห็นที่ 14 <...มันจะออกซิงเกิ้ลมาอะไรนักหนาฝ่ะ... แอบบ่นหน่อย> ความเป็น Take That คืออิมเมจต้องแป๊ะ ไม่ใช่หมายถึงต้องเก๊กหล่อหรืออะไร แต่ต้องมี clean image เสมอ NMS เป็นผู้จัดการที่เข้มงวดมาก ทุกคนในวงต้องไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่เล่นเหล้ายา ไม่พูดจางี่เง่า แต่ลับหลังไม่มีใครรู้ ซิงเกิ้ลสุดท้ายจากอัลบั้มแรก คือ Why Can't I Wake Up With You มาตอนนี้อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว ช่วงที่ Take That ออกอัลบั้มแรก แนวยูโรแดนซ์มีอิทธพลอยู่สูง กลิ่นเลยอยู่เต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่เพลงช้าอย่างนี้ Why Can't I Wake Up With You ขอไม่โพสเอ็มวีจริง กลัวเลือดกำเดาไหล ดูเอาเอง http://www.youtube.com/watch?v=yqwSth_IXaA ขอลักไก่โพสเวอร์ชั่น 2006 ดูน้าๆ เต้น Why Can't I Wake แทน แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 20:24:45 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 20:23:46

ความคิดเห็นที่ 15 ข้างบนผิดคลิป เอาใหม่ Take That: The Ultimate Tour จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 20:25:57

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจาก CIBM จะด้วยความรู้สึกว่าบัลลังค์นักร้องนำกำลังสั่นคลอนหรืออะไรก็ตาม Gary มุ่งมั่นที่จะอัลบั้มที่สองให้เป็นสุดยอดอัลบั้ม แล้ว Gary ก็กลับมาพร้อมกับเพลงที่เป็นสุดที่รักของเรา Pray Pray คือนิยามของความสวยงานในเพลงป๊อบ ทั้งเมโลดี้ เนื้อร้อง ทำนอง ยิ่งตอนแสดงสดพร้อมท่าเต้น มันหวานไปหมดทั้งเพลง หลายคนทั้งนักวิจารณ์และนักฟังเพลงขาจรเริ่มหันมามอง Take That มากขึ้นว่าเออ มันก็ใช้ได้แฮะ สี่สัปดาห์กับอันดับ 1 บนชาร์ท กระแสของ Take That ตอนนี้ถูกนำไปเทียบกับ The Beatle Mania เลยทีเดียว จากเอ็มวีงบกระจอกๆ แต่ก่อน งานนี้อัพเกรดบินไปถ่ายถึงเม็กซิโกเลยทีเดียว Pray นี่ยังงัยก็ต้องดูเอ็มวี มันมีอิมเมจที่เป็นประเด็นอยู่เยอะ ดูออกแต๋วๆ ที่วงเดี๋ยวนี้ไม่กล้าทำหรอก "...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่สาวๆ ชอบมันแบบนี้..."    Howard แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 20:31:15 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 20:30:09

ความคิดเห็นที่ 17 แวะมาให้กิฟ จากคุณ : TakeThat เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 20:47:48

ความคิดเห็นที่ 18 เซ็กส์ เป็นอิมเมจทีถูกผูกติดกับ Take That ตลอดเวลา จนบางครั้งก็แอบเขินถ้าจะบอกว่าชอบวงนี้ ยิ่งมาร้อง duet กับ Lulu เพลงนี้ ความแรงยิ่งทะลุปรอท คำที่ว่าบอยแบนด์ต้องเป็นเกย์ มันก็คงมีที่มาจากไอ้พวกนี้แหละ แต่มาถึงจุดนี้แล้ว ทุกอย่างที่เป็น Take That ขายได้หมด นาฬิกา ปลอกหมอน ตุ๊กตา ซีเรียล ทีนแม๊กกาซีนทุกเล่มต้องมี Take That ขึ้นปกถ้าอยากขายได้ Relight My Fire ซิงเกิ้ลอันดับหนึ่งเพลงที่สองเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ Take That คัฟเวอร์เพลงดิสโก้เก่า ตามอิทธิพลของ NMS ทุกอย่างทั้งเอ็มวี ทั้งโชว์ อะไรที่เกี่ยวกับ Relight จะมีอิมเมจที่แรงมากๆ แต่ไม่รู้ทำไมสาวๆ วิ่งเข้าใส่ตลอด Relight My Fire พร้อมเสื้อเอวลอยสุดนำแฟชั่นของ Mark ปล. ว่ากันว่าช่วงที่ทำเพลงนี้และออกทัวร์ พี่ Jay ของเราสนิทกับป้า Lulu มากกกกกกกกกกก แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 21:07:31 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 21:01:10

ความคิดเห็นที่ 19 พูดถึงชื่อสมาชิกแล้วก็ลืมไปว่ายังไม่ได้แนะนำชื่อให้ตรงหน้าเลย จากซ้ายไปขวา Mark, Gary, Robbie, Jason, Howard จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 21:24:37

ความคิดเห็นที่ 20 Everything Changes อัลบั้มสองของ Take That ขึ้นชาร์ทเป็นอันดับ 1 ตามความคาดหมาย จุดเริ่มต้นของการครองอันดับหนึ่งอัลบั้มชาร์ทกับสตูดิโออัลบั้มทุกๆ ชุดที่เหลือ ถามถึงนักร้องนำ ไม่มีปัญหาเลยว่า Gary คืออันดับหนึ่งของวง แต่ว่าอันดับสอง สามละใคร? ในแง่ของความดัง Mark Owen คือคนที่มีแฟนคลับเยอะสุด รองมาก็ Robbie แต่แค่เพราะความหน้าเด็กเท่านั้นหรอ Robbie ให้นิยามว่า Mark คือแม่ชีเทเรซ่ากลับชาติมาเกิด ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่เราจะได้ยินใครว่า Mark เสียๆหายๆ แล้วที่สุด Mr Nice Guy ก็ได้โอกาสร้องนำ Gary แต่ง Babe บนคอร์ดง่ายๆ เพื่อให้ Mark ที่ช่วงเสียงไม่กว้างได้ร้องนำ และ Jason ได้หัดเล่นกีต้าร์ Babe ได้อันดับหนึ่งตามเดิม แต่พลาด No. 1 ใน Chirstmas Week เพราะโดน Mr. Blobby ของรายการทีวีเด็กเขี่ยตก Babe ที่ไม่ใช่หมูพูดได้ จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 22:18:47

ความคิดเห็นที่ 21 Take That เปรียบเสมือนโรงเรียนดนตรีสำหรับหนุ่มๆ พวกนี้ Howard หัดตีกลอง Jason หัดกีต้าร์ Rob กับ Mark เริ่มแต่งเพลง Gary เรียนรู้ขั้นตอนทุกอย่างในห้องอัด ความเป็นอัจฉริยะของ Gary Barlow ยังอยู่ที่สามารถแต่งเพลงได้ดังใจนึก "แต่งเพลงหรอ อืม ปกติก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงหนึ่งแหละ" Gary กับ Everything Changes ก็เช่นเดียวกัน Gary ตั้งใจแต่งเพลงนี้ให้ Rob ทำให้มีช่วงเสียงที่กว้างเหมาะกัน ลองฟังท่อน Forever moreeeeeee ดู และก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ขึ้น No. 1 สำหรับ Take That Everything Changes เฮีย Rob กับบัลลังค์นักร้องนำอันดับสองของวง เอ็มวีจริงอันนี้ http://www.youtube.com/watch?v=vYrGWbZSgxw อันนี้คลิป Berlin เหมือนเดิม อ้อ แล้วก็ Happy Birthday Robbie แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 23:33:25 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 22:54:56 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 22:52:07

ความคิดเห็นที่ 22 ความคลั่งไคลของแฟนๆ Take That เป็นอะไรที่น่าทึ่งและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน " แฟนคลับ Take That นะหรอ ตามไม่มีหยุดแหละ " Lulu Mark บอกว่ามีครั้งนึง แฟนคลับขนบันไดลิงมาจากบ้าน เพื่อจะมาปีนเข้าห้องนอนที่บ้านเค้า Gary ได้จดหมายจากแฟนคลับว่าถ้าใครจูบ Jason เธอจะฆ่าคนๆนั้น แล้วเขาก็นึกได้ว่า ตูเพิ่งจูบไอ้เจย์มันไปเมื่อวันก่อนนี้หว่า ดู Take That For the Record ตอนนี้แล้วได้แต่อึ้งในความคลั่งของคน จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 23:28:38

ความคิดเห็นที่ 23 ความที่เด็กสุด (Robbie ห่าง Mark 2 ปี ที่เหลือก็มากกว่า Mark คนละปีถึงสามปี) Robbie ขาดวุฒิภาวะที่จะรับสภาพที่เกิดขึ้น เทียบกับคนอื่นๆ Rob จัดการกับความสำเร็จที่โถมเข้ามาได้น้อยกว่าเพื่อน ยิ่งเป็นแบบนี้ NMS ก็ยิ่งเข้มงวดกับเขามากขึ้น Gary เองก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้น หลายๆ ครั้งเขาก็ปัดไม่สนใจอินพุทที่ได้จาก Rob ในห้าคน ทุกคนสนิทเหมือนพี่น้องหมด อันนึงที่ไม่ค่อยเห็นในวงอื่น (เพราะมันดูไม่แมน) คือการแสดงความรักเกินขอบเขต ทั้งกอด จูบ (แบบจู๊บปากเลย) ลูบหัว จับก้น มันทำหมด Jason เคยพูดอยู่ทีว่าพวกเนี้ยคบกันเหมือนผู้หญิงคบกัน วันๆ เอาแต่เมาท์ เมาท์ เมาท์ แต่ความสัมพันธ์ ไว้เนื้อเชื่อใจแบบนี้มันจะไปได้อีกนานมั้ย ? Love Ain't Here Anymore เป็นซิงเกิ้ลสุดท้ายจากอัลบั้ม Everything Changes และเป็นอันเดียวที่ไม่ได้ No.1 น่าเสียดายเพราะทุกครั้งที่ Gary ร้องสดเพลงนี้ ทำเราขนลุกเสมอ Love Ain't Here Anymore เอ็มวี Take That กับข้อหาเดิม แต๋วแตก โดยเฉพาะหนูมาร์ค กับ พี่เจย์ของฉัน แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 00:09:43 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:08:06

ความคิดเห็นที่ 24 ใครที่คิดว่า Take That จะจบหลังจากอัลบั้ม Everything Changes คิดผิดคิดใหม่ได้ กับอัลบั้มใหม่ที่แกรี่ให้นิยามว่าทุกคนพยายามจะเป็น R. Kelly (แต่ตัวเขายังอยากเป็น George Michael อยู่นะ) งานดนตรีที่พัฒนาไปอีกขั้น พร้อมหน้าปกอัลบั้มที่ล้อความเป็น the new Beatle  (เลียน sgt. pepper's lonely hearts club) Nobody Else เป็นอัลบั้มที่สามของวง และกลายมาเป็นอัลบั้มสุดท้ายของ Take That Mk 1 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 00:31:54 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:31:06

ความคิดเห็นที่ 25 "ผมไปถึงโรงแรม พบ Robbie ป่วยมากอยู่บนเตียง เพราะเขาเล่นดื่นแชมเปญหร้อมเล่นโคเคนกับนางแบบชื่อดังคนนึงทั้งคืน" NMS พูดถึงตอนที่ Rob โอเว่อร์โดสหลังงาน MTV European Music Award ครั้งที่ 1 มาถึงเวลานี้ ไม่มีปัญหาสำหรับซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มใหม่อย่าง Sure ที่จะขึ้นอันดับหนึ่ง Take That เดินสายโปรโมททุกที่ ร่วมไปถึงงาน MTV ข้างบนนั้นด้วย ที่น่าตกใจคือเรื่องนั้นไม่ได้หลุดมาถึงหูนักข่าวเลย อย่างที่บอก NMS เข้มงวดกับภาพลักษณ์ของวงมาก ทั้งๆ ที่สิ่งที่เป็นเบื้องหลังจริงๆ แล้วมีหมด ทั้งเหล้า ยา ผู้หญิง คนอื่นในวงโชคดีที่ถึงเล่น ก็ยังคุมตัวเองให้ไม่ติดได้ ไม่เหมือนกับ Rob น้อยของเรา ผู้อยู่ในสภาวะสับสนในตัวเอง Sure เอ็มวีที่สร้างตำนานเสื้อซีทรูกับท่าแปลงร่างของมนุษย์ไฟฟ้า Take That ปล. ว่ากันว่า นางแบบชื่อดังคนนั้น คือ Naomi Cambell แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:00:10 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 00:58:44 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:55:35

ความคิดเห็นที่ 26 ทุกที่ Take That บุกมาหมดทั้งยุโรป เอเชีย ขาดที่สุดท้ายที่ TT ยังทำอะไรไม่ได้ => อเมริกา แล้วก็มาถึงเพลงที่ทำให้คนทั้งโลกต้องหันมามองพวกเขา เพลงที่ขี้นอันดับหนึ่งใน 31 ประเทศ เพลงที่ Gary อ้างว่าใช้เวลาแต่งแค่ 15 นาที เพลงที่ทำให้ผู้ชายคนนี้มีสินทรัพย์กว่า 30 ล้านปอนด์ หลัง Take That Back For Good เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Brit Award 1995 ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ Brits ยอมให้เล่นเพลงที่ยังไม่ได้วางขาย ผลคือคนดูเงียบกริบ มีแต่ป้า Lulu ที่ร้องได้ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ ถล่มทลาย ทีมงานต้องเลื่อนกำหนดวางแผงให้เร็วขึ้น พอเข้าชาร์ทก็พุ่งเข้าอันดับหนึ่งและอยู่มันสี่สัปดาห์ เพลงนี้เป็นเพลงแรกและเพลงเดียวของ Take That ที่ติดท๊อปเทน Billboard Hot 100 ที่อันดับที่ 7 ที่เมืองไทย ไม่ว่าหันซ้ายหรือหันขวาก็เป็นแต่ Back For Good มากจนตอนเราโทรไปขอทางวิทยุ ดีเจบอกไม่เอาไม่เปิดแล้ว Back For Good เอ็มวีปกติช่วงนี้โดนกวาดหมด เอาคลิปที่ Brits ไปแทนละกัน Performance เรียบมาก ลิปซิงค์อีกต่างหาก แต่เพลงมัน "โดน" สังเกตเฮีย Rob กึ่มมากกก ส่วนพี่ Jay ยิ่งเข้ายุคหลังยิ่งฮอต แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 12:03:36 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 01:48:16 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:45:25

ความคิดเห็นที่ 27 Robbie Williams กับสภาวะสับสน เด็กหนุ่มที่รู้สึกว่าการเป็นบอยแบนด์มันไม่เท่เอาซะเลย เด็กหนุ่มที่ต้องทนอยู่ในกรอบ ต้องเรียกว่า Rob โตมากับ Take That และชีวิตนี้เป็นทั้งชีวิตที่ spoil และเข้มงวดรวมกัน NMS กดดัน Rob และทุกคนในวงให้อยู่ในกรอบ แต่ไม่ใช่ด้วยหวังดีต่อตัวบุคคล หากเพื่อประโยชน์ของตัวเองมากกว่า พอมีแต่มือหวดไม่มีมือปลอบ เพื่อนร่วมวงเองเอาเข้าจริงๆ ก็เพิ่งจะพ้นวัยรุ่นกันมาได้ไม่เท่าไร ท้ายสุด Robbie ก็หลุด เลิกสนใจวง ทั้งเหล้าทั้งยา คบพี่น้อง Gallagher ภาพเฮีย Rob ย้อมผมทอง เต้นด๊องแด๊งบนเวที Oasis ที่ Glastonbury เหมือนฟางเส้นสุดท้าย ถ้าจะมองหาคนผิด ก็คงจะทุกฝ่าย สมาชิกที่เหลือปิดตาพยายามมองไม่เห็นว่านี่คือเด็กที่กำลังมีปัญหา ในขณะที่ Rob ก็เลือกที่จะไม่ขอความช่วยเหลือ ในที่สุดก่อน World Tour (ที่มาเมืองไทยด้วย) Robbie william ก็ออกจาก Take That ปล ข้างบนเป็นมุมมองส่วนตัวประมวลจากที่ฟังเรื่องราวมาหลายๆ ด้าน หลายๆ ช่วงเวลา ปล 2 ดูคลิปนี้แล้วเศร้า มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีเรื่องราวต่อไปอีกเยอะ ที่แม้แต่ปัจจุบัน ก็ยังไม่จบบริบูรณ์ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:27:19 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:26:41 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:25:48 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:18:16

ความคิดเห็นที่ 28 มาอยู่เป็นเพื่อน จขกท. จากคุณ : ENTER_EMMY เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:30:39

ความคิดเห็นที่ 29 อยู่เป็นเพื่อนค่ะ back for good เนี่ย ปัจจุบัน get ยังเปิดอยู่ทุกวันเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:41:55 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:36:35 จากคุณ : นางมารร้ายใส่Lacroix เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:36:20

ความคิดเห็นที่ 30 ซิ้งเกิ้ลสุดท้ายที่มีเสียง Robbie อยู่ในเพลง กลายมาซิงเกิ้ลสุดท้ายของวงที่แต่งโดย Gary เช่นเดียวกัน Never Forget เป็นเพลงซิงเกิ้ลแรกที่ Howard ได้เป็นนักร้องนำ (พี่ Jay ที่รักเป็นคนเดียวที่ไม่ได้โอกาส) Howard เป็นคนหนึ่งที่ร้องเพลงได้ดีมากๆ ของวงโดยเฉพาะไลน์ประสาน ไลน์หลายส่วนก็มาจากไอเดียของเขา Gary สนิทกับ Howard ที่สุด คงเป็นการแสดงความผูกผัน เขามอบเพลงที่เป็นเหมือนมหากาพย์ของวงให้ ถ้าสร้างเรื่องของ Take That เป็นหนัง Never Forget ก็คงเป็นธีมหนังที่พร้อมสมบูรณ์ในตัวเอง บทเพลงที่ว่าด้วยเรื่องของความสำเร็จที่ไม่มีอะไรยั่งยืน Gary มองเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าวันหนึ่งเรื่องราวของ TT จะต้องจบลง Never Forget กลายเป็นซิงเกิ้ลสำคัญของ TT ที่ Robbie ไม่เคยได้ร้องสด ทุกครั้ง Mark ต้องเป็นคนร้องไลน์นั้นแทน Never Forget ความยิ่งใหญ่ของเพลงนี้ต้องขอลักไก่อีกแล้ว เอาคอนใหญ่ๆ มาให้ดู The Ultimate Tour Live in Manchester จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 03:07:11

ความคิดเห็นที่ 31 <จะสุดท้ายแล้ว โอ๊ย ตอนหลังๆ เร่งเริ่มเหนื่อย> Jason บอกว่าถ้ามองจากปัจจุบัน Robbie ถึงจะเด็กแต่ก็เป็นเหมือนฮีโร่ ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านระบอบแย่ๆ (หมายถึง NMS) หกปีผ่านไป อะไรๆ มันก็เริ่มไม่สนุก ไม่มันเหมือนเก่า สมาชิกที่เหลือเริ่มเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ Gary เองก็เริ่มพล๊อตโซโล่โปรเจคของตัวเอง เพราะรู้ว่า Take That เองคงจะใกล้ถึงจุดพีคแล้ว ตั้งแต่เริ่มแรก ทุกคนเคยตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าจะจบลง ก็จะจบตอนที่อยู่บนสุดไม่ต้องรอให้ใครมาไล่ไป NMS ว่าให้เวลา 5 ปี TT ก็จะหมดอายุ แต่ทุกคนจะเดินจากไปพร้อมเงินก้อนโตในกระเป๋า บวกชีวิตที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคยเป็นมา หลังจากมีเวลาอยู่กับบ้านหยุดยาวช่วงคริสมาสหลังทัวร์อันเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำเลยกว่าห้าหกปี สมาชิกในวงก็กลับมาพร้อมกับข้อสรุปที่ว่า ได้เวลาหมดอายุ Take That (คนเดียวที่ไม่เต็มใจคือ Howard) เดิมวงตั้งใจจะแถลงหลังงาน Brit Award แต่หนังสือพิมพ์ The Sun ดันได้กลิ่นซะก่อน เลยกลายเป็นที่มางานวันนี้ How Deep Is Your Love กลายเป็นงานสุดท้ายของ Take That ที่เลือกจะคัฟเว่อร์เพลงเก่งของ The Bee Gee จะด้วยเพราะ Gary จะเก็บเพลงเก่งไว้สำหรับงานเดี่ยวหรืออะไรก็ตาม เพลงนี้กลายเป็นซิ้งเกิ้ลอันดับหนึ่งสุดท้ายของวง ตามหลักการที่วางไว้ตั้งแต่แรก " We are going out on top " How Deep Is Your Love ถือเป็นเอ็มวีค่อนข้างมีคลาสในไม่กี่อันของ Take That ตอนจบของเอ็มวีก็เหมือนกับตอนจบของวงโดยปริยาย ปล อันนี้ฮอตหมดทุกคนไม่เว้นแม้แต่เฮียแกซ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 04:09:32 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 03:38:58

ความคิดเห็นที่ 32 สุดท้ายของจริง Aftermatch ของการยุบวง Take That ที่อื่นเป็นยังงัยไม่แน่ใจ แต่ที่อังกฤษคือ ความโกลาหล Gary พูดประโยคหัวกระทู้ช่วงกลางวัน เด็กผู้หญิงหลายคนกลับจากโรงเรียนมาบ้านเพื่อมาเจอว่าโลกของพวกเขาถล่มไปแล้ว อาการที่เห็นในคลิปต่างๆ ทำให้เราเชื่อที่เขาว่า ถึงขนาดต้องตั้งสาย Hotline เพื่อกั้นคนคิดสั้นฆ่าตัวตาย หลายคนเก็บตัวอยู่กับบ้าน ร้องไห้เป็นอาทิตย์ หลายคนตามวงไปทุกที่ในช่วงสุดท้าย ถึงจะแถลงข่าวไปแล้ว แต่ Take That ยังมีสัญญาที่ต้องออกรายการต่างๆ ไปจนถึงเมษายน งานสุดท้ายที่วงไปออกไม่ใช่ที่บ้านเกิด แต่เป็นที่เนเธอร์แลนด์ หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เป็นแค่อดีตไป แต่ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง Take That ได้รับการยอมรับว่าเป็น " The most successful British band since the Beatle " Today I've Lost You สุดท้ายเราปิด The Ultimate Collection ด้วยเพลงแถมที่ไม่เคยเป็นซิงเกิ้ล แต่ยังคงความเป็น Take That ทุกอย่าง จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 04:02:54

ความคิดเห็นที่ 33 จบแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม เรื่องอื่นๆ หลังจากนี้เราไม่ถือว่าอยู่ในโหมด The Ultimate Collection ตามอัลบั้มจริงเลยจบแค่นี้นะคะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 04:12:30 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 04:07:56

ความคิดเห็นที่ 34 จำได้ว่ารู้จัก Take That ครั้งแรกตอนเตรียมเอนท์ คือเราเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือตอนดึกๆ แต่แปลกที่อยู่เงียบๆไม่ได้ อ่านไปก็จะต้องมีเสียงเพลง เสียงทีวีเปิดคลอไปด้วย (มีสมาธิกว่าอยู่เงียบๆซะอีก) ตอนนั้นก็เปิด hotwave ทิ้งไว้น่ะค่ะ แล้วก็นั่งทำโจทย์เลข โจทย์อะไรไป ช่วงดึกๆนั่นเปิดเพลง Take That บ่อย แล้วรายงานชาร์ทอะไรก็มี Take That ตลอด ก็เลยเออ รู้จัก ชอบเพลง เพราะดี พอมาดู cable ก็มี MV ให้ดูด้วย ช่องอะไรหว่า ที่มาก่อน Channel V เลยน่ะค่ะ ออกเคเบิลของ Sky (ชื่อนี้ล่ะมั้ง) ตอนแรกชอบ Mark มากที่สุด เพราะหน้าตาถูกชะตา แล้วชอบเพลง Babe ด้วย (ตอนหลังพอรู้เรื่องของวงนี้มากขึ้นแล้วชอบ Gary ที่สุด เก่งอะ) แต่ก็ไม่เคยเรียกตัวเองเป็นแฟนเพลงหรือแฟนคลับของ Take That เลย คือก็ชอบฟังเพลง เปิดผ่านก็หยุดดู หยุดฟัง แต่ก็ไม่ได้ซื้อ ไม่ได้ขวนขวายจะติดตามอะไร ตอน Take That จะมาตอนนั้น เพื่อนก็ชวนไปดูนะ แต่ก็บอก เออ ไว้ก่อน จนมาวันนึงที่นั่งรถกลับบ้านจากมหาวิทยาลัยแล้วเปิดวิทยุฟังตามปกติ ได้ยินดีเจพูดถึงคอนเสิร์ทก็เฉยๆ จนเค้ามาย้ำว่า Robbie ออกจากวงแล้วนี่แหละ จำความรู้สึกได้เลย ว่าเฮ้ย ฟังผิด พูดผิดรึเปล่า เอาใหม่ดิ๊ มันอึ้งๆซึมๆไปเหมือนกันนะ เพื่อนเราที่เป็นแฟน Take That อย่างเหนียวแน่น เห็นว่าได้ยินข่าวตอนอยู่บนรถเมล์ มันบอกว่าน้ำตาร่วงกลางรถเมล์อย่างไม่อายเลย เพราะอุตส่าห์หวังจะได้เห็นทั้งวงตัวเป็นๆ ขอบคุณที่เอาความหลังเก่าๆมารวบรวมให้อ่าน เอาคลิปดีๆมาให้ดูนะคะ Take That คือสุดยอดบอยแบนด์ในตำนานจริงๆ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 07:08:23

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ เราไม่ทันยุค TT อย่างจริงจัง เริ่มฟังเพลงสากลก็ช่วง BoyZone แต่หลายๆเพลงของ TT ที่ยังทันสมัยถึงทุกวันนี้ รวมไปถึงโซโล่ของทั้งแกรี่และร๊อบ เป็นหนึ่งในหลายๆเพลงโปรดของเราค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูล และเพลงเพราะๆรวมไปถึงความยิ่งใหญ่ของบอยแบนด์ที่น่าจะเรียกได้ว่าต้นแบบของบอยแบนด์แบบอังกฤษวงนี้ค่ะ จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 10:16:27

ความคิดเห็นที่ 36 ช่วยเก็บเข้าคลังให้ด้วยนะคะ ตอน MK I เป็นทีม Robbie คะ ตอนนี้ทีม Jason เต็มตัว แต่ตอน Robbie ออกเราไม่โศกมากนักนะ ห่วงแต่ว่าวงจะยุบ แบบสุดท้ายก็ให้ความสำคัญกับ Take That มากกว่า หนู Mark นี่ไม่เคยอยู่ใน radar เลย จนมาเป็น MK II เนี้ยแหละที่เราชื่นชมมากขึ้นเป็นเท่าตัว หลายๆ เพลงที่ชอบอย่าง Shine, Up All Night คือ Mark Owen เลยที่เป็นกลไกสำคัญเบื้องหลังการสร้าง ไม่ใช่ Gary อย่างที่ใครๆ คิด จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 12:12:28

ความคิดเห็นที่ 37 *26 เพลง back for good เพราะมากๆๆครับ อีกอย่างสมัยนั้นรู้จักความหมายของวลี for good ก็เพราะเพลงนี้แหละ อีกเพลงที่ชอบคือ Never Forget ครับ เพราะมาก จากคุณ : CharlesRiver เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 13:28:35

ความคิดเห็นที่ 38 จำได้ว่าตัวเองมาทันสมัย Back for Good  ทันเก็บอัลบั้ม Everything Changes แถมเอาเพลง Sure ไปเต้นที่โรงเรียนด้วย >.< หลังจากนั้นได้ไม่นานก็ใจหายไปกับข่าวการยุบวง...ทั้งที่จริงๆแล้วยังไม่ได้ถึงขนาดเป็นแฟนพันธุ์แท้อะไรมากมาย แต่เป็นวงบอยแบนด์วงแรกเลยที่ทำให้เรารู้ซึ้งถึงสัจธรรมว่า...ไม่มีอะไรจีรัง หลังจากนั้นก็ยังคงตามผลงานของแต่ละคนบ้าง ตามที่ได้ยินตามแผงวิทยุ ตามเก็บอัลบั้มเดี่ยวของ Gary (ซื้อเทปไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เพราะถูกใจทุกเพลง ฟังจนแทบจะยืดอยู่แล้ว เลยตามซื้อซีดีมานอนฟังเมื่อปีก่อนนี่เอง) และกลับมาติดตามอีกทีเมื่อครั้งที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง...จำได้ว่าเคยอ่าน Fanaccount ของแฟนในอังกฤษคนหนึ่ง เธอเล่าว่าตอนสมัยก่อน Take That ออกทัวร์ครั้งสุดท้าย เธออยากไปดูมาก แต่ไม่ได้ไปเพราะตอนนั้นเธอเพิ่งอายุแค่ 11 ขวบ ตอนนี้เธอมีลูกสองคนแล้ว เลยให้สามีเลี้ยงลูกๆแทนหนึ่งคืน แล้วตัวเองก็ออกไปดูคอนเสิร์ต Take That คนเดียว ปลาบปลื้มมีความสุขที่สุดเลย ^^ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆที่ทำให้ได้รู้ประวัติความเป็นมาของวงมากขึ้นนะคะ (เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแต่ก่อนขายภาพลักษณ์แบบนั้น ไม่ค่อยได้ดู MV วงนี้เลย ฟังแต่เพลงจริงๆ) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 17:12:20

ความคิดเห็นที่ 39 คิดถึง Take That มากๆค่ะ สมัยก่อนที่ยังเป็นเด็กมอปลายบ้านนอก ^^ วันๆนั่งฟังแต่ Back For Good ประทับใจ Gary มากกกกก   เข้าสู่โหมดโหยหาอดีตอีกแล้ว ^^ ขอบคุณ จขกท.นะคะที่ทำให้เราได้ยิ้นกลับไปนึกถึงช่วงแรกของชีวิตที่ชอบบอยแบนด์ จากคุณ : ~Melody and Harmony~ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 21:20:44

ความคิดเห็นที่ 40 สมัยก่อนยังไม่มีอินเตอร์เนท เริ่มแรกเคเบิ้ลก็ยังไม่ได้ติด ก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าวงมันอิมเมจแบบนี้ มีแต่ปกเทป Everything Changes ชุดก็ออกจะขาวสะอาด หน้าอีตาร๊อบก็ซื่อบริสุทธิ์ ก็หลงเชื่อความใสซะสนิทใจ พอมาดูคอนเสิร์ตเท่านั้นแหละ หมดกันกับภาพเจ้าชายขี่ม้าขาว แต่กลายเป็นแอบกรี๊ดหนักยิ่งกว่าเดิม ฮ่าๆ จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 23:32:43

ความคิดเห็นที่ 41 กระทู้รวมคนขึ้นเลขสามเลยนะครับ แต่ก่อนเพื่อนสาวในชั้นเรียนม.ปลายผมก็มีบ้า take that อยู่สามสี่คน (น้อยนะครับเมื่อเทียบกับกระแสบอยแบนด์ในปัจจุบัน เพราะที่เหลือบ้าทาทายังกันหมด) พอดีผมชอบฟังเพลงสากล ก็เลยพอคุยพวกเธอรู้เรื่องบ้าง พอวันจันทร์คุณเธอก็จะอ่าน smash hit เม้าธ์กันแหลก jason บ้าง gary บ้าง robbie บ้าง แต่ที่ผมจำได้ไม่ลืม คือเพื่อนสาวที่ผมแอบชอบและพยายามจีบอยู่สองปี เธอบ้า mark owen มากๆ คิดดูสิครับ จากเด็กผู้ชายที่คลั้่งไคล้ kurt cobain, Billy Corgan, Eddie Vedder ไปจน Richey James ต้องไปซื้อเทปอ่านข่าวของห้าหนุ่มนี่เพื่อจะได้มีเรื่องคุยกับเธอบ้าง สุดท้ายได้แต่ร้อง i guess now it's time for me to give up. แหม่ ความทรงจำช่วงม.ปลายนี่มันแจ่มชัดจริงๆนะครับ จากคุณ : เปาpao เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 00:43:30

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ (ฮ่าๆ ข้าพเจ้ายังเลข 2) อ่านแล้วขนลุกอ่ะพี่ เมื่อวานเพิ่งเอา the circus มาดูอีกรอบ -_-" แวะมาให้กิฟท์เพลง pray กับหน้าปก nobody else ก่อน (อัลบั้มแรกที่ได้ฟังจริงจัง) ยังไม่ได้อ่านทุกอัน ไม่ได้ดูทุกคลิป เด๋วตามทยอยอ่านแล้วมาคุยใหม่ ปล. กร้าาาาากกกกก พอคอมเม้นต์จบ คลิป do what you like ก็ขึ้นพอดี โอ้วแม่เจ้า ขอบคุณสวรรค์ที่ทุกวันนี้พวกเขาไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ ปล. 2 เอ่อ สรุปว่าไปๆ มาๆ ผมก็นั่งไล่อ่านจนหมดซะงั้น -_-" TT แต่ก่อนเป็นวงที่มีภาพลักษณ์เก๊ย์เกย์จริงๆ ด้วยอ่า แต่ตอนที่ผมเริ่มฟังก็ชุด nobody else แล้ว (ซึ่งไม่ค่อยเกย์เท่าไหร่แล้ว) back for good นี่เคยชอบนะครับ แต่พอฮิตกันถล่มทลาย เปิดกันไม่ยอมเลิก ก็เลยเบื่อไปเลยแฮะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 08:43:24 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 07:42:41 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 07:42:18 จากคุณ : strawberry machine gun เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 07:38:52

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาตแก้ข่าวว่ายังเลขสองค่ะ (เหลืออีกไม่กี่เดือนล่ะนะ ^^") จากคุณ : แมวจรจัด เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 09:11:37

ความคิดเห็นที่ 44 พูดถึงอายุออกตัวเอี๊ยกันใหญ่ ฮ่าๆ เฮียๆ แกมาดูตัวเองสมัยก่อน แกก็ขำสนั่นเหมือนกัน ประมาณว่าทำกันไปได้ขนาดนั้น ตอนที่กลับมา เฮียๆ ส่งเดโมไปให้ John Shank ที่เป็นโปรดิวเซอร์ยุครีเทิร์นทั้งสองชุดเนี้ยลองฟังดู เพื่อจะชวนมาทำอัลบั้มให้ John ความที่เป็นเมกันก็ไม่รู้จัก Take That เลยเข้ายูทูปไปหาดู วีดีโอแรกที่ป๊อบขึ้นมาคือ Only Take A Minute แล้วก็ ... " Who the heck are these guys !??!?!? ไอ้พวกนี้มันใครฝ่ะ !??!?!" เกือบไปแล้ว ถ้าเกิดดันเปิดเจอ Do What You Like คงไม่มี Take That ยุคใหม่แล้ว -_-" แต๋วแตกมากกว่าวงที่มีสมาชิกเป็นเกย์จริงๆ ซะอีก เป็นอาการเบื่อ Back For Good เหมือนกันเลย แต่น้อง SMG ต้องดูใน Beautiful World Live แล้วจะกลับมาขนลุกอีกรอบ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 13:12:44 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:06:10

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ ยังหาแผ่นไม่ได้เลยครับ จริงๆ คือก็เห็นแล้วอ่ะนะ แต่กะว่าจะซื้อจากร้านป้าเท่านั้น (เพื่ออะไร???) จนแล้วจนรอดก็เลยยังไม่ได้ดู เพราะร้านป้ายังไม่มี (แต่สั่งไปแล้วครับ แต่ไม่รู้ป้าลืมหรือเปล่า) ดูจากหลายๆ คลิปแล้ว พบว่าลุงแกรี่ (ณ ปัจจุบัน) อืดไปเยอะ ท่าเต้นนี่แบบโหยย จะรอดไหมนั่น ส่วนความเกย์นั้นเห็นจะไม่มีใครเกินลุงเจสัน (กร้ากกกก) จากที่ดูมาหลายคลิป เห็นเวลาลุงแกเต้นแล้วแบบทั้งมือทั้งเอวพริ้วเชียว จากคุณ : strawberry machine gun เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 14:15:24

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณคุณ Song iS A beautifuL LiE มากค่ะ เราเองก็บ้า Take That มากเมื่อก่อน ที่ห้องนี่ มีแต่โปสเตอร์ Take That เราชอบMark มากมาย มันถูกเสปคใช่เลย ทุกสัปดาห์ต้องรอ Smash Hit ออก แล้วไปตามซื้อมาอ่าน ว่ามันนินทาวงที่ฉันรักว่าอะไรบ้าง 555 ตอน Take That มาเปิดคอนที่เมืองไทย เราก็ได้ติดตามไปทั้งที่สนามบิน โรงแรม และสถานที่ต่างๆ ได้รูปถ่ายคู่มาสมใจ >..< ตอนแยกวงนี่ เรานอนร้องไห้ไปหลายวัน เหมือนฟ้าถล่ม แต่ Markie ยังมีเพลงใหม่ๆออกมามั่ง ไม่ได้หายหน้าหายตาไป ผ่านไปหลายปีพอกลับมารวมวงกันใหม่ ถึงทุกคนจะเปลี่ยนไป (แก่ขึ้น) แต่ยังคงความเป็น Boy band ที่มีคุณภาพ เต้นยังพริ้วอยู่เลย ยังรัก Take That เหมือนเดิม เพลง Pray นี่ มันมี hint ค่ะ มันสือถึง ดิน น้ำ ลม ไฟ ดิน = Rob น้ำ = Howie ลม = Markie (MV นี่ Sexy เกินห้ามใจ กรี๊ด ด ด  ไม่ต้อง six pack ก็เท่ห์ได้ น่ากอดมากมาย) ไฟ = Jason ส่วนตา Gary คือ Center หรือ Earth ค่ะ ใน Circus Tour ตอน melody เพลงนี้มา แทบน้ำตาไหล มันหวาน เพราะ และซาบซึ้งเหมือนเมื่อสิบปีก่อน น้ำตาเอ่อเลยพอทุกคนเริ่มเต้น พริ้วเหมือนเดิม ความทรงจำเก่าๆมันเริ่มกลับมา เฮ้อ!! สิบกว่าปีแล้ว แก่แล้วเรา 555+ คุณSong iS A beautifuL LiE อยากให้รบกวนช่วยเล่าต่อถึงตอนมารวมกันใหม่ด้วยได้ไหมค่ะ คือเราตามตอนนั้นไม่ทัน อยู่นอกเมืองพอดี เจออีกทีก็ The Circus แล้ว ต้องแอบมาติดตามเอาเอง ขอบคุณล่วงหน้า และขอบคุณกระทู้ดีๆ สำหรับความทรงจำดีๆ จากคุณ : TakeThai Mania (มะขามแก้วคลุกน้ำตาล) เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 18:50:22

ความคิดเห็นที่ 47 ร่วมรำลึกด้วยครับ ตอน Mark Owen ออกเดี่ยวแล้วมาเมืองไทยเพื่อโปรโมตอัลบั้ม ผมทำงานที่ BMG อัลบั้ม Green Man ขายได้พอประมาณ สู้ Forever Love ของ Gary Barlow ไม่ได้(แต่อัลบั้มเต็ม Open Road ขายได้ไม่เท่าไหร่) จากคุณ : TheKop78 เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 20:49:43

ความคิดเห็นที่ 48 เพิ่งมาเจอกระทู้ (ปกติเร่ร่อนที่ห้องอื่น) ขอบคุณคุณ Song iS A beautifuL LiE มากค่ะ สำหรับเรื่องราวและคลิป เป็นแฟน take that ตอนอัลบั้ม everything changes และไม่เคยชอบเอ็มวีของอัลบั้ม take that & party เลย 555 ใช่เลยเมื่อก่อนต้องอ่าน smash hit ต้องไปสั่งจองกะทาง asia book ในบางคราว เพราะหนังสือมาน้อย ถ้าช้าอาจหมด นอกจาก smash hit แล้วยังมีไรอีกหว่าจำไม่ได้ แต่ก็พยายามเก็บ เมื่อช่วงก่อนที่วงจะรีเทิร์นกลับมา ยังคิดว่าจะเอาไปขาย แต่ตัดใจไม่ลง เพราะเงินทั้งนั้น 555 มะใช่ เพราะว่าเปิดมาดูแล้วก็นึกถึงอดีตที่เคยชอบมากมาย ทิ้งไม่ลง เลยเก็บไว้ตามเดิม โชคดีที่ไม่ขายไป ไม่งั้นป่านนี้คงเศร้า ตอน take that มาเปิดคอนฯ ที่นี่ก็ได้ไปดูเหมือนกันค่ะ แล้วตอนมาร์กมาโปรโมตอัลบั้มก็ไปหาเช่นกัน ^_^ ตอนที่รู้ว่ากลับมารวมตัวกันใหม่ก็ดีใจมาก แต่ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้เลย เสียดายที่คอนเสิร์ตในอดีตที่มีเป็นวิดีโอ (hometown และ berlin) และปัจจุบันเครื่องเล่นก็เจ๊งไปแล้วเรียบร้อยหาซื้อไม่ได้ อดดูย้อนอดีต จำได้ว่าเมื่อก่อนดูซ้ำไปมาบ่อยมาก (ว่าไปป่านนี้เนื้อเทปก็คงจะยืดไปตามกาลเวลา) ชอบตอนที่ร้องเมดเลย์ของ The Beatle มากเลย ส่วนแผ่นคอนที่ออกหลังจากกลับมารวมตัวกันก็ซื้อเก็บไว้หมด ล่าสุด The Circus ได้ใจไปเต็มๆ ไม่คิดเสียดายตังค์ที่เสียไปเลยจริงๆ ตอนที่แกรี่พูดขึ้นเพลง back for good ว่า let it rain นั้น ขนลุกจริงๆ ว่าแต่..take that จะมาทัวร์เอเชียบ้างไหม?? อยากดู T-T จากคุณ : Qingqing เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 22:19:41

ความคิดเห็นที่ 49 พอดีเจอ Back for Good ภาคเอ็มวีค่ะ :-) มีซับภาษาสเปน แต่ถ้าอยากได้ไม่มีซับ ลองไปที่ http://v.youku.com/v_show/id_XOTEzMjU5Ng==.html แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 23:08:04 จากคุณ : Qingqing เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 23:07:24

ความคิดเห็นที่ 50 ได้ฟัง Take that ครั้งแรกเพราะเข้าใจว่าเป็นวง East 17 เข้าใจว่าเพลง stay another day เป็น เพลงของ Take that เลยซื้ออัลบัม everything change กลับมาบ้าน เอ๊ะ เพลงมันไม่ใช่นี่หว่า ใครวะ take that นั่นและถึงเริ่มรู้จัก แล้วกฟังจน robbie ไป จากคุณ : boota99 เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 23:08:51

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่เคยคิดว่าวงนี้เก๊เกย์มาก่อน จนกระทั่งเจอทู้นี้  โตมาฟังเพลงของวงนี้ตอน how deep is your love พอดี อุ๊บส เพลงเพราะ พอจะชอบก็จะยุบวงแล้วเหรอ จากคุณ : nemina เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 00:59:04

ความคิดเห็นที่ 52 OMG! ขอบคุณจขกทมากเลยนะคะ ที่เรียบเรียงมาให้อ่านกัน ขอแก้ตัวด้วยคนว่ายังไม่เลขสามนะ แต่ก็อีกไม่ถึงปีแล้วล่ะ TT เป็นศิลปินวงเดียวที่เราเคยบ้าคลั่งติดตาม พออ่านแล้วนึกถึงวันวานวัยเด็กมากเลยอ่า smash hits กับสินค้าของ TT เนี่ย จริงๆแล้วเห็นด้วยกับจขกทหลายอย่างเลยค่ะ ชอบที่บอกว่า "Pray คือนิยามของความสวยงานในเพลงป๊อบ ทั้งเมโลดี้ เนื้อร้อง ทำนอง ยิ่งตอนแสดงสดพร้อมท่าเต้น มันหวานไปหมดทั้งเพลง" เรายังจำท่าเต้นในคอนเพลงนี้ได้อยู่เลย หวานมากจริงๆ All I do each night is pray, hoping that I'll be apart of you again some day. All I do each night is think of all the time I close the door to keep my love within... จากคุณ : Kartoffelkopf เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 02:57:35

ความคิดเห็นที่ 53 ขอถามหน่อยครับ แผ่น Take That - For The Record นี่มี sub ไหม (ไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากคุณ : strawberry machine gun เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 13:07:44

ความคิดเห็นที่ 54 SMG แผ่น For the Record เคยเห็นเป็นอิมพอร์ตที่บูมเมอแรง Central ลาดพร้าว ตัว Documentary รู้สึกจะมีซับนะ แต่ที่สัมภาษณ์รายคนที่เป็น extra เหมือนจะไม่มี (หมายถึงซับอิงค์) กลับบ้านแล้วเดี๋ยวเช็คให้อีกที จริงๆ เฮียแก๊ซแกเต้นเก่งขึ้นน้าตอนนี้ อย่าไปว่าแกซิ ดูเพลง sure ใน Beautiful World Live ได้ ไม่เคยได้สังเกตเลยว่า MV Pray มันเป็นตามธาตุทั้งห้า จริงๆ ด้วย ล้ำลึกๆ จำไม่ได้เลยว่า Markie มาโปรโมตตอน Green Man ที่เมืองไทยด้วย ในสามคนที่ออกเดี่ยวนะ เราชอบงานหนูมาร์คที่สุด ยิ่งชุดหลังๆ หลายเพลงโดนมาก ส่วนที่เป็นตอน Comeback ไว้รอซักพักจะรวบรวมอีกรอบนะคะ อันนั้นก็เป็นเรื่องได้อีกหนึ่งกระทู้ใหญ่ๆ เลย ไล่ตั้งแต่ปัญหาแกรี่ ร๊อบบี้ มาจนกลับมาเป็น British Pop Royal อีกครั้งได้เลย จริงๆ รอให้อะไรบางอย่างกลับมาเป็น full circle อยู่ แว่วๆ ว่าน่าจะปีนี้แหละ ข่าวหนาหูมากๆ ปล เช็คแล้วมีซับอังกฤษหมดทั้งตัว documentary และ extra แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 53 09:28:00 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 18:34:43 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 53 18:33:34 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 18:31:18

ความคิดเห็นที่ 55 เพิ่งดู MV ที่ TT ร้อง Shine คู่กับ Who'd have known ของ Lily Allen ไปเมื่อวันก่อนเอง มาลงชื่อเป็นสาวกลัทธิคลั่ง Take That ด้วยคนค่ะ อ่านแล้วนึกถึงสมัยม.ต้น ทั้งห้องมีบ้ากันอยู่สองคน ฮ่าๆ  ตอน TT แยกวงก็ร้องไห้เหมือนกัน จากวันนั้นผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว (ไม่อยากคิดถึงอายุตัวเอง ^ ^") รออ่านตอนต่อไปนะคะ ตอนเตรียมเอนท์พลาดรายละเอียดบางช่วงไปเหมือนกัน จากคุณ : sommie เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 21:28:47

ความคิดเห็นที่ 56 Markie มาโปรโมตวันที่ 24 มีนาคม ปี 1997 ค่ะ (ไปรื้อสมุดลายเซ็นมาเปิดดู 55) ชอบปกอัลบั้ม nobody else เพราะมีตุ๊กตุ๊กด้วย :D (ภาพใหญ่โปรดคลิก http://www.ilbaluardo.com/Cover/Audio/S%20-%20T%20-%20U/TAKE%20THAT%20-%20Nobody%20else%20-%20Front.jpg ) จากคุณ : Qingqing เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 21:41:38

ความคิดเห็นที่ 57 Mark มาประมาณถ้าไม่ปลายปี 1996 ก็ต้นปี 1997 ไม่มี Showcase มีแต่ Autograph Signing จำได้ว่าพาไป Tower Record - WTC แล้วก็ แมงป่อง The Mall งามวงศ์วาน จากคุณ : TheKop78 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 21:50:59

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆค่า สำหรับข้อมูลดีๆมากมาย หลายๆเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนและหลายๆเรื่องที่หลงลืมไปตามเวลา อ่านกระทู้นี้แล้วย้อนนึกถึงอดีตวัยเยาว์มากมาย ชอบ Mark มากๆค่ะ ชอบเสียง ชอบการเต้น การแสดงออกบนเวที คนอะไรหน้าเด็กชะมัดแต่ลูกกลับหน้าแก่ซะงั้น-"- แต่บางครั้งก็หลงไปกับหน้าหล่อๆ หุ่นแมนๆของ Jason บางครั้งก็เคลิ้มไปกับเสียงของ Gary ^///^ สรุปชอบ Take That มากค่ะ ปล.ขอออกตัวด้วยคนยังเลข 2 อยู่ค่า ^^ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 53 01:09:26 จากคุณ : DaDa on The Run เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 01:03:12

ความคิดเห็นที่ 59 กระทู้ถูกใจมาก เราชอบเสียงของเฮีย Gaz ที่สุด แถมยังชอบเพลง Pray มากที่สุดเหมือนกันเลยคะ สะสมวีดีโอไว้ตลอด เวลาเพื่อนไปอังกฤษสมัยโน้นจะซื้อกลับมาฝากตลอด ดังมากๆคะ ปล.ด้วยคน ไม่ถึงเลขสามเหมือนกันนะ จากคุณ : แพนด้าไนท์ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 03:10:07

ความคิดเห็นที่ 60 แก้ข่าวแทนเฮียๆ นิดนึง ภาพอาจจะดูแต๋ว แต่ตัวจริงลูกสองสามกันเกือบหมดแล้ว ร๊อบบี้ก็กำลังจะแต่งงาน มีแต่พี่เจย์ที่ยังโสดสนิท แต่ในเมื่อพี่แกยังไม่ออกมายอมรับ ก็ปล่อยให้สาวๆ ฝันหวานกันต่อไป 'เค้าแค่ชอบเต้นแค่นั้นแหละตัวเอง' ปล ดู Jason เต้นแล้วอิน การโพสท่ามันสวยชะมัด จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 10:20:09

ความคิดเห็นที่ 61 ชอบ Take That ค่ะ ถึงจะคนละรุ่นก็ตามที  ^  ^ เรา teenage ปลายๆ คิคิ ยังชอบเพลงพวกลุงๆเลยค่ะ พวกเขาสุดยอดจิงๆ จากคุณ : ตะบองเพชรสีเขียว เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 14:45:07

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากมายค่ะ เราก็เป็นแฟน Take That อีกคนที่ยังไม่ขึ้นเลข 3 นะคะ ^v^ ชอบตั้งแต่ Everything Change จนมาถึงวันนี้ ตอนแยกกันไปออกอัลบั้มเดียวก็ยังติดตามผลงานอยู่ จริงๆ แล้วชอบ Gary มากเป็นพิเศษ แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่า เวลาที่ Gary ออกเดี่ยว ก็ยังไม่น่าดูเท่าตอนที่รวมกลุ่มกันเป็น Take That แล้วเห็นจากข้างบน ว่ามีบางคนคิดถึงอยากดู Hometown ลองเข้าไปหาดูใน youtube สิคะ มีคอนเสิร์ตของ Take That ตั้งแต่ The Party จนถึง Nobody Else เลยค่ะ เราก็โหลดเก็บไว้ดูทุกอันเลย (เฉพาะคอนเสิร์ตเก่านะคะ คอนเสิร์ตใหม่ๆ ขออุดหนุนซื้อของจริงดีกว่า) ขอบคุณเจ้าของกระทู้อีกครั้งค่ะ ชอบจังเลย จากคุณ : avides เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 16:11:52

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาขอบคุณ และ ให้ give ค่ะ ถ้ามี 10 คะแนนก็จะให้ 10 เลยค่ะ เสียดายสูงสุดแค่ 3 คิดถึงสมัย เด็กๆๆๆ 555 ย้ำๆๆ กลัวคนจับได้ อิอิ จากคุณ : iamsocute เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 17:25:19

ความคิดเห็นที่ 64 พูดแล้วคิดถึง สมัยก่อนจะตามข่าวนักร้องนี่ ยากแค้นแสนเข็ญ ไม่เหมือนตอนนี้เลย มีอินเตอร์เน็ท นี่มัน Worldwide  จริง ๆๆ เห็นค่าตั๋วแล้วนึกขึ้นมาได้ เทียบราคาบัตรคอน ณ วันนี้ ไม่รู้จะกี่บาท 1 พัน สำหรับเด็กมหาลัย เยอะนะนั่นอะ แถมตาร็อบก็ออกจากวงไปแล้วอีก ทั้ง ๆ  ที่รักร๊อบที่สุด แต่ สักครั้งในชีวิตกับวงที่ปลื้มมาก ๆๆ คนเดียวก็ยอมไปดู จากคุณ : chip-a-hoy เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 18:55:40

ความคิดเห็นที่ 65 เห็นบัตรข้างบนแล้วคิดฮอดหลาย ของเราเก็บแต่ตอนย้ายบ้านไม่รู้เอาไว้ลังไหน หายังไม่เจอ รวมทั้งหนังสือ TT ทั้งหลายด้วย อิจฉาคนได้เจอมาร์คตัวเป็นๆ อยากรู้ว่านิสัยดีมากๆ อย่างที่เป็นข่าวหรือเปล่า จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 20:28:06

ความคิดเห็นที่ 66 บัตร ข้างบน กีสสส เห็นแล้วคิดถึงมากกกก เราดูทั้ง 2 รอบเลย เคยเจอทั้ง 4 คน แบบใกล้ๆ มาแล้วค่ะ^^ ตอนนั้น เรากะเพื่อนอีกคน ชอบ Mark มากกก เราได้ลายเซ็นมาด้วย เซ็นที่เสื้อ ด้านหลังอ่ะ ตอนนี้ไม่รู้ หายไปไหนแล้วจิงๆ><' ขอรำลึกหน่อยนะคะ Take that เป็นวงแรกที่เราไปรับที่สนามบินเลยตอนนั้น 555++ เรียกว่าบ้ามาก เพราะ ตอนนั้นก็ยังเด็กอ่ะนะ อิอิ เคยเจอทุกคนแบบใกล้ชิดมาแล้ว ยกเว้น Rob ที่เจอแค่ใน concert ของ Rob เอง เพราะ Rob ออกจากวง ก่อนที่ TT จะมาเล่น คอน ที่ไทย ><' ยกเว้น RoB ขอรำลึก ความทรงจำลางๆ ก่อนนะคะ โห พอมานั่งนึกตอนนี้ เสียดายจังเลย ไม่รูเอารูปไปเก็บไว้ที่ไหนบ้างแล้ว ทุกคนน่ารักมาก แต่ ดูดุสุดคือ แกรี่ เพราะ ตอนนั้น ไม่ค่อยยิ้มเลย อิอิ จากคุณ : iamsocute เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 22:33:15

ความคิดเห็นที่ 67   คือจะบอกว่าวงนี้เป็นเหมือนวงที่ปูทางให้กับวงอื่นๆ อย่างมากมายจริงๆ นะเออ มันมีความแปลกใหม่และอะไรหลายๆ อย่างอีกมากมาย ผมรู้จัก Take That จาก VH1 ที่เคยมีฉายทาง UBC พักนึง โอ่ว มันแรงมาก ผมก็เลยนั่งรอดูทาง VH1 ไปเรื่อยๆ ก็เจออีกหลายๆ วงที่คล้ายๆ กันนี้และตามหลัง Take That มาทั้งนั้น (เข้าใจที่ผมต้องการจะสื่อกันมั้ยอ่ะ?) เอาเถอะ ชอบวงนี้ครับ แต่น้อยกว่า BB นะเออ (ทั้ง Backstreet Boys กับ Big Bang 55+) จากคุณ : ผมจะรู้ได้ไงว่าใครอยู่ข้างหลัง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 00:32:36

ความคิดเห็นที่ 68 พี่สาวเปิดให้ฟัง (ออกแนวเผื่อแผ่น้อง) ก็เลยชอบๆอยู่บ้าง performance เขาดีนะ ยอมให้เลย เสียง Gary ยังแน่นปึ้กเหมือนเดิม สุดยอด! ป.ล. อยากเม้าท์พี่สาว แต่มันเซฟกระทู้นี้ไว้ มันโพสท์ไปแล้วแหล่ะ แต่กลัวมันกลับมาอ่านซ้ำ เม้าท์มากๆ พอมันกลับมาอ่านเจอ เดี๋ยวจะโดนเชือดเอา แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 53 10:20:41 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 53 10:02:46 จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 10:01:41

ความคิดเห็นที่ 69 30 แล้วจ้า จำได้ว่าตอน take that แตก ฟัง How Deep Is Your Love จนเอียนไปเลย จากคุณ : น้องถั่ว เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 16:42:21

ความคิดเห็นที่ 70 ชอบ มาร์ค โอเว่น 555 shine จากคุณ : koarara เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 21:05:03

ความคิดเห็นที่ 71 บัตรคอนเสิร์ตยังเก็บไว้เหมือนกันค่ะ จำได้ว่าตอนไปดูก็พยายามไปยืนข้างหน้าแต่ข้างหน้าเบียดกันโย้ไปเย้มา ไม่ไหวๆ (ตอนนั้นวิทยายุทธ์ไม่กล้าแกร่ง) ดูได้ไม่กี่เพลงต้องถอยร่นมายืนข้างหลัง เอาอากาศหายใจและเอาัตัวรอดจากการถูกเหยียบ (ถ้าเกิดล้ม) ^^ จริงๆ เราก็ไปรอที่โรงแรมเหมือนกัน ดุสิตธานี จำแม่นเลย แต่ก็คลาดกะ Markie ตลอด T-T (ดุสิตฯ มีทางขึ้นลงสองชั้น) แล้วตอนนั้นยังเด็กอยู่ (วิทยายุทธ์ยังไม่มากมาย) ขนาดมีข่าวมาว่าเขาไปวัดพระแก้วกันก็ยังจะไม่ตามไป ค่ะสุดท้ายก็อดเจอแบบนอกรอบไปตามระเบียบ >.< รูปตอนนั้นที่อัดๆ จากชาวบ้านมาก็ไม่รู้เก็บไว้หลืบไหนเหมือนกัน ต้องขุดกรุกันเลยทีเดียว ;D จากคุณ : Qingqing เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 22:25:08

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนคอนอยู่ห่างจากรั้วแค่คนเดียว ฮ่าๆ ถ้าวันนั้นข้าพเจ้ายกป้ายบังใคร ขอ _/\_ อภัยมานะที่นี้ด้วย ไม่ได้ไปตามอ่ะ จำไม่ได้แล้วว่าเพราะอะไร อยากดู Take That ที่เมืองไทยอีก ความฝันตอนนี้มีสองอย่าง ไป Glastonbury กับ ดู Take That ที่ Wembley Stadium แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 53 07:39:39 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 23:45:08

ความคิดเห็นที่ 73 รักTake That ที่สุดเลย จากคุณ : Pat :o) เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 53 14:03:33

ความคิดเห็นที่ 74 ได้ฟังเพลงTake That ตอนท้ายๆเกือบจะยุบวงแล้ว เสียงของGary เพราะมากๆ ประทับใจ เลยตามหาฟังเอา ไปร้านเทป(สมัยนั้นCDแพงมาก) หาsingle มาฟัง (ไม่รู้ของจริงหรือเปล่า) ได้มาสี่ห้าม้วน ตอนนี้หายหมดแล้ว 555+ ยอมรับว่าเพลงเขาเพราะมากครับ อัลบั้มGreatest hits นี่เพราะทุกเพลงจริงๆ จากคุณ : Bazophil เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 53 22:16:49

ความคิดเห็นที่ 75 น่าจะมี ภาค 2 นะ - เรื่องราวหลังจากนั้น แต่ละคนไปไง ทำอะไร - อิทธิพลต่อวงบอยแบนด์ที่ทะลักออกมา ทั้งฝั่งยุโรป อเมริกา และ KPOP จากคุณ : เซียงเพียว เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 00:24:41

ความคิดเห็นที่ 76 ภาค 2 รอซักพักละกัน เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน เรื่องมันยาวด้วย ที่เค้าว่าเรื่องจริงเป็นยิ่งกว่านิยาย มันมีจริง จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 07:38:57

ความคิดเห็นที่ 77 เล่นเนทไปเรื่อยๆ ก็เจอเจ้านี่เข้าให้ครับ เพิ่งรู้ว่ามี Take That the Musical กับเค้าด้วย เหมือนจะทำเป็น DVD ขายเลยนะนั่น ถ้าให้ดีน่าจะมาเล่นที่รัชดาลัยบ้างนะครับ (ป.ล. เอาตอนจบมาให้ชมนะครับ มีตั้ง20 ตอน) จากคุณ : Bazophil เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 22:55:21

ความคิดเห็นที่ 78 เป็น West End Musical อ่านเนื้อเรื่องแล้วมันดูไม่ขลังเหมือนพวก Mama Mia เลย แต่แคสคนเสียงดีๆ ทั้งนั้นเลย (ดีกว่าวงอีก ฮ่าๆ) โปรเจคข้างบนเริ่มมีมาก่อนวงตัดสินใจรวมตัวกันใหม่คะ พอวงกลับมา ละครเพลงเล่นโชว์ครั้งแรกมันเลยเป็นกระแส Take That กระหน่ำ แต่วงรู้สึกว่าจะออกแถลงการณ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Musical เรื่องนี้ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 53 08:54:13 จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 08:33:25

ความคิดเห็นที่ 79 มาท้าวความหลังบ้างครับ (ที่อาจจะมีไม่เยอะ) 55555 ตอนที่ Take That ออกมาแรกๆ เป็นช่วงที่ผมยังบ้าบอคอแตกกับ RS (ยุคนั้น RS, GMM, คีตา และนิธิทัศน์ครองใจเด็กละอ่อนอย่างผมมากเลย) อยู่เลยครับ ที่สำคัญ เคยดู MV ของวงนี้แล้ว ทำให้ไม่ชอบเพลงไปซะก็เยอะ เพราะความแต๋วแตกนี่แหละครับ ทำให้ไม่ได้ฟังเพลงของวงนี้ไปเลย มาฟัง Boyzone กับ East 17 แทน แต่มาเริ่มฟัง และติดตามผลงานเมื่อได้ยินเพลง Back for Good นี่แหละครับ เพราะช่วงนั้นเริ่มหันมาฟังเพลงสากลจริงจัง และได้ฟังทั้งอัลบั้มสุดท้ายที่ MV ไม่ค่อยแต๋วแล้ว เลยเริ่มชอบขึ้นมา แต่มาได้ข่าวอีกที อ้าว Rob ออก วงยุบงงไปเลยล่ะครับช่วงนั้น แต่้หลังจากนั้นก็ชอบเพลงของ Gary มากครับ เพราะเสียงอบอุ่นมาก ฟังแล้ว เคลิ้มในน้ำเสียงจริงๆ ส่วนพี่มากนั้น ผมไม่ได้ติดตามเลยครับ เพราะตอนนั้นประทับใจเสียงของ Gary มาก เลยติดตามผลงานมาเรื่อยๆ จนมา Reunion นี่แหละครับ ที่หันมาฟังทุกเพลงของ Take That ว่าแต่ อยากให้ Gary หุ่นเวิร์คเหมือนก่อนๆ น่ะครับ เพราะว่าเห็นในปก CD ไม่แน่ใจว่าปกอัลบั้ม Circus หรือปก Single เล่นเดินบนสะพานเชือกเส้นเดียวแบบในละครสัตว์ คนอื่นในวงก็ OK อยู่หรอก แต่เฮีย Gary จะรอดไหมนั่น ออกจะอวบขนาด -_-" ปัจจุบันนี้ เวลาฟังเพลง 3 เพลงนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ใน List ที่ต้องฟังของผมเสมอเลยครับ  The Garden, Rule the World และ Greatest Day จากคุณ : เข็มขัดสั้น เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 20:48:02

ความคิดเห็นที่ 80 กระทู้ตกแล้ว ปิดด้วยเพลงหนึ่งที่ชอบมากแต่ไม่ได้เป็น single ละกัน จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 01:27:58

ความคิดเห็นที่ 81 อีกเพลง จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 01:30:35

ความคิดเห็นที่ 82 สุดท้ายกับเพลงที่เล่นมันทุกคอนเสิร์ด กับชุดโชว์ขาอ่อนสุดสยิว (โดยเฉพาะของพี่เจย์) จากคุณ : Song iS A beautifuL LiE เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 53 01:35:57