 |
ความคิดเห็นที่ 89 |
|
หนังสือภาพยนตร์บันเทิง หน้าปกน้ำชา มีข่าวK-otic ขอบคุณ คุณMikomikojang PPLCมากค่ะ
ไม่ใช่แค่เล่นๆ เต้นๆ เพียงอย่างเดียว สำหรับ 5 หนุ่มจอมซน คนเก่งจากค่าย KAMAKAZE ป๊อปปี้ ภาณุ จิระคุณ, เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ ,โทโมะ วิศว ไทยานนท์, เคนตะ เคนตะ ซึทจิยะ และ จองเบ จองเบ พาร์ค ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์กรทำงานเพลงมาหลายต่อหลายอัลบั้ม แถมด้วยโอกาสทองขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ Asia Song Festivel 2009 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้พวกเขาขอฉีกกฎเกณฑ์ ใส่ไอเดียความเป็นไทยใส่อัลบั้ม FREE TO PLAY อย่างเอาจริงเอาจัง ซึ่งดูท่าจะเวิร์กซะด้วย เพราะแฟนๆ ให้การตอบรับเป็นอย่างดีก่อนที่จะวางแผงเสียอีก เป็นอย่างไรบ้าง ก่อนหน้านี้แยกย้ายกันไปทำงาน ในนาม 2 high และ MONKEY HERO ? เขื่อน : ครับ 2 high ที่มีป๊อปปี้และโทโมะ ร่วมกันทำงาน และ MONKEY HERO ที่มี ผม,เคนตะ,จองเบ แยกันไปทำวงละซิงเกิล ก็เป็นประสบกสรณ์ ใหม่ๆที่สนุกมากๆครับ การทำงานยากขึ้นแต่ก็ได้อะไรเยอะมากขึ้นด้วยครับ ป๊อปปี้ : ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังทำอัลบั้มชุดที่ 3 ในนาม K-OTIC อยู่ด้วย อยู่ในช่วงคิดธีมเพลงของอัลบั้มอยู่ พยายามที่จะฟรีเพลย์ ลองคิดนอกกรอบดู ไม่จำกัดความคิด พวกเราทั้ง 5 คนเองก็อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ต่างคนต่างเป็นตัวของตัวเองก็เลยเป็นการแยกกันทำงานชั่วคราว(หัวเราะ) เคนตะ : ก็จะเห็นได้จากความแตกต่างของสไตย์เพลง อย่าง 2 high จะเน้นดนตรีหนักๆหน่อย โดย เพลง MONKEY HERO จะเน้นแร๊พๆ สนุกๆ บ้าๆ ง่ายๆ
ความเห็นของแฟนคลับ K-OTIC
โทโมะ : ตอนแรกเลยพวกเขาตกใจครับ เพราะคิดว่า...แยกกันอย่างนี้ วงแตกจริงๆ ก็ต้องออกมาเครียร์เลยครับ K-OTIC คือ K-OTIC รักกันดีเหมือนเดิม ซึ่งแฟนๆ เข้าใจแล้ว เขาก็ได้เห็นงานในรูปแบบใหม่ของพวกเราด้วย ซึ่งแฟนๆ ก็ชอบและรักเราเหมือนเดิม
ที่มาอัลบั้ม FREE TO PLAY ล่าสุด?
จองเบ : ทำมาประมาณปีกว่าๆครับ ป๊อปปี้ : เรียกว่าใส่ไอเดียเต็มที่ มากๆครับ เพราะหลังจากได้กลับมาจากเกาหลีงาน Asia Song Festivel 2009 ได้แสดงคอนเสิร์ตบนเวทีกับศิลปินหลายๆชาติ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น,เกาหลี,ไต้หวัน,จีน ฯลฯ ตอนนั้นยอมรับครับว่าตื่นเต้นมากๆ กับเวทีระดับใหญ่ขนาดนั้น โดยที่เราได้เตรียมการแสดงโขนไปด้วย ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ การทำงานที่ผ่านมารวมไปถึงการไปร่วมงานในครั้งนั้น ทำให้เราอยากจะนำเสนอความเป็นไทยที่น่ารักให้หลายๆคนได้รู้จักมากขึ้น เขื่อน : เป็นความคิดที่มาจากผมนี้แหละครับที่เอาความเป็นไทยไปแสดงที่เกาหลีแล้วกลับมาแล้วเราก็อยากได้งานของเราที่มีความเป็นไทย โดยการใส่เมโลดี้ดนตรีไทยเดิมประยุกต์เข้าไปร่วมกับเพลงป๊อปของ K-OTIC ก็เลยกลายเป็นแนวใหม่ ไทย-ป๊อป ที่จะมีเพลงในแนวนี้ประมาณ 4-5 เพลงในอัลบั้มนี้เลยครับ
ในฐานะที่เป็นชาวต่างชาติ โทโมะได้ฟังเพลงในแนวไทย-ป๊อป ที่มีดนตรีไทยเข้ามาร่วมอยู่ในอัลบั้ม เป็นอย่างไร ? โทโมะ : อย่างผม เคนตะ จองเบ เองก็รู้สึกว่า...โอเค นะ มันเข้ากันดี ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนฟังเพลงที่เป็นเด็กสมัยนี้ ผมว่ามันก็ได้อยู่ เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้ราบเรียบเป็นเพลงไทยเดิมอย่างนั้น เรื่องของดนตรี หรือการแต่งแร๊พเป็นภาษาเกาหลี-ญี่ปุ่น-อังกฤษ ก็มีอยู๋ในเพลงเหมือนเดิม ผมว่ามันก็ดูอินเตอร์ดี และเพื่อนๆก็สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมทางภาษาได้อีกด้วย ท่าเต้น ? เขื่อน : ก็เน้นท่าเต้นที่แข็งแรงสไตล์ K-OTIC แนวสตรีทเหมือนเดิมครับ แต่พิเศษหน่อย ก็มีท่าของการเล่นโขนเข้ามาด้วย หรือการรำไทย.รำเกี่ยวข้าว ท่าทางมันก็มาผสมกันได้ และมีการฝึกมากขึ้นกับการเต้นแบบสตรีททีม มีการอินเทอร์แอ๊กทีฟ ส่งอารมณ์-ส่งท่ากันไป ทำให้เพื่อนๆได้สนุกกันมากขึ้น แยกย้ายกันไปโกยประสบการณ์การทำงานในแบบของตัวเอง โอกาสที่ K-OTIC จะแยกกันไปอีกอก็มีในอนาคต ?
จองเบ : ไม่รู้เหมือนกันครับ (หัวเราะ) อย่าพูดเลยครับ มันก็เป็นเรื่องของอนาคต คาดเดาไม่ได้เหมือนกันว่า...จะมีอะไรออกมาอีกเรื่อยๆอยากยืนยันว่า... K-OTIC ก็คือ K-OTIC ครับ อย่างไรก็ต้องมารวมกลุ่มกันทำงานเหมือนเดิมแน่ๆ เพราะเราเองก็รักที่จะทำงานด้วยกัน และแฟนๆเพลงเองก็ยังชื่นชอบความเป็น K-OTIC ที่สุด K-OTIC ก็ต้องยังอยู่แน่นอนครับ
จากคุณ |
:
Namaiki Girl (ToMO Chan)
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.พ. 53 13:10:27
|
|
|
|
 |