ความคิดเห็นที่ 1 100. You Can't Always Get What You Want, The Rolling Stones แต่งโดย: Mick Jagger, Keith Richards Produced โดย: Jimmy Miller วางแผง: ก.ค '69 สังกัด London ติดชาร์ท: 8 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 42 หลังจากการบันทึกเสียงที่  Olympic Studio ในลอนดอนเมื่อเดือนพ.ย ปี 1968, Al Kooper ได้บอก Jagger ว่าเขาต้องการใส่เสียงเครื่องเป่าลงไปในเพลงที่พวกเขาเพิ่งทำเสร็จ ความหวังของ Kooper เป็นจริง และทำให้เพลง "You Can't Always Get What You Want"มี  introที่เป็นเอกลักษณ์ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:10:23

ความคิดเห็นที่ 2 99. Fortunate Son, Creedence Clearwater Revival แต่งโดย: John Fogerty Produced โดย: Fogerty วางแผง: ต.ค. '69 สังกัด Fantasy ติดชาร์ท: 14 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 14 "Fortunate Son" เป็นเพลงของ Fogerty ที่เป็นที่นิยมสำหรับทุกคน เขาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับว่าพวกคนรวยเป็นคนวางแผนสงครามแต่กลับเกณฑ์พวกลูกหลานคนจนไปรบ เขาแต่งมันด้วยความรู้สึกรังเกียจที่ตอนนั้นประธานาธิบดี  Richard Nixonได้วางแผนงานแต่งงานอันแสนเลิศหรูให้ Julie Nixon ลูกสาวของเขาที่กำลังคบหาดูใจอยู่กับ David Eisenhower.Fogerty บอกว่า เขารู้สึกว่าพวกคนร่ำรวยเหล่านี้ไม่ได้รู้สึกรู้สาและมีส่วนช่วยอะไรกับสงครามที่พวกเขาเป็นคนก่อเลย จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:17:52

ความคิดเห็นที่ 3 98. Love and Happiness, Al Green แต่งโดย: Green, Mabon "Teenie" Hodges Produced โดย: Willie Mitchell วางแผง: มิ.ย'72 สังกัด Hi ติดชาร์ท: 12 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  3 มือกีตาร์ที่ชื่อว่า Hodges ได้แต่งเพลงโรแมนติกนี้อย่างปัจจุบันทันด่วนในเช้าวันหนึ่งระหว่างมี sex กับแฟนสาวของเขาและดูมวยปล้ำทาง. Green มองว่าเพลง "Love and Happiness" เป็นแทร็กสำคัญที่ควบคู่ไปกับเพลงนำในอัลบั้มที่สี่ของเขากับสังกัด Hi Records ที่ชื่อว่า, I'm Still in Love With You จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:24:45

ความคิดเห็นที่ 4 97. Roll Over Beethoven, Chuck Berry แต่งโดย: Berry Produced โดย: Leonard and Phil Chess วางแผง: พ.ค '56 สังกัด Chess ติดชาร์ท: 5 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 29 Berry เดิมที่แต่งเพลงนี้มาจากการที่พี่สาวของเขาที่ชื่อ Lucy ที่เอาแต่เล่นเปียโนเพลงคลาสสิกจนไม่ยอมปล่อยให้เขาตอนเป็นเด็กได้เล่นบ้าง แต่เพลง "Roll Over Beethoven" กลายเป็นเพลง rock & roll ที่ประกาศถึงยุคใหม่ของดนตรีซะงั้น จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:37:41

ความคิดเห็นที่ 5 96. Great Balls of Fire, Jerry Lee Lewis แต่งโดย: Otis Blackwell, Jack Hammer Produced โดย: Sam Phillips วางแผง: พ.ย. '57 สังกัด Sun ติดชาร์ท: 21 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 2 Lewis ซึ่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาและเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ Jimmy Swaggart ได้ปฎิเศธที่จะร้องเพลงนี้ในตอนแรก และได้ถกเถียงกับ Phillips เกี่ยวกับเรื่องราวทางศาสนา มีคำถามหนึ่งที่  Lewis ถามว่า "ปีศาจจะช่วยจิตวิญญานได้อย่างไร?" แต่เมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับสุรา ความคิดเขาก็เปลี่ยน...เพลงเกี่ยวกับตัณหาราคะนี้ก็เลยดัง จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:50:41

ความคิดเห็นที่ 6 95. Blue Suede Shoes, Carl Perkins แต่งโดย: Perkins Produced โดย: Sam Phillips วางแผง: ก.พ. '56 สังกัด Sun ติดชาร์ท: 21 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  2 ได้รับแรงบันดาลใจจากหนุ่มTennessee ที่คลั่งไคล้การเต้นรำที่พยายามทำทุกทางไม่ให้สาวที่เต้นด้วยเหยียบร้องเท้าใหม่ของเขา Perkins เขียนเพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวเขากับสังกัด Sun มันเป็น  single แรกที่ติดทั้งชาร์ทเพลง pop R&B กระทั่ง country วันหนึ่ง Perkins ขับรถไปที่ New York เพื่อแสดงในรายการ  The Perry Como Show แต่รถเขากับชนกับรถขนไก่ ทำให้เขาต้องนอนพักรักษาตัวเป็นอาทิตย์ เขาได้แต่นั่งอยู่ที่บ้านแล้วดู Elvis Presleyร้องเพลงของเขา ในรายการ The Milton Berle Show แทน แต่ Elvis ก็บอกว่าเขาเทียบกับ original ไม่ได้หรอก จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:59:46

ความคิดเห็นที่ 7 94. Good Golly, Miss Molly, Little Richard แต่งโดย: Robert "Bumps" Blackwell, John Marascalco Produced โดย: Blackwell วางแผง: ก.พ. '58 สังกัด Specialty ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  10 Little Richard ได้ยินประโยคที่ว่า "Good golly, Miss Molly," เป็นครั้งแรกจากดีเจทางใต้ที่ชื่อว่าJimmy Pennick. Richard ได้เปลี่ยนประโยคนี้ให้เป็นเหมือนการโจมตีความเหมาะสมของอเมริกาอย่างสุดโต่ง ดังจาก "Good Golly, Miss Molly/You sure like to ball." เขาขโมยท่อน intro เปียโนของ Ike Turner ในเพลงของ Jackie Brenstonที่ชื่อว่า "Rocket 88," ที่บันทึกโดย Sam Phillips ใน Memphis เจ็ดปีก่อนหน้านี้ Richard บอกว่าเขาชอบท่อนนั้นมาตลอด และเขาก็เคยใช้มันในการแสดงของเขา ดังนั้นเมื่อเขาหาท่อน leadสำหรับเพลง 'Good Golly, Miss Molly,' เขาเลยใช้มันและมันก็ลงตัวพอดี จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 10:11:07

ความคิดเห็นที่ 8 93. I Still Haven't Found What I'm Looking For, U2 แต่งโดย: Bono Produced โดย: Daniel Lanois, Brian Eno วางแผง: พ.ค '87 สังกัด Island ติดชาร์ท: 17 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 " 'I still haven't found What I'm Looking For' เป็นเพลงที่กล่าวถึงความคลางแคลงสงสัยมากกว่าความศรัทธา เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่ทำยากที่สุดในอัลบั้ม  The Joshua Tree .Lanois บอกว่ามันมีจังหวะที่ลงตัวมาก. จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 10:19:54

ความคิดเห็นที่ 9 92. Blitzkrieg Bop, Ramones แต่งโดย: Ramones Produced โดย: Craig Leon วางแผง: พ.ค.'76 สังกัด Sire ไม่ขึ้นชาร์ท ในเพลงที่มีความยาวไม่ถึงสามนาทีนี้ ได้เขียนแบบพิมพ์เขียวของเพลง  punk rock ทั้งหมด ทุกอย่างรวมอยู่ในเพลงเปิดตัวของอัลบั้มแรกของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น กีตาร์เสียงแตก ที่ Johnny ใช้กีตาร์ราคาเพียง 50 เหรียญเล่น คำพูดหยาบคายที่พรั่งพรูมาจากมือกลองTommy มือเบส Dee Dee ได้เติมประโยคเด็ดที่ว่า"Shoot 'em in the back now" และเสียงร้องเหมือนมีอะไรติดคอของ  Joey กับสำเนียงอังกฤษผิด ๆ ของเขา อัดกันอย่างถูก ๆ ที่ New York's Radio City Music Hall ถึงแม้ว่าเพลง"Blitzkrieg Bop" ไม่ได้ขึ้นชาร์ทใด ๆ แต่มันก็เป็นเพลงที่สร้างโลกแห่งดนตรีเหนือชาร์ทเพลงขึ้นมา... จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:03:38

ความคิดเห็นที่ 10 91. Suspicious Minds, Elvis Presley แต่งโดย: Mark James Produced โดย: Chips Moman, Felton Jarvis, Presley วางแผง: ก.ย '69 สังกัด RCA ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 เมื่อ Moman ได้เสนอเพลงนี้ให้ Presley ในปี 1969, เขาได้เป็นเหมือนที่เนื่้อเพลงว่าคือ "ติดอยู่ในกับดัก เขาเหมือนวัวที่ทำเงินแต่ตอนนี้น้ำนมแห้งหมดแล้วแต่ติดอยู่กับภาพลักษณ์ที่เขาเป็นและถูกแขวนไว้ นี่อาเป็นเหตุผลที่ทำให้  Presley เชื่อว่าเขาจะทำให้มันเป็นเพลงดังได้ แม้เพลงนี้จะไม่ประสปความสำเร็จมากนักในปี 1968 จากนักร้องและนักแต่งเพลงที่ชื่อ Mark James. เพลงนี้ได้ทำให้เขากลับคืนสู่บัลลังค์ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:13:30

ความคิดเห็นที่ 11 90. In the Still of the Nite, The Five Satins แต่งโดย: Fred Parris Produced โดย: Marty Kugell วางแผง: ก.ย. '56 สังกัด Standord ติดชาร์ท: 19 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  24 นักร้องนำวง Five Satins ที่ชื่อ Parris ได้แต่งเพลงนี้ระหว่างที่เขากำลังรักษาการณ์ในค่ายทหาร และวงนี้ก็ได้บันทึกเพลงนี้ในห้องใต้ดินของโบสถ์ในบ้านเกิดของ  Parris ที่ New Haven, Connecticut. เป็นงานที่ไม่ละเอียดมากนัก เสียงกลองกับเปียโนได้ยินไม่ชัด  เสียง alto sax แตกระหว่างโซโล่เสียงประสานเพี้ยน แต่เสียงหลักทำให้.  "In the Still of the Nite" เป็นเพลงที่ยอดเยียมสำหรับ doo-wop. จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:20:33

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : changcp เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:36:13

ความคิดเห็นที่ 13 89. California Dreamin', The Mamas and The Papas แต่งโดย: John and Michelle Phillips Produced โดย: Lou Adler วางแผง: ธ.ค. '65 สังกัด Dunhill ติดชาร์ท: 17 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  4 แต่งโดย John Phillips ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บในManhattan เมื่อภรรยาของเขาบ่นคิดถึง Southern California "California Dreamin' " เป็นเพลงแห่งการรอคอยที่สดใสที่สุดตลอดกาล จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:37:24

ความคิดเห็นที่ 14 88. My Girl, The Temptations แต่งโดย: Smokey Robinson, Ronald White Produced โดย: Robinson, White วางแผง: ม.ค. '65 สังกัด Gordy ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 The Temptations ได้หารค่าเช่า Harlem's Apollo Theater กับ Robinson และวงของเขา the Miracles เมื่อ  Robinson ได้ขอเวลานอกที่จะอัดทำนองเพลงที่เขากำลังทำอยู่ พอ the Temptations ได้ยินพวกเขาก็ขอร้องให้Robinson ยกเพลงนี้ให้พวกเขาแทนที่จะให้  the Miracles ตามที่เขาวางไว้แต่แรก Robinson ยอมและเลือกนักร้องเสียง tenor ชื่อ David Ruffin ร้องนำเพลงนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาได้ร้องนำ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:44:47

ความคิดเห็นที่ 15 87. Ring of Fire, Johnny Cash แต่งโดย: June Carter, Merle Kilgore Produced โดย: Don Law วางแผง: พ.ค '63 สังกัด Columbia ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 17 Carter ได้แต่งเพลงนี้ระหว่างที่ขับรถไปอย่างเรื่อยเปื่อยในคืนหนึ่ง เธอกังวลเกี่ยวกับอารมณ์ร้อนรุนแรงของ Cash และเธอก็รู้ว่าเธอไม่มีทางต้านทานได้ ไม่นานนักหลังจากได้ยินน้องสาวของ June ที่ชื่อว่า Anita ร้องเพลงนี้ Cash ก็อยากร้องเพลงนี้บ้างโดยใส่เสียง mariachi horns(เครื่องเป่าของชาวแมกซิกัน) ลงไป. เวอร์ชั่นของ Cash กลายเป็นเพลงฮิตที่สุดเพลงหนึ่งของเขา และการแต่งงานกับ June ในสี่ปีให้หลังก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:52:50

ความคิดเห็นที่ 16 86. Thunder Road, Bruce Springsteen แต่งโดย: Bruce Springsteen Produced โดย: Springsteen, Jon Landau, Mike Appel วางแผง: ส.ค. '75 สังกัด Columbia ไม่ได้ตัดเป็น single "เราได้วางแผนไว้ว่าเราจะทำ guitar album แต่ผมกับแต่งเพลงทุกเพลงด้วยเปียโน"  Springsteenได้กล่าวถึงอัลบั้มที่สามของเขาที่ชื่อว่า Born to Run. "Thunder Road," เป็นเพลงแรกในอัลบั้ม เพลงนี้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการไถ่ถอน ซึ่งยืมชื่อเพลงมาจากภาพยนตร์ในปี1958 ที่นำแสดงโดย Robert Mitchum ซึ่งแสดงเป็นนักแข่งรถบนท้องถนนที่รถของเขาไม่มีใครเอาชนะได้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:02:33

ความคิดเห็นที่ 17 85. Crazy, Patsy Cline แต่งโดย: Willie Nelson Produced โดย: Owen Bradley วางแผง: ต.ค. '61 สังกัด Decca ติดชาร์ท: 11 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  9 Cline ไม่ประทับใจนักเมื่อได้ยินเดโมเพลงนี้จากนักแต่งเพลงหน้าใหม่ชาว Nashville ที่ชื่อว่า Willie Nelson. เธอบอกว่าเพลงนี้มันก็บ้าสมชื่อนะแหละ แต่ Bradley ช่วย Cline ทำให้มันเป็นเพลงของเธอด้วยการเรียบเรียงที่หรูหรา และได้นักร้องเสียงประสานชั้นเยี่ยมชื่อวงJordanaires, ในขณะที่ Cline ได้ซึมซาบเนื้อเพลงแล้วร้องออกมาอย่าง sexy น่าเสียดายที่ Cline เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในเวลาไม่ถึงสองปีดีต่อมา จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:11:28

ความคิดเห็นที่ 18 84. Every Breath You Take, The Police แต่งโดย: Sting Produced โดย: Hugh Padgham วางแผง: พ.ค '83 สังกัด A&M ติดชาร์ท: 22 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 สำหรับเพลงที่ประสปความสำเร็จที่สุดของพวกเขา วง the Police ได้กลับไปสู่แบบฉบับเดิม ๆ  Sting ยอมรับว่าเนื้อเพลงที่ดูเหมือนจะอ่อนโยนจริง ๆ แล้วขมขื่นนั้นนำมาจากตำราการแต่งเพลง  the rock & roll แบบเดิม ๆ นั่นแหละ " เขาบอกว่า'Every Breath You Take' เป็นเพลงที่เหมือนตัวอย่างดั้งเดิม "หากคุณมีคอร์ดหลักแล้วตามด้วยคอร์ดในกลุ่มนั้น คุณย่อมไม่ใช่  original" เขาว่างั้น." แต่ Puff Daddy ก็ได้ใช้เพลงที่ไม่เป็นoriginal และไม่น่าภาคภูมิใจของเขา ในเพลง "I'll Be Missing You." ในเวลาสิบสี่ปีต่อมา แล้วก็ดังด้วย จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:22:40

ความคิดเห็นที่ 19 83. Norwegian Wood (This Bird Has Flown), The Beatles แต่งโดย: John Lennon, Paul McCartney Produced โดย: George Martin วางแผง: ธ.ค. '65 สังกัด Capitol ไม่เป็น single หลังจาก the Beatles ออกทัวร์ที่มีแต่สาว ๆ ตามกรี๊ด พวกเขาก็ได้มีเวลาที่จะทดลองทำงานดนตรีชิ้นใหม่ออกมา ท่ามกลางการทดลองแรก ๆ ของพวกเขาคือเพลง folk ballad ที่ใช้ sitar เพลงนี้ เพลงนี้แต่งโดย Lennon เป็นการเล่าเรื่องราวของการลักลอบนัดพบในกลางดึก แม้ว่าเรื่องราวน่าจะนำพาไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ แต่ชายเหลวไหลผู้สับสนคนนี้กลับจบเรื่องราวลงที่เขาไปนอนในอ่างอาบน้ำ Lennon บอกว่าเรื่องราวในเนื้่อเพลงก็เหมือนกับเรื่องราวของเขาที่เกิดขึ้นจริง เขากังวลไม่อยากให้ Cyn ภรรยาตอนนั้นรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:35:58

ความคิดเห็นที่ 20 82. You Really Got Me, The Kinks แต่งโดย: Ray Davies Produced โดย: Shel Talmy วางแผง: ก.ย '64 สังกัด Reprise ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  7 พวกเขาถูกโน้มน้าวทำให้เชื่อว่าการที่ singles สองเพลงก่อนหน้านี้ไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะว่ามันเป็นไปตามรูปแบบฉบับแบบดั้งเดิมเกินไป พวกเขาเลยเข้าห้องอัดในหน้าร้อนปี 1964 เพื่อบันทึกเพลงที่ดิบกว่าเดิม ที่แต่งโดยRay Davies แต่เพลงก็ยังฟังดูสดใสไปอีก พวกเขาต้องไปกู้เงินอีกสองร้อยปอด์นเพื่อทำใหม่ มือกีตาร์หนุ่มอายุสิบเจ็ดปีที่ชื่อ Dave Davies ได้เอาใบมีดโกนกรีดกรวยแอมป์ของเขาเพื่อให้ได้เสียงดิบ ๆ อย่างที่เขาต้องการ อีกหนึ่งเดือนต่อมาเพลงนี้ก็ขึ้นชาร์ท จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:46:46

ความคิดเห็นที่ 21 81. Blueberry Hill, Fats Domino แต่งโดย: Al Lewis, Larry Stock, Vincent Rose Produced โดย: Dave Bartholomew วางแผง: ต.ค. '56 สังกัด Imperial ติดชาร์ท: 27 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  2 "Blueberry Hill" ได้ถูกทำเป็นครั้งแรกโดย Gene Autry ในปี 1940. แต่ Domino ได้นำเพลงนี้มาจากเวอร์ชั่นของ Louis Armstrongในปี 1949 เมื่อตอนที่เขาไม่มีวัตถุดิบเหลืออยู่  โปรดิวเซอร์ Bartholomew คิดว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดีแต่เขาเถียงแพ้ ซึ่งกลับกลายเป็นเรื่องดี เพราะว่าเพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงที่ฮิตที่สุดของ Domino และเขาก็ได้เอาชนะใจกลุ่มคนฟังทั้งผิวดำและผิวขาว." จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:56:53

ความคิดเห็นที่ 22 80. I Heard It Through the Grapevine, Marvin Gaye แต่งโดย: Barrett Strong, Norman Whitfield Produced โดย: Whitfield วางแผง: ต.ค '68 สังกัด Tamla ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 Motown โปรดิวเซอร์ที่ชื่อ Whitfield มีชื่อเสียงจากการเอาเพลงเก่ามาทำใหม่หลาย ๆ แบบ เรียบเรียงใหม่ให้ไม่เหมือนกัน ทำให้ศิลปินในค่ายบางคนไม่พอใจนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรความคิดของเขาก็ประสบผลสำเร็จ อย่างที่เกิดกับ  Gaye ในปี1968 ที่เขานำเพลง "Grapevine," ที่ฮิตมาเป็นปีแล้วจากวง Gladys Knight. Whitfield และผู้ร่วมแต่งของเขา Strong ได้ทำให้เพลงนี้ช้าลง มีจังหวะน่าสนใจมากขึ้น ทำให้เพลงนี้ที่ Gaye ไม่อยากอัดตั้งแต่แรกขึ้นอันดับหนึ่งนานเจ็ดสัปดาห์ และเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของค่าย Motown ในทศวรรษนั้น จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:06:57

ความคิดเห็นที่ 23 79. Mr. Tambourine Man, The Byrds แต่งโดย: Bob Dylan Produced โดย: Terry Melcher วางแผง: พ.ค '65 สังกัด Columbia ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 สมาชิกวง Byrd ที่เล่นในเพลงดังเพลงแรกของเขามีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ Roger McGuinn,ที่เล่นกีตาร์สิบสองสายที่ภายหลังกลายเป็นเสียงเอกลักษณ์ของเพลง folk rock. ส่วนเครื่องดนตรีชิ้นอื่น ๆ เป็นผลงานของโปรดักชั่นที่L.A.  รวมถึงมือกลอง  Hal Blaine และมือเบส Larry Knechtel จากทีมของ Phil Spector. แต่สมาชิกที่เหลือของวงก็มารวมตัวกันหลังเพลงนี้ประสบความสำเร็จ  Dylan เองก็เคยไปดูวงนี้เล่นที่  Ciro's คลับใน L.A. แล้วบอกว่าเขาจำเพลงของเขาไม่ได้เลยเวลาเอามาเล่นกับเครื่องดนตรีไฟฟ้าแบบนี้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:17:45

ความคิดเห็นที่ 24 78. I Got You (I Feel Good), James Brown แต่งโดย: Brown Produced โดย: Brown วางแผง: พ.ย. '65 สังกัด King ติดชาร์ท: 12 สัปดาห์ อันดับสูงสุด :  3 เพลงนี้ประสบความสำเร็จในปีเดียวกับ "Papa's Got a Brand New Bag," อีกเพลงที่ดังของเขา เพลงนี้ได้ถูกทำให้เร็วขึ้น คลั่งขึ้นกว่าเดิมจากเพลง  "I Found You" ที่ Brown ได้แต่งให้นักร้องหญิงในอุปถัมป์ของเขาที่ชื่อว่า  Yvonne Fair. "I Got You" ได้รับการช่วยเหลือให้ติดชาร์ทเพลงป็อปจากแหล่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ คือตอนที่เขาได้ไปร่วมในงาน Frankie Avalon teen flick Ski Party ในปีเดียวกันนั้นเอง จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:25:34

ความคิดเห็นที่ 25 77. Mystery Train, Elvis Presley แต่งโดย: Junior Parker Produced โดย: Sam Phillips วางแผง: ก.ย. '55 สังกัด Sun ไม่ขึ้นชาร์ท "Mystery Train" เป็นเพลงของ Presley ที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุดอีกเพลงหนึ่ง เป็นเหมือนเพลงบลูตายตัวเก่า ๆ ทั่วไปแต่จริงๆ แล้วเพลงนี้ถูกทำขึ้นครั้งแรกเพียงสองปีก่อนหน้านี้ โดยศิลปินเพลงบลูจากค่าย Memphis ชื่อ Junior Parker.  Presley ได้เพิ่มประโยคสุดท้าย "Train took my baby/ But it never will again" -- ตามด้วยเสียงโห่ร้องอย่างดีใจในตอนท้ายทำให้เปลี่ยนจากเพลงลูกทุ่งที่เล่าเรื่องความตาย กลายเป็นเพลงเกี่ยวกับพลังอำนาจที่เอาชนะความตาย จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:37:28

ความคิดเห็นที่ 26 76. Strawberry Fields Forever,The Beatles แต่งโดย: John Lennon, Paul McCartney Produced โดย: George Martin วางแผง: ก.พ. '67 สังกัด Capitol ติดชาร์ท: 9 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  8 Lennon มักจะกล่าวว่าเพลง"Strawberry Fields Forever" เป็นเพลงที่สุดยอดที่สุดที่เขาทำกับวง the Beatles. เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่อัดในอัลบั้ม Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band (แม้ภายหลังจะตัดเป็นซิงเกิลแทนก็ตาม). เนื้อเพลงรำลึกถึงความหลังของเขาตอนเป็นเด็กอยู่ที่  Liverpool และกล่าวถึงความภาคภูมิใจของเขาอีกด้วย ในประโยคที่สองของเนื่้อเพลงที่ว่า 'No one I think is in my tree.' จริง ๆ แล้วเขาต้องการบอกว่า 'Nobody seems to be as hip as me, ดังนั้นถ้าเขาไม่บ้าก็เป็นอัจฉริยะ.'  (อันนี้เขาพูดเองนะ) จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:51:37

ความคิดเห็นที่ 27 75. Whole Lotta Love, Led Zeppelin แต่งโดย: Willie Dixon, Led Zeppelin Produced โดย: Jimmy Page วางแผง: ต.ค. '69 สังกัด Atlantic ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  4 ตอนที่ Page ได้ตั้งสวใหม่ที่ชื่อว่า Led Zeppelin นั้น นักดนตรีทั้งสี่คนมาร่วมงานกันได้เนื่องจากการร่วมกันแจมในเพลงบลูที่พวกเขารัก เพลง "Whole Lotta Love" เป็นการ tribute ของพวกเขาที่มีต่อนักแต่งเพลงบลูชาว  Chicago ที่ชื่อว่า Willie Dixon. ดั้งเดิมมาจากเพลง "You Need Love," เพลงที่ Muddy Waters ตัดออกมาในปี 1962,แต่ Plant(นักร้องนำ) ก็ได้ใส่บางท่อนของเพลงของ  Dixon wrote ที่แต่งให้ Howlin' Wolf: ที่ชื่อว่า"Shake for Me" กับ "Back Door Man." เพื่อยืนยันว่าวงเป็นแฟนของ Dixon พวกเขาก็ยังได้   cover เพลง "You Shook Me," "I Can't Quit You Baby" กับ "Bring It On Home" ในสองอัลบั้มแรกของพวกเขา แต่ไม่ได้ทำเรื่องลิขสิทธ์ให้เรียบร้อย จนกระทั่งปี 1985, เมื่อ Dixon ได้เรียกร้องสิทธ์ของเขาและได้สิทธิ์ในการร่วมเครดิตในเพลง "Whole Lotta Love." "เสียงกีตาร์ของ  Page ยังไงก็เป็นของเขาอยู่วันยังค่ำ," Plant บอก. "ผมแค่คิดว่าแล้วผมจะร้องอะไรล่ะ และมันก็ใช้แหละ เราขโมยของเขามา ตอนนี้ก็ยินดีที่จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์เหล่านั้น" แล้ว Page ก็บอกว่า , "ตามปกติแล้ว riffs ของผมโคตรจะเป็น original เลย ผมจะว่าไงได้ล่ะทีเนี้ย?" จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 14:18:27

ความคิดเห็นที่ 28 74. Superstition, Stevie Wonder แต่งโดย: Wonder Produced โดย: Wonder, Malcolm Cecil, Robert Margouleff วางแผง: พ.ย. '72 สังกัด Tamla ติดชาร์ท: 16 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 Wonder ในตอนนั้นอายุยี่สิบสองปี ที่ต้องการจะก้าวข้ามการเป็นดาราเด็ก ได้แต่งเพลงนี้จากกลอง แล้วเขาก็ฮัมเอาเสียงเครื่องดนตรีอื่น ๆ เอา  Wonder ได้ร่วมกันทำเพลงนี้กับ Jeff Beck และตั้งใจให้  Beck ได้อัดเพลงนี้ แต่พอ Beck ยังทำอัลบั้มของเขาไม่เสร็จ เพลงนี้ก็เลยกลายเป็น single จากอัลบั้ม Talking Book -- และกลายเป็นเพลงอันดับหนึ่งของเขาอีกครั้งในรอบเกือบสิบปี จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 14:29:15

ความคิดเห็นที่ 29   มารอดูอันดับต่อไปอยุนะคะ :) จากคุณ : Can U Feel It (Can U Feel It) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 14:44:08

ความคิดเห็นที่ 30 73. Summertime Blues, Eddie Cochran แต่งโดย: Cochran, Jerry Capehart Produced โดย: Capehart วางแผง: ก.ค '58 สังกัด Liberty ติดชาร์ท: 16 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 8 Cochran เป็นมือกีตาร์มือฉมังที่มีเสียงร้องที่ใหญ่ห้าว ถึงอย่างนั้นต้นสังกัดของเขาพยายามปั้นให้เขาเป็นนักร้องเพลงหวานแหววขวัญใจวัยรุ่น แต่เขาได้เกิดจากเพลงร็อคคลาสสิกที่เขาร่วมกันแต่งกับ Capehart. Capehart บอกว่ามีเพลงเยอะแยะมากมายที่กล่าวถึงฤดูร้อน แต่ไม่เห็นมีเพลงไหนกล่าวถึงความทุกข์ยากในฤดูร้อนเลย เมื่อเนื้อเพลงแบบนี้ผสมกับเสียงกีตาร์ของ Cochran, พวกเขาก็เลยดัง.... จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 14:44:45

ความคิดเห็นที่ 31 72. Papa's Got a Brand New Bag, James Brown แต่งโดย: Brown Produced โดย: Brown วางแผง: ก.ค '66 สังกัด King ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 8 ในกลางปี 1965, Brown ได้ติดแหงกอยู่กับสัญญาในค่าย แต่พอเขารู้ว่าค่ายใกล้จะล้มละลาย เขาก็ได้โยนกระดูกชิ้นงามให้กับสังกัด เป็นเพลงที่เขาเพิ่งอัดได้ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ แล้วบอกทางสังกัดว่า เพลงนี้ดังแน่ แล้วมันก็ดังจริง ๆ ป.ล ดูปู่แกเต้น...สุดยอด จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 14:51:16

ความคิดเห็นที่ 32 71. California Girls, The Beach Boys แต่งโดย: Brian Wilson, Mike Love Produced โดย: Wilson วางแผง: ก.ค '65 สังกัด Capitol ติดชาร์ท: 11 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 3 ครั้งแรกที่ Wilson ได้เล่นยาเอสเอลดี เขาได้นั่งที่เปียโนแล้วแต่งท่อนขึ้นต้นอันแสนสวยงามเปี่ยมด้วยความเศร้าแต่ดูลึกลับในเพลง  "California Girls." เขาบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้เขาได้สร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีความซับซ้อนและเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึก เนื้อเพลงแต่งด้วยความรักแต่ได้รับแรงบันดาลใจที่ว่า "ทุกคนก็ชอบสาว ๆ หมดแหละ" และแทนที่จะร้องด้วยอารมณ์เหมือนจินตนาการของวัยรุ่น พวกเขากลับทำให้มันดิบขึ้นจากผลงานก่อน ๆ ของพวกเขา เขาได้พยายามสร้าง The Beach Boys แบบใหม่ขึ้นมา... จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 15:01:20

ความคิดเห็นที่ 33 เจ้าของกระทู้ขออนุญาตพักตรงนี้ก่อนนะคะ ถ้าว่างเดี๋ยวมาต่อใหม่ค่ะ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 15:02:08

ความคิดเห็นที่ 34 มาร่วมนับถอยหลัง ^^ จากคุณ : McMurphy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 15:02:57

ความคิดเห็นที่ 35 เพลงดีๆคลาสสิกๆทั้งนั้น...ขอบคุณที่มาโพสครับ จากคุณ : Dr.Pepper เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 22:07:22

ความคิดเห็นที่ 36 ติดตามอยู่ครับ :) จากคุณ : magnitoz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 22:59:16

ความคิดเห็นที่ 37 คห 23 อันดับ 79 ซ้ำกับ 101-200 หรือเปล่าครับผม จากคุณ : catstevens เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:41:44

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ^ เพลงเดียวกันแต่คนร้องคนละคะค่ะ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 08:33:44

ความคิดเห็นที่ 39 ต่อนะคะ 70. Walk On By, Dionne Warwick แต่งโดย: Burt Bacharach, Hal David Produced โดย: Bacharach, David วางแผง: เมษา'64 สังกัด Scepter ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  6 เพลง R&B ballad ที่มีจังหวะ  bossa-nova เพลงนี้จริง ๆ แล้วเป็นเพียงเพลงที่อยู่ในหน้า B ของซิงเกิล"Any Old Time of the Day." แต่ดีเจชาวนิวยอร์กที่ชื่อ Murray the K คิดว่าเพลงนี้มีดีกว่าที่เห็นและได้ชักชวนให้คนฟังร่วมโหวตระหว่างสองเพลงนี้ เพลงที่ชนะก็ได้ขึ้นชาร์ทอย่างที่เห็น ๆ แทรกกลางกระแส Beatlemania จนได้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 08:44:31

ความคิดเห็นที่ 40 69. Crying, Roy Orbison แต่งโดย: Joe Melson, Orbison Produced โดย: Fred Foster วางแผง: ส.ค '61 สังกัด Monument ติดชาร์ท: 16 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  2 Orbison กล่าวว่าเพลงนี้ได้แต่งมาจากการที่เขาประสบปัญหาเดิม ๆ ไม่ว่าเขาจะร้องไห้ออกมาจริง ๆ หรือน้ำตาตกในแต่ความรู้สึกมันก็ไม่ต่างกัน เพลงกึ่ง ๆ โอเปร่านี้มีโน้ตที่สูงสุดเท่าที่ Orbison จะรับได้ "เหมือนว่าเขายืนอยู่บนยอดเขาโอลิมปัสและร้องมันออกมาอย่างสุดจิตสุดใจ" Bob Dylan เขียนไว้ในหนังสือ  Chronicles. "เขาร้องเพลงของเขาในสาม สี่ ออกเต็ปต่าง ๆ กันทำให้คุณอยากขับรถดิ่งลงหน้าผา เขาร้องเพลงนี้ราวกับว่าเขาเป็นนักฆ่ามืออาชีพ." จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 08:53:56

ความคิดเห็นที่ 41 68. Tangled Up in Blue, Bob Dylan แต่งโดย: Dylan Produced โดย: Dylan วางแผง: ม.ค. '75 สังกัด Columbia ติดชาร์ท: 7 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 31 เมื่อ Dylan ได้กล่าวถึงเพลง "Tangled Up in Blue" บนเวทีคอนเสิร์ทในปี 1978, เขาได้บรรยายเพลงนี้ว่าเป็นเพลงที่ทำให้เขาใช้เวลาแต่งมันนานถึงสองปี มันยังเป็นเพลงที่อยู่ในการแสดงสดของเขาอยู่บ่อยครั้ง เขาได้แต่งเมื่อตอนที่ชีวิตแต่งงานครั้งแรกของเขาพังไม่เป็นท่า Dylan ได้รับแรงบันดาลใจจากนักร้องเพลงคันทรี่สุดคลาสสิกอย่าง Hank Williams และ Lefty Frizzell, เล่าเรื่องราวหัวใจที่เร่ร่อนไปตามท้องถนนช่วงปี '60 และ '70  Dylan ยังพยายามแก้ไขเพลงนี้ใหม่เรื่อย ๆ จนในปี 1984 บนคอนเสิร์ท Real Live, เขาได้เล่นเพลงนี้ด้วยคอร์ดที่เปลี่ยนไปและเนื้อเพลงที่ราวกับเล่าเรื่องราวใหม่ที่ไม่เกี่ยวกัน จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:03:34

ความคิดเห็นที่ 42 67. Jailhouse Rock, Elvis Presley แต่งโดย: Jerry Leiber, Mike Stoller Produced โดย: Steve Sholes วางแผง: ต.ค. '57 สังกัด RCA ติดชาร์ท: 27 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 นักแต่งเพลง Leiber กับ Stoller ได้แต่งเพลงฮิตให้กับราชาร็อคแอนด์โรลคนนี้มาหลายเพลง อย่างที่เด่น ๆ ก็เช่นเพลง "Hound Dog," เพลงนี้ถึงเนื้อเพลงจะตลก ๆ หน่อย แต่พวกเขาก็ไม่พลาด จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:09:08

ความคิดเห็นที่ 43 66. Redemption Song, Bob Marley and the Wailers แต่งโดย: Marley Produced โดย: Chris Blackwell วางแผง: มิ.ย '80 สังกัด Island ไม่ติดชาร์ท Marley ได้อัดเพลงนี้กับวงของเขาแล้วแต่ Blackwell เจ้าของค่ายได้แนะนำให้เขาลองทำเป็นเวอร์ชั่น acoustic ดู Marley ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานเขียนของ  Marcus Garvey เนื้อเพลงของเขาได้นำเสนอดนตรีเหมือนเป็นยาถอนพิษจากความเป็นทาสทั้งหลายทั้งทางร่างกายและจิตใจ เขาได้กล่าวว่าเขาอยากทำดนตรีแบบนี้มากขึ้น เมื่อไม่กี่เดือนก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี  1981. เพลงนี้เหมือนเป็นสัญญานสู่การทำเพลงรูปแบบใหม่ของเขา แต่ในเมื่อมันเป็นแทร็กสุดท้ายของอัลบั้มสุดท้ายของเขา เพลงนี้จึงเหมือนเป็นคำจารึกบนหลุมฝังศพของเขาแทน จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:18:39

ความคิดเห็นที่ 44 65. Sunshine of Your Love, Cream แต่งโดย: Jack Bruce, Pete Brown, Eric Clapton Produced โดย: Felix Pappalardi วางแผง: ม.ค. '68 สังกัด Atco ติดชาร์ท: 26 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  5 มือเบส Bruce และคนแต่งเนื้อเพลง Brown ได้ไอเดียการแต่งเพลง "Sunshine" จากการที่เขาเข้าห้องอัดทั้งคืนจนรุ่งเช้า จนทำให้เขาได้ประโยคเปิดเพลงนี้ที่ว่า "It's getting near dawn/ When lights close their tired eyes." ท่อน riff สุดยอดมาจากการที่  Bruce เล่นเบสวนไปวนมา; ส่วน Clapton มือกีตาร์ได้เพิ่มท่อน hook เข้ามา Bruce รู้ว่าเพลงนี้ต้องไปได้สวยแน่ ๆ และมันก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:28:22

ความคิดเห็นที่ 45 มารอนับถอยหลังด้วยคน จากคุณ : รักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 12:18:00

ความคิดเห็นที่ 46 รอนับถอยหลังด้วยคน จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 20:51:33

ความคิดเห็นที่ 47 เจ้าของกระทู้แวปอยู่เรื่อยเลย คงไม่ว่ากันนะคะ วันนี้จะพยายามต่อให้เสร็จ อาจไม่ละเอียดนักไม่ว่ากันนะ รีบ ๆ 64. She Loves You, The Beatles แต่งโดย: John Lennon, Paul McCartney Produced โดย: George Martin วางแผง: ก.ย. '63 สังกัด Swan ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 เพลงนี้ก็เหมือนเพลง "Help!" ที่ขึ้นต้นด้วยท่อนคอรัสตามที่ Martin ได้เสนอ ส่วนGeorge Harrison ก็ขอประสานเสียงเพลงนี้ซึ่ง Martin เห็นว่ามันเชยไป แต่เขาก็เถียงสู้วงไม่ได้ เมื่อพ่อของ  McCartney ได้ฟังเพลงนี้เขาก็ได้พูดกับลูกชายเขาว่า "นี่ลูก, มันมีเพลงอเมริกันเยอะแยะมากมายอยู่แล้ว ทำไมลูกไม่ร้องว่า 'Yes, yes, yes,' แทนล่ะ?" แล้วMcCartney ก็ตอบพ่อเขาไปว่า, "พ่อไม่เข้าใจหรอก ว่าแบบนั้นมันไม่เวิร์ก" จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 07:56:38

ความคิดเห็นที่ 48 63. For What It's Worth, Buffalo Springfield แต่งโดย: Stephen Stills Produced โดย: Charles Greene, Brian Stone วางแผง: ก.พ. '67 สังกัด Atco ติดชาร์ท: 15 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  7 ขณะที่เกิดเหตุการปะทะกันระหว่างตำรวจกับวัยรุ่นที่ Sunset Strip, เสียงกีตาร์ของ Neil Young ก็ได้ส่งเสียงราวกับเป็นระฆังในงานศพ เผยเหตุการณ์the Summer of Love ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียอีก "มันเหมือนเป็นสิ่งบ่งบอกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น"  Stills บอก จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 08:10:30

ความคิดเห็นที่ 49 62. Bo Diddley, Bo Diddley แต่งโดย: Ellas McDaniel Produced โดย: Phil and Leonard Chess วางแผง: มิ.ย '55 สังกัด Checker ไม่ขึ้นชาร์ท ถึงแม้เพลงนี้ไม่ได้ติดชาร์ทเพลงป็อป แต่เพลงนี้ติดชาร์ทอันดับหนึ่งของเพลง R&B และได้สร้างจังหวะ bedrock beat ที่ไม่มีวันตายและศิลปินมากหลายนำไปใช้ไม่ว่าจะเป็น Buddy Holly ในเพลง "Not Fade Away" จนถึง  the Smiths ในเพลง "How Soon Is Now." Diddley ได้เรียนไวโอลินตั้งแต่เด็ก และเขาก็ได้ประดิษฐ์ไวโอลินกับกีตาร์ของเขาขึ้นมาเอง เพลงของเขาเป็นเพลงที่เรียบง่าย แต่ยากที่ใครจะเลียนแบบได้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 08:19:35

ความคิดเห็นที่ 50 61. Whole Lotta Shakin' Goin On, Jerry Lee Lewis แต่งโดย: Dave Williams, Roy Hall Produced โดย: Jack Clement วางแผง: มิ.ย '57 สังกัด Sun ติดชาร์ท: 29 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  3 ตอนที่ Lewis ตัดสินใจจะอัดเพลงนี้ที่เขาคิดว่าจะเป็นเพลงดังของเขา เขาได้พยายามทำมันถึงสี่ครั้งแต่ก็ไม่ไปถึงไหน ไม่ว่าเขาจะพยายามใส่ท่อนเปียโนหวือหวา หรือเนื้อร้องทะลึ่ง ๆ  ("All you got to do, honey, is kinda stand in one spot/Wiggle around just a little bit"). คนที่ทำให้เพลงนี้ดังขึ้นมาก็คือโปรดิวเซอร์ Cowboy Jack Clement ที่ตัดสินใจอัดเพลงนี้จากการแสดงสดของ Lewis แทนการเข้าห้องอัด หลังจากที่ Lewis ได้เล่นเพลงนี้ในรายการ Steve Allen เพลง "Shakin' ก็ได้ขายมากกว่าหกล้านก็อปปี้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 08:27:00

ความคิดเห็นที่ 51 60. Let's Stay Together, Al Green แต่งโดย: Al Green, Al Jackson Jr., Willie Mitchell Produced โดย: Mitchell วางแผง: ธ.ค. '71 สังกัด Hi ติดชาร์ท: 16 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 Green ใช้เวลาแต่งเนื้อเพลงนี้เพียงห้านาทีหลังจากที่ Mitchell กับ มือกลอง Jackson ได้นำทำนองให้เขา แต่ถึงอย่างนั้น  Green ก็ยังไม่อยากอัดเพลงนี้ เขาเถียงอยู่กับ Mitchell อยู่สองวันถึงจะยอม เพลงนี้บันทึกเสร็จเมื่อกลางดึกคืนวันศุกร์ในฤดูใบไม่ร่วงในปี 1971; Mitchell ได้ปล่อยซิงเกิลเพลงนี้วันจันทร์ และวันรุ่งขึ้นเพลงนี้ก็ติดชาร์ทอันดับแปด ภายในสองสัปดาห์ เพลงนี้ก็ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ทเพลง R&B และพอถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1972,เพลง  "Let's Stay Together" ก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่งบนชาร์ทเพลงป็อป จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 08:35:19

ความคิดเห็นที่ 52 59. The Times They Are A-Changin', Bob Dylan แต่งโดย: Dylan Produced โดย: Bob Johnston วางแผง: ม.ค. '64 สังกัด Columbia ไม่ขึ้นชาร์ท "ผมต้องการจะแต่งเพลงที่มีความหมายยิ่งใหญ่ เหมือนเป็นเพลง theme ด้วยประโยควลีสั้น ๆ กระชับได้ใจความ ที่พอนำมารวมกันแล้วมีความหมายยิ่งใหญ่"  Dylan บอก "เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าอยู่" เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง folk ballads ของสก็อตแลนด์ กับไอริช และเขาได้ปล่อยเพลงนี้ในเวลาไม่ถึงสองเดือนหลังจากเหตุการณ์ลอบยิงประธานาธิบดี John F. Kennedy, เพลงนี้กลายเหมือนเป็นเพลงประจำชาติ และได้ถูกนำไปทำใหม่โดยนักดนตรีมากหลายตั้งแต่ the Byrds ไปจนถึง Cher.  Dylan บอกว่า, "ผมรู้ว่าผมต้องการจะสื่ออะไรและใครที่ผมต้องการให้สารนี้ไปถึง." ป.ล. วิดีโอไม่จบดี...ไม่ว่ากันนะ พอดีเห็นเป็นแสดงสด หาดูยากนิดนึง จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 08:46:09

ความคิดเห็นที่ 53 58. Billie Jean, Michael Jackson แต่งโดย: Jackson Produced โดย: Jackson, Quincy Jones วางแผง: ม.ค. '83 สังกัด Epic ติดชาร์ท: 7 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 เพลงนี้ทำให้  Jackson กลายเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ต่อจาก Elvis และในเจ็ดสัปดาห์ที่เพลงนี้อยู่บนชาร์ทเพลงนี้อยู่ที่อันดับหนึ่งตลอด  Jackson ได้ร้องเพลงนี้เทคเดียวผ่าน และเขารู้ว่ามันต้องดัง ตอนที่เขาคิดถึงเพลงนี้ระหว่างนั่งรถโรสรอยซ์บนถนน  Ventura ใน California รถของเขาไฟไหม้ แต่เขาไม่รู้เพราะมัวแต่คิดถึงเพลงนี้อยู่ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 08:57:40

ความคิดเห็นที่ 54 57. Whiter Shade of Pale, Procol Harum แต่งโดย: Keith Reid, Gary Brooker Produced โดย: Denny Cordell วางแผง: มิ.ย '67 สังกัด A&M ติดชาร์ท: 12 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 5 เพลงที่เหมือนเพลงสวดหลอน ๆ นี้ ได้นำเอาท่อนออร์แกนมาจากเพลงของคีตกวีเอก  Bach ("Air on the G String," จาก "Suite No. 3 in D Major"), เพลง"Whiter Shade of Pale" ไม่เหมือนเพลงใด ๆ ที่เปิดบนหน้าปัดวิทยุในปี 1967. และมันก็เป็นเพลงเดียวที่บันทึกโดยวงดั้งเดิมของ Procol Harum ที่เป็น R&B ตอนเขาอยู่ค่าย Paramounts ในปี 1963. เพลงนี้ขายทั่วโลกไปกว่า 6 ล้านก็อปปี้ แล้วกลายเป็นเพลงฮิตในงานแต่งงาน และปรากฎในภาพยนตร์เรื่อง the Big Chill ในเวลาต่อมา Pale ได้เตะเพลงร็อคดาด ๆ ออกไปแล้วแนะนำให้โลกได้รู้จัก  Moody Blues. จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 09:07:33

ความคิดเห็นที่ 55 56. Long Tall Sally, Little Richard แค่งโดย: Robert "Bumps" Blackwell, Enortis Johnson, Little Richard Produced โดย: Blackwell วางแผง: มีนาคม '56 สังกัด Specialty ติดชาร์ท: 19 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 6 เพลง"Long Tall Sally" ได้ถูกนำมาแข่งกับนักร้องเพลงป็อปผิวขาวที่ชื่อ Pat Boone.โดยตรง สถานีวิทยุของพวกผิวขาวไม่ยอมเปิดเพลง  'Tutti Frutti' ที่Richard เป็นคนร้องเลยทำให้เวอร์ชั่นที่ Boone ร้อง cover ขึ้นอันดับหนึ่ง พวกเขาเลยทำเพลงให้เร็วขึ้น เขียนเนื้อเพลงให้ร้องเร็ว ๆ เพื่อที่ Boone จะได้ร้องไม่ทัน เพลงนี้บันทึกที่ J&M Studios ใน New Orleans, "Long Tall Sally" เป็นเพลงที่ดังที่สุดของ Little Richard .  Boone ก็ได้อัดเพลงนี้เหมือนกันแต่ขึ้นเพียงอันดับแปด จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 09:16:51

ความคิดเห็นที่ 56 55. Louie Louie, The Kingsmen แต่งโดย: Richard Berry Produced โดย: Ken Chase วางแผง: มิ.ย '63 สังกัด Jerden ติดชาร์ท: 16 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  2 The Kingsmen's ได้ cover เพลงของ Richard Berry ซึ่งเป็นเพลง R&B โดยที่พวกเขาได้ใส่เสียงกีตาร์ดิบ ๆ และตะโกนร้อง สรุปเขาใช้เงินในการอัดเพลงนี้เพียวห้าสิบสองเหรียญแล้วเพลงนี้ก็ขึ้นสู่อันดับสองในปี 1963, ต้องขอบคุณเนื้อเพลงที่เหมือนบรรยายเรื่องต้องห้าม(ตรงไหนหว่า) ที่ทำให้  FBI ต้องเข้ามาสืบสวน จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 09:28:22

ความคิดเห็นที่ 57 54.When a Man Loves a Woman, Percy Sledge แต่งโดย: Calvin Lewis, Andrew Wright Produced โดย: Marlin Greene, Quin Ivy วางแผง: มีนาคม '66 สังกัด Atlantic ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 ตอนช่วงกลางยุคซิกซ์ตี้  Sledge ได้เดินสายทางใต้กับวง  R&B combo ที่ชื่อว่า  the Esquires และเขาก็ได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลด้วยในตอนที่โปรดิวเซอร์  Ivy ได้ยินเสียงเขาตะโกนร้องเพลงในคลับท้องถิ่นทีชื่อ  Elks Club. Ivy ได้ขัดเกลาเนื้อเพลงใหม่ และ Sledge ก็ออกจากวง the Esquires เพื่อมาทำซิงเกิลเดี่ยวเพลงแรกของเขา  "When a Man Loves a Woman." เมื่อเทปมาสเตอร์ได้ไปถึงค่าย  Atlantic, Jerry Wexler ได้บอกหุ้นส่วนของเขาAhmet Ertegun ว่า "เงินค่าใช้จ่ายสำหรับหน้าร้อนนี้อยู่ในกระเป๋านี้แล้ว." จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 09:37:42

ความคิดเห็นที่ 58 53. Anarchy in the U.K., The Sex Pistols แต่งโดย: Paul Cook, Steve Jones, Glen Matlock, Johnny Rotten Produced โดย: Chris Thomas, Bill Price วางแผง: พ.ย. '77 สังกัด Warner Bros. ไม่เป็น single เป็นเหมือนนวัตกรรมใหม่ของซาวด์ดนตรีเพลง punk-rock ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีตาร์หรือเสียงร้อง วง The Sex Pistols ต้องการให้ชื่อตนเป็นตัวแทนความเสื่อมเสียแห่งอังกฤษ และพวกเขาก็ทำสำเร็จตั้งแต่ตั้งแต่ตอนเปิดตัวพวกเขา Jones ทำเสียงกีตาร์ของเขาให้เหมือนเสียงคนตีกันในผับ ในขณะที่  Rotten ทั้งตะคอก ถ่มน้ำลายs หัวเราะเยาะ และจบการแสดงด้วยการตะโกนใส่คนดูว่า  "Get pissed/Destroy!" ต้นสังกัดของ The Pistols ได้ดึงซิงเกิลออกมาแล้วก็ทิ้งวงไปอย่างนั้น ซึ่งยิ่งทำให้พวกเขามีชื่อเสียง (ในทางไม่ดีนัก) มากขึ้น จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 09:54:13

ความคิดเห็นที่ 59 52. When Doves Cry, Prince แต่งโดย: Prince Produced โดย: Prince วางแผง: มิ.ย '84 สังกัด Warner Bros. ติดชาร์ท: 21 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ "Purple Rain" ได้เสร็จสิ้นลง พร้อมกับตัวหนังแล้ว แต่ Prince ก็ยังหยุดทำเพลงไม่ได้ และในนาทีสุดท้ายเขาก็ได้เพิ่มเพลงใหม่เอี่ยมเข้ามาคือเพลง "When Doves Cry." มันเป็นเพลงที่ปะหลาดแม้ในมาตราฐานของ Prince เอง หลังจากที่เพลงที่บันทึกเข้าไปสู่สตูดิโอเขาได้ตัดสินใจที่จะตัดเสียงเบสออกทั้งหมดในการมิกซ์ครั้งสุดท้าย Prince บอกว่า, "ไม่มีใครกล้าพอที่จะทำแบบนี้หรอก คุณดูเหอะเดี๋ยวพวกเขาก็ต้องตกใจ." และเขาก็พูดถูก. Prince ได้ใส่เพลงนี้ในหนังโดยแทบจะตัดเพลง "Computer Blue" ออกไปทั้งหมด-- และในปี 1984's เพลงเปรี้ยวจี๊ดเพลงนี้ก็ได้กลายเป็นเพลงยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 10:04:27

ความคิดเห็นที่ 60 51. The Message, Grandmaster Flash and the Furious Five แต่งโดย: Duke Bootee, Melle Mel Produced โดย: Sylvia Robinson วางแผง: พ.ค '82 สังกัด Sugar Hill ติดชาร์ท: 7 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  62 เพลง "The Message" เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของวงการเพลง hip-hop เพลงนี้ได้เข้าถึงทั้งงานปาร์ตี้จนถึงสลัมข้างถนน เพลงนี้เริ่มมาจากกวีของครูคนหนึ่งที่ Bootee หัวหน้าของค่าย Sugar Hill ชื่อ Robinson ได้ตัดสินใสที่จะทำเป็นเพลงออกมากับ Melle Mel แห่งวง the Furious Five.  Flash ได้กล่าวในปี1997,ว่า "ผมเกลียดที่ว่าเพลงนี้ถูกโปรโมทในนาม Grandmaster Flash and the Furious Five, เพราะจริง ๆ แล้วคนที่บันทึกเสียงมีเพียง   Mel กับ Duke Bootee.เท่านั้น" แต่เพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงดังบนหน้าปัดวิทยุคลื่นเพลง hip-hop ใน New York มันถูกเปิดทั้งวันทุกวันทำให้พวกเขาก้าวสู่จุดต่อไป จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 10:17:56

ความคิดเห็นที่ 61 50. The Tracks of My Tears, Smokey Robinson and the Miracles แต่งโดย: Pete Moore, Robinson, Marv Tamplin Produced โดย: Robinson วางแผง: มิ.ย '65 สังกัด Tamla ติดชาร์ท: 12 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 16 มีเสียงเล่าเสียงลือว่าบรรดาคนดูต่างน้ำตาไหลเป็นแถวเมื่อได้ยิน Robinson and the Miracles ร้องเพลง "The Tracks of My Tears." โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Pete Townshend, ที่ลุ่มหลงในการที่ Robinson ได้ใช้คำว่า substitute ในเพลง ("Although she may be cute/She's just a substitute"). เขาคลั้งไคล้มันมากจนนำไปแต่งเพลงฮิตของวง  the Who's เมื่อปี 1966 ที่ชื่อว่า "Substitute." Robinson ได้ทำเพลง "The Tracks of My Tears" ร่วมกับ Moore และมือกีตาร์วง Miracles ที่ชื่อ Tamplin, และเพลงนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากจนแม้กระทั้งผู้ก่อตั้งค่าย Motown ที่ชื่อ Berry Gordy ที่ปกติแล้วไม่ค่อยจะชมใครนักยังบอกว่าเพลงนี้เป็น masterpiece. จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 10:34:26

ความคิดเห็นที่ 62 49. Hotel California, The Eagles แต่งโดย: Don Felder, Glenn Frey, Don Henley Produced โดย: Bill Szymczyk วางแผง: ธ.ค. '76 สังกัด Asylum ติดชาร์ท: 19 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 "Hotel California" ได้ถูกกล่าวว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับการติดเฮโรอีนหรือไม่ก็เป็นเพลงบูชาซาตาน แต่ที่ Henley คิดตอนแต่งเป็นแค่เรื่องธรรมดา ๆ เท่านั้น เขาบอกว่าพวกเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มชนชั้นกลางจาก  Midwest, เพลง " 'Hotel California' ก็หมายถึงวิถีชีวิตที่สูงกว่าใน Los Angeles." (แต่นั่นก็ยังไม่ได้ลบความหมายของเฮโรอีนกับซาตานออกไปได้) จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 10:50:10

ความคิดเห็นที่ 63 48. All Along the Watchtower, Jimi Hendrix แต่งโดย: Bob Dylan Produced โดย: Hendrix วางแผง: ก.ย. '68 สังกัด Reprise ติดชาร์ท: 9 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  20 "All Along the Watchtower" เพิ่งวางแผงในอัลบั้ม John Wesley Hardingของ Dylan ตอนนั้น  Hendrix ก็เริ่มขัดเกลาเพลงนี้ใน Electric Ladyland studio ที่ New York ในวันที่  21 มกราคม ปี 1968. โดยใช่ท่อนที่ร้องว่า  "And the wind began to howl" เป็นจุดเริ่ม Hendrix ได้ใส่ท่อนกีตาร์โซโล่เข้าไปถึงสี่ท่อนทำให้จากเพลงที่สั้น ๆ ของ Dylan กลายเป็นเฮอริเคน  Dylan เองก็ได้เล่นเพลงนี้ในแบบของ Hendrix เมื่อปี 1974 ในทัวร์คอนเสิร์ทของเขา จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 11:00:31

ความคิดเห็นที่ 64 47. Bridge Over Troubled Water, Simon and Garfunkel แต่งโดย: Paul Simon Produced โดย: Art Garfunkel, Roy Halee, Simon วางแผง: ก.พ. '70 สังกัด Columbia ติดชาร์ท: 14 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  1 ตอนที่ Simon ได้แต่งเพลงเพื่ออุทิศให้มิตรภาพเพลงนี้ในปี 1970, ความสัมพันธ์ของเขากับ Garfunkel อยู่ในภาวะตึงเครียด พวกเขาตกลงกันไม่ได้ว่า Garfunkel ควรร้องเพลงนี้หรือไม่ . "เขาคิดว่าผมควรเป็นคนร้องเพลงนี้," Simon กล่าวในปี 1972. "และผมก็รู้สึกเสียใจอยู่หลายหนที่ผมไม่ได้เป็นคนร้องเพลงนี้เอง." ในท่อนที่สามเป็นความคิดของGarfunkel, Simon เป็นคนเขียนมันแต่ไม่เคยชอบมันเลย จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 11:12:08

ความคิดเห็นที่ 65 46. Heroes, David Bowie แต่งโดย: Bowie, Brian Eno Produced โดย: Tony Visconti วางแผง: ก.ย. '77 สังกัด RCA ไม่ขึ้นชาร์ท ลุงตอนแก่เทห์กว่าจริง ๆ ด้วย.... เพลงนี้แต่งตอนที่ Bowie ไปบำบัดที่ Berlin แล้วเขาแอบเห็นคู่หนุ่มสาวมานัดพบกันใต้ป้อมที่กำแพง เขาก็เลยสงสัยว่าที่อื่นมีเยอะแยะทำไมมานัดเจอกันที่นี่ เขาเลยเริ่มแต่งเพลงนี้ โดยคิดว่าบางทีคู่นี้เขาแค่ต้องการเวลาที่เป็นอิสระอยู่ด้วยกัน...สักวันก็ยังดี จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 11:21:16

ความคิดเห็นที่ 66 45. Heartbreak Hotel, Elvis Presley แต่งโดย: Mae Boren Axton, Tommy Durden, Presley Produced โดย: Steve Sholes วางแผง: ม.ค. '56 สังกัด RCA ติดชาร์ท: 27 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 ตอนที่ค่าย RCA ได้จับนักร้องบ้านนอก Presley มาเซ็นสัญญาใหม่กับค่ายเขา เขาคาดหวังว่า Presley จะต้องทำเพลง rock & Roll จังหวะเร็ว ๆ ที่เขาเคยทำกับค่าย Sun จนฮิต แต่ Presley กลับเลือกทำเพลงนี้ซึ่งมีจังหวะช้าลงไปเป็นเพลงเปิดตัวของเขากับค่ายใหม่นี้ โดยที่เขาได้แรงบันดาลใจจากข่าวการฆ่าตัวตายของชายคนหนึ่งที่เปิดเผยจดหมายลาตายที่มีประโยคที่ว่า "I walk a lonely street." ซึ่งจริง ๆ แล้ว Presley ได้เคยเสนอเพลงนี้ให้กับค่ายเก่ามาก่อนแต่เขาไม่ชอบ ก็เลยเอามาทำกับค่ายใหม่...ผลก็คือ...ดัง เป็นเพลงอันดับหนึ่งเพลงแรกของเขา จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 11:29:23

ความคิดเห็นที่ 67 44. Georgia on My Mind, Ray Charles แต่งโดย: Hoagy Carmichael, Stuart Gorrell Produced โดย: Sid Feller วางแผง: ก.ย. '60 สังกัด ABC-Paramount ติดชาร์ท: 13 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 คนขับรถของเขาได้ยินเขาร้องเพลงนี้บนรถ เลยบอก Ray Charles ว่าทำไมไม่ใส่เพลงนี้ลงไปในผลงานเพลงที่เขากำลังทำอยู่ แล้วเขาก็ทำทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้นเพลงใน LP ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว และตอนที่เพลงนี้กำลังไต่ชาร์ทอยู่นั้น Ray Charles ได้รับเชิญไปเปิดตัวในรายการทีวีเป็นครั้งแรก เขาได้แสดงในรายการ  Playboy Penthouse ของ Hugh Hefner ทำให้เพลงนี้ดังขึ้นไปอีก จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 11:44:31

ความคิดเห็นที่ 68 43. Tutti-Frutti, Little Richard แต่งโดย: Dorothy La Bostrie, Richard Penniman, Joe Lubin Produced โดย: Robert "Bumps" Blackwell วางแผง: ธ.ค. '55 สังกัด Specialty ติดชาร์ท: 12 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  17 เขาได้ร้องเพลงนี้มาเป็นปี ๆ แล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้อัดเพลงนี้ จน Blackwell ให้นักแต่งเพลงสาวที่ชื่อว่า La Bostrie แก้เนื่้อเพลงนี้ใหม่ให้หยาบลงน้อยกว่าเดิม จาก Awop-bop-a-loo-mop a-good-goddamn เป็นเนื้่อเพลงตลก ๆ ของ La Bostrie แทน จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 11:55:21

ความคิดเห็นที่ 69 42. Waterloo Sunset, The Kinks แต่งโดย: Ray Davies Produced โดย: Ray Davies วางแผง: ก.พ. '68 สังกัด Reprise ไม่ขึ้นชาร์ท พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการทำเพลงอัลบั้มชุดที่ห้าของเขาที่ชื่อว่าSomething Else by the Kinks เมื่อ Ray ได้ลองเล่นเพลงนี้ให้วงฟัง แล้ววงก็ชอบ...แต่เขายังอายไม่กล้าบอกเนื้่อเพลงอยู่ เขาบอกว่ามันเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ที่เขาเขียนในไดอะรี่ส่วนตัว...แต่สุดท้ายก็ต้องยอม จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:02:17

ความคิดเห็นที่ 70 41. The Weight, The Band แต่งโดย: Robbie Robertson Produced โดย: John Simon วางแผง: ส.ค. '68 สังกัด Capitol ติดชาร์ท: 7 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  63 วงนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวงที่เล่นให้ Bob Dylan เวลาออกทัวร์ แล้วพวกเขาก็ขอออกไปลองทำอัลบั้มของเขาเองบ้าง และเขาก็ทำอัลบั้มชุด Music From Big Pink ที่เขาอัดจากบ้านสีชมพูใน Woodstock, New York โดยมีเพลงเด่นคือเพลงนี้ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:13:34

ความคิดเห็นที่ 71 40. Dancing in the Street, Martha and the Vandellas แต่งโดย: Marvin Gaye, Ivy Hunter, William "Mickey" Stevenson Produced โดย: Stevenson วางแผง: ก.ย. '64 สังกัด Gordy ติดชาร์ท: 14 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  2 ในตอนแรก Martha ทำงานเป็นเลขาของ Stevenson แต่เขาได้ลองขอให้นักร้องสาวกลุ่มนี้ลองอัดเพลงนี้ดูหลังจากที่เพลงนี้ถูกปฎิเสธโดย Kim Weston แห่งค่าย Motown (ซึ่งตอนหลังเธอก็กลายเป็น Mrs Stevenson) พอเขาได้ยิน Martha ร้องเพลงนี้เท่านั้นแหละ เขาก็รู้เลยว่าเพลงนี้ต้องดัง แล้วก็ดังจริง ๆ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:19:39

ความคิดเห็นที่ 72 39. That'll Be the Day, Buddy Holly and the Crickets แต่งโดย: Jerry Allison, Holly, Norman Petty Produced โดย: Petty วางแผง: พ.ค '57 สังกัด Brunswick ติดชาร์ท: 1 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 ติดชาร์ทแรง เร็ว แล้วก็ไปเร็วจริง ๆ เพลงนี้.... ชื่อเพลงนี้ได้เอามาจากประโยคที่ John Wayne พูดบ่อย ๆ ในหนังเรื่อง The Searchers พวกเขาอัดเพลงนี้ใน Clovis, New Mexico, ในเดือนก.พ.ปี  1957 จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:25:45

ความคิดเห็นที่ 73 38. Gimme Shelter, The Rolling Stones แต่งโดย: Mick Jagger, Keith Richards Produced โดย: Jimmy Miller วางแผง: เมษา '69 สังกัด London ติดชาร์ท: 11 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  21 ตอนที่พวกเขากำลังเล่นเพลงนี้ในคอนเสิร์ทที่ Altamont. ผู้เข้าชมนายหนึ่งชื่อ Meredith Hunter ได้ชักปืนออกมาและได้ถูกสมาชิก Hells Angel ซึ่งตอนนั้นทำหน้าที่เป็นผู้รักษาความปลอดภัยแทงตาย เหตุการณ์นี้ถูกกล้องบันทึกภาพไว้ได้ด้วย จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:33:22

ความคิดเห็นที่ 74 37. No Woman, No Cry, Bob Marley and the Wailers แต่งโดย: Vincent Ford, Marley Produced โดย: Chris Blackwell, Marley and the Wailers วางแผง: พ.ค. '75 สังกัด Island ไม่ขึ้นชาร์ท "government yard in Trench Town" ได้หมายถึง โปรเจคบ้านของรัฐบาลจาไมก้าที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่เมื่อตอนเป็นเด็ก และเพลงนี้เขาก็ได้ให้เครดิตการแต่งเพลงเพื่อนในวัยเด็กของเขาที่ชื่อ Vincent "Tata" Ford เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเขา จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:42:44

ความคิดเห็นที่ 75 36. One, U2 แต่งโดย: Bono, The Edge, Adam Clayton, Larry Mullen Jr. Produced โดย: Brian Eno, Daniel Lanois วางแผง: พ.ย. '91 สังกัด Island ติดชาร์ท: 20 สัปดาห์ อันดับสูงสุด:  10 ท่ามกลางเพลงในอัลบั้ม "Achtung Baby" เพลงนี้ได้แตกต่างจากเพลงอื่น ๆ แม้เนื้อหาจะฟังดูเหมือนเป็นเพลงรักแต่จริง ๆ แล้วมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเนื้อหาที่กำกวม พวกเขาเคยถูกขอให้เล่นเพลงนี้ในงานแต่งงานด้วย แต่พวกเขาไม่ได้เล่นเพราะมันไม่ใช่เพลง "แบบนั้น" จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:47:44

ความคิดเห็นที่ 76 35. Light My Fire, The Doors แต่งโดย: Robby Krieger, John Densmore, Jim Morrison, Ray Manzarek Produced โดย: Paul Rothchild วางแผง: มิ.ย '67 สังกัด Elektra ติดชาร์ท: 17 สัปดาห์ อันดับสูงสุด: 1 เป็นเพลงแรกที่ Krieger ได้แต่งจากความร่วมมือในการเขียนเนื้อของ Morrison และการเรียบเรียงจากสมาชิกวงทุกคน...เพลงนี้ใน LP ยาวเจ็ดนาที แล้วนำมาตัดให้เหลือสามนาทีภายหลัง เพลงนี้ได้เขียนถึงการที่วงมีชื่อเสียงชั่วข้ามคืน อย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่.... จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:53:01

ความคิดเห็นที่ 77 รอนับถอยหลังอยู่นะจ๊ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 09:41:36

ความคิดเห็นที่ 78   รออยู่นะครับ จากคุณ : ไทยๆ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 12:42:43 A:58.8.33.104 X: TicketID:223005

ความคิดเห็นที่ 79   รออยู่นะครับ จากคุณ : ไทยๆ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 12:43:45 A:58.8.33.104 X: TicketID:223005

ความคิดเห็นที่ 80 อะ เพลง one ไม่ใช่"แบบนั้น"   เดี๋ยวต้องไปเปิดดิช ลองแปลบ้างละ จากคุณ : วัชเจียเหว่ย เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 13:53:19

ความคิดเห็นที่ 81 รออีกกกก จากคุณ : McMurphy เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 20:29:43