|
ความคิดเห็นที่ 3 |
|
แต่อย่าเพิ่งนึกภาพไปว่าพ่อนักร้องหนุ่มเสียงนุ่มคนนี้จะเป็นดั่งเช่นฤาษีหรือนักบวชเชียวนะ ด้วยรูปลักษณ์ที่แสนจะเป็นพิมพ์นิยม นั่นคือ สูง หล่อ คมเข้ม (tall, dark, and handsome!) ไมเคิล ซึ่งขณะนี้อยู่ในวัย 20 ปี รู้ตัวดีว่าเขาสามารถจะทำอะไร ๆ ได้อย่างในเนื้อเพลงที่เขาเคยร้องเมื่อตอนอายุ 10 ขวบแล้ว และคนหนึ่งที่จะเป็นพยานรู้เห็นได้อย่างดีก็คือนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง เททั่ม โอนีล ลูกสาววัยแรกรุ่นของนักแสดงใหญ่ ไรอัน โอนีล
เมื่อสองปีก่อน นักข่าวคนหนึ่งของนิตยสาร Modern People ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์จากปากของสาวน้อยโอนีลเอาไว้ว่า เธอแทบจะรอไม่ไหวแล้วกับการมีความรักครั้งแรก ถ้าหากเธอติดตามข่าวคราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเขาบ้าง เธอจะรู้ว่าลูกผู้ชายอย่างไมเคิลไม่ใช่คนประเภทที่ชอบเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัว เขาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดในเรื่องรักใคร่และการออกเดทกับเททั่ม แต่ก็กระตือรือร้นที่จะเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ประการแรก เขายอมรับอย่างไม่ลังเลว่าชีวิตของพวกเขาทั้งสองคล้ายคลึงกันมาก กล่าวคือ ทั้งคู่มีพ่อแม่ที่คอยควบคุมดูแลอย่างเต็มที่เหมือนกัน เททั่มเป็นลูกแหง่ของพ่อ ในขณะที่ไมเคิลก็เป็นลูกชายที่ติดแม่ ทั้งคู่ต่างก็มีเสน่ห์และมีฐานะร่ำรวย เธอไปไหนมาไหนด้วยรถโรลส์รอยซ์ที่มีโชเฟอร์คอยขับให้ และพ่อเศรษฐีหนุ่มน้อยไมเคิลก็มีรถโรลส์รอยซ์ของตัวเองขับ สองคนนี้ขี้อายทั้งคู่ ไมเคิลเป็นหนึ่งในดวงดาวจรัสแสงอนาคตไกล และเททั่มก็เช่นกัน
ผมอยากให้ทุก ๆ คนที่อ่านนิตยสาร JET ได้เข้าใจว่า เราสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ ไมเคิลยืนยันหนักแน่น เขายอมรับว่ามีคำวิจารณ์ต่าง ๆ นานามากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา ซึ่งเขาคิดว่า ผู้คนต่างตีความเรื่องนี้กันไปผิด ๆ และพยายามต่อเติมเรื่องราวให้มันเลยเถิดไปกันใหญ่ และผมแค่บอกกับพวกเขาว่า เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริง ๆ ผมพูดจริง ๆ นะ พวกเขาก็จะพูดว่า อ๋อเหรอ อ้ะ งั้นคุณเป็นเพื่อนที่ดีแค่ไหนยังไงล่ะจ๊ะ? มีเรื่องกุ๊กกิ๊กโรแมนติกอะไรเกิดขึ้นบ้างรึป่าว? ผมตอบไปว่า ก็มีบ้างเป็นบางครั้งนะ แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา
แม้ว่าการออกเดทจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา แต่เขาค่อนข้างจะสนใจในการพัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ ๆ ให้กับบ้านของครอบครัวมากว่า โดยขณะนี้บ้านของเขากำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงต่อเติม ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่าเขายังไม่พร้อมที่จะย้ายออกไปจากครอบครัวเหมือนอย่างพี่ชายที่แต่งงานไปแล้วทั้งสี่คนของเขา (แจ๊คกี้ เจอร์เมน ติโต้ และมาร์ลอน) ไมเคิลอธิบายถึงเรื่องนี้ว่า
ผมต้องการจะทำสิ่งนี้เพื่อแม่มาตลอด เธอรักทุกอย่างเกี่ยวกับบ้านและผมก็ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความรู้สึกและแรงผลักดันของตัวเอง ผมยังไม่รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องย้ายออกไปจากที่นี่ ยังมีอีกมากมายหลายสิ่งที่ผมอยากจะทำอยู่ที่นี่
ถ้าผมย้ายออกไปตอนนี้ ผมคงจะต้องตายเพราะความเหงาแน่ ๆ ผู้คนส่วนใหญ่ที่ย้ายออกจากบ้านไปก็จะต้องไปที่ดิสโก้เธคทุกคืน พวกเขาออกไปปาร์ตี้ทุกค่ำคืน พวกเขาเชิญเพื่อน ๆ มาที่บ้านตลอด และผมไม่ต้องการจะทำอะไรแบบนั้น ผมคงจะต้องตายเพราะความหงาแน่ ๆ
แผนการปรับปรุงต่อเติมบ้านของไมเคิลนั้น ได้รวมถึงการเพิ่มสนามเทนนิส สระว่ายน้ำที่ปรับรูปแบบใหม่ ห้องยิม ห้องชมภาพยนตร์ สตูดิโอซ้อมร้องเพลง และห้องสมุดด้วย
การได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านกับคุณแม่แคทเธอรีน คุณพ่อโจเซฟ แรนดี้ น้องชาย และเจเน็ทกับลาโทย่า น้องสาวและพี่สาวของเขา ทำให้นักร้องหนุ่มได้ค้นพบพรสวรรค์มากมาย และทำให้เขายึดมั่นในความตระหนักถึงเรื่องสังคมและศาสนาด้วย
จากคุณ |
:
P.S.T. (Pretty Small Thing)
|
เขียนเมื่อ |
:
12 เม.ย. 53 14:44:55
|
|
|
|
|