 |
ความคิดเห็นที่ 23 |
อันนี้นับเฉพาะแค่ศิลปินแนว performance นะคะ เพราะจขกท.ถามถึงการเต้นของไอดอล นอกเหนือไปจากการซ้อมและเทรนด์ดนตรีที่คห.บนๆ กล่าวไปแล้ว เรามองว่า...
1. มีรายการเพลงช่องฟรีทีวีในไทยให้โชว์อยู่แค่ไม่กี่รายการ (เผลอๆตอนนี้จะเหลือ 7 สีคอนเสิร์ตอย่างเดียว) ดังนั้น จึงไม่เน้น performance เพราะเน้นไปก็เท่านั้น ซ้อมแทบตายแต่ขึ้นโชว์หน่อยเดียว
2. มีค่ายเพลง(ป็อบกระแส) ในเมืองไทยไม่กี่ค่าย หลักๆ ก็มีแค่ GMM กับ RS เท่านั้น บรรยากาศของการ Battle มัีนจึงดูไม่เด่นชัดเท่าไหร่ ทุกคนทำแค่หน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย ทำได้เท่าไหร่เท่านั้น ถ้าเต้นออกมาเหยาะแหยะ ก็เป็นความผิดของ ศลป.คนนั้นเอง ต่างจากเกาหลีที่มีค่ายเพลงเยอะมากกกก (ย้ำ!! มากกกก) และแต่ละค่ายจะมีศิลปินไม่กี่เบอร์ เวทีแต่ละเวทีจึงเหมือนเป็นการแบกความหวังค่ายไปด้วย ว่านี่ไม่ได้เต้นเพื่อตัวเองหรือแค่วงนะ แต่มันเป็นหน้าตาของ SM , JYP , YG , Mnet , DSP , FnC , Cube อะไรก็ว่ากันไป และถ้าทำไม่ดี ครูฝึกเฉ่งแน่ ส่วนศิลปินบ้านเรา ถึงจะเต้นดีก็แค่เสมอตัว เพราะการปรากฎตัวผ่านสื่อไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฮอตของไลฟ์ แต่เป็นกำหนดของค่ายต่างหาก ว่าจะโปรโมตศิลปินคนนี้ๆ เป็นเวลานานเท่าไหร่ (ต่อให้ดังก็ต้องเฉลี่ยโปรโมตคนอื่นบ้าง)
3. ความคาดหวังของผู้ชมไลฟ์ไม่เหมือนกัน คนเกาหลี ไปชมไลฟ์ คาดหวังจะได้เห็นโชว์ที่เป๊ะ มีความเป็นทีม สังเกตว่าศลป.เกาหลีที่ขึ้นฟรีคอนเสิร์ต ไม่มีใครเล่นกับคนดูในฮอลล์สักคน เพราะำสิ่งที่เขาและเธอต้องแสดงให้ดูนั้นคือกล้องทีวี ที่กำลังจับภาพอยู่ต่างหาก ไลฟ์แบบนี้คนดูทางบ้านจะรู้สึกเต็มอิ่ม แต่คนดูในห้องส่งจะอึนๆ นี่มันอะไรกันฟระ ร้องจนจบเพลงแล้วยังไม่เห็น she ปรายตามาที่ผู้ชมซักกะติ๊ด สวยแล้วหยิ่งนี่หว่า? (เกี่ยว?) นี่เองเป็นความรู้สึกเดียวกับคนที่ไปดูคอน ShowKing Mnet ว่าทำไมมันจบอย่างไม่ฟิน ทั้งนี้เพราะโชว์เคสเมืองไทย ความคาดหวังของผู้ชมคือการที่ศลป.ได้เล่น ได้ใกล้ชิดกับคนดู เคยไปดูโชว์เคสโฟร์มด สองสาวไม่เน้นร้องตามเนื้อหรือเต้นท่าถูกเป๊ะๆ นะ แต่จะร้องไปเล่นไปกับผู้ชมมากกว่า ผู้ชมในงานก็แฮปปี้ ได้ใกล้ชิดศลป. คนโปรด แต่คนดูทางบ้าน (เค้าถ่ายทอดหรือเปล่าไม่รู้?) จะอึนๆ เป็นอะไรของตัวเธอว์ เล่นกันอยู่ได้
4.รายการเพลงแบบที่สามารถเปิดเพลงได้ทุกค่าย (ทางฟรีทีวี) ยังไม่มี มีแต่รายการของค่าย เวทีก็ไม่ได้ทำให้เริ่ดหรูอลังมากมาย ฉากเดียวใช้มันตลอดรายการ (เผลอๆก็ใช้ข้ามปี) ถึงจะไม่เกี่ยวกับการเต้น แต่ Theme ฉาก ก็ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมให้ึคนดูได้ ทั้งนี้เดาว่าเป็นเพราะไม่คิดว่าต้อง Battle กับใคร หรือจะ Battle ก็ทำกับคนในค่ายเท่านั้น จะทำฉากใหม่เพื่อ??? เสียเวลา เปลืองตังค์ (ซึ่งจริงๆ เรามองว่าเรื่องเปลืองตังค์ไม่ใช่ประเด็น ดูอย่างศลป.ค่ายเล็กๆของเกาหลีเขายังเปลี่ยนฉากตอนไลฟ์เลยนะ ยอดขายซีดีจะได้ซักเท่าไหร่กัน งานนอกก็มีไม่ได้เยอะ)
5. ศลป.เกาหลี มีกฎโหด ต้องซ้อมวันละเท่านี้ๆ ถ้าโดดซ้อมก็มีบทลงโทษ ส่วนเด็กฝึกที่ผ่านออดิชั่นมา อย่าคิดว่าทุกคนจะได้เป็นศลป.หมด บางค่ายอย่าง JYP มีการวัดระดับเด็กฝึกทุกเดือน ใครที่ไม่ถึงเกณฑ์ก็ต้องลาออกไป อย่างเช่น โยซอบ วง BEAST ก็เคยเป็นเด็กฝึก JYP แล้วไม่ผ่านเกณฑ์ ต้องไปทำงานเป็นนักร้องในผับช่วงหนึ่ง ข้อนี้ที่เอามาวิเคราะห์ด้วยเพราะอยากชี้ให้เห็นว่า ก่อนจะเดบิวต์ ไอดอลพวกนี้ต้องมีพื้นฐานที่แน่นพอสมควร
6. ศลป. ไทยแนว perform ที่เก่งโคตรๆ ก็มีนะ น้องชิน-ชินวุฒิไงคะ เด็กอะไรครบเครื่องมาก ความหวังของเจร๊เลยทีเดียว น้องกอล์ฟ น้องไมค์ และน้องเขื่อน เคโอติก ก็เริ่ดอยู่ (อ๊ะ..ทำไมมีแต่ปู้จาย) งั้นเพิ่มน้องขนมจีนด้วยอีกคน แต่น้องเหล่านี้ส่วนใหญ่ครอบครัวจะจับเรียนพื้นฐานมาตั้งแต่เด็กๆอ่ะค่ะ ไิอดอลบ้านเราส่วนใหญ่เป็นการจับเด็กหน้าตาดี มาเีรียนดนตรีนิดๆ แล้วออกอัลบั้มเลย ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะจ๊อด อัลบั้มแีรกๆ พอไหวอยู่ ขายหน้าตา ขายลุคอะไรกันไป แต่อัลบั้มหลังๆ ที่คนคาดหวังจะเห็นพัฒนาการจากศิลปิน ไอ้ทำมันก็ทำได้ แต่ลำบาก พื้นฐานมันไม่แน่นแต่แรก แต่เด็กเกาหลีช่วงหลังๆ นี้เห็นว่าพ่อแม่จับส่ง Music Academy กันแบบจริงจัง แต่นั่นก็เพราะวัฒนธรรมไอดอลบ้านเขามันทำเงินด้วยแหละ พ่อแม่คงมองว่าคุ้มทุน
7. (ขอ EDIT เพิ่มอีกข้อค่ะ) สื่อบันเทิงไทยไม่ค่อยเป็นแีรงกระตุ้นให้ศิลปินเกิดความมุ่งมั่น เพราะเห็นสัมภาษณ์ทีไรก็มีแต่ข่าวรักๆ เลิกๆ ภาพที่ถ่ายออกมาก็เน้นโชว์ร่องอก โชว์หวอ (แอบถ่าย) เราว่าคงมีศลป.หลายคนแหละ ที่เห็นว่าช่องทางนี้เป็นทางลัด ดังนั้นแทนที่จะซ้อม ก็ไปปาร์ตี้มีภาพหลุดออกมาดีกว่า ส่วนศลป.ที่เซ้นส์สิทีฟ พอเจอสัมภาษณ์ เห็นรูปหวอตัวเองในข่าว ก็อาจเพลียฮาร์ท ไม่มีพลังในการซ้อม แต่นักข่าวเกาหลีถึงจะออกแนวโหด ดุเดือด แต่เขาสัมภาษณ์ศลป.แบบดีๆ นะ เขาเน้นที่ความไวในการลงข่าว มากกว่าจะเน้นว่าใครส่องหวอได้ลึกกว่ากัน ไม่เ้ชื่อลองไปหาบทสัมภาษณ์เกาหลีมาอ่านดู เขาถามแต่ "แนวเพลงของอัลบั้มนี้" , "คาดหวังอย่างไรกับอัลบั้ม" , "พ้อยท์ของไลฟ์" ศิลปินก็จะเล่าๆๆ ไป และปิดท้ายเหมือนกันทุกวงว่า "เราจะตั้งใจฝึกซ้อมให้มากกว่านี้ เพื่อตอบแทนแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนเสมอ" คนบ้านเราอ่านแล้วมันจะเบื่อนิดหน่อย เพราะเป็นแพทเทิร์นที่ค่ายสั่งมาโคตรๆ แต่คิดดูอีกที คำตอบแบบนี้มันบิวท์อารมณ์ฮึกเหิมให้กับศลป.นะ
เรื่องค่ายเรื่องอะไรอาจจะแก้ไขลำบากนะจุดนี้ (แต่ก็ไม่แน่ ตอนนี้ค่ายเล็กอย่าง Mono Music มาแรง ต่อไปถ้าแบ่งส่วนการตลาดจาก 2 ค่ายใหญ่ไป GMM กับ RS อาจจะกระตือรือร้นกับตลาดไอดอลมากขึ้น) แต่ที่เราอยากเห็นให้มีเพิ่มจริงๆ ก็คือ รายการฟรีคอนเสิร์ตให้ศลป. มาขึ้นไลฟ์น่ะัค่ะ ยุคก่อนๆ ถึงรายการจะแยกค่าย แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังทำให้ศลป.คิดว่าต้องโชว์อะไีรให้ผู้ชมทางบ้านเห็นหน่อย นักร้องยุคนั้นเต้นเทพๆ ทั้งนั้น ทั้งไชน่าดอลล์ , พี่แคท , บาซู แม้แต่ตัวแม่อย่างป้าติ๊ ป้าช่า ก็ยังสู้ตาย
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 23:43:22
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 23:40:32
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 23:09:11
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 23:05:35
จากคุณ |
:
bluesherbet
|
เขียนเมื่อ |
:
28 เม.ย. 53 23:01:36
|
|
|
|
 |