ความคิดเห็นที่ 1 "ทงบังชินกิ" เป็นการรวมกลุ่มของเด็กฝึกหัด 5 คนจากบรรดาเด็กฝึกหัดของ SM ซึ่งถูกแยกเป็นกลุ่มไว้แล้ว ทีมโปรดิวเซอร์คัดเอานักร้องนำของแต่ละกลุ่มมารวมทีมกันเรียกว่าเป็น "Dream Team" โดยที่ทั้ง 5 คนไม่ได้รู้ตัวมาก่อนว่าจะต้องมาทำงานร่วมกัน (บางคนเพิ่งเจอกันวันนั้นเป็นครั้งแรก)  ทีมงานบอกแต่ละคนว่าจะมีถ่ายแบบแล้วก็เรียกมารวมกันในห้องๆหนึ่งแล้วจึงบอกว่าพวกเขาได้รับเลือกให้เดบิวต์เป็นกลุ่มเดียวกัน แรกเริ่มเดิมทีตอนที่ฝึกมีแค่แจจุงกับยุนโฮที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน (กลุ่ม Four Seasons ที่มีฮีชอลกับคังอินร่วมด้วย) ส่วนจุนซูอยู่กลุ่มเดียวกับอึนฮยอกและซองมิน  ส่วนแผนเดิมสำหรับยูชอนซึ่งเพิ่งเดินทางมาจากอเมริกาและชางมินนั้นคือการออกเป็นศิลปินเดี่ยว ว่ากันว่าดงบังชินกิเป็นชื่อที่ถือว่าช็อควงการพอสมควรเพราะความหมายที่ดูเว่อร์สุดๆอย่าง "เทพเจ้าจากโลกตะวันออก"  ซึ่งคาดว่าจะสร้างกระแสแอนตี้ให้ใครหลายๆคน เพราะชื่อน่าหมั่นไส้เหลือเกิน แถมบางครั้งแฟนๆยังเรียกพวกเขาสั้นๆว่า "เทพ" อีกต่างหาก ซึ่งอันที่จริงแล้วตอนแรกชื่อนี้ก็ทำให้สมาชิกทั้ง 5 คนตกใจเช่นกัน พวกเขาเล่าที่มาของชื่อว่าตอนแรกอยากได้ชื่อที่เป็นตัวอักษรจีน 4 ตัว ซึ่งตอนนั้นได้ 3 ชื่อมาให้เลือกแต่ความหมายก็ฟังดูประหลาดประเภทว่าเป็นปลาวาฬในตำนาน หรืออวัยวะในร่างกาย แต่แล้วก็มีคนเสนอชื่อว่า Dong Bang Shin Ki (Gods are rising in the East) ทุกคนในวงคิดว่า Lee Soo Man พูดเสนอเล่นๆ เพราะก่อนหน้านั้นแต่ละชื่อที่คิดมาประหลาดพอกัน ก็เลยตอบไปขำๆว่าเยี่ยมเลย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาก็ต้องใช้ชื่อนี้กันจริงๆ ก่อนเดบิวต์เวลามีคนถามว่าพวกเขาฟอร์มวงชื่ออะไรกัน ทุกคนก็จะอึ้งๆ แล้วก็ตอบว่า..."ดงบัง(ทิศตะวันออก)....เดี๋ยวก็รู้เองอ่ะน่า" ชื่อของพวกเขาที่เรียกต่างกันไปในแต่ละประเทศนั้นคือคำอ่านของตัวอักษรจีน  東方神起 ซึ่งออกเสียงตามภาษาต่างๆดังนี้ จีน         Tong Vfang Xing Qi (TVfXQ) เกาหลี    Dong Bang Shin Ki (DBSK, DBSG)  สะกดตามตัวอักษรภาษาเกาหลีได้เป็น 동방신기 ญี่ปุ่น      Tohoshinki (THSK) ส่วนในประเทศอื่นๆที่พวกเขาไปโปรโมทอย่างเช่นประเทศไทย พวกเขาจะใช้ตัวย่อจากชื่อจีนคือ TVXQ!  (ของแท้ต้องมีเครื่องหมายตกใจด้วยนะ!) แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:19:30 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 00:46:00 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:43:29

ความคิดเห็นที่ 2 นอกจากชื่อวงที่สร้างความสับสนให้กับแฟนๆหลายคนแล้ว (ซึ่งทำเอาเรางงมากๆมาแล้วโดยเฉพาะเวลาค้นยูทูป เพราะไม่รู้จะหาด้วย TVXQ, DBSK, DBSG, THSK หรือชื่อเต็มดี = =") ชื่อในวงการของแต่ละคนก็สร้างความมึนงงให้กับคนรู้จักอีกเช่นกัน เนื่องจากช่วงนั้นคำ 4 พยางค์กำลังเป็นกระแสที่เกาหลี (???) พวกเขาจึงคิดชื่อที่จะใช้ในวงการควบคู่ไปกับชื่อเกาหลีปกติ ซึ่งก็ได้มาดังนี้ U-Know Yunho (U-Know เป็นชื่อที่ยุนโฮใช้ตั้งแต่สมัยเป็น rapper ให้กับ Dana) Micky Yoochun (Micky เป็นชื่อที่ยูชอนใช้ตอนอยู่อเมริกา) Xiah Junsu (คำว่า Xiah มาจาก Asia) Youngwoong Jaejoong  (คำว่า Youngwoong หมายความว่า Hero ซึ่งเป็นที่มาของชื่อที่ใช้โปรโมทในประเทศอื่นๆของแจจุง) Choikang Changmin (คำว่า Choikang หมายความว่า Max ซึ่งเป็นที่มาของชื่อที่ใช้โปรโมทในประเทศอื่นๆของชางมิน) เหมือนเราเคยได้ยินว่ามีความหมายอื่นอีก ถ้าใครรู้รบกวนเขียนเพิ่มเติมเลยค่ะ แม้แต่ตัวเด็กๆและผู้จัดการวงยังเคยเอาชื่อน้องมาผสมกันมั่วเลย ผู้จัดการเคยพูดว่า "มิกกี้...ไปเรียกยูชอนมานี่ซิ" สารภาพว่าตอนที่รู้จักวงนี้ใหม่ๆเคยแอบบ่นอยู่ในใจว่าวงบ้าอะไรเนี่ย มีหลายชื่อ ทั้งชื่อวงชื่อคน จำก็ยาก เขียนก็ยาก แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 11:16:53 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:02:11

ความคิดเห็นที่ 3 ดงบังชินกิเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2003  โดยพวกเขาขึ้นร้อง Acappella เพลง O Holy Night ร่วมกับ BOA และร้องเพลงเปิดตัวของพวกเขา Hug ออกโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในงาน Showcase ของ BOA และ Britney Spears   เราแอบงงว่าทำไมไม่ให้ร้องสดตอนเปิดตัว ทั้งๆที่ live เพลง Hug หลังจากนั้นเป็นการร้องสดแทบทั้งหมดและทำได้ค่อนข้างดีด้วย ส่วนตัวแล้วการลิปซิงค์โชว์นี้เป็นผลให้เราแอบไม่ประทับใจไปพักใหญ่ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:06:04 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:05:00

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้งๆที่ไม่ประทับใจกับการเดบิวต์ แต่พอไปดู live หลังจากนี้แล้วถึงรู้สึกว่าน้องก็เสียงค่อนข้างดีตั้งแต่สมัยก่อนนี่หว่า คือจริงๆแล้วเราเอาดงบังชินกิปี 2009 มาเป็นมาตรฐานนั่นเอง ขอเอาคลิป Hug ที่ร้องสดมาให้ดูด้วยนะคะ ประมาณเดือนกว่าๆหลังจากเดบิวต์เต็มตัว ซึ่งไม่ได้แย่แต่ก็มีจุดให้ต้องพัฒนาอีกเยอะเลยทีเดียว สิ่งที่แอบประทับใจคือความหนักแน่นของเสียงร้อง จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:08:46

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาให้ปล้นกีบโดยละม่อม .... พี่สาว .. อย่าเกิน 100 คห. นะ กีบตอนนี้เค้ามีไม่พอ >< ตั้งแต่ต้นเดือนเลย กะไม่ให้เหลือไปให้กีบทู้อื่น คห.อื่นเลยชิมิ ปล. ถ้าแปะเกินเค้าคงต้องไปขอมาเพิ่มจากห้าคนที่มันปล้นเค้าไปนะ .... จากคุณ : ...ตรงที่เล็กๆในใจ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:10:38

ความคิดเห็นที่ 6 ซิงเกิ้ลแรก Hug  (วางจำหน่าย 14 มกราคม 2004) เป็นการเปิดตัวดงบังชินกิในฐานะวง Acappella Dance Group ด้วยการเน้นทั้งการร้องประสานเสียง ความหนักแน่นของเสียงร้องและการเต้นที่มีพลัง แค่เพียงซิงเกิ้ลแรก...พวกเขาก็ทำยอดขายถึง 169,532 แผ่น (รวมจนถึงปัจจุบันประมาณ 230,000 แผ่น) เรียกได้ว่าดังตั้งแต่เปิดตัวซิงเกิ้ลแรกกันเลยทีเดียว นอกจากยอดขายแล้วพวกเขายังกวาดรางวัลตามรายการโทรทัศน์ที่ขึ้นโชว์ต่างๆ อย่างเวที SBS Inkigayo นั้นก็คว้ารางวัล Mutizen Song ไปได้ครบ 3 ครั้ง เป็น Triple Crown ตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรก ในซิงเกิ้ลนี้มีเพลง My Little Princess แบบ Acappella ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนจากการประสานเสียงร้องอันแตกต่างกันของทั้ง 5 คนอีกด้วย Track List 1. Hug 2. My Little Princess 3. Oh Holy Night (Feat. BoA) 4. My Little Princess (Acapella Version) ลองฟังได้ค่ะ >> http://www.youtube.com/watch?v=yQGbIrGLIK0 5. Hug (Instrumental) ส่วน MV ตัวแรกนี่แต่ละคนดูเป็นเด็กผู้ชายวัยรุ่นใสๆ ไร้มลพิษจริงๆ โดยเฉพาะชางมินที่ยังเป็นน้องเล็กน่ารักจุ๊บแมวเหมียวอยู่เลย จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:13:14

ความคิดเห็นที่ 7 สารภาพว่า  เห็นยูชอนครั้งแรก  นึกว่า พี่ไก่  สมพล  ยังคิดว่าพี่ไก่แกไปร้องเพลงเกาหลีตั้งแต่ตอนไหน จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:14:29

ความคิดเห็นที่ 8 #5 ก็ไม่ต้องให้กีบทุกความเห็นม้ายยย  เค้าอาจจะยาวเกิน 100 ความเห็นก็ได้นะ ไม่ได้นับเลยอ่ะ #7 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:15:48 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:15:04

ความคิดเห็นที่ 9 ปาดเล็กๆเเต่พองาม (เพื่อบอกว่ากำลังรออ่านอยู่คะ) เเล้วก็...อึนฮยอกคะ ไม่ใช่อึนฮยอง ส่วนความหมายเเต่ละชื่อของทงบัง U-Know เพื่อแสดงว่าเขาต้องการให้ผู้อื่นรู้จัก สนใจ เเละเข้าใจในตัวเขา เเละในขณะเดี๋ยวกันก็ตั้งใจที่จะเข้าใจผู้อื่นด้วย (ประมาณนี้มั้ง เรื่องความหมายชื่อชายชองเเย้งได้นะคะเพราะงงจริงๆ รู้เเต่ว่ามีสองความหมายประมาณนี้) Micky นอกจากจะเป็นชื่อที่ยูชอนใช้ตอนอยู่อเมริกาเเล้ว มิกกี้ถ้าเขียนเเบบจีน จะแปลว่าอาวุธลับได้ด้วย เพื่อบอกว่าเขาเป็นอาวุธลับในวงการเพลงคะ Xiah มาจาก Asia จุนจังบอกว่าเพื่อตัวเองจะได้โดงดังไปทั่วเอเชียคะ Youngwoong มีความหมายว่า Hero ซึ่งบ้างก็ว่าเป็นชื่อที่เเจได้มาจากหมอดู บางคนก็บอกว่าลีซูมานเลือกให้   ซึ่งเเจบอกว่าอยากเป็นฮีโร่ในวงการเพลงคะ (ตอนเเรกก็คิดว่าไม่เข้ากับหนาหวานๆเล้ยยยย) Choikang มึความหมายว่า Max ซึ่งชางมินบอกว่า ชเวคัง มีความหมายถึง ผู้เป็นที่สุดทางด้านดนตรีนั่นเ บ้างก็ว่าลีซูมานเป็นคนตั้งให้ บ้างก็ว่าพนง.ในเอสเอ็มตั้งให้ อันนี้ไม่รู้คะ ปล.(ปล้ำมิน) จะถ่างตารอถึงที่สุดคะ เป็นกำลังใจให้ v v เเทร็ก 옹달샘 (Mountain Spring) เราก็ชอบนะคะ เป็นอะเเคปเปล่าที่เพราะดีเหมือนกัน ^_^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:25:20 จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:18:23

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากผ่านไปได้ไม่กี่เดือนพวกเขาก็ออกซิงเกิ้ลที่สอง The Way You Are (4 กรกฎาคม 2004) Tracklist 1. The Way U Are 2. Whatever They Say 3. 옹달샘 이야기 1 (Mountain Spring Story 1) 4. 옹달샘 (Mountain Spring) 5. 옹달샘 이야기 2 (Mountain Spring Story 2) 6. Whatever They Say (Instrumental) The Way You Are เป็นการเปลี่ยนภาพของเด็กหนุ่มหน้าใสไปอีกแบบเลย  ทั้งตัวงานเพลงที่ออกแนว Pop Dance บีทแน่นขึ้น ท่าเต้นที่มีรายละเอียดมากกว่าเดิม แต่ที่ทำให้เราไม่คิดจะดู MV คือเสื้อผ้าอันปวดตับไตไส้พุงมากจริงๆ (สารภาพว่าชอบน้องมา 1 ปี เพิ่งมานั่งดู MV ตัวนี้แบบเต็มๆครั้งแรกตอนที่จะเขียนนี่แหล่ะ) [Official MV] The Way You Are http://www.youtube.com/watch?v=RXPFBbu3tiY สิ่งที่ชอบในเพลงนี้คือท่าเต้น โดยเฉพาะการกรีดนิ้วตรงท่อนฮุค หุหุ ขอเอาแบบรวมฮิตการแสดงสดมาให้ดูแล้วกันค่ะ นอกจากตัวดงบังชินกิจะเต้นเก่งแล้ว แฟนๆก็ตัดต่อเก่งเหมือนกันนะ ^^" TVXQ The Way U Are (Non-StopDanceRemix) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:18:25

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับ track เล็กๆในซิงเกิ้ลนี้ที่เราคาดว่าหลายๆคนที่เพิ่งมาติดตามดงบังชินกิจะไม่เคยฟังและอยากให้หลายคนลองฟังดูคือเพลงนี้ค่ะ 옹달샘 (Mountain Spring) เพลงนี้เป็นเพลงกล่อมเด็กของเกาหลี น้องๆได้โชว์การร้อง Acappella ที่เพราะมากๆอีกเพลง ให้ความรู้สึกเหมือนฟังนักร้องประสานเสียงในโบสถ์คริสต์เลย จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:20:38

ความคิดเห็นที่ 12 #9 ขอบคุณมากจ้า แก้ไขส่วนชื่ออึนฮยอกแล้วนะคะ ^^ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:21:27

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่ออนุญาตให้ปาดก็มาปาดครับ ^^" วงนี้ยอมรับว่าติดตามช่วงซิงเกิลแรก เพราะชอบมาก....เพลงเพราะสุดๆ แล้วก็เฉยๆจนกระทั่ง บอลลูน  อันนั้นคือเริ่มพร่ำเพ้อ เริ่มติดตามอีกครั้ง พอซิงเกิลต่อมา.....ก็....เฉยๆเหมือนเดิม... เพลงวงนี้ดีมากๆทุกเพลงเลยครับ...แต่มันไม่ใช่แนวของผมเลย....เศร้า ตามอ่านนะครับ ^^" จากคุณ : oakey--->oak เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:24:31

ความคิดเห็นที่ 14 อีกเพลงหนึ่งในซิงเกิ้ลนี้ที่อยากแนะนำ (ตกลงว่าจะแนะนำให้ฟังทุกเพลงเลยนั่นเอง ^^") แต่ตัดใจไม่ลงว่าจะแนะนำให้ฟังแบบไหนดี คือเพลง Whatever They Say ก็เป็นสไตล์คล้ายๆ My Little Princess ที่เน้นการประสานเสียง ลองเลือกฟังดูค่ะว่าอยากฟังแบบไหน มีทั้งแบบสดและแห้ง MV - Whatever They Say (Acappella) เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ประสานกันได้เนียน และแสดงให้เห็นถึงเรนจ์เสียงของวงที่มีตั้งแต่เบสต่ำมากอย่างยุนโฮ จนถึงสูงปรี๊ดอย่างชางมิน จนไปถึงเสียง falsetto ของแจจุง http://www.youtube.com/watch?v=ID9HlnVXPDY MV - Whatever They Say แบบปกติ http://www.youtube.com/watch?v=zTezHfGmxg4 และแบบร้องสดในรายการวิทยุ ซึ่งไม่ได้ต่างไปจากเวอร์ชั่นในซีดีเท่าไหร่ แสดงให้เห็นว่ามาตรฐานในการร้องสดตอนนั้นก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:24:59

ความคิดเห็นที่ 15 ปาดมาบอกว่า แซงได้ตามสบายเลยค่า รออ่านอยู่เหมือนกันค่ะ  จริงๆลำดับ ก็พอๆกันนะคะ หลังจากที่เราแก้เวลาแล้ว  แอบอู้ 55  กระทู้นี้ท่าทางจะยาว เพราะเรื่องของทงบังนี่เยอะแยะมากมาย เป็นกำลังใจให้ค่ะ **กดลบให้แล้วนะคะ** แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:32:49 จากคุณ : venus butterfly เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:26:11

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าว  ไอ้เราก็อดใจไม่ปาด  พวกปาดกันเพียบ  ไรว้า น้องบิ๊ก  พี่รออ่านตั้งแต่คุณน้องบอกจะเขียนแล้วน๊า  มาเร็วสมใจดีแท้ ว่าแล้วก็เอาไปเผยแพร่ชาวแคสดีกว่า 55555 พอแล้ว  จะไม่ปาดแล้วค่ะ  รอคุณน้องเขียนจบแบบงามๆ v v v อุ้ย ขอโทษ  แก้ไม่ทันแล้วอ่ะ  แต่จะไม่ปาดแล้วค่ะ v v v แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:41:44 จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:31:23

ความคิดเห็นที่ 18 #13 สวัสดีค่ะคุณ oakey--->oak คนตั้งต้นกระทู้มาเองเลย ^^ แนวเพลงของวงนี้บางคนก็ชอบ บางคนก็เฉยๆค่ะ แถมแนวเพลงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างเราเองก็มีเฉยๆกับบางเพลงเหมือนกันค่ะ #15 ขอบคุณค่ะคุณ venus butterfly สารภาพว่าท่าทางกระทู้ยาวมากจริงๆ กลัวว่าคนไม่ใช่แฟนคลับจะอ่านจนจบไหวหรือเปล่า >.< #17 ชิดขวาด้วยพี่...5555 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:33:22

ความคิดเห็นที่ 19 แต่คลิปเพลง Whatever They Say ที่อยากให้ดูจริงๆคงจะเป็นคลิปนี้ที่โชว์ร้อง Acappella กันบนรถ มีบางคนเก่งมาก สามารถกินไปร้องประสานไปได้ด้วย จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:34:20

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากนั้นก่อนที่จะออกอัลบั้มแรก พวกเขาก็มีส่วนร่วมในอัลบั้มรวมนักร้องในค่าย SM: ’04 SUMMER VACATION in SMTOWN.COM (2 กรกฎาคม 2004) มีเพลงที่พวกเขาร่วมร้องอยู่ 3 เพลงคือ Hot Mail (여름편지), Drive และ Through The Forest ...และแล้วก็มาถึงอัลบั้มแรกของดงบังชินกิ Tri-Angle (10 ตุลาคม 2004) Tracklist 1. 믿어요 (I Believe) 2. Thanks To 3. Tri-Angle (feat. BoA and The TRAX) 4. 내 여자친구가 되어줄래? (Will you be my girlfriend?) 5. Whatever They Say (Acapella) 6. Million Men 7. 지금처럼 (Like Now) 8. I Never Let Go 9. 꼬마야 (Hey, Kid) 10. 넌 언제나 (You Always) 11. Hug 12. My Little Princess 13. The Way U Are 14. Tri-Angle (동방신기 Version) อัลบั้มนี้ต้องเรียกได้กลิ่นบอยแบนด์ฝั่งอังกฤษหลายวงโชยมาแต่ไกลเลย เพราะนอกจากเพลงโปรโมทอย่าง The Way You Are และ Tri-Angle (โปรโมทช่วงออกอัลบั้ม) เรียกได้ว่าเกินครึ่งหนึ่งเป็นเพลงช้าๆ เน้นการประสานเสียงเป็นหลัก ยอดขายในปีนั้นก็ประมาณสองแสนกว่าๆ (ยอดรวมล่าสุดเกินสามแสนไปแล้ว) บางเพลงอาจจะคุ้นหูใครหลายๆคน โดยเฉพาะคนเล่นเกมส์ Audition สมัยก่อน เพราะเพลง I Believe ก็อยู่ในเกมส์นั้นด้วย สำหรับเพลงที่เอามาเป็นเพลงหลักของอัลบั้มนี้อย่าง Tri-Angle นั้น ได้ BOA และ Trax วงร็อคในค่ายเดียวกันมาร่วมร้องด้วย เพลงนี้เก๋ตรงที่จับเอาเพลงคลาสสิคอย่าง Symphony #40 in G Minor, K 550 - 1. Molto Allegro ของโมสาร์ทมา Mix เป็นอินโทรและคลอกับเพลง Dance ผสมร็อคหนักๆได้อย่างลงตัว ตัว MV เองก็ทำเอาราวกับสมาชิกแต่ละคนหลุดออกมาจาก CG ของ Final Fantasy ทรงผมหลุดโลกพอสมควร เรียกว่าถ้าคนดูไม่ประทับใจไปเลย ก็หนีไปเลยเพราะทรงผมนี่เอง... แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:39:25 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:38:25

ความคิดเห็นที่ 21 #19 มิกกี้  เสื่อมจังลูก  = =" จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:40:11

ความคิดเห็นที่ 22 แอบให้กำลังใจอยู่นะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:42:14 จากคุณ : little_saku เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:41:59

ความคิดเห็นที่ 23 เดือนพฤศจิกายน 2004 พวกเขาออกซิงเกิ้ลพิเศษ Hug (International Version) หรือ Hug ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนั่นเอง (มี MV เวอร์ชั่นนี้ด้วยแต่หาไม่เจอ) ช่วงคริสต์มาส หนุ่มๆก็ออกอัลบั้มพิเศษ Christmas Gift from 동방신기 (7 ธันวาคม 2004) ซึ่งเป็นเพลงคริสต์มาสร้องประสานเสียงทั้งหมด แต่แปลงเป็นภาษาเกาหลี Tracklist 1. Jesus, Joy Of Man's Desiring (Acapella Version) 2. The First Noel 3. Magic Castle 4. Prayer Narration 5. Angels We Have Heard On High 6. Santa Claus Is Comin' To Town 7. Silent Night, Holy Night 8. Magic Castle (Instrumental) ปัจจุบันอัลบั้มนี้ก็ยังขายดีในช่วงคริสต์มาส ปี 2009 นี่ยังมียอดดาวน์โหลดสูงมาก เป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเพลงคริสต์มาสทั้งหลายของเกาหลี อัลบั้มนี้มี MV ออกมาเพลงเดียวคือ Magic Castle ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว หลายคนชอบเสียงประสานในเพลงนี้มาก แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 01:47:56 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:42:00

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากเสร็จงานปลายปี 2004 พวกเขาก็ออกมินิอัลบั้มเป็นภาษาจีน...Tri-Angle (Chinese version)  เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2005 โดยเอาเพลงในอัลบั้มแรก 5 เพลงไปทำเป็นภาษาจีน กลาย เป็นมินิอัลบั้มภาษาจีนอัลบั้มแรกและอัลบั้มเดียวของพวกเขา (หลังจากนั้นมีบางเพลงที่มีเวอร์ชั่นภาษาจีนด้วยเหมือนกัน แต่ใช้เพื่อโปรโมทในตลาดเมืองจีนเท่านั้นไม่ได้เป็นอัลบั้มอย่างนี้) 1. 我相信 (워 시앙신) – Miduhyo 2. Tri-Angle (三角-魔力, 산지아오-모리) 3. My Little Princess (想근니說, 시앙껀니슈어) 4. The Way U Are (니的樣子, 니더 양즈) 5. Hug (擁抱, 용빠오) ลองฟังสำเนียงภาษาจีนของดงบังชินกิกันกับเพลง I Believe  อันนี้เป็น MVต้นฉบับซึ่งร้องภาษาเกาหลี แต่แฟนๆเอามาตัดต่อใส่เสียงเวอร์ชั่นภาษาจีนลงไปแทนค่ะ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:45:56

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากนั้นไม่นานทั้ง 5 คนก็ถูกส่งไปเริ่มต้นใหม่ที่ญี่ปุ่น... ขอเล่าเรื่องโทโฮชินกิในญี่ปุ่นสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านเรื่องการทำงานของดงบังชินกิในประเทศญี่ปุ่น เพื่อจะให้เห็นภาพว่าพวกเขาไม่ได้ขึ้นมาประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นแบบข้ามคืน และการทำงานที่ญี่ปุ่นให้ขึ้นมาได้ถึงระดับที่โทโฮชินกิเป็นอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (ซึ่งก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นสุดยอดในญี่ปุ่นนะ แต่ก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่คนฟังเพลงญี่ปุ่นต้องรู้จัก) แต่เราจะพยายามไม่เอาคลิปฝั่งญี่ปุ่นมาลงมากนัก เพราะเขียนรายละเอียดของฝั่งโทโฮชินกิไปแล้วในกระทู้ J-Music Chronicles  ถ้าใครสนใจไปตามอ่านได้นะคะ [J-Music Chronicles #25] "Tohoshinki" อีกบทบาทและบทพิสูจน์ของ "ทงบังชินกิ" http://topicstock.pantip.com/chalermkrung/topicstock/2010/01/C8778119/C8778119.html พวกเขาเริ่มต้นในญี่ปุ่นในนาม"โทโฮชินกิ"ที่เป็นวงหน้าใหม่ซึ่งประกอบด้วยวัยรุ่นเกาหลี 5 คน ไม่ใช่ในฐานะ"ดงบังชินกิ"ที่เป็นกลุ่มไอดอลของเกาหลี เริ่มแรกนั้นพวกเขาฝึกภาษาที่เกาหลีก่อนหนึ่งเดือน และไปเรียนต่อกับอาจารย์ที่ญี่ปุ่นอีกประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นก็เป็นการเรียนเรียนจากคนรอบตัวและการทำงาน โดยมีข้อตกลงว่าการทำงานในญี่ปุ่นนั้นพวกเขาจะต้องทำงานกับทีมงานญี่ปุ่นและสื่อสารกับทีมงานด้วยภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งในช่วง 1-2 ปีแรกแต่ละคนเข้าใจคำพูดของทีมงานน้อยมาก แม้แต่การสอนเต้นก็ยังมีปัญหาในการสื่อสาร จนอาจารย์สอนเต้นถึงกับทนไม่ไหวต้องเด้นไปจัดท่าและดึงตัวทีละคนมายืนในตำแหน่งที่ต้องการเพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง ต้องใช้ภาษามือสื่อสารกัน ในการออกงานเพลงที่ญี่ปุ่นนั้นถึงแม้ว่าทั้งห้าคนจะได้พยายามทำความเข้าใจกับความหมายของเพลง แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านภาษาทำให้การสื่ออารมณ์ในเพลงรวมไปถึงการออกเสียงภาษาญี่ปุ่นตอนร้องเพลงยังไม่ดีนัก ที่สำคัญคือไม่สามารถออกรายการโทรทัศน์ทั่วไปเพื่อโปรโมทงานของตัวเองได้ เพราะทางค่ายวางแผนไว้ว่าต้องการให้คนยอมรับโทโฮชินกิในฐานะ"นักร้องเพลงญี่ปุ่นที่เป็นคนเกาหลี" ไม่ใช่ "นักร้องเกาหลีที่เกาะกระแสเกาหลี หรือ Hallyu Wave ในญี่ปุ่น"  ซึ่งจุดนี้ยุนโฮเคยยอมรับว่าในฐานะมนุษย์ธรรมดาพวกเขาก็รู้สึกอิจฉาเหมือนกันเวลาเห็นคนเกาหลีไปออกรายการวาไรตี้ดังๆที่ญี่ปุ่นได้ง่ายๆโดยพูดภาษาเกาหลีและใช้ล่ามช่วยแปล ตอนนั้นทั้ง 5 คนยังไม่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำ ช่วงที่มาอยู่ญี่ปุ่นใหม่ๆไม่มีใครกล้าออกจากบ้านไปซื้ออาหารหรือของใช้ส่วนตัวเลย ต้องรอผู้จัดการทำให้อย่างเดียว สถานการณ์ในช่วงนั้นถึงกับทำให้สมาชิกบางคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ทำท่าทางประหลาดๆ เช่น ชางมินเอารองเท้าแตะมาทำเป็นโทรศัพท์หาสัญญาณ UFO ไปเรื่อยเปื่อย แม้กระทั่งหัวหน้าวงอย่างยุนโฮก็ยังถึงขั้นคุยกับนกกาถามว่าทางบ้านเป็นอย่างไรบ้าง โทโฮชินกิเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในเดือนเมษายน 2005 ภายใต้สังกัด Rhythm Zone ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ AVEX ในฐานะวง Vocal/Dance Group โดยออกซิงเกิ้ลแรกชื่อ "Stay with Me Tonight" (27 เมษายน 2005)  และออกซิงเกิ้ลต่อมาชื่อ "Somebody to Love" (13 กรกฎาคม 2005) ซึ่งยอดขายน่ารักน่าลุ้นมาก ซิงเกิ้ลแรกยังไม่ถึงหลักหมื่น ส่วนซิงเกิ้ลที่สองได้หมื่นต้นๆเท่านั้น ....ในขณะเดียวกันนั้นพวกเขาก็ออกซิงเกิ้ลที่เกาหลี Hi Ya Ya Summer Day (23 มิถุนายน 2005) Tracklist 1. Hi Ya Ya 여름날 (Hi Ya Ya Summer Day) MV 1 | MV 2 2. 공간 (하늘과 바다사이, Whisper Of..) (Space; Between the Sky and the Ocean) 3. 너희들 것이니까 (I Wish ) (Because It Belongs to You) 4. 지금처럼 (Piano Version) (Like Now) 5. Hi Ya Ya 여름날 (Hi Ya Ya Summer Day) (Instrumental) 6. 너희들 것이니까 (I Wish ) (Because It Belongs to You) (Instrumental) เพลงนี้เป็นเพลงสบายๆ สำหรับช่วงหน้าร้อน ตัวเพลงก็สดใสสร้างสีสันสดใสได้ไม่เลว แถม MV ยังมี 2 แบบ แบบชวนไปเที่ยวทะเล http://www.youtube.com/watch?v=st2cXBM9JNQ แปะแบบไปเที่ยวกับแฟนๆ บนรถไฟ มีแฟนๆเป็นคอรัสด้วย ^^ ขอบคุณคุณเพื่อนที่ช่วยอัพคลิปแบบชัดๆขึ้นยูทูปด้วยจ้า จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:53:43

ความคิดเห็นที่ 26 Christmas Gift from 동방신기  เป็นอัลบั้มที่  ถึงไม่ใช่ช่วงคริสมาสต์ก็ฟังได้ค่ะ  เพราะมากจริงๆ   เพลงที่แนะนำก็ The First Noel   Silent Night, Holy Night  อันนี้ก็เพราะเช่นกันค่ะ จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:54:52

ความคิดเห็นที่ 27 โอ้ยๆๆ  ว่าจะไม่ปาด อดใจไม่ได้จริงๆ ที่จริงอ่านไป เขียนเม้นท์ไป  แต่รอทีเดียวลากยาวเลย 555 ก่อนอื่น พี่ก็คิดเหมือนบิ๊กเลย ตอนเห็นน้องครั้งแรก   ไรว้า  หน้าตาเงี้ยนะ บอยแบนด์ ที่จริงน้องโดนเสื้อผ้าหน้าผมทำร้าย   คือเพลงแรกๆ ที่น้องปกติก็เห็น แต่ไม่ทันได้สนใจอ่ะค่ะ พอเจออีกที Tri-Angle พระเจ้า  เสื้อผ้าหน้าผม รับไม่ได้ เลยเกิดความคิดงั้นแหละ และเลิกสนใจไปนานเชียวหละ พูดเรื่องชื่อวงน้องแต่เริ่ม อย่างฮา เครื่องในทั้ง 5 55555 ที่จริงตอนเป็นดรีมทีมและยังไม่มีชื่อวง น้องใช้ชื่อทีมเล่นๆ ว่า sm5 ด้วยนะคะ ซึ่งที่เกาหลีมันดันไปตรงกะญี่ห้อรถยนซะนี่ ตอนซิงเกิ้ลแรก Hug มาไม่ทันน้องเหมือนกันค่ะ แต่พอตามกลับไปขุดดู พระเจ้า  ไอ้ที่ทุกคนที่ทันน้องๆ ช่วงแรกยืนยันมา ว่าทงบังดังแต่ซิงเกิ้ลแรกจริงๆ คือเชื่อแล้วค่ะ  เราดูทุก live ไล่เรียงกันไป  มองไปทางไหน ทุกเวทีมีแต่ลูกโป่งสีแดง และเสียงอังร์กอร์ก็ดังลั่น แถมน้องโชว์ปิดงานอีกหลายงาน โปรโมทอย่างนั้นอยู่ซัก 3-4 เดือน ดังชนิดที่เราเองยังตะลึงเลยค่ะ   เห็นภาพจริงๆ กับคำว่า "ทงบังชินกิ  ไม่เคยไม่ดัง" ฟังๆ อ่านๆ ดู ก็อาจจะดูเว่อร์และน่าหมั่นไส้นคะ แต่ทั้งรางวัล   ยอดขายต่างๆ และจำนวนแฟนคลับ  มันก็พิสูจน์จริงๆ นะ ว่าไอ้ที่แฟนๆ พูดๆ กันอย่างนี้น่ะ มันคือเรื่องจริง คลิป 19  พระเจ้า คลิปสุดฮาของเรา  ปาร์คเก่งมากลูก ขนมเต็มปากยังมาฮุ้ฮู ฮ้าฮาได้  เราควรจะอายแทนดีมั้ย เอาหละ คงอดใจอีกไม่ไหวแน่ๆ  แต่จะพยายามปาดแต่น้อยแล้วกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:10:12 จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:56:19

ความคิดเห็นที่ 28 ช่วงปลายปีระหว่างที่พวกเขากำลังฝึกซ้อมและวางแผนออกอัลบั้มใหม่ โดยจะมีการเปิดตัวในงาน Rising Sun Showcase วันที่ 10 กันยายน 2005  ก่อนหน้างาน Showcase เพียงสองวันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับสมาชิกในวงอย่างแจจุงในระหว่างการฝึกซ้อมเต้นเพลง Rising Sun เมื่อเขาล้มลงไปกุมเข่าระหว่างการซ้อมใหญ่เพลง Rising Sun ให้ผู้บริหารดู หลังจากนำส่งโรงพยาบาลแพทย์ก็วินิจฉัยว่าเข่ามีปัญหาต้องรับการรักษาโดยผ่าตัดด่วน จากอาการบาดเจ็บนี้เองทำให้แจจุงไม่สามารถเดินได้เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือน และต้องใช้เวลารักษาเข่าให้หายดีถึง 6 เดือนซึ่งทำให้ไม่สามารถเต้นเพลง Rising Sun ร่วมกับเพื่อนๆได้ในทุกๆงานของปี 2005 (แต่ก็ตามไปทุกที่ และบางงานก็นั่งร้องเพลงเป็นนางพญาอยู่เลยทีเดียว) ถ้าสังเกตให้ดีใน MV Rising Sun ก็จะมีคนใส่หน้ากากเต้นแทนแจจุง เพราะตอนที่เกิดอาการบาดเจ็บ พวกเขายังไม่ได้ถ่าย MV กันเลย แต่อัลบั้มที่วางแผงไว้รวมถึงงาน Showcase ก็ไม่ได้มีการเลื่อนกำหนดแต่อย่างใด จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:57:25

ความคิดเห็นที่ 29 อัลบั้มที่ 2 ของพวกเขา Rising Sun ออกวันที่ 25 กันยายน 2005 Tracklist 1. Tonight 2. Beautiful Life 3. Rising Sun (순수) 4. 바보 (Unforgettable) 5. 네가 허락할테니 (Love Is Never Gone) 6. Love After Love 7. Dangerous Mind 8. One (MV) 9. Love Is 10. Free Your Mind (feat. TRAX) 11. 작은 고백 (Your Love Is All I Need) 12. 약속했던 그때에 (Always There ) ช่วงที่อัลบั้มนี้ออกมามีข่าวลือว่า SM วางแผนจะเอาแจจุงกับชางมินออกมาตั้งเป็นกลุ่ม TVXQ China โดยเพิ่มสมาชิกเข้าไปอีกคนแล้วโปรโมทแยกประเทศกัน ทำให้มีเรื่องการบอยคอตอัลบั้ม แต่ยอดขายกลับมาเป็นปกติเมื่อ SM ออกมาแถลงว่าไม่มีแผนการที่ว่าแต่อย่างใด อัลบั้มนี้ขายได้ในปีนั้น  222,472 แผ่น กลายเป็นอัลบั้มขายดีอันดับ 4 ของเกาหลีในปี 2005 (ยอดรวมปัจจุบันเกือบ 300,000 แผ่น) และทำให้ดงบังชินกิได้รับรางวัล Best Music Video (Rising Sun) จากเวที MKMF 2005 ส่วนตัวแล้วเราชอบอัลบั้มนี้มากทีเดียว มีความหลากหลายในงานเพลง และความหนักแน่นมากขึ้น หลายๆเพลงเปิดโอกาสให้แสดงความสามารถด้านการร้องมากขึ้น  หนึ่งในเพลงเหล่านั้นคือ Tonight ซึ่งหลายคนบอกว่าฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสงคราม จริงๆแล้ว Tonight อาจจะเป็นเพลงที่ร้องยากที่สุดในบรรดาเพลงทั้งหมดของดงบังชินกิ (และอาจจะรวมโทโฮชินกิด้วย) เพราะใช้การไล่เสียงขึ้นไปสูงมากๆ กันทุกคน เรียกว่าสาดเสียงใส่กันเลยทีเดียว ไล่ไปจนถึง falsetto ใสกิ๊งของแจจุง เพลงนี้ถ้าไปฟังเวอร์ชั่นร้องสดในคอนปีนั้นอาจจะเกิดอาการปวดตับได้ ขอเอาเวอร์ชั่นพัฒนาแล้วในทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุดมาให้ฟังกันค่ะ ซึ่งพวกเขาร้องเพลงสุดท้ายหลังจากเล่นคอนเสิร์ตเกือบสามชั่วโมง เรียกว่าเป็นพลังเฮือกสุดท้ายแล้ว (อ่านความหมายไปด้วยแล้วจะเข้าใจเพลงยิ่งขึ้น...ติดเรทได้อีก ^^") จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:02:00

ความคิดเห็นที่ 30 สำหรับตัวเพลง Rising Sun นั้นได้เป็น soundtrack ประกอบภาพยนตร์ Fast and Furious ภาค 4 ด้วย เพลงนี้หาแบบร้องสดในเกาหลีได้น้อยมาก แม้แต่กระทั่งในคอนเสิร์ตช่วงหลังก็ยังคง Lipsync กันอยู่ด้วยเหตุผลที่เราไม่ค่อยเข้าใจ...ประมาณว่าสงวนพลังงานให้คนร้อง = =" ซึ่งถ้าไปดูเวอร์ชั่นญี่ปุ่นแล้วจะรู้ว่าน้องๆร้องได้ และร้องได้ดีด้วย ทั้งๆที่เต้นหนักๆนี่แหล่ะ ที่ประทับใจที่สุดคือเสียงหวีดสูงของชางมินในเพลง เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเพลงเลยก็ว่าได้ รวมไปถึง Rise Up ของยุนโฮในช่วงสุดท้าย สำหรับเรา Live ของ Rising Sun ที่ดีที่สุดเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นใน 3rd Japan Tour "T" ร้องสดทั้งเพลง (และถ้าหากได้ดูทั้งคอนเสิร์ตก็จะพบว่าพวกเขาร้องต่อกันมา 18 เพลงแล้ว และก่อนหน้าเพลงนี้ก็เป็นเพลงเต้นและกระโดดหนักๆติดกันมา 3-4 เพลงแล้วด้วย) คลิปนี้ทำให้เราเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับบอยแบนด์ไปเลย จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:04:23

ความคิดเห็นที่ 31 Tonight เราเรียกการร้องเพลงนี้ว่า"สงคราม" อ่ะ  ร้องยังกะสาดกระสุนใส่กัน  ไม่มีใครยอมแพ้  แต่ก็ไม่ได้ฆ่าอีกฝ่ายนึงให้ตายนะ อารมณ์แบบ  "ฉันทำได้ขนาดนี้  นายทำได้มากกว่านี้ไหมล่ะ" $30    เหมือนน้องจะบอกว่า   ตอนร้องเพลงนี้  ไร้สติกันไปหมดแล้ว  ทำตามสัญชาตญาณล้วนๆ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:14:27 จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:05:57

ความคิดเห็นที่ 32 หลังจากประสบความสำเร็จกับอัลบั้ม Rising Sun ในเกาหลี พวกเขาก็กลับไปเป็น Nobody ในวงการญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง...ด้วยการออกซิงเกิ้ล My Destiny สลับกับกลับมาทำงานในเกาหลีร่วมกับ Super Junior ด้วยการออกซิงเกิ้ลพิเศษ Show Me Your Love (15 ธันวาคม 2005) เกร็ดเพิ่งรู้: นับจนจบปี 2005 พวกเขามี MV รวมในรอบสองปีทั้งหมด 21 ตัว เยอะไปไหนคะน้อง = =" พอถึงปี 2006 พวกเขาก็มีคอนเสิร์ตใหญ่ของดงบังชินกิเป็นครั้งแรกด้วยทัวร์คอนเสิร์ต Rising Sun: 1st Asia Tour เริ่มต้นที่ Seoul Olympic Stadium ในเกาหลี ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ตามมาด้วยจีน มาเลเซีย และประเทศไทยในเดือนกันยายน คอนเสิร์ตนี้จะเรียกว่าสมบูรณ์แบบก็คงไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงแรกที่แสดงในเกาหลีซึ่งเป็นช่วงที่ขาของแจจุงยังไม่หายดี ทำให้ไม่สามารถเต้นได้เต็มที่ เพลงเต้นทั้งหลายก็ยังเป็นพี่หน้ากากมาเต้นแทนตลอด  นอกจากนี้เท่าที่เห็นจากเทปบันทึกการแสดงคือ  เพลงเร็วก็ยังลิปซิงค์ เพลงช้าก็ยังเรียกว่าสมบูรณ์ได้ไม่เต็มปาก แต่การแสดงเดี่ยวของแต่ละคนทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เลือกเอาเพลงช้าจากในคอนเสิร์ตมาให้ฟังซักเพลง One  ซึ่งเป็นเพลงที่เปิดโอกาสให้ยุนโฮได้โชว์พลังเสียงด้วย จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:08:05

ความคิดเห็นที่ 33 ในช่วงเดียวกันนั้นพวกเขาก็มีงานอื่นๆออกมาอย่างต่อเนื่อง (และอัดแน่นตลอดปี) ลองมาดูผลงานที่ออกมาในปี 2006 นอกเหนือจากทัวร์เอเชียกัน... - 28 กุมภาพันธ์: [เกาหลี] เพลงประกอบภาพยนตร์ Millionaire First Love ชื่อว่า Insa (จริงๆแล้วเพลง One ก็อยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย แต่ Insa เป็นเพลงที่ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มของดงบังชินกิ) เป็นเพลงที่มีทั้งแบบร้อง 5 คน และแจจุงร้องเดี่ยว...ที่อยู่ในหนังตอนกลางเรื่องคือแบบแจจุงเดี่ยวๆ ส่วนตรงเครดิตเป็น 5 คน ดงบังชินกิ http://www.youtube.com/watch?v=KIxhoeZaZCY แจจุงเดี่ยว (ถ้าชอบเพลงเศร้าๆน่าจะชอบแบบนี้มากกว่าแบบห้าคนนิดหน่อย เพราะมีแค่เสียงร้องกับเสียงเปียโนและเครื่องสายคลอ) http://www.youtube.com/watch?v=iXU8vhRiXWk - 8 มีนาคม 2006: [ญี่ปุ่น]  ซิงเกิ้ลที่ 4 Asu Wa Kuru Kara - 23 มีนาคม 2006: [ญี่ปุ่น] อัลบั้มภาษาญี่ปุ่นอัลบั้มแรก  Heart, Mind and Soul - 19 เมษายน 2006: [ญี่ปุ่น]  ซิงเกิ้ลที่ 5 Rising Sun / Heart, Mind and Soul - 13 พฤษภาคม - 28 มิถุนายน: [ญี่ปุ่น] ทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศญี่ปุ่น ร้องเพลงภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด 11 รอบ ตามเวทีขนาดเล็ก ไปจบที่ Zepp Tokyo ซึ่งมีความจุเพียง 2,700 คน ข้อดีอย่างหนึ่งของการทำงานที่ญี่ปุ่นคือทำให้พวกเขาได้พัฒนาการร้องของตัวเอง เพราะการเข้าไปออกผลงานที่ญี่ปุ่นนั้น AVEX ได้สร้างภาพลักษณ์ของโทโฮชินกิให้เป็น Artist มากกว่าที่จะเป็น Idol Group อย่างในเกาหลี ดังนั้นหากจะให้คนยอมรับพวกเขาในฐานะ Vocal Group พวกเขาจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าร้องเพลงได้ดีจริงด้วยการร้องสดตลอด ไม่ว่าจะรายการเล็กหรือใหญ่ ซึ่งจุดนี้ทำให้พวกเขาพัฒนาด้านเสียงร้องสดอย่างต่อเนื่อง และช่วงนี้พวกเขาทำงานทั้งในสองประเทศ รวมไปถึงการทัวร์คอนเสิร์ตญี่ปุ่น สลับกับเอเชียทัวร์ ทำให้บางคนในวงเกิดอาการสับสนในบางเพลงที่มีทั้งภาษาเกาหลีและภาษาญี่ปุ่น ร้องสลับกันไปมาเฉยเลยก็มี ^^" - 1 มิถุนายน: [เกาหลี] ซิงเกิ้ลที่ 4  Fighting Spirit of the East เป็น Official Image Song ของประเทศเกาหลีสำหรับฟุตบอลโลกปี 2006 เพลงนี้ออกแนวสร้างพลังใจดีค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=GmEApdDrdd4 - 20 มิถุนายน: [เกาหลี] ร่วมร้องกับศิลปินในค่ายเดียวกันใน อัลบั้ม 2006 Summer SM Town เพลง Red Sun และ 오아시스 (Oasis) - 21 มิถุนายน: [ญี่ปุ่น] ซิงเกิ้ลที่ 6 Begin - 14 กรกฎาคม: [เกาหลี] อัลบั้มเพลงจากไลฟ์คอนเสิร์ต  1ST CONCERT TOUR “RISING SUN” LIVE ALBUM - 28 กรกฎาคม: [เกาหลี] เพลงประกอบละคร Vacation ซึ่งเป็นละครสั้นๆแบบ Bunjun Drama ที่ดงบังชินกิเล่นกันเอง เพลงที่ออกมา 2 เพลงในซิงเกิ้ลนี้คือเพลง Holding Back the Tears และ Beautiful Thing ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มใดๆของดงบังชินกิ จุดที่น่าสนใจคือ Holding Back the Tears เป็นเพลงที่แต่งโดยสมาชิกในวง (ยูชอน) เพลงแรกที่ถูกปล่อยออกมาเป็น studio version และ Beautiful Thing เป็นเพลงเดี่ยวของจุนซูที่ให้ความรู้สึกเศร้าบาดลึก Holding Back the Tears (MV) http://www.youtube.com/watch?v=shW7s8C4S_s Beautiful Thing  http://www.youtube.com/watch?v=9Q79bqcbveU ขอเอา Holding Back the Tears แบบร้องสดมาให้ฟังกัน (ช่วงนี้เริ่มเป็นช่วงที่น้องๆร้องสดดีขึ้นเรื่อยๆจนบางทีเราเริ่มสงสัยว่าลิปซิงค์หรือสด ) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:12:37

ความคิดเห็นที่ 34 ขอปาด ^^ เป็นกระทู้ปล้นกีปกันจริงๆ (แต่เต็มใจยกให้เสมอ) อ่านแล้วก็นึกถึงวันวานสมัยโน้น ที่เริ่มฟังทงบังสมัยแรกๆ (ไม่คิดว่าจะยาวนานขนาดนี้) แอบคิดเหมือนกันว่า หล่อตรงไหน haha แต่ก็ไม่ได้ชอบเพราะความหล่อเนอะ ส่วนตัวแล้วเพลงของทงบังที่ไม่ใช่เพลงโปรโมทหรือเป็นเพลงโปรโมทเอง ตอนแรกก็ไม่ชอบ แต่ฟังแบบไลฟ์เปลี่ยนมาชอบก็เยอะเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้คุณ gibt นะค่ะ^^ ปล. เราขอเสริมนิดหนึ่งได้ไหมเรื่องความหมายของเพลงโปรโมทอัลบั้ม อย่าง tri-angle Rising Sun หรือ 'O' จะเป็นเพลงที่ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักหนุ่มสาว จะเป็นการวิพากษ์สังคมหรือการสะท้อนสังคมปัจจุบัน เพิ่งมีมาเปลี่ยนก็ตอน 'มิโรติก' ไม่รู้เกี่ยวไหม แต่นานๆ ทีจะมีเพลงที่ไม่ได้แต่งเกี่ยวกับความรัก อกหัก ออกมาให้ฟังเลยอยากแนะนำ^^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:25:01 จากคุณ : ฟ้าต่างสี เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:15:24

ความคิดเห็นที่ 35 (ต่อ...) - 6 สิงหาคม: [ญี่ปุ่น] ซิงเกิ้ลที่ 7 Sky - สิงหาคม - กันยายน: [ญี่ปุ่น]  ทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินในค่าย AVEX งาน A-Nation 2006 ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ยุนโฮได้รับบาดเจ็บที่ขา ไม่สามารถไปญี่ปุ่นเพื่อแสดงกับเพื่อนๆได้ ทำให้ Sky + Rising Sun ต้องร้องกันแค่ 4 คน พลังหดหายไปเยอะเหมือนกันเมื่อหัวหน้าวงไม่อยู่ - 8 กันยายน: [เกาหลี] จุนซูไปร้องคู่ในซิงเกิ้ลของนักร้องสาวชาวจีน Zhang Ri In ในเพลง Timeless  (ต้นฉบับภาษาอังกฤษของเพลงนี้ร้องโดย Kelly Clarkson และ Justin Guarini) MV เพลงนี้มีเรื่องราวเหมือนหนังสั้นๆเรื่องหนึ่ง ได้ 2 สมาชิกของ Super Junior มารับบทนำให้ http://www.youtube.com/watch?v=ubCz5VNv_o0 http://www.youtube.com/watch?v=hXkFnjALrk8 หลังจากนั้นก็มาถึง... อัลบั้มภาษาเกาหลีอัลบั้้มที่ 3 "O" (29 กันยายน 2006) Tracklist 1. “O”-正.反.合. 2. 세상에 단 하나뿐인 마음 (You’re My Miracle) 3. Hey! Girl 4. Get Me Some 5. I’ll Be There 6. 네 곁에 숨쉴 수 있다면 (White Lie) 7. Remember 8. 이제 막 시작된 이야기 (The story Has Just Begun) 9. ON&ON 10. Phantom 환영(幻影) 11. You Only Love 12. 풍선 (Balloons) อัลบั้มนี้เปิดตัวมาด้วยเพลงเต้นหนักๆอย่าง "O"-Jung.Ban.Hap. ("O"-正.反.合. lit. "O"-Thesis.Antithesis.Synthesis) เราเพิ่งมารู้เมื่อไม่นานนี้ว่าเพลงนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสามัคคีและความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น พูดถึงเรื่องโลกในอุดมคติและความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในปัจจุบัน แถมเพลงยังร้องโต้กันแบบเป็น thesis  / anti-thesis / synthesis ได้อีก  เรียกว่าเป็นเพลงดีมีสาระเลย แต่งโดยคุณ Yoo Young-jin ซึ่งแต่งเพลงดังๆมาให้ดงบังชินกิและศิลปินคนอื่นในค่าย SM มามากมาย ขอเม้าท์เรื่อง MV ตัวนี้สักนิด... MV "O" Jung.Ban.Hap. เป็น MV ที่ลงทุนไปกับค่าตั๋วเครื่องบินไปถ่ายทำหลายประเทศ (หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วย ซึ่งทำให้เราจำ MV ได้ติดตาตั้งแต่ได้ดูเมื่อหลายปีที่แล้วทั้งๆที่ไม่รู้ว่าวงนี้คือใครเพราะเห็นว่าถ่ายที่เมืองไทยด้วย) ดูจากการตัดต่อแล้วเหมือนว่าจะเป็น MV ที่ลงทุนสูงมาก แต่จริงๆแล้วเบื้องหลังคือ... ยูชอนกับชางมินถ่ายทำที่ Prague โดยมีทีมงานถ่ายทำแค่สองคน ที่เหลือก็คือสมาชิกในวงดงบังชินกิ ยุนโฮกับแจจุงกลายเป็นคนแบกอุปกรณ์ในขณะที่จุนซูเป็น Music Director คอยเปิดเพลง (สมาชิกในวงคนอื่นไปด้วยเพราะถือโอกาสไปถ่ายอัลบั้มภาพ Princes in Prague) ฉากที่แสนเท่ห์ใต้หอนาฬิกาใน MV นั้นที่จริงแล้วยูชอนกำลังยืนอยู่บนกองขยะ ยุนโฮมีช็อตถ่ายทำที่ญี่ปุ่นกลางถนนที่ยุ่งที่สุดย่าน Shibuya เบื้องหลังความเท่ห์นั้นคือถ่ายทำแบบกองโจร เพราะไม่ได้ขออนุญาตทางการ การถ่ายทำจริงๆคือยุนโฮ (ที่แต่งตัวสุดโต่งแบบใน MV) วิ่งไปยืนกลางถนนตอนรถติดไฟแดง แล้วพอไฟกระพริบจะเขียวก็ต้องวิ่งร้อยเมตรกลับมา โดยมีทีมงานถ่ายทำแค่สองคนเช่นกัน = =" แถมยังโดนบีบแตรไล่เพราะไฟเขียวแล้วแต่วิ่งกลับมาไม่ทันก็มี ส่วนแจจุงที่มาถ่ายทำเมืองไทยได้รับการต้อนรับอย่างดีมากจนถึงขั้นเจ้าตัวเองยังงง เพราะเขามาถ่ายทำคนเดียว แต่ตอนออกจากโรงแรมไปสนามหลวงมีรถการ์ดมารับ 3 คัน รถตู้สำหรับเจ้าตัวอีกหนึ่งคัน มอเตอร์ไซค์ขับนำ แถมเปิดไฟเขียวให้ตลอดทุกแยกอีกต่างหาก ยิ่งพอมาถึงสนามหลวง นอกจากแจจุงแล้วก็มีทีมงานอีกสองคน ที่เหลืออีกสิบกว่าคนเป็นบอดี้การ์ดซึ่งก็คงคิดอยู่ว่าพวกเขามาทำอะไรกันแน่เนี่ย...เพราะวันนั้นเป็นวันที่แฟนๆไม่ตามไปดูการถ่ายทำเลย เนื่องจากทางทีมงานขอความร่วมมือไม่ให้ตาม และแฟนๆก็ไม่ตามกันจริงๆ สถานที่ถ่ายทำก็ไม่มีใครรู้ ถึงรู้ก็ตามไปไม่ทันอยู่ดี จุนซูที่ถ่ายทำที่เกาหลีเองก็มีทีมงานไม่ได้มากไปกว่าเพื่อนคนอื่นๆเท่าไหร่ ทีมงานทั้งหมดมี 5 คน 2 ใน 5 คือผู้จัดการ จุนซูเล่าว่าแฟนที่ดูอยู่คงคิดว่า...ดงบังชินกิคงอยู่ในสภาวะลำบากซินะ ดูไม่ค่อยลงทุนกับการถ่าย MV เลย มาชม MV  Pirates in Prague,  ซุปเปอร์ไซย่ากลางสนามหลวง+ห้าแยกลาดพร้าว, Lost in Shibuya & Seoul กันค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 15:12:49 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:30:51 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:25:26 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:17:14 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:16:18

ความคิดเห็นที่ 36 คห.31   หรือที่จริงเราควรเรียกการร้องเพลงแบบนี้แหละ ว่าเป็นการ Battle จริงๆ คือสาดเสียงใส่กันไม่ยั้ง  แต่ยังสามารถรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้ ถือเป็นสุดยอดเพลงสายพลังในใจแคสเพลงนึงเลยนะคะ เราประทับใจสุดตอนที่ร้องเพลงนี้เปิดคอน rising sun ในไทย อาจเป็นเพราะเป็นครั้งแรก เพลงแรก ที่ได้ฟังดงบังร้องสดๆ อยู่ตรงหน้าก็ได้อ่ะนะ เล่าเรื่อง mv เพลง O ซะฮาเลย   นึกถึงตอนนั้นที่มารู้ทีหลังว่าแจไปถ่ายที่สนามหลวง กะ 5 แยกลาดพร้าว  โหย  เซ็งจิต  ไม่มีใครรู้เล้ยยยย เลยไม่มีคนตาม พี่การ์ดไปเก้อเลย 55555555 เอ่อ  น้องบิ๊ก  พี่อดใจไม่ได้กีบไม่ได้อ่ะ  แบบว่าอ่านแล้วอยากจิ้มให้ไม่รู้ตัว ถ้ากีบหมด ท้ายเดือนคุณน้องต้องให้พี่กู้กีบด้วยนะ 5555 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:26:30 จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:18:43

ความคิดเห็นที่ 37 #22 สวัสดีค่ะคุณ little_saku วันนี้อาจจะยังโพสต์ไม่จบนะคะ บอกไว้ก่อนเลย #21 มิกกี้เสื่อมตรงไหน ออกจะน่ารัก >.< #27 ปาดเต็มที่เลยพี่ อิอิ #34 อยากให้ช่วยเสริมเรื่องความหมายเพลงเหมือนกันค่ะ เรามาตั้งใจอ่านความหมายเพลงแค่เพลง O เพลงเดียวเอง...แต่ชอบมากที่เป็นเพลงความหมายดีๆแบบนี้ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:23:13

ความคิดเห็นที่ 38 ปาดอีกรอบ ขอบอกว่าเพื่อนเราเศร้ามากกกกกกก ตอนที่ไม่ได้ไปดูเเจจุง เพราะ รร. อยู่ใกล้สนามหลวงมากกกกก เรียกว่าเเค่เอื้อมเลย เเต่ที่ไม่ได้ไปเพราะ 1. ปิดข่าวมากกกกก กว่าเพื่อนจะรู้ก็ไปไม่ทันเเล้ว 2. โรงเรียนยังไม่เลิกกกกกกกกกกกกกกก เเล้วเค้าจะออกนอกรร.ได้ยังง๊ายยยยย ส่วนเรา...เฉยๆ เพราะตอนนั้นไม่ได้ชอบทงบัง ไม่เเลซักกะติ๊ด อคติอีกต่างหาก ตอนนี้พอนึกย้อนก็ไม่อิจฉา ถ้าชางมินมาสิอีกเรื่อง หึๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:34:09 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:27:29 จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:25:31

ความคิดเห็นที่ 39 ขอเอาเวอร์ชั่นร้องสดของ O อีกอันที่เราชอบมากมาให้ดู เป็นการร้องโชว์ในงานประการรางวัล Video Music Award ของญี่ปุ่นปี 2007  ที่เก๋มากคือเป็นการร้องภาษาญี่ปุ่นสลับกับภาษาเกาหลี ราวกับว่าร้องไปด้วยเต้นไปด้วยมันยังยากไม่พอ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:29:26

ความคิดเห็นที่ 40 หลังจากเปิดอัลบั้มด้วยเพลงที่มีเนื้อหาหนักแน่นไปแล้ว เพลงโปรโมทเพลงที่ 2 ในอัลบั้มนี้ต้องเรียกได้ว่าพลิกภาพลักษณ์ของดงบังชินกิครั้งใหญ่เลยทีเดียว... พวกเขาเลือกเพลง Balloon ซึ่งเป็นเพลงเก่าจากวง Five Fingers เพื่อจะเจาะตลาดเด็กๆ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงเด็กน้อยน่ารักมาก MV ที่ทำออกมาก็น่ารักน่าหยิกเหลือเกิน จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:31:44

ความคิดเห็นที่ 41 ในช่วงโปรโมทเพลงนี้พวกเขาเต้นโดยใส่ชุดคอสเพลย์แบบต่างๆกันไป มีทั้งชุดสิงสาราสัตว์อย่างใน MV, ชุดตัว Smerf, Harry Potter, ฯลฯ ตัวอย่าง Live Performace http://www.youtube.com/watch?v=2vXoxNDHLkc http://www.youtube.com/watch?v=xqq95wGaK2g Balloon Mix Performance http://www.youtube.com/watch?v=GVXul_9YaF8 และเมื่อรวมเพลง O Jung Ban Hub กับ Balloon เข้าด้วยกันก็จะได้เป็นเช่นนี้ เสียดายไม่มีน้องสิงโตที่มัวแต่ไปเสริมหล่อมาเต้นด้วย แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 53 14:38:47 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:32:39

ความคิดเห็นที่ 42 ว่ากันว่าช่วงปี 2006 เป็นช่วงที่ดงบังชินกิโด่งดังถึงขีดสุดในเกาหลี แต่ปี 2006 กลับเป็นปีที่ไม่ถูกโฉลกกับยุนโฮเอาเสียเลย หลังจากยุนโฮหายเจ็บช่วงเดือนกันยาได้ไม่นาน  14 ตุลาคม 2006 ยุนโฮก็ถูกวางยาพิษจาก anti-fan คนหนึ่งโดย anti-fan ใช้สารเคมีบางอย่างทาไว้รอบปากขวดแล้วยื่นให้กับยุนโฮหลังบันทึกเทปรายการ แต่โชคดีที่ยุนโฮไม่ได้กลืนเข้าไปเต็มๆ เลยยังไปล้างท้องได้ทัน สุดท้ายยุนโฮก็ตัดสินใจไม่เอาความกับ anti คนนั้นโดยให้เหตุผลว่าอายุเธอเท่าๆกับน้องสาวของเขา จึงเอาเรื่องไม่ลง ช่วงปลายปีดงบังชินกิยังออกผลงานเพิ่มเติมในเกาหลีกับอัลบั้ม 2006 Winter SMTown – Snow Dream โดยได้ร้องอีกสองเพลงคือ “Snow Dream” ร่วมกับคนอื่นๆ และ 내가 그대 없이 (When We’ll Be Together) ส่วนโทโฮชินกิก็ออกซิงเกิ้ลที่ 8 ในญี่ปุ่นเป็น Double A-Side... Miss You /"O" Sei Han Go อัลบั้ม "O" กลายเป็นเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในเกาหลีของปี 2006 ด้วยยอดขาย  349,317 แผ่น (รวมถึงปัจจุบันเกิน 400,000 ไปแล้ว) และทำให้ดงบังชินกิกวาดรางวัลใหญ่อย่าง Artist of the Year จากรายการแจกรางวัลช่วงปลายปีทั้ง 4 สถาบัน จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:38:11

ความคิดเห็นที่ 43 หลังจากจบปี 2006 พวกเขาทิ้งชื่อเสียงในประเทศบ้านเกิดไปตั้งต้นสู้อีกรอบ ญี่ปุ่น...2007 หากจะบอกว่าช่วงเวลาไหนที่เห็นความแตกต่างระหว่างความสำเร็จของดงบังชินกิกับโทโฮชินกิมากที่สุดก็คงเป็นช่วงรอยต่อปลายปี 2006 กับต้นปี 2007 เพราะเป็นปีที่พวกเขาประสบความสำเร็จในเกาหลีมากๆ แต่เมื่อไปญี่ปุ่นก็เหมือนกับว่าทุกอย่างพลิกฝ่ามือ ความสำเร็จที่เกาหลีไม่ได้มีส่วนช่วยเรื่องงานที่ญี่ปุ่นเลย พวกเขายังคงต้องไปโปรโมทในเวทีเล็กๆ ใช้ไมค์สายร้องเพลง "O" ในภาษาญี่ปุ่น บ้างก็ต้องไปร้องตามห้างสรรพสินค้า แต่การไปอยู่ญี่ปุ่นในครั้งนี้กลับส่งผลดีเพราะทำให้พวกเขาได้ฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นจนสามารถใช้การได้ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะการร้องและการแสดงบนเวทีไปอีกขั้น ในปีนั้นพวกเขาออกผลงานภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดถึง 7 ซิงเกิ้ล (และมีซิงเกิ้ลที่ยอดขายเกิน 100,000 แผ่นเป็นครั้งแรก)/  1 อัลบั้มเต็ม (Five in the Black)/ 1 DVD ทัวร์คอนเสิร์ต Five in the Black ซึ่งจัดคอนเสิร์ตทั้งหมด 16 รอบ (5/10 5/12 5/13 5/16 5/18 5/19 5/23 5/27 5/29 5/31 6/2 6/3 6/15 6/16 6/18 6/19) จบท้ายที่บูโดกัน 2 รอบเต็มความจุ 14,000 ที่นั่ง คอนเสิร์ตครั้งนี้มีการร้องเพลงเกาหลีด้วย คือเพลง Whatever They Say เป็น Acappella สั้นๆซึ่งพวกเขาร้องหลังจากเต้นเพลง Rising Sun ไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน (ตอนต้นเป็นคลิป Acappella ที่ฉายในคอนเสิร์ตระหว่างช่วงรอยต่อเพลง มี My Little Princess ภาษาเกาหลีด้วย) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:43:20

ความคิดเห็นที่ 44 การทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้...เป็นที่ประทับใจของแฟนๆและตัวน้องๆทั้งห้าคนมาก เพราะตั้งแต่พวกเขาไปญี่ปุ่นครั้งแรกจนก่อนถึงคอนเสิร์ตที่บูโดกัน พวกเขาคิดตลอดว่า "ทำไมต้องมาญี่ปุ่นด้วย"  พวกเขาเคยพูดกันว่าอยากเลิกด้วยซ้ำ แต่ก็ได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดี และค่อยๆเดินไปทีละก้าวจนได้ขึ้นแสดงที่บูโดกันซึ่งพวกเขาร้องไปทีละเพลงจนถึงเพลงสุดท้ายด้วยความรู้สึกว่า "ลองดูอีกสักตั้งน่า....ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปได้ถึงแค่ไหน แต่พวกเราก็ไปกันให้สุดดีกว่า...เรามาช่วยกันทำให้ดีที่สุดกันเถอะ" ความรู้สึกนั้น เป็นที่มาของน้ำตาลูกผู้ชายในเพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ตนี้... Proud จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:44:25

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าหากพูดถึงงานที่เกี่ยวข้องกับเพลงเกาหลีในช่วงปี 2007 พวกเขาจัดทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชียครั้งที่ 2  TVXQ! The 2nd Asia Tour Concert "O" ซึ่งคงต้องเรียกว่าเป็นทัวร์ข้ามปี เพราะเริ่มจากโซล 3 รอบ วันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2007 ไต้หวัน 5-6 ตุลาคม และจัด Encore ที่โซลอีกครั้ง 26-28 ตุลาคม  ไทย 15-16 ธันวาคม มาเลเซีย ฮ่องกง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ช่วงปี 2008  (รู้สึกว่าจะจบวันที่สุดที่จีนวันที่ 23 มิถุนายน 2008 ทัวร์กันข้ามปีจริงๆ ^^") เกร็ดเพิ่งรู้: คอน Encore จะต่างจากในดีวีดีบันทึกการแสดงคือมีแขกรับเชิญเป็นหนุ่มๆจาก SJ และสาวๆ SNSD ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในช่วงนั้น แถมคอนเสิร์ตวันสุดท้ายแจจุงก็ตกเวทีอีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นช่วง Encore ที่โซล ยุนโฮได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ตอนซ้อม หมอนรองกระดูกร้าว หมอให้พัก 3-4 สัปดาห์ แต่กลับต้องฝืนมาขึ้นคอนเสิร์ต ซึ่งทำให้วันต่อมาต้องกะเผลกเดินทางไปญี่ปุ่น = =" แปะ Hey Girl จากคอนโอให้ดู เป็นเพลงที่ไม่มีอะไรมาก ใส่ชุดธรรมดานั่งร้องแล้วก็ไล่โน้ต improvise กันกระจัดกระจายทีเดียว แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 14:19:34 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 02:49:17 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:48:55

ความคิดเห็นที่ 46 งานอื่นๆในเกาหลีปีนั้นเป็นการการนำเพลงไปประกอบละครและ Featuring กับศิลปินในค่าย -เพลงประกอบละคร Goong ตอนต้นปี แต่เป็นเพลง Remember ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม "O" แล้ว - เพลงประกอบละคร Air City ซึ่งเป็นเพลงใหม่ 2 เพลงคือ 1. Harudal (Day Moon) http://www.youtube.com/watch?v=kQJI6bg37kQ  <<< สุดท้ายแล้วเพลงนี้กลายไปอยู่ในอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นแทน 2. All in Vain ซึ่งเป็นเพลงนี้เป็นแนวที่ดงบังชินกิไม่เคยทำมาก่อน ออกแนว Jazz-Rap-Chill Out หม่นๆ เสียงร้องนำในเพลงนี้ไม่ใช่จุนซูหรือแจจุงตามปกติแต่กลับกลายเป็นยูชอน - OST The Legend เพลง A Thousand Year Love Song - ช่วงปลายปี จุนซูทำงานเพลงร่วมกับ BOA Tablo และ Bora ในโปรเจคพิเศษเรียกว่า Anyband ซึ่งเป็นวงในโฆษณา Samsung Anycall ออกซิงเกิ้ลประกอบไปด้วยเพลง Talk, Play, Love, Promise You และ Day Dream - ธันวาคมร่วมร้อง 3 เพลงในอัลบั้ม 2007 Winter SMTown – Only Love 1. Only Love – SM Town 3. Evergreen 12. [Bonus Track] 여행기 (Yeohaenggi / Traveling) ขอแปะเพลง All in Vain แล้วกันนะคะ เพราะคิดว่าหลายๆคนอาจจะไม่เคยฟังหรือฟังแล้วไม่รู้ว่าเป็นเพลงของดงบังชินกิ เพราะฉีกไปจากแนวปกติจริงๆ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:50:39

ความคิดเห็นที่ 47 มาถึงปี 2008 เพลงแรกของปีที่ออกมาคือเพลง Purple Line ซึ่งโปรโมทที่ญี่ปุ่นก่อนเกาหลี แต่จริงๆแล้วขั้นตอนการผลิดแทบทุกอย่างของเพลงล้วนมาจากทางฝั่งเกาหลีทั้งสิ้น ตั้งแต่คนแต่งเพลง คนออกแบบท่าเต้น Producer อัดเสียง แม้แต่การถ่าย MV ก็ทำที่เกาหลี (เป็น MV ตัวแรกที่ถ่ายทั้งเวอร์ชั่นเกาหลีและญี่ปุ่นไปพร้อมๆกัน) และกลายเป็นเพลงแรกของโทโฮชินกิที่ได้ขึ้นอันดับ 1 Oricon Weekly Chart จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:52:23

ความคิดเห็นที่ 48   ขอปาดหน่อยค่ะ ตอนตีหนึ่งครึ่งจะไปนอนอยู่แล้วเชียว เจอทู้นี้ซะก่อน ยาวเลย กดคลิปดูไปหลายอันเลย เราไม่เคยดูมาก่อนคลิปชายปาร์คร้องเพลงไปกินขนมไป สามารถมากๆ ทำไปได้ 555 ในบรรดาเพลงช้าเกาหลีของน้องเราชอบ Tonight ที่สุด เพราะจริงๆเรารู้จักน้องตั้งกะออก Hug ได้ไม่นาน แต่ตอนนั้นยังไม่สนใจ คิดว่าคงขายหน้าตาแน่นอน ยันมาบังเอิญเพื่อนลากไปดูคอน Rising Sun พอร้องเพลงแรกเท่านั้น โอ้ ทำไมร้องเพลงเพราะขนาดนี้ ก็เลยชอบน้องๆมาตั้งแต่วันนั้น เพลงนี้เหมือนสงครามอย่างที่ว่ากันจริงๆค่ะ ชอบท่อนเสียงสูงของแจในเพลงนี้มาก เป็นเพลงที่ดูไลฟ์ แล้วต้องกลั้นหายใจไปด้วย แข่งกะน้องว่าใครจะหมดลมก่อนกัน แต่เราแพ้ทุกทีเลย คห.35 ตอนแจถ่ายเอ็มวีเพลงโอ มีแฟนตามนะคะ เยอะเชียวมีอยู่ 2-3 คน เลยได้ดูแจกันอย่างใกล้เลย และวันนั้นเพื่อนเราที่ไม่ได้ชอบ น้อง แค่รู้จักน้อง บังเอิญเดินข้ามสะพานลอยตรงเซ็นทรัลแล้วไปเจอผช.คนนึงทำผมสีทองบลอนด์กะทีมงานมาถ่ายทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ เพื่อนเราเดินผ่านไปยังเอามาเล่าให้เราฟังเลย ยันเพื่อนมาเห็นเอ็มวี เห็นสีผมแจเท่านั้นแหละ รู้แล้วว่าผช.คนนั้นเป็นใคร เราอิจฉามากๆ เห็นตารางออกซิ้งเกิ้ลติดๆกันแล้วสงสาร น้องเรางานเยอะจริงๆ เดินสายไปทั่ว รายการวาไรตี้ออกน้อยมาก แค่ร้องเพลงอย่างเดียวก็ ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว พรุ่งนี้จะมาอ่านใหม่นะคะคุณ gibt เป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ ติดตามๆ จากคุณ : LovelyJJ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:52:24

ความคิดเห็นที่ 49   ดงบังเป็นวงที่เราเห็นตอนเดบิวต์แล้วคิดว่าไม่น่าจะดังได้ แต่ผิดคาดมากๆ ช่วงนั้นก็เริ่มไม่ค่อยสนใจเกาหลีสักเท่าไหร่ แต่ก็รู้จัก ถือว่าเป็นวงที่ประสบความสำเร็จอย่างสุดยอดจริงๆ SM ทำดีมากๆ แต่มีเรื่องดีก็มีเรื่องเสีย คิดอยู่ว่าทำไม SM จึงปล่อยละเลย และใช้งานหนุ่มๆหนักเกินตัว จนต้องมีเรื่องฟ้องร้อง และคงกลับไปรวม 5 คนไม่ได้อย่างเดิม จากคุณ : stromedix เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:55:00

ความคิดเห็นที่ 50 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งห้าคนก็กลับมาโปรโมทเพลง Purple Line เป็นระยะสั้นๆ 2 อาทิตย์ ออกรายการเกมส์โชว์ต่างๆเช่น Happy Together และเริ่มทลายกำแพงภาพลักษณ์ของตัวเองลง เหมือนเป็นช่วงกลับมาลองกระแสตลาดเพลงที่เกาหลีก่อนจะเตรียมตัว Comeback โดยก่อนหน้าการกลับมาออกอ้ลบั้มที่เกาหลี พวกเขาทำงานในฐานะโทโฮชินกิด้วยการออกซิงเกิ้ลอีก 7 ซิงเกิ้ล, 1 อัลบั้ม, 1 ทัวร์คอนเสิร์ตในญี่ปุ่นซึ่งเปิดการแสดงทั้งหมด 19 รอบ คนดูรวม 150,000 คน เรียกได้ว่าเริ่มประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นระดับหนึ่งแล้ว ซิงเกิ้ลหลักๆขึ้นอันดับ 1 Oricon Weekly Chart ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะยอดขายไม่ได้สวยหรูมากนัก (บางซิงเกิ้ลต่ำกว่าแสน) แต่ก็นับว่าทำได้ไม่เลว อยากให้แฟนฝั่ง K-Pop ลองฟังเพลงญี่ปุ่นเพลงนี้ของโทโฮชินกิดูค่ะ เป็น 1 ในเพลงที่ติดอันดับหนึ่ง Oricon Weekly Chart เพลงนี้ทำให้หลายๆคนเปลี่ยนใจกลับมาชอบและยอมรับโทโฮชินกิ เนื่องจากการร้องและสำเนียงภาษาญี่ปุ่นที่พัฒนาไปมาก มีคนบอกว่าถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ว่าคนร้องไม่ใช่คนญี่ปุ่น どうして君を好きになってしまったんだろう？(Why Did I Fall in Love with You?) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:58:40

ความคิดเห็นที่ 51 มาแอบเสริมข้อมูลงานของดงบังช่วงปลายปี 2006 ที่เป็นช่วงที่เห็นความแตกต่าง ของความดังระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นของน้องอีกนิดนึงค่ะ ที่เกาหลี น้องออกอัลบั้ม 3  และเริ่มโปรโมทจากเพลง O  ในขณะที่หลังจากนั้นนิดเดียว ก็กลับไปโปรโมทซิงเกิ้ล miss you ที่ยี่ปุ่น  ต่อจากนั้นก็โปรโมทต่อในเพลงบอลลูนที่เกาหลี และเช่นเคยคือกลับไปมีซิงเกิ้ล step by step ที่ญี่ปุ่น อย่างที่เข้าใจกันดี ว่านักร้องเกาหลีช่วงโปรโมทเพลง  จะมีไลฟ์โชว์ทุกอาทิตย์ ไล่ไปตั้งแต่วันพฤหัสจนถึงวันอาทิตย์ ในระหว่างนั้นก็ไปอัดรายการวาไรตี้ต่างๆ ด้วย ซึ่งดงบังก็มีกิจกรรม และรายการเยอะมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ระหว่างสัปดาห์ก็ต้องบินไปทำงานที่ญี่ปุ่นด้วย ทั้งทำเพลง ถ่าย mv อัดเสียง ออกรายการเพลง (เป็นช่วงที่เริ่มได้ออกรายการเพลงเยอะขึ้น) และวาไรตี้ที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน ถือว่าปลายปี 2006  เป็นช่วงที่แม้ทงบังจะประสบความสำเร็จอย่างมาก คว้ารางวัลใหญ่ปลายปีได้เรียบทุกสถาบันจนเรียกติดปากว่าแกรนด์สแลม แต่ก็แลกมาด้วยความเหน็ดเหนี่อย และยากลำบาก แถมยังต้องปรับอารมณ์ไปมา ระหว่างอยู่ที่นึง โด่งดัง ยิ่งใหญ่ ใครๆ ก็ยอมรับ แต่ไปอีกที่นึง  ยังเป็นแค่นักร้องกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนึงที่ต้องฝ่าฟันเพื่อให้ได้การยอมรับจากผู้คนอยู่เลย ป.ล.  เผลอปล่อยไก่หมดเล้าที่บอกว่า รายการ happy together เป็นการไปออกช่วงโปรโมทบั้ม O   เบลอค่ะเบลอ   แต่ก็ยังยืนยันว่า ช่วงเปิดเผยตัวตนจริงๆ  และทำลายภาพลักษณ์ (เอ่อ  ต้องใช้คำนี้แหละ) ก็คือช่วงโปรโมทเพลง O  นี่แหละค่ะ ไล่เรียงรายการสุดฮา หาภาพลักษณ์ไม่เจอ เพราะทำลายเรียบไปตั้งแต่ x-man, school of rock, over the mountain, star king นี่แหละค่ะ  แค่นี้ก็รั่วกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว (ที่จริงมีหลายรายการมากๆ จำได้ว่าโหลดไม่ทันกันเลย  เพราะมีงาน 2 ประเทศนี่แหละ) ป.ล. 2  เพิ่มเติมอีกนิด  ช่วง purple line ที่กลับมาออกวาไรตี้ จะเป็นรายการ star show ค่ะ  ฮาหาภาพลักษณ์ไม่ค่อยเจอเช่นกัน รวมไปถึงเพลงและรายการเกมส์ต่างๆ ด้วยอีกนิดหน่อย (ตามแต่เวลาจะเอื้ออำนวย) แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 13:36:26 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 03:11:26 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 03:08:54 จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 03:03:05

ความคิดเห็นที่ 52 ขออนุญาตปิดท้ายช่วงแรกตรงนี้ก่อนนะคะ เตรียมตอนรับการกลับมาของดงบังชินกิกับ Mirotic และเรื่องราวอื่นๆจนถึงปัจจุบันตอนเช้าค่ะ (จริงๆคือจะหนีไปนอน ...และก็...ส่วนที่เหลือยังไม่ได้เขียนเลย >.<) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 03:13:43

ความคิดเห็นที่ 53 ชอบบอลลูนมากที่สุดแล้วครับของดงบัง  (เอ่อ...รองจากHUG นิดนึง) เห็นพัฒนาวงนี้มาเรื่อยๆจริง....แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับ เพลงไม่ใช่แนวเราเท่าไหร่... ปล. ชอบรายการที่ดงบังไปออกมากๆครับ (โดยเฉพาะ Happy Together) คือเป็นอะไรที่.....จะฮากันไปไหนเนี่ย!!! ขำตายไปเลยครับ ^^" โดยเฉพาะฉากในซาวน่า ฮาสุดๆ   http://www.youtube.com/watch?v=-ff1oPqbfrw เดี๋ยวมาตามอ่านต่อพรุ่งนี้นะครับ ^^" ปักไว้ก่อนว่าอ่านถึงนี่แล้ว.... แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 03:31:16 จากคุณ : oakey--->oak เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 03:28:00

ความคิดเห็นที่ 54   หลงรักน้องก็เพราะเพลงTonightนี่แหละ เสียงแจจุงกินใจไปเต็มๆ ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยชอบวงที่ขายหน้าตา ตอนสมัยนู้นนนแสดงความแก่ จะมองว่าบอยแบนด์คือวงที่ขายหน้าตา แต่ดงบังทำให้ทัศนคติเปลี่ยน คือแบบใช้แต่เสียงร้องแล้วปิดหน้าปิดปิดหน้าผากเถิกๆ ปากห้อยๆเอาไว้ฉันก็จะซื้อ ( ยูชอน-มันพูดถึงใคร) แบบว่าเข้าแนวเราเลย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวงไหนไม่ว่าจะวงหญิงหรือชายที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ได้ คือแบบเอาไปพูดให้ใครว่าฉันชองวงดงบังชินกินะ ไม่อายเลยไม่มีข้อเสียให้พูดถึงว่าเสียงแหวะ มีคนเสียงดีอย่คนสองคน ใช้หน้าตา ร้องสดห่วย ทุกวันนี้มันพิสูจน์ข้อสงสัยเหล่านี้ไปหมดแล้ว อ๊ายย ความรู้สึกเหมือนลูกสอบหมอติด เดี๋ยวจะมาอ่านต่อตอนตื่นนอนนะคะ จากคุณ : ตัวอ้วน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 04:15:31 A:110.164.242.79 X: TicketID:256963

ความคิดเห็นที่ 55   ขอบัตรผ่านเพื่อกระทู้นี้โดยเฉพาะ เราก็เป็นอีกคนที่พึ่งจะมาชื่นชอบดงบังชินกิ เริ่มชอบจากไลฟ์MKMF2008 ตอนนั้นตั้งใจดูวันเดอร์เกิร์ล(ตอนนั้นNobodyกำลังดัง) แต่ไปๆมาๆกลับสะดุดตากับหนุ่มๆห้าคนที่เต้นมั่วๆ(แต่ความจริงก็ไม่มั่่ว) รู้แค่ว่าเป็นดงบังชินกิ บอยแบนด์อันดับหนึ่ง(ซึ่งตอนแรกเราก็มีอคติบวกกับมองว่าบอยแบนด์อะไรทำไมหน้าตาได้แค่นี้ พอดูดีเป็นบางคน) ตอนนั้นรู้แค่ว่า...ห้าคนนี้เก๋าสนามจริงๆ เสน่ห์เกินหน้าวงบอยแบนด์อื่นๆในงาน ซึ่งความรู้สึกก็จบลงแค่นั้น จนกระทั่งได้มาดูคอนมิโรติกที่อิมแพ็คด้วยความบังเอิญ จากนั้นก็ดิ้นไม่หลุด ยิ่งได้ฟัง ได้เห็น ก็รักและเข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกที่เรียกตัวเองว่าแคสถึงรักและศรัทธากับผู้ชายห้าคนนี้ขนาดนี้ ก่อนหน้าที่จะรักดงบัง บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าผ่านการศึกษาบอยแบนด์ชื่อดังมามาก ทั้งจากญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน สากล รวมถึงบอยแบนด์อื่นๆในเกาหลี เราหลีกเลี่ยงที่จะทำความรู้จักกับดงบังด้วยซ้ำ ตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักวงนี้ เพราะเก่งจริง พยายามจริง และมีเส่นห์จริงๆ โดยเฉพาะการที่ไม่ยอมแพ้และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ไอดอล แต่เรามองว่าผู้ชายห้าคนนี้เป็นศิลปินจริงๆ เว่อเว้อมามาก เราอยากจะขอบคุณคุณgibtสำหรับกระทู้ดี ที่จริงเราติดตามกระทู้ดงบังในพันทิพมานานแล้ว แต่ไม่ได้มีโอกาสเม้นให้สักที รอครึ่งหลังอย่างใจจดใจจ่อนะคะ ถึงจะรู้ทุกๆอย่างอยู่แล้ว แต่เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหลักฐานการพัฒนาการของผู้ชายห้าคนนี้ จากคุณ : Tkcity เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 05:09:33 A:115.87.25.114 X: TicketID:267269

ความคิดเห็นที่ 56 ส่วนตัวเพิ่งติดตามวงนี้ได้ปีกว่าๆคะ แรกเริ่มเดิมที ไม่เคยจะสนใจอะไรเลยเกี่ยวกับเกาหลี โดยเฉพาะดงบังชินกิ รู้สึกอคติเล็กน้อย ดังกันจังเลยนะ หล่อตรงไหนเนี้ย? แต่พอดีช่วงต้นปี 2009 มีเพื่อนส่งซับนรกมาให้ดู เพลง mirotic เป็นซับที่ฮามาก ฟังหลายรอบจนกระทั้งเริ่มชอบดนตรีเพลงนี้ และก็เสียงคนร้อง ก็ร้องเพลงเพราะดี แต่ด้วยอคติอีก (เป็นคนที่มีอคติเยอะมาก) โดยส่วนตัวคิดว่า เสียงในซีดี เทคโนโลยีสามารถทำให้สมบูรณ์แบบได้ทุกอย่าง ก็เลยไม่ได้รู้สึกจะติดตามอะไร แต่แอบกรี๊ดน้องมิน น้องมินหล่อมากกกกกกกกก แต่พอได้ดู live อันหนึ่ง ถึงกับอึ้งเลย เออ ร้องสดก็เพราะ เพราะกว่าในซีดีอีก จากนั้นก็ตามดู live ของศิลปินกลุ่มนี้คะ พวกเค้าเทพจริงๆนะเนี้ยแล้วก็รักวงนี้วงเดียวเลยคะ หายากมากที่จะมีศิลปินที่สามารถทำลายอคติของเราได้ 555555+ ส่วน live ที่ดูก็ดู liveนี้ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=s2LXZLZYEYI ดูทุกเพลง แต่แปะเพลงทีทำให้ตัวเองอึ้งคะ ปอลอ  ตอนยังไม่ติดตามวงนี้ ชอบเล่นเกม SDO ที่มีเพลง I Believe เป็นเพลงเปิดหน้าแรกของเกมส์ แอบหลงรักเสียงที่พูดๆก่อนจะร้องเป็นเพลง โดยไม่รู้ว่า นี้เพลงของใคร เสียงของใคร พอเริ่มติดตามก็ทำให้อึ้งอีก คือเพลงที่อยู่ในเกมส์ที่เราชอบ วงนี้ร้องไว้ซ่ะเยอะเชียว (แอบติดตามผลงานโดยไม่รู้ตัว 5555+)   ปอลอลอ เดี๋ยวจะรอมาแจกกิ๊ปต่อนะคะ เต็มใจให้เสมอคะ ^O^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 07:43:01 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 07:30:23 จากคุณ : ตาปอ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 07:27:50

ความคิดเห็นที่ 57 แจกกีบกันไม่หวาดไม่ไหวเลยค่ะ ถูกใจกระทู้มาก อยากโหวตให้เป็นกระทู้แนะนำ แต่กลัวโดนหมั่นไส้อีก หุ หุ เริ่มชอบมาตั้งแต่คอน O ที่ไทย ตอนนี้ ยังชอบอยู่ อนาคต คิดว่าชอบเหมือนเดิม ถึงแม้อาจจะมีวงใหม่ ๆ มาให้ได้กรี๊ดกร๊าดกัน แต่ก็ยังไม่ลืมพวกเค้าอยู่ดี ไม่เคยคิดจะดูวงบอยแบนด์เกาหลีเลย จนมาเจอทงบังฯ ไม่เคยคิดว่า หลังจากคอนที่ตามหลานไปดูแล้ว กลับมาตัวเองจะบ้ายิ่งกว่าหลาน ไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะมีซีดีทงบัง/โทโฮฯ ในครอบครองจนครบทุกซิงเกิ้ล ทุกอัลบั้มได้ขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่า จะไปประเทศที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเค้า เพื่อไปหอบหิ้วโฟโต้บุ๊คกลับประเทศตัวเอง ทั้ง ๆ ที่มันแพงกว่าซื้อที่เมืองไทย ไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะต้องตื่นแต่เช้า ไปเข้าแถวเพื่อสมัครสมาชิกเพื่อที่จะได้สิทธิในการจองบัตรเป็นวันแรก และไม่เคยคิดว่าต้องตื่นแต่เช้า ไปที่ทำงาน เพื่อเช็คเน็ตว่าใช้ได้หรือเปล่า เพื่อตั้งตารอคอยกดจองบัตรเป็นวินาทีแรก และประสบความสำเร็จกับการได้นั่งแถวแรกของบัตรราคาแพงสุด ขอบคุณหนุ่ม ๆ ทั้ง 5 ที่ทำให้ฉัน ได้มีวันเวลา มีความรู้สึกที่ดีกับพวกเค้า โดยเฉพาะคอนมิโรติค ประทับใจมาก ๆ เป็นอะไรที่ต้องฝ่าฝัน กว่าจะได้ดูผู้ชายทั้ง 5 ชัด ๆ ขนาดนั้น และเป็นน้ำหูน้ำตาตอนเพลง don't say goodbye หลังจากคอนจบ งื๊ด งื๊ด เวิ่นเว้อพอแระ ไปดีกว่า จากคุณ : English Coffee Latte เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 07:56:52

ความคิดเห็นที่ 58 อา...กระทู้นี้ อ่านไปเม้นท์ไปนะ ให้กีบตามแต่อารมณ์ด้วย ทั้งที่จริงอยากให้ทุกคห.เลย แต่เดี๋ยวกีบหมด >.< ขอบคุณบิ๊กมากๆ นะ ที่อุตส่าห์ไปหาข้อมูลมาเขียน เรารู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะเขียนได้ขนาดนี้ พูดถึงตัวเองกับวงนี้เป็นอะไรที่ตลกมาก เพราะที่จริงชีวิตก็วนๆ เวียนๆ อยู่ในวงการเพลงเอเชีย ก่อนที่จะหายไปพักนึง..ราวๆ ปี 4-5 ก่อน..ซึ่งเป็นช่วงดงบังเดบิวท์แรกๆ พอดี แต่ในที่สุดโชคชะตาก็พัดพาเราให้มารู้จักกันจนได้...เมื่อปีที่แล้ว ไม่รู้อะไรดลใจทำให้อยู่ๆ ก็คิดจะไปดูคอนเสิร์ตมิโรติกที่กรุงเทพ ทั้งที่รู้จักวงนี้แค่ชื่อวง (รู้แค่สองชื่อด้วย TVXQ! และดงบังชินกิ), มิกกี้ยูชอน, แจจุง(เพราะพี่สาวที่สนิทปลาบปลื้มสองคนนี้เป็นพิเศษ) และเพลง Rising Sun พอซื้อบัตรแล้วค่อยมารู้เพิ่มทีหลังว่าเพลง Purple Line ก็ของวงนี้นะ...แล้วอาการก็เป็นอย่างที่เห็น ตกหลุมเด็กห้าคนจนขึ้นไม่ได้ >.< เรื่องชื่อวงกับชื่อของห้าคนเนี่ย...สมัยก่อนวงของศิลปินเกาหลีมักจะมีชื่อเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษ คนที่ดูผ่านๆ แบบเรายังรู้จัก H.O.T., G.O.D, Baby V.O.X., JTL ฯลฯ (ตอนนั้นยังคิดในใจเลยว่าทำไมมีแต่ชื่อย่อแบบนี้กันเนี่ย ^^) หลังจากตกหลุมทงบังแล้ว เคยไปย้อนเปิดนิตยสารดาราเก่าๆ ดูเหมือนกัน ช่วงแรกๆ นี่ผู้คนมึนกับชื่อวงมากจริงๆ  มีนิตยสารเกี่ยวกับดาราเอเชียในไทยเล่มนึงตอนลงสกู๊ปของทงบังฯ เค้ายังวงเล็บบ่นนิดๆ เลยว่าไม่รู้จะเรียกชื่อไหนกันแน่ แถมที่ตลก คือ ตอนแรกมีคนเข้าใจว่า TVXQ กับ DBSG/DBSK เป็นคนละวงกันด้วยซ้ำ บางทีก็เรียกชื่อสมาชิกสองภาษาสลับกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเรียก Xiah, Micky, Hero, Max และ U-Know ซะมากกว่า ส่วนตัวเอง..ถ้าพูดถึงผลงานน้องก็จะเรียกชื่อตามภาษาที่ใช้ร้อง(ทงบังชินกิ/โทโฮชินกิ) แต่ถ้าพูดถึงโดยทั่วไปก็เล่นง่ายเรียกว่า TVXQ! เลยละกัน เรื่องหน้าตา...เห็นด้วยเหมือนกัน สารภาพว่าเพราะพี่สาวปลาบปลื้มมิกกี้มากกกก ด้วยความสงสัยก็เลยแอบไปหารูปดูแล้วก็...นี่นะเหรอดงบังชินกิ (แหะๆ ^^") แต่หลังจากที่ได้เจอตัวจริงแล้วรู้สึกว่าน้องๆ แต่ละคนหน้าตาดีและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองมาก ยิ่งมิกกี้เนี่ย...ทำเอาเค้ากรีดร้องรู้สึกผิดเสมอเลยที่เคยคิดแบบนั้นไป >.< เรื่องร้องสด...เราว่าน้องมันร้องสดดีมากโดยเฉพาะระยะหลัง ช่วงแรกยังมีดีบ้างไม่ดีบ้างไปตามเรื่อง แต่ช่วงหลังดีจนบางทีเราแอบคิดว่าเป็นแผนป่ะเนี่ย ร้องใน Studio Version แบบนึงแล้วมาใส่เต็มที่กันตอนร้องสดป่ะเนี่ย 555...ที่จริงคิดว่าเป็นเรื่องของอารมณ์เพลงมากกว่า โดยเฉพาะเพลงช้า จะเห็นได้ชัดเลยว่าเวอร์ชั่นไลฟ์ น้องจะร้องต่างจากในซีดีหลายเพลงเลยทีเดียว ตัวเองก็ไม่ต่างจากบิ๊กเท่าไหร่ เพราะรู้จักน้องจริงจังจากมิโรติก แล้วทีนี้พอไล่ไปตามดูไลฟ์เก่าๆ มีหลายเพลงที่แอบขัดใจ ดูไปด่าน้องไปว่าทำไมร้องแย่งี้ ที่จริงน้องไม่ได้ร้องแย่มากอะไร แต่เราเองดันเอามาตรฐานน้องในปี 2009 ไปเทียบกับตัวน้องใน 2005-2006 (มีใครที่ไหนเค้าทำแบบดิฉันกันเนี่ย ^^") อันที่จริงไลฟ์ช่วงแรกๆ ที่ดีๆ ก็มีเยอะมากด้วย เหมือนว่าตอนนั้นน้องยังไม่เจนเวทีเท่าตอนนี้มากกว่า มาตรฐานเลยแกว่งขึ้นๆ ลงๆ บ้าง แต่เราก็ถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงมากอยู่ดี ทั้งร้อง ทั้งเต้นได้ขนาดนี้นี่เก่งมากแล้ว สำหรับเราห้าคนนี้ถึงจะดึงคนที่ทักษะด้านเต้น/ร้องที่อ่อนสุดออกมาดูโดยไม่เปรียบเทียบกับเพื่อนในวง คนคนนั้นก็ทำได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากอยู่ดีค่ะ ---- การเอาเพลง HUG มาเป็นเพลงเปิดตัวของวงนี้ ตรงจุดนี้ขอชื่นชม SM และทีมโปรดิวเซอร์จริงๆ เพราะเพลงนี้ที่ฟังดูสบายๆ น่ารัก แต่ที่จริงเป็นเพลงที่สามารถโชว์ทักษะได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการประสานเสียง หรือการเต้น แถมยังเอามาทำเป็นเวอร์ชั่นมันส์ๆ แบบ rock version ในคอนเสิร์ตมิโรติกได้ด้วย สารพัดประโยชน์จริงๆ เพลงนี้ ลองดู HUG Rock version ในคอนมิโรติกได้ที่ลิ้งนี้นะคะ http://www.youtube.com/watch?v=Z2ebnsLQTtM โอ๊ยยย..ฮาอันนี้ไม่ไหวแล้ว คิดได้ไงเนี่ย กร๊ากกก "มาชม MV  Pirates in Prague,  ซุปเปอร์ไซย่ากลางสนามหลวง+ห้าแยกลาดพร้าว, Lost in Shibuya & Seoul กันค่ะ" ตอนที่มาถ่าย MV 'O' ดูเหมือนแฟนๆ จะรู้กันไม่เยอะด้วยมั้ง เคยมีคนเล่าให้ฟังว่าตามไปที่สนามหลวง แต่ทันเห็นท้ายรถของแจจุง ^^" อัลบั้มโอเป็นอัลบั้มที่ชอบมาก นอกจากเพลงดีๆ หลายเพลงในอัลบั้มแล้ว อีกอย่างที่ชอบก็เพราะเพลงโปรโมทสองเพลงอารมณ์ต่างกันสุดขีด ทีแรกไม่ค่อยชอบเพลงโอเท่าไหร่ด้วย ฟังแล้วรู้สึกว่ามันโวยวาย แต่หลังๆ ยิ่งฟังยิ่งชอบแฮะ งงตัวเองเหมือนกัน (ฮาาาา) ส่วน Balloon ชอบเพลงนี้มากกกกกกก ฟังครั้งแรกในคอนมิโรติกที่ทำดนตรีเป็น bossanova แล้วค่อยมาพบทีหลังว่าเพลงนี้น้องแบ๊วกันจริงจัง MV เพลงนี้เป็น MV ของน้องที่เค้าดูบ่อยที่สุดแล้ว....น่ารักกันเกินไป >< พูดถึงเพลง Proud ที่บูโดกัน นี่เป็นไลฟ์แรกๆ หลังจากตกหลุมเด็กแล้วมีคนส่งมาให้ดู ถ้าใครเสียน้ำตากับคลิปในคห.44 แล้วขอให้มาต่อที่คลิปนี้ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=LGGnU3dG274 ดูสองคลิปต่อกันจะได้อารมณ์มากกกกก กระชากอารมณ์กันสุดๆ ส่วนคลิปที่แปะนี้...ภูมิใจนำเสนอมาก ชอบไลฟ์นี้สุดๆ นอกจากแจจุงกับน้องมินจะร้องกันสุดมันแล้ว คอรัสที่เต้นดุ๊กดิ๊กๆ ข้างหลังก็น่ารักมากๆ ด้วยค่ะ >.< แก้คำผิดและเพิ่มเติมนิดหน่อย Changmin & Jaejoong (DBSK) - It's Raining Men แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 09:04:28 จากคุณ : AlwaysSmiles เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:03:15

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณน้องบิ๊กสำหรับกระทู้ดีๆเกียวกับ TVXQ นะคะ . . . รู้สึกดีกับทุกความเห็นเลยค่ะ ขณะที่อ่านอยู่นี้ก้อฟังเพลง Love in the ice อยู่ อาจจะมีคนเคยบอกว่า นักร้องเกาหลีถนัดลิปซิงค์ แต่เราเชื่อว่า มาตรฐานร้องสดๆของนักร้องก้อดีไม่แพ้กัน อย่างเพลงนี้...ส่วนตัวคิดว่า น้องร้องสดได้เพราะกว่า CD อีกนะ มันมีทั้งจิตวิญญาณและความรู้สึกในทุกท่วงทำนอง เคยฟังน้องร้องเพลงนี้สดๆครั้งแรก ในสเตเดี้ยมที่ใหญ่มาก ทึ่งมากๆ....รู้สึกเป็นเหมือน achieve อะไรบางอย่างที่ว่า ได้ฟัง ทงบังชินกิ ร้องเพลงที่เพราะที่สุดกับหูตัวเอง . . (แต่เด็กๆก็ร้องเพลงเพราะขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าจะชอบเพลงไหนมากกว่ากันดี งั้นขอนำเสนอเพลงที่ฟังอยู่ขณะนี้ก้อแล้วกัน ^^ ชอบทั้งแบบเกาหลีและญี่ปุ่น) จากคุณ : you make my soul blossom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:47:59

ความคิดเห็นที่ 60 แบบเกาหลีบ้างค่ะ . . ไม่มีใครยอมใครจริงๆ จากคุณ : you make my soul blossom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:51:02

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นว่าเกรงใจที่จะโหวตกัน เพราะกลัวคนจะหมั่นไส้ คืออยากบอกอ่ะค่ะ ว่าถ้าคิดว่ากระทู้ดี มีสาระ และอยากแนะนำให้คนอ่าน ก็โหวตไปเลย อย่าได้แคร์ค่ะ  กระทู้ดงบังใช่จะมีบ่อยให้รกตาซะที่ไหน และเค้ามั่นใจว่ากระทู้นี้มีดีเพียงพอที่จะขึ้นแนะนำค่ะ (ลองใครมาด่าดิ๊ อิป้าคนเน้จะพลีชีพซัดกลับ (แบบละมุนละม่อม 55) ให้เอง) ป.ล.  ขอโทษค่ะ ลืมชิดขวากะเปลี่ยนสีอ่ะ  ฮื่ออออออออ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 10:14:36 จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:59:35

ความคิดเห็นที่ 62 ชอบดูและฟังไลฟ์ของน้องๆ . . (แต่แบบว่า แอบชอบแนว TOHO มากกว่า DBSK นิดหน่อย) มีเพื่อนที่เรียนหนังสือที่ญี่ปุ่นเป็นสิบปี เค้าฟังเพลงน้องในอัลบั้ม Heart, Mind and Soul (2006) ครั้งแรก เค้าไม่นึกว่าคนร้องเป็นชาวต่างชาติ เค้าบอกว่า น้องออกเสียงได้ดีได้ตั้งแต่นั้นแล้ว . . อันนี้เป็นไลฟ์ที่น่าสนใจมาก เพลงโปรดเพลงนึงของพี่คะน้องบิ๊ก ปะทะ รุ่นใหญ่ อาจจะโดนรุ่นใหญ่ขโมยซีนเล็กน้อย แต่....ก้อเป็นประสบการณ์ที่ดีของน้องๆ ที่จะได้เรียนรู้เพื่อเติบโตในญี่ปุ่นนะคะ จากคุณ : you make my soul blossom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:06:32

ความคิดเห็นที่ 63 ตามมาอ่านค่า : ) ถึงคิวของหนุ่มๆทงบังชินกิกับเค้าสักที 55 5 ส่วนตัวตามงานของ 5 คนนี้มาไม่นานเท่าไหร่ค่ะ ซัก 2 ปีกว่าได้เอง เพราะตอนแรกเป็นคนไม่ฟังเพลงสายอื่นเลย นอกจากเพลงไทย เพราะมีนักร้องไทย ที่ออกแนวคลั่งมากอยู่แล้วคนนึง (ฮา ...) เพิ่งมารู้จักทั้ง 5 คน ก็ตอนช่วงหลังออกซิงเกิ้ล Lovin'you มาระยะนึงแล้ว เพื่อนบังเอิญเปิดให้ฟัง แล้วก็ชอบมากๆตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา : ) ส่วนตัวเป็นเหมือนคนอื่นๆค่ะ เคยคิดเหมือนกันว่าวงนี้มันจะมีดีกว่าหน้าตาเหรอ ? ซึ่งหลังจากที่ติดตามผลงานมาระยะหนึ่ง มันก็พิสูจน์ได้เรียบร้อยแล้วว่า ของเค้าดีจริงจัง >< ซึ่งตอนนั้นเพื่อนบอกหล่อ ไอ่เราก็ เอ๊ะ ! มันก็งั้นๆแหละ ไม่ถึงขั้นเทพบุตรอะไรหรอก ! แต่ตอนนี้ก็ยังคิดแบบนี้อยู่นะคะ 5 คนไม่ได้หล่ออะไรมากมาย แค่หน้าตาดูได้แค่นั้นเอง อ่า ส่วนตัวเพิ่งมาตามซื้่อ CD Album/Single เก็บจริงจังในช่วงปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนแรกไม่ตั้งใจจะเก็บ Single ครบทุกแผ่น เพราะมันเยอะ เลยบอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวจะซื้อแค่อัลบั้มแบบ Repackage Version ให้ครบอย่างเดียวแล้วกัน แต่ไปๆมาๆ ใช้เวลาแค่้ประมาณ 6 เดือน ซิงเกิ้ลกว่า 40 แผ่น กับ อัลบั้มทุกเวอร์ชั่น ก็เข้ามาเรียงอย่างเป็นระเบียบในตู้เก็บ CD ของเรา ... อ้าว =______= 555 5 ส่วนตัวยังรู้สึกเสียดายนิดๆหน่อย ที่ตอนคอนเสิร์ต MIROTIC รายจ่ายมาเยอะมากๆ เลยได้ดูบัตร 800 บาทแค่รอบเดียว ถึงตอนเพลง Tonight จะิได้วิ่งลงไปดูหน้าจุนซูเต็มๆก็เห่อะ แล้วสุดท้ายก็นั่งพร่ำเรื่องของตัวเอง กับ ทงบังชินกิ ซะอย่างงั้นอ่ะเน้อ ! 55 5 เตรียมรออ่านกระทู้นี้แบบครึ่งหลังนะคะ ผลงานของ 5 คนนี้เยอะจริงจัง แบบเก็บกันไม่หมดเลยทีเดียว จากคุณ : รี่ (groofy1620) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:19:49

ความคิดเห็นที่ 64 จะว่าไม่หลงรูปด้วยก้อดูจะเป็นการโกหกนะคะ เพราะ...ในระยะประชิดแบบแค่เคือบ มันประจักษ์แก่สายว่า พวกเค้าหน้าตาดีเกินธรรมดาจริงๆ ... บางคนเหมือนเทพบุตรกรีก บางคนเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนและโลกจินตนาการ และ ที่เหมือนคน ก็เป็นคนที่ดูดีเกินคนปรกติมาก.... . . แต่ความสามารถของพวกเค้าทำให้เราต้องติดตามและติดงอมแงม ^^ ดูเหมือนเด็กๆเป็นทั้งนักร้อง dancer และ entertainer ในเวลาเดียวกัน และนี่ก้อเป็นอีกส่วนหนึ่งของไลฟ์ที่น่าจดจำ 2009: Tohoshinki 4th Live Tour 2009: The Secret Code จากคุณ : you make my soul blossom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:26:05

ความคิดเห็นที่ 65   ไม่ว่าวงนี้จะเป็นยังไง ก็จะเป็นกำลังใจให้ดงบังชินกิตลอดไป ไม่ทิ้งกันแน่นอน คุณ จขกท ได้ดูหนัง Dating on the earth รึยังคะ ดูเรื่องนี้แล้วอยากให้กลับมารวมกันอีกครั้งเลย คิดถึง จากคุณ : แทยอน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:46:04

ความคิดเห็นที่ 66 น้องบิ๊กคะ พี่รออยู่ รีบๆตื่นมาเขียน ^^ . . คือแบบว่า ก้อมีศิลปิน นักร้อง วงดนตรี ที่เราชื่นชมมีอีกมากมาย ชอบไปดูคอนเสิร์ทด้วย ไม่ว่าจะที่โน่นที่นี่ ดูไกลๆ เสพดนตรีและงานของเค้าก้อมีความสุขแล้ว แต่ไม่รู้เป็นอะไร พอมีคอนเสิร์ทของวงนี้ ต้องตระเกียกตระกายไปดูให้ใกล้ ใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ เพราะนอกจากจะอยากฟังเค้าร้องเพลงเพราะๆแล้ว ต้องอยากเห็นหน้าชัดๆ...เพราะว่า ... น้องๆตัวเป็นๆหล่อละลานตามั่กๆ 555+ The Look that Counts! จากคุณ : you make my soul blossom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:46:03

ความคิดเห็นที่ 67 อ่า เมื่อคืนเน็ตเน่าขั้นรุนแรงเลยไม่ได้มาแจมด้วยเลย ส่วนตัวนอกจากจะชอบที่น้องๆ ร้องสดแล้ว เรายังชอบเวลาร้องไป ร้องร่วมกับศลปท่านอื่นๆ ด้วย คือ ยังคงร้องดี ประสานดี และที่สำคัญไม่ขโมยซีน เพลงนึงที่ติดใจมากคือ นาฬิกาเรือนเก่าของคุณปู่ (จะไปแปลชื่อเพลงเค้าทำไมเนี่ย ) เพลง My Grandfather's Clock - TVXQ Feat. กับหนูน้อย Nozomi Ohashi เพลงสั้นๆ แต่ทำไมชอบจังไม่รู้ ＞＜ เลือกงานล่าสุดมาฝากนะคะ ชอบมากเหมือนกัน Tohoshinki feat. Hideaki Tokunaga - Rainy Blue (FNS 2009) แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 10:11:37 จากคุณ : yessir เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:11:08

ความคิดเห็นที่ 68 ตื่นมาเขียนต่อเถอะค่า....รออ่านต่ออยู่นะคะ ปล. ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึง เราดูทูไนท์เวอร์คอนมิโรติกแล้วน้ำตาร่วงเลย งื้อ....โฮ...... อยากเจออีกจัง อยากฟังเสียงประสานเพราะๆ จากคุณ : khanun-ka เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:25:46

ความคิดเห็นที่ 69 ตื่นมาเขียนต่อเถอะค่า....รออ่านต่ออยู่นะคะ ปล. ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึง เราดูทูไนท์เวอร์คอนมิโรติกแล้วน้ำตาร่วงเลย งื้อ....โฮ...... อยากเจออีกจัง อยากฟังเสียงประสานเพราะๆ จากคุณ : khanun-ka เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:26:03

ความคิดเห็นที่ 70 มาต่อแล้วค่ะ... 2008 การกลับมาของเทพเจ้าแห่งโลกตะวันออก            เขียนให้ดูเว่อร์มากขึ้นไปอีก อัลบั้มที่ 4 ของดงบังชินกิ ถือเป็นการกลับมาออกผลงานที่เกาหลีซึ่งแฟนๆเกาหลีตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่สุด เพราะพวกเขาไปปักหลักออกงานที่ญี่ปุ่นอยู่นานถึง 1 ปี 7 เดือน (จริงๆน่าจะเป็น 9 เดือนมากกว่า) นับตั้งแต่ปลายปี 2007 ตอนแรกอัลบั้มนี้กำหนดวางแผงวันที่ 24 กันยายน แต่เนื่องจากยอดจองที่สูงถึง 300,000 แผ่น ทำให้ผลิดไม่ทันจนต้องเลื่อนวางแผงไปเป็นวันที่ 26 กันยายน ซึ่งออกมาก็สามารถขายได้ 307,974 แผ่นในทันที และพอถึงต้นเดือนมกราคมก็ทำสถิติขายได้ถึง 500,000 แผ่น โดยเป็นอัลบั้มแรกในรอบ 6 ปีที่ยอดขายเกินห้าแสนเลยทีเดียว อัลบั้มนี้ใช้ชื่อว่า Mirotic ซึ่งเกิดจากคำว่า Miro ซึ่งแปลว่าเขาวงกตผสมกับ -tic ให้กลายเป็น adjective  หมายความว่าถ้าคุณฟังเพลงของพวกเขาแล้วจะติดอยู่ในเขาวงกตที่พวกเขาสร้างขึ้น ไม่สามารถหลุดออกไปไหนได้ << คนคิดก็ช่างคิดได้เนอะ >> Tracklist 1. 주문-Mirotic 2. Wrong Number 3. 노을..바라보다 (Picture of You) 4. Crazy Love 5. Hey! (Don’t Bring Me Down) 6. 넌 나의 노래 (You’re My Melody) 7. 무지개 (Rainbow) 8. 낙원 (Paradise) 9. 악녀 (Are You a Good Girl?) 10. Flower Lady 11. 잊혀진계절 (Forgotten Season) * 12. Love in the Ice (Korean Version)* 13. 사랑아 울지마 (Don't Cry My Lover)** 14. 소원 (Wish)** 15. 사랑 안녕 사랑 (Love Bye Love)** 16. Don’t Say Goodbye ** (*) ไม่รวมในเวอร์ชั่น B (**) อยู่ในเวอร์ชั่น C เท่าน้้น อัลบั้มนี้สมาชิกในวงได้มีส่วนร่วมกับการทำเพลงมากขึ้น โดยจุนซูได้แต่เนื้อเพลง Picture of You เช่นเดียวกับชางมินที่ได้แต่งเนื้อเพลง Love in the Ice ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขานำเพลงต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นมาแปลงเป็นเกาหลี  ยุนโฮแต่งท่อนแรพของ Wrong Number ร่วมกับแจจุง  ซึ่งแต่งทำนองและเนื้อร้องเพลง Don't Cry my Lover ด้วย ส่วนยูชอนแต่งทำนอง เนื้อร้อง รวมไปถึงเรียบเรียงเพลง Love Bye Love เหมือนกับว่าเป็นธรรมเนียมว่าช่วงโปรโมทอัลบั้มใหม่พวกเขาจะจัดงาน Mini-Concert กึ่ง Showcase เปิดตัวกับแฟนๆก่อนหน้าวางแผงจริง (คราวนี้ย้ายมาจัดหน้าศาลากลางโซลค่ะ ลองฟังกันดูว่าเสียงพัฒนาขึ้นไปถึงไหน แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 10:34:01 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:33:19

ความคิดเห็นที่ 71 ขอแปะอีกเพลงจากอัลบั้ม Mirotic ในงานเดียวกัน...You're My Melody ซึ่งตอนแรกเราไม่ชอบเพลงนี้ในอัลบั้มค่ะ เรียกว่าเป็นเพลงที่เปิดฟังผ่านๆ แต่พอมาฟังเวอร์ชั่นร้องสด แทบจะกลับตัวกลับใจไม่ทัน เสียงใสกว่าในอัลบั้ม มีพลังขึ้นมากันทุกคน แอบฮาว่ามีคนเขียนคอมเมนต์ในยูทูปว่าบางทีเค้าก็สงสัยว่านี่คือร้องสดจริงๆหรือ ^^" เพลงนี้ทำให้เรานึกถึงคำพูดคุณพี่คนหนึ่งว่า...CD ดงบัง/โทโฮ ช่วงหลังๆซื้อมาเก็บขึ้นหิ้ง สุดท้ายแล้วก็ไป rip mp3 จากการแสดงสดมานั่งฟังแทนซะงั้น แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 10:41:57 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:40:25

ความคิดเห็นที่ 72 กลับมาพูดถึง Concept ของอัลบั้มนี้นิดนึง อัลบั้มนี้พวกเขาเน้นภาพลักษณ์เซกซี่ ให้กลิ่นการเติบโตเป็นผู้ชายเต็มตัว แต่ละคนฟิตร่างกายมาเป็นอย่างดี แถมโชว์มันทุกเวที หัวข้อที่ฮือฮาอีกอย่างในอัลบั้มนี้คือทรงผมของมิกกี้ ยูชอน ที่มีคนตั้งชื่อทรงผมให้หลากหลายมาก ทั้งทรงสแควรูท บ้างก็ว่าเป็นหน้าต่าง เป็นผ้าม่าน เปิดปิดได้ด้วยนะเออ...ทรงนี้ไม่ใช่ยูชอนตัดไม่ได้เลยทีเดียว แต่เหมือนว่าจะกลายเป็นผู้นำแฟชั่นทรงผมประหลาดไปกลายๆ เพราะเห็นว่าดารานักร้องหลายคนสนใจจะตัดทรงคล้ายๆกัน จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:45:18

ความคิดเห็นที่ 73 Mirotic เป็นเพลงหนึ่งที่ทำให้เกิดข้อขัดแย้งอย่างมาก เริ่มจากการที่ SM ไปซื้อลิขสิทธิ์ทำนองเพลงจากผู้แต่ง ซึ่งขายลิขสิทธิ์ในยุโรปและอเมริกาให้กับนักร้องสาว Sarah Conner และขายลิขสิทธิ์ในเอเชียให้กับดงบังชินกิ ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าดงบังชินกิไปลอกงานเขามาหรือเปล่า ทั้งที่จริงแล้วเพลงนี้ดงบังชินกิอัดเสียงก่อน Sarah Conner เป็นเดือน แถม Sarah เพิ่งมาเพิ่มท่อนแร็พเข้าไปหลังจากฟังเวอร์ชั่นดงบังชินกิต่างหาก หลังจากโปรโมทเพลง Mirotic ไปเป็นเดือนแล้ว Korean Commission of Youth Protection  ก็ประกาศว่าเพลงนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสมเพราะมีส่วนที่หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ O_o  และอัลบั้มก็ถูกแปะสติกเกอร์ว่าไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี รวมไปถึงการแสดงเพลงนี้จะต้องทำหลัง 4 ทุ่มเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงจำต้องเปลี่ยนจาก Under My Skin เป็น Under My Sky ซึ่ง...มันไม่ใช่เลย = =" ลองฟัง Mirotic version Under My Sky ดูค่ะ จากงาน Golden Disk Award  (เป็นโชว์ Are You A Good Girl? + Mirotic นะคะ) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:51:34

ความคิดเห็นที่ 74 *ขออภัย ปาดซะยาวเลยค่ะ T_T ลืมรีเฟรช ตอนที่เปิดกระทู้เข้ามาอ่านและพิมพ์ตอบ คุณ gibt ยังไม่ได้มาโพสต์ต่ออ่ะ* --------------------------------- มาดูผู้ร่วมชะตากรรมค่ะ เพราะสุดที่รักของเราคือ BoA ที่มีงานเพลงมากมายพอๆ กัน อัลบั้มเกาหลีก็เยอะกว่า  อัลบั้มญี่ปุ่นก็เยอะกว่า  จะมีน้อยกว่าบ้างก็คือพวกซิงเกิ้ลอย่างเดียว ㅜㅜ อิอิ (แอบอึ้ง คุณ gibt เขียนเร็วจริงๆ   ข้าน้อยไม่สามารถ  ....ส่วนนึงเพราะความจำสั้นค่ะ) ขอไปเรียบเรียงข้อมูลและรวบรวมคลิป  อีกเกือบๆ 3 เดือนค่อยโพสต์ ---------- เราได้ดู 5 หนุ่มตั้งแต่พวกเค้าเดบิววันแรก เพราะว่ามีโบอาไปร้องด้วย แต่พอดีไม่ใช่แนวที่ปลื้ม ก็เลยแ่ค่ดูและรู้จักอย่่างห่างๆ ห่างมาก (ส่วนตัวแล้วชอบเพลงเร็วของชินฮวากับ H.O.T บางเพลง แต่เพลงช้านี่ไม่ีค่อยชอบฟังเลย) ตอนนั้นชอบแค่คนเดียวคือ ชางมิน เห็นแล้วรู้สึกถูกชะตา แล้วก็รู้สึกว่า แจจุงหน้าคล้ายคังทาตอนยังเอ๊าะ ยังกับเป็นพี่น้องแท้ๆ กันแน่ะ ที่เหลือ จำหน้าไม่ได้ ^^'' เป็นคนที่ความจำน่าอนาถมาก จำหน้าคนไม่ค่อยได้เท่าไหร่ กาลเวลาผ่านไปหลายปี จำหน้ายุนโฮได้ และชอบที่ยุนโฮเต้นเก่ง + ประทับใจที่นิสัยดีสุดๆ และที่สำคัญ เป็นแฟน S.E.S มิคกี้ยูชอน ช่างมีทรงผมอนาถๆ ออกมาทิ่มตาพี่เสมอ ขนาดไม่ได้ติดตามยังอุตส่าห์เห็นเพราะมันหลอนมาก เลยจำได้ในที่สุด รู้สึกอืม... เป็นตัวของตัวเองดีนะน้องนะ ติสต์มากเลยนะ ชอบที่ไม่ทำตัวเด่น (แต่มันเด่นเอง) เหลือคนเดียวที่ยังไม่ชอบซะทีก็คือ จุนซู (ถ้ายืนคนเดียว จะจำหน้าไม่ได้อีกต่างหาก) บังเอิ๊ญ บังเอิญ แต่ละคลิปที่มีจุนซูติดมาให้ดูนี่แบบ น้องกำลังเข้า mode คุยจ้อ  คุย พูด พูดๆๆๆๆๆ พูดอะไรไม่รู้นานมากกกกกกกกกกกกกก ตกใจมาก เลื่อนข้ามไปตั้งไกล ยังพูดไม่จบอีก!!! แอบเครียด ทำไมน้องพูดมากเช่นนี้คะ (แต่ปกติบางทีก็จะเคยเห็นไม่พูดเลย เลยไม่ค่อยเข้าใจ) แต่พอออก project พิเศษ วง ANYBAND กับโบอา ก็ได้ยืนยันถึงบุคลิกที่แท้จริงของจุนซูว่าเป็นคนขี้อายมากๆ และไม่ใช่คนชอบเด่นดังอะไรมากมาย เค้าให้เป็นหัวหน้าวง แต่จุนซูมัวเขินอะไรไม่รู้ ไม่ค่อยจะพูดเลย จนโบอาต้องเป็นคนพูดปิดท้ายให้ตั้งหลายรอบ (ชำนาญ พูดจนเชี่ยวชาญแล้ว ปกติอยู่ตัวคนเดียว ไม่เคยมีใครมาช่วยพูดให้) ที่สำคัญ เสียงร้องของจุนซูในเพลงของ ANYBAND ทุกเพลง มันเท่มาก เป็นแนวที่ชอบมากๆ เลยค่ะ รู้สึกว่าร้องต่างกับตอนเป็นดงบังชินกี (ที่ส่วนใหญ่ จากที่เคยฟังบ้้างนิดหน่อย จะเค้นและลากเสียงเอื้อนโหยหวนกว่า แนวว่าใส่อารมณ์อ่อนไหว และโชว์เทคนิคมากกว่า) ลุคใน MV ก็เท่  ช็อคมากๆ ไม่นึกว่าจุนซูนี่ก็ดูหล่อเท่โดนใจเราได้! ตั้งแต่นั้นมาเลยหายหมั่นไส้จุนซู กลายเป็นชอบอันดับต้นๆ ในวงเลย แม้จะไม่ใช่แฟนเพลง แต่ก็เห็นน้องๆ เป็นผู้ที่สร้างตำนานในวงการ Kpop และ Jpop ได้อย่างน่าภาคภูมิใจค่ะ จนถึงตอนนี้ ก็ยังรู้ึสึกว่า "ไม่อยากให้ SM concert 2008 (ที่กว่าจะได้จัดก็ต้นปี 2009 ) กลายเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ดู TVXQ แสดงในเมืองไทย" ไม่อยากให้ตำนานจบลงเพียงเท่านี้  ขอเป็นกำลังใจให้ TVXQ กับแฟนๆ สู้ต่้อไปให้ถึงที่สุดค่ะ เพราะเชื่อว่าทั้ง 5 คนและแฟนตัวจริงทุกคน ยังอยากให้พวกเค้าอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะค่ายไหนก็ตาม ปล. ชอบไลฟ์ที่คู่ซี้ จุนซู-อึนฮยอก ร้องด้วยกันใน SM con ในไทยมากๆ ค่ะ สุดยอด แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 10:56:16 จากคุณ : ว้อบแว้บ* เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:53:25

ความคิดเห็นที่ 75 Mirotic ขึ้นอันดับหนึ่งทั้งในเกาหลี ไต้หวัน ไทย และรวมไปถึงญี่ปุ่น โดยทางญี่ปุ่นได้ปล่อยซิงเกิ้ล Mirotic ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เดินทางไปโปรโมทในญี่ปุ่น แต่ก็สามารถทำยอดขายขึ้นสู่อันดับ 1 ของ Oricon Chart ได้เป็นซิงเกิ้ลที่ 4 ของปี (ถึงแม้จะใช้กลยุทธ์เลือกวันวางแผงด้วยก็ตาม อิอิ) อัลบั้มนี้โปรโมทจริงจังอยู่แค่ 2 เพลง อีกเพลงหนึ่งคือ Wrong Number ซึ่งชุดที่ใช้โปรโมทจะต่างจาก Mirotic มากตรงที่ Wrong Number ทุกคนจะใส่สูทปิดตั้งแต่คอไปจรดเท้าเลยทีเดียว จริงๆแล้วเพลงนี้ตอนไปฟังเวอร์ชั่นในซีดีแล้วรู้สึกแปลกมาก เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง จริงๆแล้วคือขาดท่อนหวีดสูงประสานสามคู่เสียงของชางมิน จุนซู แจจุงไปนั่นเองค่ะ ทำให้เพลงดูเนือยๆไปเลย เอาคลิปที่รวมทุก live ของเพลงนี้เข้าด้วยกันมาให้ดูค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 11:07:39 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:02:52

ความคิดเห็นที่ 76 ขอปาดนะคะ เห็นกระทู้แล้วอยากพิมพ์ อิอิ ดีใจมากค่ะที่มีกระทู้นี้ ^-^ ดงบังจะได้มีคนรู้จักมากขึ้น โดยส่วนตัวเป็นแฟนดงบังเช่นกันค่ะ พูดตามตรงนะคะ วงการเพลงเกาหลีน่าสนใจมากๆ มีบางช่วง บางจังหวะ เราก็แอบหลง และปันใจให้กับคนอื่นเหมือนกัน บางครั้งก็คิดว่านี่เราคงเลิกชอบดงบังไปแล้วจริงๆใช่มั้ยเนี่ย แต่ว่าพอได้เห็น MV ดงบังในโทรทัศน์ ได้ดูรายการต่างๆ ทำให้เรารู้ได้เลยค่ะว่า ยังไงเราก็เลิกชอบดงบังไม่ได้หรอก ความรู้สึกเดิมๆ มันกลับมาอีกครั้ง ทำให้เรารู้เลยว่า เราตัดกันไม่ขาดจริงๆนะเออ สำหรับเราดงบังก็เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ชาย ที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขทุกๆครั้งที่ได้ฟังเพลง ได้เห็นพวกเค้าค่ะ บางช่วงเวลาที่ยากลำบาก แค่ได้ฟังเพลงของพวกเค้าทุกๆอย่างก็รู้สึกดีขึ้นจริงๆค่ะ ขอแปะเพลง Begin เพลงที่เปลี่ยนให้เราจากคนชอบดงบังมาเป็นคนที่รักดงบัง เป็นเพลงที่ทำให้เราตอนดูช่อง V จบ เกิดแรงฮึดอยากไปดูคอน rising sun มากๆ รีบเดินไปบอกแม่ว่า แม่คะขอหนูไปดูคอนเสิร์ตเพลงเกาหลีนะคะ แล้วหนูจะตั้งใจสอบ ขอหนูไปเถอะ จากคุณ : Someone In This World เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:08:35

ความคิดเห็นที่ 77 การกลับมาเกาหลีในปี 2008 พวกเขาได้ยกระดับการร้องและการแสดงไปอีกขั้นหนึ่ง โดยเฉพาะในเพลงหลักอย่าง Mirotic และ Wrong Number พวกเขาจะไม่มีการร้องลิปซิงค์อย่างเด็ดขาด (โชว์เพลงเต้นอื่นๆก็มีลิปซิงค์แต่น้อยมากๆ) และได้สร้างโชว์ที่โดดเด่นขึ้นมาหลายโชว์อย่างเช่นในงาน MKMF 2008 ซึ่งครบรอบ 10 ปีของการจัดงานนี้พอดี เพื่อให้เข้ากับ Theme History งาน พวกเขาก็จัดโชว์ที่เป็นการย้อนประวัติของวงไปด้วย โดยใช้ชื่อโชว์ว่า My Addition โดยไล่เรียงเพลงเด่นของตัวเองมาตามยุคสมัย ยาว 11 นาทีเลยทีเดียว จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:14:23

ความคิดเห็นที่ 78 งาน MKMF 2008 เป็นงานประกาศรางวัลใหญ่งานแรกของปี ซึ่งพวกเขาได้รางวัลเล็กๆย่อยๆไป 4 รางวัล และรางวัลใหญ่ซึ่งประกาศเป็นรางวัลสุดท้ายของงานคือ Album of the Year ทุกคนลุ้นกันมากว่าจะได้หรือไม่ เนื่องจากถ้านับถึงแค่งานประกาศรางวัลนั้น พวกเขาเพิ่งกลับมาโปรโมทงานที่เกาหลีได้เพียงแค่ 1 เดือนครึ่งหลังจากหายหน้าไปจากวงการถึง 1 ปี 7 เดือน เป็นความจริงที่ว่าเวลาพวกเขาไปทำงานที่ญี่ปุ่น แฟนที่เกาหลีก็จะคิดว่าพวกเขาพักผ่อน เช่นเดียวกับเมื่อพวกเขาทำงานที่เกาหลี แฟนที่ญี่ปุ่นก็จะคิดว่าพวกเขาไปพักผ่อนในเกาหลี ทั้งที่จริงๆแล้วพวกเขาทำงานกันตลอดทั้งปี หลังได้รับรางวัลน้องเล็กของวงที่ปกติใจแข็งสุดๆอย่างชางมินดีใจและโล่งใจถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:23:53

ความคิดเห็นที่ 79 ปี 2008 เป็นปีที่เรียกได้ว่าพวกเขาได้ทำงานกันอย่างหนักและก็ได้รับผลตอบแทน(ที่ไม่ใช่ตัวเงิน)อย่างคุ้มค่า  ผลตอบแทนที่ว่าคือการได้รับโอกาสในการเข้าร่วมงานใหญ่อย่าง Kouhaku Uta Gassen หรืองานขาว-แดงที่ญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่และมีเกียรติมากที่สุดงานหนึ่งในญ๊่ปุ่น เรทติ้งของรายการนี้จะอยู่ประมาณ 30-50 เลยทีเดียว จึงเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะได้เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนั้นพวกเขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grand Prix ในงานJapan Record Awards วันที่ 30 ธันวาคม แต่งานทั้งสองนี้ก็ทำให้เกิดข้อขัดแย้งในตารางงานของพวกเขาเนื่องจากจะตอนแรกพวกเขามีกำหนดว่าจะต้องเข้าร่วมงานแสดงปลายปีที่เกาหลีตั้งแต่วันที่ 29 ช่อง SBS,  30 ช่อง MBC, 31 ช่อง KBS แต่โอกาสที่ได้รับที่ญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยให้หลุดมือไปได้จริงๆ พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมงานแสดงปลายปีที่เกาหลีได้เพียงงานเดียวคืองานวันที่ 29 ของ SBS  ทำให้ KBS ใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างสร้างความขัดแย้งกับทาง SM ด้วย และช่วงปลายปีก็เป็นช่วงที่ตารางงานของพวกเขาโหดที่สุด (ก่อนหน้านี้ยังโหดไม่พอ) เรียกได้ว่าบินไปกลับเกาหลี-ญี่ปุ่นถี่เหมือนไปจ่ายตลาด 26 ธันวาคม 2008 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 5 ปีของดงบังชินกิ พวกเขาจัดงาน Special Party ซึ่งเป็นลักษณะ Fanmeeting ขึ้น 2 รอบ เช้าและบ่าย แต่ระหว่างช่วงตรงกลางก็วิ่งมาแสดงในรายการ Music Bank   27 ธันวาคม -  แสดงรายการ Music Core เสร็จแล้วก็บินไปญี่ปุ่น ซ้อมสำหรับรายการ Japan Record Award 28 ธันวาคม - อัดรายการ TBS TV Santa Mama's New Year's Allowance, Will Your Dreams Come True และบินกลับเกาหลีเพื่อนซ้อมการแสดง SBS Gayo Daejun 29 ธันวาคม - บินไปญี่ปุ่นเพื่อซ้อมรายการ Kouhaku Uta Gassen - บินกลับเกาหลีในวันเดียวกัน เพื่อขึ้นแสดง SBS Gayo Daejun 30 ธันวาคม - บินไปญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมงานและแสดงในรายการ Japan Record Awards 31 ธันวาคม - 1 มกราคม  เริ่มซ้อม Kouhaku Uta Gassen ตั้งแต่ 9 โมงเช้า แสดงตอนกลางคืน ไปร่วมรายการ CDTV ข้ามคืนวันปีใหม่ และออกรายการวิทยุช่วงตีหนึ่งถึงตีสี่ ปิดท้ายด้วยรายการ Zoom in Super จนถึงแปดโมงเช้าของอีกวัน ไม่ได้นอนครบ 24 ชั่วโมงพอดี แล้วก็บินกลับเกาหลีเลย โชว์ทิ้งท้ายปีของพวกเขาในงาน SBS Gayo Daejun มีคนตีความหลายอย่างว่าพวกเขาทำตัวเป็นกบฏและเสียดสีคำตัดสินเรื่องการตีความเพลง Mirotic  เพราะพวกเขาแสดงหลังสี่ทุ่มและกลับมาใช้คำว่า Under My Skin อีกครั้ง รวมไปถึงการออกแบบท่าเต้นเอาปืนจอหัวที่ราวกับจะเย้ยว่าคิดดีแล้วหรือที่ตัดสินอย่างนั้น และช่วงต่อเพลงที่มิกกี้พูดว่า Are you guys ready? This is what I'm talking about... และแน่นอนว่าตอนจบเพลงที่จะเห็น their skin จริงๆ   (สังเกตให้ดี มีการพลิกมือกลับไมค์ระหว่างเพลงด้วยนะคะ เป็นท่าที่กระพริบตาก็ไม่เห็นแล้ว) SBS Gayo Daejun 2008 - Wrong Number + Mirotic (Remix) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:28:57

ความคิดเห็นที่ 80 เออ แฮะ  ดูไลฟ์นี้ไม่รู้กี่สิบรอบ  แต่สงสัยกระพริบตาตอนกลับไมค์จริงๆ หรือที่จริงตรูดูแต่หน้าน้องๆ แล้วกรี๊ดโฮกอยู่หว่า เลยไม่ทันสังเกต ก็แหม นะ ใจมันจดจ่อรอตอนจบเพลงช่วงที่อยากไป under TVXQ's skin นี่นา 555 v v v ดู๊ดู  ยังมาแปะยั่วอีก  โฮกกกกกกกกกกกก  แผ่นหลังคิมแจ เท่สุดๆ   โดยเฉพาะรอยสักรูปปีกเนี่ย เห็นแล้วขอลาตายอย่างสงบ (แต่  ฉันตายไม่ได้... เพราะชั้นรักเธอออออออออ  เหอ เหอ  เน่าสนิทตรู) v v v แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 11:41:05 จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:33:26

ความคิดเห็นที่ 81 ขอแปะอีกสักรูป...แบบว่าชอบ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 11:36:54

ความคิดเห็นที่ 82 ปาดดดดน้องบิ๊ก ก่อนไปธุระ . . มาเป็นแนวร่วมของน้องบิ๊ก . . ความจริง ตอนตั้งต้นชอบ ทงบัง นั่น คือ มาจาก คิม แจจุง ไปเจอโดยบังเอิญในยูทูบ Cute Asian Boys เลยได้ตามล่าหาน้อง จนมาพบ Tohoshinki  ตอนนั้นเพิ่งเข้าญี่ปุ่นได้ไม่นาน . . อาจจะตั้งต้นจากความหล่อ น่ารักจริงๆ แต่...เมื่อเข้ามารู้จักลึกซึ้งแล้ว พบว่า TVXQ ไม่ใช่ ผู้ชายที่หล่อแต่รูปจูบไม่หอม ปลื้ม ความเก่งของเด็กๆวงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ . . เค้ามีดีกว่าแค่หน้าตา . . น้องไม่ได้สักแต่ว่าร้องเพลงเป็น เค้าฝึกว่าอย่างหนักหน่วง และพวกเค้าก็สามารถแต่งเพลง ทำดนตรี ในผลงานตัวเองด้วย . . ทุกคนมีส่วนในผลงาน . . ใน album, Rising Sun น้อง Micky, U-Know, Xiah แต่งท่อนแร๊พ เพลง "Love After Love" ใน "O"-Jung.Ban.Hap. น้อง Micky แต่งท่อนแร๊พภาษาอังกฤษ ในเพลง "Phantom Hwanyeong" น้อง Xiah compose และแต่งเนื้อเพลง White Lie ใน Mirotic น้องแจจุง แต่งคำร้องและทำนอง Don't Cry My Lover/ น้อง MAX เขียนเนื้อภาษาเกาหลี เพลง "Love in the Ice"/ น้อง Micky - Love by Love (เวอร์ชั่นในคอน ฟังแล้วเคลิ้ม) และน้อง Xiah แต่ง Picture of You อ้อ ยังมีท่อนแร๊พ แบบแสบๆคันในเพลง Wrong Number ของ น้องแจจุง (ไม่รู้ไปโกรธใครมา แต่งเอง แร๊พเอง) . . ฝั่งญี่ปุ่นบ้าง . . album T น้อง Micky แต่ง "Kiss Shita Mama, Sayonara" (Kissしたまま、さよならและมี co-composer ชื่อ แจจุง) และ Micky ยังเขียนเพลง  My Girlfriend ให้ Trick project ของตัวเอง (ฟังแล้วก้อคิดเอาว่าน้องมิกกี้แต่งให้^^) น้อง Xiah จัด "Rainy Night" ใน Trick Project เช่นกัน และล่าสุด Single 25: "Bolero/Kiss the Baby Sky/Wasurenaide", แจจุง แต่งและ co-compose เพลง "Wasurenaide" (忘れないで, Don't Forget?) Micky แต่งคำร้องและทำนอง "Kiss the Baby Sky" และก้อไปอยู่ในอัลบั้ม The Secret Codes นอกจากนี้ยังมีเพลงประหลาดๆอย่าง 9095 ที่น้องแจจุง ผสมผสนเอารูปแบบดนตรีกลิ่นอายแปลกๆ(เหมือนคนแต่ง) ไปในเพลง (เพลงนี้ชอบ) แล้วยังมี Xiahtic ที่น้องเซีย จัดให้ , Check Mate ของยุนโฮ และ Evergreen ของน้อง Max (ใช่มั้ยคะ ถ้าจำไม่ผิด) ยังมีอีกที่ปลื้มอย่างแรง อีกสองเพลง... จาก Colors, Melody and Harmony....รวมกันเฉพาะกิจ ^^ จริงๆเหมือนมีอีกนะ แต่ตอนนี้ต้องไปแล้ว ใครมาเพิ่มเติมให้ที หล่อทั้งรูป จูบก้อหอมจริงๆนะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:13:23 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:09:01 จากคุณ : you make my soul blossom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:05:42

ความคิดเห็นที่ 83   ไม่เคยคิดว่าความเพอร์เฟคจะมีอยู่ในโลก แต่เพราะดงบังนี่แหละที่ทำให้รู้ว่ามันมีอยู่จริง จากคุณ : ฺBloodOcean (BloodOcean) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:15:27

ความคิดเห็นที่ 84   ปาดนิดนึงนะคะพี่บิ๊ก (ไปเรียกเค้าพี่เฉย) จริงๆ แล้วมีคนเคยพูดว่า ดราม่าที่เกี่ยวข้องกับวงการเกาหลีและญี่ปุ่น จะต้องมีทงบังทุกกระทู้ (ฮาน้ำตาไหลทีเดียว) วงนี้จะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ชอบดราม่าต้องรู้จักกันดีค่ะ เพราะถูกกระชากถูลู่ถูกังไปร่วมแจมมาม่าด้วยตลอดเวลา จะมาปาดอีกเมื่อถึงเวลาค่ะ ^^ จากคุณ : LYJAE เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:19:15

ความคิดเห็นที่ 85 2009 Fly Away...Fly to the Top...Fly Forever ขอเขียนแบบรวบรัดตัดความว่าพวกเขาก็กลับไปทำงานที่ญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีแรก ออกซิงเกิ้ลอันดับ 1 Oricon Weekly อีก 2  ได้อันดับ 2, 3 อีกอย่างละ 1 (Survivor กับ Stand by U ชนวงใหญ่ๆของ JE อย่าง KAT-TUN และ Arashi เข้าไปโครมใหญ่ ทำให้เราได้รับรู้ว่าอันดับเพลงในชาร์ทมันหลอกตาได้จริงๆ อย่าง Stand by U จริงๆแล้วขายได้เกิน 200,000 แผ่น ถือว่าเยอะที่สุดในบรรดาซิงเกิ้ลทั้งหมดที่เคยออกมา แต่ก็ไม่ได้ขึ้นถึงที่ 1 แต่อย่างใด) หลังจากออกอัลบั้ม The Secret Code และพวกเขาก็ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตทั่วญี่ปุ่นทั้งหมด 19 รอบ ก่อนที่จะประกาศเพิ่ม 2 รอบสุดท้ายที่ Tokyo Dome ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาบอกมาตลอดว่าเป็นความฝันที่จะขึ้นร้องเพลงที่โตเกียวโดมต่อหน้าคน 50,000 คนให้ได้ ทัวร์คอนเสิร์ตรอบนี้จึงมียอดคนดูเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอีกหนึ่งเท่าตัวกลายเป็นรวมทั้งหมด 300,000 ที่นั่ง ตามไปดูคอนเสิร์ตนี้ได้ตั้งแต่ต้นเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:27:07 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:24:25

ความคิดเห็นที่ 86 ข้อมูลแน่นมากๆ จากคุณ : carbonnet เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:29:57

ความคิดเห็นที่ 87 น่าจะรวมเล่มเป็นสารานุกรมทงบังนะคะ เสียดายที่ wikipedia ลงคลิปลงรูปอะไรไม่ได้มาก อย่างน้อยเวลาจะอ้างอิงหรือลำดับข้อมูลของน้องจะได้มีข้อมูลด้านนี้ไว้เปิดดู ที่สำคัญมันเป็นภาษาไทยด้วยฮ่าๆๆๆ ชอบกระทู้แนวนี้จัง ขอบคุณมากๆเลยคะ เขียนรีวิวเนื้อหาของน้องได้ละเอียดแล้วก็เป็นทางการแต่ไม่น่าเบื่อเลยค่ะ แว้กกกกเพิ่งนึกได้ลืมเปลี่ยนสี ขอโทษจริงๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:35:23 จากคุณ : kakaman เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:33:36

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณมากนะคะน้องบิ๊กที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ถ้าจะถามว่าทำไมวงนี้ถึงเป็นที่รักของผู้คนได้มากมายขนาดนี้ สั้นๆง่ายๆ เต็นว่ามันอยู่ที่ใจกับใจค่ะ เพราะเด็กเหล่านี้ให้ใจเรามาเค้าจึงได้ใจจากเราไป เหตุผลที่อาจจะดูสั้นไปนิด แต่ยิ่งใหญ่มากสำหรับใครหลายคน หากทำอะไรด้วยใจรัก ด้วยความตั้งใจ และใส่ใจลงไปกับมัน ผู้ที่รับสิ่งเหล่านั้นย่อมรับรู้ได้ด้วยใจเช่นกัน เพราฉะนั้นขอเอาเพลงนี้ ที่ไม่วว่าฟังกี่ที มันก็ซึมลึกเข้าไปในหัวใจเสมอ มาให้ชมนะคะ Heart Mind and Soul Final Live in Tokyo Dome Credit : Merliam@Youtube แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:38:01 จากคุณ : nokaten เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:36:23

ความคิดเห็นที่ 89 ปี 2009 นี่จะเรียกว่าเป็นปีแห่งการทัวร์คอนเสิร์ตก็คงไม่ผิดนัก นอกเหนือจากทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น พวกเขาก็มี Asia Tour รอบที่ 3 (ซึ่งจริงๆแล้วถ้าตัดประเทศไทยออกก็เหมือนจะเป็น China Tour มากกว่า ) ตารางคอนเสิร์ตในช่วงนั้นกันค่ะ 20-22 กุมภาพันธ์: [เกาหลี] แสดง 3 รอบที่โซล 4 เมษายน: [เกาหลี] the 3rd Asia Tour Concert "Mirotic" ที่ Nanjing 4 พฤษภาคม - 21 มิถุนายน: [ญี่ปุ่น] ทั่วญี่ปุ่น 19 รอบ 27-28 มิถุนายน: [เกาหลี] กรุงเทพ 2 รอบ 4-5 กรกฎาคม: [ญี่ปุ่น]  โตเกียวโดม 2 รอบ 11 กรกฎาคม: [เกาหลี] ปักกิ่ง 1 รอบ 2 ตุลาคม: [เกาหลี] เซี่ยงไฮ้ 1 รอบ สิ่งหนึ่งที่เรากล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าคงไม่มีใครทำได้หรือได้ทำอย่าง 5 คนนี้อีกแล้วคือการเปิดคอนเสิร์ตใหญ่สลับภาษาเกาหลี-ญี่ปุ่นไปในแต่ละสัปดาห์ในหลายประเทศช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมนี่แหล่ะค่ะ จำนวนเพลงที่จะต้องจำทั้งเนื้อร้อง ท่าเต้น บล็อคกิ้งในช่วงนั้นรวมกันกว่า 50 เพลง (ถ้าจำไม่ผิด Asia Tour มี 26 เพลง, Japan Tour มี 29 แต่ที่โตเกียวโดม 32 เพลง) Set List ของทั้ง 2 คอนเสิร์ตก็แทบไม่เหมือนกันเลย เพราะแน่นอนว่า Japan Tour เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด (มีซ้ำกันแค่ Sky, Somebody to Love ที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเล่นทั้ง 2 แบบ) ไม่แปลกเลยถ้าจะมีใครสักคนร้องผิด หรือเต้นผิด (เหมือนว่าที่ทำพลาดทั้งสองอย่างจะมีคนเดียวในวงด้วย )   แต่ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมันน้อยมากจนไม่ได้ทำให้ความสนุกของคอนเสิร์ตน้อยลงไปแต่อย่างใด ก็แค่ใครบางคนร้อง love in the ice สลับท่อนในโตเกียวโดม จะว่าไปแล้วการพัฒนาในการเล่นคอนเสิร์ตของพวกเขาเป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนจริงๆในปีนี้ ทุกคนดูจะสามารถแสดงความรู้สึกออกมาในเพลงได้ดีขึ้น เพลงที่ต้องสนุกพวกเขาก็สามารถดึงคนดูให้สนุกไปได้ด้วยจริงๆทั้งในคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นและเอเชียทัวร์ ซึ่งแน่นอนว่าเกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักและการสะสมประสบการณ์ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในเพลงที่เราชอบมากใน Asia Tour ของพวกเขาคือเพลง Hug ซึ่งนำมาดัดแปลงให้กลายเป็นเพลง Rock และร้องโดยไม่ต้องคำนึงถึงท่าเต้นหรือ Blocking ซึ่งเรามองว่าตรงจุดนี้คือพัฒนาการก้าวสำคัญของพวกเขาเลยทีเดียว เป็นจุดที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับการแสดงสดของพวกเขาอย่างมาก แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:50:33 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:48:01 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 12:42:59 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:39:44

ความคิดเห็นที่ 90 ^ ^ ^ เอิ่ม น้องบิ๊กคะ จิกกัดลูกได้โดนใจพี่เต็นมากค่ะ ฮาเก้าอี้คว่ำ จากคุณ : nokaten เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:57:41

ความคิดเห็นที่ 91 ขอปาดอีกนิด... พูดถึงอัลบั้ม Mirotic อัลบั้มนี้มีเพลงที่ชอบหลายเพลงมาก เพลงโปรโมทอย่าง Mirotic ก็จะชอบในระดับนึง ส่วน Wrong Number สารภาพว่าแรกๆ ไม่ชอบเลย จนได้ดูไลฟ์ก็รู้สึกดีกับเพลงนี้มาอีดนิด ส่วนเพลงในอัลบั้มนี้ที่ชอบมากๆ กลับเป็นเพลงในหลืบอัลบั้ม(ที่เรียกงี้เพราะเพลงนี้อยู่ใน version C เท่านั้น)อย่าง Love Bye Love ที่ยูชอนแต่ง อาจจะเพราะต้องมนต์ของยูชอนตั้งแต่ฟังครั้งแรกในคอนมิโรติก พอลองกลับมาฟังซีดีเวอร์ชั่น ก็รู้สึกว่าเพลงนี้เมื่อร้องห้าคนมีเสน่ห์ไปอีกแบบนึง...เคยคลั่งเพลงนี้ชนิดที่ว่าเปิดฟังวนไปวนมาอยู่เพลงเดียวเป็นวันๆ เลยค่ะ ยิ่งมารู้ทีหลังว่ายูชอนแต่งเองยิ่งทึ่ง เพลงของยูชอนมีลายเซ็นในตัวเองจริงๆ ชื่นชมน้องในจุดนี้มาก นอกจากนี้เพลงนี้น่าสนใจที่จุนซูร้องแร๊พในเพลงนี้ด้วย เกร็ดเล็กน้อยที่เพิ่งรู้ : เสียงของ narrator ตอนต้นเพลงนี้ เป็นเสียงของน้องโกอารา ที่เป็นนางเอก MV เพลง HUG และละครเรื่องแรกของยุนโฮค่ะ นอกจาก Love Bye Love แล้ว เพลงในอัลบั้มนี้ที่ชอบมากๆ อีกเพลง คือ Crazy Love นี่ก็ได้อิทธิพลจากคอนมิโรติกเหมือนกัน ท่อนที่แจร้องว่า It's my crazy love for you. นี่ติดหูจนตอนนี้เลย (เว่อร์จริงฉัน ^^") อีกอย่างที่ชอบอัลบั้มนี้มาก เพราะว่าน้องๆ มีส่วนร่วมกับเพลงในอัลบั้มมากขึ้น ประทับใจทั้งห้าคนจริงๆ ทั้งที่งานหนักขนาดนี้ ก็ยังหาเวลาพัฒนาทักษะในการแต่งเพลงของตัวเองกันได้อีก ^__^ ขอแปะเพลง Love Bye Love ที่เป็นเสียงร้องของทั้งห้าคนแล้วกันนะคะ ^^ จากคุณ : AlwaysSmiles เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 13:03:05

ความคิดเห็นที่ 92 และแล้วหลังจากคอนเสิร์ตใหญ่ที่โตเกียวโดมผ่านไปยังไม่ครบ 1 เดือนเต็มก็มีข่าวใหญ่ซึ่งออกมาช็อคแฟนๆดงบังชินกิ/โทโฮชินกิเมื่อสมาชิกสามคนของวงออกมายื่นคำร้องต่อศาลขอให้ระงับสัญญาที่ทำกับ SM ชั่วคราวก่อนที่จะยื่นฟ้องร้องจริงตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2009 โดยให้เหตุผลว่าสัญญานั้นไม่เป็นธรรมทั้งข้อบังคับในสัญญาและการแบ่งรายได้ ส่วนทาง SM บอกว่าสมาชิกทั้งสามคนฟ้องเนื่องจากขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์จากธุรกิจเครื่องสำอาง ศาลชั้นต้นตัดสินออกมาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2009 ว่าสมาชิกสามคนที่ยื่นฟ้องสามารถทำงานอิสระที่เป็นของตนเองได้ และ SM ไม่สามารถบังคับให้ทั้งสามคนทำกิจกรรมด้านบันเทิงที่เกี่ยวข้องได้ (ไม่เช่นนั้นจะโดนปรับเป็นเงินสิบล้านวอนเกาหลีต่อการละเมิดหนึ่งครั้ง) การตัดสินครั้งนี้เป็นเพียงการระงับสัญญาชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีการตัดสินหลังจากยื่นฟ้องร้องจริงอีกครั้ง สาเหตุหลักๆที่ศาลตัดสินเช่นนี้เพราะศาลวินิจฉัยว่าตัวสัญญามีความไม่เป็นธรรมในหลายแง่ (ข้อความด้านล่างต่อจากนี้จนถึงเส้นประ สรุปมาจากคำตัดสินของศาลซึ่งมีคนแปลฉบับเต็มทั้งหมดมาเป็นภาษาอังกฤษค่ะ) - ระยะเวลาของสัญญา 13 ปี ซึ่งหากมีช่วงเวลาที่สมาชิกป่วย ต้องหยุดพักกิจกรรม สัญญาเขียนไว้ว่าจะต้องยืดระยะเวลาของสัญญาไปตามเวลาที่หยุดพัก และยังไม่ได้นับรวมไปถึงเวลาที่ต้องไปเกณฑ์ทหารอีก 2 ปีด้วย ในคำอธิบายของศาลไว้ว่าทาง SM อ้างว่าจำเป็นต้องเซนต์สัญญาให้ยาวเนื่องจากมีแผนโปรโมทศิลปินในต่างประเทศด้วย ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการโปรโมทก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งศาลไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างนี้ - ถ้าหากมีการยกเลิกงาน ถึงแม้ว่าจะตกลงกันได้ทั้งสองฝ่าย (ทั้งบริษัทและศิลปิน) ศิลปินจะต้องเป็นฝ่ายชดใช้ค่าเสียหายในการยกเลิกงานนั้นๆเพียงฝ่ายเดียว - ถ้าหากมีการยกเลิกสัญญาโดยมีเหตุจากศิลปิน จะต้องจ่ายค่ายกเลิกสัญญาเป็นจำนวนมหาศาล (3 เท่าของเงินลงทุนทั้งหมดที่ใช้ไปกับตัวศิลปินซึ่งรวมทั้งค่าประชาสัมพันธ์และค่าใช้จ่ายอื่นใดก็ตามที่เกิดขึ้น บวกกับ 2 เท่าของค่าเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต) ในทางกลับกันถึงแม้ว่าทางบริษัทจะเป็นผู้ยกเลิกสัญญา บริษัทไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น ศาลสรุปว่าเงื่อนไขเกี่ยวกับค่าเสียหายนั้นเป็นการกีดกันผู้ร้องทุกข์ทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้สามารถออกจากสัญญาได้นั้นเพียงเพื่อการทำกำไรสูงสุดของจำเลยอุทธรณ์ [SM] ดังนั้นศาลเห็นว่าถึงแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการแบ่งรายได้มาแล้วหลายครั้ง แต่การที่สัญญาระบุว่า SM ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือชดเชยต่างๆที่เกิดขึ้นในกรณีต่างๆเลยนั้นเป็นการทำสัญญาที่ให้ประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว เนื่องจาก SM มีอำนาจต่อรองเหนือว่าทั้งสามคนในขณะที่เซนต์สัญญา - - - - - - - - - - - - - - - - - - หลังจากคำตัดสินดังกล่าวออกมาทาง SM Entertainment ได้ออกข่าวกำหนดเส้นตายให้ทั้ง 3 คนกลับไปทำงานกับบริษัทต่อ โดยไม่ได้กล่าวถึงการแก้ไขสัญญาแต่อย่างใด ซึ่งทางฝ่ายสมาชิกก็ไม่ได้ออกมาตอบรับกลับไปทำงาน ดังนั้น SM จึงแถลงว่ากิจกรรมกลุ่มของดงบังชินกิคงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตอนนั้น แต่ช่วงปลายปี 2009 สมาชิกทั้ง 5 คนยังทำงานร่วมกันในนามโทโฮชินกิที่ญี่ปุ่น (ถึงแม้จะมีข่าวลือว่าสมาชิกอีกสองคนถูกแยกไม่ให้คุยกับสมาชิกที่ฟ้องร้องนับตั้งแต่หลังศาลตัดสินคดี เช่น ไม่ให้เดินทางด้วยไฟล์ทบินเดียวกัน ไม่ให้อยู่ห้องพักเดียวกัน หรือมีฉากกั้นเพื่อห้ามพูดคุย) และยังมีอัลบั้มและซิงเกิ้ลออกมาในช่วงต้นปี 2010 แต่แล้วหลังจาก AVEX ประกาศถอนหุ้นออกจากบริษัท SM ทั้งหมด ทาง AVEX ก็ประกาศว่ากิจกรรมในนามโทโฮชินกิจะต้องหยุดพักอย่างไม่มีกำหนด และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีการประกาศว่าสมาชิก 3 คนที่ฟ้องร้องได้เซนต์สัญญาไปอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ AVEX และจะมีคอนเสิร์ตร่วมกันชื่อว่า JUNSU/JEJUNG/YUCHUN Thanksgiving Live in Dome   ล่าสุด SM ประกาศยื่นอุทธรณ์ต่อศาล และต้องการทราบว่าตกลงตัวสัญญานั้นเป็นโมฆะหรือไม่ รวมถึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อทั้งสามคนจำนวน 2.2 พันล้านวอน ทั้งหมดทั้งมวลแล้วยังไม่ได้มีฝ่ายไหนประกาศยืนยันแน่ชัดถึงการแตกวงหรือยุบวงแต่อย่างใด นี่คือรูปเบื้องหลังการทำงานที่ญี่ปุ่นช่วงเดือนกันยายน 2009 หลังจากมีเรื่องฟ้องร้องแล้วค่ะ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 13:03:13

ความคิดเห็นที่ 93 ช่วงปี 2010 จริงๆแล้วยังมีผลงานเพลงของพวกเขาออกมาทางฝั่งญี่ปุ่นบ้าง ก่อนที่ทาง AVEX จะประกาศหยุดกิจกรรมของโทโฮชินกิ มกราคม - พวกเขามีซิงเกิ้ล Break Out! ที่ยอดขายเฉียดๆ 300,000 แผ่น   กุมภาพันธ์ - อัลบั้ม Best Selection 2010 ที่รวมเพลงของโทโฮชินกิไว้ 16 เพลง (บวกกับแผ่นพิเศษในเวอร์ชั่น A อีก 9 เพลง เป็น 25 เพลงเลยทีเดียว) อัลบั้มนี้ขายผ่านหลัก 530,000 ชุดไปแล้ว มีนาคม - ซิงเกิ้ลล่าสุด Toki Wo Tomete น่าเสียดายที่ผลงานทั้งหมดไม่มีการโปรโมทในญี่ปุ่นด้วยการแสดงสดเลย แฟนๆต่างก็อยากเห็นเพลง Break Out!, Toki Wo Tomete, With All My Heart ซึ่งรวมอยู่ในอัลบั้ม Best Selection แบบร้องสดกันทั้งนั้น....ตอนนี้ทำได้แต่ร้องเพลงรอ... หวังว่าเพลงนี้จะไม่ใช่เพลงสุดท้ายที่ได้ฟังเสียงทั้ง 5 คนในเพลงเดียวกัน จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 13:13:22