ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเพลงๆหนึ่งที่เราคุ้นเคย เพลงบอกถึงพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นดังกล่าวกันดีกว่า เพราะผมเองแม้จะได้ยินเพลงนี้ตั้งแต่เด็ก แต่ก็ขอยอมรับว่า เรารู้เรื่องราวหรือประวัติของเพลงนี้ลึกๆ น้อยมาก เพลงพระราชนิพนธ์ "ความฝันอันสูงสุด" เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๔๓ ของพระองค์ท่านครับ โดยทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาคได้รับพระราชเสาวนีย์จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้เขียนบทกลอนแสดงความนิยมส่งเสริมคนดีให้มีกำลังใจทำงานเพื่ออุดมคติเพื่อประเทศชาติ ออกมาเป็นกลอน ๕ บท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถโปรดให้พิมพ์บทกลอนนี้ลงในกระดาษการ์ดแผ่นเล็ก ๆ พระราชทานแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และผู้ทำงานเพื่อประเทศชาติ เตือนสติมิให้ท้อถอยในการทำความดี ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใส่ทำนองเพลงในคำกลอน "ความฝันอันสูงสุด" ใน พ.ศ. ๒๕๑๔ (เวอร์ชั่นนี้ บรรเลงขลุ่ยโดยอาจารย์ธนิส ศรีกลิ่นดี) จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:10:33

ความคิดเห็นที่ 2 The Impossible Dream ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาคได้ประพันธ์กลอน "ความฝันอันสูงสุด" โดยถอดความมาจากเพลง The Impossible Dream ซึ่งเป็นเพลงละครบรอดเวย์ครับ เพลงนี้มาจากเรื่อง Man of La Mancha ซึ่งได้จัดแสดงระหว่างปี 2508-2514 บทละครเขียนโดย Dale Wasserman ทำนองเพลงโดย Mitch Leigh และคำร้องโดย Joe Darion ต่อมาได้รับการสร้างเป็นหนังในปี 2515 เป็นเรื่องราวของดอน กิโฮเต้ (Don Quixote) To dream ... the impossible dream ... To fight ... the unbeatable foe ... To bear ... with unbearable sorrow ... To run ... where the brave dare not go ... To right ... the unrightable wrong ... To love ... pure and chaste from afar ... To try ... when your arms are too weary ... To reach ... the unreachable star ... This is my quest, to follow that star ... No matter how hopeless, no matter how far ... To fight for the right, without question or pause ... To be willing to march into Hell, for a Heavenly cause ... And I know if I'll only be true, to this glorious quest, That my heart will lie peaceful and calm, when I'm laid to my rest ... And the world will be better for this: That one man, scorned and covered with scars, Still strove, with his last ounce of courage, To reach ... the unreachable star ... (เวอร์ชั่นนี้ร้องโดย AF2 บรรเลงแบบดนตรีร่วมสมัย ไพเราะไปอีกแบบ แบบคนรุ่นใหม่ จากรายการคุณพระช่วย ครับ) จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:17:35

ความคิดเห็นที่ 3 เรามาทราบประวัติความเป็นมาของเพลงที่น่ารู้ยิ่งขึ้นไปอีกครับ โดยต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2515 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ได้เสด็จฯ ไปในงานพระราชพิธีสักการะดวงวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ ต.แม่อาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ คืนนั้นพระองค์ท่านได้ประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์       ก่อนรุ่งสว่าง สมเด็จพระราชินี ได้ทรงสุบินนิมิตว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จฯ มาปรากฏพระองค์ขึ้น ที่หน้าพระแท่นบรรทม ในฉลองพระองค์ทรงเครื่องออกศึกได้มีกระแสพระดำรัส แก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ท่านปัจจุบันนี้ ดวงพระวิญญาณยังอยู่ในประเทศไทย เพราะทรงเป็นห่วงบ้านเมืองยังไม่ได้ไปประสูติใหม่ ณ ที่ใดเลย         และที่มาปรากฏในสุบินนิมิตนี้ ก็เพื่อจะทรงเตือนว่า ในอนาคตต่อจากนี้ไป บ้านเมืองไทยจะประสบกับความวุ่นวายยุ่งยาก ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นกำลังพระทัยถวาย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เพื่อที่จะได้ทรงนำประชาชน และชาติไทยฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงให้ผ่านพ้นไปได้ (เวอร์ชันการร้องประสานเสียงคอรัส โดย MU Chorus) แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 53 11:30:46 จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:47:07

ความคิดเห็นที่ 4 ในพระสุบินนิมิตนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ทรงสะดุ้งพระองค์ตื่นจากที่บรรทม ก็ยังทรงทอดพระเนตรเห็น องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรากฏอยู่ จึงทรงปลุกพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปรากฏให้ทั้งสองพระองค์ทอดพระเนตรเห็นชั่วครู่ ก็เสด็จฯ ไป เมื่อทั้งสองพระองค์ได้ทรงถวายบังคมแล้ว       จากพระสุบินนี้เอง ทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์ เพลงความฝันอันสูงสุดนี้ขึ้น และได้พิมพ์เพลงพระราชนิพนธ์นี้ พระราชทานแก่ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันอธิปไตยของชาติโดยทั่วหน้า และได้โปรดเกล้าฯ ให้คุณทนงศักดิ์ ภักดีเทวา และคุณจินตนา สุขสถิตย์ ร้องเพลงนี้ สอนให้แก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน เป็นครั้งแรกที่ตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วประเทศ (เวอร์ชั่นร้องโดยคุณพัดชาแห่ง AF2 กับวง Thailand Philharmonic Orchestra ครับ) จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:49:26

ความคิดเห็นที่ 5 จบแล้วครับ (แต่ยังมีอีกเวอร์ชั่น ออกแนวรุ่นคุณพ่อคุณแม่ของเรา ดนตรีโดยวงบิ๊กแบนด์แบบสุนทราภรณ์ครับ เพลงนี้ร้องเวอร์ชันไหนก็ไพเราะ) จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 11:02:01

ความคิดเห็นที่ 6 อ้างอิง: 1. วิกิพีเดีย http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94 2. ความฝันอันสูงสุดของในหลวง http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=4625191017985 (เพลงต้นฉบับ The Impossible Dream เพลงละครบรอดเวย์จากเรื่อง Man of La Mancha ที่ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาคได้ถอดความมา แล้วประพันธ์กลอน "ความฝันอันสูงสุด" ครับ) แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 53 12:14:31 จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 12:10:59

ความคิดเห็นที่ 7 ปีพ.ศ.ที่ปรากฎตามที่ผมอ้างอิง ค่อนข้างจะค้านกันเองนะครับ ใครที่มีข้อมูลที่บอกได้ว่า ส่วนไหนคลาดเคลื่อนไปบ้างก็ช่วยกันแก้ไขหน่อยนะครับ จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 14:46:10

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับ ชอบมากๆ จากคุณ : ... (owenchan) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 16:01:31

ความคิดเห็นที่ 9 ฟังเเล้วซึ้งจัง ชอบมากๆ กษัตริย์ ผู้เเสนยิ่งใหญ่ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ P.s Man of La Mancha ใช่เรื่องเดียวกับ ดอน คีโอเต้รึเปล่าคะ ? จากคุณ : b r i s e a d h c r o i เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 16:21:20

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ใช่เลยครับ The Impossible Dream เป็นเพลงละครบรอดเวย์ครับ เพลงนี้มาจากเรื่อง Man of La Mancha ซึ่งได้จัดแสดงระหว่างปี 2508-2514 บทละครเขียนโดย Dale Wasserman ทำนองเพลงโดย Mitch Leigh และคำร้องโดย Joe Darion ต่อมาได้รับการสร้างเป็นหนังในปี 2515 เป็นเรื่องราวของดอน กิโฮเต้ (Don Quixote) จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:04:47

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆนะคะ _/|\_ เพิ่งเคยฟังแบบต้นฉบับ ขนลุกจริงๆ ความหมายในเพลงนี้ก็กินใจมากๆ ส่วนตัวแล้วชอบสองท่อนนี้เป็นพิเศษ ...จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป... จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:27:38

ความคิดเห็นที่ 12 ู^ ^ ชอบท่อนเดียวกันเลยค่ะ เป็นท่อนที่   เอาไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายสถานการณ์ เรารู้สึกถึงความหมายอย่างหนึ่งในท่อน "ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวนพะว้า พะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้น ไป..." ทอนนี้เราหมายถึงการพึ่งตนเองด้วย  หากคนเราไม่รู้จักพึ่งตนเองแล้ว  มัวแต่โทษโชคชะตา  สภาพแวดล้อมรอบตัว  คงไม่มีวันทำชีวิตให้ดีขึ้นจากที่เป็นอยู่  การต่อสู้กับโชคชะตาอย่างสุดคววามสามารถ  และยึดมั่นในสิ่งที่ดีที่ควรต่างหากก  ที่จะมำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าขึ้นไปได้ จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:39:30

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมาตั้งแต่เด็ก ได้ฟังทีไรก็ขนลุกน้ำตารื้นไปด้วยทุกครั้ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะรู้จักเพลงนี้จากแบบเรียนภาษาไทย ฉบับมานี มานะ ปิติและผองเพื่อน (บอกวัยได้อีก ) ต่อมาเมื่อโตขึ้นถึงได้รู้เพิ่มเติมว่าเพลงนี้เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ชอบท่อนเดียวกับความเห็นข้างบนเลยค่ะ ฟังแล้วเกิดแรงบันดาลใจดีๆ ให้ตัวเองเสมอ ^^ จากคุณ : AlwaysSmiles เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:46:18

ความคิดเห็นที่ 14   ขอบคุณคะ สำหรับกระทู้ดีๆ ฟังเวอชั่นต้นฉบับแล้วชอบจังเลยคะ จากคุณ : ตัวอ้วน เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 01:53:03 A:110.164.162.240 X: TicketID:256963

ความคิดเห็นที่ 15 ความฝันอันสูงสุด: เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ตื้นตันใจมากๆครับ     จากคุณ : หมูอ้วนพุงดำ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 04:54:55

ความคิดเห็นที่ 16 เพลงนี้เพราะเสมอสำหรับเรา เพราะว่าเป็นเพลงที่ทรงพลัง และกระแทกความรู้สึกตลอดทุกครั้งที่ได้ฟัง ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ แบบนี้นะคะ จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 09:07:47

ความคิดเห็นที่ 17 ฟังเพลงนี้แล้วก็นึกขึ้นมาว่า นอกจากอาจารย์สันติ ผมแทบไม่เคยได้ฟังนักร้องชายคนไหน solo เดี่ยวเพลงนี้เต็มเพลงเลย ไม่ว่าจะร้องสดหรืออัดแผ่น (เคยมีเวอร์ชั่น RS อู๋ ธนาธรรณ์) จากคุณ : Duke-ดุ๊ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 14:16:55

ความคิดเห็นที่ 18 . แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 53 14:35:48 จากคุณ : Duke-ดุ๊ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 14:35:29

ความคิดเห็นที่ 19 Long Live the King ทรงพระเจริญ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ammh0017 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 19:00:35

ความคิดเห็นที่ 20 "...ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใด ยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน..." เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ที่ประทับใจ ตราตรึงใจ และคอยเตือนใจเราอยู่เสมอ ปล. อันนี้เป็นอีกคลิปนึง นานพอควรแล้ว พอดีไปเจอมาครับ จากคุณ : ๛tum๛ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 01:32:25

ความคิดเห็นที่ 21 เพลงนี้เป็นเพลงที่เราเอามาปรับใช้กับการทำงานค่ะ บางทีท้อ ... มันทำให้เรานึกได้ว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ จะช่วยพัฒนาเยาวชนใน "ประเทศของพระองค์" ได้ เราจึงยังต้องทำงานนี้ต่อไป ต้องสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ต่อไป ...จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป... ทั้งสองท่อนนี้ ... ซึมไปในสายเลือดแล้วค่ะ จากคุณ : natgabig เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 01:32:42

ความคิดเห็นที่ 22 อาสันติ ลุนเผ่ นักร้องเพลงปลุกใจผู้กล้า ท่านร้องเพลงได้ขนลุกจริงๆครับ ในอดีต ท่านก็เดินทางไปทั่วสมรภูิมิรบกับสำนักปู่สวรรค์ เป็นเวลาแรมปี ออกเยี่ยม มอบของ ร้องเพลงปลุกขวัญ ให้กำลังใจเหล่าผู้กล้้า เกือบตายก็หลายครั้งหลายหน จากคุณ : aodbu เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 03:06:05

ความคิดเห็นที่ 23 ล่าสุด ที่ งานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 1 16 พฤษภาคม 2553 โดยศิลปิน The Star และ กลุ่ม AF จากคุณ : mini austin เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 21:35:23

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ใช่ห้องราชดำเนิน แต่ขอนิดนึง งานเดียวกันครับ นาฏราชครั้งที่ 1 พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์พูดให้คิดและตระหนักกันให้จงหนักในฐานะข้าแผ่นดิน จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 16:54:51