ความคิดเห็นที่ 1 |
Chapter 13
"เฮ้ย นี่ แก ไอ้ฟลุคใช่มั้ยเนี่ย โห ตั้งแต่เป็นดารงดารา ราศีจับเชียวนะเมิง" กล้าลุกขึ้นมาตบบ่าเพื่อนอย่างสนิทสนม
"เมิงก้พูดเกินไป แหม่ ดารงดาราอะไรกัน แค่ได้เล่นละครเรื่องสองเรื่อง กับร้องเพลงนิดๆหน่อยๆ" ชายหนุ่มที่ชื่อฟลุค (นำแสดงโดย ฟลุค พชร TS5) พูดทำนองถ่อมตัวแบบเขินๆ แต่น้ำเสียงดูแล้วไม่ค่อยจะถ่อมตัวอย่างวาจาสักเท่าไหร่ "แล้วเมิงจะไม่แนะนำกุให้รู้จักสาวๆบนโต๊ะนี่มั่งหรือไงวะ แหม หรือเมิงกะจะควบสอง?" ประโยคหลังนี้ ชายหนุ่มพูดเสียงเบาแทบกระซิบ
"ไอ้นี่! เหมือนเดิมเลยนะเมิง เห็นสาวเป็นไม่ได้!" กล้าบ่นพึมใส่เพื่อน "สาวที่ไหนกัน นี่เกรซไง น้องกุอะ กะเพื่อนเค้า น้องต่าย"
"เฮ้ย นี่นะ น้องเกรซ!!!" หนุ่มสำอางทำตาโตแบบไม่เชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่ "ไม่ได้เจอแค่ไม่กี่ปี เป็นสาวสวยขนาดนี้แล้วเหรอ"
กล้าขำท่าทางของเพื่อนเต็มทน เขาหันไปทางสองสาวที่ทำตาแป๋วแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวกันอยู่ พลางเอ่ยปาก
"เกรซ จำพี่ฟลุคได้ป่าว เพื่อนพี่สมัยมอหก ที่เคยมาบ้านเราบ่อยๆ" กล้าชำเลืองมองเพื่อนเก่าแบบยิ้มๆ "ไอ้คนที่ขี้หลีๆไง!!!"
"เฮ้ย กล้า พูดงี้กุก็เสียหมดดิ" ฟลุคแย้งแบบกลัวเสียหน้า พลางหันมาทักทายน้องสาวคนสวยของเพื่อนเก่า "สวัสดีครับ น้องเกรซ เมื่อก่อนพี่เคยไปที่บ้านน้องบ่อยๆ ไม่คิดเหมือนกัน ว่าน้องเกรซโตมาจะสวยขนาดนี้"
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ส่งประกายสายตาปิ๊งๆไปที่สาวน้อย ซึ่งหัวเราะขำท่าทางของเขาอยู่อย่างเหลือทน
"สวัสดีค่ะ พี่ฟลุค" เกรซกระพุ่มมือไหว้ชายหนุ่มอย่างสวยงาม ทำเอาชายหนุ่มยิ้มหน้าบานแทบหุบไม่ลง "เกรซจำได้ค่ะ พี่ฟลุคเคยมาบ้านเกรซบ่อยๆ เพราะมาจีบพี่แอนที่อยู่ข้างบ้านเกรซใช่ไหมละคะ"
"ฮ่าๆๆๆ กร๊ากกกก" กล้าหัวเราะขำเพื่อนหนุ่มที่โดนย้อนรอยเต็มๆ ส่วนฟลุค แม้จะหน้าม้านไปนิดๆ แต่ก็ยังแข็งใจพูดต่อ "ตอนนั้นมันก้แค่ปั๊บปี้เลิฟน่ะครับ น้องเกรซ ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ตอนนี้ พี่โสดครับ" ชายหนุ่มว่าพลาง ส่งสายตาปิ๊งๆมาที่หญิงสาวอีกรอบ เกรซหัวเราะคิก "เออ ไอ้กล้า แล้วเมิงจะไม่เชิญกุนั่งซะหน่อยเหรอ จะให้กุยืนพูดอีกนานมะ" ประโยคหลัง ฟลุคส่งไปที่เพื่อนรักที่ยังคงนั่งหัวเราะอยุ่เต็มๆ
"เออๆ นั่งๆก็ได้วะ" กล้าผายมืออย่างล้อเลียน "เชิญคร้าบ คุณผู้ชาย"
ฟลุคหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ที่ยังว่างข้างๆกล้าและตรงข้ามกับต่ายพอดี ในใจชายหนุ่มขวางนิดๆ โลเกชั่นไม่เหมาะสมเอาเสัยเลย ฮึ่ม!
"เออ ละทำไมดาราใหญ่อย่างเมิงถึงมาเพ่นพ่านแถวนี้ได้วะ" กล้าสัพยอกถาม
"กุบอกแล้วไงกล้า กุยังไม่ใช่ดาราใหญ่ แหม่ๆๆ กุก็มากินข้าวดิวะ พี่เอ็มเจ้าของร้านเค้าชวนกุมา แต่กุมาวันเปิดไม่ได้ บังเอิญติดถ่ายละคร เลยมาเอาวันนี้แหละว่ะ"
"พี่ฟลุคเป็นดารา คงงานยุ่งน่าดูเลยนะคะ" เกรซเอ่ยถามยิ้มๆ แต่ในใจคิด
วันเปิดร้านกับวันนี้นี่มันห่างกันเกือบสองเดือนเลยนะคุณพี่!!!
"ก็ ยุ่งหน่อยอะครับ น้องเกรซ ไหนจะงานโชว์ตัว ออกอีเวนท์ ถ่ายละคร โอ้ย เยอะครับ" ฟลุคเริ่มโม้เป็นคุ้งเป้นแควอย่างเข้าทาง "แล้ววันนี้ น้องเกรซมาทานข้าวเฉยๆเหรอครับ"
"ก็ อย่างนึงค่ะ แต่หลักๆเกรซมาดูเพื่อนเล่นดนตรีน่ะค่ะ" หญิงสาวตอบยิ้มๆ "วงที่จะขึ้นประมาณสองทุ่มครึ่งน่ะค่ะ วงอสรพิษ"
"โห ชื่อวง เชยบรม ฮะๆๆ" ฟลุคเผลอหลุดปาก โดยไม่ทันสังเกตสายตาหญิงสาวที่หลิ่วมาแบบมีเลศนัย
"ชื่อเชย แต่ฝีมือดีนะคะ ลองฟังดูได้"
"อ๋อ ครับ แหะๆ เดี๋ยวพี่จะรอฟังนะครับ" ฟลุคยิ้มแห้งๆแบบเอาใจหญิงสาว
"ต่อไป ขอเชิญทุกท่านพบกับ อสรพิษ ครับ!!!" พิธีกรประกาศบนเวทีเสียงดัง เรียกความสนใจของทุกคนในร้านได้เป็นอย่างดี เกรซและต่ายปรบมือกันกราวใหญ่ ทำเอาฟลุคต้องปรบมือตามไปด้วยอย่างเอาใจ
"สวัสดีคร้าบบบบบบ!!!!" โตโน่ก้าวนำเพื่อนๆออกมาพร้อมกีตาร์คู่ใจ ส่วนเซนและริท ก็พากันเข้าประจำที่เครื่องดนตรีของตัวเอง
"วันนี้ พวกเราอสรพิษก็ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านนะครับ ที่อยู่ที่ร้านริมน้ำ ณ ขณะนี้ อาหารอร่อย บรรยากาศดี ดนตรีไพเราะครับ วันนี้ วงเราอาจจะขาดนักร้องนำเจ้าประจำไปนะครับ แต่ไม่เป็นไรนะครับ พ่อแม่พี่น้องที่รักทุกท่าน เสียงอาจจะยังไม่เทพ แต่ร้องด้วยความจริงใจ อดทนฟังกันสักนิดนะครับ!!!"
ถ้อยคำของโตโน่ เรียกเสียงฮาจากคนในร้านขึ้นมาได้นิดหนึ่ง โตโน่ถอนหายใจเล็กๆ อย่างน้อยวันนี้มีไอ้เซนมาช่วย สถานการณ์น่าจะดีกว่าวันก่อนแหละว้า เขาคิด
สายตาของชายหนุ่มสอดส่ายหาโฟกัสของกำลังใจสำคัญของเขาในวันนี้ แล้วเขาก็พบเธอ วันนี้หญิงสาวรวบผมตลบขึ้นเป็นพุ่มด้านบน ดูน่ารักน่าใครไปอีกแบบ หนุ่มตี๋เผลอยิ้มอย่างมีความสุข แต่แล้วเขาก็สังเกตพบ ข้างๆเธอ มีชายหนุ่มหน้าตาดีถึงสองคนเคียงข้าง คนหนึ่งเขาไม่เคยเห้นมาก่อน แต่อีกคน เขารู้สึกคุ้นๆแบบบอกไม่ถูก เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ หรือในทีวี? ชายหนุ่มคิดวนไปวนมาอย่างร้อนใจ จนกระทั่ง...
"พี่โตโน่ เริ่มได้ยัง!!!" เสียงกระซิบจากมือกลองร่างเล็กด้านหลังปลุกโตโน่ให้ตื่นจากภวังค์ เขาสลัดศีรษะไปมาสองสามทีเพื่อเรียกสติ ก่อนจะพูดออกไมค์
"ครับ เรามาฟังเพลงแรกกันดีกว่าครับ 'คนสุดท้าย' ครับ!!!"
เสียงกีตาร์หวานๆจากใจของชายหนุ่มถูกดีดขึ้นด้วยทำนองแบบซึ้งๆ วันนี้เขาเลือกที่จะเล่นเพลงนี้ในแบบอคูสติกมากกว่า
"......ไม่เคยมีใจให้ใครมาก่อน ไม่เคยอ่อนให้ความรักเลย
จะมีใครใครมากมายคุ้นเคย แต่ไม่เคยมีใครอย่างเธอ
ฉันเคยบอกกับเธอหรือยัง ว่าเธอมีความหมายเพียงใด
กับคนที่ใจมันด้านชา ฉันเคยบอกกับเธอหรือยัง
จากวันนี้และทุกเวลา จะมีแต่คำว่ารักเธอ
จากฉันคนเดิม จากรักไม่เป็น
จะขอเป็นคนที่รักเธอยิ่งกว่าคนไหนไหน
จากนี้คือเธอ... จากนี้จนวันตาย
เธอคือสุดท้ายของทั้งชีวิตและหัวใจ
ฉันเคยบอกกับเธอหรือยัง ว่าเธอมีความหมายเพียงใด
กับคนที่ใจมันด้านชา ฉันเคยบอกกับเธอหรือยัง
จากวันนี้และทุกเวลา จะมีแต่คำว่ารักเธอ
จากฉันคนเดิม จากรักไม่เป็น
จะขอเป็นคนที่รักเธอยิ่งกว่าคนไหนไหน
จากนี้คือเธอ... จากนี้จนวันตาย
เธอคือสุดท้ายของทั้งชีวิตและหัวใจ......"
เสียงร้องของชายหนุ่ม แม้จะไม่ไพเราะเพราะพริ้งอะไรมากมายนัก เพี้ยนหลายจุดด้วยซ้ำไป แต่มันกลับฟังดูลึกซึ้งแบบบอกไม่ถูก ยิ่งสายตาที่เขาส่งไปให้สาวน้อยคนพิเศษยิ่งดูลึกซึ้ง จนชายหนุ่มหน้าใหม่ที่นั่งโต๊ะเดียวกับหญิงสาวรู้สึกขุ่นมัวในใจขึ้นมาทันที
ทำไม....น้องเกรซต้องทำท่าซึ้งกับเพลงเพี้ยนๆของไอ้หมอนี่นักหนา และดู...ดูมันส่งสายตาให้น้องเกรซ มันต้องมีอะไรแน่ๆ!
หนุ่มสำอางได้แต่คิดแล้วก็เกิดหงุดหงิดขึ้นมาแบบไร้เหตุผล
เป็นที่รู้กันว่า ในวงการ สาวๆหลายคนไม่ว่าจะเป็นระดับนางเอก หรือแม้กระทั่งนักข่าว ล้วนแต่เคยหลงคารมเขามาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น แค่สาวน้อยที่ดูอ่อนต่อโลกคนนี้คนเดียว คนที่เขาสนใจมากเป็นพิเศษคนนี้ จะรอดมือเขาไปได้อย่างไร
แต่ตอนนี้ เขารู้สึกหมั่นไส้ไอ้หนุ่มหน้าตี๋เสียงเพี้ยนที่ร้องเพลงซึ้งๆบนเวทีนี่เหลือประมาณ!
".....ไม่ว่าวันไหนไม่ว่าเมื่อไรฉันรักเธอ.."
...............................
กว่าที่ว่าที่หมอหนุ่มจะกลับมาที่ห้องพักก็เกือบห้าทุ่มแล้ว เขาไขกุญแจเข้าประตูมาพบบรรยากาศในห้องมืดเช่นเคย น้องชายตัวดีของเขาก็คงจะหลับไปแล้ว ชายหนุ่มเดินมาที่ตู้เย็นเพื่อจะหาน้ำดื่มแก้กระหายสักขวด และสายตาของเขาก้ไปปะทะกับกระดาษโพสอิทของน้องชายที่แปะไว้ที่หน้าตู้เย็น
"วันมะรืน แข่งกีฬาสี 4 โมงเย็นนะครับ! ^_^"
ด้านท้ายของกระดาษโน๊ต เป็นรูปตัวการ์ตูนเด้กผู้ชายที่กำลังเลี้ยงลูกบอลอยู่ ซึ่งก็คงจะหมายถึงเจ้าตัวคนเขียน เก่งดูแล้วก็อดยิ้มอย่างเอ็นดูน้องชายไม่ได้
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว ที่สองพี่น้องติดต่อสื่อสารกันผ่านทางกระดาษโพสอิทที่หน้าตู้เย็น มองดูเผินๆก็น่าจะเหงาบ้างเหมือนกัน แต่ทั้งสองคนก็รู้ดีว่า ถึงแม้ว่าหนทางการติดต่อสานสัมพันธ์ของสองพี่น้องนั้นจะดุห่างเหินกันไปบ้าง แต่ความสัมพันธ์ไม่เคยจืดจางเลยแม้แต่น้อย ความห่วงใยยังคงมีให้ต่อกันอย่างเต็มเปี่ยม
ชายหนุ่มเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำแร่แช่เย็นออกมา ในตู้เย็นยังมีอาหารกล่องแช่แข็งอีกกล่องหนึ่งที่ไอซ์เหลือไว้ให้เขาอย่างแน่นอน เก่งอมยิ้ม มันเป็นความห่วงใยแบบพี่น้องที่ใครๆคงยากที่จะเข้าใจ...
มะรืนนี้แล้วหรือ วันกีฬาสี เก่งคิด เขาอยากจะทำอะไรดีๆสักอย่างให้น้องชายของเขาบ้างเหมือนกัน...
----------------------------
ป.ล. เลือกเพลงประกอบเป็นเวอร์ชั่นนี้ เพราะคนเขียนชอบ 555+
แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 23:47:58
จากคุณ |
:
aoikotori
|
เขียนเมื่อ |
:
15 มิ.ย. 53 15:40:58
|
|
|
|