~*...เรื่องสั้นสอนเด็ก : พระอาทิตย์หรือพระจันทร์...*~
|
|
...เรื่องที่เขียนนี้ เคยเขียนมานานมากแล้วนะครับ น่าจะสัก ม.2 - ม.3 ได้... พอดีแต่ก่อนชอบเขียนนิยายเหมือนกัน และก็เขียนเรื่องสั้นมาอยู่เรื่อย ๆ แต่ทุกเรื่องหายไปหมด เหลืออยู่เรื่องเดียวที่ไปพบเจอในบล็อกเก่า นั่นคือเรื่อง "พระอาทิตย์หรือพระจันทร์" ที่แต่งขึ้นเล่น ๆ แต่ที่เอามาลงเป็ฯแบบปรับปรุง แก้ไขข้อความแล้ว ทุกคนมีความเห็นว่าไงครับ วิจารณ์หน่อยนะครับ ว่าอ่านแล้ว ติดขัดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน หรือจะติตรงไหนก็เชิญตามสบายเลยจร้า... ^_^!!~
เช้าวันที่อากาศแจ่มใส ปลอดโปร่ง แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องลงมาสัมผัสร่างเล็ก ๆสองร่างที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงใหญ่ มิวและแมวเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดที่มินิสัยต่างกัน ทั้งสองกำลังวาดฝันของตนเองว่าโตขึ้น พวกเขาจะต้องเป็นใหญ่เป็นโต มีบริวารมากมาย ทั้งสองมองออกไปนอกหน้าต่างบานสีขาวล้วน สนามหญ้าเบื้องล่างปรากฏให้เห็นแก่สายตาของเด็กทั้งสอง มิวเด็กผู้หญิงตัวน้อยน่ารักน่าชัง เอ่ยพูดขึ้น
"พี่แมวจ๋า หนูมองเห็นตัวหนูเองยืนอยู่ข้างล่างสวมชุดอะไรสักอย่างที่ดูดีมาก ๆเลย หลาย ๆ คนยืนยิ้มให้และภูมิใจในตัวหนูมากเลยด้วย" มิวยิ้มกว้าง เธอรอพี่สาวออกความคิดเห็นในเรื่องนี้
"พี่ก็เห็น พี่กำลังแต่งตัวสวยมากเลยแหละ อลังการมากเลยอ่ะ ชุดของพี่มีแต่เพชรพลอย แวววาวและพี่ก็สวยมาก ๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!!~ และแกเห็นตรงนั้นไหมมิว นั่นน่ะคือพวกคนรับใช้ของพี่ เยอะแยะไปหมดเลย ดูสิ ฮ่าฮ่าฮ่า!!~"แมวยิ้มกว้างเช่นกัน และคิดว่าความฝันของมิวเป็นเพียงความฝันหนึ่งที่พร้อมจะลบมันออกเมื่อไรก็ได้ มิวเสียใจมากที่ความฝันของตัวเองนั้นดูมีค่าน้อยกว่าของพี่สาวตนเอง
ทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน ในหัวสมองหวังคิดแต่เรื่องที่จะนำมาพูดให้เหนือกว่ากัน แต่แมวซึ่งโตกว่าย่อมคิดอะไรได้หลายอย่างและเหนือกว่ามิวอยู่แล้ว ทุกครั้งที่มิวพูดเรื่องความใฝ่ฝันของเธอ ก็มักจะถูกพี่สาวตำหนิเสมอ และยังดูถูกอีกด้วย จนเธอต้องแอบไปร้องไห้อยู่หลายครั้ง มารดาผู้เปี่ยมไปด้วยความรักต่อบุตรของตน ปลอบใจมิวด้วยรอยยิ้มและอ้อมกอดอันอบอุ่น เมื่อมารดารู้สาเหตุว่าลูกสาวคนเล็กร้องไห้เพราะเรื่องใด ยามราตรีที่เงียบสงบ บนเตียงนุ่ม ๆ กับสองพี่น้อง มิวและแมวนอนอยู่บนเตียง หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยชราดึงเก้าอี้มานั่งอยู่ตรงข้างเตียง ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่อง พระอาทิตย์กับพระจันทร์ ให้ลูก ๆฟัง
"เอาละ ลูก ๆทั้งสอง แม่มีเรื่องจะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ...อ๊ะ...แม่ขอถามก่อนนะลูก ๆ แม่ให้ลูกเลือกระหว่างพระอาทิตย์กับพระจันทร์ ลูกทั้งสองจะเลือกเป็นอะไรจ๊ะ" หญิงผู้เป็นแม่เอ่ยถาม สายตาจับจ้องไปที่ลูกสาวทั้งสอง "หนูเลือกพระอาทิตย์ค่ะ" แมวตอบ "แต่หนูเลือกพระจันทร์นะ"มิวตอบ พลางยิ้มกว้าง
"จ๊ะ ดีมาก เลือกคำตอบไม่ซ้ำกัน วันนี้แม่มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังนะ ลูกรู้ไหมว่า ความใฝ่ฝันของคนเราต่างมีค่าด้วยกันทั้งนั้น เราไม่ควรไปดูถูกความใฝ่ฝันของใครหรือว่าแม้แต่คิดจะตำหนิความใฝ่ฝันของเขา มันจะทำให้เขาท้อใจและเสียใจมากเลยนะ เหมือนที่แมวมักจะทำให้มิวต้องร้องไห้งอแง บ่อย ๆน่ะจ่ะ เข้าใจไหม!"มารดาส่งยิ้มกว้างให้ลูกทั้งสอง "ค่ะ"แมวตอบ สายตาที่ส่อแววไม่พอใจจับจ้องไปยังมิวแทน "อย่ามองน้องแบบนั้นสิลูก แมว เอาละมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะจ๊ะ หนูอยากจะเลือกเป็นอะไรกันก็ลองฟังแม่เล่าก่อนนะ”
“พระอาทิตย์นั้นน่าเกรงขาม ทุกสิ่งในจักรวาลยกย่องให้เขาคือผู้ครองอำนาจสูงสุด แต่แล้ว...พระอาทิตย์ก็ยังคงสร้างความเดือดร้อนไว้มากมาย บริวารหทั้งหลายต้องทนทุกข์ความร้อนจากแสงของเขา โดยที่เขานั้นไม่เคยคิดเลยว่า บริวารจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเขาเป็นใหญ่แล้วย่อมจะทำอะไรใดก็ได้ เลยไม่มีผู้ใดที่จะกล้าปฏิเสธหรือขัดใจเขาได้ ทำให้เรามักมองไม่เห็นเพื่อนฝูงของเขา เพราะอะไรล่ะ...เพราะเขามักแสดงอำนาจออกมาตลอดจนลืมนึกถึงไปว่า สิ่งอื่นจะเป็นเช่นไรบ้างจนแม้แต่เพื่อนของเขาก็ต้องหนีหายกันไปหมด" "งั้นก็แสดงว่า พระอาทิตย์ไม่ดีใช่ไหมคะ แม่...???"มิวเอ่ยถามด้วยความสงสัย "จะว่าไม่ดีเลยมันก็ไม่ใช่นะ บางครั้งที่เขานึกถึงบริวารทั้งหลายของ เขาก็จะดึงม่านก้อนเมฆมาบังตัวเองไว้เพื่อไม่ให้บริวารต้องทรมานจากแสงของเขาเอง หรือบางครั้งที่เขาสำนึกผิด เขาก็จะร้องไห้ผ่านม่านเมฆมานี่แหละจ๊ะ แต่ถึงอย่างไร เขาก็จะกลับมาส่องแสงดังเดิมเพราะถ้าบริวารทั้งหลายนี้ขาดแสงของเขาไป ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันนะ ถึงแสงนั้นจะร้อนแรงเหมือนไฟที่เผาผลาญมากแค่ไหน มันก็จะต้องอ่อนลงเป็นสัญญาณว่าเหน็ดเหนื่อยเสมอ ท้ายที่สุดแล้วก็จะดับไปในเวลาค่ำมืด"
"อ๋อ ค่ะ ถ้างั้นก็แสดงว่าเขาจะมีอำนาจร้ายแรง ไม่เคยสนใจบริวาร แต่เขาก็ยังคงสำนึกอยู่แล้วลึก ๆ ใช่ไหมคะ"มิวเอ่ยถาม
"ถูกต้องจ๊ะ เอาละ มาพูดถึงเรื่องของพระจันทร์กันบ้าง พวกหนูรู้ไหม แม้ว่าเขาจะเด่นเป็นเพียงผู้เดียวในยามราตรีแต่เขาก็ยังไม่แสดงอำนาจจนเกินตัว เราจึงมักเห็นเพื่อน ๆ ของเขามาอยู่เคียงข้างเสมอนั่นคือดวงดาวนั่นเอง แต่อะไรล่ะที่ทำให้เขามีเพื่อนฝูง นั่นก็คือการรักษามิตรไง บางครั้งที่พระจันทร์แสดงตัวเพียงน้อยนิดนั้น เพื่อให้บริวารที่อยู่บนดาวเคราะห์ต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับดวงดาวหรือหมู่ดาวน้อยใหญ่ที่เป็นเพื่อนของเขา เพื่อนของเขาจึงช่วยกันเปล่งแสงเวลาที่พระจันทร์ไม่อยู่ แต่พอพระจันทร์เริ่มแสดงตัวมาวันละน้อยนิดจนเต็มตัวนั้น เขาก็ปฏิบัติภารกิจของเขาแทนเพื่อน ๆนั่นคือการส่องแสงในตัวออกมายามค่ำคืน ซึ่งทำให้บริวารสามารถมองเห็นในที่ต่าง ๆเวลากลางคืนได้ แม้ว่าหนทางจะมืดเพียงใดแต่เขายังทำให้บริวาร พอสัญจรเดินทางกันได้..." มารดาซึ่งบรรยายยังไม่ทันจบ แมวก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
"แต่พระจันทร์ก็มีอำนาจน้อยกว่าอยู่ดี สู้พระอาทิตย์ไม่ได้เลย หนูไม่ค่อยชอบอ่ะ"แมวพูดจาดูหมิ่น มารดาจึงพูดต่อว่า
"จริงจ๊ะ ที่ว่ามีอำนาจสู้พระอาทิตย์ไม่ได้ แต่เรื่องที่หนูจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็เป็นความชอบส่วนบุคคล แต่สำหรับตัวแม่เอง แม่กลับชอบและรักพระจันทร์มาก ๆ เพราะบางครั้งที่เขารู้สึกผิดเพราะว่าทำตัวเหนือกว่าเพื่อน ๆ เขาก็จะหายไป ยอมละทิ้งหน้าที่เพื่อตามหาเพื่อน ๆ กลับคืนมา ในบางคืนเราจึงมองไม่เห็นอะไรเลย ทั้งดวงจันทร์และดวงดาว แต่พวกที่ยื่นมือมาช่วยในการค้นหาก็คือก้อนเมฆนั่นเอง เขาจะมาช่วยบดบังไว้ไม่ให้บริวารได้พบเห็น เพราะเขารู้ว่าหากบริวารได้พบเห็นคงจะต้องเกิดความไม่เชื่อถือในตัวของพระจันทร์แน่ ๆ เพราะขนาดเพื่อนของเขายังหนีเลย แล้วบริวารจะอยู่ได้ยังไงล่ะ จริงไหม ก้อนเมฆเลยต้องคอยบดบังไว้ อาจมีบ้างที่บริวารต่างสงสัยว่าหายไปไหน แต่เขาก็จะกลับมาเห็นได้อีกครั้งเมื่อพระจันทร์ตามหาเพื่อน ๆ พบแล้วน่ะจ่ะแต่บางครั้งที่เขาหาเพื่อนไม่เจอ น้ำตาของเขาก็จะไหลออกมาในยามค่ำคืนก็คือฝนตกกลางคืนนั่นแหละจ๊ะ เขาจะหยุดร้องจนกว่าจะหมดหน้าที่หรือไม่ก็เพื่อน ๆของเขากลับมาหาเหมือนเดิมนั่นเอง" มารดาพูดจบก็ส่งยิ้มให้ลูก ๆ
"ต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป"มิวพูด "ถูกจ๊ะ คราวนี้หนูคิดได้หรือยังจ๊ะว่า โตขึ้นหนูอยากเลือกเป็นคนแบบไหน" มารดาถามลูกทั้งสอง "พระจันทร์ค่ะ เพราะหนูอยากมีเพื่อนคอยช่วยเหลือ"ลูกทั้งสองตอบ "ดีจ๊ะ เพราะฉะนั้นเราก็ห้ามดูถูกผู้อื่น อย่าถือตัว อย่าเหลิงในอำนาจที่เรามีและอย่าเอาจุดเด่นในตัวเราไปข่มผู้อื่น เพราะเช่นนั้นหนูก็จะไม่มีเพื่อน ๆและโตขึ้นเมื่อได้เป็นคนใหญ่คนโต ก็จะไม่มีใครคนไหนชอบลูกแน่ ๆ และที่สำคัญจงใส่ใจคนใกล้ตัวเราไว้เสมอ จำไว้นะจ๊ะ...นอนซะลูก"มารดาส่งยิ้ม ดึงผ้าห่มคลุมร่างลูกสาวไว้ ก่อนจะหันหลัง เดินออกไปนอกห้อง "หนูรักแม่นะคะ"ลูกสาวทั้งสองตะโกน เสียงลอดผ่านประตู เร้นลอดเข้าโสตมารดาของตน ที่ทำให้รอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติเผยออกมา
จากคุณ |
:
~*..Microfone SG Star..*~
|
เขียนเมื่อ |
:
25 มิ.ย. 53 14:59:31
|
|
|
|