ความคิดเห็นที่ 1 |
Chapter 20
บรรยากาศช่วงนี้...มันช่างดูอึมครึม....
นี่คือความคิดของเซน เพราะตอนนี้เท่าที่เขารู้สึก แต่ละคนในวง มีอะไรในใจกันหมดทุกคน...
แม้แต่ริท ที่ปกติจะหาเรื่องเล่นมุกตลอดเวลา ยังอยู่ในสภาพซึมกระทือไปด้วย...เจ้าตัวเล็กได้แต่เอาผ้าขี้ริ้วเช็ดๆถูๆกลองแบบแกนๆ
ส่วนกันน่ะหรือ ไม่ต้องพูดถึง นั่งเหม่อแล้วก็เหม่ออีก จนดูท่าจะเลอะเลือนไปแล้วกระมัง
ส่วนพี่โตโน่ ตั้งแต่วันนั้นแล้ว ก็พูดแทบนับคำได้ แม้ภาพที่เห็นตรงหน้าจะเห็นว่าพี่ใหญ่กำลังเช็คสายกีตาร์ แต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า สายตาของเขาไม่ได้อยู่ที่กีตาร์เลยแม้แต่น้อย -*-
ให้ตายสิ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!! หนุ่มคิ้วเข้มคิดในใจ เขาชำเลืองมองไปทางพี่เก่ง ที่ปกติจะพูดเรื่องวิชาการยาวยืดเป็นปกติ ก็พลอยเงียบไปแบบไม่ปกติไปด้วย แต่พอยิ่งมองพี่เก่ง เขาก็ยิ่งรู้สึกสะท้อนใจขึ้นมา...
อันที่จริง เขาเองก็อาจจะทำผิดต่อพี่เก่งไปด้วยเหมือนกันสินะ...
แล้วความรู้สึกที่ว่า เขาอาจจะเป็นคนๆเดียวที่ปกติที่สุดในกลุ่มก็มลายหายไปจนสิ้น...
แล้วบรรยากาศก็กลับคืนสู่ความเงียบอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง...
..........................................
ต้นหูกวางและต้นชมพูพันธ์ทิพย์ที่ถูกปลูกอยู่ทั่วบริเวณนั้นชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน หยาดน้ำร่วงพราวเป็นสายตามทาง เหมือนฝนยังไม่หยุดตก ทั้งที่ฝนหยุดมาสักระยะแล้ว
โตโน่เดินวกกลับมาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์เช่นเดิม เขาพยายามท่องกับตัวเองในใจ ยังไงๆวันนี้เขาจะต้องมีความกล้าให้ได้ กล้าที่จะยอมรับความจริงสักที...ตอนนี้เขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า เขารู้สึกยังไง ใจนึง เขาภาวนาไม่ให้เรื่องที่เขาสงสัยมันเป็นความจริง มันอาจจะเป็นเพราะเขาอยากจะรู้สึกดีขึ้นมาสักนิดว่า...
เขาจะไม่ได้เป็นฝ่ายที่ถูกหลอกอย่างที่แล้วๆมา!!!
ความหลังครั้งเก่ายังคงวนเวียนมาทำร้ายเขาอยู่เสมอ บางครั้งมันก็ตามไปทำร้ายเขาแม้แต่ยามหลับ เขาเองก็อยากจะหลุดพ้นจากมันเสียที...
"เฮ้ย นวก แกได้คุยกะพี่โตโน่มั่งยังวะ"
เสียงๆหนึ่งดังมาจากระยะไกล ชายหนุ่มรีบแอบเข้าหลังพุ่มไม้ทันที เขาชำเลืองมองไป นั่นมันต่ายกับนวกนี่นา...
"ก็ ยังไม่ได้คุยเลยอะ แต่วันก่อน ชั้นไปดูพี่เค้าอยู่นะที่ริมน้ำน่ะ แกมีอะไรเหรอ"
"คือ ชั้นสงสัยนะว่า พี่โตโน่เค้าสงสัยเรื่องของแกอยู่น่ะ" ต่ายตั้งข้อสังเกต ทำเอาเกรซถึงกับหน้าตาตื่นขึ้นมาทันที
"เฮ้ย จริงดิ พี่เค้ามาถามเอากับแกเหรอ!"
"ยัง! แต่ชั้นก็กลัวๆอยู่เหมือนกันว่ะ ไม่รู้ดิวะ ลางสังเห่ามันบอก วันก่อนเห็นแบงค์บอกมีผู้ชายท่าทางลับๆล่อๆมาถามหาแกแถวนี้ ชั้นเลยว่า สงสัยเป็นพี่โตโน่เปล่าวะ" ต่ายเล่า แต่เกรซกลับส่ายหน้า
"ชุ แกคิดมากไปใช่ไหม พี่เค้าจะมาสงสัยอะไรชั้นล่ะ ไม่มีเลย พีเค้าสนใจไอ้นวกมากขนาดนั้นเลยเหรอ..." หญิงสาวเผลอตัดพ้อแบบไม่รู้ตัว ต่ายมองหน้าเพื่อนแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
"ไอ้นวกบ้า แกอย่าบอกนะเว้ย ว่าแกอิจฉาเกรซน่ะ!!!"
"จะบ้าเหรอวะ ชั้นจะอิจฉาตัวเองไปทำไมกัน!!!"
สาวน้อยเผลอขึ้นเสียงไป แล้วเธอก็ต้องตกใจตัวเอง จะว่าไปเะอเองก็ไม่เคยคาดคิดเมือนกัน ว่าเธอจะมาคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเรื่องแบบนี้ แต่ในส่วนลึก หญิงสาวก็กลับคิดวนเวียนถึงมันจนได้...ที่จริงแล้ว พี่โตโน่ชอบเธอ หรือเพียงแค่หลงเงาร่างของเธอเท่านั้นเอง...แค่คิดถึงตรงนี้ เธอก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้...
"ชั้นละเห็นใจแกจริงๆว่ะ แต่ชั้นว่านะ แกรีบๆหาโอกาสบอกความจริงพี่เค้าไปเถอะ ถ้าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป ชั้นไม่รู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น"
"พี่ชาย มาทำอะไรตรงนี้อีกแล้วฮะ"
เสียงนั้นดังมาจากทางด้านหลังของโตโน่ สาวแบงค์เจ้าเก่านั่นเอง...เสียงนั้นนอกจากจะปลุกโตโน่จากภวังค์แล้ว...
มันยังทำให้สองสาวที่กำลังสนทนากันอยุ่ตกใจแทบสิ้นสติเช่นกัน!!!
"พ...พี่โตโน่..."
เสียงดังแผ่วราวกับกระซิบเปล่งออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว ทั้งสองสบตากันแค่เพียงครู่ด้วยความรู้สึกที่เกินกว่าใครจะรู้ได้...
ความรู้สึกทั้งหลายไหลเวียนผ่านสายตาคู่นั้น มันมีทั้งประกายของความเจ็บปวด ความผิดหวัง และความไว้เนื้อเชื่อใจก็ถูกทำลายให้พังทลายลงไม่มีชิ้นดี!!!
หญิงสาวรู้สึกแน่นตื้อไปทั้งอก คำพูดต่างๆที่ถูกเก็บอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ไม่สามารถที่จะบรรยายมันออกมาได้เลยสักนิด เธอยังคงนิ่งอึ้ง และไม่รู้จะสรรหาคำใดมาแทนความรู้สึกในตอนนี้ แม้ว่าใจอยากจะอธิบายเหตุผลร้อยแปดพันประการ แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ไม่สามารถเปล่งเสียงอะไรออกมาได้อีก...
และก็เป็นฝ่ายชายหนุ่ม ที่ตัดใจหลบสายตาที่เต็มติ้นไปด้วยประกายแห่งความเจ็บปวด แล้วหันหลังเดินกลับไปอย่างไม่คิดจะเหลียวกลับมา...
หญิงสาวไม่สามารถที่จะทรงตัวยืนอยู่ที่ตรงนั้นได้อีก ขาของเธอไร้เรี่ยวแรงที่จะพยุงตัวอยู่ได้ เธอทรุดตัวลงกองกับพื้นแบบสิ้นท่า ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาจู่โจมที่กลางหัวใจ...ถ้าเพียงเขาจะด่าทอเธอ ต่อว่าเธอแม้เพียงสักคำ มันอาจจะทำให้เธอรู้สึกดีกว่านี้...รู้สึกดีกว่าความเงียบ...ที่มันช่างปวดร้าวเหลือเกิน...
น้ำตาเจ้ากรรมค่อยๆไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ในตอนนี้ หญิงสาวหมดสิ้นความสามารถในการควบคุมตัวเอง เธอได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหยุดไม่ได้
"ใจเย็นๆ เกรซ ใจเย็นๆ...." ต่ายกอดเพื่อนสาวเอาไว้อย่างให้กำลังใจ สาวน้อยในอ้อมกอดสะอื้นจนตัวโยน
"เค้าไปแล้ว ต่าย เค้าไปแล้ว เค้าโกรธชั้น เค้าต้องเกลียดชั้นด้วยแล้วแน่ๆ...ชั้นจะทำยังไงดี..."
"อย่าพูดแบบนั้นสิวะ เกรซ เข้มแข็งไว้ดิวะ มันไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก..."ต่ายลูบหลังลูบไหล่ พยายามปลอบใจเพื่อนสาว...
"ชั้นไม่เคยเห็นเค้าเป็นแบบนี้มาก่อนเลย เค้าต้องโกรธชั้นมากแน่ๆ เค้าคงไม่อยากจะคุยกับชั้นแล้ว..."
สาวน้อยที่เคยเข้มแข็งในทุกๆเรื่อง ตอนนี้กลายเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอผู้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย ต่ายได้แต่ส่ายหน้า ลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจ...คำพูดที่จะต่อว่าให้ได้เคืองกันนั้น ถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้น...ไม่มีประโยชน์ที่จะรื้อฟื้นในสิ่งที่พลาดไปแล้ว....
ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเบาะหนังมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่พุ่งทะยานไปข้างหน้า ก็ไม่ได้มีอารมณ์ที่แตกต่างกันนัก ใบหน้าและจมูกของเขาแดงก่ำ คงยากที่จะมีใครบรรยายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้...ในหัวของเขา มีแต่ถ้อยคำเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา...
นี่เขาจะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกหลอกอีกครั้งแล้วใช่ไหม...ทำไมมันไม่จบไม่สิ้นไปเสียที!!!
................................................
"พี่โต อยู่ทำไมมืดๆ ทำไมไม่เปิดไฟ"
เซนกลับมาที่ห้องตอนค่ำ พบเงาตะคุ่มๆของรุ่นพี่ร่วมห้องนั่งอยู่อย่างซังกระตาย เขาจึงจัดแจงเปิดไฟให้สว่าง แต่ทันทีที่ไฟสว่างขึ้นมานั้น...
"ไอ้เซน!!!"
"ค...ครับ มีอะไร พี่โต" เซนตอบกลับแบบแหยงๆ เวลาที่โตโน่ทำเสียงแบบนี้ทีไร เขาจะรับรู้ได้ทันทีว่า บรรยากาศมันเริ่มไม่ธรรมดาถึงขีดสุดแล้ว...!!!
"เมิงไปตามไอ้ริทกับไอ้กันมานี่ทีซิ!!! เร็วๆ!!!"
น้ำเสียงนั้นทำให้เซนขนลุกจนยากจะปฏิเสธ เขาทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่ารับคำแล้วไปตามเพื่อนทั้งสองมาตามบัญชาเฮียใหญ่
ชั่วไม่กี่อึดใจ ชายหนุ่มทั้งสี่ก็ยืนอยู่ในห้องเดียวกัน...
"พี่โตโน่เรียกพวกเราสองคนมาทำไม" ริทเอ่ยถามด้วยความรู้สึกไม่สู้ดี วันนี้ พี่ใหญ่ของพวกเขาดูท่าทีน่ากลัวอย่างประหลาด ทำเอาน้องๆทั้งสามขนลุกเกรียว
"ริท เมิงออกไปซื้อเหล้ามา พี่อยากกินเหล้า!!!"
"หา!!! อยากกินเหล้า!!!" สามหนุ่มที่เหลือประสานเสียงกันด้วยความตกตื่นใจและไม่คาดฝันมาก่อน
"พี่โตโน่ครับ นิยายเรื่องนี้วัยรุ่นอ่านเยอะนะครับ เราต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนสิครับ" กันพยายามพูดโน้มน้าวให้โตโน่เปลี่ยนใจ แต่ทว่า...
"ก็พี่อยากกินอะ มีไรมั้ยวะ เดี๋ยวพอซื้อมา เมิงก็ทำโมเสกเบลอขวดเหล้าไว้ละกัน!!!" ชายหนุ่มแถแบบถลอกๆ "รีบออกไปซื้อให้ไวเลย เร็ว!!!"
"ครับๆ" ริทชำเลืองมองพี่ชายใหญ่แบบเกรงๆ ก่อนจะเผ่นออกจากห้องไปซื้อเหล้าตามบัญชาแบบกลัวๆ...
ชั่วอึดใจ เหล้า...น้ำแข็ง โซดา ก็พรั่งพร้อมอยู่ในห้อง...
"นี่พี่โตโน่จะกินเหล้าจริงๆเหรอครับ เด็กอาจจะอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่ก็ได้นะครับ!!!" กันพยายามเตือนอีกรอบ แต่ก็ได้คำตอบแบบเดิมๆ..
"เมิงก็เอาป้าย น 18 ไปติดหน้าจอซะ หมดเรื่อง" หนุ่มตี๋ค้านอย่างรั้น "แล้วพวกเมิงอะ ไอ้กัน ไอ้ริท มากินเหล้าเป็นเพื่อนพี่เลย!!!"
"ไม่ได้นะครับ พี่โตโน่ กันเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนนะครับ กันไม่ดื่มนะครับ" หนุ่มผิวเข้มยกมือพลางปฏิเสธ
"ริทก็ไม่กินนะ พี่โตโน่ ริทกินเหล้าไม่เป็น!!!"
และแล้ว เวลาก็ผ่านไปสามชั่วโมง....
"เฮ้ย!!!! ใครเก๋าวะ ใครเก๋าออกมาต่อยกะกุเลยมา!!!" หนุ่มร่างเล็กชูกำปั้นหรา พร้อมกับชกลมในอากาศโดยที่ไม่มีคู่ต่อสู้ "โด่เอ๊ย ไม่แน่จริงนี่หว่า!!!"
ส่วนอีกมุมหนึ่ง หนุ่มผิวเข้มกำลังนอนร้องเพลงรำพันแบบเพ้อๆเรื่อยๆเปื่อยๆ
"อีกนานหมายเธอจาทามจายได้หรือป่าวววว หากว่ามานยืดยาววววว โว้วววว โววววว โอ้ววว เย"
"เซนเว้ยยยย มารินเหล้าให้พี่อีกเร็วเข้า!!!" โตโน่ชูแก้วที่ว่างเปล่าหรา เซนได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา
ไอ้พวกที่บอกว่าไม่กิน มันก็กินทุกรายสิน่ะ -*- ชายหนุ่มคิดในใจอย่างกลัดกลุ้ม พลางขยับป้าย "น 18" หน้าจอที่ล้มลงให้ตั้งขึ้นมาใหม่
"พี่โตโน่เมามากแล้วนะครับ พอเถอะครับ" เซนปราม
"ไม่พอเว้ย พี่อยากเมาก็ต้องเมาดิวะ รินมาเว้ย รินมา!!!"
เซนส่ายหน้าอีกรอบ "พี่โตโน่ครับ ถ้าพี่มีปัญหา เซนบอกได้เลยนะว่า เหล้ามันไม่ใช่ทางแก้ มันอาจทำให้ลืมได้พักนึงก็จริง แต่พอสร่าง มันก็กลับมาใหม่อยู่ดี"
โตโน่นิ่งไป เซนพยายามคิด อย่างน้อย พี่แกน่าจะฟังมั่งน่ะ...
"พี่โตโน่ลองถามตัวเองดูสิครับว่า ทำไมพี่ถึงได้รู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี มันเพราะอะไร และพี่ต้องการให้มันเป็นแบบไหน อย่าทำตัวเป็นพระเอกนิยายน้ำเน่าเลยครับ"
"ใช่สิ มันไม่ใช่รักในนิยาย คอยเตือนตัวเองเข้าไว้ให้รับความจริง!!!"
อยู่ๆ โตโน่ก็ลุกขึ้นมาชูกำปั้น แล้วร้องเพลงต่อซะงั้น เซนกุมหัว นี่ตกลงพูดไปไม่ได้ฟังเลยใช่ไหมเนี่ย!!!
แต่แล้ว อยู่ๆ ร่างของชายหนุ่มจากที่ชูกำปั้นร้องเพลงเมื่อสักครู่ ก็ทรุดลงพังพาบกองกับพื้นไปอย่างรวดเร็ว เซนตกใจ รีบปราดเข้าไปดู ปรากฏว่า
"โธ่เอ้ย หลับนี่หว่า!!!"
เสียงกรนเบาๆเป็นจังหวะ แสดงให้เห็นว่าพี่ใหญ่หลับไปแล้วจริงๆ เซนหันไปอีกมุมของห้อง เพื่อนทั้งสองทั้งริทและกัน นอนหลับพังพาบทับกันอยู่อย่างไร้สติ เซนส่ายหัว พลางหยิบผ้าห่มสามผืนออกจากตู้ แล้วบรรจงห่มให้เพื่อนๆแต่ละคน
"ปวดหัวจริงๆวุ้ย เดี๋ยวนอนมั่งดีกว่าเรา"
แล้วคืนนั้น ห้องเช่าเล็กๆก็อัดแน่นไปด้วยคนถึงสี่คน นอนกองกันอยู่ตรงนั้นนั่นเอง...
จากคุณ |
:
aoikotori
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 53 01:52:29
|
|
|
|