ความคิดเห็นที่ 1 |
Chapter 21
ทางเดินที่เต็มไปด้วยต้นไม่ร่มครึ้มจนใกล้เคียงกับป่าละเมาะ คือทางเดินในคณะเศรษฐศาสตร์ ภาควิชาการเกษตร...
หนุ่มผิวเข้มเดินอยู่คนเดียวอย่างเหงาๆ เขาทอดถอนใจครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบ ยามอยู่กับเพื่อน เขาต้องเก็บกดความรู้สึกแย่ๆเอาไว้ในใจ ไม่แสดงออกมาให้ใครเห็น เขาไม่ต้องการจะให้ใครมาเห็นใจมากนัก
ชีวิตของเด็กหนุ่มที่รักสันโดษ อยู่วัดมาหกปี มันล่อหลอมให้เขาเป็นคนคิดดี พูดดี และทำดี แต่กระนั้น มันก็ทำให้เขาเป็นคนรักสันโดษ ไม่ค่อยคุ้นชินกับสังคมคนหมู่มากเท่าไหร่นัก ทุกครั้งยามที่มีปัญหา ชายหนุ่มจึงมักจะอาศัยการนั่งสมาธิเป็นหนทางหนึ่งในการทำให้จิตใจสงบ พร้อมที่จะรับปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อไป...
ชายหนุ่มย้อนกลับมามองถึงความรักของเขา ที่มันยังคงอึมครึม ไม่ชัดเจน เขาก็ได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
หลายวันมาแล้วที่เขาแทบไม่ได้คุยกับเธอเป็นชั้นเป็นอันสักเท่าไหร่ ลึกๆแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าในใจของเธอคิดยังไงกันแน่...
แล้วความคิดของชายหนุ่มก็ต้องหยุดลง เมื่อเจอกลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่มุงดูอะไรกันบางอย่างที่บอร์ดประกาศของภาควิชา พร้อมเสียงซุบซิบนินทาอย่างต่อเนื่อง...
กันฉงนใจ ความอยากรู้อยากเห็นผุดขึ้นมาเป็นเครื่องหมายคำถามในหัวของเขา แต่แล้ว ก็มีคนๆหนึ่งที่หลุดออกมาจากกลุ่มไทยมุง...แจ๊คนั่นเอง
"คุณกัน เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!!!"
"มีอะไรเหรอ แจ๊ค" กันทำสีหน้างงผสมตกใจ ถ้าแจ๊คบอกว่าเรื่องใหญ่ แสดงว่ามันเป็นเรื่องที่เขาต้องรับรู้ ชายหนุ่มแหวกคลื่นมหาชน ตรงไปที่บอร์ด
ภาพเล็กๆที่ติดอยู่ เป็นรูปถ่ายหน้าตรงในชุดนิสิตของแต้ว ซึ่งถูกแปะอย่างหยาบๆอยู่บนกระดาษขาวขนาดเอสี่ มีหมึกเมจิกเขียนตัวโต
"น.ส.ณฐพร นิสิตปี 2 พฤติกรรมชอบแย่งผัวชาวบ้าน"
ด้านล่าง ปรากฏภาพแต้วในทรงผมบ็อบสั้น ถ่ายภาพคู่กับผู้ชายคนหนึ่งอย่างสนิทสนม...
ถ้ากันจำไม่ผิด ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็น อาจารย์ศุภรุจ...อาจารย์ประจำคณะวิศวะฯนี่นา!!!
ความรู้สึกต่างๆนานาถาโถมเข้ามา จนกันแทบจะตั้งตัวไม่ถูก เขาไม่สามารถจับต้นชนปลายอะไรได้ เขารู้สึกเคว้งไปหมด จนเพื่อนแจ๊คต้องมาพยุงเขาไว้
"เป็นอะไรหรือเปล่า คุณกัน ถึงกับจะเป็นลมเลยเหรอ"
"เปล่าๆ ผมไม่ได้เป็นอะไร..." กันพยายามเรียกสติกลับมา ทันใดนั้นเอง ก็มีอาจารย์แหวกฝูงชนเข้ามา ฉีกกระดาษที่ติดอยู่ที่บอร์ดนั้นออก พลางโบกมือไล่เหล่านิสิตที่เกาะติดสถานการณ์ราวกับไทยมุง
"มุงอะไรกัน พวกเธอ มีอะไรก็ไปทำสิ!!!"
เหล่านิสิตที่สุมหัวกันอยู่ สลายตัวกันไปอย่างช้าๆ แต่เสียงซุบซิบยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง กันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย ในตอนนี้ เขาอยากจะพบหน้าเธอเหลือเกิน
เขาไม่หวังที่จะรู้ความจริงในตอนนี้ เขาหวังแค่เพียงจะช่วยปลอบใจเธอเท่านั้น เพราะเขารู้ดีว่าในขณะนี้เธอจะต้องเผชิญกับความทุกข์อันแสนสาหัสอยู่เป็นแน่!!!
"หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้..."
นี่เวลาก็ล่วงเลยไปจนใกล้ค่ำแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามโทรหาเธอกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เธอก็ยังคงปิดมือถือ หนุ่มแก้มบุ๋มรู้สึกร้อนรนในใจ ทั้งที่เขาห่วงใยเธอมากขนาดนี้ ทำไมไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลยนะ กันเดินวนไปมาราวเสือติดจั่น แล้วขาก็พาเขาไปที่ตึกกองกิจกรรมนักศึกษาแบบไม่รู้ตัว
ที่นี่ คือที่ที่เขาได้พบกับเธอเป็นครั้งแรก...ห้องชมรมดนตรีไทย
ชายหนุ่มเดินไปสัมผัสเครื่องดนตี ทั้งระนาด ฆ้องวง ซออู้ ซอด้วง จะเข้....และ ขิม...เขาหยิบไม้ตีขิมขึ้นมา ใจคิดวนไปถึงคนที่เล่นมัน รอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ ความทรงจำที่มีต่อเธอมากมายหลายหลาก วันที่พูดคุยกัน จับมือกัน วันที่เขาเป่าขลุ่ยให้เธอฟัง ร้องเพลงหวานๆให้เธอฟัง จนเธอพูดใส่ว่าน้ำเน่า ความทรงจำที่เกี่ยวกับเธอมากมายเหลือเกิน....มากจนเขาไม่สามาถที่จะอยู่เฉยๆได้...
เสียงประตูห้องเปิดออกอย่างช้าๆ กันหันไปตามเสียงนั้น
และผู้ที่เข้ามาก็เป็นบุคคลที่เขารอคอย...แต้วนั่นเอง!!!
"แต้ว..." กันส่งเสียงเรียกหญิงสาวแผ่วเบา แต่เธอกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม สองสายตาสบกันแค่เพียงเสี้ยววินาที แล้วหญิงสาวก็ผลุนผลันออกจากห้องไป!!!
"แต้ว เดี๋ยวก่อน!!!" กันรีบวิ่งตามเธอไปทันที และด้วยขาที่ยาวกว่าและความเร็วที่มากกว่า เขาก็วิ่งไล่ทันเธอจนได้ หนุ่มผิวเข้มฉวยต้นแขนเธอเอาไว้
"แต้ว...อย่าหนีกันอีกเลยนะ..."
หญิงสาวก้มหน้านิ่ง ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าในใจของเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ แล้วเธอก็เปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา
"กัน...ปล่อยแต้วไปเถอะ...แต้วไม่ได้ดีพออย่างที่กันคิดหรอก"
เสียงนั้นขาดเป็นห้วงปนกับเสียงสะอื้น กันรู้สึกสงสารเธอจับใจ เขาตัดสินใจรวบตัวเธอเข้ามากอดจากด้านหลัง ซุกหน้าลงกับเส้นผมของเธอ ใจหวังอยากถ่ายทอดความอบอุ่นให้เธอมากที่สุดเท่าที่จะทำได้...
"กันจะปล่อยแต้วไปได้ยังไง กันไม่ได้รักแต้วที่แต้วดีหรือไม่ดีพอ แต่กันรักแต้วเพราะว่าแต้วคือแต้วต่างหากล่ะ..."
หญิงสาวนิ่ง ความเงียบทำให้เขาได้ยินเสียงสะอื้นของหล่อน โลกคล้ายจะหยุดหมุนลงตรงนั้น แต่แล้ว ก็เป็นฝ่ายหญิงสาวที่ผละออกจากอ้อมแขนของเขา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง..
"ขอบคุณนะ ที่รักแต้ว แต่ตอนนี้ ขอเวลาให้แต้วได้มั้ย..." น้ำตาของหญิงสาวไหลลงมาอาบแก้ม "แต้วอยากอยู่คนเดียว..."
หนุ่มแก้มบุ๋มปล่อยสองมือตกลงข้างตัว ป่วยการที่จะรั้งเธอเอาไว้ในเมื่อเธอไม่พร้อมที่จะยืนอยู่ตรงนี้แล้ว...กันได้แต่ยืนคอตกอยู่ตรงนั้น และปล่อยให้หญิงสาวเดินจากออกไปช้าๆ เธอน้ำตาไหลอาบแก้ม ความเศร้าเข้ามาถาโถมคนทั้งคู่
ทั้งที่รักมากเหลือเกิน...แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย...
เสียงร้องที่ไร้ดนตรีดังขึ้นมาในโสตของเขา
"....อีกนานไหมเธอจะทำใจได้หรือเปล่า...
...หากว่ามันยืดยาว...แล้วฉันต้องทำเช่นไร...
...ที่มันท้อไม่ใช่ต้องรอถึงเมื่อไร แต่กลัวเธอไม่ตัดใจ....
...สุดท้ายคนรอไม่เหลืออะไร ยิ่งซ้ำเติมความเสียใจให้คนที่มันรักเธอ...."
................................................................
หลังจากกวาดถูร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาปิดร้านเสียที หนุ่มคิ้วเข้มยกเก้าอี้ขึ้นวางบนโต๊ะ ก่อนที่จะปิดไฟและทรุดตัวลงล็อคกุญแจร้าน...เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เขาก้ได้พบกับสายตาที่คุ้นเคย...
นาถนั่นเอง...
"นาถ มาทำอะไรมืดๆครับ" เซนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "นี่สามทุ่มแล้วนะ"
"วันนี้นาถคุยธีสิสเพิ่งเสร็จน่ะ เลยแวะมาดูว่าเซนปิดร้านหรือยัง" หญิงสาวยิ้ม "เผื่อจะมีเพื่อนเดินกลับบ้าน"
"คราวหลังโทรมาก็ได้ เดี๋ยวเซนไปรับถึงที่เลย ไม่ต้องเดินมามืดๆ รู้ไหม" เซนแกล้งทำเสียงดุ "ไปกันเถอะ เดี๋ยวเซนเดินไปส่ง"
"ทำเป็นดุนะ นึกเหรอว่าจะกลัว" หญิงสาวแกล้งหยอก
"เซนไม่ได้ดุซักหน่อยนะ เซนก็แค่...เป็นห่วง"
จบประโยคนั้น ทั้งสองก็เดินเคียงข้างกันไปแบบเงียบๆ ไม่ได้พูดจาอะไรกันมากมายนัก แต่สำหรับเซน มีอะไรหลายอย่างที่เขาอยากจะพูดแต่เขาก็ไม่สามารถพูดมันออกไปได้...
ดังนั้น ทางเลือกที่เขาตัดสินใจเลือกก็คือ...ความเงียบ
"จะไม่คุยอะไรหน่อยเหรอ" นาถเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน "เป็นอะไรน่ะ แอบโกรธนาถเปล่าเนี่ย"
"เปล่านี่ เซนจะไปโกรธอะไรนาถล่ะ"
"ก็เมื่อกี้ทำเสียงดุเชียว แถมยังไม่ยอมคุย นาถก็นึกว่าโกรธซะอีก" หญิงสาวแอบอมยิ้ม ทางเดินมืดๆแถวนั้น ทำให้เขามองเห็นหน้าเธอไม่ชัดนัก
"ปกติ เซนก็ไม่ค่อยได้พูดอยู่แล้ว" ชายหนุ่มยิ้มตอบ "แต่ก็แปลกนะ มีแต่คนชอบมาถามปัญหายากๆกับเซน ให้เซนแก้ปัญหาต่างๆนานาให้ตลอด ทั้งๆที่เซนไม่เคยมั่นใจเลยว่า เซนจะช่วยอะไรใครเขาได้"
"ทำไมเซนคิดอย่างนั้นล่ะ ที่คนอื่นๆเค้าไว้ใจมาปรึกษาเซน ก็แสดงว่าเซนเป้นคนที่น่าเชื่อถือไม่ใช่เหรอ"
ชายหนุ่มนิ่ง อันที่จริงเขาอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า สาเหตุแห่งความไม่มั่นใจของเขานั้นมันอยู่ที่ว่า
เขายังแก้ปัญหาตัวเองไม่ได้เลยต่างหากล่ะ!!!
"ว้าย!!!"
ชั่วขณะที่ตกอยู่ในภวังค์ จู่ๆ นาถก็ร้องโวยวายขึ้นมา สองแขนของหล่อนเกาะกุมที่ไหล่ของเขาเต็มที่
"นาถ มีอะไร!!!" เซนทำท่าตกใจไปด้วย หญิงสาวชี้มือไปทางทางเดินที่รกครึ้ม เต็มไปด้วยพงหญ้าข้างทาง
"งู เซน งูๆๆ!!!"
ชายหนุ่มเขม้นมองไปตามทางที่หญิงสาวชี้ งูสีดำมะเมื่อมเลื้อยผ่านหน้าทั้งสองไปในระยะประชิด เซนยืนตัวแข็ง เขาก็ไม่กล้าบอกใครเหมือนกันว่า เขาเองก็กลัวงูใช่ย่อย!!!
"มันไปหรือยังอะเซน!!!"
นาถเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา ในขณะที่สองแขนของเธอยังคงกระชับแน่นอยุ่ที่ไหล่ของเขา
"มันไปแล้วครับ..."
หญิงสาวถอนหายใจยาว ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าเธอกำลังกอดชายหนุ่มอยู่เต็มรักทีเดียว เธอพยายามปล่อยแขนออกจากไหล่ของเขา แต่สิ่งที่เธอรู้สึกคือ เธอไม่สามารถปล่อยมือจากเขาได้...
วงแขนของชายหนุ่มกระชับแน่นเข้ามาหาเธออยู่อย่างนั้น หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบที่ผิวหน้า พลางกระซิบเสียงแผ่ว
"ปล่อยนะ เซน..."
ความเงียบเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสอง สายตาสบกันในระยะใกล้ บรรยากาศช่างเป็นใจเหลือเกิน หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในสายตาของเขา และเธอก็เริ่มหวั่นไหว...
หวั่นไหวกับสายตาคู่นั้น...นี่สินะ สายตาพิฆาตที่เธอเคยอ่านเจอในนิยายอ่านเล่นหลายฉบับ ครั้นเจอเข้ากับตัวจริงๆ กลับทำให้หวั่นไหวแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่...
ใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน แต่ทว่า...
ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น ความยับยั้งชั่งใจมันมีมากกว่า เซนตัดสินใจผละออกจากเธอ...อย่างแสนเสียดาย!!!
"ซ...เซนขอโทษนะ..."
หญิงสาวรู้สึกเก้อๆ ใจหนึ่งก็โล่งอก แต่ใจลึกๆก็รู้สึกตื่นเต้นระทึกใจมิใช่น้อย เธอฝืนตอบไปด้วยเสียงแผ่วเบา
"ม...ไม่เป็นไรหรอก..."
"ไปกันเถอะ ดึกมากแล้ว" เซนเอ่ยปาก พร้อมคว้าข้อมือของหล่อนฉวยไปลิ่วๆ จนหญิงสาวตกใจ
"เดี๋ยวสิเซน จะลากนาถไปไหนเนี่ย!!!"
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาก้มหน้านิ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ยังคงวนเวียนอยู่ในความรู้สึกของเขา
พร้อมกับความรู้สึกผิดที่เกาะกุมอยู่เต็มหัวใจ!!!
จากคุณ |
:
aoikotori
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.ค. 53 17:52:38
|
|
|
|