ความคิดเห็นที่ 2 |
Chapter 23
ช่วงนี้ วงจรชีวิตของหมอเก่ง ดูท่าทางจะวุ่นวายเป็นพิเศษ
แค่ภารกิจการเรียน ก็ทำเอาเขาแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้แล้ว ทั้งเข้าห้องแล็บ ฟังเลคเชอร์ หาข้อมูลวิชาการ ขึ้นวอร์ด ก็ทำเอาแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว เรื่องที่จะไปเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรกนั้น เรียกได้ว่าหาโอกาสได้ยากเต็มที...
แต่วันนี้ ยังไงๆ เขาก็จำเป็นต้องเคลียร์คิวให้ว่าง...มันเป็นเหตุเนื่องมาจากโทรศัพท์เมื่อคืนก่อน...
"เก่ง เดี๋ยวอีกสองวัน น้องแกรนด์จะลงไปกรุงเทพฯนะ เก่งไปดูแลน้องด้วย"
เสียงสั่งของพ่อยังคงเฉียบขาดเสมอ...เสียงที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกว่าเป็นคำสั่งมากกว่าจะเป็นความห่วงหาอาทร...ซึ่งในจุดๆนั้น เขาจะได้รับจากแม่มากกว่าเสมอๆ แต่ถึงกระนั้น คำสั่งของพ่อ ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนรอบข้างจำต้องยึดถือปฏิบัติอยู่เสมอ...
"แต่ช่วงนี้เก่งยุ่งมากนะครับ ทั้งเข้าแล็บ ขึ้นวอร์ด...อาจจะมีเวลาไม่มาก..." ชายหนุ่มค้านเสียงอ่อยๆ อันที่จริงเขาเองก็ไม่อยากจะให้ใครๆมาฝากความหวังอะไรกับเขามากมายเช่นกัน...
"ไม่ว่างยังไงก็ต้องมีว่างบ้าง" พ่อพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่เฉียบขาด "ยังไง น้องก็เป็นคู่หมั้นของลูก อย่าทำให้พ่อแม่ต้องขายหน้า เข้าใจไหม!"
เก่งนิ่งคิด ในความรู้สึกของพ่อ เขาก็อาจจะเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ที่พ่อจะจับเดินหันซ้ายหันขวายังไงก็ได้ หรืออาจจะเป็นแค่อะไรสักอย่าง ที่เป็นเครื่องหนุนบารมีของพ่อให้พ่อ "ไม่ขายหน้าคนอื่น" ก็แค่นั้นเอง....
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของชายหนุ่มก็รู้สึกต่อต้านการ "มีคู่หมั้น" แบบเงียบๆในใจเช่นกัน เหตุผลที่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เขาเองก็ไม่อยากจะรู้สึกถูกบังคับไปมากกว่านี้...
แต่ว่า...
ชายหนุ่มหวนคิดถึงหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็น "คู่หมั้น" ของเขาตามฐานะทางสังคม หญิงสาวที่แสนงอน..ชอบทำหน้าตาบูดบึ้งตลอดเวลา ขนตาหนาราวกับพัดของเจ้าหล่อนกระพริบปริบๆชวนให้ขัน ท่าทางยามกินเป็นพายุบุแคมของเจ้าหล่อนก็น่ามอง...
มันทำให้ชายหนุ่มเผลออมยิ้มโดยไม่รู้ตัว...
"อ้าว พี่เก่ง จะออกไปไหนน่ะ เย็นแล้วนะ" ไอซ์ซึ่งเพิ่งกลับมาพอดีร้องทักพี่ชาย "โหย แต่งตัวหล่อ ฉีดน้ำหอมเสียฟุ้งเลย ทรงผมก็เนี้ยบ ไม่ได้ไปวอร์ดแน่ๆ" ว่าแล้ว หนุ่มน้อยก็ทำจมูกฟุดฟิด สูดกลิ่นน้ำหอมตามตัวของพี่ชายอย่างทะเล้น
"ก็ไปทำธุระตามพ่อสั่ง..."เก่งตอบด้วยเสียงเรียบๆ แต่ดูมีพิรุธล้นออกมา จนน้องชายจอมกวนอดที่จะเอ่ยปากแซวไม่ได้
"ธุระที่ว่านี่...ใช่พี่แกรนด์หรือเปล่า" หนุ่มน้อยยิ้มละไมอย่างล้อเลียน "นั่นแน่ สงสัยนี่จะเป็นภารกิจพ่อที่พี่เก่งเต็มใจทำแน่ๆเลย ใช่มั้ย!"
"เลอะเทอะละไอซ์ เลอะเทอะ!" เก่งปากว่าน้องชาย แต่อาการยิ้มกว้างและหลบสายตาพัลวันนั้นปกปิดความในใจไม่มิดเท่าไหร่ "เออ พี่ไปละ คงไม่กลับมืดหรอก หาข้าวกินเองแล้วกันนะ"
"คร้าบ" ไอซ์ส่งยิ้มกว้างให้พี่ชาย
เก่งผลุนผลันออกจากห้องไปทันที ไอซ์ยืนกอดอก พลางส่ายหัวน้อยๆ
เพิ่งจะเคยเห็นพี่เก่งมีอาการขนาดนี้นะเนี่ย!
........................................................
เกรซกำลังนั่งเปิดอัลบั้มรูปฆ่าเวลาแบบเสียมิได้อยู่ที่บ้านที่ใหญ่โตราวกับคฤหาสน์หลังนี้...ที่นี่คือบ้านของ บี ศุภโชค เจ้าของโมเดลลิ่งชื่อดังนั่นเอง!!!
ที่กล่าวว่าบ้านใหญ่ไม่แพ้คฤหาสน์นั้น เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากทีเดียว บ้านใหญ่ที่มีห้องเล็กห้องน้อยมากมาย อีกทั้งยังมีลานกว้างพอที่จะเล่นบาสได้ และสระว่ายน้ำที่ดูหรูหรา อีกทั้งยังมีห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องออกกำลังกายมากมายจนเกือบจะเทียบฟิตเนสดีๆสักแห่งได้เลยทีเดียว...
ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ บี ศุภโชค ทุ่มทุนสร้างสำหรับการปั้นเด็กในสังกัดทั้งสิ้น!
หลังจากที่เกรซได้นามบัตรของโมเดลลิ่งชื่อดัง และตัดสินใจโทรกลับไปในวันถัดมา เธอก็กลายเป็นเด็กในสังกัดของบี ศุภโชคแบบกลายๆ เธอก็ได้รับโอกาสในการถ่ายโฆษณาสองสามชิ้น ทั้งโฆษณาบะหมี่สำเร็จรูป ผงซักฟอก และครีมบำรุงผิว อีกทั้งยังได้เล่นมิวสิควีดีโออีกสองสามเพลง ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ "ชิมลาง" ในวงการบันเทิงได้เป็นอย่างดี
แต่วันนี้ เกรซพร้อมกับคุณแม่ มาที่บ้านของโมเดลลิ่งชื่อดัง เพราะข่าวที่ลงอย่างครึกโครมเมื่อสองสามวันก่อนนั่นเอง...
สาวน้อยเปิดอัลบั้มรูปทำเนียบเด็กหน้าตาดีที่ บี ศุภโชค เป็นผู้ไปชักนำเข้าสู่วงการ บ้างก็มาจากผู้จัดคนอื่น แต่ในภายหลังก็เต็มใจมาอยู่ในสังกัดของเขาเอง จนตอนนี้ แทบจะเรียกได้ว่า เด็กในสังกัดโมเดลลิ่งของบี ศุภโชคนั้น ยึดครองวงการบันเทิงไว้แทบหมด
แต่ละภาพ ล้วนเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดี โพสท่าสวยงามทั้งสิ้น ด้านล่างเป็นประวัติย่อๆ พร้อมผลงานที่ผ่านมาบ้าง เกรซพลิกไปทีละหน้าแบบไม่สนใจนัก จนกระทั่ง...
ชื่อ : ยุกต์ ส่งไพศาล
ชื่อเล่น : สน
อายุ : 19 ปี
ผลงาน : ภาพนิ่งนิตยสารเธอกับฉัน โฆษณาน้ำส้มมินิทเมท พัลพี...
"นี่มัน...." หญิงสาวเลิกคิ้วแบบงงๆ แต่ในตอนนั้นเอง บี ศุภโชคก็มาที่โต๊ะพอดี...
"อ้าว น้องเกรซ คุณแม่ รอพี่นานมั้ยฮะ ทานอะไรมาหรือยัง" บี ศุภโชค ร้องทักแบบเป็นกันเอง "เด็กๆหาน้ำหาท่าให้ดื่มหรือยัง"
"เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณบี" แม่ตอบยิ้มๆ ในขณะที่ลูกสาวยังคงทำหน้างงๆอยู่ จนคุณแม่ต้องสะกิด
"เหม่ออะไร อยู่เกรซ สวัสดีพี่บีเขาสิ!"
สาวน้อยตื่นจากภวังค์ จึงยกมือขึ้นมาไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะ พี่บี"
"ไหว้พระเถอะจ๊ะ" บีรับไหว้อย่างยิ้มแย้ม "ถ้าจะให้พี่บีเดา คุณแม่คงมาปรึกษาพี่บีเรื่องข่าว ใข่ไหมฮะ"
"ก็ใช่นะคะ คุณบี อยู่ๆข่าวก็ออกมาแบบนี้ ลูกพี่จะโดนมองไม่ดีนะคะ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงซีเรียส ผิดกับทาง บี ศุภโชค ที่ดูใจเย็นกว่ามาก
"ดารากับข่าว เป็นของคู่กันอยู่แล้วฮ่ะ คุณแม่ ถ้าเราจะมองโลกในแง่ดีนะฮะ ดีซะอีก พอเวลาน้องมีผลงานอะไร คนจะจำได้เร็วขึ้น"
"แต่เป็นข่าวกับผู้ชายนะคะ มันดูภาพพจน์ไม่ดีเลย" คุณแม่แย้ง แต่บีกลับส่ายหน้าอย่างอารมณ์ดี
"อย่าคิดมากฮ่ะ คุณแม่ เดี๋ยวต่อไป พอนักข่าวมาสัมภาษณ์ น้องก็ต้องตอบแบบ เป็นพี่เป็นน้องกัน อะไรแบบนี้ ทีนี้ ชื่อน้องก็ได้มีเนื้อที่ในหนังสือพิมพ์บันเทิงแล้ว คุณแม่ลองคิดดูสิฮะ บางคนน่ะ เป็นดาราตกอับไปแล้ว ข่าวเขิ่วไม่มี ยังจะหาเรื่องเป็นข่าวอะไรก็ได้ จะได้มีหน้าตัวเองลงในหนังสือพิมพ์ให้คนจำได้บ้าง หวังจะโก่งค่าตัวออกงานอีเวนท์นั่นแหละฮ่ะ" บีจีบปากจีบคอ "บางคนหาข่าวดีๆไม่ได้ ก็เล่นข่าวฉาวๆไปเลย บางคนก็สร้างภาพเป็นแฟนกันออกงานรับทรัพย์ก็มี เค้าเรียกว่า วินวินฮ่ะ ดังนั้น น้องเป็นข่าวแค่นี้ คุณแม่อย่ากังวลเลยฮ่ะ น้องฟลุคก็ไม่ได้ไก่กาอาราเล่มาจากไหน เป็นดาวรุ่งค่ายคุณบอย ดีกรีก็พระเอก ยังไม่ค่อยมีข่าวไม่ดีด้วย เป็นข่าวกับน้องฟลุค พี่ว่ายังดีกว่าเป็นข่าวกับพวกฉายาคาสโนว่าอะไรแบบนั้นนะฮะ คุณแม่"
คุณแม่กลืนน้ำลายอย่างลำบาก "เรื่องในวงการ แม่ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ถ้าคุณบียืนยันว่าไม่เป็นอะไรแม่จะได้สบายใจ"
"ฮ่ะ อย่าคิดมากฮ่ะ" บี ศุภโชค ฉีกยิ้มกว้างอีกที ส่วนเกรซ ยังคงฉงนใจกับสิ่งที่อ่านพบ เธอตัดสินใจยื่นอัลบั้มภาพให้บี ศุภโชคดู
"เอ้อ พี่บีคะ คนนี้นี่ เป็นเด็กสังกัดพี่บีด้วยเหรอคะ" สาวน้อยยื่นอัลบั้มภาพไป พลางชี้ไปที่รูปของ "สน"
"อ๋อ น้องสน น้องเกรซรู้จักเหรอจ๊ะ" บียิ้มตามสไตส์ "ก็ว่า อาจจะเคยเห็นกันเนอะ เรียนที่เดียวกันนี่"
"เอ้อ ก็ใช่ค่ะ...คุ้นๆหน้าอยู่" เกรซยิ้มแห้งๆ
"น้องคนนี้เพิ่งเข้าสังกัดมาจ๊ะ แต่เอาแต่ใจหน่อย พี่บอกอะไรไม่ค่อยฟัง ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน พี่พูดตรงๆนะ วงการนี้น่ะ มันมายาก็จริง แต่คนที่จะอยู่ทนอยู่นานน่ะ มันก็ต้องเป็นคนจริงใจ พวกสะตอน่ะ อยู่ได้ แต่อยู่ไม่ทนหรอก แล้วน้องคนนี้ก็ เข้าขั้นเหมือนกัน..." บีพูดพลางกลืนน้ำลายหนึ่งอึกราวกับว่าฝืดคออะไรบางอย่าง "เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าเนอะ พูดเรื่องงานของเราดีกว่านะฮะ น้องเกรซ"
"ค่ะ..." สาวน้อยรับคำพลางส่งยิ้มแห้งๆกลับไปหาโมเดลลิ่งชื่อดัง ที่กำลังแจกแจงรายละเอียดงานต่างๆนานามากมายให้ฟัง โดยที่ไม่รู้เลยว่า...
อีกมุมหนึ่งของบ้านนั่นเอง...
"น้องคนนั้นน่ารักนะ พี่มาริโอ้" หนุ่มหล่อกล้ามใหญ่ที่คนในวงการรู้จักกันในนาม "หมากพลู" ชี้มือชี้ไม้ให้รุ่นพี่ดูแบบตื่นเต้น
"เออ ก็น่ารักนะ เด็กใหม่พี่บี" หนุ่มหล่อลูกครึ่งนามว่า "มาริโอ้" สำทับ และทันทีที่พูดจบประโยค แขนของเขาก็โดนมือปริศนาตีเข้าดังเผียะ
"นี่แน่ะ ชมคนอื่นน่ารักต่อหน้าเลยเหรอ!!!" เด็กสาวร่างเล็กกระทัดรัดที่ตัดผมทรงม้าเต่อแปลกๆตีเข้าให้ที่แขนมาริโอ้ "กิ๊บบอกแล้วไง ว่าอย่าชมคนอื่นต่อหน้าอะ!"
"โอ๋ กิ๊บ อย่างอนดิ ไอ้หมากอะ ไอ้หมากคนเดียวเลย ชักนำให้โอ้พูดอะ" มาริโอ้หันไปอ้อนแฟนสาว พลางบุ้ยใบ้ไปที่หมากพลู ซึ่งเด็กหนุ่มร้องโวยวายขึ้นมาทันที
"โหย พี่โอ้ โยนบาปกันเลยนะ แล้วดูหยอกกัน อิจฉาคนไม่มีแฟนมั่งดิ!"
"เมิงอยากมีแฟนเหรอ โน่นไง ไปจีบดิ น้องเกรซอะ!" มาริโอ้พูดใส่หน้าอย่างท้าทาย ทำเอาหนุ่มหล่อกล้ามโตออกอาการเขิน
"บ้าดิ พี่โอ้ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าเองนี่นะ...."
"เพิ่งเห็นหน้าก็จีบได้ ตอนจีบกะกิ๊บอะ พี่ก็เพิ่งเห็นหน้า แต่เอ...เท่าที่จำได้ กิ๊บมาจีบโอ้ก่อนนะ..." หนุ่มลูกครึ่งลูบคางอย่างใช้ความคิด
"พอเลยโอ้ พอเลย เริ่มทะลึ่งละ" ว่าแล้ว สาวกุ๊บกิ๊บก็ตีแขนมาริโอ้เข้าอีกทีเป็นการหยอกเย้า ทำเอาหมากพลูอดขำไม่ได้ เขาละสายตาจากคู่หวานที่หยอกล้อกันอยู่ข้างๆ พลางส่งสายตาเป็นประกายวิบวับไปทางสาวน้อยที่นั่งสนทนาอยู่กับพี่บี ศุภโชคที่ห้องรับแขก
หรือทำแบบพี่โอ้แนะนำท่าจะดี!!!
.........................................
ที่ห้อง 308 หนุ่มผิวเข้มยังคงนอนกองอยู่ ราวกับศพที่ตายซากไปแล้ว...
แฟนทิ้ง เพื่อนรักก็ยังมาผิดใจกันอีก ทำไมชีวิตมันถึงได้ซวยขนาดนี้อีกเนี่ย...ยังดี ที่ผลการเรียนเทอมที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับเป็นหน้าเป็นตาได้ ไม่อย่างนั้น เขาคงมีเรื่องทุกข์ระทมใจเพิ่มอีกแน่ๆ...
จะคิดถึงทางแก้ปัญหา...กันยอมรับ เขายังคิดหาหนทางดีๆไม่ออกด้วยซ้ำไป บางทีมันอาจจะเป็นโจทย์ที่ยากเกินไปก้ได้ เขารู้ว่า ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป...แต่ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี...
ชายหนุ่มพลิกตัวไปมาแบบเซ็งๆ แต่ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น....
"อีกนานไหมเธอจะทำใจได้หรือเปล่า...หากว่ามันยืดยาว โว้วโว...."
หนุ่มผิวเข้มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ใจนึกโทษตัวเองที่ตั้งเสียงริงโทนเป็นเพลงนี้เสียเหลือเกิน -*- เขาจ้องมองไปที่หน้าจอ แล้วก็ต้องอุทานด้วยความตกใจ
"แต้ว!!!"
ชายหนุ่มรีบกดรับสายแบบไม่คิดชีวิต "สวัสดีครับ กันครับ..."
"กัน..." เสียงปลายสายดังมาอย่างแผ่วเบา "ออกมาเจอแต้วหน่อยนะ แล้วแต้วจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง...!!!"
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 53 15:36:17
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 53 10:52:14
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 53 23:21:25
จากคุณ |
:
aoikotori
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ค. 53 23:20:16
|
|
|
|