ความคิดเห็นที่ 1 หมดสัญญาเช่าที่เฉยๆ ครับ ก็คงต้องรอดูว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน จากคุณ : ~DITHMAN~ เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 23:23:53

ความคิดเห็นที่ 2 เสียดายจัง พอของดีๆแบบนี้ไงรัฐบาลไม่ช่วยอุ้มชู อย่าพูดว่าไม่มีเงินนะเห็นใช้กันอีลุ่ยฉุยแฉกมาก จากคุณ : freesia flower เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 03:32:47

ความคิดเห็นที่ 3 กระทรวงวัฒนธรรมมัวไปทำไรอยู่ หรือว่ากำลังไปจับผิดเรื่องงี่เง่าๆเล็กๆน้อยๆ เซนเซอร์นมหุ่นโชว์ไปวันๆ จากคุณ : rockshow เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 11:13:11

ความคิดเห็นที่ 4 เอ้า หมดสัญญาเช่า ดันไปด่ารัฐบาล พูดไรไม่ต้องคิด ไม่ต้องแยกแยะกันแล้ว สังคมนี้ ผมและเพื่อนๆเคยขอเข้าไปทำรายงาน สารพัดปัญหา ลิขสิทธิ์อะไรก็ไม่รู้สารพัดกว่าจะเข้าไปได้ ใช้เวลาขอเข้าทีเป็นเดือนๆ แถมแรกๆยังเกือบต้องเสียเงินเข้าไปอีก การกระทำแบบนี้ อยู่ไม่ได้นานอยู่แล้ว จากคุณ : GunnerLoveLove เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 12:29:00

ความคิดเห็นที่ 5 อยากจะบอกว่าอย่ามองแง่เดียวครับ ........... ผมเองก็มีประสบการณืไม่ดีมาเหมือนกันกับคระนี้ครับ  หน้าฉากใจดีสุดๆ บอกว่าเป็นแหล้งความรู้พร้อมที่จะเปิดสอนผู้สนใจ เรียน บลาๆหน้าแกไป ............. ลับหลังฉาก  ผมเองก็เคยขอเข้าไปเรียนทำหุ่นเพราะเขาบอกมาแบบนี้เหมือนเปิดดอกาศให้  ไปๆมาๆ พอเข้าไป อ้างนั่นอ้างนี้ ไม่สนใจ  มาก็มาแต่ตรูไม่สอน  พอถามอะไรก็ยึกๆยักๆ  สุดท้านทนไมไหวไม่เอาแล้วจบกัน  ไม่ง้อและไม่เรียน อีกอย่างที่เขาได้รับความนิยมลดลงคงเพราะเนื้อเรื่องวนเวียนแค่ไม่กี่ตอน  ไปดูก็มีแต่ตอนซ้ำๆ  คนที่เคยไปมาแล้วก็ไม่รู้จะไปทำไมอีกเพราะตอนยังเหมือนๆเดิม  ไม่มีการเพิ่มตอนหรือความหลากหลายครับ  ยึดแต่เรื่องเกดิมๆตอนเดิมๆ  แล้วใครจะไปดูซ้ำๆหล่ะครับ     วึ่งเขาได้รับความนิยมลดลงมากตั้งแต่ยังไม่หมดสัญญาเช่าแล้วครับ   จนเป็นหนี้สินค้างชำระค่าเช่าที่มาเนิ่นนาน จากคุณ : Dek Chan เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 17:04:25

ความคิดเห็นที่ 6 บอกไม่ถูกค่ะ แต่ใจเย็นกันนิดนึงนะคะ อยากบอกว่า สื่อที่ออกกับเรื่องจริงๆบางครั้งก้ไม่เหมือนกัน เจอมาหลายหนแล้วที่ออกสื่อเพื่อการอะไรบางอย่าง สื่อก็รับไม้เพื่อจะมีอะไรขาย บ้านนี้เมืองนี้ หรือโลกนี้ มีอะไรต่อมีอะไรที่ซับซ้อนเยอะแยะ เรื่องศิลปะนี่ก็คิดได้หลายแง่ค่ะ บางคนก็ไม่อยากให้รัฐเข้ามายุ่งเพราะมันวุ่นวายมาก เคยได้ยินจากปากผู้รู้ท่านหนึ่งบอกว่า จะไม่เสียดายหากมันต้องเสียอะไรที่คิดไว้ไป  อย่างน้อยมันก็เป็นตำนาน ดีกว่าให้มาเละเทะจากหน่วยงานที่ไร้สมอง เรื่องโรงละครที่นี่คิดว่าเขาคงมีเหตุผลของการไม่ถ่ายทอด และคงมีทางออกของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นผลจากการกระทำอยู่แล้ว หวังว่าคงมีทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่ายและยังคงมีศิลปะที่สามารถให้เด็กๆรุ่นต่อไปได้เรียนรู้ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 18:36:16

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าใจความรู้สึกความเห็นที่ห้านะค่ะ แต่ว่า นี่มันถือว่าเป็นศิลปะของชาติเราแขนงหนึ่งไม่ใช่เหรอค่ะ แถมทำชื่อเสียงให้ประเทศเรามาก็มาก ถึงแค่จะเป็นการหมดสัญญาเช่าแล้วคืนพื้นที่ แต่ระหว่างการหาพื้นที่ๆอยู่ใหม่ล่ะค่ะ นักแสดงในทีมอีกตั้งกี่สิบคน เค้าจะอยู่กันยังไง เอาอะไรกิน คือ เราเห็นว่านักแสดงพวกนี้ก็ล้วนแต่เป็นศิลปินของชาติเหมือนกันนะค่ะ เค้าทำโชว์ ทำผลงานให้ประเทศไทยมามาก ทำให้คนต่างชาติรู้ถึงวรรณคดีดีๆตัวละครดีๆมาก็เยอะ ทำไมไม่มีใครมาให้การสนับสนุนคนพวกนี้หน่อยล่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่ความเห็นห้าบอกมา จริงค่ะ เราก็เคยไปเดินๆดูกับคุณพ่อ แล้วคุณพ่อเราสนใจเรื่องทำหัวโขน ถามอะไรเค้าๆก็ดูหยิ่งๆ ไม่อยากพูดไม่อยากตอบกันสักเท่าไหร่ ก็เสียความรู้สึกเล็กๆค่ะ แต่มันคนละประเด็นกับการที่เราจะปล่อยปละละเลย ให้นักแสดงหรือศิลปะดีๆเหล่านี้ต้องหายไป และต้องดิ้นรนต่อสู้กันเอาเองนะค่ะ แบบว่า เราเห็นว่าตอนไปประกวดงานหุ่นกระบอกที่ต่สงประเทศ พอเค้าคว้ารางวัลกลับมาสำเร็จ ก็เอามาบอกว่านี่เป็นหน้าเป็นตาให้แก่ประเทศไทย เป็นวัฒนธรรมอันดีของเรา คนนู่นคนนี้ออกหน้าออกตากันมากมายเหมือนพาไปประกวดด้วยตัวเองมายังงั้นแหละ แล้วพอมาถึงช่วงที่เราควรสนับสนุนเค้าจริงๆ ทำไมกลับไม่มีใครออกมาพูดว่าจะช่วยเหลือ หรือ หาสถานที่ให้เลย เอาแต่หน้ากันชัดๆนะ ทำอย่างนี่อ่ะค่ะ จากคุณ : SugarLala เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 53 17:08:29

ความคิดเห็นที่ 8 ฝรั่งเวลามันมีงานศิลป์ ในพิพิทธภัณฑ์มันจะไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์อย่างเดียวเพราะถ้าคนชอบงานศิลป์อย่างไรก็เสียตังค์ไม่เกินสองครั้งสำหรับชมของเก่าเพราะดูแล้วแล้วก็เดิมๆ จะไปดูทำไม แต่สิ่งที่ต้องคิดต้องเพิ่มต้องทำคือส่วนประกอบกับโชว์ และการไปหาไปเอาอะไรแปลกๆ มาแหวกมาเสริม มาเป็นอีเวนท์รายเดือน ดูเอากับหอศิลป์ก็จะมีแค่ส่วนเดียวกับคนที่รักงานศิลป์ไปดูโดยอีเวนท์อืดๆ ใส่ไปทีเกือบสองเดือนเอาซะหอศิลป์แทบร้างก่อนจะมาเริ่มหานั่นหานี่ใส่ อย่างโจหลุยห์บอกตรงๆ ว่าเสียดาย และจะด้วยอะไรไม่เคยคิดว่าองค์ประกอบภายนอกจะเข้าไปเกี่ยวได้เท่ากับองค์ประกอบของเขาเอง ไปดูโจหลุยห์พร้อมเด็ก แต่ตอนหลังเปลี่ยนไปที่โรงละครอักษราเพราะเขาคิดราคาถูกกว่า แถมมีนั่นมีนี่มาใส่มากกว่า ไปแล้วได้อะไรมากกว่าดูและดูก็แบบเดิมๆ ก็ต้องไปหาอะไรมาเสริมมาเพิ่ม ไปดูโรงละครเหมือนกันแต่เขาแถมบุฟเฟ่ท์ (จ่ายเพิ่มแพงกว่าหน่อย) ความสำคัญกับเด็กก็เช่นกัน ราคาเทียบกันไม่ได้เป็นตัวทำลายเบื้องต้นแล้ว ไปดูอักษราดันมีโปรนั่นโปรนี่ มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินที่ไปรองโรงละครนี้แต่สิ่งที่เป็นความคิดในการเสริมเนี่ยะซิ ยังนั่งคุยกันอยู่กับพวกๆ กันว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ โจหลุยห์ก็ไม่เหลือ แล้ววันนี้ก็มามีข่าวอันนี้อย่างที่ว่าจริงๆ ก็ได้แต่ว่ากันไป ถ้าเขาจะกลับมาใหม่ มีอะไรใหม่ๆ ก็ได้กับเขาไป แต่ควรจะต้องปรับวิธีคิดการอยู่รอด ราคา และอีเวนท์เสริมความน่าสนใจเข้าไป จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:01:08