|
ความคิดเห็นที่ 5 |
Aram Kachaturian (1903-1978) --
ผู้เขียนได้รับข้อความหลังไมค์มากมายจนเปิดอ่านแทบจะไม่ทันกับข้อความอันหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ในแต่ละข้อความต่างก็ไถ่ถามถึงความคืบหน้าในกระทู้นี้อย่างห่วงใยกันขนาดหนัก! เฮ้อ ผู้เขียนนั่งโงกหลับจนฝันไปน่ะเอง (HA HA) ถึงกระนั้น ผู้เขียนก้อปลาบปลื้มใจในฝันเพ้อๆ ของตนอยู่ จนกระทั่งพอสะดุ้งจากภวังค์ ต้องออกไปยืนเหม่อแหงนดูท้องฟ้าในเวลาเกือบรุ่งสางอยู่นาน ยิ่งหากฝนกำลังตกแล้วล่ะก็...เงียบเหงาในใจดีพิลึก... แน่ละ จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีข้อความหลังมงค์ หลังไมค์ อะไรเล้ย ผู้เขียนเพ้อเจ้อไปก็แต่เท่านั้น...
เอาละ เข้าเรื่องเสียทีเนาะ :-)
อารัม คาชาทูริยัน (หรือคาชาทูเรียน) เป็นดุริยกวีชาวอาร์เมเนีย ซึ่งก่อนอื่น เราอาจจะต้องนึกถึงประเทศอาร์เมเนียในแง่ของภูมิศาสตร์อันว่าด้วยสถานที่ตั้งเสียก่อน เหตุผลก็คือ สิ่งดังกล่าวนั้นส่งผลต่อดนตรีในแบบของคาชาทูริยันเป็นอย่างมาก กอปรกับในประวัติศาสตร์อันยาวนานของอาร์เมเนียตั้งแต่ยุคโบราณก่อนคริสตกาลจนกระทั่งยุคกลาง ตราบจนยุคของจักรวรรดิรัสเซียอันยาวนานจนลุเข้า WWI และต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต อาร์เมเนียของคาชาทูริยันได้ฉายภาพทางดนตรีของพวกเขาได้แจ่มชัดในใจพวกเราอยู่มากทีเดียว...
เมื่อคุณผู้อ่านดูแผนที่โลก (เอายุคปัจจุบันก่อน) เราจะเห็นอาร์เมเนียอยู่ในพื้นที่อันยวนเสน่ห์ให้ค้นหา อย่างแรกก็คือ อาร์เมเนียเป็นประเทศเล็กๆ อยู่ในพื้นที่ของกลุ่มประเทศคอเคซัส (The Caucasus) อันคั่นกลางระหว่างประเทศรัสเซียกับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แล้วอาร์เมเนียจะถูกขนาบข้างด้วยประเทศจอร์เจีย (Georgia) และอาเซอไบจัน (Azerbaijan) ซึ่งคุณผู้อ่านอาจจะเรียกสามประเทศอันมีจอร์เจีย, อาร์เมเนีย และ อาเซอไบจันนั้นได้เป็น กลุ่มประเทศคอเคซัส ซึ่งหมายถึงชื่อของเทือกเขาแลชื่อของกลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสามประเทศอันแยกตัวเป็นรัฐชาติมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ทั้งนี้ กลุ่มประเทศคอเคซัสมีทะเลดำ (Black Sea) กับทะเลสาบแคสเปียน (Caspian Sea) ขนาบทั้งสองข้าง แต่ทว่าอาร์เมเนียไม่ได้มีพื้นที่อันติดกับทะเลทั้งสองเลย...
ก่อนที่ผู้เขียนจะมั่วพาคุณผู้อ่านไปอาร์เมเนียในแบบไกด์ผีต่อ ผู้เขียนจะต้องกล่าวถึงประเทศคาซัคสถาน (Kazakhstan) ของไอมานผู้บรรเลงเดี่ยวไวโอลินคนสวยของเราในวันนั้นด้วยเหมือนกัน แลหากคุณผู้อ่านดูแผนที่โลกต่อ เราจะเห็นคาซัคสถานเป็นประเทศขนาดใหญ่คั่นอยู่กลางระหว่างประเทศรัสเซีย (ของปูติน) กับกลุ่มประเทศประกาศตัวเป็นเอกราชจากรัสเซียหลังการทุบทะลายกำแพงเบอร์ลินในปี 1991 ซึ่งรวมคาซัคสถานด้วย อันมี Turkmenistan, Uzbekistan, Kyrgyzstan และ Tajikistan (ผู้เขียนตั้งชื่อเรียกเอง เพราะนึกไม่ออกว่าจะเรียกห้าประเทศนั้นว่าอย่างไร) และจากแผนที่ เราจะเห็นกลุ่มห้าประเทศที่ยังคงมีปัญหากับปูตินอยู่คนละฟากฝั่งกับกลุ่มประเทศคอเคซัสอันมีทะเลสาบแคสเปียนคั่นกลางเท่านั้น...
อาร์เมเนียในคอเคซัสของคาชาทูเรียนและคาซัคสถานของไอมาน ถูกเรียกว่าเป็นกลุ่มภาคพื้นประเทศ Eurasia ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนแล้ว เมื่อได้ยินคำว่า ยูเรเชีย เมื่อใดก็ตาม ผู้เขียนจะรู้สึกระริกระรี้ในความอยากรู้อยากเห็นอยู่มาก เพราะหากพิจารณาจากวัฒนธรรมการใช้ชีวิต, ภาษา, การแต่งกาย, การรบ, สิ่งปลูกสร้าง และแน่นอน ดนตรี แล้ว กลุ่มยูเรเชียย่อมต้องผสมผสานความเป็นยุโรปในแบบของรัสเซียให้กลมกลืนแลกลมกล่อมไปกับอารยธรรมแห่งชาวอารบิคในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางอย่างแน่นอน...
แต่มากเสียยิ่งกว่านั้นก็คือ สภาพภูมิประเทศของกลุ่มประเทศคอเคซัส ล้วนแล้วแต่เป็นเทือกเขาแลภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมยอดเขาแทบจะตลอดทั้งปี ในแต่ละหุบเขาก็ล้วนมีทะเลสาบสีฟ้าใส พื้นราบหรือที่ลาดชันก็เต็มไปด้วยลักษณะของทุ่งหญ้าสลับกับดอกไม้สีสวยสดใสนานาพรรณในท่ามกลางแสงแดดอันเริงที่สาดส่อง อากาศก็เย็นสบาย มีลมพัดโชยฉิวในวันที่อากาศดีซึ่งก็เป็นไปแทบจะตลอด ท้องฟ้ายามค่ำคืนคงมืดสนิทแลสะอาด ดวงดาวคงส่องแสงระยิบระยับพร่างพราวสุกใส
ชนเผ่าพื้นเมืองในกลุ่มประเทศคอเคซัสมีอยู่หลายชนเผ่า แต่ในแต่ละชนเผ่าก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนภูเขาที่แข็งแกร่ง บึกบึน (แม้กระทั่งหญิงงาม) พวกเขาชำนาญการรบ การใช้ดาบ การล่าสัตว์ และการกสิกรรม... รูปร่างหน้าตาของพวกเขามีลักษณะผสมกันระหว่างชาวเอเชีย ชาวแขกขาว และชาวยุโรป-รัสเซีย นั่นคือ ผู้ชายมีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว มีกล้ามเนื้อ จมูกเป็นสันแบบชาวยุโรป มีหน้าตาคมคาย คมกล้า มีผมดำ แบบชาวเอเชีย แต่อาจจะมีขนดก คมเข้ม แบบชาวแขกขาวอารบิค แลผู้หญิงก็หน้าสวยคมแบบสวยดุ ตาสวย ปากจิ้มลิ้ม รูปร่างก็ทะมัดทะแมง แคล่วคล่อง แลเครื่องแต่งกายของพวกเขาล้วนงดงาม หลากสี มีเอกลักษณ์ตามอย่างคนภูเขา แต่มีลักษณะหยาดย้วยเร้นลับตามแบบชาวแขกขาวโบราณอยู่ด้วย (ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า เป็นลักษณะของชุดส่าหรีหรือไม่ อย่างไร)
แลผู้เขียนไม่อาจจะกล่าวถึงศาสนาของประเทศในแถบนี้ว่าเป็นคริสตศาสนาได้เต็มปากเต็มคำนัก (อย่างน้อยในความรู้สึกลึกๆ ของผู้เขียน) ทั้งนี้ เนื่องมาจากยูเรเชียมีความเป็นมาของประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีสถานที่ตั้งอยู่ในท่ามกลางอารยธรรมอันยิ่งใหญ่หลายอารยธรรม ดุจประหนึ่งเป็นปฏิสถานกันชนทางวัฒนธรรมอันสันดาปกันมานานนับหลายพันปี ดังนั้น ศาสนาจึงไม่ได้มีนัยสำคัญต่อความเป็นอยู่ของพวกเขาได้เทียบเท่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา อย่างน้อย สิ่งปลูกสร้างคริสเตียนของพวกเขาก็ปลูกสร้างในคติทางสถาปัตยกรรมของชาวแขก...
ด้วยเหตุนี้ แม้ดนตรีพื้นเมืองของคอเคซัสนั้นจะเต็มไปด้วยลักษณาการก้องสะท้อนของหุบเขา แลสดชื่นเต็มไปด้วยการเริงแบบ Folkloristic ของชาวภูเขาอยู่ก็ตาม แต่ด้วยเหตุแห่งการสันดาปกันในพื้นที่แห่งนั้นระหว่างอารยธรรมของชาวสลาฟแห่งรัสเซีย + อารยธรรมแห่งการรอนแรมของชาวยิปซีในแถบทะเลทรายของชาวอาระเบียน + อารยธรรมแห่งความเชื่อตามหลักศาสนพิธีของชาวแขกขาวโบราณ รวมไปถึงความเป็นพื้นถิ่นดั้งเดิมของยูเรเชีย (ในที่นี้คือ คอเคซัส) ส่งผลให้ดนตรีพื้นถิ่นของคอเคซัสผสมกลมกลืนกันในความจัดจ้าในแบบรัสเซียน, ความเหงาวิเวกวังเวงแลเวิ้งว้างชวนให้รันทดหดหู่ในแบบยิปซี แลความลึกลับเร้นหลอนชวนสะพรึงประหนึ่งอากาศอันอวลไปด้วยกลิ่นกำยานในแบบเพลงสวดของแขก กลมกล่อมยิ่งแล้วในลักษณาการก้องสะท้อนของหุบเขา ผ่านการประสมวงสำหรับดนตรีพื้นถิ่นของชาวคอเคซัสอย่างพวก Duduk และ Ashughs อันมีอายุยาวนานนับพันปี...
ในสูจิบัตรที่กล่าวถึง VC ของคาชาทูริยันของการแสดงคอนเสิร์ตของ TPO ในวันนั้น ได้กล่าวถึงอาชุคอย่างกว้างขวาง (แลผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบว่าเขียนได้ดีมากๆ อย่างน้อยผู้เขียนไม่เคยพบที่มา อันกล่าวถึงอาชุคในบริบทแวดล้อมงานดนตรีของคาชาทูริยันมาก่อน) แต่กล่าวสำหรับดูดุคแล้ว กลับเป็นที่กล่าวถึงมากกว่าหากจะพิจารณาดนตรีพื้นถิ่นดั้งเดิมของอาร์เมเนียเมื่อพิจารณาถึงดนตรี (Music) แลอาชุคนั้นจะใกล้เคียงกับดนตรีสำหรับเพลงร้อง (Songs) สำหรับลำนำกวีมากกว่า แลส่วนตัวผู้เขียนเอง ก็ไม่ได้สันทัดจัดเจนในการฟังดนตรีทั้งอาชุคและดูดุคอะไรเลยแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นดูดุคหรืออาชุค เราอาจจะต้องกล่าวไว้เป็นเบื้องต้นว่า ดุริยางคนิพนธ์ของคาชาทูริยัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้ง VC และกายาเนสวีตของเขา ล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีพื้นถิ่นของชาวอาร์เมเนีย/ ชาวคอเคซัส มาอย่างแหลมคม ซึ่งคาชาทูริยันได้บรรสานความงามในดนตรีพื้นถิ่น (ไม่ว่าจะเป็นดูดุคหรืออาชุคหรือในนิยามใด) ของอาร์เมเนียแลคอเคเซีย ให้บรรสมไปกับดุริยางคลีลาในแบบยุโรปตะวันตกได้อย่างดงาม แลเราอย่าลืมไปเสียเป็นเด็ดขาดว่า ดนตรีของชาวสลาฟแห่งรัสเซีย + ดนตรีแห่งการรอนแรมของชาวยิปซีในแถบทะเลทรายของชาวอาระเบียน + ดนตรีจากความเชื่อตามหลักศาสนพิธีของชาวแขกขาวโบราณ อาทิ ในสุเหร่า ล้วนแล้วแต่กลมกล่อมยิ่งแล้วในดุริยางคนิพนธ์ของคาชาทูริยัน!
ไกด์เถื่อนแลนักดนตรีวิทยาเถื่อนเฉกเช่นผู้เขียน ได้ลองพรรณนาถึงความเป็นอาร์เมเนียทั้งในแง่ภูมิประเทศ ภูมิทัศน์ ภูมิประวัติ ภูมิวิทยา และดนตรีวิทยาของอาร์เมเนียไว้ในที่นี้ ก็เพื่อจะสามารถอ้างอิงได้ต่อไป (อย่างน้อยก็สำหรับผู้เขียน) และในความเป็นจริง ห้วงเวลาอันเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ช่วงที่คาชาทูริยันมีชีวิตอยู่ อาทิ การเปลี่ยนผันทางอำนาจระหว่างรัสเซียของซาร์ นิโคลัส ไปเป็นรัสเซียใน WWI ซึ่งมีโศกนาฏกรรมน่าเศร้า จนกระทั่งเป็นสหภาพโซเวียตของสตาลิน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จะต้องกล่าวถึง เพราะได้ส่งผลต่อเจตนคติของคาชาทูริยันในการประพันธ์งานดนตรีของเขา... มากไปกว่านั้นก็คือ ดุริยกวีกลุ่ม The Mighty Handful ของรัสเซีย อย่าง Rimsky-Korsakov และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Borodin ก็ได้ส่งอิทธิพลต่อเขาเป็นอย่างมากสำหรับ สีสัน ให้ปรากฏในดุริยางคนิพนธ์แบบ Kachaturi-nian แต่ผู้ที่สมควรถูกกล่าวถึงมากที่สุดสำหรับ VC และกายาเนสวีตของคาชาทูริยัน กลับเป็น Mikhail Ippolitov-Ivanov (1859-1935) ดุริยกวีชาวรัสเซียผู้ซึ่งเกิดใกล้ St. Petersburg แต่ใช้เวลาของชีวิตส่วนหนึ่ง อุทิศให้กับดนตรีพื้นถิ่นของชาวคอเคซัส...
ทั้งหมดนี้ ผู้เขียนควรจะต้องกล่าวถึงในตอนต่อไป...
ในที่นี้ ผู้เขียนขอนำเสนอคลิปการบรรเลงเครื่องลมไม้โบราณดูดุคจาก Jivan Gasparyan นักดนตรีชาวอาร์เมเนียในชื่อ In Foreign Lands ซึ่งนัยว่าจะอุทิศให้กับชาวอาร์เมเนียในช่วง WWI ที่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นับล้านๆ คน...
ผู้เขียนคงไม่อาจกล่าวว่าให้คุณผู้อ่าน Enjoy ได้เลยสำหรับดนตรีอันเร้นลับแลเศร้าโศกาอาดูรเฉกเช่นในคลิปที่มีรูปประกอบเป็นเลิศคลิปนี้...
.
จากคุณ |
:
St@rGazer
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ส.ค. 53 18:32:36
|
|
|
|
|