|
น้ำใสใจจริง เดอะมิวสิคัล ความจริงใจแห่งมิตรภาพ และงานสร้างสรรค์ของละครเวทีไทย
|
|
ผมได้มีโอกาสไปชม น้ำใสใจจริง เดอะมิวสิคัล รอบแรกในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2553 รอบเวลา 19.30 น. ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ผมนั้นเป็นแฟนละครของค่ายดรีมบ็อกซ์มานานนับสิบปี แต่ตอนที่ทราบข่าวว่า ดรีมบ็อกซ์จะนำเรื่อง น้ำใสใจจริง จากบทประพันธ์ของนักเขียนที่ผมรักมากท่านหนึ่ง ก็คือคุณ ว.วินิจฉัยกุล มาทำนั้น ผมได้แต่นึกเอาเองว่า เออนะ ..เรื่องราวแบบนี้มันจะอยู่ในรูปแบบละครเวทีแบบมิวสิคัลไปได้อย่างไร ค่าที่มันเป็นเรื่องเล่าที่ดูเผินๆ เหมือนจะเล่ากันสนุกๆ ในแวดวงเพื่อนฝูงที่เคยใช้ชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยมาด้วยกันซะมากกว่าที่จะมุ่งเน้นเนื้อหาสาระจริงจัง มันไม่ดึงดูดพอหากต้องไปชมในรูปแบบละครเวที ประกอบกับข้อจำกัดหลายประการที่จะนำขึ้นแสดงในรูปแบบละครเวที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวหลากหลายของตัวละครมากมาย หรือฉากต่างๆ ที่ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะขึ้นไปอยู่บนละครเวทีที่มีพื้นที่จำกัดได้ ยังไม่นับรวมถึงปริมาณของฉากตามท้องเรื่องซึ่งมีอยู่หลายสิบฉาก แต่เมื่อได้ชม โอ้ว ต้องบอกตัวเองอยู่ในใจตลอดเวลาการรับชมว่า เออ คิดได้ไงเนี่ย... สุดยอดดดด...........
ผมขอว่าไปทีละเรื่องนะครับ นักแสดง นี่คือกลุ่มนักแสดงที่ยอดเยี่ยมสำหรับมิวสิคัลเมืองไทย ทุกคนมีความสามารถในการร้องอย่างโดดเด่นและที่เซอร์ไพรส์คือการแสดงที่ลื่นไหลและกลมกลืนเข้าขากันเป็นอย่างดี ทั้งที่หลายคนต่างก็ไม่เคยแสดงมาก่อน ซึ่งนอกจากตัวนักแสดงเองแล้ว ก็ต้องขอยกความดีนี้ให้กับพี่ลิง สุวรรณดี ผู้กำกับคนเก่งของวงการ ตู่ ภพธร (โจม) คุณตู่นี่ผมเพิ่งจะรู้จักหนุ่มคนนี้ จริงๆ จังๆ ก็เมื่อทราบว่าจะมาเล่นละครเรื่องนี้ ทราบมาว่าเรื่องนี้เป็นงานแสดงเรื่องแรก ซึ่งผมถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง เรื่องร้องเพลงคงไม่ข้อกังขา ตู่เป็นคนที่มีแก้วเสียงที่เพราะมาก ร้องเพลงได้พลังและอารมณ์อย่างแทบจะไม่มีข้อตำหนิ (จะมีบ้างก็คือวิธีการออกเสียง ซึ่งเป็นแบบยอดนิยมของนักร้องยุคนี้ เช่นการร้องอักษร ท เป็น TH เป็นต้น ซึ่งคนไทยในยุค 60ไม่น่าจะออกเสียงอย่างนี้นะ) และแสดงเป็นโจมได้ซื่อ ใส และตั้งอกตั้งใจมาก ทำให้ตัวละครตัวนี้มีเสน่ห์และตรึงใจคนได้ไม่ยาก ปุยฝ้าย (ครีม) เคยฝากฝีมือไว้จากแม่นาค มาถึงเรืองนี้ กลายเป็นนางเอกเต็มตัว ปุยฝ้ายก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง เธอมีคุณสมบัติพร้อมสำหรับความเป็นนางเอกมิวสิคัลเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา น้ำเสียงที่มีพลัง ฟังไพเราะ หรือฝีมือทางการแสดงที่พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงเรื่องนี้จะไม่เอื้อให้โชว์ทักษะทางการแสดงมากนัก แต่เธอก็ทำให้บทเรียบๆ อย่างครีม ไม่ถูกสีสันของตัวละครอื่นกลบมิด และผู้ชมอย่างผมก็ยังประทับใจเธอกับบทเรียบๆ นี้ได้ บอย สิทธิชัย (ทัดภูมิ) ที่ผ่านมาผมรู้จักเขาในฐานะแสดงมากกว่าการเป็นนักร้อง แต่เมื่อมารับบททัดภูมิ ในมิวสิคัลเรื่องนี้ บอยก็ทำให้ผมรู้ว่า เขาเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงที่ดีได้ (ในบทบาทที่เหมาะสม) บอยเป็นทัดภูมิที่ดูหล่อแบบน่าสมเพช และคงลักษณะตัวละครตามที่ผู้ประพันธ์สร้างไว้อย่างไม่ผิดเพี้ยน (แม้ว่าจะหล่อน้อยกว่าในนิยาย) เออ แต่ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรืออะไร การออกเสียง โดยเฉพาะเสียงพูดในเรื่องนี้ ทำไมมันช่างคล้ายคลึงกับคุณเต๋า สมชาย ที่เคยรับบทนี้มาก่อน (เหมือนซะจนคิดว่า ถ้าหลับตาฟังแต่เสียง จะนึกว่าเป็นเต๋าเล่นเอง) แอ๋ม มุรธา (อ้อมพร) นักแสดงหน้าใหม่ (หรือเปล่า) ที่ก้าวขึ้นมาจากการเป็นหมู่มวลในแม่นาค นับเป็นความกล้าที่จะปั้นนักแสดงไร้ชื่อให้มารับบทสำคัญของทีมงาน และเธอก็ไม่ทำให้ใครผิดหวัง แอ๋มเป็นอ้อมพรได้อย่างไม่เคอะเขิน น่ารัก น่าหยิก มีแววรุ่งในวงการต่อไปแน่ๆ ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง มิวสิค (โหม่ง) น้องวาซาบิ (บอย) เป็นแพ็คคู่สำหรับนักแสดงคู่นี้ ขอเอ่ยถึงสุนัขก่อน น้องวาน่ารัก และนิ่งมาก ไม่ตื่นเวทีเลย เหมือนตุ๊กตามากกว่าสุนัขจริงๆ จับตั้งท่าไหนก็ไม่งอแง (ตอนถูกเก็บอยู่ในกระเป๋ายังเงียบกริบได้) ต้องขอชมเชยเจ้าของที่ชื่อมิวสิคที่ฝึกได้ดีมาก เคยคิดเล่นๆ ว่า ที่มิวสิคได้เล่นเรื่องนี้นี่เป็นเพราะน้องวาหรือเปล่า (ประมาณเลือกหมาก่อนเลือกคนน่ะ..ล้อเล่น) แต่มิวสิคก็แสดงเป็นโหม่ง ได้น่ารัก น่าชังมากๆ อาจจะเป็นเพราะบุคลิกตัวละครอย่างโหม่งก็ใกล้เคียงกับมิวสิคอยู่แล้วด้วยกระมัง มิวสิคทำให้ตัวละครโหม่งโดดเด่นมากๆ ไม่แพ้ตัวละครหลักเลยทีเดียว กู๊ด AF5 (หนิง) นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ต้องชมเชยทีมงานในการหานักแสดงที่มีบุคลิกเข้ากับตัวละครมาก กู๊ดทำให้ตัวละครหนิงดูอ่อนแอ เป็นลูกแหง่ และมีความกดดันอยู่ลึกๆ ได้ดี โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าเป็นการแสดงครั้งแรก ในเรื่องการร้อง ก็ทำได้สมศักดิ์ศรีการเป็นนักร้องหญิงหนึ่งเดียวใน AF5 รอบสุดท้าย ( ผมชอบเสียงเธอเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วด้วย ฟังแล้วได้อารมณ์ ดี) คัทโตะ (ป๊อ) ผมไม่เคยรู้จักนักร้องผู้นี้มาก่อนเลย ตอนที่รู้ว่าจะมารับบทป๊อ ผมก็คิดเหมือนหลายๆ คนว่า คัทโตะไม่ใช่ป๊อในจินตนาการเลย แต่เมื่อได้ชมในละครเข้าจริงๆ ก็ยอมรับในบทบาทนี้ของเขาได้อย่างเต็มใจ ด้วยผีมือทางการแสดงที่ทำได้ราวกับมืออาชีพ (แม้จะล้นๆ ไปหน่อยในบางฉาก) ไม่ได้ทำให้รู้สึกสักนิดว่านี่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ที่ทำให้ผมประทับใจจริงๆ ก็คือการร้อง อย่างที่บอกแต่แรก ผมไม่เคยฟังผลงานอะไรของเขามาก่อน ไม่รู้ว่าเพลงที่เขาร้องเป็นแนวไหน แต่คัทโตะฝากผีมือด้านการร้องในมิวสิคัลเรื่องนี้ได้โดดเด่นมาก (เด่นที่สุดในกลุ่มนักร้องชายด้วยซ้ำ) ผมชอบมากๆ โดยเฉพาะฉากอ่านจดหมาย (โห..ทำได้ไงฟะ) ฟิล์ม ธนพรรษ (แคน) นักร้องนักแสดงเสียงดี ที่ร่วมงานกับทางดรีมบ็อกซ์มาหลายครั้งแล้ว ก็สวมบทบาทของแคนได้เป็นอย่างดี แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบุคลลิกของน้องเขาที่เป็นคนน่ารักอยู่แล้วหรือเปล่า ที่ทำให้บทของแคนดูน่าหมั่นไส้น้อยกว่าในบทประพันธ์ ผมชอบมากเวลาที่เขาเล่นกับมิวสิคที่ในเรื่องเป็นคู่ปรับกัน ทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันมาก เล่นรับ ส่ง กันได้ดี และยิ่งฉากที่มีคัทโตะเข้าด้วย ทั้ง 3 เล่นกันได้อย่างเข้าขา ดูเป็นกลุ่มกวนๆ ฮาๆ น่ารักดี บทบาทอื่นๆ เช่นบทของรุ้ง หรือ มหาบุญโปรย นักแสดงก็เล่นได้อย่างที่จินตนาการไว้ตอนอ่านฉบับนิยาย คณาจารย์ สมบทบาทกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนรินทร กับบทอาจารย์แม่บ้านทองถวิล ตัวใหญ่ ดุ เสียงดัง ใช่เลยครับ หรือศรัณย์ ทองปาน (อ.พอดี) ที่ฝากฝีมือมาแล้วล่าสุดกับบทบาทหมอผีในแม่นาค มาครั้งนี้เล่นเป็นอาจารย์ผู้ใจดีของเด็กๆ แต่เสียงก็ยังทรงพลังเหมือนเคย,ภคมน (อ.อัญชลิกา) เคยเห็นเธอในละครหลายเรื่องทางช่อง 3 แต่ไม่เคยรู้ว่าเธอร้องเพลง เสียงใสดีอีกต่างหาก, สมพล (อ.สุประดิษฐ์), ตุ๊ยตุ่ย (อ.จินตนา) มุกสดๆ ของสมพลและตุ๊ยตุ่ย ก็ยังเรียกเสียงฮาได้เหมือนเคย ฉาก ขอชื่มชมกับฝ่ายออกแบบฉากของละครเรื่องนี้ซึ่งนับเป็นละครเวทีที่มีปริมาณฉากมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ฉากออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์และทุ่มทุนมากกว่าเรื่องอื่นๆ ของค่ายนี้ หลายฉากโชว์กึนสุดๆ เช่นฉาก สัตว์ประหลาด เป็นต้น แต่ที่ผมประทับใจก็คือฉากสุดท้าย ง่ายๆ แต่ได้ใจมาก (หาโอกาสไปชมกันเองนะครับ)
แต่การเปลี่ยนฉากยังมีสะดุดอยู่บ้างนะครับ เช่นเปลี่ยนฉากไม่ทันเป็นต้น หวังว่า รอบถัดๆ ไป คงจะปรับปรุงให้ดีขึ้น อีกอย่าง ฉากงานลอยกระทงฉากแรก ผมว่าบรรยากาศมันเงียบเหงาไปหน่อยนะครับ น่าจะมีเสียงดนตรีเล่นคลอสร้างบรรยากาศงานรื่นเริงสักนิด แสง ดีครับ สวยงาม สว่างไสว ชัดเจนและให้อารมณ์สัมพันธ์กับฉากได้ดี เสียง ส่วนใหญ่จัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีข้อผิดพลาดน้อย (แต่ก็ยังมีอยู่บ้างนะครับ) จะมีก็แต่เพียงบางฉากที่นักแสดงร้องขึ้นมาพร้อมๆ กัน บางคำจะฟังไม่ถนัดบ้าง เสื้อผ้าหน้าผม โดดเด่น สวยงาม ฉูดฉาด เข้ากับยุค 60 มากๆ ไม่มีอะไรหลุดเลย (ยกเว้นชุดฟอร์มนักศึกษาหญิงที่ไม่นุ่งสั้นเหมือนที่ในบทประพันธ์ได้บรรยายไว้)
บทและเพลง
ยังคงความโดดเด่น คมคาย ลึกซึ้งเช่นเคย สำหรับบทที่เขียนโดยคุณดารกา วงศ์ศิริ เธอสามารถถ่ายทอดบทประพันธ์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เท่าที่เวลาและรูปแบบของการแสดงจะเอื้อให้ได้ ผู้ชมอย่างผมได้ทั้งอรรถรส ความบันเทิง ความสนุกสนาน ตลกโปกฮา และคุณค่าที่แฝงอยู่ แทบจะไม่ต่างจากฉบับนิยายเลย (หลายฉากไม่คิดว่าจะสื่อออกมาได้ด้วยซ้ำ) เมื่อผนวกกับฝีมือประพันธ์ดนตรีโดยคุณไก่ สุธี แสงเสรีชน ที่นำเพลงสไตล์ยุค 60 มาเป็นแม่แบบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของเรื่องราว ผสานกับการออกแบบท่าเต้นที่ได้แรงบันดาลใจจากยุคเดียวกัน และแสดงโดยทีมนักร้องนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้ น้ำใสใจจริงเวอร์ชั่นนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในความคิดของผม จะเป็นรองเพียงบทประพันธ์ดั่งเดิมเท่านั้น และถือเป็นงาน สุขนาฏกรรม ที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสได้ชม
ผมเคยอ่านบทวิจารณ์ของคุณพรพิมล ลิ่มเจริญ ที่เคยวิจารณ์แม่นาค เดอะมิวสิคัลของค่ายนี้ ตอนหนึ่งว่า เมื่อได้ชมละคร สามารถรับรู้ได้ว่า ทีมงานรักงานของเขาเหลือเกิน และให้เกียรติผู้ชมของเขาเหลือเกิน ผมอยากบอกว่า ผมรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันเมื่อได้ชมละครเรื่องนี้ นอกจากความจริงใจในมิตรภาพที่เป็นอรรถรสที่ได้รับจากเรื่องราวของละคร ผมยังได้รับรู้ว่า งานคุณภาพชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกขั้นตอนถูกกลั่นกรองมาจากมันสมองของยอดฝีมือในวงการมิวสิคัลเมืองไทย และที่สำคัญ มันถูกทำอย่างตั้งใจและจริงใจต่อเนื้องานและผู้ชมอย่างที่สุด นี่แหละครับ น้ำใสใจจริง
แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 53 15:04:15
จากคุณ |
:
ชีวารมย์
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ส.ค. 53 14:32:17
|
|
|
| |