** เรื่องเล่าจากเรา อีกแล้ว... คราวนี้เป็นเรื่องของลิซ่า กับ ไมเคิล บ้าง ** ...^^

ขอเม้าส์ก่อนล่ะกันนะ

       อย่าเพิ่งเบื่อกับเราซะก่อนนะ ที่ชอบเรื่องมาเล่า

สงสัยอยู่เหมือนกันว่าก่อนหน้าที่ยังไม่ได้มีโอกาสมาโพสต์ ก็เฉยๆๆ

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ร้อนรน ยังไงก็ไม่รู้... โอ้ย บอกไม่ถูก

        เล่าเลยละกัน

**  ในรอบรั้วบ้านหลังดังกล่าวเธอเป็นผู้จัดระบบคุ้มกันภัยเอง โดยไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากสามี ด้วยเกรงว่าจะถูกคุกคามจากญาติพี่น้องของไมเคิล  เพราะความที่เธอเป็นภรรยาของไมเคิล อย่างถูกต้องตามกฎหมายทำให้หลายคนเกรงไปว่าเธอจะฮุบสมบัติของไมเคิล ไว้แต่ผู้เดียว ตามคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิด กับ ลิซ่า ว่ามีโทรศัพท์ลึกลับขู่เอาชีวิตเธอและลูกๆ ซึ่งมีใจความว่า

                    “คุณไม่ควรแต่งงานกับไมเคิลเลย เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย แต่ไม่เป็นไรเรื่องทั้งหมดจะยุติลงในเร็ววันนี้ เพราะคุณกำลังจะสูญเสียสิ่งที่คุณรักที่สุดในโลก ลูกๆของคุณไง”

                     ลิซ่า กลัวสุดขีดเมื่อได้ยินคำขู่นั้น เรื่องจากคนที่โทรมาหาเธอดูเหมือนจะรู้เรื่องของเธอไปซะทั้งหมด รู้แม้กระทั้งเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเธอ       เมื่อครั้งที่เธออยู่ที่ทรัมบ์ ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก และแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ที่บ้านของ พริสซิลลา ผู้เป็นมารดาของเธอ  นอกเหนือจากคำขู่ทางโทรศัพท์ ยังมีคนส่งโน้ต ขู่เอาชีวิตเธอเป็นลายมือที่ขยุกขยิกและมีรายเปื้อนเลือดบนโน้ตแผ่นนั้น

                    ลิซ่า เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ไมเคิลฟัง และเธอเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของคนใกล้ชิดกับไมเคิล ซึ่งอาจเป็นคนในครอบครัวของเขาก็ได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะใครบางคนคงไม่พอใจกับการแต่งงานของเขา ส่วนไมเคิล นั้นไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ด้วยวิธีไหน เขาจึงชวน ลิซ่า และ ลูกๆ มาอาศัยอยู่ที่บ้านเนเวอร์แลนด์ซึ่งคาดว่าจะปลอดภัยว่า  แต่ลิซ่า เชื่อแน่ว่าคนในครอบครัว ไมเคิล จะนำอันตรายมาสู่เธอ ดังนั้นเธอจึงพาลูก แดลเนี่ยล วัย 5 ขวบ และ เบน วัย 2 ขวบมาอยู่ที่บ้านชนบทซึ่งอยู่ในเขตหมู่บ้าน ที่มียามอารักขาในฮิตเดนฮิลล์

                    บ้านหลังนี้มีเนื้อที่ 10000 ตางรางฟุต และราคาบ้านที่เธอซื้อนั้นเป็นเงิน 3 ล้านเหรียญ ถัดจากตัวบ้านไปเป็นห้องรับแขกสองห้อง และโรงนาอีกหนึ่งหลัง

                    ลิซ่า ได้ซื้อบ้านหลังนี้ไว้ก่อนที่จะแต่งงานกับไมเคิล และเธอได้ซ่อมแซมตกแต่งบ้านใหม่ รวมทั้งสร้างรั้วสูงเพื่อกั้นบริเวณที่เป็นอาณาเขตของบ้าน และหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์คุกคามเธอ ไม่ยอมให้ รปภ.ของไมเคิล อารักขาเธอ เมื่อครั้งที่ทั้งคู่เดินทางไปเมมฟิส ลิซ่า ว่าจ้างบอดี้การ์ดเพื่อตัวเธอเองและไม่ยอมออกจากห้องพักถ้าไม่จำเป็น
ทางด้านครอบแจ็คสันเกรงว่าลิซ่าจะเกลี้ยกล่อม ไมเคิล มิให้เงินช่วยเหลือครอบครัวอีกต่อไป เพราะหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว ไมเคิล ทำตัวเหินห่างจากครอบครัว เขาอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับลิซ่า และลูกๆของเธอ ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตของไมเคิล ที่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไมเคิล เป็นผู้ค้ำจุนครอบครัวไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด หรือแม้แต่เงินลงทุนทำธุรกิจให้กับสมาชิกในครอบครัว

                   มารดาของไมเคิล โต้กลับว่า ลิซ่า มารี พูดจาใส่ร้ายป้ายสีคนในครอบครัวทำให้ไมเคิล ตีตัวออกห่างจากครอบครัวไป

                   “พวกเราที่บ้านไม่ได้ข่าวคราวจากไมเคิลเลย และฉันเองก็ไม่ได้คุยกับเขามาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว”

                   และทุกคนในครอบครัวกลัวว่า ไมเคิล จะปิดบัญชีธนาคารที่เคยจ่ายให้ครอบครัว แคเธอรีน มาดาของไมเคิล พยายามติดต่อกับลิซ่า แต่เธอไม่ยอมติดต่อด้วย

                    สำหรับตัวไมเคิลเองรู้สึกเป็นทุกข์อย่างหนักเมื่อถูกโจมตีว่าการที่เขาแต่งงานกับลิซ่า มารี เพรสลี่ย์ นั้นเป็นเพียงการสร้างฉากละครเพื่อตบตาประชาชน เนื่องจากทั้งสองแยกกันอยู่ มิได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน

                    ส่วนลิซ่า มารี แก้ข่าวว่าการที่เธอแยกตัวมาอยู่ตามลำพังเป็นเพราะเธอไม่ไว้วางใจคนในครอบครัวของไมเคิลนั่นเอง….

                    ที่มา : star & style **

                   ปล... เรา อยาก ให้ ไมเคิล มีชีวิต แบบ เรียบง่าย สบาย มี ความสุข ที่ สามารถ ทำ ทุก อย่าง ได้ อย่าง ที่ ตาม ใจ เขา บ้าง ได้ ไหม เนี่ย....
                   เห็นใจจริง...ๆๆ ตามประสาคนดังก็แบบนี้นะเนอะ...

จากคุณ	: mj.iloveyou
เขียนเมื่อ	: 8 ก.ย. 53 14:08:50