หัวข้อ: Pharma café : วัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
http://www.suparuj.com/forum/index.php?topic=23322.0
โดย ... plee_n (เหนือ) ♥ ปล่อยรัก
ตอนแรกช่างใจอยู่นานว่าจะเขียนบทความด้านยาดีมั๊ย เพราะกลัวว่าจะเป็นการชี้นำ เพราะยามีทั้งข้อดี และข้อเสียนะจ๊ะ ที่กังวลเพราะช่วงนี้ พรบ การร้องเรียนเริ่มเข้ามา
แต่เพื่อสนองนโยบายท่าน ดร. ศุภจิ้ว..เลยคิดว่าถ้าเขียนบทความเป็นกลางๆ คงไม่เป็นไรมั้ง
เพราะการอ่านบทความน่าให้ประโยชน์มากกว่า..ชิมิ
ที่เขียนเรื่องนี้เพราะใกล้ตัวทุกคนมากๆๆ การระบาดระลอก 3 ของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลกำลังจะมา คือ ตุลาคม 2553 กุมภาพันธ์ 2554 นั่นเอง ซึ่งตอนนี้หลายโรงพยาบาล คนไข้หวัดเริ่มมากขึ้น มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังอยู่ในต้น wave ระลอก 3 นั่นเอง..หุหุ
มีคนถามเสมอว่า ฉีดวัคซีนป้องกันดีมั๊ย จะแพ้หรือเปล่า แต่ก็กลัวเป็น เอาไงดี
เลยคิดว่าไหนๆๆ เพิ่งไปประชุมเรื่องนี้มาล่าสุดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า...เขียนเล่าให้ฟังละกัน
ที่ต้องเรียกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล (seasonal flu vaccine) เพราะวัคซีนตัวนี้ได้รวม เชื้อไวรัส H1N1 ที่ได้ระบาดในปี 2009 เข้าไปแล้ว ดังนั้น เชื้อไวรัส ในปี 2009 มันได้กลายเป็นเชื้อไวรัสตามฤดูกาลได้แล้วนะสิค่ะ จะกลัวมันอีกดีมั๊ย เพราะมันได้กลายเป็นเชื้อร่วมโลกกับเราแล้ว
กลัวหรือไม่กลัวก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่ประมาท การป้องกันตัวของกระทรวงสาธารณสุขที่เคยบอกมายังต้องคงไว้ คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือได้ทั้งล้างด้วยน้ำและสบู่ และการใช้ alcohol gel hand wash ก็สะดวกดี(โดยส่วนตัวชอบมากค่ะ) ใส่หน้ากากอนามัยในที่ชุมชน หรือเวลาเราเป็นหวัด (เพื่อไม่ให้แพร่ไปยังผู้อื่น) และการฉีดวัคซีนอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเช่นกัน...แต่อย่าเชื่อจนกว่าจะอ่านจบนะคะ
เกริ่นมาตั้งนานยังไม่ถึงเนื้อหา....เริ่มเลยนะคะ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่ใช้กันอยู่ตอนนี้เป็นวัคซีน เชื้อตายค่ะ โดย ภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนในไม่เกิน 14 - 28วัน (คือต้องให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเองก่อน ถึงจะป้องกันโรคได้ ส่วนวัคซีนเชื้อเป็น ที่องค์การเภสัชกรรมกำลังผลิตอยู่ ยังไม่สำเร็จดี และทั้งเชื้อเป็น และ เชื้อตายมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน..ยังไม่ขอพูดถึงนะคะ)
โดยวัคซีนตัวนี้ประกอบด้วยเชื้อ Flu A 2 ตัว (1 ใน Flu A คือ สายพันธ์ที่ก่อโรค ปี 2009) เชื้อ Flu B 1 ตัว ค่ะ (ลืมบอกไปไวรัสที่ทำให้เป็นไข้หวัดใหญ่ มี 2 สายพันธ์ คือ A กับ B ค่ะ)
โดย WHO จะสุ่มเลือกสายพันธ์ต่างๆ เป็นการคาดการณ์ทางระบาดวิทยา และประกาศใช้ทุกปี จึงต้องฉีดทุกปี โดยมีสายพันธ์ขั้วโลกเหนือประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนสายพันธ์ขั้วโลกใต้ประกาศเดือนกันยายน ประเทศไทยใช้สายพันธ์ขั้วโลกใต้นะคะ ดังนั้นช่วงเวลาจากการคัดเลือกสายพันธ์จนถึงมีวัคซีนออกมาใช้ประมาณ 6-8 เดือนค่ะ
แต่ยังไงก็ตามมีข้อห้ามใช้เช่นกันค่ะ
1.ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ เพราะวัคซีนผลิตจากไข่ไก่ฟัก หรือโปรตีนจากไก่
2.ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรง ส่วนประกอบต่างๆ ขอยกตัวอย่าง เช่น นีโอมัยซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือ Octoxinol-9 แต่อาจแตกต่างได้ตามยี่ห้อ ต้องถามโรงพยาบาลนั้นๆ กรณีมีประวัติแพ้ยา
3.กรณีเจ็บป่วยและมีไข้สูง หรือมีการติดเชื้ออย่างเฉียบพลัน ควรเลื่อนการฉีกวัคซีนออกไปจนกว่าจะหายเป็นปกติ
วัคซีนตัวนี้ ยังมีข้อกำจัดบางประการนะคะ คือ ได้ผลประมาณร้อยละ 93 แต่ไม่เป็นไรนะคะ
แค่เตือนว่าถึงฉีดแล้ว แต่เห็นถ้าไม่ดี คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการคล้ายไข้หวัด รีบไปพบแพทย์ด่วนนะคะเพราะยาต้านไวรัส Oseltamivir ยังได้ผลอยู่ค่ะ ถ้าได้เริ่มกินภายในเวลาอันรวดเร็ว
และอีกอย่าง ที่ไม่ได้ผลเพราะเชื้อไวรัสที่เราติดมาไม่ตรงกับวัคซีนที่ฉีดเข้าไป แปลว่า WHO เดาผิดนั่นเอง..แต่อาจจะเฉพาะเรานะคะ ไม่ใช่สำหรับคนทั่วโลก...5555
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการฉีดวัคซีน คือปวดหัว เหงื่อออก ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ มีไข้ รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ล้า อ่อนแรง ส่วนบริเวณที่ฉีด อาจพบ แดง บวม ปวด ห้อเลือด ตุ่มนูน ซึ่งอาการเหล่านี้ควรหายภายใน 1-2 วันนะคะ มิเช่นนั้นต้องไปพบแพทย์แล้วค่ะ
ส่วนอาการแพ้อย่างรุนแรงก็พบได้ เช่นกันค่ะ แต่มักจะเกิดภายในเวลารวดเร็วหลังจากฉีดยา 5-30 นาที (ดังนั้นพี่ๆ พยาบาลจะกักตัวไว้หลังฉีดประมาณ 30 นาทีหลังฉีดนะคะ..อย่าเพิ่งรีบไปไหนซะล่ะ) อาการแพ้รุนแรงนี้มักจะเกิดกับระบบผิวหนัง ระบบหายใจ และ ระบบไหลเวียนเลือดค่ะ
ส่วนที่หลายคนโดยเฉพาะวงการสาธารณสุขกังวลมาก คือ อาการข้างเคียงนี้ค่ะ จียาน-แบเร Guillain-Barré Syndrome - GBS หรืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างรุนแรงเฉียบพลัน ภายใน 6 สัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งพบได้ประมาณ ซึ่งพบน้อยมาก 1 ต่อ ล้านคน (ก็ลุ้นเอาละกันค่ะ)
สรุปนะคะ...ถ้าไม่มีข้อห้ามใดๆๆ ดังกล่าวที่ผ่านมา ฉีดก็ดีค่ะ แต่ตอนนี้ที่รู้มาล่าสุด..วัคซีนเริ่มขาดตลาดเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร เด๋วคงมีให้ฉีดแน่นอนค่ะ เพราะเป็นแผนหลักของกระทรวงสาธารณสุขค่ะ
ที่มานะคะ : จากอาจารย์แพทย์หลายท่าน เช่น พญ พรรณี ปิติสุทิธรรม,
รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์,เอกสารกำกับยาของ GPO
และ ข่าวสารด้านยาโรงพยาบาลข้าพเจ้าเอง
ถ้าท่านใดอ่านประเด็นไหน ไม่เข้าใจ สงสัยใดๆๆ ในเรื่องนี้ถามได้เลยค่ะ
หรือมีเรื่องยาอื่นๆๆ ที่อยากรู้ แต่ไม่อยากหน้าไมด์ หลังไมด์ก็ได้ค่ะ ส่วนคำตอบจะตอบได้ช้าหรือเร็วขึ้นกับคำถามว่ายากหรือง่ายนะคะ เพราะเรื่องสุขภาพกายและยาที่ใช้อาจเป็นความลับส่วนบุคคล หลังไมด์ หรือ PM ก็จะเป็นความลับต่อไปคร้า..สัญญา
สำหรับเหนือนั้น ขอตอบเรื่องยา และการใช้ยาอย่างเดียว ไม่ขอตอบเรื่องโรคนะคะ ไว้เป็นหน้าที่ของคุณหมอดีก่า
ส่วนคำถามที่ถามได้ตอบแน่ๆๆ และหน้าไมด์แล้วน่าจะมีประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย ถามมาได้เลยค่ะเช่น กินยาคุมแล้วทำไมนู๋ยังท้องค่ะเจ๊ หรือลืมกินยาทำไงดี ทำไมกินยาแล้วเกิดอาการอย่างนั้นอย่างนี้ หรือ ตั้งครรภ์อยู่กินยาตัวนั้นตัวนี้ได้มั๊ย หรือจะแต่งงานแล้วต้องฉีดวัคซีนอะไรมั๊ยเจ๊ อันนี้อยากตอบค่ะ แต่ถ้าถามว่า ทำไมค่ายาแพงจัง เจ๊ออกค่ายาให้หน่อย อันนี้ห้ามถามนะคะ
ไปล่ะคะ...ไว้จะมาบ่อยๆๆ ห้องวิชาการเนี่ย ชอบจัง..คิดได้ไง ท่าน ดร.ศุภจิ้ว..เลิศมั๊กค่ะ
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 16:02:35