ความคิดเห็นที่ 1 SUPER JUNIOR ชื่อ : SUPER JUNIOR / 슈퍼주니어 / ซุปเปอร์ จูเนียร์ (เรียกสั้นได้ว่า SJ(เอสเจ)  / SuJu (ซูจู))   สังกัด : SM Entertenment   สมาชิก : 13 คน (ชาวเกาหลีใต้ 12 คน และชาวจีน 1 คน) ประกอบด้วย  이특 / Leeteuk / อีทึก (หัวหน้าวง) 희철 / Heechul / ฮีชอล 한경 / Hankyung / ฮันคยอง                    예성 / Yesung / เยซอง 강인 / Kangin / คังอิน                            신동 / Shindong / ชินดง 성민 / Sungmin / ซองมิน                        은혁 / Eunhyuk / อึนฮยอก 동해 / Donghae / ทงเฮ                   시원 / Siwon / ซีวอน 려욱 / Ryeowook / รยออุค                     기범 / Kibum /  คีบอม 규현 / Kyuhyun /  คยูฮยอน   **เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548 นั้น มีสมาชิกจำนวน 12 คน คยูฮยอน เข้ามาเป็นสมาชิกคนที่ 13 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549                                เป็นวงบอยแบนด์ที่มีสมาชิกมากที่สุด สมาชิกทั้งหมดของวงล้วนแต่ผ่านการคัดเลือกจากเวทีต่างๆเข้ามา มีความสามารถที่มีลักษณะเฉพาะตัว และผ่านการทำงานในสายบันเทิงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแสดง พิธีกร หรือนายแบบ   ยูนิตย่อย : SUPER JUNIOR - KRY // T // M // H สีประจำวง : สีน้ำเงินมุก  (Sapphire Blue)   ชื่อของแฟนคลับ : ELF (เอลฟ์) มาจากคำว่า Ever Lasting Friends ต้นปี พ.ศ. 2547 เกิดข่าวลือหนาหูแพร่สะพัดไปในอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับการก่อตั้งบอยแบนด์กลุ่มใหญ่ของ SM Ent. ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ จนกระทั่งต้นปี พ.ศ. 2548 SM Ent. ได้ออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าว พร้อมทั้งประกาศว่าบอยแบนด์กลุ่มดังกล่าวจะมีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 12 คน และจะทำการเปิดตัวต่อสาธารณชนก่อนสิ้นปี และยังได้เน้นว่า บอยแบนด์กลุ่มนี้จะกลายเป็น "ประตูสู่ความเป็นดาวแห่งเอเชีย( The Gateway to Stardom of Asia )" ในขณะนั้น พวกเขาถูกเรียนขานว่า O.V.E.R. (โอเวอร์ ) ซึ่งย่อมาจาก Obey the Voice for Each Rhythm แปลว่า ยึดมั่นในท่วงทำนองของแต่ละจังหวะ  และในภายหลังได้กลายมาเป็น SUPER JUNIOR 05 SUPER JUNIOR ก่อนการเปิดตัวในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2548 ทางสถานี M.NET  SUPER JUNIOR ได้บันทึกรายการ แสดงการเต้นสไตล์ฮิบฮอปในหลากหลายรูปแบบ พวกเขาทั้งหมดเต้นร่วมกันในเพลง Take It To The Floor ของวง B2K( บีทูเค) นอกจากนั้น "ฮันคยอง, อึนฮยอค และดงแฮ"  ยังได้เต้นเพลง Caught Up ของ Usher (อัชเชอร์) อีกด้วย แต่รายการดังกล่าวกลับไม่ได้ถูกนำออกอากาศ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 รายการที่บันทึกไว้ได้กลายเป็นช่วงหนึ่งของรายการ "Super Junior Show" ซึ่งเป็นรายการสารคดีทางโทรทัศน์เรื่องแรกของพวกเขา     SUPER JUNIOR ได้เปิดตัวและออกรายการ โทรทัศน์ครั้งแรกที่สถานี SBS ในรายการ Ingigayo หรือ Popular Songs เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 แสดงในเพลง Twins (Knock Out) ซิงเกิลแรกของพวกเขา ซึ่งภายหลังจากการแสดงครั้งนั้น SUPER JUNIOR ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลง และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ทางต้นสังกัดตัดสินใจที่จะออกวางขายอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของ SUPER JUNIOR ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยที่ก่อนหน้านี้นั้น SUPER JUNIOR ได้ออกซิงเกิ้ลพิเศษที่มีชื่อว่า Show Me Your Love ร่วมกับสมาชิกร่วมค่าย  TVXQ ไปแล้ว เมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2548 วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 SM Ent. ตันสังกัดได้ประกาศเพิ่มสมาชิกคนที่ 13 คยูฮยอน ทำให้ SUPER JUNIOR ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 13 คน และพวกเขาได้ออกซิงเกิ้ลใหม่ที่มีชื่อว่า U โดยได้เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีที่เว็บไซต์ของ SM Ent. ในวันที่ 25 พฤษภาคม และ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ตามลำดับ เพื่อตอบแทนแฟนเพลงที่ให้การตอบรับ SUPER JUNIOR เป็นอย่างดี โดยมียอดดาวน์โหลดกว่า 400,000 ครั้ง ภายใน 5 ชั่วโมง และยอดดาวน์โหลดรวมกว่า 1.4 ล้านครั้ง ซีดีซิงเกิ้ล U ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2548 และสามารถขายได้กว่า 83,000 copies อนึ่ง “ อึนฮยอค”  ยังมีชื่อในฐานะผู้เขียนท่อนแร็ปของซิงเกิล U อีกด้วย ต้นเดือนสิงหาคม 2548 มิวสิกวิดีโอ Dancing Out ได้เริ่มออกอากาศตามสถานีโทรทัศน์ SUPER JUNIOR ได้ออกแสดงโปรโมทตามรายการโทรทัศน์สถานีต่างๆ โดยมิวสิกวีดีโอเพลงนี้ถ่ายทำกันที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อครั้งที่ SUPER JUNIOR ได้เป็นแขกรับเชิญพิเศษให้กับคอนเสริต์ของนัก ร้องร่วมค่าย TVXQ ที่จัดขึ้นที่มาเลเซียในช่วงเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2548   แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นถึง 2 เรื่อง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2548  คุณพ่อของ “ทงเฮ” เกิดเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันด้วยอาการป่วยเรื้อรัง ทำให้สมาชิกในวงต้องเดินทางกลับไปยังเกาหลีใต้เพื่อร่วมพิธีศพที่จัดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2548 หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีศพแล้ว ในระหว่างการเดินทางกลับ “ฮีชอล” ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ขา ซึ่งแพทย์ระบุว่า “ฮีชอล”นั้นต้องพักงานนานเป็นเวลากว่า 3-6 เดือนด้วยกัน ส่งผลให้ SUPER JUNIOR จำเป็นต้องพักงานที่รับไว้ในช่วงหลังจากเหตุการณ์ ครั้งนั้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์เกือบทั้งหมด คืนวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2550 เวลา 00.21 น. “อีทึก อึนฮยอก ชินดง และคยูฮยอน” ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างการเดินทางกลับมาจากการอัดรายการวิทยุ "Kiss The Radio" บนทางด่วน ใกล้แยกบริเวณสะพานทงจัก (Dongjak Bridge) แพทย์เปิดเผยว่า “คยูฮยอน” อาการหนักสุด เพราะกระดูกซี่โครงขวาหัก ปอดเลือดไหลไม่หยุด กระดูกเชิงกรานและข้อเท้าหัก ซึ่งจะต้องเข้าตรวจรักษาอย่างใกล้ชิด ในขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ มีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากการบาดของเศษกระจกที่แตกเท่านั้น โดย “คยูฮยอน” นั้นได้พักงานเป็นเวลาประมาณ 5 เดือน และกลับมาทำงานต่อได้ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2550 สืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของสมาชิกในวง ทำไห้โครงการสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของ SUPER JUNIOR ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกระทั่งวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550 “ Don't Don” ได้รับการออกวางจำหน่ายในที่สุด วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2550 SUPER JUNIOR ได้ร่วมกันขึ้นแสดงอีกครั้งเป็นครั้งแรกสำหรับการโปรโม ทอัลบั้มชุดนี้ที่รายการ Music Bank ทางสถานี KBS การแสดงในครั้งนี้นับเป็นแรกที่สมาชิกทั้ง 13 คนได้ขึ้นแสดงพร้อมกันในรอบ 1 ปีอีกด้วย Don't Don เปิดตัวด้วยอันดับที่ 1 บนชาร์ต โดยภายใน 7 วันหลังออกวางจำหน่าย สามารถทำยอดจำหน่ายได้กว่า 60,000 copies และหลังจากนั้น 3 เดือน  Don't Don สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากถึง 164,058 ชุด กลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของ SUPER JUNIOR นอกจากนี้ ยังรั้งอันดับ 2 ในชาร์ตอัลบั้มขายดีที่สุดในปี พ.ศ. 2550 อัลบั้ม Don't Don SUPER JUNIOR มีชื่อเข้าชิงรางวัลในงาน 2007 M.NET/KM Music Festival ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ถึง 7 สาขา และสามารถคว้ารางวัลกลับบ้านได้ถึง 3 รายการ ได้แก่ Netizen Choice Award และ Mobile Popularity รวมไปถึงรางวัลใหญ่ที่สุดในงาน(แดแซง - Daesang) Best Artist of the Year ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอย่างสูงของ SUPER JUNIOR และอัลบั้มชุดนี้ และในอัลบั้ม Don't Don นี้สมาชิกหลายคนได้เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในส่วนของการเขียนเนื้อเพลง “อีทึก, ซองมิน, อึนฮยอค และดงเฮ” ร่วมกันเขียนเพลงในสไตล์ป๊อปเพลง I am และ “อึนฮยอค”ยังคงเป็นสมาชิกหลักที่มีบทบาทมากที่สุดในการเขียนและร้องแร็ปในอัลบั้มชุดนี้ จากความสำเร็จทั่วเอเชีย SUPER JUNIOR เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตแรกของพวกเขาในชื่อ Super Show The 1st Asian Tour โดยเริ่มต้นที่ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่สนามกีฬาฟันดาบ โซลโอลิมปิคพาร์ค ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 แสดงทั้งสิ้น 3 รอบ มีแฟนๆ มาร่วมชมคอนเสิร์ตกันแน่นขนัด หลังจากนั้นทยอยไปทัวร์ไปตามประเทศต่างๆ เริ่มที่กรุงเทพ ในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ต่อด้วยปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ไทเป และ กัวลาลัมเปอร์ รวมกว่า 10 รอบการแสดงในกว่า 9 ประเทศ สำหรับการทัวร์ครั้งนี้ได้มีขับร้องเพลงฮิตรวมไปถึงเพลงของยูนิตย่อยต่างๆ เช่น SUPER JUNIOR-T และ SUPER JUNIOR –K.R.Yอีกด้วย วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551 SUPER JUNIOR ได้เดินทางไปร่วมงาน เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส 2008 ที่จัดขึ้นที่เก็นติงไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย พวกเขาได้ขึ้นแสดงเพลง Mirror / Don't Don และ A Man In Love ซึ่งในงานนี้ SUPER JUNIOR ได้รับรางวัล  "ศิลปินยอดนิยมจากเกาหลี" อีกด้วย Sorry Sorry ชื่ออัลบั้มที่ 3 ของ SUPER JUNIOR วางจำหน่ายเมื่อ 12 เดือนมีนาคม พ.ศ.2552โดยก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น มียอดจองอัลบั้มกว่า 150,000 ชุด  เป็นอัลบั้มที่ทำให้ SUPER JUNIOR เป็นที่รู้จักกว้างขวางและประสบความสำเร็จมากที่สุด SUPER JUNIOR ได้ทำการขึ้นแสดงเพลง Sorry Sorry ซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม และเพลง Why I Like You ที่รายการมิวสิกแบงก์ในการกลับมา ในอัลบั้มนี้ได้รับการออกแบบโดย “นิค แบส” นักออกแบบท่าเต้นชื่อดังท่าเต้นที่ใช้ในการแสดง รวมไปถึงในมิวสิกวิดีโอ จนเป็นท่าเต้นที่นิยมเต้นกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ อัลบั้ม Sorry Sorry ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตอัลบั้มขายดีของเกาหลีใต้ซึ่งมียอดจำหน่ายสูงถึง 200,000 ก็อปปี้ ส่วนซิงเกิล Sorry Sorry นั้นก็ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงทั้งในเกาหลีใต้และต่างประเทศทั่วเอเชียเช่นกัน หลังจากสิ้นสุดการโปรโมต Sorry Sorry SUPER JUNIOR ได้ปล่อยซิงเกิล It's you ออกมาและหลังจากเปิดตัวได้เพียง 1 สัปดาห์ ก็สามารถครองอันดับ 1 ในชาร์ตต่างๆได้ทันที แต่อย่างไรก็ดีแม้จะเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทางกลับกันก็เป็นอัลบั้มที่เกิดปัญหามากที่สุดเริ่มจาก “คิบอม” สมาชิกที่ปรากฏตัวให้เห็นเฉพาะในมิวสิควีดีโอ ไม่ได้ทำการขึ้นแสดงที่เวทีและรายการใดๆกับเพื่อนร่วมวง “คังอิน” สมาชิกที่เกิดความผิดพลาดในเรื่องส่วนตัวจนเกิดคดีความจนทำให้ต้องถูกพักงานในช่วงหลัง  “ฮันเกิง” มีปัญหาฟ้องร้องเรื่องสัญญากับทางต้นสังกัดจนต้องงดปรากฏตัวกับเพื่อนร่วมวงทั้งในฐานะ SUPER JUNIOR และ SUPER JUNIOR-M ที่อยู่ในช่วงโปรโมต มินิอัลบั้ม SUPER GIR หลังจาก SUPER JUNIOR เสร็จสิ้นการโปรโมทอัลบั้ม ชุดที่ 3 และได้ทำให้เพลง Sorry Sorry, It’s You ดังติดชาร์ทไปแล้ว ถึงเวลาเปิดคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ครั้งที่ 2 ซึ่งมีชื่อว่า 2nd Asia Tour Super Junior Super Show 2 โดยเริ่มจากกรุงโซล และจะมีขึนที่โตเกียว, ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กรุงเทพ,ไทเป,มาเลเซีย,ฟิลิปปินส์ รวมทั้งหมด 8 ประเทศ 15 รอบทั่วเอเชีย คอนเสิร์ตครั้งนี้มีการโชว์หลายเพลงที่เป็นที่นิยมทั้งเพลง U, Sorry Sorry,it’s you, a man in love ทั้งยังมีการโชว์เดี่ยวของสมาชิกหลายๆคน แสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่และมีโชว์ของ Super Junior K.R.Y, Super Junior T, Super Junior M นอกจากนี้ ยังมีการแสดงพิเศษคือการแสดงเพลง GEE , CHU ของนักร้องเกร์ลกรุ๊ปร่วมข่ายเหล่านี้จะทำให้ทุกคนหัวเราะสนุกสนานและจะรับรู้ได้ถึงพลังของ SUPER JUNIOR   BONABANA อัลบั้มชุดที่ 4 ของ SUPER JUNIOR  วันที่ 13 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2553 อัลบั้มนี้มีสมาชิกที่ทำกิจกรรมทั้งหมดเพียง 10 คน เนื่องด้วยสมาชิก 3 คน ได้แก่  "คิบอม" ที่มุ่งมั่นให้กับงานแสดง "คังอิน" ติดปัญหาเรื่องคดีความส่วนตัวและจเข้ารับการเกณฑ์ทหาร และ "ฮันเกิง" ติดปัญหาเรื่องคดีฟ้องรอ้งระหว่างบริษัท และออกผันตัวไปทำกิจกรรมเดี่ยวที่ประเทศจีนบ้านเกิด         เนื้อหายังไม่สมบูรณ์ กำลังเรียบเรียงค่ะ  WEBSITES http://superjunior.smtown.com http://www.avex.com.tw/superjunior http://superjunior-jp.net http://superjunior.syncl.jp http://sj-world.net http://sj-market.com http://www.sjfans.cn http://www.13monkeyshouse.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 21:23:49 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 20:45:20 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 19:48:05 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:42:38

ความคิดเห็นที่ 2 LEETEUK ชื่อจริง : Park Jungsoo ฮันกึล: 박정수 อ่านว่า พักจองซู ฮันจา: 朴正洙อ่านว่า เผียวเจิ้งจู ชื่อในวงการ :Leeteuk ฮันกึล: 이특อ่านว่า อีทึก ฮันจา: 利特อ่านว่า ลี่เท่อ ฉายา : ปีเตอร์แพน ,แกทึก(หมาทึก), Special Leader, Ori(เป็ด), นางฟ้าผู้ไร้ปีก ชื่อที่ใช้เรียกตัวเอง : นางฟ้าทึกกี้ [นางฟ้าผู้ไร้ปีก] ตำแหน่งในวง : สมาชิกหมายเลข 1 , หัวหน้าวง ลักษณะโทนเสียง: Tenor [เสียงสูงสุดของผู้ชาย] ความสามารถพิเศษ,งานอดิเรก : เปียโน กีตาร์ แต่งเพลง บีทบ็อกซ์ เล่นอินเตอร์เนท อาชีพ : พิธีกร นักร้อง นักเต้น ดีเจ ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 6 ปี (2000-2005) วันเกิด : 1 july 1983 (1 กรกฏาคม 2526) กรุ๊ปเลือด : A ศาสนา : คริสต์คาทอลิก ราศี : ราศีสิงห์ ผลไม้ที่ชอบ : ลูกแพร สตรอเบอร์รี่ องุ่น สับปะรด เลขที่ชอบ : 1, 3, 7 สีที่ชอบ : สีขาว นิสัยที่ไม่ชอบ : คนดื้อ ฤดูที่ชอบ : ฤดูใบไม้ร่วง กีฬาที่ชอบ : บาสเก็ตบอล โบลิ่ง สัตว์ที่ชอบ : ลูกสุนัข ดอกไม้ที่ชอบ : กุหลาบ ที่มาของฉายาต่างๆ : -ปีเตอร์แพน [ฮีชอลตั้งให้ทุกคนในวง] -แกทึก [cyworld ฮีชอล] -Special Leader [เรียกตัวเอง] -Ori [เป็ด] -นางฟ้าผู้ไร้ปีก [เรียกตัวเอง] ภูมิลำเนา : โซล เมืองยอนชินเน ครอบครัว : เป็นบุตรคนที่ 2 มีพี่น้อง 1 คนได้แก่ พี่สาว ชื่อปาร์คอินยอง (1982) การศึกษา : -Shinsa Elementary School -Soongshil Middle School -Soongshil High School -Transferrred from Paekche Institute of the Arts to Inha University การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05 200_ : [CF].. เป๊ปซี่ 2000 : [Guest] MBC - All About Eve (이브의 모든것)ปรากฏตัวครั้งแรก[April-july 2000] 2000 : [Casting] Starlight Casting System 2000 2005 : [Debut] Super Junior 05 [20051106] ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน งานเพลง 2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108] 2005 : [Album] Super Junior05 (TWINS) [20051205] 2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215] 2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006)[May.2006] 2006 : [Single] Super Junior U [20060525] 2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620] 2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212] 2007 : [Unit] Super Junior T [20070225] 2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704] 2007 : [Ost.] Flower Boy [20070727] 2007 : [Album] Super Junior the second album (Don't Don) [20070820] 2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207] 2008 : [Unit] Super Junior Happy [20080530] 2008 : [Concret] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521] 2009 : [Album] Super Junior the 3rd album (Sorry Sorry) [20090312] พิธีกร [MC] 2005 : Mnet - M.NET M!Countdown (SJ:LT,KI,SD) [20051110-2006_ _ _ _ ] 2007 : love fighting ... ผลงานอื่นๆ [etc.] 2007 : [DJ] Super Junior kiss the radio (SJ:LT,EH) [2007_ _ _ _- presen] 2008 : [Model] .... 200_ : [CF] ... ไอติม.. 2006 : [Guest] Rainbow romance Ep136 [20060508] วีกรรมต่างๆและลักษณะนิสัยตั้งแต่ก่อนเดบิวจนถึงปัจจุบัน ก่อนเดบิวท์ครั้งแรก ก่อน ปี2000ลีทึกได้อยู่ที่เมียงดง และได้ถูกทาบทามให้มาประกวดในโครงการStarlight Casting System 2000 และได้เซนต์สัญญามาอยู่ค่าย Sm entertainment ในปีเดียวกัน และปี 2000 นั้นเองลีทึกได้แสดงเป็นตัวประกอบในเรื่อง All about eve ทางช่องMBC และได้เป็นนายแบบให้กับโฆษณาเป๊ปซี่ ก่อนที่จะมาเป็นซุปเปอร์จูเนียร์ ลีทึกได้ถูกจัดกลุ่มที่มีสมาชิก 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีดงแฮด้วย แต่แล้วโปรเจคนั้นถูกยกเลิกไป ซึ่งชื่อวงอาจจะได้ชื่อว่า OK,Pricorหรือ Smile หลังจากที่เขาได้เดบิวท์ในนามซุปเปอร์จูเนียร์ ลีทึกก็อยากจะมีชื่อเรียกในวงการเหมือนคังตะ เขาจึงได้เลือกชื่อคือลีทึก ซึ่ง “ทึก”มีความหมายว่า ความพิเศษ ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า Happy together friends การเดบิวท์ เมื่อ วันที่ 6 พย. 2005 ลีทึกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในซุปเปอร์จูเนียร์ ได้เดบิวอย่างเป็นทางการในรายการเพลงที่มีชื่อเสีย inkigayo ทางช่อง SBS พวกเขาได้ร้องเพลง Twins (Knock out) ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรก เพราะว่าลีทึกอายุมากที่สุดในวง จึงได้ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าวง และตั้งแต่เดบิวท์ลีทึกก็ได้เป็นพิธีกรในรายการ MNET M!Count down ร่วมกับคังอินและชินดง อย่างไรก็ตาม ในปี 2006 อึนฮยอกก็ได้เข้ามาทำหน้าที่แทนคังอิน และเนื่องด้วยตารางงานที่เยอะ ทำให้ ทั้งสามคนได้ตัดสินใจออกจากการเป็นพิธีกรกรายการ MNET M!Count down โดยวันสุดท้ายที่พวกเขาได้เป็นพิธีกรรายการนี้คือวันที่ 27 มีนาคม 2008 และลีทึกได้เป็นดีเจคู่กับอึนฮยอก ในรายการวิทยุ KBS Super Junior Kiss the Radio ทางช่อง KBS ซึ่งเริ่มจัดมาตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2006 เมื่อเดือนธันวาคม 2007 ลีทึกได้กลายมาเป็นพิธีกรรายการของตัวเองชื่อว่า Leeteuk 's love fighter ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความรักของคู่รัก อุบัติเหตุทางรถยนต์ ลี ทึกได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 19 เมษายน 2007 ระหว่างการเดินทางกลับหลังจากอัดรายการวิทยุ kiss the radio นอกจากอีทึกแล้วก็ยังมี อึนฮยอก ชินดง คยูฮยอน และผู้จัดการสองคนที่ได้รับบาดเจ็บด้วย ชินดงและอึนฮยอกโชคดีที่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ส่วนลีทึกและคยูฮยอนได้รับบาดเจ็บสาหัดและได้พักอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน ลีทึกมีเศษแก้วฝังบริเวณที่หลังและส่วนเหนือตา และเขาก็ได้เข้ารับการผ่าตัด และถูกเย็บไปประมาณ 170 เข็ม ลีทึกได้ออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 30 เมษายน 2007 แต่อย่างไรก็ตามลีทึกก็ยังต้องเข้ารับการรักษาแผลเป็นอยู่เป็นประจำ เพราะว่าสภาพร่างกายของเขาฟื้นตัวได้เร็ว ทำให้ได้เข้าร่วมเล่นหนังที่จะเดบิวท์ครั้งแรกของซุปเปอร์จูเนียร์เรื่อง Attack on the Pin-Up Boys (2007) ประมาณ 1 นาที ซึ่งลีทึกได้แต่งตัวในชุดมาสคอตหมีแพนด้า ซึ่งก่อนหน้านั้นผู้ที่จะแต่งชุดนี้คือรยออุค เรื่องราวของCyworld สาม เดือนหลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ลีทึกก็ได้ไปออกรายการ Mnet School of rock ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2007 ซึ่งลีทึกได้พูดเล่นๆว่าคิมยอนอา(นักฟิกเกอร์สเก็ต) ไม่ยอมรับการเชื้อเชิญมาเป็นเพื่อนในไซเวิลของเขา หลังจากรายการนี้ได้ออกอากาศ ก็มีแฟนคลับลีทึกได้ไปโพสในCyworldของยอนอากว่า 7000 คอมเม้น และแฟนคลับของยอนอาก็ได้มาโจมตีในCyworldของเขาเช่นเดียวกัน หลังจากวันนั้น ยอนอาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธการขอเป็นเพื่อนของลีทึก ท้ายที่สุดลีทึกก็ได้ออกมากล่าวขอโทษสำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมา และคราวหน้าก็จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ลีทึกกล่าวว่าเขาแค่ต้องการสร้างความน่าสนใจให้กับรายการเท่านั้นไม่คิดว่า จะกลายเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดนี้ เดือนสิงหาคมจึงได้มีการทำเรื่องราวที่เกิดนี้มาอภิปราย การอภิปรายบอกว่าตั้งแต่ลีทึกพูดเรื่องนั้นทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่า แขกรับเชิญที่มารายการพูดเรื่องจริงหรือไม่ เพราะว่ารายการนั้นไม่ได้พิสูจน์เรื่องราวก่อนนำมาเสนอ ทำให้ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้กดดันลีทึกมากนัก ทั้งๆที่ทั้งคู่มีเรื่องราวที่ขัดแย้งกัน แต่ทั้งคู่ก็ได้รู้จักและสนิทกันเพราะได้ทำงานร่วมกันจากการถ่ายแบบชุดยูนิ ฟอร์มให้กับ IVY Club credit : www.luvsuju.net Twitter / fancafe / Cyworld http://twitter.com/special1004 http://cafe.daum.net/OkayJSstory http://www.cyworld.com/jsplus Website http://www.19870821.com http://www.parkjungsu.com http://www.belovedsugar.com http://www.jsholic.com http://www.onlyjs.com http://www.teukchina.com http://www.jungsooharbor.com/ http://www.parkjungsuthailand.com http://www.jungsoo.co.kr http://www.leeteuktoday.com   แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:52:25 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 21:29:18 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 21:19:36 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:24:47

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 02:29:22 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:28:47

ความคิดเห็นที่ 4 HEECHUL ชื่อจริง : Kim Heechul (คิมฮีชอล) อักษรฮันกึล : 김희철 (Kin Heechul) คิมฮีชอล อักษรฮันจา : 金希澈 (Jin Xi Che) จินซีเช่อ ชื่อที่ใช้ในวงการ : 희철 Heechul ฮีชอล ชื่อที่เรียกตัวเอง : Flower (ดอกไม้) ชื่อที่เรียกแฟนคลับ : กลีบดอกไม้ (Petals), Undead ฉายา : ฮีนิม , ซินเดอเรลล่า , ดอกไม้ , คิมพิ้งค์, คิมคีบก , คิมเชอร์รี่, งู , ฮีรบบง, พี่ฮีบงกี้ Subunit : Super Junior T (Trot) ตำแหน่งในวง : สมาชิกลำดับที่ 2 Voice Tone : Rap, Sub-Vocal ความสามารถพิเศษ ,งานอดิเรก : แต่งกลอน ,แต่งนิยาย , เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ,วาดภาพการ์ตูน ภาษา : เกาหลี อาชีพ : นักร้อง,นักแสดง,MC,DJ ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 4 ปี (2002-2005) วันเกิด: Sunday 10 July 1983 (10 กรกฎาคม 2526) กรุ๊ปเลือด: AB(rh-) ราศีเกิด : ราศีกรกฎ ราศีเกิดตามแบบจีน : น้ำและหมู ศาสนา : ไม่นับถือพระเจ้า  สีที่ชอบ : แดง ชมพู  ผลไม้ที่ชอบ : ส้มจีน  สัตว์ เลี้ยง : ฮีบอม(แมวพันธ์รัสเซียนบลู) , แชมเปญ (แมวสยาม) ,เคยมีแมวชื่อ ยัมเช(แมวพันธ์รัสเซียนบลู) แต่มันหนีไปตอนฮีชอลไปถ่ายหนังไม่กี่วัน ที่มาของฉายาต่างๆ :  -ฮีนิม (희님)(ความหมาย ท่านฮี ที่มา ฮีชอลใช้เรียกตัวเองในCyworld) -ซินเดอเรลล่า (신데렐라) (ที่มา ฮีชอลใช้เรียกตัวเอง) -ดอกไม้ (꽃) (ที่มา ฮีชอลเปรียบเทียบตัวเองเป็นดอกไม้และแฟนคลับเป็นกลีบดอกไม้) -คิมพิ้งค์ (김분홍) -คิมคีบก (แปลว่าคิมผู้มีอารมณ์แปรปรวนค่ะ)(김기복) -คิมเชอร์รี่ (จากรายการ Youngstreet )  -งู (จากราศีเกิด)  -ฮีรบบง (ฮีรบบงเป็นหนึ่งในฉายาของฮีซอลที่เอาไว้เรียก 3 พี่น้อง ฮีชอล ทงเฮ ยุนโฮ)  -พี่ฮีบงกี้ (ชื่อเล่นที่เยซองตั้งให้ฮีชอล) ภูมิลำเนา : สถานที่เกิด คังวอนโด ครอบครัว : คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว (ชื่อฮีจิน เกิดปี 1982)  การศึกษา : - Myungduk Preschool - Shinwoo Elementary School - Jinkwang Middle School - Wonjoogongup High School - Sangji Univerisity (Kangwondo) มหาวิทยาลัยซังจียง  ปริญญา : เรียนเอกด้านการวิเคราะห์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Computer Data Analysis Major) การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05 2002 : [Casting] SM Starlight Casting System 2002 (HC02) 2004 : [etc.] SM First Showcase (HC03) 2005 : [Series] KBS2 – Sharp Love 2 (반올림2) [050306-060226 : 50Ep] (HC04) 2005 : [Series] MBC – Rainbow Romance (레인보우 로망스) [051024-061103 : 243Ep] (HC05) ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุับัน 2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108] 2005 : [Album] Super Junior05 (TWINS) [20051205] 2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215] 2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006)[May.2006] 2006 : [Single] Super Junior U [20060525] 2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620] 2006 : [Ost.] Rainbow Romance 레인보우 로망스 (SJ:HC,KB) [20060712] 2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212] 2007 : [Unit] Super Junior T [20070225] 2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704] 2007 : [Ost.] Flower Boy [20070727] 2007 : [Album] Super Junior the second album (Don't Don) [20070820] 2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207] 2008 : [Ost.] Xanadu (SJ:KI,HC) 2008 : [Concret] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521] 2009 : [Album] Super Junior the 3rd album (Sorry Sorry) [20090312] ผลงานละคร[Series] 2005 : KBS2 Loveholic (Chef's Assistant) (HC06)  2006 : MBC Bad Family - Gongmin (HC07)  2007 : Hey! Hey! Hey! (HC08)  2008 : Golden Bride (HC0) ผลงานโฆษณา[CF] 2005 : Lotte Pepero [Sep. 2005] (HC10) 2005 : Oddugi 'Ramen Bokki' [Oct. 2005] (HC11) 2005 : เสื้อผ้า Spris (2006) (HC12) 2007 : 1677 Collect Call (2007) (HC13) 2007 : Sunkist Lemonade (HC14) 2009 : แป้งเย็น 12+ Extra Cool Powder (SJ:HC,YS,SW) [Mar. 2008] (HC15) ผลงานพิธีกร [MC] 2007 : [MC] Inkigayo (HC16) 2007 : [MC] Challenge 8 vs 1 (HC17) 2008 : [MC] Band of Brothers (SJ:HC,KI& Trax:JungMo,Jay Kim) [20081025-20090123: 12 Ep] (HC18) ____ : [MC] Fish ของ Malgopi (HC19) รายการ/โชว์ [TV] 060206 M.Net School of Rock 060304 Star Golden Bell ft. Heechul, Eeteuk, Donghea, Shindong 060320 M.Net After School of Rock 060624 SBS Real Romance Loveletter Pt1 Hankyung, Heechul, Siwon 060701 SBS Real Romance Loveletter Pt2 Hankyung, Heechul, Shiwon 061205 M-Net FiZ Top 100 HeeChul Ranked 19 061229 SBS Love Choice Heechul 061231 SBS Good Sunday X-Man Pt2 Heechul, Shiwon 070225 New.X-man.E17.Heechul 070303 MBC Manwonui Haengbok - Seo Jiyoung, Kim Gura Heechul, Kangin 070304 SBS Good Sunday X-Man Heechul, Shindong 070304 KBS2 Vitamin Heechul, Kangin 070310 SBS Star King Super Junior T 070310 KBS Sponge HeeChul, ShinDong 070313 MTV Sunny Side Super Junior-T 070316 MBC Come To Play Heechul 070318 SBS Good Sunday X-Man Heechul, Kangin 070318 KBS Real Life Experience SJ-T 070325 SBS Good Sunday X-Man Heechul 070331 Ongamenet Lineage 2 Multiplayer Heechul 070401 SBS Good Sunday X-Man Heechul 070425 MBC Golden Fish HeeChul, ShinDong, EunHyuk 070520 SBS Haja Go Heechul 070720 SBS Itta Eoptta True or False HeeChul, KangIn 070802 SBS Heyx3 HeeChul 070906 SBS HeyHeyHey HeeChul 080901 SBS Yashinmanman-Heechul Kangin 080914 SBS2 A Journey to be good father Heechul 081017 Mnet Japan SJ-T Moyan Rokoku Maing 090117 SBS Because.Love.Heechul M-net No cut Making Alvin and the Chipmunks Part 1 HeeChul ผลงานมิวสิควิดีโอ 2008 : [MV] เพลง Flight Girl ของ Magolpy (SJ:HC,KI,SD) [Vitamin Entertainment, Korea] (HC20) ผลงานด้านอื่นๆ[etc.] 2005 : [DJ] SBS Power FM Youngstreet [20051101-20060430] (HC21) 2008 : [etc.] ละครเพลง Xanadu รับบทเป็น Sonny [20080909-20081109] (HC22) 2008 : [TV] To be good Father (HC23) วีกรรมต่างๆและลักษณะนิสัยตั้งแต่ก่อนเดบิวจนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้าการเดบิวต์ (HC01) ฮีชอลเข้ามาอยู่ภายใต้การจัดการของสังกัดเอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์หลังจากเขาออดิชั่นใน Starlight Casting System ในปีพ.ศ. 2545 ขณะที่เขาอาศัยอยู่ที่โซล ฮีชอลร่วมกับฮีโร่ แจจุง, ยูโนว ยุนโฮ และเพื่อนร่วมวงในอนาคต คังอิน ต้นสังกัดได้วางตัวพวกเขาในโปรเจกต์เล็กๆ ชื่อ โฟร์ซีซันส์ (Four Seasons) โดยสมาชิกสี่คนจะเป็นตัวแทนของสี่ฤดูในหนึ่งปี แต่กลุ่มที่ถูกคาดหวังไว้ก็ไม่ได้รับการเปิดตัว เมื่อสมาชิกสองคน ฮีโร่ แจจุง และ ยูโนว ยุนโฮ ได้ถูกเลือกให้อยู่ในกลุ่มบอยแบนด์ ทงบังชินกิ ที่ได้รับการเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 อุบัติเหตุทางรถยนต์ (HC24) ฮีชอลได้รับบาดเจ็บครั้งใหญ่จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่เกิดขึ้นคืนของวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าสู่กรุงโซลจากมกโพ ที่เขาได้ไปร่วมงานศพของพ่อของทงเฮ สมาชิกซูเปอร์จูเนียร์ ล้อรถยนต์ได้ทำงานผิดปกติในขณะรถกำลังพยายามเปลี่ยนเลน จากอุบัติเหตุครั้งนี้ กระดูกขาซ้ายของเขาได้แตกสี่ถึงห้าที่ รวมไปถึงกระดูกโคนขา, เข่า, และข้อเท้า ซึ่งต้องการการผ่าตัดถึง 6 ชั่วโมงและต้องเข้ารับการรักษาการบาดเจ็บอีกหลายจุด รวมทั้งลิ้นที่ฉีกขาดซึ่งต้องเย็บ เขาได้ถูกแนะนำให้หยุดกิจกรรมทั้งหมดในช่วงสิบสองสัปดาห์[7] เขาได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อ 13 กันยายน พ.ศ. 2549 และได้รับการรักษาเป็นคนไข้นอก เขากลับไปโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดครั้งที่สองเพื่อนำแท่งเหล็กในขาของเขา ออกบางส่วน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2549 เขากลับไปทำงานในระยะเวลาสั้นๆ ตอนปลายเดือนตุลาคมเพื่อถ่ายทำสามตอนสุดท้ายของละครซิทคอมวัยรุ่น เรนโบว์ โรมานซ์ ทางช่อง MBC ในขณะที่ยังใส่เฝือกและนั่งรถเข็น มันยังไม่ถึงปลายเดือนธันวาคมดีเมื่อฮีชอลกลับไปทำงานเดี่ยวของตัวเอง อย่างเช่นรายการวาไรตี้โชว์และงานพิธีกร ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 เขาก็สามารถร่วมแสดงบนเวทีในฐานะสมาชิกของ ซูเปอร์จูเนียร์ ที ได้ เขาเริ่มแสดงร่วมกับซูเปอร์จูเนียร์ทั้งหมด (ซึ่งต้องเต้นเป็นประจำและต้องใช้กำลังมากกว่าซูเปอร์จูเนียร์ ที) ในปลายเดือนเมษายนและต้นเดือนพฤษภาคม เหล็กห้าชิ้นที่ยังอยู่ในขาของเขา ซึ่งจะต้องได้รับการผ่าตัดออกหลังจากนี้ และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 การผ่าตัดในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 เพื่อนำเหล็กที่ดามอยู่ในขาของเขาออกมาหลังจากถูกใส่อยู่เป็นเวลานานถึง 2 ปี อุบัติเหตุหกล้ม (HC25) คิมฮีชอล (Kim Hee Chul) หนึ่งในสมาชิกวง Super Junior เกิดอาการบาดเจ็บที่จมูกจนทำให้ทางค่ายต้องส่ง ชินดง (Shindong) ไปร่วมรายการ Challenge 8 vs 1 แทนเขา และส่ง คังอิน (KangIn) ไปเป็นพิธีกรชั่วคราวในรายการ SBS Ingygayo ไปก่อน เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา คิมฮีชอล สะดุดหกล้มจนทำให้จมูกฟาดกับพื้นและเกิดอาการบวม เขาพึ่งได้รับการทำศัลยกรรมสายตา (เลสิค) และยังพักฟื้นได้อย่างไม่เต็มที่นัก มีการสันนิษฐานว่าที่เขาสะดุดหกล้มอาจเกิดจากสายตาที่เขายังเห็นได้ไม่ ชัดเจนนัก ทางด้านทีมงานออกมาบอกว่าเขาจะต้องใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลอีกเป็นอาทิตย์จึง ทำให้เขาต้องยกเลิกงานทั้งหมดออกไปก่อน Kiss News (HC26) การ แสดง 'Super Junior The 1st ASIA TOUR-SUPER SHOW' ขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลา 4 โมงเย็นที่ Olympic Park Fencing Stadium กรุงโซลการแสดงโซโลเพลง 'crazy' ของคิมฮีชอล หนึ่งในสมาชิกของวง ฮีชอลได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนเพลงด้วยการจูบกับศิลปินรับเชิญ, จองโม สมาชิกของวง TRAX ระหว่างการแสดง วันที่ 17 มกราคม 2009 คอนเสิร์ทของกลุ่มนักร้องเกาหลี Super Junior-M จัดขึ้นที่ สนามกีฬาโอลิมปิกนานจิง ฮีชอลได้โชว์จูบ "ดีฟคิส" กันสมาชิก(ซองมิน)อย่างเปิดเผยอีกครั้ง วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2009 กับสมาชิก ชีวอน ที่การแสดง SMtown Live in Bkk ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ปี 2006 -2008 - คิมฮีชอลบอกไว้ว่าถ้าเกิดชาติหน้าเขาจะเป็นดอกไม้ริมหน้าผาสูง (HC27) - คิมฮีชอล กล่าวว่า ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีเพื่อน “กี่คน” สำคัญว่าให้คุณค่ามาก “แค่ไหน” ต่างหาก (HC27) - คิมฮีชอล กล่าวว่า ผมคอยที่จะดุแลปกป้องดงเฮนะ เขาเหมือนน้องชายแท้ๆของผมเลย! (HC28) - "ฮีชอล สำหรับฉัน ฉันจะรู้สึกแย่เวลาที่มีคนมาหาเรื่องโดยไร้เหตุผล ฉันหวังจริงๆว่าจะไม่ต้องเป็นคนดังซัก 30 นาที"    คิมฮีซอล กล่าวไว้ในคลิบ Heechul Talks About Hangeng's (HC29) - คิมฮีชอล เคยกล่าวไว้ในรายการ BOB ว่า "ฉันชอบแล่นเกม ชอบข้าวผัดกิมจิ แล้วก็ชอบไปนวด บางทีหาคนที่มีแม่เป็น  เจ้าของร้านนวด มีพ่อเป็นเจ้าของร้านเกม แล้วแฟนฉันก็เป็นเชฟมือทองที่ทำข้าวผัดกิมจิได้เก่งที่สุด..." (HC30) - เจย์ คิม นักร้องนำของวงร็อค Trax ประกาศว่า เขาเข้าใจโลกในมิติที่ 4 ของสมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์ ฮีชอล (HC31) " เรื่องผิดธรรมดาที่ฮีชอลโชว์ในรายการ ยังไม่ถึง 1% ของนิสัยเขาจริงๆเลยครับ ความผิดปกติของฮีชอลเป็นเสน่ห์ที่มีมากมายล้นเหลือ" - คิมฮีชอล เคยถูกถามว่าเขาเป็นหุ่นยนตร์หรอ เมื่อครั้งที่ไปทำการแสดงที่ต่างประเทศและเมื่อเดินผ่านเครื่องแสกนซึ่ตรวจ จับวัตถุที่เป็นโลหะมันกลับดังขึ้นทั้งๆที่ เขาไม่มีโลหะติดตัวเลยนอกจากเหล็กด้ามเล็กที่ฝั่งอยู่ในขา (HC32) ปี 2009 - คิมฮีชอลได้เขียนข้อความในมินิโฮมเพจของเขาเกี่ยวกับเรื่องจูบว่า "ผมไม่ได้รู้สึกแย่ แค่สนใจแล้วชื่นชมมันไปเถอะ!" (HC33) - คิมฮีชอลเคยกล่าวไว้ว่า 5 บุคคุลที่มีอิทธิพลต่อตัวเค้า คือ เจย์ ฮันกยอง จองโม ดงเฮ และ มิทรา.. และเจย์คือบุคคลเดียวที่สามารถจับจ้องใบหน้าและผมของเค้าได้ (HC34) - คิมฮีชอล เผยว่าตนได้ร้องท่อนในเพลง Sorry Sorry เพียงแค่ 4 วินาที และไม่มีท่อนที่ร้องเดียว มีเพียงแค่ร้องคอรัสไปกับสมาชิกอื่นๆ (HC35) - คิมฮีชอลสารภาพว่าเขาตกหลุมรักนักแสดงหญิง ซอนเยจิน ตั้งแต่เห็นครั้งแรก(HC36) - ฮีชอลทำให้อึนฮยอกต้องร้องได้ในวันเกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฮีชอลอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการกลับบ้านดั้งนั้นเมื่ออึนฮยอกบอกว่าพวกเค้า กำลังจะจัดปาร์ตี้ ฮีชอลอารมณ์ไม่ดีและไม่ต้องการอยู่ อึนฮยอกเลยร้องไห้(HC37) - คิมฮีชอลกล่าวว่า เขาจะพยายามแสดงให้เห็นพัฒนาการของตัวเขาเอง เหตุผลที่เขามาอยู่ในวงการนี้ก็เพราะเขารักสิ่งที่เขากำลังทำ และมันก็เป็นความฝันของพ่อกับแม่ เขาอยากทำให้พวกท่านภูมิใจ(HC38) - คิมฮีชอลกล่าวระหว่างรอการแสดงของรายการ KBS Music Bank ว่าผมใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักร้องบัลลาจ เมื่อผมได้พบกับโจ ซองโม(HC39) - กิล กล่าวว่า "ในบรรดาผู้คนที่ผมเคยพบ ฮีชอลอยู่ในห้าอันดับแรกของคนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แล้วก็เป็นคนที่เจ๋งและสนุกสนานมากๆ"(HC40) - คิมฮีชอลได้เผยถึง สาเหตุที่เขายอมตัดผมอันยาวสลวย ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเขาไปแล้วนั้นออกไปถึง 3 ครั้งภายใน 2 วันว่า “จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ตัดผมเลยจนถึงวันคัมแบ็คของพวกเรานั่นแหละครับ คืออยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกว่ามันรกๆ ก็เลยคิดขึ้นมาว่าจะต้องตัด แล้วก็ไปที่ร้านทำผมเลย ตัดผมออกไปซักครึ่งหนึ่งได้ แล้วในวันนั้น ในงานเลี้ยงบริษัท ผมก็รู้สึกมึนๆ ยังไงไม่รู้ ก็เลยออกไปตัดผมอีกครับ พอวันรุ่งขึ้น รู้สึกเสียดายมากว่าไม่รู้จะตัดไปทำไม แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า น่าจะตัดให้สั้นสุดๆ ไปเลยดีกว่า สุดท้ายผมก็เลยไปตัดอีกครั้ง หน้าก็เลยออกมาเหมือนลิงแบบนี้แหละครับ(HC41) - การแสดง Rainism ของฮีชอลในคอนเสิร์ตเอสเอ็มทาวน์ที่ประเทศไทย กลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ของเกาหลี ในฐานะที่การแสดงดังกล่าวกลายเป็นหัวข้อที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายใน อินเตอร์เน็ต (HC42) - คิมฮีชอลบอกว่าเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้เขาเรียกได้ว่าเป็นจุดที่ทำให้เกิด “Kim Heechul Mania”คือ ความคาดไม่ถึง (HC43) credit : www.luvsuju.net Twitter / Fancafe / Cyworld http://twitter.com/Heedictator http://cafe.daum.net/HCkiseki http://www.cyworld.com/yuri9doo Website http://www.heenimthailand.com http://www.heechulchina.com http://www.yuri9doo.com http://www.830710.net http://www.lovechul.com http://www.heecat.com http://www.heechul.cn http://www.heechul-petals.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:51:22 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 21:42:49 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:30:08

ความคิดเห็นที่ 5 HANGENG ชื่อจริง : Hangeng จีนตัวย่อ 韩庚  อักษรฮันจา : 韓庚 (หันเกิง) ชื่อในวงการ : Hankyung อักษรฮันกึล : 한경 (ฮันกยอง) อักษรฮันจา : 韓庚 ชื่อภาษาญี่ปุ่น : ハンゲン*(SJHG03) ชื่อเล่น : 庚 เป็นชื่อตัว แปลว่า อายุ, ลำดับที่เจ็ดในสัญลักษณ์อนุกรมทั้งสิบ*(SJHG01) ฉายาจีน : - 庚宝 เกิงเป่า - ลูกเกิง - 地主 ตี้จู่ - เจ้าของที่ดินชาย [ฮันคยองชอบสองฉายานี้มากที่สุด,ประมาณว่าครอบครัวตั้งให้] - Master - (มาจากความร่าเริงสดใส) - Han little Geng - ฮันเกิงน้อย - 庚庚 เกิงเกิง - เกิงเกิง - HanMieMie - ฮันมี่มี่ ฉายาอื่นๆ : - hannie - ฮันนี่ - Young master Geng - นายน้อยเกิง,คุณชายเกิง,คุณหนู - Chinese dragon - มังกรจีน - Eagle - นกอินทรี - prince of fried rice - เจ้าชายข้าวผัด - Chinese brother - พี่ชายคนจีน - 240 (หมายเลขคบเพลิงของฮันคยอง) มีเรียกกันมากแต่ไม่แน่ใจว่ายังเรียกกันอยู่ไหม*(HG21) ตำแหน่งในวง : ร้องสนับสนุน นักเต้นหลัก ลักษณะโทนเสียง : Tenor*(HG02)  ความสามารถพิเศษ : ศิลปการต่อสู้, คาราเต้,เต้นบัลเล่ต์, ระบำพื้นบ้านแบบจีน (สามารถเต้นรำพื้นบ้านของชนเผ่าต่างๆได้กว่า 56 แบบ) ภาษา : จีน,เกาหลี อาชีพ : นักร้อง,นักเต้น,นักแสดง,นายแบบ  ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 5 ปี (2001-2005) วันเกิด : Thursday 9 February 1984 (วันพฤหัสที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2527)*(HG03)  กรุ๊ปเลือด : B ศาสนา : เต๋า สีที่ชอบ : ดำ*(HG12)  ผลไม้ที่ชอบ : แตงโม ดอกไม้ที่ชอบ : กุหลาบ,ลิลลี่ เลขที่ชอบ : 4 สัตว์ที่ชอบ : สุนัข (เหมาเหมา, ไรเดอร์, โตวโตว, หรงหรง(ให้คืนไปเจ้าของไปแล้ว)) ฤดูที่ชอบ : ร้อน กีฬาที่ชอบ : วิ่ง,ว่ายน้ำ งานอดิเรก : เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เล่นอินเตอร์เนต เชื้อชาติ : 赫哲族 เผ่าเฮ่อเจ๋อ (ภาษาอังกฤษ Nanai) สัญชาติ : จีน สถานที่เกิด : เมืองมูตันเจียง มณฑลเฮยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ครอบครัว : มีสมาชิกทั้งหมด 3 คน คือ คุณพ่อ คุณแม่ และฮันเกิง การศึกษา : Chinese National University (สาขาการเต้นพื้นเมือง) การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05   - 2001 : โดยชนะการออดิชั่นของ H.O.T China   - 2005 : [Model] Fashion Show F/W general idea by Bum Suk [20050505]   - 2005 : [debut] Super Junior Debut [20051106]      ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน  งานเพลง  - 2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108]   - 2005 : [Album] Super Junior05 (TWINS) [20051205]   - 2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215]   - 2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006)[May.2006]   - 2006 : [Single] Super Junior U [20060525]  - 2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620]   - 2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212]   - 2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704]  - 2007 : [Ost.] Flower Boy [20070727] - 2007 : [Album] Super Junior the second album (Don't Don) [20070820] - 2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207] - 2008 : [Feat.] Jang Ri In album Star Wish (I WILL) : intro [20080303] - 2008 : [Unit] Super Junior M [20080408] - 2008 : [Concret] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521] - 2009 : [Album] Super Junior the 3rd album (Sorry Sorry) [20090312] Awards - 2006 : Ideal Men of Teens - 2007 : Entertainment Award Best Stylish Male Artist Award*(HG09) มิวสิควีดีโอ [MV] - 2006 : "Timeless" - Jang Ri-in feat. Xiah Junsu MV - 2008 : "Star Wish (I WILL)" – Zhang Liyin - 2008 : "Happiness' Left Shore" – Zhang Liyin - 2008 : "Welcome to Beijing [Olympic]" โฆษณา [CF]  - 2008 : HNTV ZSM CF – Hankyung*(HG04)  - 2009 : Semir*(HG05)  - 2009 : Jin Shuaiwei Shoes*(HG06)  - 2009 : 12 Plus Mini Stick *(HG07),(HG20) - 2009 : YAMAHA Fino TV Show [TV] - 2005 : MBC - Rainbow Romance (레인보우 로망스) นักแสดงรับเชิญ [2005__]*(HG08) - 2006 : M.Net Hello Chat ft. EunHyuk, DongHae, HanKyung [20060111] - 2006 : KM Princess Diary Pt1 (SJ : DH,LT,HG,SD) [20060413]*(HG44) - 2006 : KM Princess Diary Pt2 (SJ : DH,LT,HG,SD) [20060420]*(HG45) - 2006 : KM Princess Diary Pt3 (SJ : DH,LT,HG,SD) [20060427]*(HG46) - 2006 : KM Super Junior Show Ep.22 only Hangeng2 [20060501]*(HG43) - 2006 : SBS Real Romance Loveletter Pt1 (FULL - HG,HC,SW) [20060624] - 2006 : SBS Real Romance Loveletter Pt2 [20060701] - 2006 : Hospital Visit on KBS1 Love Request (SJ : DH,LT,HG,SD) [20060722] - 2006 : SBS X-Man (DH,EH,HG,KB,SD) [20060730]*(HG53) - 2006 : Heroine 6 (SJ : HG,KI) [20060806]*(HG25) - 2006 : KBS2 Happy Sunday Heroine 6 Pt2 (HG, KB) [20060813] - 2006 : Love Letter ..Thailand.. Hankyung [20060805]*(HG23) - 2006 : Star Golden Bell [Han Kyung dance cut] [20060902]*(HG49) - 2006 : SBS Decision of Taste vs Taste (HG,DH Cuts) [20060903] - 2006 : Love Letter Special Dance (SJ : HG,SM,EH,DH,SW) [20060909]*(HG24) - 2006 : Real Romance Love Letter (Hankyung, Shiwon) [20060909] - 2006 : SBS Good Sunday (KI,LT,HG,SW) [20060910] - 2006 : SBS Good Sunday S-Match (SM, LT, SD, KI, DH, HG) [20060917] - 2006 : KBS Child Prodigy Competition (HG, DH, SD Dance Cut) [20061008] - 2006 : KBS2 Star Golden Bell (Hankyung, Leeteuk) [20061028] - 2006 : SBS Love Choice (Hankyung, Kangin) [20061209] - 2006 : SBS Decision of Taste Vs Taste (SD,HG Cuts) [20061217] - 2006 : SBS Love Choice (Hankyung, Kangin) [20061223] - 2006 : KBS2 New Years Special Global Talk Show - Girl Talk (Hankyung) [20061231] - 2007 : Star King in China [2xxx___]*(HG26) - 2007 : KBS Sponge (SJ : SM, HG, SD, EH) [20070106] - 2007 : KBS Sponge Hankyeong,Donghae,Shindong [20071027] - 2007 : Hangeng ifensi.com interview [20070406] - 2007 : ETV Happy HanGeng [20070721] - 2007 : ETV HuNanTV Plan is Happier-HanGeng [20070721] - 2007 : SBS Star King HanGeng [20070825] - 2007 : KBS Star Golden Bell HanGeng & ShinDong [20070922]  - 2007 : Beuty Talk Hangeng Cut Part 1 [20070924] - 2007 : SBS Suseuk Special Kangin Hangeng [20070926] - 2007 : KBS Stat Golden Bell Ft. Shindong, Enhyuk, Hangeng [20071006] - 2007 : YSMM (dongwan,hankyung,heechul Cuts) [20071015] *(HG69) - 2007 : Star Golden Bell - DH, HG, KI, SD [20071027]*(HG50) - 2007 : KBS Star Golden Bell-Hangeng Sindong [20071103] - 2007 : KBS Star Golden Bell Ft.Eeteuk Kangin Hangeng [20071208] - 2008 : Beijing Olympics D-200 Hand In Hand (HG,Zhang LiYin) [20080121]*(HG55) - 2008 : "Change" in Suju's dorm (SJ : KI,LT,DH,EH,HG,HC) [20080224]*(HG56) - 2008 : -ELLE-Magazine-Photoshoot-(SJ : KB,DH,SW,LT,HG) [20080301] - 2008 : Star King Ep.61 (SJ : LT,HG) [20080329]*(HG27) - 2008 : ArirangTV ShowBizExtra - Star Monologue (Hankyung) [20080423]*(HG54) - 2009 : Star Golden Bell (SJ : LT,HG,YS,SW) [20090321]*(HG29) - 2009 : SBS Have Or Not LT, HG, SD, EH, DH [20090403]*(HG48) - 2009 : Come to Play ft.Super Junior (11 Member) [20090413]*(HG28) - 2009 : SBS Star King Ep.116 (SJ : LT, HG, KI, SM, EH, RW) [20090509]*(HG51)  - 2009 : SBS Hope TV (SJ : LT,HG,KI,EH,SM,RW) [20090523]*(HG30) - 2009 : SBS Hope TV (SJ : HG,DH,SW) [20090530]*(HG31) - 2009 : SBS Star King Ep.119 (SJ : LT,HG,YS,SD,SM,EH,RW,KH) [20090606]*(HG52) ผลงานอื่นๆ [etc.] - 2006 : [Radio] Kiss The Radio Cut [HG,KH] [20060824]*(HG32) - 2007 : [Radio] KissThe Radio Super Junior HanGeng [20070921]*(HG33) - 2007 : [Radio] Kiss The Radio Cut [HG,HC] [20071003]*(HG47) - 2008 : [Movie] Ost. Hero's Slam (กำลังถ่ายทำ)*(HG15)  - 2008 : [Drama] Shuang Cheng Shao Nian (雙城少年) (CCTV) - 2008 : [etc.] วื่งคบเพลิงโอลิมปิค (Beijing 2008 Olympic Game) - 2009 : [etc.] Marieclaire Magazine (ถ่ายแบบ) วีรกรรมต่างๆและลักษณะนิสัยตั้งแต่ก่อนเดบิวจนถึงปัจจุบัน 2001 (HG22) - ในระหว่างเรียนฮันคยองก็ได้รับรางวัลที่ 2 ในการแข่งขันเต้นระดับประเทศ (National Chinese Dance) จากคู่แข่งขัน ทั้ง หมด 2,000 คน - เมื่ออายุได้ 17 ปี ฮันคยองได้รับการคัดเลือกจากผู้เข้าทำการออดิชั่นทั้งหมด 3,000 คน แต่โชคไม่ดีเลย SM ไม่มี แผนที่ จะส่งเขาไปทำการฝึก - ฮันคยองถูกคุมขังเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตเมื่ออายุ 18 ปี เพราะเขาไม่มีเอกสารบางอย่างเพื่อจะเข้าทำงาน - ฮันคยองถูกครอบครัวคัดค้านที่จะมาเป็นนักร้องในสังกัด SM เพราะความเป็นห่วงที่ลูกชายต้องไปอยู่ต่างประเทศ คนเดียวและไม่รู้จักใครเลย ในเกาหลี - ฮันคยองมาเป็นเด็กฝึกหัดใน SM เมื่ออายุได้ 19 ปี - ฮันคยองต้องเรียนภาษาเกาหลี,การเต้น hip hop และบทเรียนอื่นๆ เพื่อให้เขาเตียมตัวเป็น Idol - ฮันคยองเคยถูกอันธพาล 4 คนรุมทำร้ายแต่เขาก็สามารถทำให้ 1 ใน 4 บาดเจ็บและพากันวิ่งหนีไป เขารู้สึกกลัวมาก - ฮีซอลเคยช่วยเหลือฮันคยองจากการถูกรังแกจากอัธพาล - ฮันคยองเคยกระดูกร้าวและปล่อยให้มันหายเอง จนเขารู้สึกเจ็บแขนมมากเลยบอกผู้จัดการให้พาไปโรงพยาบาล หมอบอกว่ากระดูกของ เขาแตกแต่ตอนนี้มันใกล้จะหายดีแล้ว - ฮันคยองได้ผ่านการเต้น hip hop แบบข้ามระดับ คือ จากระดับ A (เริ่มต้น) ไประดับ C (ขั้นสูงสุด) 2005 (HG22) - การเดบิวต์เกิดขึ้นหลังจากเขาฝึกมา 2 ปีครึ่ง - ฮันคยองสามารถออกทีวีได้เพียง 2 ช่องเนื่องจากเกาหลีมีกฏเรื่องนักแสดงต่างชาติอยู่ (ปัจจุบันรัฐบาลเกาหลีแก้กฏหมายให้ออกได้ทุกช่อง) - ฮันคยองใส่หน้ากากและหมวกเพื่อปิดบังรูปลักษณ์ของตัวเองเพื่อที่จะใด้แสดงบนเวทีกับเพื่อนๆ 2006 - ฮันคยองให้พ่อและแม่ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่งเพราะจะได้สามารถพบกันสะดวกและเขา ก็เปิดร้านขายเกี๊ยวให้แม่ชื่อร้านว่า "Plum Blossom" (ดอกเหมย)*(HG22) - ร้านเกี้ยวแม่ฮันคยองมีสองร้าน*(HG80) ร้านแรกชื่อ 梅花饺子 เหมยฮวาเจี่ยวจือ แปลว่า เกี้ยวดอกเหมย ร้านที่สองชื่อ 梅花家人饺子馆 เหมยฮวาเจียเหรินเจี่ยวจือก่วน แปลว่า ร้านเกี้ยวของคนในครอบครัวดอกเหมย - คังอินได้เปิดเผยผ่านทางรายการวิทยุ Kangin Chun Ban Ji Radio ว่าฮันคยองชอบนอนพร้อมล๊อคประตูห้อง [20060115]*(HG34) - ฮีซอลเผยในรายการ KM Super Junior Show ว่าฮันคยองมักจะร้องไห้เสมอเวลาที่พูดถึงครอบครัวที่ประเทศจีนแต่เขาต้องทำ เป็นเข้มแข็งไม่ร้องไห้ [20060501]*(HG43) - ฮันคยองตอนเป็นเด็กฝึกหันเขาต้องฝึกซ้อมร้องเพลง,ซ้อมเต้น ฝึกการแสดงวันละ 15 ชั่วโมง [20060828]*(HG35) 2007 - ฮีซอลพูดถึงฮันคยองใน Relay Talk in DVD Repackaged ว่าเขาเป็นเพื่อนที่หล่อมาก ตาและท่าทางของเขาสามารถควบคุมคนดูได้และฮีซอลได้บอกว่าเซนต์ภาษาเกาหลีของ ฮันคยองดีมาก [2007___]*(SJHG04),(HG36) - ใน Relay Talk in DVD Repackaged ฮันคยองเผยว่าเอสเจอยู่กันเหมือนครอบครัวและเพลงในอัลบั้ม 2rd Rackage ฮันคยองชอบเพลง “Marry U” สามารถร้องในงานแต่งงานก็ได้ เมโลดี้ฟังสบาย [2007___]*(HG37) - มีแฟนๆทำซีดีรวบรวมการแสดงของเขาตั้งแต่ Twin Miracle U Geng Diary ใน SJ Show และเขาเคยได้กางกงในเป็นของขวัญจากแฟนคลับซึ่งเขายังไม่ได้ใส่มันและอยู่ในกล่องอย่างดี [20070110]*(HG70) - คิมฮีซอลเผยในรายการ Kiss The Radio ว่าขอให้ฮันคยองประสบความสำเร็จในการฝึกฝนภาษาเกาหลีให้คล่องๆมากกว่านี้ [20070216]*(HG62) - ฮันคยองมีความสุขมากที่ได้กลับประเทศจีนไม่ว่าที่ไหนก็มีแฟนๆคอยสนับสนุนพวกเราเสมอ [20070408]*(HG67) - ใน Cyworld ฮันคยองบันทึกเกี่ยวกับลูกสุนัขตัวใหม่ที่มีอายุเพียง 2 เดือนและตั้งชื่อให้ว่า RIDER [20070709]*(HG14) - ดงแฮเผยในรายการวิทยุ M4U ว่าฮันคยองเป็นคนที่ชอบแกล้งคนอื่น [20070718]*(HG73) - ฮันคยองคิดว่าสีขาวคือสีของชุปเปอร์จูเนียร์ เพราะมันบริสุทธิ์เหมือนเมฆบนท้องฟ้า เขายังบอกอีกว่าไม่มีใครงกเลยในเอสเจ ฮัน คยองอยากเป็นฮีซอลเพราะเขาเป็นตัวของตัวเอง คังอินเหมือนพ่อของเขาเพราะแข็งแรงและมีความเป็นพ่ออยู่เต็มเปี่ยม ส่วนแม่ฮันคยองเลือกลีทึกเพราะทั้งสุภาพและพูดเหมือนคุณยาย [20070807]*(HG64) - คิมฮีชอลถึง...ฮันคยอง: โอ้ ~~ เพื่อนสนิทของชั้น ~~ ตลอดไป..~~ เพื่อสนิทของชั้นตลอดไป.. (Note: ฮีชอลพยายามจะเลียนแบบ การออกเสียงของฮันเกิง คำว่าตลอดไปภาษาเกาหลีจะออกเสียงคล้ายๆ ยองอุน(ชื่อของคังอิน)))) คิม คิบอม ถึง...ฮันคยอง: พี่อย่าเศร้าอีกเลยนะ... ลี ซอง มิน ถึง...ฮันคยอง: พี่ ผมจะไปห้องพี่นะ ผมคิดถึงพี่มากเลย พี่คงจะสบายดีนะที่จีน [20070824]*(HG63) - มีแฟนๆโพสข้อความมายังรายการ Kiss The Radio ว่าฮันคยองมีเสน่ห์และฮีซอลต้องแปลเกาหลีเป็นเกาหลีให้ฮันคยองฟังอีกที [20070921]*(HG76) - Q : คุณอยากรับประทานข้าวกล่องจากดารานักร้องคนไหนมากที่สุด? 2. ฮันคยอง (17.5%) ข้าวผัดปักกิ่งเป็นอาหารที่แฟนๆทุกคนไม่มีวันลืม ฝีมือการทำอาหารของฮันคยองได้รับการยอมรับจากทุกคน เหตุผล : ข้าวผัดปักกิ่งที่ดังที่สุดในโลก! และ ซี่โครงหมูตุ๋นกับถั่วมันสุดยอดมาก (ได้อันดับ 2) Q : ในความคิดของคุณ ดารานักร้องคนไหนที่น่าจะทำข้าวกล่องได้? 2. ฮันคยอง (17%) (ได้อันดับ 2) เหตุผล : เพราะในปัจจุบัน ผู้ชายที่หล่อและแต่งตัวเก่ง? มีน้อยคนนักที่จะรู้จักการทำข้าวกล่อง แล้วก็น้อยคนนักอีกเช่นกันที่จะทำข้าวกล่องเป็นและเต้นเป็นด้วย! แต่ฮันคยองมีความสามารถทั้งในด้านการทำอาหาร เต้น ร้องเพลง แล้วก็มีอารมณ์ขันมีแต่เขาเท่านั้น!!! [20071014]*(HG75) - ฮีซอลเผยในรายการ YSMM ที่เขาต้องมารายการนี้พร้อมฮันคยองเพราะว่าต้องมาเป็นล่ามคอยแปลเวลาที่เขา พูดแล้วก็เผยถึงเรื่องการเก็บเงินว่าควรซื้อบ้านหรือว่ารถก่อน [20071015]*(HG69) - ซองมินเผยใน Smag ฉบับเดือนธันวาคมว่าถ้าให้เขาตั้งรางวัลพิเศษขึ้นมา เขาจะมอบรางวัลขยันที่สุดกับฮันคยอง เพราะเขาทำงานหนักตลอดเวลาและพี่เขาก็เตรียมตัวเยอะมากเพื่อเข้าคัดเลือก เป็นผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิก [20071213]*(HG78) - ประโยคขอแต่งงานของฮันคยอง "หนาวไหมครับ? คุณอยากได้ยินคำพูดนี้หรอ? --รู้ไหมว่าทำไมผมถึงชอบคุณ? มันไม่มีเหตุผล เป็นเพราะคุณคือคุณ ผมเป็นคนรู้จักบุญคุณ ขอบคุณนะครับ" [20071219]*(HG61) - อึนฮยอกและอีทึกโทรจากรายการ Kiss The Radio โทรไปหาสมาชิกที่อยู่ประเทศจีน 1 ในนั้นคือฮันคยองทั้งสองให้ฮันคยองอวยพรปีใหม่กับแฟนๆและฮันคยองก็ได้กล่าว อวยพรเป็นภาษาจีน [20081231]*(HG78) 2008 - ในรายการ Happy Day with SJ ฮีซอลพูดถึงฮันคยองที่มาโวยวายเรื่องไม่ยอมสั่งหมี่ดำเผื่อกลับสั่งมานั่ง กินกับคิบอมแค่เพียงสองคนและเรื่องนี้ก็ถูกถ่ายทอดลงใน Relay Talk in DVD Repackaged ด้วย[20080207]*(HG10) - ฮันคยองถ่ายโฆษณา ZSM สปอนเซอร์ใหญ่ของเขาได้บริจาคเงินประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเงินเดือนทั้งหมดของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย*(HG22) - ฮันคยองถูกโหวตให้เป็น 1 ในผู้วิ่งคบเพลิงโอลิมปิคที่จีนจัดขึ้น*(HG22) - ฮันคยองสุขภาพไม่ค่อยดีนักแต่มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรช่วงที่เขาอ่อน เพลียนั้นทำให้น้ำหนักเขาลดลงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว*(HG22) - ข้อความจากฮันคยองถึงเอล์ฟ ฮันคยอง : ELF ที่สำคัญทุกคนๆ ขอบคุณมากและ ผมรักคุณ [20080613]*(HG60) - ใน Cyworld ฮันคยองบันทึกความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิคและ กล่าวขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง [20080808]*(HG13) - ชีวอนเผยฮันคยองคือพี่ชายที่ดีที่สุดและเป็นชายหนุ่มที่แสนดีหนึ่งใน 13 ล้าน [20081024]*(HG58) - อึนฮยอกเปิดเผยในรายการ Onlbam ว่าเขารู้สึกลำบากใจเวลาที่ฮันคยองพูดบางอย่างที่เขาก็ไม่เข้าใจและก็ไม่ กล้าที่จะขอให้พูดซ้ำเยซองเคยบอกให้ฮันคยองพูดซ้ำและนั่นก็ทำให้เขารู้สึก โกรธ [20081219]*(HG38) - ฮันคยองให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวหลังจากการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิคว่าเขารู้สึก ตื่นเต้น และภูมิใจมากเมื่อเห็นเปลวไฟได้ถูกจุดขึ้นที่คบเพลิง และยังกล่าวอีกว่าอยากให้คนทั่วโลกเข้าใจประเทศจีนมากขึ้นและอยากให้เข้าใจ วัฒนธรรมของจีนที่มีมายาวนานเกือบ 5,000 ปี [20080807]*(HG39)   2009 - ในรายการ Star Golden Bell ฮันคยองแก้ตัวว่าสมาชิกในวงไม่ได้สอนภาษาเกาหลีให้เลยหลังจากกลับมาจากจีนทำ ให้ไม่เข้าใจคำถามและสามารถตอบอะไรได้ [20090321]*(HG18) - ฮันคยองให้สัมภาษณ์ในการถ่ายแบบนิตยสาร Marieclaire ว่าเขาจะสอนศิลปะการต่อสู้ให้หญิงสาวเพื่อไว้ป้องกันตัวเอง [20090321] *(HG19) - บทสัมภาษณ์ใน Interview อัลบั้ม 3 ซองมินกล่าวว่าเมมเบอร์ที่ชอบเจี๊ยวจ๊าวจะอยู่ชั้นบนของหอนั่นซึ่งรวมถึงฮัน คยองด้วย (สมาชิกที่อยู่ชั้นบนได้แก่ ฮีซอล,อีทึก,ชินดง,ฮันคยองและทงแฮ) [20090325]*(HG17) - ในรายการ MBC Let's Sleep Here Tonigth รยออุคเผยว่าฮันคยองจะเดินที่อินชอนทำไหล่ตกๆ แต่พอไปถึงปักกิ่ง ยืดอกตั้งไหล่ผึ่ง [20090327]*(HG11) - ในรายการ Naver music ฮันคยองให้สัมภาษณ์ว่าแฟนๆชาวเอเซียคือของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดที่เคยได้รับมา [20090407]*(HG16) - ฮันคยองเป็น 1 ใน 5 คนที่มีอิทธิพลกับคิมฮีซอลซึ่งถูกบันทึกไว้ใน Cyworld [20090409]*(HG42) - ในรายการ Come to Play ฮันคยองมีชื่อติดเป็นลำดับที่ 3 ในหัวข้อยอดชายนายคาสโนว่าการโหวตจากนักร้องผู้หญิง 6 วง [20090413]*(HG40) - ในรายการ Intimate Note ฮีซอลบอกว่าฮันคยองทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาอยู่กับคังอินและซองมินเพราะเรื่อง ภาษา แต่คังอินเผยว่าภาษาเกาหลีของฮันคยองดีมาก เช่น เวลาที่จะขอข้าวเพิ่มจากเจ้าของร้านเวลาที่ไปทานอาหารพร้อมๆกันและฮันคยอง มักจะบอกว่าพูดภาษาเกาหลีไม่เก่งเวลาแก้ตัวเท่านั้น [20090417]*(HG79) - ชินดงเผยปุ่มรับรสของเหล่าซุปเปอร์จูเนียร์ในรายการ Star Cook 3 ว่าฮันคยองชอบใส่ซอสกักดูกิ (ซอสทำด้วยหัวผักกาด..คล้ายกิมจิ)ในซุป เวลาเห็นเขาใส่พริกป่นกับโรยหัวหอมตอนทำราเม็ง ดูเหมือนเขาจะมีความสุขกับอาหารเกาหลีมากกว่าคนเกาหลีซะอีก [20090426]*(SJHG06) - ฮันคยองมักจะให้กำลังใจแฟนๆเสมอและเขาก็ยังบอกอีกว่าการเล่นสกีครั้งแรกก็แค่หกล้ม ปัจจุบันเขาซ้อมเต้นวันละ 5 ชั่วโมง [20090525]*(HG41) - ฮันคยองใช้เงินที่ได้จากการเป็นนักร้องเปิดร้านเกี๊ยวให้พ่อกับแม่และเมื่อ ตอนที่เขาอยู่จีนจะต้องไปยืมเงินเพื่อนมาจ่ายค่าเล่าเรียน เขาจึงอยากแบ่งเบาภาระพ่อแม่ [20090603]*(HG57) - ในงานแถลงข่าวโฆษณา YAMAHA Fino ฮันคยองไม่รู้จักช้างจนฮีซอลต้องทำท่าให้ดูและก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี [20090608] อื่นๆ - ประโยคเด็กเอสเจฮีซอลพูดว่า "ผมพยายามจะเป็นคนน่ารักของฮันคยอง!"*(SJHG05) - เพื่อนสมัยเด็กของฮันคยองกล่าวว่าตอนที่เรียนด้วยกันฮันคยองฉลาดมาก ฮันคยองเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่เขาชอบเล่นกีฬามากๆ*(HG65) - ฮันคยองเป็นคนที่ชอบตดแล้วหันไปมองหน้าเด็ก*(HG66) - ฮันคยองให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men Style เกี่ยวกับเรื่องการมีแฟนครั้งแรก,ถ้าต้องการรู้จักสาวเกาหลี ในแต่ละเดือนฮันคยองไม่ค่อยได้ใช้เงินส่วนตัวเพราะทางบริษัทจะจัดการเรื่อง ค่าใช้จ่ายให้ ไอดอลของฮันคยองคือเฉินหลงและถ้าได้เจอเขาจะขอลายเซ็น*(HG68) - ฮันคยองได้รับการยกย่องว่าทำอาหารเก่งมีครั้งนึงที่เขเปิดตู้ใครัว แล้วเหลือแต่หัวหอม กับไข่ และข้าว เขาเลยตัดสินใจทำข้าวผัด และด้วยสำเนียงการพูดของเขาที่แย่เอามาก เขาตั้งใจจะพูดว่าข้าวผัดไข่ กลับการเป็นข้าวผัดปักกิ่งไปซะนี่ นี่หล่ะคือที่มาของข้าวผัดปักกิ่งหล่ะ*(SJHG07) - ฮันคยองรู้สึกประทับใจที่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตซุปเปอร์จูเนียร์ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรก เขารู้สึกตื่นเต้นและกดดันมาก*(SJHG08) - ฮันคยองเป็นคนที่หัวเราะเพราะที่สุดในโลก*(SJHG09) - คำถามที่ฮันคยองอยากถามแฟนคลับ คุณโกรธไหมที่ผมเป็นคนจีน ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่ถามคำถามนี้ แต่ผมเป็นสมาชิกคนจีนเพียงคนเดียวในวง และทุกคนในวงก็อาจจะลำบากเพราะผมเป็นคนจีน*(SJHG10) - ฮันคยองมักจะชอบสอนภาษาจีนให้กับเหล่าสมาชิกในวงเสมอและคนที่ฮันคยองสอนและเข้าใจเขาก็คือฮีซอล*(HG71) - ฮีซอลเผยในงานเปิดตัวหนังว่าฮันคยองมักจะมานั่งข้างๆเวลาที่เขาเขียนคำแย่ๆและนั่นทำให้ฮันคยองได้เรียนรู้คำแบบนั้นเยอะมาก *(HG72) - ฮันคยองเป็นคนที่เปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองให้เพื่อนรู้ด้วยความจริงใจ 11% (น้อยที่สุด) - ฮันคยองเป็นคนที่สามารถเข้ากับใครก็ได้ในกลุ่มและมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 11% (น้อยที่สุด) - ฮันคยองมักจะโดนพวกเพื่อนๆโกงเวลาเล่นเกมส์เสมอ 36% (มากที่สุด) - ฮันคยองยังไม่มีประสบการณ์ในเรื่องของความรักเลยสักครั้ง เขาบอกว่าผู้หญิงในปักกิ่งไม่เหลือใครที่ไม่มีแฟนเลยสักคนเดียว 22% (มากที่สุด)*(HG74) - ฮันคยองไม่ชอบให้แฟนคลับวิ่งทุบกระจกรถและกรี๊ดใส่ - ฮันคยองชอบใส่แหวนนิ้วนางเพราะว่าไม่สามารถใส่นิ้วอื่นได้เนื่องจากแหวนมีขนาดเล็กกว่านิ้ว - ก่อนนอนและตื่นนอนฮันคยองมักจะชอบดื่มน้ำเสมอ - ส่วนที่เขาคิดว่ามีเสน่ห์ที่สุดคือดวงตา - มีแฟนคลับเข้าชมไซเวิร์ลของฮันคยองของจีนมากกว่าของเกาหลี ในขณะที่คนอื่นทำไซเวิร์ลของเกาหลี - ชีวอนอยากกินเกี๊ยวฝีมือคุณแม่ของฮันคยอง Sina / Fancafe / Cyworld http://t.sina.com.cn/hangeng http://cafe.daum.net/hankyung1 http://www.cyworld.com.cn/hangeng http://www.cyworld.com/superhangeng Website http://www.gengthai.com/ http://hankyungclub.3.forumer.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 22:02:26 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:31:47

ความคิดเห็นที่ 6 YESUNG ชื่อจริง : Kim Jongwoon ชื่อจริงอักษรฮันกึล : 김종운 (คิมจงอุน) ความหมาย : 종(鍾)  แปลว่า อารมณ์ หรือความรู้สึกที่เข้มข้น 운(雲) แปลว่า เมฆ อักษรฮันกึล:예성 (เยซอง) ย่อมาจากประโยคที่ว่า 예술가의 성대 (อ่านว่า เยซุลกาเอ ซองแด แปลว่า เสียงของศิลปิน) อักษรฮันจา: 藝聲 อักษรจีนตัวย่อ: 艺声 (อี้เซิง) ชื่ออังกฤษ : Jerome Kim (เจโรม คิม) ชื่อญี่ปุ่น : キム・ジョンウン (Kim-Jung-Eun) (Kim Jongwoon)イェソン (I-E-SON)(อิ-เอ-ซง)(*อ่านเสียงเร็วเป็นเยซอง) ฉายา : เมฆ สุนัข หมาบ้า อลาดิน Unit : K.R.Y, Happy ตำแหน่งในวง : นักร้องนำ Voice Tone : Baritone (เสียงทุ้มต่ำ) ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง เปียโน อาชีพ : นักร้อง นักเต้น ดีเจ นักแสดง ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 5 ปี (2001-2005) วันเกิด : 24 สิงหาคม พ.ศ.2527(วันศุกร์) กรุ๊ปเลือด : AB ศาสนา : ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สัตว์เลี้ยง : เต่าชื่อ "ตังโกมา" (땅꼬마 หมายถึง "ขนาดเล็กแคระ") งานอดิเรก : ฟังเพลง ร้องเพลง แต่งเพลง ออกกำลังกาย เล่นกีฬา อ่าน หนังสือ ดูหนัง เล่นเกมส์ เล่นอินเทอร์เน็ต เก็บสะสม CD และ DVD รูปภาพ แสตมป์ หนังสือและอีกมากมาย เดินเล่น สีที่ชอบ : แดง เลขที่ชอบ : 3 ฤดูที่ชอบ : ฤดูใบไม้ร่วง ภาพยนตร์ที่โดนใจที่สุด : Good-bye My Friend อาหารที่ชอบ: กิมจิ ที่มาของฉายาต่างๆ : - เมฆ (구름 อ่านว่า คูรึม) (มาจากคำแปลชื่อภาษาจีน) - สุนัข (จากปีราศีที่เกิด) - หมาบ้า (광견 อ่านว่า ควางกยอน เป็นชื่อเล่นที่ฮีชอลตั้งให้) คติ: ครอบครัวสำคัญที่สุดและจงรักทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ครอบครัว : พ่อ แม่ น้องชาย (คิมจงจิน เกิดปี 1987) บ้านเกิด : เมืองชุงนัม (충남 천안) จังหวัดชุงชองใต้ (충청남도 천안) ประเทศเกาหลีใต้ การศึกษา : -ระดับประถม โรงเรียนบูชอนดอกซัน (부천덕산초등학교) และโรงเรียนชอนอันชองซู (천안청수초등학교) -ระดับมัธยมต้น โรงเรียนชอนอันบูซอง (천안부성중학교) -ระดับมัธยมปลาย โรงเรียนบยองชอน (병천고등학교) -ระดับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยชองอุน (청운 대학교) เอกการดนตรีและย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยซอนมุน (선문대학교) จบการศึกษาในปี 2009 การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05 1999 : [Awards] ชนะเลิศการประกวดร้องเพลง เวที Chunan Gayoje (ปรากฏตัวครั้งแรก) [Nov. 1999] 2001 : [Awards] ชนะเลิศสาขา Best singer ในการประกวด SM Youth Best Competition ครั้งที่ 3 2001 : [Casting] เข้าสู่วงการโดยการออดิชั่นผ่านทาง Starlight Casting System 2005 : [Debut] เดบิวท์ Super Junior '05 [20051106] [20051106] (SJYS09) ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน งานเพลง 2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108](SJYS10) 2005 : [Album] The 1st Album Super Junior '05 [20051205](SJYS11) 2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215](SJYS12) 2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006) [May.2006](SJYS14) 2006 : [Single] Super Junior U [20060525](SJYS15) 2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620](SJYS17) 2006 : [Ost.] TvN HYENA하이에나 : The night Chicago Died, The one I love, Smile(KH) *KRY* [20061102](SJYS21) 2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212](SJYS25) 2006 : [Ost.] SBS Snowflower 눈꽃 : 걸음을 멈추고*KRY* [20061214] (SJYS27) 2007 : [Ost.] MBC Billie Jean Look at me빌리진 날봐요 ‘Just you’ *KRY* [20070119](SJYS28) 2007 : [Ost.] MBC H.I.T : Success, H.I.T. *DRYS2K* [20070406](SJYS30) 2007 : [Album] Super Junior 2nd Album Repackage [20070511](SJYS31) 2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704](SJYS34) 2007 : [Ost.] Attack on the pin-up boys : Are You Ready? [20070706](SJYS35) 2007 : [Ost.] Attack on the pin-up boys : Wonder Boy [20070727](SJYS36) 2007 : [Album] The 2nd Album Don’t don [20070820](SJYS38) 2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207](SJYS40) 2008 : [Album] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521](SJYS45) 2008 : [Album] Super Junior Happy + Promotion [20080605 - 20080907](SJYS46) 2008 : [Ost.] ละครเรื่อง Tazza เพลง 사랑참아프다 (Love Really Hurts) [20080916](YS06) 2009 : [Album] The 3rd Album Sorry Sorry [20090312](SJYS55) รายการโทรทัศน์ [TV] 2006 : [TV] Hello Chat ft. RyeoWook, SungMin, YeSung [20060220](SJYS13) 2006 : [TV] Super Junior - MTV Sunny Side ft. Leeteuk, Ryeowook, Shindong, Yesung [20060615](SJYS16) 2006 : [TV] ChannelV V-On Star [20060731](SJYS18) 2006 : [Live] SBS Music Wave ‘Forget me now’ (Original by Gummy) K.R.Y. [20060818](SJYS19) 2006 : [Live] SBS Music Wave ‘Even if you hate me, Give it one more try ’ K.R.Y. ft. Eunhyuk , Siwon [20060818] (SJYS20) 2006 : [TV] MTV Stars Talking [20061104](SJYS22) 2006 : [TV] Sunny Side SJ KRY [20061116](SJYS26) 2006 : [TV] Channel V V-On Star (Super Junior KRY) [20061120](SJYS23) 2006 : [TV] MTV TRL Seoul (Super Junior KRY) [20061122](SJYS24) 2007 : [TV] Brain Drawings Super Junior KRY [20070217](SJYS29) 2007 : [TV] 아이돌 월드 KM's Idol World [20070505 - 20070630][*อ้างอิงจากลิสของพี่ดี้] 2007 : [TV] KM Idol World CSJH The Grace [20070801](SJYS37) 2007: [TV] Magnificent going out Coffee Prince [20071109](SJYS39) 2007 : [TV] ETN's Super Junior's Music Diary [20071208 – 20071215][*อ้างอิงจากลิสของพี่ดี้] 2007 : [Live] @ MS ‘I Have A Lover’ (Original by Lee Eunmi) K.R.Y. ft. Donghae [20071225](SJYS33) 2008 : [TV] ComedyTV Unbelievable Outing Season 3 [20080112 - 20080405](SJYS41) 2008 : [TV] KBS Star Golden Bell [20080308](SJYS42) 2008 : [TV] ArirangTV ShowBizExtra - Star Monologue [20080326](SJYS43) 2008 : [TV] TVN Taxi [20080329](SJYS44) 2008 : [TV] Star King-Eunhyuk,Sungmin,Shindong,Yesung [20080614](SJYS47) 2008 : [TV] Super Junior - Star Golden Bell [20080621](SJYS50) 2008 : [TV] Super Junior - Star Golden Bell [20080628](SJYS51) 2008 : [TV] MBC every1 Idol show [20080710 - 20081009](SJYS52) 2008 : [Live] Yesung+Dana ‘Hurt Deeper Than Love’ [20080720](YS05) 2008 : [TV] Super Junior - Star Golden Bell [20080830](SJYS54) 2008 : [Live] Super Junior H – 1st ‘Pajama Party’ [20080803](SJYS53) 2009 : [TV] Super Junior - Star Golden Bell [20090321](SJYS56) 2009 : [TV] Guerilla Date LT KI SM YS SD EH SW [20090425](SJYS81) 2009 : [TV] Yesung- Yashimmanman [20090511](YS12) 2009 : [TV] MC "Day and night Handsome Guys' Carriage(꽃미남 포차 불철주야)" [20090529](YS13) 2009 : [TV] Av3x Japan Sorry Sorry Interviews EH,HC,KI,KH,LT,YS [200905](SJYS82) ผลงานด้านอื่นๆ [etc.] 2006 : [Radio] DJ รายการ M.I.R.A.C.L.E For You Radio (MFY) [20060919 - 20070908](YS07) 2007 : [Movie] Attack on the Pin-Up Boys (Flower Boys) (แสดงเป็นเยซอง นักร้องนำวงร็อคชื่อดัง) [Jul. 2007](SJYS32) 2008 : [Radio Show] Kiss the Radio – SJH [20080616](SJYS48) 2008 : [Radio Show] Mr.Radio SJ-H [20080619](SJYS49) 2009 : [CF] พรีเซ็นเตอร์แป้งเย็น 12 Plus Extra Cool [2009](SJYS60) วีรกรรมต่างๆ และลักษณะนิสัยตั้งแต่ก่อนเดบิวท์จนถึงปัจจุบัน - คังอินบอกว่าเวลาเยซองนอน หน้าเขาจะเหมือนเวลาเขาโกรธใครสักคนมากๆ [20060115](SJYS61) - เยซองเล่าว่าสมัยก่อนสิ่งที่อยู่ไกลตัวเขาที่สุดคือสมุดและปากกา แต่สิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือเครื่องเล่นซีดีและแผ่นซีดีเพลง [20060806](YS08) - คุณแม่ของเยซองแอบสมัครให้เขาไปออดิชั่นโดยที่ไม่บอกพ่อของเขา และได้เข้ารับการออดิชั่นในปี 2001 [20060806](YS08) - เยซองผ่านการออดิชั่นรอบเดียวกันกับคิมแจจุงแห่งทงบังชินกิ [20060806](YS08) - เยซองชวนยุนโฮแห่งวงทงบังชินกิดื่มเบียร์กันเมื่อตอนกำลังกลับบ้านโดยรถไฟหลังซ้อมเสร็จ [20060806](YS08) - เยซองเคยลงสถานีรถไฟที่นั่งมาเที่ยวสุดท้ายผิดเมื่อตอนจะกลับบ้านกับยุนโฮ เพราะเขาง่วงและหลับไป แล้วโทรไปบอกแม่ว่าจะนอนบ้านเพื่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองนอนที่สถานีรถไฟนั้นทั้งคืนจนเช้า [20060806](YS08) - ช่วงเป็นเด็กฝึกหัด ครอบครัวของเขามีปัญหาเรื่องการเงิน พ่อและแม่ของเขาจึงขอให้เขาหยุดการเป็นนักร้องก่อน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ และเดินหน้าฝึกซ้อมต่อไปจนประสบความสำเร็จ [20060807](YS09) - คังอินและทงเฮบอกว่าตาของเยซองสวย [20060829](SJYS62) - เวลาฝนตกเยซองจะรู้สึกเศร้าได้ง่ายๆ และจะคิดถึงครอบครัวอีกด้วย [20060925](YS10) - เยซองบอกว่าเวลาหลับเขาชอบกรน [20060925](YS10) - เวลาลดน้ำหนักเยซองจะกินแครอทมากเป็นพิเศษ [20060925](YS10) - เยซองเป็นคนชอบเขียนไดอารี่ [20060925](YS10) - เยซองเคยจมน้ำเมื่อตอนอยู่ชั้นประถม [20060925](YS10) - เยซองบอกว่ารักครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นเมื่อตอนอยู่ ม. 2 [20060925](YS10) - จูบแรกของเยซองคือตอน ม. 2 [20060925](YS10) - สิ่งของที่มีค่ามากสำหรับเยซองคือสมุดไดอารี่ที่เขาใช้มาตั้งแต่ ม. 1 [20060925](YS10) - ประเทศที่เยซองอยากไปคือประเทศแคนาดา [20060925](YS10) - เยซองเล่าว่าในภาพยนตร์เรื่อง Attack on the pin-up boys เขาไม่มีบทพูดเลย จึงคิดคำขึ้นมาเองว่า "แม่ครับ"[20070208](SJYS63) - ในบทสัมภาษณ์ Cool Magazine คนสัมภาษณ์ถามว่าในวันวาเลนไทน์เขาจะทำอะไร เยซองตอบว่า “ผมหวังว่าผมจะไม่ต้องอยู่กับสมาชิกในวงครับ ฮ่าๆ ไปดูบรรยากาศตอนกลางคืนด้วยกัน ขับรถเล่น มันคงจะไม่แย่ใช่ไหมครับ ฮ่าๆ” [Feb. 2007](SJYS64) - ในบทสัมภาษณ์ Cool Magazine เยซองบอกว่า “SJ เหมือนกับสายรุ้งบนท้องฟ้า สดใสและมีหลายสี สมาชิกแต่ละคนก็จะมีความสามารถแตกต่างกันไป เมื่อพวกเขามาอยู่ด้วยกันก็จะแสดงความสดใสนั้นออกมาอย่าเต็มที่ เสียงของรยออุคเหมือนกันสีแดง คยูฮยอนเสียงกลางก็เหมือนกับสีเหลืองที่อบอุ่น เสียงของเขาเองเสียงต่ำก็เหมือนกันสีฟ้า K.R.Y. ก็เป็นสายรุ้งที่มี 3 สี ซึ่งเป็นสีหลักของสีทั้งหมด” [Feb. 2007](SJYS64) - ชื่อรายการวิทยุ MIRACAL FOR U เป็นชื่อที่เยซองตั้งเอง และตั้งมาจากชื่อเพลง Miracle ของ Super Junior เอง [Feb. 2007](SJYS64) - เยซองวัยเยาว์เคยป๊อปในหมู่สาวๆ เพราะเขาชอบช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงที่โดนรังแก [20070517](SJYS65) - สมัยเด็กเยซองซนมากจนแม่ต้องปวดหัว [20070517](SJYS65) - สมาชิกเรียกเยซองว่า “ไอ้จู้จี้” เพราะเวลาไม่ได้อยู่หน้ากล้องเขาจะเงียบมาก แต่ถ้าอยู่หน้ากล้องจะกลายเป็นอีกแบบไปเลย และเล่าว่ามีรายการหนึ่งที่เขาพูดไม่หยุดตลอด 2 ชั่วโมง แต่มันถูกตัดออกไป 90% [20070710](SJYS66) - อึนฮยอกบอกว่าเยซองเป็นคนอ่อนไหวมากๆ อบอุ่นจนทำให้รู้สึกเหมือนพ่อ และมีความรู้สึกไว [20071109](SJYS67) - อึนฮยอกเล่าว่าเยซองเป็นคนชอบใส่เครื่องประดับเยอะมากและยังชอบแต่งตัวอีกด้วย [20071109](SJYS67) - ในรายการ Chun Bang Ji Chuk ร่วมมือกับคังอินให้ส่งข้อความไปหาสมาชิกทุกคนว่า “ ฉันอยู่ในห้องน้ำสาธารณะ แต่ไม่มีกระดาษชำระเลย.. ” และเยซองตอบกลับไปว่า “คังอินอ่า แค่เอาน้ำที่อยู่ข้างหลังนาย มาทำความสะอาดซะ แล้วออกมาค่อยล้างมือ"” [2007](SJYS68) - อีทึกเล่าว่าเยซองเป็นคนมีนิสัยแปลกประหลาด “Leeteuk: รู้ไหมว่าในหอของพวกเราเนี่ย ขนาดผมเองผมเองยังรักษาความเป็นส่วนตัวของทุกๆคน .. แต่เยซอง เขาหน่ะชอบจะให้ทุกคนเห็นว่า เขาหน่ะมีโลกส่วนตัวมากๆ (อารมณ์ว่าไม่สนใจใครเลย) ตอนที่ผมล้างหน้า เขาก็จะเปิดประตูเข้ามา "พี่ ผมจะทำธุระ" แลวก็จะยืนตรงนั้นตลอดเลย!! [20080504](SJYS69) - เมื่อก่อนเยซองจะไม่ค่อยได้ขึ้นจอทีวีเท่าไหร่ โดยอีทึกให้เหตุผลว่า “เยซองเป็นสมาชิกที่เป็นตัวร้องน่ะฮะ ไม่ใช่พวกตัวฮาๆที่ไปออกตามรายการวาไรตี้” [20080619](SJYS70) - เยซองเคยลืมเนื้อเพลง (ที่ไม่ค่อยได้ร้อง) หลายครั้งจนสต๊าฟต้องเขียนเนื้อเพลงตัวใหญ่ๆ และเน้นให้[20080720](YS11) - เริ่มเลี้ยงตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 เดือน 4 ปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ.2551) ในรายการ 오늘밤만 재워줘 (Let us sleep here tonight) (แปลว่า ให้เรานอนที่นี่คืนนี้เถอะ หรือ ที่รู้จักกันว่าเป็นรายการบุกหอเอสเจของอาจุงม่า ภาคแรก) เยซองบอกว่าเขาซื้อเต่ามาราคา 200,000 วอน (ประมาณ 6,000-8,000 บาท) [20081219](SJYS71) - ครั้งหนึ่งเยซองปวดตา จึงไปโรงพยาบาล แต่พอไปถึง หลายๆ คนก็มองเขาด้วยสายตาแปลกๆ เขาจึงหันหลังกลับไปดูป้าย และป้ายนั้นเขียนว่า “แผนกสูตินรีเวท” [20081230](SJYS72) - เยซองเป็นคนที่ชอบจับแก้มสมาชิกในวงบ่อยมาก และยังจับร่องจมูกของพวกเขาตอนหลับกันอีกด้วย [20090409](SJYS73) - สมาชิกในเล่าว่าเยซองจับหน้าคยูฮยอนจนหน้าดูแย่ลง [20090409](SJYS74) - เยซองเล่าว่าเวลาหลับเขาจะนอนกอดหมอนตลอด และบอกเหตุผลว่าเพราะไม่มีแฟนมานาน [-1109](SJYS75) - ตั้งแต่เดบิวท์ เยซองมีเวลานอนเพียง 4-5 ชั่วโมงต่อวัน [*ไม่มีวันที่] - จุดที่เป็นเสน่ห์ของเขาคือดวงตาที่เยือกเย็น [*ไม่มีวันที่] - สิ่งที่เยซองพกไปด้วยตลอดคือกระเป๋าเงินและกระเป๋าใส่ของหลายๆ อย่าง [*ไม่มีวันที่] - สิ่งที่เยซองอยากเป็นเจ้าของมากที่สุดคือรถสปอร์ต [*ไม่มีวันที่](SJYS76) - เยซองได้เปิดเผยว่า คังอินไม่ยอมพูดเรื่องที่ตัวเองกังวัลให้เยซองฟังเหมือนเมื่อก่อน แล้วเขาก็รู้สึกเสียใจ และชินดงก็บอกว่าสองคนนี้ต้องมีใครคนหนึ่งที่เปลี่ยนไป[20090509](SJYS77) - เยซองบอกว่าตัวเองป๊อบและจากนี้ไปเขาจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้เป็นคนสนุกสนาน - เยซองจะเก่งพูดกับแค่เมมเบอร์เท่านั้น - ท่อนร้องในเพลง Sorry Sorry ของเยซองมีแค่ 6 วินาที [20090512](SJYS78) - เยซองรู้สึกเสียใจที่ไม่ค่อยได้ดูแลชินดงเท่าใหร่ - ชินดงบอกว่า “เรื่องประหยัดเนี่ยพี่เยซองไม่เคยทำเลย” [2007](SJYS79) - อึนฮยอกบอกว่า เยซองมีนิสัยอ่อนไหวมากแล้วก็เป็นคนที่มีความรู้สึกไว แบบว่าจะสะดุ้งตื่นทันทีเลยเวลามีใครมาเปิดไฟตอนที่ หลับเรียกได้ว่าประสาทไวสุดๆ - อึนฮยอกบอกว่าเยซองสนใจเรื่องแฟชั่นแล้วก็จะมีเสื้อผ้าเยอะมาก แต่งตัวเยอะ ตอนที่เจอกันครั้งแรกเฮียแกใส่เครื่องประดับซะตรึมเลยเห็นแล้วก็รู้สึกแอ นตี้นิดๆแบบว่า เจอครั้งแรกก็มาเต็มยศเลยนะเฮีย - แต่พอรู้จักกันจริงๆ แล้วเยซองเป็นคนอบอุ่น - อึนฮยอกกล่าวว่าเวลาที่เยซองพูดเหมือนเป็นคำพูดจากพ่อและรู้สึกว่าเป็นพี่ ที่ดีมากๆและบอกอีกว่าซูปอร์จูเนียร์จะขาดเสียงของเยซองไม่ได้ ถ้าไม่มีเยซองแม้ว่าสมาชิกคนอื่นๆจะร้องเพลงเก่งแต่เพลงบางเพลงเราก็รู้สึก ว่าถ้าไม่มีพี่เยซองเราจะร้องกันยังไงล่ะ ? - เวลาไปอัดเสียง เยซองจะไปก่อนและกลับหลังสุด เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการร้องเพลงสุดๆและช่วยแนะนำ+สอนคนอื่นอีกด้วย - อึนฮยอกคิดว่าเวลาอยู่บนเวทีเยซองจะดูเท่ที่สุด และภาคภูมิใจในตัวพี่เค้ามาก - ฮยอกเขียนการ์ดถึง เยซองว่า "ได้โปรด.... ฝึกเต้นด้วย" และเยซองก็คิดว่าเป็นเรื่องยากซะด้วย [2007](SJYS80) credit : www.luvsuju.net Twitter / Fancafe / Cyworld http://twitter.com/shfly3424 http://cafe.daum.net/mainjw http://www.cyworld.com/ys1106ys Website http://www.yesungonly.com http://www.yesung1314.com http://www.yesungfamily.com http://www.woonvoice.com http://www.4yesung.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:49:12 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 22:16:42 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:33:27

ความคิดเห็นที่ 7 KANG IN ชื่อจริง : คิมยองอุน (Kim Youngwoon / Gim Yeongwun) ชือจริงอักษรฮันกึล : 김영운 อักษรฮันจา : 金永雲 ชื่อในวงการ : คังอิน (Kangin / Gangin) อักษรฮันกึล : 강인 อักษรฮันจา : 强仁 ฉายา : แรคคูน หมีขาว หมีคัง พี่หมี ชื่อที่เรียกตัวเอง : No.1 Korean hansome Guy Subunit : Super Junior T . Super Junior Happy ตำแหน่งในวง : เสียงประสาน ชนิดของเสียง : Baritone ความสามารถพิเศษ : นักร้อง เปียโน กีตาร์ เบส อาชีพ : นักร้อง dancer นักแสดง พีธีกรทางโทรทัศน์ พิธีกรรายการเพลง(MC) ดีเจ ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 4 ปี (2002-2005) วันเกิด : 17 january 1985 (17 มกราคม 2528) กรุ๊ปเลือด : กรุ๊ปโอ ( O ) ศาสนา : ไม่นับถือพระเจ้า สีที่ชอบ : สีเขียว กีฬาที่ชอบ : ว่ายน้ำ โยคะ บาสเกตบอล งานอดิเรก : ร้องเพลง, ว่ายน้ำ, ศิลปะป้องกันตัว, ออกกำลังกาย ความถนัด : ร้องเพลง การแสดง เล่นกีฬา โดยเฉพาะว่ายน้ำ ที่มาของฉายาต่างๆ : -แรคคูน (จากรายการ Full House) -หมีขาว (แฟนคลับเกาหลีตั้งให้เพรา ะตัวใหญ่เหมือนหมี) -หมีคัง พี่หมี (แฟนคลับไทยตั้งให้) สถานที่เกิด : ฮงอึนดง ครอบครัว : คุณพ่อ คุณแม่ คังอิน(ลูกคนเดียว) การศึกษา : - Hongeun Elementary School - Shinyun Middle School - Hankwang High School - Sangmyung English Tuturing, Kyung hee Cyber University (เอก ศิลปะวัฒนธรรมและการจัดการ KYUNG HEE CYBER ) การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05 - 2002 : ชนะเลิศสาขา Most handsome ในการประกวด SM Youngster contest [2002??25] (KI07) - 2002 : [TV] "Man And Woman" ทางช่อง SBS เป็นการปรากฎตัวครั้งแรก[20020527] (KI08) - 2004 : [etc.] SBS One Night TV Entertainment News Reporter [2004] (KI82) - 2005 : [MC] September 2005 DBSK Showcase [Sep.2005] - 2005 : [MC] BoA Fanmeeting [Sep.2005] - 2005 : [Debut] Super Junior 05 [20051106] ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน ผลงานเพลง -2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108] -2005 : [Album] Super Junior05 (TWINS) [20051205] -2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215] -2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006)[May.2006] -2006 : [Single] Super Junior U [20060525] -2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620] -2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212] -2007 : [Unit] Super Junior T [20070225] -2007 : [Ost.] MBC H.I.T : Success, H.I.T. [20070406] *DRYS2K* -2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704] -2007 : [Ost.] Flower Boy [20070727] -2007 : [Album] Super Junior the second album (Don't Don) [20070820] -2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207] -2008 : [Unit] Super Junior Happy [20080530] -2008 : [Ost.] Xanadu: *KI+HC* [20081015] (KI09) -2008 : [Concert] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521] -2009 : [Album] Super Junior the 3rd album (Sorry Sorry) [20090312]   โทรทัศน์[TV] - 2002 : [ตัวประกอบ] SBS 'Man and Woman' [20020527] (KI08) - 2006 : [แขกรับเชิญ] MBC Rainbow Romance Ep.136 (레인보우 로망스) (KI83) - 2006 : [แขกรับเชิญ] Hey Hey Hey Kangin Cuts [20061228] (KI84) - 2007 : [แขกรับเชิญ] MBC Billie Jean, Look At Me (빌리진 날봐요) [20070206] (KI85) - 2009 : [แขกรับเชิญ] MBC Daily Drama "That Person Is Coming" Ep.60 [20090105] - 2009 : [Series] MBC Romance Zero (하자 전담반 Zero)รับบท Hotae (호태)[20090214-20090525] พีธีกรรายการโทรทัศน์ [MC]   - 2005 : Mnet - M.NET M!Countdown (SJ:LT,KI,SD) [20051110-200608 ] - 2007 : MBC - Nothing is Impossible [20070902-20071202 ] - 2007 : MBC - Show! Music Core ร่วมกับ ไบรอัน (Fly to the Sky) [20070705-20071111] - 2008 : SBS - Good Sunday Change [20080217-20081005 : 32 Ep] (KI 14) - 2008 : MTV - MTV Class Up! [20080802-20090213] (KI 12) - 2008 : Mnet - Band of Brothers (Heechul & Kangin) [20081025 - 20090123 : 12Ep] (KI 13)   แขกรับเชิญประจำรายการโทรทัศน์ - 2006 : MBC - Sunday's Dong-An Club [20070225-20071202 ] - 2007 : SBS - Star King [Ep.2,4,6,8,9,10,11,12,13,14,15,17,19,20,21,22,23,24,25,26,27,28,30,38,47,86,87,88, 89,90,91,92,93,94,95,96,97,110,111,116,118] - 2008 : ETN - To Be Kangin & Heechul [20080806-20080910] - 2008 : MBC - We Got Married [20081221 - 20090503 : Ep.39-55] ดีเจรายการวิทยุ [DJ] - 2006 : DMB CH30 (Ch.Melon) Super Junior Kangin's Chunbangjichook Radio [20060302-20070602] - 2008 : FM4U Good Friend Radio (친한친구 라디오) จัดรายการร่วมกับ Cho Jungrin [20070430-20080407] (KI05) - 2008 : FM4U Good Friend Radio (친한친구 라디오) จัดรายการร่วมกับ Taeyeon [20080408-20090419] (KI05)   ผลงานภาพยนต์ - 2008 : [Movie] Pure Manhwa; Hello Schoolgirl (순정만화) รับบท Kang Sook [20081127] (KI10) ผลงานละครเวที - 2008 : Broadway musical Xanadu (kangin+heechul) [20080909-20081109] (KI86) ผลงานด้านอื่นๆ[etc.] - 2007 : [CF] 1677 Collect Call [Feb2007] (KI87) - 2007 : [CF] Sunkist Lemonade (KI88) - 2008 : [etc.] พากษ์เสียงแอนนิเมชั่นเรื่อง Alvin and the Chipmunks [20081211] (KI89) - 2008 : [MV] เพลง Flight Girl ของ Magolpy [Vitamin Entertainment, Korea] ร่วมกับ ฮีชอล, คังอิน, ชิงดง (KI90)       รางวัลทีได้รับ[Awards]       - 2002 : รางวัลชนะเลิศ สาขา Most handsome การประกวด SM Youngster contest ครั้งที่ 4 (KI07)       - 2007 : รางวัล Best Bad Boy จาก 2007 MNET 20's Choice [20070821] (KI91) - 2008 : รางวัล Hot Radio DJ จาก 2008 23rd Mnet 20’s Choice Award [20080823] (KI11) - 2008 : รางวัล Best DJ จาก MBC Drama Award [20081230] (KI92) วีรกรรมต่างๆและลักษณะนิสัยตั้งแต่ก่อนเดบิวจนถึงปัจจุบัน 2006 : คังอินเคยถูกวางตัวให้อยู่ Project นักร้องชายล้วน ในนาม Four Seasons มีสมาชิก 4 คน คือ คิมฮีชอล คิมแจจุง และชองยูโฮ แต่หลังจาก คิมแจจุง และชองยูโฮ เดบิวเป็นนักร้องวง TVXQ ในปี 2003 Project Four Seasons จึงต้เองจบลง (KI02) 2006 : คังอินยอมให้อีทึกทำโทษเค้า เพื่อเป็นตัวอย่างให้สมาชิกในวง(KI15) 2007 : คังอินชอบดูหนังติดเรทเป็นอันดับสองของสมาชิกในวง ซองมินเคยพูดไว้ในรายการวิทยุวันที่ 20070106 เกี่ยวกับ สมาชิกคนไหนที่ชอบดูหนังติดเรทมากที่สุด? โดยซองมินได้ลงความเห็นให้คังอินจัดอยู่อันดับสอง (KI16) 2007 : คังอินพูดยอมยกเตียงให้คยูฮยอน ในรายการวิทยุวันที่ 07/01/09 คังอินได้พูดว่าจะยอมยกเตียงให้กับคยูฮยอน และปลอบใจที่คยูฮยอนไม่มีเตียง (KI17) 2007 : ฮีชอลเคยพูดในรายการ Kiss The Radio เกี่ยวกับคังอินว่า เค้าต้องมีอนาคตที่ดีแน่นอน (KI18) 2007 : คังอินเคยมีแมลงวันบินเข้าปากของเค้า แถมยังติดอยู่ในคอเค้าด้วย ซึ่งเป็นประสบการณ์แย่ๆของเค้าในโรงเรียน (KI19) 2007 : คังอินเคยร่วมมือกับรายการวิทยุ Chun Bang Ji Chuk ที่เค้าจัดรายการ ในการแกล้งสมาชิกในวงซูเปอร์จูเนียร์ โดยการส่งข้อความไปหาสมาชิกทุกๆคน เพื่อดูว่าสมาชิกแต่ละคนจะตอบกลับมาว่าอย่างไร(KI20) 2007 : คังอินสารภาพว่าเค้าเคยผายลมตอนที่แสดงบนเวที (KI21) 2007 : คังอินเขียนจดหมายถึงตัวเองในรายการ Chun Bang Ji Chuk (KI22) 2007 : ในผลสำรวจ Super Junior Image Ranking ของนิตยสาร I-Book คังอินเป็นคนที่ร้องเหมือนเสียงผู้หญิงเวลาที่เล่นเกมส์ ลุ้นเกมส์ หรือเมื่อเค้าแพ้ (KI23) 2007 : ลีทึกเมมเบอร์โทรของคังอินว่า "แข็งแรงแต่ไม่น่าสนใจ คังอิน" (KI24) 2007 : คังอินจัดเป็นบุคคลที่ชอบด่ามากที่สุด และเป็นคนที่คุณรู้สึกไม่ดีด้วยเมือเจอกันครั้งแรก จากผลสำรวจของรายการ FM4U (KI25) 2007 : คังอินต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลคังนัม โซล เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2007 ในเวลา 12.00น. เพราะทำงานหนักมากเกินไป และมีไข้สูง(KI26) 2007 : คังอินเคยพิชิตตึกที่สูงที่สุดในโลก จากการเข้าร่วมเป็นพิธีกรในรายการ MBC Infinite Challenge! (KI27) 2007 : คังอินเป็นเหมือนพ่อของสมาชิกในวง จากบทสัมภาษณ์เรียวอุค ซองมิน และฮันคยองในนิตยสาร TV Guide Mag ของ China ว่าคังอินเหมือนคุณพ่อของของเค้า (KI43) 2007 : คุณพ่อของคังอินได้ฝากข้อความเสียงในวันชูซอกเอาไว้ว่า “สิ่งที่ผมต้องการจากลูกชายของผมก็คือให้เค้ามีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ และในการใช้ชีวิตก็ให้เคารพรุ่นพี่ และเป็นลูกที่คอยดูแลรุ่นน้องและเพื่อนร่วมงานด้วยความรัก และเป็นแบบอย่างที่ดี” (KI28) 2007 : อึนฮยอกเกลียดคังอินที่มักขโมยข้าวของตัวเองไปกิน ทั้งที่คังอินบอกว่า “พี่ไม่อยากกิน” (KI29) 2007 : คังอินเคยโดนแฟนคลับผลักตกเก้าอี้ในงานแจกลายเซ็น (KI30) 2007 : คังอินเคยลื่นในการแสดงสด M countdown วันที่ 07/11/01 ทำให้เอ็นที่ยึดระหว่างข้อต่อนิ้วชี้กับนิ้วกลางฉีก (KI31) 2007 : คังอินยืมเงินจากสมาชิกซูเปอร์จูเนียร์แล้วไม่ยอมคืนเงิน (KI32) 2007 : คังอินเคยมีปัญหาในการออกอากาศกับทางช่อง MBC เพราะตารางงานที่คังอินไปร่วมรายการกับทางช่อง SBS (KI33) 2007 : อีกทึกเคยให้สัมภาษณ์ใน <S> magazine ฉบับ Dec 2007 ว่า อยากให้คังอินเป็นหัวหน้าคนที่สองของวงซูเปอร์จูเนียร์ (KI34) 2007 : คังอินเป็นคนอ่อนไหว และร้องไห้ง่าย โดยทงเฮเคยพูดถึงคังอินไว้ใน relay talk ว่า แม้ภายนอกคังอินจะดูน่ากลัว ก้าวร้าว แต่ภายในนั้นคังอินเป็นคนอ่อนไหว ร้องไห้ง่าย (KI44) 2007 : ก่อนที่คังอินจะเดบิวต์เป็นสมาชิกซูเปอร์จูเนียร์ เค้าเคยมีน้ำหนักตัวถึง 100 กิโลกรัม คังอินใช้เวลา 4 สัปดาห์ลดลง 25 กิโลกรัม (KI 45) 2007 : คังอินคือคนที่มีข่าวอื้อฉาวมากที่สุด สมาชิกในวงซูเปอร์จูเนียร์ต่างลงความเห็นพร้อมกัน คังอินเป็นคนที่มีข่าวอื้อฉาวออกมามากที่สุดจิงๆ (KI46) 2007 : คังอินจูบ(หลังมือ)กับเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนสตรีกลางห้องโถงใหญ่ (KI47) 2007 : คังอินมีชื่อเล่นอีกชือหนี่งว่า “โซจู(คังอิน)” ในรายการ Wonderful Outing พีธีกรร่วมวอนซุกเปิดเผยว่าคังอินนั้นเป็นคนติดดินมากและชอบดื่มมากกว่าไอ ดอลทั่วไป จึงมีชื่อเล่นอีกชื่อนึงว่า โซจู(คังอิน) (KI48) 2007 : คังอินเคยถูก mbc แบนทำให้ t.o.p แห่ง Big Bang ได้รับหน้าที่พิธีกรแทน ใน Show! Music Core (KI02) 2007 : คังอินเป็นคนที่มีบุคลิกแปลกๆ ในรายการ Wonderful Outing พีธีกรร่วมวอนซุกพูดว่า คังอินไม่ได้เป็นเป็นพวกติดเหล้า (Alcoholic) แต่คังอินเป็นพวกมีบุคลิกแปลกแยกต่างหาก(KI48) 2007 : คังอินเคยเป็นหัวหน้าแก็งค์และชอบโดดเรียน ในรายการ Wonderful Outing คังอินเผยว่า เคยเป็นหัวหน้าแก็งค์หลงผิดมาก่อน และถึงแม้ว่าเค้าจะชอบโดดเรียน แต่เค้าก็ไปโรงเรียนทุกวัน (KI49) 2007 : คังอินไม่ชอบอาบน้ำ โดยอึนฮยอกออกมาแฉคังอินในรายการ Wonderful Outing ว่า คังอินไม่ชอบอาบน้ำ (KI50) 2007 : คังอินจะได้แต่งงานเป็นคนแรก ผลสำรวจก่อนการโปรโมทเพลง Marry you แฟนคลับต่างลงความเห็นว่าคังอินน่าจะเป็นคนที่ได้แต่งงานเป็นคนแรก (KI51) 2007 : งานแต่งงานในฝันของคังอิน คือ งานแต่งงานที่ซูเปอร์จูเนียร์และเอล์ฟสามารถไปร่วมงานได้ทั้งหมด (KI51) 2007 : คังอินสามารถงัดข้อชนะสมาชิกทุกคนในซุปเปอร์จูเนียร์ (KI 52) 2007 : คังอินตัวใหญ่คับกล่องจนกล่องแตก (KI53) 2008 : คังอินโดนอึนฮยอกปฏิเสธการแลกอากาศใต้น้ำ (KI54) 2008 : คังอินต้องยืนรออีทึกถึง 6 ชั่วโมง เนื่องจากคังอินและอีทึกไม่มีงานที่ต้องทำ คังอินจึงโทรหาอีทึกและนัดมาเจอกัน แต่อีทึกก็ปล่อยให้คังอินรออยู่ถึง 6 ชั่วโมง (KI35) 2008 : คังอินและดีเจร่วมที่ร่วมจัดรายการได้ส่งข้อความให้กำลังใจกับรุ่นพี่ ทูกอท สมาชิกจากวง Epik High (KI36) 2008 : คังอินเปิดเผยว่าอีก 10 ปีข้างหน้าผมอยากจะเปิดร้านคิมบับที่ออสเตรเลีย และอยากเปิดร้านไอศกรีมที่ไทย ในหนังสือ KOREAN SERIES (KI37) 2008 : คังอินได้ร่วมกิจกรรมเตะฟุตบอลในงาน Nike Ronaldinho Dois FG กับโรนัลดินโย่หนึ่งในนักฟุตบอลชื่อดัง ของทีมบาร์เซโลนา (KI38) 2008 : ขนหน้าอกของคังอินเป็น Best 5 of Super Junior – Happy (KI39) 2008 : คังอินให้สัมภาษณ์ว่า “ผมชอบผู้หญิงแก่กว่าครับ พวกเขาพึ่งตัวเองได้เหมือนคุณแม่ของผม” (KI40) 2008 : คังอินเคยได้รับการวิจาร์ณจากสื่อถึงการแสดงละครเวทีเรื่องแรก( Xanadu )ว่าเป็นการแสดงที่ยังไม่น่าประทับใจสำหรับคนดูมากนัก (KI41) 2008 : คังอินให้สัมภาษณ์เรื่องๆ การ์ตูนเคะ-เมะ ว่า “ผมเป็นได้ทั้งสองอย่างล่ะครับ” (KI42) 2008 : คังอินเคยไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร เพราะเค้าไม่ได้นำกระเป๋าตังค์ติดตัวไปด้วย ในขณะถ่ายทำรายการ Band of Brothers Ep.2 (KI55) 2008 : คังอินได้รับบทภาพยนต์แทนซีวอน เนื่องจากตารางของเชวซีวอนในกลุ่มย่อยของซูเปอร์จูเนียร์เอ็ม (KI02) 2008 : คังอินรับงานแสดงภาพยนต์เรือง "Pure Love" (ซุนจองมันฮวา-순정만화)โดยรับบท Kang Sook เป็นนักเรียน ม. ปลายที่ตกหลุมรักผู้หญิงที่อายุมากกว่า (KI10) 2008 : คังอินต้องจูบนานถึง 10 ชั่วโมง ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Pure Love" (ซุนจองมันฮวา-순정만화) (KI56) 2008 : คังอินนั้นก็ได้รับการถ่ายทอดบทเรียนการเล่นเบสจาก วง Hansband เพื่องานโชว์เคส Mnet 'Band of Brothers' (KI58) 2008 : คังอินชอบผู้หญิงเท้าสวย โดยอีทึกแฉในรายการ Change ว่าคังอินชอบผู้หญิงที่เท้าสวยๆ (KI72) 2008 : คังอินเผยว่ามีคนเป็นร้อยทั้งผู้ชายและผู้หญิงมาสารภาพรัก จากรายการ YSMM (KI69) 2008 : ฮีซอลออกมาแฉคังอินกลางรายการ YSMM ว่าในมือถือของคังอินมาเบอร์สาวเป็นพันๆเบอร์(KI69) 2008 : คังอินเคยผมร่วงจนหัวล้านเป็นวงขนาดใหญ่เมือตอนอายุประมาณ 20 ปี (KI70) 2008 : ซองมินเคยพูดในรายการ Onlbam บอกว่าสมาชิกคนที่เค้ารู้สึกลำบากใจมากที่สุดคือ คังอิน(KI57) 2008 : คังอินจอมบงการ ซองมินเผยในรายการ Onlbam ว่า คังอินเป็นคนชอบสั่งให้คนอื่นทำนู่นทำนี่ตลอดเวลา (KI 72) 2009 : คังอินรับงานละครเรืองแรก "Romance Zero (하자 전담반 Zero)" (KI59) 2009 : คังอินถูกจัดอันดับให้ศิลปินรุ่นใหม่ที่คุณอยากให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมมาก ที่สุด จากเว็บไซต์ฟังเพลงออนไลน์ Bugs (bugs.co.kr) ได้เผยผลสำรวจการจัดอันดับ “ศิลปินรุ่นใหม่ที่คุณคาดหวังจากการทำกิจกรรมในปีนี้มากที่สุด?" ในระหว่างวันที่ 5~12 มกราคม 2552 ซึ่งอันดับที่ 1 นั้นตกเป็นของ คังอิน แห่งวง ซุปเปอร์จูเนียร์ (KI60) 2009 : คังอินและผู้ร่วมจัดรายการวิทยุได้ร่วมกันกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการ เนิ่องจากใช้คำพูดพาดพิงและไม่เหมาะสมต่อนางพยาบาล ในระหว่างการจัดรายการวิทยุ (KI61) 2009 : คังอิน ติดอันดับ 42 จาก 100 หนุ่มฮอต สาวฮิต ของชาวเกาหลี (KI62) 2009 : ฮีชอลเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้รับมิตรภาพของคังอินจากการเล่นละครเพลงด้วยกัน (KI63) 2009 : คังอินถูกชาวอินเตอร์เน็ทเรียกร้องให้ขอโทษ เรื่องที่พูดไม่เหมาะสมใน We Got Married (KI64) 2009 : คังอินติดอันดับ 5 ของผู้ชายที่ผู้หญิงอยากเป็นแฟนด้วย (KI65) 2009 : คังอินถูกจัดอันดับให้ป็นคนดังที่สามารถให้คำปรึกษาได้ดีในอันดับ 2 จากเว็บไซท์เพลง MUSIC BUGS ได้ตั้งโพลสำรวจในวันที่ 16 - 23 มีนาคม 2552 (KI73) 2009 : คังอินเปิดเผยว่าเค้าไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกเลย หลังจากเดบิวต์มา 1 ปี และพูดเรื่องที่เขาคิดถึงแอลกอฮอลล์อีกด้วย จากรายการ MBC ‘SaBaKwi’ (KI66) 2009 : คังอินถูกเพื่อนในวงจัดให้เป็นสมาชิกที่ปากโป้งที่สุดในวง จากรายการ Come To Play ในวันที่ 09/04/12 (KI67) 2009 : คังอินเคยพูดในรายการวิทยุ FM4U เมื่อวันที่ 11/09 ของว่า “ เพราะฉันโดดเดี่ยวไง” ทำให้คังอินต้องมีตุ๊กตากับหมอนเต็มเตียงไปหมดเลย (KI68) 2009 : คังอินชอบละเมออะไรแปลกๆออกมา โดยคยูฮยอนออกมาแฉในรายการวิทยุ FM4U วันที่ 11/09 ว่า “พี่คังอินก็ละเมอบ่อยจริงๆ ครับ” (KI68) 2009 : คังอินนอนน้ำลายยืด คังอินเผยในรายการวิทยุของเค้าวันที่ 11/09 ว่า “ผมก็นอนน้ำลายยืดเหมือนกันนะ” ดังนั้นยูฮยอนเลยตั้งฉายาว่า “หนุ่มน้ำลายย้อย”(KI68) 2009 : หมอดูทำนายว่า คังอินจะได้ภรรยาที่ฉลาด และยังอายุน้อยกว่าคังอิน 7 ปี (KI 74) 2009 : คังอินต้องเคี้ยวหมากฝรั่งก่อนร้องเพลง 30 นาทีถึงจะร้องเพลงเพราะ (KI 75) 2009 : คังอินเคยบอกว่า เวลาที่พระจันทร์ส่องแสงไปที่แม่น้ำฮันจะเหมือนเยลลี่ลูกโอ๊ค จากรายการวิทยุ FM4U วันที่ 20080914 และอีกครั้งในรายการ we got married ep 39 (KI 76) 2009 : คังอินไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของกินของเค้าหรือเวลาเค้ากำลังกินอาหาร (KI 77) 2009 : คังอินบอกว่าเค้าไม่ค่อบชอบสัตว์ 2 ชนิดคือ หมี และหมู เพราะสองสิ่งนี่มักเป็นชือเล่นของเค้า (KI 78) 2009 : คังอินบอกว่าสาเหตุที่เค้าโดนแฟนเก่าทิ้ง เพราะว่าเค้าเอาแต่พูดถึงตัวเองมากเกินไป (KI 79) 2009 : ยุนจิ ภรรยาจากรายการ we got married ให้สัมภาษณืในนิตยสารว่า คังอินเป็นผู้สนับสนุนและให้กำลังใจทำให้เธอได้รับทุนการศึกษา (KI 80) 2009 : คังอินเกลียดการถูพื้น เพราะคังอินไม่ชอบนั่งคุกเข่า เนืองจากสมัยเด็กเค้าเรียนว่ายน้ำแล้วต้องงอเข่าทำให้เค้าปวดขามาก ทำให้เค้าเกลียดอะไรก็ตามที่ต้องงอเข่า ดังน้นเค้าจึงเกลียดการถูพื่นแบบคุกเข่า (KI 80) 2009 : คังอินจัดรายการวิทยุ FM4U เป็นวันสุดท้าย พร้อมกล่าวอำลาทั้งน้ำตาอยู่ (KI 81) - คังอินไม่ชอบคนที่ไม่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่น - เมือคังอินโมโหคังอินจะไม่พูดอะไรแล้วสักพักเค้าก็จะหายโกรธไปเอง - เมือคังอินมีความสุข เค้าจะชอบวิ่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง และตะโกนเสียงดัง - สิ่งที่คังอินไม่เคยยอมแพ้คือ งาน ความรัก และ ความสุข - คังอินชอบรถยนต์ - คังอินชอบกินสตอเบอรี่ - คังอินใฝ่ฝันที่จะแต่งเพลงรักโรแมนติก - คังอินมีสุนัข 1 ตัวสีขาว เคยนำมาโชว์ ขณะจัดรายการ FM4U โดยสุนัขตัวนั้นชือ Goongju Credit : www.luvsuju.net Fancafe http://cafe.daum.net/camomileyw Website http://www.kisskangin.com http://www.kimyoungwoon.com/ http://www.sunshine-ki.com/ http://www.sj-kingsir.com http://www.kang-in.com http://www.kanginfamily.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:57:27 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 22:27:28 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:45:38

ความคิดเห็นที่ 8 SHINDONG ชื่อจริง : Shin donghee อักษรฮันกึล : 신동희 อ่านว่า ชินดงฮี อักษรฮันจา : 申東熙 อ่านว่า เซินตงซี ชื่อในวงการ : Shindong อักษรฮันกึล : 신동อ่านว่า ชินดง อักษรฮันจา : 神東อ่านว่า เสินตง ชื่ออังกฤษ : Matthew Shin ฉายา : หมีพูห์ ลูกหมีสีชมพู วันเกิด : 28 กันยายน ค.ศ.1985 กรุ๊ปเลือด : O ศาสนา : คริสต์ เป็นบุตรคนที่ : ลูกคนเดียว บ้านเกิด : คยองซแซงบกโด มุนคยองชี งานอดิเรก : เต้น หาเรื่องตลกมาเล่าให้เพื่อนฟัง อาชีพ : นักร้อง นักเต้น ดารา DJ MC ตำแหน่งในวง : แร็ป เต้น ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง แร๊พ บีทบ๊อกซ์ เปียโน กีตาร์ การแสดง สีที่ชอบ : ชมพู ม่วง อาหารที่ชอบ : Samkyupsal อาหารที่ชอบน้อย : ปลาดิบ ชนิดของเสียง : เบส ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : ปี (2005) อายุในวงการ : 2005-ปัจจุบัน การศึกษา : IIsan Middle School , Saewon Hight School ,Beaekjae Arts University การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05 2002: ชนะเลิศสาขา Best Dancer ในการประกวด GoYang City Youth Contest [July 2002] 2003: ชนะเลิศสาขา Best Dancer ในการประกวด GoYang City Youth Contest [July 2003] 2004: ชนะเลิศ Golden award and Popularity award from M-net EPPY Competition [October 2004] 2005 : ชนะเลิศสาขา Best gag, Best of the Best ในการประกวด SM Youngster contest 2005 2005 : พิธีกร KMTV Show Music Tank [September 2005] 2005 : พิธีกร 'Sweet Rose Party' ของดง บัง ชิน กิ [October 2005] 2005 : พิธีกร M-Net, KMTV - M!Countdown [November 2005] 2005 : ชนะเลิศสาขา Best gag, Best of the Best ในการประกวด SM Youngster contest 2005 : เดบิวท์ Super Junior 05 ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน งานเพลง -2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108] -2005 : [Album] Super Junior05 (TWINS) [20051205] -2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215] -2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006)[May.2006] -2006 : [Single] Super Junior U [20060525] -2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620] -2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212] -2007 : [Unit] Super Junior T [20070225] -2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704] -2007 : [Ost.] Flower Boy [20070727] -2007 : [Album] Super Junior the second album (Don't Don) [20070820] -2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207] -2008 : [Unit] Super Junior Happy [20080530] -2008 : [Concret] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521] -2009 : [Album] Super Junior the 3rd album (Sorry Sorry) [20090312] ละครซีรี่ย์/โทรทัศน์ -2006 : KM 프린세스 다이어리 PrincessDiaryเวลาออกอากศ ทุกวันอังคาร ตั้งแต่13เมษายน 2006 - 27 เมษายน 20063 ตอน(SJSD01) -2008 : Single Papa in Love (싱글파파는 열애중) ช่อง KBS2 ออกอากาศตอนแรกวันที่ Feb 18 2008 ออนแอร์ทุกวัน จันทร์ และ อังคาร เวลา 9:55 ทุ่ม ชินดงรับบทเป็น Oh Chil-gu (SD** 1) ภาพยนตร์ - 2007 Flower Boy ; Attack on the Pin-Up Boys (꽃미남 연쇄 테러사건)รับบท Shindong -14 ธันวาคม 2007 Alvin and the Chipmunks (ให้เสียงภาษาเกาหลี) ดีเจ -2008 : ชินดงจัดรายการ MBC PyoJoon FM "Simsim tapa" คู่กับ DJ with Kim Shin Young รายการ "Simsim tapa" ออกอากาศทุกวัน เวลา 12.00 – 02.00 เริ่มออกอากาศวันแรก 7 เมษายน 2008(SD**2) -2008 : ดีเจรายการวิทยุ KMTV DJ Green Apple Sound April 2007–February 15, 2008 มิวสิควิดีโอ เพลง Flight Girl ของ Magolpy [Vitamin Entertainment, Korea] รวมกับ ฮีชอล, คังอิน, ชิงดง โฆษณา 2006 Calvin Kleins (cK) " Pure Calvin " 2006-2007 : NII ร่วมกับสมาชิกในวง 2006-2008 : IVY ร่วมกับสมาชิกในวง 2007 :Gongbuwara 2007 :1677 Collect Call 2009 :YAMAHA FINO ร่วมกับสมาชิกในวง พีธีกร (MC) 2005 : พิธีกร KMTV Show Music Tank (ก.ย. 2005) 2005 : พิธีกร 'Sweet Rose Party' ของดง บัง ชิน กิ (ต.ค. 2005) 2005 : พิธีกร M-Net, KMTV - M!Countdown (พ.ย. 2005) 2006 : พิธีกร Top 5@5 on Channel V SJ ร่วมกับ คังอิน ซองมิน และ อึนฮยอก ออกอากศ วันที่ 17 กรกฎาคม 2006 - 27 กรกฎาคม 2006 (ออกอากศต่อเนื่องทุกวัน) 5 ตอน (SJSD02) 2006 : Mnet Hello Chat " ก.ค.2006 2006 : Show Music Tank ต.ค.2006 2007 : พิธีกร MBC BoBoBo Ai Joa 2007–present Twitter / Fancafe / Cyworld http://twitter.com/ShinsFriends http://cafe.daum.net/bestSDH http://www.cyworld.com/superjrsd Website แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 22:42:37 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:46:47

ความคิดเห็นที่ 9 SUNGMIN ชื่อจริง : Lee Sungmin อักษรฮันกึล 이성민 อ่านว่า อีซองมิน อักษรฮันจา 李晟敏อ่านว่า หลี่เซิ่งหมิ่น ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 李晟敏 イ・ソンミン ชื่อในวงการ : Sungmin ฉายา : ฟักทองหวาน ตำแหน่งในวง : Sub-Vocal ความสามารถพิเศษ : ศิลปะการป้องกันตัวแบบจีน การแสดง ภาษา : เกาหลี ญี่ปุ่น ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 5 ปี (2001-2005) วันเกิด : วัน พุธ ที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1986 (วัน พุธ ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2529) กรุ๊ปเลือด : A ศาสนา : คริสต์ สีที่ชอบ : ชมพู นิสัยโดยทั่วไป ความสนใจ และงานอดิเรก : ดูหนัง เล่นดนตรี ที่มาของฉายาต่างๆ : - เกาหลี ฟักทองหวาน ที่มา จากบทพูดตอนหนึ่งของซองมินจากรายการ Super Junior Show - ดีเจมิง ที่มา ตั้งให้ตัวเองตอนเป็นดีเจที่ชอนจิ - Minimi (미니미) ที่มา รยออุกใช้เรียกซองมินตอนที่มาเป็นเกสที่ชอนจิ ภูมิลำเนา : โซล ครอบครัว : คุณพ่อ คุณแม่ ซองมิน และน้องชาย ( อีซองจิน) การศึกษา : มหาวิทลัยเก่า Seoul Arts University (서울예대학교) ปัจจุบันย้ายมาเรียนอยู่ที่ Myongji University (명지대학교) การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior05 2001 : [Casting] ชนะเลิศสาขา Most handsome ในการประกวด SM Youngster contest 2005 : [Series] ละคร Sea of Sisters ทางช่อง MBC [Aug.2005] (SM03) 2005 : [Series] ละคร A boy from a charnel house ทางช่อง KBS [Sep.2005] ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน ผลงานเพลง 2005 : [Digital Single] Super Junior05 (TWINS) [20051108] 2005 : [Album] Super Junior05 (TWINS) [20051205] 2005 : [Album] Show me your love (Suju&tvxq) [20051215] 2006 : [Track] 꼬레아리랑 KoreArirang (Soccer World Cup 2006)[May.2006] 2006 : [Single] Super Junior U [20060525] 2006 : [Album] Summer SM Town 2006 [20060620] 2006 : [Album] Winter SM Town 2006 [20061212] 2007 : [Unit] Super Junior T [20070225] 2007 : [Digital Single] 소중한 열매 [20070309] *SungMin* 2007 : [Ost.] MBC H.I.T : Success, H.I.T. [20070406] *DRYS2K* 2007 : [Album] Summer SM Town 2007 [20070704] 2007 : [Ost.] Flower Boy [20070727] 2007 : [Album] Super Junior the second album (Don't Don) [20070820] 2007 : [Album] Winter SM Town 2007 [20071207] 2008 : [Unit] Super Junior Happy [20080530] 2008 : [Concret] Super Show Super Junior the 1st asia tour [20080521] 2009 : [Album] Super Junior the 3rd album (Sorry Sorry) [20090312] ผลงานภาพยนต์ 2007 : Flower Boys (2007,July) ผลงานโฆษณา [CF] 2006 - 2008 : IVY Club 2006 - 2007 : NII 2008 : Sunkist Lemonade 2008 : Yamaha New Fino 2008 ผลงานด้านอื่นๆ [etc.] 200_ : [MC] พิธีกรคู่กับทงเฮในรายการของ KMTV 2005 : [TV] Banjun Theatre - Finding Lost Time แสดงกับ มิกกี้ ยูชอน TVXQ ช่อง SBS 2007 : [DJ] ChunBangJiChuk Radio คลื่น Melon [20070604 - 20080730] 2008 : [TV] MBC everyone "Triple drama" [Mar.2008] 2009 : [TV] MBC Oppa Band [20090621-___] ข้อมูลวีรกรรมต่างๆ และลักษณะนิสัย 2006 - แม้จะมีเสียงอึกทึกครึกโครมแต่ซองมินก็ยังสามารถนอนหลับได้ [20060115 ] (SJSM05) 2007 - ทงเฮบอกว่าเค้าไม่ชอบสีชมพู เพราะเตียงของทงเฮอยู่ตรงข้ามเตียงของซองมิน เวลาตื่นขึ้นมาก็จะเห็นแต่สีชมพู [20070101] (SJSM06) - คังอินบอกว่าซองมินนอนอ้าปาก และคยูฮยอนยังบอกอีกว่ามีครั้งนึงเคยเทน้ำใส่ปากซองมิน แต่ซองมินก็ยังไม่ตื่น [20070109] (SJSM07) - คยูฮยอนคิดว่าคิบอมและซองมินเป็นคนที่มีใบหน้าตอนไม่เมคอัพสวยที่สุด [20070201] (SJSM08) - กระเพาะของซองมินสามารถจุอาหารได้ถึง 967 กรัม [20071118] (SJSM09) - ซองมินได้รับรางวัลรอยยิ้มยอดเยี่ยม จาก S magazine ประจำปี 2007 [Dec.2007] (SM04) - ซองมินให้สัมภาษณ์ใน S magazine ว่าเค้าอยากได้แฟนที่สามารถรอเค้าจนทำงานเสร็จได้ - ซองมินให้สัมภาษณ์ใน S magazine ว่าการเป็นดีเจเป็นความฝันของเค้าตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ - ซองมินให้สัมภาษณ์ใน S magazine ว่าเค้าอยากเป็นนักแสดงที่เล่นได้หลายๆบท อยากเป็นคนที่มีความสามารถทั้งด้านการร้องเพลงและการแสดง 2008 - ซองมินอยากเล่นคลาริเนตและฮาโมนิก้าเป็น [20080410] (SM05) - อีทึกบอกว่าซองมินจะต้องนอนเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน [20080707] (SJSM10) - แต่ซองมินบอกว่าตอนนี้เค้าสามารถอยู่ได้ถึงตี5แล้ว - ทุกวันตอน 6 โมงเช้า ซองมินจะออกไปเรียนภาษาญี่ปุ่น [20080929] (SM06) - สมาชิกในวงบอกว่าซองมินเป็นคนที่มีสองบุคลิก เวลาพูดกับผู้ชายจะดูแมนมากๆ แต่ถ้าพูดกับผู้หญิงจะอ่อนโยน น่ารัก [20081219] (SJSM11) 2009 - ซองมินบอกว่าเค้าไม่ชอบให้ชีวอนใส่รองเท้ามีส้น เพราะมันจะทำให้ซองมินและชีวอนมีความสูงที่แตกต่างกันมาก [20090313] (SJSM12) ข้อมูลต่างๆที่ไม่มีวันที่ ที่ชัดเจน - ซองมินเป็นเจ้าของสกู๊ตเตอร์ซึ่งมีชื่อว่า byul (별 แปลว่า ดวงดาว) และมักจะออกไปขี่เล่นกับชินดง (SJSM13) - ซองมินชอบถ่ายรูป - ซองมินมีจูบแรกกับอึนฮยอก (SJSM14) - ซองมินชอบสีชมพูมาก สังเกตได้จากของใช้ส่วนมากของซองมินจะเป็นสีชมพูทั้งหมด (SM07) - ซองมินเคยคิดจะเปลี่ยนใจไม่ใส่อะไรที่เป็นสีชมพูอีกแล้ว แต่เมื่อเปิดตู้ออกมาเสื้อผ้าของเค้าก็มีแต่สีชมพูหมดเลย เค้าเลยจบเหตุที่จะเปลี่ยนลุค (SJSM15) - ซองมินบอกว่าเค้าเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูด (SJSM16) - ซองมินคิดว่าตัวเองน่ารัก และบอกว่า “แค่มองมาที่ดวงตาของผม ก็ทำให้คนอื่นอยากหลงรักผมแล้ว” (SJSM17) - ฮีชอลบอกว่าเวลาซองมินเมา ซองมินจะชอบทำตัวน่ารัก - ซองมินไม่ดื่มเหล้า แต่ดื่มโซจูได้นิดหน่อย แต่บางทีก็ดื่มเบียร์เป็นกระป๋องได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับบรรยากาศเวลาดื่ม (SJSM18) - ซองมินเคยผายลมตอนที่แสดงบนเวที (SJSM19) - อึนฮยอกบอกว่าซองมินเหมือนหมาจิ้งจอก และคิดว่าซองมินมักจะออกไปเตร็ดเตร่ในที่ๆมีสาวๆ และยิ้มให้กับพวกเธอ (SJSM20) - ฮีชอลบอกว่าซองมินเป็นมือนวดที่เจ๋งมาก (SJSM21) - ซองมินกับอึนฮยอกเคยอาบน้ำด้วยกัน (SJSM22) - ซองมินเคยเลี้ยงลูกสุนัขชื่อว่า อารี แต่ตอนนี้มีครอบครัวอื่นรับอารีไปเลี้ยงแล้ว (SJSM23 credit : www.luvsuju.net Fancafe / Cyworld http://cafe.daum.net/cjsgk01 http://www.cyworld.com/photodayz Website http://www.19860101.com http://www.babysungmin.com http://www.isungmin.cn http://www.lovesungmin.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:54:45 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 22:55:09 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:47:51

ความคิดเห็นที่ 10 EUNHYUK ชื่อจริง : อี ฮยอกแจ (Lee Hyukjae) ชือจริงอักษรฮันกึล : 이혁재 อักษรฮันจา : 李 赫 在 ชื่อในวงการ : อึนฮยอก (Eunhyuk) อักษรฮันกึล : 은혁 อักษรฮันจา : 銀 赫 ฉายา : Jewel Guy (โบซอกมีนัม), ลิง , 250 ,ไก่ ตำแหน่งในวง : Rap ชนิดของเสียง : ความสามารถพิเศษ : เต้น อาชีพ : นักร้อง ระยะเวลาการฝึกก่อน Debut : 6 ปี (2000-2005) วันเกิด: 4 April 1986 (4 เมษายน 2529) กรุ๊ปเลือด: O ราศีเกิด : Aries ศาสนา : คริสต์ สีที่ชอบ : ฟ้า ขาว เบจ ผลไม้ที่ชอบ : สตรอเบอรี่ ส้ม กยุล ผักที่ชอบ : มะเขือเทศ อาหารที่ชอบ : ข้าวผัดกิมจิ พิซซ่า เครื่องดื่มที่ชอบ : นมสตรอเบอรี่ น้ำส้ม ขนมที่ชอบ : บานาน่า คิก เลขที่ชอบ : 7 งานอดิเรก : ฟังเพลง ออกกำลังกาย กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอล ความสามารถพิเศษ : การเต้น (ทุกแบบ) ที่มาของฉายาต่างๆ :- Jewel Guy (โบซอกมีนัม) - ฮยอกแจมักจะแนะนำตัวเองว่าโบซอกมินัม ที่แปลว่าหนุ่มอัญมณี ซึ่งเป็นความหมายจากชื่อของเขาเอง อึน แปลว่า สีเงิน ดังนั้นชื่อของฮยอกแจจึงหมายถึงอัญมณี - ลิง - from the Zodiac , ฮีชอล , แฟนไทย - 250 - แฟนจีน - ไก่ - แฟนไทย ภูมิลำเนา : โกยังชี นึงก๊ก (고양시 능곡) คยองกิโด อิลซาน (경기도 일산) ครอบครัว : พ่อ แม่ พี่สาว (อี โซรา, 1984) และน้องหมาพันธุ์ยอร์กเชียร์ชื่อ ชอคโค (Choco) การศึกษา : - โรงเรียนเตรียมอนุบาลซุงซังยูอาวอน - โรงเรียนอนุบาลบยองซุล - โรงเรียนประถมนึงกค - โรงเรียนมัธยมต้นฮวาซอ - โรงเรียนมัธยมปลายฮวากค - มหาวิทยาลัยแบแช (Pai Chai University) ผลงาน การเข้าวงการและผลงานก่อน debut เป็น Super Junior - 2000 : ชนะเลิศ 2000 Goyang City Youth Dance competition - 2000 : 2000 Starlight Casting System - 2002 : SBS 'Saturday is Coming' showdown of the century (March, 2002) - 2005 : MBC 'In Saturday Night' ChuGyukNamYoe (August, 2005) ผลงานนับตั้งแต่เป็น Super Junior ถึงปัจจุบัน ผลงานเพลง - 2005 : [Album] Super Junior 1st Album "Super Junior 05" (20051205) - 2005 : [Single] Winter Single "Show Me Your Love" with TVXQ (20051215) - 2006 : [Single] Super Junior 1st Single "U" (20060525) - 2006 : [Album] Summer SM Town Album (20060620) - 2006 : [Album] Winter SM Town Album (20061212) - 2007 : [Unit] Super Junior-T (Trot) 1st Single "Rokkugo" (20070223) - 2007 : [Album] Summer SM Town Album (20070704) - 2007 : [Ost] Flower Boys Ost. "Wonder Boy" (20070727) - 2007 : [Album] Super Junior 2nd Album "Don't Don" (20070920) - 2007 : [Album] Winter SM Town Album (20071207) - 2008 : [Album] Super Junior the 1st asia tour Album "Super Show" - 2008 : [Unit] Super Junior - H (Happy) 1st Single "Cooking? Cooking!" (20080605) - 2008 : [Unit] Super Junior - T 1st Japanese Single "ROCK&GO" - 2009 : [Album] Super Junior the 3rd Album "Sorry Sorry" (20090312) ผลงานละคร[Series] - 2006 : NN6 Rainbow Romance as Guest ผลงานหนัง - 2007 : Flower Boys (2007,July) ผลงานโฆษณา[CF] - 2006 : IVY-Club - 2006 : NII - 2007 : IVY-Club - 2007 : NII - 2008 : Sunkist Lemonade - 2008 : Yamaha New Fino 2008 ผลงานมิวสิควิดีโอ - 2005 : Twins (Knock Out) - Super Junior 1st Album "Super Junior 05" - 2005 : Show Me Your Love - Winter Single with TVXQ - 2006 : Miracle - Super Junior 1st Album "Super Junior 05" - 2006 : 2006 Korea World Cup Song - 2006 : U - Super Junior 1st Single Album "U" - 2006 : Red Sun - 2006 Summer SM Town Album - 2006 : Dancing Out - 2006 Summer SM Town Album - 2006 : Snow Dream - 2006 Winter SM Town Album - 2007 : Rokkugo - Super Junior-T (Trot) 1st Single "Rokkugo" - 2007 : Happiness - 2007 Summer SM Town Album - 2007 : Let's Go On The Trip - 2007 Summer SM Town Album - 2007 : Wonder Boy - Flower Boys Ost. - 2007 : Don't Don - Super Junior 2nd Album "Don't Don" - 2007 : Marry U - Super Junior 2nd Album Re-Package - 2007 : Only Love - 2007 Winter SM Town Album - 2008 : One Love - Super Junior The 1st Asia Tour " Super Show" - 2008 : Cooking? Cooking! - Super Junior Happy 1st Single "Cooking? Cooking!" - 2008 : Pajama Party - Super Junior-H 1st Single "Cooking? Cooking!" - 2008 : ROCK&GO - Super Junior-T Japanese Single - 2009 : Sorry Sorry - Super Junior 3rd Album รายการทีวีต่างๆ - 2005 : KM Super Junior Show (20051206 - 20060424) - 2005 : M.Net School of Rock (20051212) - 2006 : M.Net Hello Chat (20060111, 20060626) - 2006 : M.Net School of Rock (20060206, 20060320, 20060710) - 2006 : MTV Dream Station (20060216) - 2006 : 3 Tock Talk (20060328) - 2006 : M.NET Mystery 6 (20060330 - 20060504) - 2006 : KBS2 Star Golden Bell (20060415) - 2006 : M.Net 100% (20060516, 20060530, 20060920, 20060926) - 2006 : SBS Super Junior Full House (20060527 - 20060826) - 2006 : KM Super Adonis Camp (20060529 - 20060717) - 2006 : MTV School Attack (20060813) - 2006 : M.NET Super Junior Mini-Drama(20060813 - 20060913) - 2006 : SBS Decision of Taste Vs Taste (20060827) - 2006 : MTV Stars Talking (20061104) - 2006 : tvN Like a Virgin (20061219) - 2006 : tvN Mad.com (20061227) - 2007 : SBS Star King (20070310, 20070331, 20070407, 20070512, 20071013, 20071222) - 2007 : MTV Sunny Side Super Junior-T (20070313) - 2007 : SBS 1000 Songs Challenge (20070318, 20070513, 20070520) - 2007 : Happy Share Company (20070324, 20070331) - 2007 : KBS Smile Charge Institute (20070328) - 2007 : KBS2 Star Golden Bell (20070414, 20070630, 20070714, 20070922, 20071006, 20071020) - 2007 : MBC Golden Fish (20070425) - 2007 : KM Idol World - Super Junior - T (20070505 - 20070630) - 2007 : MBC Sunday Nigth Go to Play (20070729) - 2007 : M.Net School of Rock (20070730, 20070827) - 2007 : SBS Animal Farm (20070819 - 20070916) - 2007 : Iple Unrelease Documnetary - 2007 : MBC DRAMA Magnificent Going Out (20071109) - 2007 : SBS Explorer of Human Body (20071111 - 20080203) - 2007 : SBS Yashimmanman (20071126) - 2007 : KBS 1vs100 (20071127) - 2007 : SBS Line up with Super Junior (20071201) - 2007 : ETN SJ Music diary (20071208 & 20071215) - 2008 : SBS 1000 Songs Challenge (20080106) - 2008 : Comedy TV Unbelievable Outing Season 3 (20080112 - 20080405) - 2008 : MTV UFO Battle (0080205 & 20080225) - 2008 : SBS Star King (20080301, 20080315, 20080322, 20080524, 20080531, 20080607, 20080614, 20080621, 20080628, 20080712, 20080802) - 2008 : KBS Vitamin (20080303) - 2008 : KBS2 Star Golden Bell (20080308, 20080802, 20080830, 20080913, 20081227) - 2008 : ArirangTV ShowBizExtra - Star Monologue (20080402) - 2008 : MBCevery1 Idol Show (July 24, 2008 - October 9, 2008) - 2008 : MBC Introducing Celebrities' Friends (20081101 & 20090321) - 2008 : MBC Onlbam - Super Junior (20081219) - 2008 : KBS Road Show (20081228) - 2009 : KBS2 Star Golden Bell (20090124, 20090404) - 2009 : SBS Star King (20090328, 20090404, 20090411, 20090418, 20090425) - 2009 : MBC Introducing Celebrities' Friends (20090321) - 2009 : MBC Onlbam - Super Junior (20090327) ผลงานด้านอื่นๆ[etc.] - MC : Geust MC M.net KMTV M! Countdown (20070726) - MC : M.net KMTV M! Countdowm (20070816 - 20080313) - DJ : KBS2 Super Juior Kiss The Radio (20060821-...) วีรกรรมต่างๆและลักษณะนิสัยตั้งแต่ก่อนเดบิวจนถึงปัจจุบัน - เพราะว่าชอบเต้นมากๆ ตอนป.3 ฮยอกแจแจเคยบาดเจ็บเป็นแผลที่ขาขณะเต้นจนต้องเข้าโรงพยาบาล - ตอนเรียนฮยอกแจ เซีย และเพื่อนอีกสองคนตั้งกลุ่มขึ้นมาฝึกร้องและเต้นตามเพลงฮิตของวง H.O.T - เพราะว่าการที่อยากเป็นนักร้องทำให้การเรียนตก พ่อแม่จึงขอร้องให้ฮยอกแจสนใจการเรียนมากกว่าการเป็นนักร้อง แต่ฮยอกแจก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ ฝึกซ้อมจนมีการแสดงร่วมกับกลุ่มเป็นคร้งแรก โดยเต้นเพลง Candy ของวง H.O.T จนทำให้พ่อแม่ยอมรับจนได้ - ฮยอกแจเข้ามาออดิชั่นที่เอสเอมตอนมัธยมต้น หลังจากที่ฝึกซ้อมอย่างหนัก ฮยอกแจก็ผ่านการออดิชั่นมาด้วยเพลง Candy ของวง H.O.T - ตอนเป็นเด็กฝึกหัดฮยอกแจเคยเขียนใบสารภาพผิดไปมากกว่า 100 ใบ เพราะว่าเล่นบอลในห้องซ้อม และอู้ซ้อม - ฮยอกแจตั้งใจฝึกซ้อมมากๆ เพราะว่าอยากจะลบคำสบประมาทของเพื่อนที่ว่าอย่างเขาเป็นนักร้องไม่ได้หรอก จนในที่สุดก็ได้เดบิวท์ในฐานะซุปเปอร์จูเนียร์ในที่สุด หลังจากพยามมา 6 ปี - ตอนเป็นเด็กฝึกหัดฮยอกแจเคยได้ไปกินข้าวในร้านเดียวกับควอนซังอูและกินแกงกิมจิที่ควอนซังอูกินเหลือเข้าไป - ฮยอกแจบอกว่าในช่วงที่ครอบครัวประสบปัญหาทำให้เขาเข้มแข็งมากขึ้น - ตอนที่มางาน Pattaya Music Festival ที่ประเทศไทย เป็นครั้งแรกที่ฮยอกแจไปต่างประเทศ และเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของฮยอกแจด้วย - ฮยอกแจไม่ชอบแบ่งของกินให้คนอื่น - เวลาที่ฮยอกแจโมโห เขาจะอยู่เงียบๆ คนเดียว บางทีก็จะร้องไห้ - ทงเฮบอกว่าฮยอกแจจะดูเจ็บปวดมาก เวลที่มีใครพูดถึงด้านที่ไม่ดีของเขา - ตอนที่ฮยอกแจซื้อแลปท๊อปมาใหม่ เขาเปลี่ยนพาสเวิร์ดบ่อยมากๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนรู้พาสเวิร์ดแล้วแอบมาใช้แลปท๊อปของเขา - คังอินบอกว่าเขาเคยรู้สึกหงุดหงิดกับฮยอกแจ เพราะว่าฮยอกแจขวานผ่าซากมากๆ - - คังอินบอกว่าฮยอกแจดูแลเขา และดูแลคนอื่นๆ ทำให้เขารู้สึกขอบคุณ - ฮีชอลบอกว่าฮยอกแจน่ารักเกินไป เขาอยากจะออกไปเที่ยวกับฮยอกแจแต่ว่ากลัวจาพาฮยอกแจไปเสียคน - อีทึกบอกว่าฮยอกแจเป็นแฟนคลับของ Choi Jung Won ขนาดที่ว่าแม้จะยุ่งขนาดไหนเขาก็ยังจะฝากข้อความไว้ให้เธอ เมื่อฮยอกแจเห็นรูปเธอ ก็ถึงกับลุกขึ้นยืนทันทีเลย - สมาชิกส่วนใหญ่บอกว่าฮยอกแจเป็นคนที่งกทราสุดในบรรดาสมาชิกทั้งหมด - ฮยอกแจทำพลาดขณะขึ้นแสดง "โรกุกอ" ครั้งแรก โดยการร้องแร๊ปผิด - ฮยอกแชอบดูหนังโป๊ -*- - ฮยอกแจและซองมินเคยอาบน้ำด้วยกัน - ฮยอกแจบอกว่าเขาเป็นคนไทยในรายการ Full House ในตอนที่ไป English Village อื่นๆ - ฮยอกแจเป็นเพื่อนสนิทกับเซียมาตั้งแต่สมัยประถม - ฮยอกแจเข้าร่วมในรายการ SBS 'Saturday is Coming' showdown of the century ของฮีจุนและคังตะ วง H.O.T ร่วมกับซองมิน - ชื่อ "อีฮยอกแจ" เหมือนกับนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงคนนึงของเกาหลี บริษัทจึงคิดว่าเขาควรมีชื่ออื่นทีใช้ในการแสดง - ก่อนที่จะได้เดบิวต์ เอสเอมเคยมีโครงการที่จะให้ ฮยอกแจ, ซองมิน และ เซีย จุนซู รวมเป็นวง R&B ชื่อว่า "Daeneb" [대넵] - วันที่ 19 เมษายน 2550 เวลาประมาณเที่ยงคืนยี่สิบ อีทึก อึนฮยอก ชินดง คยูฮยอน และผู้จัดการวงได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเดินทางกลับมาจากการอัด รายการวิทยุ "Kiss The Radio" บนทางด่วน ใกล้แยกบริเวณสะพานทงจัก (Dongjak Bridge) โชคดีที่ อึนฮยอค มีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากการบาดของเศษกระจกที่แตกเท่านั้น และสามารถออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 23 เมษายน - ฮยอกแจต้องหยุดการเป็นเอมซี M! Countdown ก่อนกำหนดเนื่องจากในวันที่ 13 มีนาคน 2551 เพราะว่าตกจากเวทีขณะถ่ายทำ M! Countdown ทำให้ข้อมือ และแขนข้างขวาได้รับบาดเจ็บ - ฮยอกแจใส่สร้อยข้อมือเส้นนึงมานานมากๆ เลย และใส่แทบจะตลอดเวลาเลย (ไม่แน่ใจว่าเป็นเส้นเดียวกะที่บอกว่าทงเฮให้มารึเปล่า เพราะฮยอกแบอกว่าสร้อยที่ทงเฮให้มาเป็นสร้อยราคาแพง และสร้อยที่ฮยอกแสก็เปงของ D&G) twitter / fancafe /cyworld http://twitter.com/AllRiseSilver http://cafe.daum.net/jewelhj http://www.cyworld.com/allrise0404 website http://19860404.com http://myeunhyuk.com http://2hyukjae.com http://todayhj.com  http://www.hj-play.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:14:39 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:48:50

ความคิดเห็นที่ 11 DONGHAE จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:49:53

ความคิดเห็นที่ 12 SIWON twitter / fan cafe http://twitter.com/siwon407 http://cafe.daum.net/sm0217 websites KR http://www.choisiwon.com CN http://tieba.baidu.com/choisiwon http://www.forsiwon.com http://www.choisiwon.cn http://www.justsiwon.com http://www.siwonzone.com http://www.isiwon.com http://www.siwonfamily.com http://www.bless-siwon.com TH http://www.see-won.com http://www.babyzaja.com แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 23:39:01 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:50:34

ความคิดเห็นที่ 13 RYOWOOK จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:51:40

ความคิดเห็นที่ 14 KIBUM Fan cafe http://cafe.daum.net/dandyboykb Website http://www.kibimmie-thaifans.com http://www.kibumfamily.com แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 00:03:31 จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:52:38

ความคิดเห็นที่ 15 KYUHYUN จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:53:46

ความคิดเห็นที่ 16 ZHOUMI จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:54:50

ความคิดเห็นที่ 17 HENRY จากคุณ : สาวใช้ชายช้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:55:50

ความคิดเห็นที่ 18 น่ารักโคตรๆ คิดถึงอย่างแรง โดยเฉพาะชายบอม จากคุณ : pound_ph เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 20:27:34

ความคิดเห็นที่ 19 ::: SUB-UNIT PROFILE ::: SUPER JUNIOR - K.R.Y ซูเปอร์จูเนียร์ เค.อาร์.วาย. (Super Junior K.R.Y.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คนจากซูเปอร์จูเนียร์ ได้แก่ คยูฮยอน, รยออุค และเยซอง ซึ่งชื่อของกลุ่ม เค.อาร์.วาย. (K.R.Y.) ก็มาจากชื่อของพวกเขาทั้ง 3 นั่นเอง และ K.R.Y. ก็ถือได้ว่าเป็น Sub-Unit แรกของซูเปอร์เนียร์ ซูเปอร์จูเนียร์ เค.อาร์.วาย. ขึ้นแสดงสดเป็นครั้งแรกในรายการ Music Bank ทางสถานี KBS ของเกาหลีใต้ พวกเขาทั้ง 3 คนได้ร่วมร้องเพลงประกอบซีรีส์เรื่อง "Hyena" ทั้งสิ้น 3 เพลงรวมถึงเพลงหลักด้วย นอกจากนี้ ยังได้นำเพลงดังกล่าวเข้าบรรจุในเพลงประกอบซีรีส์อีก 2 เรื่องคือ "Snow Flower" และ "Billy Jean Look at Me" อีกด้วย ซูเปอร์จูเนียร์ เค.อาร์.วาย.แตกต่างจากกลุ่มย่อยกลุ่มอื่น ๆ ของซูเปอร์จูเนียร์ เนื่องจากซูเปอร์จูเนียร์ เค.อาร์.วาย.ไม่ได้ออกอัลบั้มหรือซิงเกิ้ลของทางกลุ่มอย่างเป็นทางการ ผลงานที่ออกมาเป็นแค่อัลบั้มเฉพาะกิจและอัลบั้มเพลงประกอบซีรีส์แต่เพียงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี มีการคาดหวังว่า ซูเปอร์จูเนียร์ เค.อาร์.วาย. จะออกซิงเกิ้ลหรืออัลบั้มอีกครั้งในอนาคต ::: ผลงาน ::: Artists: Various Album Title: Hyena (하이에나) [OST] Release Date: November 2, 2006 1. The Night Chicago Died - Super Junior - K.R.Y. 2. Go! Go! - The TRAX 3. 한 사람만을 (The One I Love) - Super Junior - K.R.Y. 4. 0 (영;零) - Hyun Jin 5. Smile - Kyuhyun 6. Bossa Cha Cha - Lee Yoon Jae 7. My Tears - The TRAX 8. 그대 떠나가는 길에 - Choo Ga Yeol 9. Drive 10. 한 사람만을 (The One I Love) {Instrumental} Credit : heenimthailand.com ll wikipedia แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 23:07:54 จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 21:19:36

ความคิดเห็นที่ 20 SUPER JUNIOR - T Super Junior-T หรือ Super Junior-Trot เป็นกลุ่มย่อยอย่างเป็นทางการลำดับที่ 2 ของซูเปอร์จูเนียร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ประกอบไปด้วยสมาชิกจำนวนจำนวน 6 คนจากซูเปอร์จูเนียร์ ได้แก่ อีทึก(หัวหน้าวง), ฮีชอล, คังอิน, ชินดง, ซองมิน และอึนฮยอก ซูเปอร์จูเนียร์ ที เกิดขึ้นจากแนวคิดของ SM Entertainment ที่เล็งเห็นว่า แนวดนตรีแบบทรอท อันเป็นแนวเพลงดั้งเดิมและเก่าแก่ของเกาหลีกำลังค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลง จึงต้องการให้วงดนตรีรุ่นใหม่รับเอาแนวดนตรีแบบทรอทเข้ามาผสมผสานกับแนวดนตรีแบบใหม่ เช่น โมเดิร์น ป๊อป และแร็ป เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ก่อนหน้าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 3 เดือน ซูเปอร์จูเนียร์ ที ได้ขึ้นแสดงสดเพลง "Don't Go Away" ในงาน M.NET/KM Music Festival ร่วมกับทงเฮ สมาชิกอีกคนของซูเปอร์จูเนียร์ ซึ่งนับเป็นการขึ้นแสดงสดเป็นครั้งแรกของทางกลุ่ม ซูเปอร์จูเนียร์ ที ได้ปล่อย "Rokkugo!!!" ซิงเกิ้ลแรกอย่างเป็นทางการของทางกลุ่ม ออกมาทางสถานีวิทยุเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 และหลังจากนั้นไม่นาน ทางกลุ่มได้ออกวางจำหน่ายซีดีซิงเกิ้ล "Rokkugo!!!" ซึ่งสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของชาร์ตได้ภายใน 3 วันหลังวางจำหน่าย ซูเปอร์จูเนียร์ ที เปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 โดยการขึ้นแสดงซิงเกิ้ล "Rokkugo!!!" และ "First Express" ร่วมกับ Bang Shil Yi ซึ่งเป็นศิลปินเพลงเพลงทรอทผู้มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2551 มีการประกาศว่า ซูเปอร์จูเนียร์ ที จะกลับมาพร้อมกับซิงเกิ้ลอย่างเป็นทางการซิงเกิ้ลที่ 2 แต่อย่างไรก็ดี ในภายหลัง ซูเปอร์จูเนียร์ เอช (Super Junior-H) หรือ ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ (Super Junior-Happy) ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยลำดับที่ 4 ของซูเปอร์จูเนียร์ได้ถูกเปิดตัวขึ้นมาแทน ทำให้โครงการซูเปอร์จูเนียร์ ทีถูกระงับไว้โดยไม่มีกำหนด ซูเปอร์จูเนียร์ ที ขึ้นแสดงครั้งสุดท้ายก่อนการเปิดตัวของซูเปอร์จูเนียร์ เอช เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ในพิธีเปิดงาน 6th Korean Music Festival ที่นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ::: ผลงาน ::: Artist: Super Junior - T Album Title: 로꾸거 (Rokuko) [Single] Release Date: February 23, 2007 Sales as of 12/31/07: 45,998 1. 로꾸거 (Rokuko) 2. 첫차 (First Express) - featuring Bang Shiri 3. 나 같은건 없는건가요 (Don't Go Away) 4. 로꾸거 (Rokuko) {Instrumental} 5. 첫차 (First Express) {Instrumental} 6. 나 같은건 없는건가요 (Don't Go Away) {Instrumental} Credit : heenimthailand.com ll wikipedia แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 00:39:44 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 23:09:04 จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 21:28:54

ความคิดเห็นที่ 21 SUPER JUNIOR - M ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม (อังกฤษ: Super Junior M) เป็นกลุ่มย่อยลำดับที่ 3 ของซูเปอร์จูเนียร์ และนับเป็นกลุ่มดนตรีนานาชาติกลุ่มแรกในอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศจีน ที่มีสมาชิกจากทั้งจีนและเกาหลีใต้ ประกอบไปด้วยสมาชิกจากซูเปอร์จูเนียร์จำนวน 5 คน คือ ฮันคยอง(หัวหน้ากลุ่ม), ทงเฮ, ชีวอน, รยออุคและคยูฮยอน และสมาชิกนอกวงอีก 2 คน คือ เฮนรี่และโจวมี่ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ถูกก่อตั้งขึ้นสืบเนื่องจากความนิยมอย่างล้นหลามของซูเปอร์จูเนียร์ในประเทศจีน SM Entertainment ในฐานะต้นสังกัดจึงมีแนวคิดที่ตั้งกลุ่มย่อยเพิ่มขึ้นมาอีก 1 กลุ่ม เพื่อบุกตลาดดนตรีในประเทศจีนเป็นการเฉพาะ โดย SM Entertainment ได้ประกาศต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เกี่ยวกับกลุ่มย่อยที่จะตั้งขึ้น โดยมีฮันคยองและเฮนรี่ ศิลปินฝึกหัดเป็น 2 คนแรกที่ถูกวางตัวเอาไว้ว่าจะเป็น 2 ใน 7 สมาชิกของกลุ่มย่อยนี้ หลังจากนั้น 5 เดือน ชีวอน สมาชิกอีกคนของซูเปอร์จูเนียร์ได้ออกมาพูดถึงการเข้าร่วมกลุ่มย่อยเป็นคนที่ 3 แต่อย่างไรก็ดี รายชื่อสมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ก็ยังไม่ได้รับการเปิดเผยจนกระทั่งเดือนเมษายน ต่อมาในวันที่ 4 - 7 เมษายน พ.ศ. 2551 สมาชิกของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ได้รับการเปิดเผยผ่านทางสื่อต่าง ๆ ในรูปแบบคลิปแนะนำตัว ฮันคยองถูกเปิดตัวเป็นคนแรกในวันที่ 4 เมษายน วันที่ 5 เมษายน ทงเฮและชีวอนถูกประกาศว่าเป็นสมาชิกคนที่ 2 และ 3 วันที่ 6 เมษายน เฮนรี่ถูกประกาศว่าเป็นสมาชิกคนที่ 4 ตามด้วยคยูฮยอนเป็นคนที่ 5 โจวมี่ถูกประกาศว่าเป็นสมาชิกคนที่ 6 ในวันที่ 7 เมษายน ตามด้วยรยออุคเป็นคนสุดท้าย และวันที่ 8 เมษายน คลิปเปิดตัวของสมาชิกทั้ง 7 คนได้ถูกเปิดขึ้น ซึ่งวันนั้นเป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ด้วย คลิปดังกล่าวมีผู้เข้าชมกว่า 14 ล้านคน ภายใน 5 วัน หลังจากถูกปล่อยออกมา ที่มาของชื่อ "ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม" ก่อนที่มาจะเป็นซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม นั้น SM Entertainment เคยตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มย่อยนี้ว่า ซูเปอร์จูเนียร์ ไชน่า (Super Junior-China) จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2551 SM Entertainment ได้ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการออกมา ซึ่งก็คือ ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม นั่นเอง ตัวอักษรเอ็ม(M) นี้มาจากคำว่า แมนดาริน(Mandarin) ซึ่งก็คือ ภาษาจีนกลางนั่นเอง การตั้งชื่อเช่นนี้ก็หมายถึงจุดมุ่งหมายของการตั้งกลุ่มย่อย ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ซึ่งก็คือการบุกตลาดอุตสาหกรรมเพลงจีน ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ประเทศจีนแต่เพียงเท่านั้น นอกจากนี้ ตัวอักษรเอ็ม(M) ยังสามารถสื่อถึงเหตุผลอื่นได้อีก เช่น เป็นตัวอักษรแรกของชื่ออัลบั้มของพวกเขาซึ่งก็คือ Me (ภาษาจีน: 迷) ซึ่งมีความหมายว่า "เสน่ห์" หรือ "แฟน" ในภาษาจีนกลาง ในที่นี้หมายถึง ความต้องการของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ที่จะเข้าถึงแฟน ๆ ทุกคนนั่นเอง เปิดตัวสู่สาธารณชน ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม เปิดตัวในประเทศจีนเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2551 ที่งาน 8th Annual Music Chart Awards พร้อม ๆ การปล่อมซิงเกิ้ล "U" พร้อมทั้งมิวสิกวิดีโอ หลังจากนั้น อัลบั้ม "Me" ถูกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2551 ในหลาย ๆ พื้นที่ของจีน ส่วนเวอร์ชันภาษาเกาหลีถูกวางจำหน่ายในเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 "Me" ยังได้ถูกวางจำหน่ายในพื้นที่ ๆ อื่นนอกประเทศจีน อย่างฮ่องกงและไต้หวัน อีกด้วย แนวดนตรี แนวดนตรีของซูเปอร์จูเนียร์ เอ็มจัดอยู่ในประเภทป็อป, แดนซ์ และ อาร์แอนด์บี ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับซูเปอร์จูเนียร์ อย่างไรก็ดี จุดแตกต่างที่สำคัญก็คือ ภาษาที่ใช้ในเพลง ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม ได้ใช้ภาษาจีนกลางเป็นหลัก และได้มีการนำเพลงฮิตหลายๆเพลงของซูเปอร์จูเนียร์มาขับร้องใหม่เป็นภาษาจีนกลาง อันเนื่องมาจากจุดมุ่งหมายหลักของกลุ่ม ซึ่งอยู่ที่ตลาดเพลงจีนนั่นเอง Official Website :: http://superjunior-m.iple.com ::: ผลงาน ::: Artist: Super Junior - M Album Title: 迷 (Me) [Album] Release Date: April 23, 2008 (China); April 30, 2008 (Korea) Sales as of 5/31/08: 9,891 (Korean sales) 01. 迷 (Me) Mi 02. U 유 (MV) 03. 至少還有你 Zhi Shao Hai You Ni 04. 你是我的奇蹟 (Miracle) Ni Shi Wo De Qi Ji 미라클 05. 愛你愛你 (Love Song) Ai Ni Ai Ni 06. 我抱著我 (In my Arms) Wo Bao Zhe Wo 07. Don't Don 돈!돈! 08. Marry U 메리 유 09. 我的二分之一 (Full of Happiness) Wo De Er Fen Zhi Yi 행복 10. 渴望 (A Man In Love) Ke Wang 갈증 11. 這一秒 (The Moment) Zhe Yi Miao 12. The One Artist: Super Junior - M Album Title: SUPER GIRL [Album] Release Date: September 14, 2009 01. SUPER GIRL 02. 到了明天 (Blue Tomorrow) 03. 告白 (Confession) 04. 動情 (Only U) 05. 愛情接力 (You & Me) 06. SUPER GIRL [Korean Vesion] 07. 내일이면 (Blue Tomorrow) [Korean Version] Credit : heenimthailand.com ll wikipedia แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 23:11:16 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 22:18:09 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 21:57:01 จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 21:55:19

ความคิดเห็นที่ 22 SUPER JUNIOR - H ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ ( Super Junior-Happy ) หรือ ซูเปอร์จูเนียร์ เอช ( Super Junior-H ) เป็นกลุ่มย่อยลำดับที่ 4 ของซูเปอร์จูเนียร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2551 ประกอบไปด้วยสมาชิกจากซูเปอร์จูเนียร์จำนวน 6 คน คือ อีทึก(หัวหน้ากลุ่ม), เยซอง, คังอิน, ชินดง, ซองมิน และอึนฮยอก ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ ขึ้นแสดงสดอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ในงาน Power Concert แต่ยังไม่ได้แนะนำตัวเองในฐานะกลุ่มย่อยของซูเปอร์จูเนียร์ในคอนเสิร์ตครั้งนั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 SM Entertainment ได้ออกมาประกาศถึงการตั้งกลุ่มย่อยของซูเปอร์จูเนียร์ผ่านเว็บไซต์ Newsen มินิอัลบั้มแรกของซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ในชื่อ "Cooking? Cooking!" ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เปิดตัวสู่สาธารณชน ซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ด้วยการขึ้นแสดงเพลง "Cooking? Cooking!" ในงาน 2008 Dream Concert 1 วันก่อนหน้าการเปิดตัวซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ได้จัดงานพบปะแฟนเพลงขึ้น เพื่อฉลองความสำเร็จยอดขายมินิอัลบั้มที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ในตอนเช้าของวันงาน แฟนเพลงกว่าพันได้เข้าแถวเพื่อรอซื้อบัตรจนท้องถนนคลาคล่ำไปด้วยแฟนเพลง แนวดนตรี แนวดนตรีของซูปอร์จูเนียร์ แฮปปี้เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีป็อปและแดนซ์ จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความสนุกสนานแก่ผู้ฟังด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซูเปอร์จูเนียร์ แฮปปี้ ซิงเกิ้ลแรกของทางกลุ่ม "Cooking? Cooking!" เป็นเพลงแดนซ์ จังหวะสนุก ๆ Official Website :: http://superjunior-happy.iple.com ::: ผลงาน ::: Artist: Super Junior - Happy Album Title: 요리왕 (Cooking? Cooking!) [Mini Album] Release Date: June 5, 2008 Sales as of 7/31/08: 24,531 1. 요리왕 (Cooking? Cooking!) 2. 파자마 파티 (Pajama Party) 3. 둘이 (You & I) 4. 꿀단지 (Sunny) 5. 잘해봐 (Good Luck) Credit : heenimthailand.com ll wikipedia แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 23:09:56 จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:16:36

ความคิดเห็นที่ 23 ::: เส้นทางสายชีวิตของอีทึก ::: จองซูมีความประทับใจแรกในวงการเพลง เมื่อได้เห็นวงซอเดจีวาไอดอลในทีวี ซึ่งมันทำให้เขาถึงกับตะลึงในความแปลกใหม่ และนับจากนั้นเขาก็เริ่มหัดร้องเพลงเรื่อยมา แต่ในช่วงแรกมันเป็นเพียงแค่การร้องเพลงที่เป็นเพียงความชอบ แม้ว่าจะถูกข้างบ้านตะโกนด่ามาบ่อย ๆ เขาก็ยังคงดื้อดึงที่จะร้องมันเรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่ของเขาพูดกึ่งแซวว่า "ถ้าชอบขนาดนี้ ทำไมไม่จัดห้องโชว์ไปเลยล่ะ" เนื่องจากเงินเก็บของจองซู มักจะละลายหายไปกับการซื้ออัลบัมเพลงเสียส่วนใหญ่ ... และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากเป็นนักร้อง จองซูยังคงใช้ชีวิตแบบเด็กมัธยมธรรมดา เขารักการร้องเพลง แต่ก็ยังไม่คิดจะเดินทางเพื่อตามหาฝันของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนที่ร่วมร้องร่วมเต้นมาด้วยกันกำลังจะได้เดบิวต์ มันทำให้เกิดแรงกระตุ้นขึ้นมา แต่นั่นมันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เขามุ่งไปในจุดหมายนั้น และในวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันเกิดของมินวู (วงชินฮวา) เพื่อนของเขาได้มาชวนไปร่วมงาน ซึ่งจัดขึ้นบริเวณอับกูจอง แม้ว่าจองซูจะไม่เคยไปสถานที่นั้น แต่เขาก็ยังไปร่วมงานจนได้ และในงานนั้นเองก็มีแมวมองของ SM Entertainment เดินเข้ามาทักเขา และทิ้งนามบัตรให้ไว้ โดยบอกให้ไปลองออดิชั่นกับทางบริษัทดู บนนามบัตรนั้นเขียนไว้ว่า "SM Entertainment" มันเป็นแรงจูงใจอย่างมากที่ทำให้จองซูเริ่มฝึกฝนตัวเองเป็นอย่างหนัก เขาจึงเข้าประกวด Starlight Casting System ในปี 2000 และได้เป็นศิลปินฝึกหัดของบริษัท แต่เนื่องจากที่บ้านไม่สนับสนุน แต่ด้วยความต้องการที่จะมากฝึกฝนกับทางบริษัท ก็ถึงขั้นยอมโกหกที่บ้านว่าไปเรียนกวดวิชา เพื่อนำค่าเล่าเรียนนั้นไปเป็นค่ารถเพื่อไปฝึกกับทางบริษัท และช่วงเวลาที่อ้างว่าไปเรียนพิเศษ ก็คือช่วงที่เขาไปฝึกซ้อม แต่เมื่อที่บ้านรู้เข้าก็เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต เหตุการณ์นี้เอง ทำให้จองซูยอมคุกเข่าเพื่อขอโทษคุณพ่อที่เขาโกหก และในวันนั้นเอง จองซูได้ขอร้องพ่อเพื่อให้เขาได้ลองทำตามความต้องการสักครั้ง แต่ไร้คำพูดใด ๆ จากปากของพ่อ หลังจากนั้น จองซูก็พยายามฝึกฝนตัวเองเป็นอย่างหนัก เนื่องจากเขาต้องการที่จะทำให้พ่อได้เห็นว่า "เขาทำได้" ไม่ว่าจะฝนตก หิมะกระหน่ำ หรือจะมีอะไรร้ายแรง อิทึกก็จะยังดั้นด้นไปฝึกซ้อมที่บริษัทโดยไม่มีการขาด แต่ความพยายามนั้นก็ยังไม่เห็นผลสักที เด็กฝึกหัดคนใหม่ๆที่เข้ามาหลังเขาต่างก็ได้เดบิวต์ไปก่อน สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาค่อนข้างมาก มันทำให้เขาคิดมองย้อนดูตัวเองอยู่เสมอ ๆ ว่าเพราะเหตุใด ความสามารถของเขายังมีไม่มากพอหรืออย่างไร คำพูดของญาติหลายคนที่ต่างตัดทอนกำลังใจ เพราะล้วนแต่อยากให้เขาหันไปตั้งใจเรียน แทนที่จะมาจมปลักอยู่กับการเป็นศิลปินฝึกหัด มันทำให้เขาร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง แต่จองซูก็ยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจจะเป็นนักร้องที่ดีของเกาหลีให้ได้ และในช่วงเวลาของการเป็นศิลปินฝึกหัด จองซูนั้นถือเป็นพี่ชายที่แสนดีของน้อง ๆ เขาค่อนข้างจะสนิทกับฮยอกแจและจุนซู ขนาดที่เคยไปค้างที่บ้านจุนซูบ่อย ๆ และด้วยความที่เป็นรุ่นพี่นี่เองที่เขามักจะต้องออกเงินเลี้ยงน้องทั้งสองอยู่เป็นประจำ แม้ว่าในหลาย ๆ ครั้ง น้องชายตัวแสบทั้งสองจะแกล้งเขาเอาไว้มาก ทั้งเรื่องที่เขามีเงินจ่ายค่าขนมปังเพียงแค่ 2 ชิ้น เพื่อสำหรับ 3 คน แต่ก็กลับโดนน้องชายทั้งสองเอาไปจนหมด แล้วทิ้งเขาให้มองตามหลังอยู่ที่สถานีรถไฟ และอีกหลายต่อหลายเรื่อง แต่เขาก็ไม่เคยโกรธสักครั้ง จึงไม่แปลกที่นอกเหนือจากฮยอกแจแล้ว คนที่จุนซูโทรศัพท์มาแสดงความยินดีด้วยเป็นรายที่ 2 นั้นจะเป็นจองซู และในทุก ๆ วัน ก่อนที่เขาจะกลับ จองซูก็มักจะเดินไปส่งน้อง ๆ ศิลปินฝึกหัดที่เป็นผู้หญิงหลาย ๆ คน เพราะมันเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึก เขาจึงเป็นห่วงความปลอดภัยของน้อง ๆ ซึ่งเป็นผู้หญิง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ศิลปินหญิงในค่ายหลาย ๆ คนนั้นค่อนข้างจะดูสนิทสนมกับเขามาก ในการเป็นศิลปินฝึกหัด ใช่ว่าจะมีแค่การเรียนไปวัน ๆ เพราะเมื่อถึงกำหนดการทดสอบ ช่วงเวลาแห่งความเครียดก็จะมาถึง หลายต่อหลายครั้งที่มันทำให้เขาผิดหวัง แต่ความตั้งใจที่มีมาก็ยังไม่เลือนหายไปเสียทีเดียว "นายทำได้แค่นี้เองเหรอ ..คิดจะฝึกหัดไปทั้งชีวิตหรือไง ไม่ดูเด็กใหม่ ๆ บ้างล่ะ" คำพูดที่ทำร้ายจิตใจ ซึ่งเขายังคงจำมันจนถึงวันนี้ เพราะบรรดารุ่นน้องที่เป็นศิลปินฝึกหักหลายต่อหลายคนที่เดบิวต์ไปแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือเขาที่ฝึกมาหลายต่อหลายปี ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เดบิวต์ ในวันที่เพลง Hug ของ ดงบังชินกิขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในความยินดีกับเพื่อน มันก็แฝงไปด้วยความทุกข์อย่างแสนสาหัส เพื่อน และรุ่นน้องที่ฝึกหัดด้วยกันมาได้เดบิวต์อย่างสวยงาม .. แล้วเขาล่ะ? แต่โชคชะตาก็ไม่เลวร้ายเสียทีเดียว เพราะหลักจากนั้นไม่นาน ก็มีโปรเจคการฟอร์มวง Super Junior ขึ้น และด้วยความที่จองซูมีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด เขาจึงได้รับมอบหมายให้ดูแลสมาชิกคนอื่น ๆ ในวงในฐานะพี่ใหญ่ ซึ่งอันที่จริง จองซูไม่ได้ยินดีกับตำแหน่งลีดเดอร์เท่าใดนัก เพราะว่ามันเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่และเขาก็คิดว่าตัวเองทำมันได้ไม่ดีพอ หลายต่อหลายครั้งที่เขาเผลอแสดงนิสัยไม่ดีออกไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภาระนี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาที่จะต้องสละเวลาส่วนตัวเพื่อดูแลสมาชิกในวงอย่างทั่วถึง จองซูได้เปลี่ยนชื่อจาก "จองซู" ซึ่งคือชื่อจริง มาเป็น "อีทึก" เพื่อใช้เป็นชื่อในวงการ เพราะเขาอยากจะเป็น "สิ่งพิเศษ" นั่นเอง ในวันที่ซูเปอร์จูเนียร์เดบิวต์ ที่หลังเวทีทุกคนต่างกอดคอกันร้องไห้ ... พวกเขาเดินทางมาถึงจุดเริ่มต้นจุดใหม่แล้ว อนาคตอีกมากมายกำลังรออยู่ข้างหน้า แต่ในความดีใจนั้น จองซูได้รับรู้ดีว่าภาระอันหนักอึ้งกำลังรอเขาอยู่ตรงหน้าและเขาก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ เพื่อที่จะเป็นผู้เดินนำให้สมาชิกในวงไปถึงจุดหมายพร้อมกัน จองซูยังคงทำหน้าที่ลีดเดอร์ที่ดีเรื่อยมา แม้ว่านิสัยส่วนตัวของเขาจะขี้เล่น และค่อนข้างจะบ้าบอ จนอาจจะดูไร้สาระ แต่ถ้าเมื่อใดที่ถึงเวลางาน เขาจะหยุดทุกอย่างเพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยมีคังอินคอยเป็นผู้ช่วย และแม้ว่างานในแต่ละวันจะมากมายสักเพียงใด แต่ถ้าหากสมาชิกคนใดมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางดึกที่เขาเพิ่งนอนได้ไม่ถึงชั่วโมงก็ตาม จองซูจะรีบออกไปหาสมาชิกคนนั้นโดยทันที เพราะเขาคิดอยู่เสมอว่ามันคือหน้าที่ที่เขาต้องดูแลน้อง ๆ ให้เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ด้วยความขี้เล่นของอีทึกที่ชอบพูดเล่นไปเรื่อยเปื่อย และไม่ได้คิดอะไรมากมาย ทำให้เขาเกิดปัญหาอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งเรื่องจางนาราที่เคยพูดจาล้อเล่น จนทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจถึงขั้นโทรศัพท์มาต่อว่า หรือเรื่องราวใหญ่โตที่จองซูแค่หลุดปากพูดเล่นว่า "ยอนอา นักสเก็ตสาว ไม่ยอมรับเขาเป็นเพื่อนในไซเวิลด์" ทำให้แฟนคลับจำนวนมากไปโพสต์ข้อความในไซเวิลด์ของยอนอาถล่มทลาย จนกลายเป็นเรื่องราวโด่งดัง เหตุการณ์เหล่านี้ ได้สอนให้เขาพยายามยับยั้งความคิดและคำพูดให้มากขึ้น จองซูคิดอยู่เสมอว่าปัญหาของเพื่อนในวง ก็คือปัญหาของเขาที่ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ... ทุกวันนี้ เขาจึงยังเป็นพี่ที่ดีของน้อง ๆ และคอยเป็นด่านหน้าของซูเปอร์จูเนียร์ที่จะแบกรับปัญหาจากทุกสารทิศที่เข้ามาด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าด้านในนั้นจะมีน้ำตา เขาก็ยังคงสู้ไม่ถอย แต่อย่างน้อย ข้างกายของเขาก็ยังมียองอุน (คังอิน) รุ่นน้องคนสนิทที่พร้อมที่จะพยุงเขาไว้ทุกเมื่อหากเขาอ่อนล้าหรือหมดแรงลง เพราะคังอินนั้นรู้ดีว่าหน้าที่ที่จองซูต้องรับผิดชอบนั้นมันหนักหนาและใหญ่หลวงสักเพียงใด อะไรที่เขาพอที่จะช่วยจองซูได้ เขาก็พร้อมที่จะช่วยทุกเมื่อ เพราะถ้าหากในวงขาดจองซูไปสักคน ก็คงจะวุ่นวายไม่น้อยเลยทีเดียว เขาพูดอยู่เสมอ ๆ ว่าเขาคือ นางฟ้าที่ไร้ปีก ... แต่ ณ วันนี้ ด้วยความรักจากเอลฟ์ ปีกสีขาวของนางฟ้ากำลังก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา ปีกที่หายไปกำลังจะปรากฎขึ้นอีกครั้งแล้ว Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 22:27:58 จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:24:42

ความคิดเห็นที่ 24 ::: เส้นทางสายชีวิตของฮีชอล ::: ถ้าหากเอ่ยว่า "สุดสวยแห่ง SJ" ทุกคนก็คงนึกออกว่าคือใคร เพราะก็คงหนีไม่พ้นหนุ่มหน้าสวยที่ชื่อ "คิมฮีชอล" อย่างแน่นอน ฮีชอลเติบโตมาแบบเด็กที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองและหัวรั้นพอสมควร ในช่วงเด็กเขาไม่ใช่เด็กที่ดื้อซะทีเดียว แต่ออกแนวจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำเสียมากกว่า อาจจะเพราะอยู่กับพี่สาวและแม่มากเกินไป นิสัยของเขาจึงติดไปทางผู้หญิงอยู่บ้าง ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว เขาก็แสนจะแมน ฮีชอลเข้าวงการมาแบบไม่ยากเย็นนัก หากได้ดูคลิปที่มีการออดิชั่นแล้วล่ะก็ คงจะรู้ดีกว่านอกจากหน้าตา ความมั่นใจ และการแสดงแล้ว นอกนั้นมันช่างขัดกับหน้าตาจริง ๆ ... ฮีชอลเต้นไม่เก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และหนำซ้ำก็ยังเกลียดการเต้นอีกด้วย แต่ในเมื่อจับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ในวงบอยแบนด์แล้ว แน่นอนว่ามันคงจะเลี่ยงการเต้นไม่ได้อย่างแน่นอน อีกชื่อหนึ่งของเขา ที่ต่างรู้กันดี ก็คือ Cinderella หรือที่น้อง ๆ ในวงเรียกกันว่า "พี่เรลล่า" ... ที่มาของมัน ไม่ได้มาจากใบหน้าที่แสนสวยราวกับเจ้าหญิงของเขาแต่อย่างใด แต่มันมาจากชื่อของเขาที่มักจะชอบใช้ในเกมส์ออนไลน์ต่างหาก ในช่วงการเป็นศิลปินฝึกหัด ฮีชอลพักอยู่กับทงแฮและยุนโฮ โดยเช่าบ้านอยู่ด้วยกันเพราะบ้านของเขานั้นไม่ได้อยู่ที่โซล จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพวกเขาสามคนจึงได้สนิทสนม และมีภาพถ่ายร่วมกันในสมัยก่อนออกมาให้เห็นมากมาย และการอยู่ร่วมกันนี้เองที่ทำให้การแต่งตัวที่เคยปกติของฮีชอลนั้นเปลี่ยนไป เนื่องจากพฤติกรรมที่ชอบหยิบเสื้อผ้าของเพื่อนไปใส่โดยไม่ได้ขออนุญาตของยุนโฮ ทำให้ฮีชอลนึกรำคาญ จนเปลี่ยนมาแก้เผ็ดด้วยการซื้อเสื้อผ้าสีแหวว ออกแนวมั่นใจเกินร้อยมาใส่ เพราะตัวเขาเองกล้าใส่ และมั่นใจว่าคนอย่างยุนโฮคงไม่ยอมแตะ ...แ ละก็ได้ผลดังคาด ฮีชอลเคยถูกวางตัวร่วมกับ ยองอุน(คังอิน) ยุนโฮ และแจจุง เพื่อเป็นโปรเจ็ควงบอยแบนด์แนว R&B โดยใช้ชื่อว่า Four Season แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเพียงแค่อดีต เมื่อมีโปรเจ็ควง TVXQ ออกมา และสมาชิกของ Four Season จำนวน 2 คนอย่างยุนโฮและแจจุงถูกคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกของโปรเจ็คอันยิ่งใหญ่นั้น ฮีชอลจึงถูกลอยแพคู่กับคังอิน แน่นอนว่าเขาดีใจกับเพื่อนสนิท 2 คน แต่ก็ยังคงมึน ๆ อยู่เล็กน้อยที่เพื่อนร่วมทีมถูกฉกออกไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้น ฮีชอลก็ได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดง และในเรื่องนี้เองเขาได้ร่วมงานกับสมาชิกในวงอีกคนอย่างคิบอม แม้ว่าในตอนแรกทั้งคู่จะยังไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าใดนัก แต่หลังจากที่ย้ายมาพักอยู่ที่หอพักเดียวกันก็ทำให้ต่างคนต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกันไป และในที่สุดฮีชอลก็รักและเอ็นดูคิบอมประหนึ่งว่าเป็นลูกชายคนโปรด นิสัยของฮีชอล ค่อนข้างเป็นคนที่รำคาญง่าย เขาไม่สามารถทนอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดได้นานนัก เพราะไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นเขาที่ระเบิดออกมาก่อนใครเพื่อน จึงมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถร่วมห้องนอนกับเขาได้โดยไร้ปัญหา ซึ่งก็คือ ฮันคยอง คิบอม เจย์ ยุนโฮ และทงแฮ .. เพราะทั้งหมดที่เอ่ยถึงนึ้น ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่ทำอะไรอย่างเงียบเชียบ นั่นเอง และนอกจากนิสัยขี้รำคาญ ฮีชอลก็ยังไม่ยอมคนและยังพร้อมจะอาละวาดทุกครั้งที่มีใีครมาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนรอบข้าง ฮีชอลจะไม่ยอมทน หากมีคนมาทำให้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด หรือมาสร้างความยุ่งยากลำบากใจให้กับคนใกล้ตัวของเขา ... เพราะเขาจะออกโรงปกป้องในทันที โดยที่ไม่คิดว่านั่นมันอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้เขาแทน เพราะเขารู้ตัวดีว่าถ้าหากเรื่องร้าย ๆ นั้นเกิดขึ้้นกับตัวเขาเอง เขาก็ไม่เคยที่จะกลัวมัน และพร้อมจะสู้ไม่ถอยจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะไปข้างหนึ่ง ในตอนแรก ๆ ที่เดบิวต์ มีคนมากมายที่ไม่ชอบเขา ด้วยบุคลิกที่แปลก ๆ ไม่เหมือนใคร ดูมั่นใจในตัวเองเกินพิกัด อีกทั้งยังชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไร และการที่ไม่สนคนรอบข้างนี้เองที่ทำให้มีคนจำนวนมากรู้สึกไม่ดีกับฮีชอล เพราะแม้แต่แม่ของเขาเอง ก็ยังชอบซีวอนมากกว่าเขา (ซะงั้น) แม้ว่าเขาจะทำเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจกับคำพูดเหล่านั้นมากนัก และพูดถึงมันแบบติดตลก แต่ในความเป็นจริง เขากลับรู้สึกเครียดกับมันค่อนข้างมาก ฮีชอลกลับทบทวนหลายครั้งว่าเพราะอะไร ทำไมคนถึงได้ไม่ชอบเขา และทำอย่างไร ผู้คนถึงจะยอมรับเขาในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง และได้รับความรักเหมือนกับศิลปินคนอื่น ๆ และหลังจากนั้น ฮีชอลก็เริ่มที่จะปรับปรุงบุคลิกของตัวเองเสียใหม่ จากที่เคยทำท่าไม่สนใจโลก ก็เริ่มที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาคนอื่นก่อนบ้าง และเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่เขาแสดงออกมา มันกลับทำให้แฟน ๆ ต่างรักและนับถือ รวมทั้งประทับใจในคำพูดตลก ๆ ของฮีชอลเป็นอย่างมาก ... และทำให้เขามีแฟนคลับมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลไปยังการมีจำนวนคนเข้าไซเวิลด์มากเป็นอันดับ 1 !!! แม้ปากคอของฮีชอลจะเราะร้าย ด่าเจ็บแสบราวกับมีดบาดแถมยังราดด้วยแอลกอฮอล์ แต่เขาก็มีน้ำใจให้กับเพื่อน ๆ อยู่เสมอ เพราะกับคนใกล้ตัวแล้ว ฮีชอลจะให้ความรัก ให้ความใส่ใจ รวมทั้งดูแลเป็นอย่างมาก ... เขาเป็นคนรักใครรักจริง แต่อย่าให้ได้เกลียด เพราะนั่นหมายความว่า เขาจะไม่เอาคุณไว้เช่นกัน เมื่อได้มาพักร่วมอพาร์ตเม้นท์เดียวกับกันฮันคยองและคิบอม (รวมถึงเจย์) ความใกล้ชิดสนิทสนม มันทำให้พวกเขานั้นรักและผูกพันกันมากขึ้น (อันเป็นที่มาของชื่อ ฮันเจฮีบอม) เนื่องจากที่ฮันคยองนั้นเป็นชาวจีน และไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลีมากนัก อีกทั้งคิบอมก็ไปอยู่อเมริกาตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนเจย์นั้นก็แทบจะไม่ได้ต่างจาก 2 คนนั้น ภาระทั้งหมดจึงอยู่ที่ฮีชอล ที่ต้องคอยดูแลและอธิบายในหลาย ๆ เรื่องให้ทั้ง 3 ฟัง แต่ที่ต้องดูแลมากที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็นฮันคยองที่เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้น ฮีชอลจึงมักจะสอนภาษาเกาหลีให้เขาในทุก ๆ วัน ทำให้พัฒนาการด้านภาษาของฮันคยองค่อย ๆ ก้าวหน้าขึ้น และทำให้ฮันคยองนั้นรู้จักใช้คำในภาษาเกาหลีในหลาย ๆ ระดับ (แต่ส่วนมากดันเป็นคำด่า และคำหยาบ ๆ ที่ติดมาจากฮีชอล) หลายครั้งที่ฮีชอลต้องตกใจ เมื่อได้ยินคำหยาบหลุดออกมาจากปากของเพื่อนสนิท และเมื่อเขาถามถึงที่มาก็ต้องหน้าหงาย เมื่อได้คำตอบว่า "มันมีแต่นายนั่นแหละที่สอนเรื่องพวกนี้ให้ชั้นทั้งหมด" ฮีชอลค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับคิบอม ซีวอน ฮันคยอง ยุนโฮ (TVXQ) และเจย์ (Trax) มากเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันค่อนข้างมาก และได้มีโอกาสศึกษานิสัยของกันและกันมาเป็นเวลานาน ทุกครั้งที่ TVXQ และซูเปอร์จูเนียร์มีคิวขึ้นโชว์ในเวทีเดียวกัน หรือออกรายการเดียวกัน ช่วงที่ยังอยู่หลังเวทีนั้น ฮีชอลก็มักจะไปอยู่ที่ห้องพักของ TVXQ กับยุนโฮมากกว่าที่จะอยู่กับเพื่อน ๆ ในวง และอาจเพราะว่าเขารักและจริงใจกับเืพื่อน ๆ มาก ดังนั้น เมื่อใดที่คนอื่น ๆ พูดถึงเพื่อน ๆ คนอื่นมากกว่าที่จะพูดถึงเขา มันจะทำให้ฮีชอลออกอาการน้อยใจหรืองอนในทันที (ซึ่งนิสัยข้อนี้เหมือนกับซีวอนมาก) เพราะถ้าหากซีวอน ฮันคยอง หรือคิบอม พูดถึงคนอื่น ๆ โดยลืมพูดถึงเขา แน่นอนว่าจะเกิดสงครามประสาทย่อย ๆ ขึ้นในพริบตา เพราะก็เคยมีกรณีที่ฮันคยองเคยตอบไปว่า เขาอยากจะขอบคุณซีวอนมากที่สุด และนั่นมันทำให้ฮีชอลโกรธมาก (แต่ดูเหมือนจะน้อยใจมากกว่า) ที่ฮันคยองไม่พูดถึงเขา ... หลังจากนั้น เมื่อมีใครถามคำถามนี้ ฮันคยองก็จะตอบว่าเป็นฮีชอล ซึ่งแม้มันอาจจะทำให้ซีวอนน้อยใจบ้าง แต่มันก็น่ากลัวน้อยกว่าการที่ฮีชอลโกรธ ฮีชอลเป็นพี่ชายที่น้อง ๆ รัก แม้ว่าแต่ละคนจะทั้งจิกทั้งกัด พี่ชายคนนี้เสมอ ๆ เพราะบุคลิกของฮีชอลนั้นชวนให้ทำเช่นนั้น แต่ทุกคนก็รักและเคารพเขาเป็นอย่างมาก แม้ในหลาย ๆ ครั้ง อาจจะล้อเล่นกันแรง ๆ แต่นั่นก็ใช่ว่าจะเกิดจากการที่ไม่เคารพเขา ... กับฮีชอลแล้ว น้อง ๆ ทุกคนมักจะพูดตรง ๆ โดยไม่ต้องเกรงใจว่าเขาจะรู้สึกเช่นไร เพราะเขาเองก็ทำแบบนั้นกับคนอื่น ๆ เช่นกันนั่นเอง ในความร่าเริงของฮีชอลนั่นเอง เขากลับเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บความรู้สึก เมื่อใดที่เขาทุกข์ หรือไม่สบายใจ ก็มักจะเก็บตัวเงียบๆอยู่ในห้องคนเดียว และเขียนนั่นเขียนนี่ไปตามความรู้สึก โดยที่ไม่ได้ปริปากเล่าให้คนใกล้ตัวฟัง เพราะเขาต้องการที่จะให้คนรอบข้างเห็นเขาในภาพที่เฮฮาร่าเริงมากกว่าที่จะเห็นในเวลาที่เขาอ่อนแอ ... และความสามารถพิเศษของฮีชอล ก็คือสามารถทำให้คนอื่น ๆ หัวเราะได้โดยไม่ต้องทำอะไรมาก บางครั้งแค่เพียงพูดออกมาไม่กี่คำ ก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะได้มากมาย นี่คือส่วนคล้าย ระหว่างเขากับชินดง ก็คือ การมีมุขตลกอยู่ในหัวเยอะมากนั่นเอง .. ขนาดเขาเล่าเรื่องตอนที่ถูกรถชน ทั้ง ๆ ที่เป็นเหตุการณ์ร้ายแรง ก็กลับเล่าออกมาราวกับว่ามันคือเรื่องตลกได้ แต่เมื่อใดที่ฮีชอลโกรธ ... เขาจะสามารถแปลงร่างเป็นปีศาจร้ายได้ไม่ยากเย็นนัก มีเพียงไม่กี่คนที่จะกล้าเข้าไปใกล้เขาได้ ซึ่งก็คงมีแ่ค่เพียง จองซู(อีทึก) คิบอม และทงแฮ ที่อาจหาญมากพอนั่นเอง ส่วนสมาชิกที่เหลือนั้นก็คงเป็นได้แค่กองหลังที่อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ความสัมพันธ์ของฮีชอลและฮันคยองนั้นค่อนข้างจะแน่นแฟ้น แม้ว่าพวกเขาจะเถียงกันได้ไม่เว้นแต่ละวัน และปากของฮีชอลจะร้ายสักแค่ไหน แต่ก็คงมีเพียงฮันคยองคนเดียวที่ปราบได้ ... ทุกครั้งที่เถียงกัน มันอาจจะดูเหมือนว่าฮีชอลจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ผลสุดท้ายแล้ว ฮันคยองก็มักจะเป็นผู้ชนะแทบทุกครั้งไป เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ฮีชอลยอมให้มาตั้งแต่แรก เพราะขนาดที่ว่าคนอื่น ๆ ที่อายุน้อยกว่า จะต้องเรียกเขาด้วยคำว่า "พี่" ทุกคน ก็ยังคงมีแค่เพียงฮันคยองเท่านั้น ที่ฮีชอลอนุญาตให้เรียกชื่อและถือเป็นเพื่อน หนำซ้ำยังสามารถเรียกชื่อชนิดว่าจิกหัวได้อีกต่างหาก แต่แม้ว่าฮีชอลจะชอบพูดตรง ๆ และไม่ค่อยจะซีเรียสกับสิ่งรอบตัว แต่กับผู้หญิงแล้ว แม้ว่าจะอายุน้อยกว่า เขาก็จะพูดด้วยภาษาที่เป็นทางการอยู่เสมอ เพราะว่าเขาต้องการที่จะให้เกียรติสุภาพสตรีนั่นเอง ชีวิตของการเดินทางในวงการของฮีชอลนั้นสะดุดลง เมื่อเขาประสบอุบัติเหตุหลังจากที่เดินทางไปร่วมงานศพของพ่อทงแฮ เมื่อรถยนต์ที่เขานั่งนั้นเสียหลักและพุ่งชนบริเวณเกาะกลางถนน ส่งผลให้ขาของฮีชอลนั้นหักและจำเป็นต้องใส่เหล็กดามขาเอาไว้ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่โรงพยาบาลนั้น เขาก็มีเจย์ (Trax) ที่คอยมาดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เนื่องจากในวงซูเปอร์จูเนียร์ยังมีคิวแสดงโชว์อยู่มาก จึงทำให้ทุกคนมาดูแลเขาได้ไม่เต็มที่ จึงมีแค่เจย์ที่คอยปรนนิบัติอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่การเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แม้ในตอนแรกเจย์จะถามเขาว่า ต้องการให้ช่วยอาบน้ำหรือไม่และสภาพร่างกายเขาจะยังบอบช้ำ แต่ด้วยความแมนส่วนตัว ฮีชอลก็ได้ปฏิเสธไป และนอกจากเจย์แล้ว คนที่เดินทางมาเฝ้าเขาในทุก ๆ วันก็คือคิบอมที่มาขลุกอยู่ที่ห้องพักทุกครั้งที่ว่างเว้นจากการถ่ายละคร โดยมีฮันคยองที่ก็มาเยี่ยมทุกครั้งที่ว่างเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นไม่นาน ฮีชอลก็ได้รับทราบถึงโปรเจ็ค Super Junior - T ที่เป็นยูนิตย่อยซึ่งจะทำเพลงลุกทุ่งของเกาหลีมา cover ใหม่ เขาจึงได้เริ่มแต่งเพลงขึ้น และมันก็ได้นำไปใช้ในท่อนแร็พของเพลงในซิงเกิลนั้นเอง ฮีชอลกลับมาอีกครั้ง ในการประกาศผลรางวัล MKMF 2006 ครั้งนั้นพวกเขา 7 คน ได้แสดงเพลงที่จะใช้ในซิงเกิล T เป็นครั้งแรก โดยที่มีทงแฮนั้นมาร้องแทนในตำแหน่งของฮีชอล และเขานั้นขึ้นไปร้องท่อนแร็พในช่วงท้าย ซึ่งอันที่จริง ก่อนหน้านั้นในเพลงจากซิลเกิ้ลรวมถึงอัลบั้มชุดก่อน ๆ เขา ชินดง และอึนฮยอกก็ยังช่วยกันเขียนท่อนแร็พไว้หลาย ๆ เพลง ดยที่ฮีชอลนั้นใช้ืชื่อในการแต่งเพลงนั้นว่า "ฮีนิม" แม้ว่าเขาจะกลับมาแสดงบนเวทีพร้อมกับเพื่อน ๆ ได้อีกครั้ง แต่นั่นมันก็ยังไม่สามารถทำให้เขาได้ออกนอกประเทศเหมือนกับเพื่อน ๆ คนอื่น เพราะการที่เขาต้องนั่งบนเครื่องบินเป็นระยะเวลานานนั้น มันส่งผลกระทบไปยังขาที่ยังไม่ได้เอาเหล็กออกของเขา ถ้าหากนั่งในที่ซึ่งมีความกดอากาศอย่างบนเครื่องบินนาน ๆ มันจะทำให้ขาของเขานั้นเจ็บปวดและทรมานมาก จนอาจจะใช้งานไม่ได้ในช่วงระยะหนึ่ง (หลังจากลงเครื่อง) ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้ฮีชอลไม่สามารถที่จะเดินทางออกนอกประเทศได้จนกว่าเขาจะเอาเหล็กออก เมื่ออัลบั้มชุดที่ 2 นั้นออกมา และได้มีกระแสเรื่องคนที่ 14 ซึ่งคือ "เฮนรี่" ที่มาร่วมสีไวโอลินประกอบเพลงให้ แม้ในไซเวิลด์ของฮีชอลจะเขียนข้อความแปลก ๆ แต่เขาก็เอ็นดูน้องเล็กคนนี้มาก เรียกได้ว่าเป็นของเล่นชิ้นใหม่ให้กับฮีชอลแทนคยูฮยอนเลยทีเดียว เพราะนอกจากเขาจะจับเฮนรี่ใส่วิกสีแดงเพลงนั้นแล้ว ยังบังคับให้น้องเดินเลียนแบบท่าทางของเขาอีกด้วย หนำซ้ำ วันดีคืนดี ก็ยังลากไปค้างที่อพาร์ตเม้นท์ของซูเปอร์จูเนียร์อีก ... ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเฮนรี่ควรจะดีใจหรือว่าหนักใจกับความเอ็นดูนี้ดี แต่ดูเหมือนว่าความซวยจะมาเยือนเขาอย่างไม่สิ้นสุด เพราะเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ไปทำเลสิคมา (เวลาอยู่บ้านฮีชอลจะใส่แว่นตา และเมื่อทำงานจะใส่คอนแทคเลนส์) มันทำให้เขามองอะไรได้ไม่ชัดในช่วงแรก ส่งผลให้เขาตกบันใดและต้องไปผ่าตัดจมูกในเวลาต่อมานั่นเอง แม้ว่าภาพลักษณ์ของเขาจะเป็นแม่มดในคราบของซินเดอเรลล่า แต่ทว่า ในสายตาของเอลฟ์ ฮีชอลก็ยังคงจะงดงามเสมอ ... เขาคือแบบอย่างแห่งความรัก ความกล้าหาญ และเป็นฮีโร่ของใครหลาย ๆ คน แน่นอนว่า... แม้จะเป็นแม่มด แต่ก็คงจะเป็นแม่มดที่น่ารักที่สุดของเอลฟ์ Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:27:29

ความคิดเห็นที่ 25 ::: เส้นทางสายชีวิตของฮันคยอง ::: หานเกิงหรือฮันเกิง หรืออีกชื่อคือ ฮันคยอง คือสมาชิกเพียงคนเดียวของวงที่เป็นชาวจีน ถ้าหากนับระยะเวลาที่เขาเดินทางมาใช้ชีวิตที่เกาหลี ก็เป็นเวลาร่วม 5 ปีแล้ว ฮันคยองเติบโตมาในครอบครัวที่ฐานะปานกลาง อาจจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็เรียกได้ว่าพอมีอันจะกิน ไม่ถึงกับอัตคัตหรือขัดสน ครอบครัวของเขาทำธุรกิจเล็ก ๆ และปัจจุบันก็เปิดร้านอาหารที่ปักกิ่ง แต่เมื่อเขาต้องเดินทางมาอยู่เกาหลีซึ่งมีค่าครองชีพที่สูงกว่าจีน จึงทำให้เขาต้องใช้เงินอย่างประหยัดเป็นอย่างมาก เขาเริ่มเรียนการเต้นพื้นเมืองของจีน รวมไปถึงการเต้นบัลเลต์และคาราเต้ ในช่วงอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เขาได้เริ่มรู้แล้วว่าความฝันของตัวเองคืออะไร ฮันคยองได้เข้าร่วมทีมการแสดง ซึ่งมีการแสดงโชว์พื้นเมืองของจีน และอีกหลาย ๆ แบบ แน่นอนว่าเขาเคยขึ้นโชว์บนเวทีในฐานะนักแสดงรุ่นเยาว์อยู่หลายต่อหลายครั้ง และในที่สุด ก็ตัดสินใจที่จะเข้าประกวดการเต้นระดับประเทศที่จีน ในการประกวดนี้เขาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รองชนะเลิศ แต่นั่นมันก็เป็นใบเบิกทางอย่างดีให้กับเขา และเมื่อปี 2001 เมื่อมีการจัดการออดิชั่น H.O.T. CHINA Audition Casting ขึ้นที่ประเทศจีน ฮันคยองก็ได้เข้าร่วมประกวด และก็ได้รางวัลชนะเลิศมาครอง สร้างความภาคภูมิใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก แต่นั่นกลับไม่ได้เป็นประตูที่เปิดสู่ความงดงามอย่างที่คิด ในช่วง 8 เดือน หลังจากที่ผ่านการออดิชั่นและรอเซ็นสัญญากับทางต้นสังกัด ซึ่งก็คือ SM Entertainment อยู่นั้น ฮันคยองต้องการที่จะช่วยหารายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง เขาจึงออกเดินทางไปทั่วประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และด้วยความรู้เท่าไม่ทันการณ์นั้นเองที่ทำให้เขาถูกจับอยู่ที่เสินเจิ้น เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตเข้าเมืองเพื่อใช้สำหรับการอยู่ในเสินเจิ้น ซึ่งในขณะนั้น ฮันคยองมีเงินติดตัวอยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่มากพอที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากการถูกจับ จึงจำเป็นต้องรอจนกระทั่งเพื่อนของเขาไปทำใบอนุญาตมาให้ จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมา หลังจากที่เซ็นสัญญากับทางต้นสังกัดแล้ว ฮันคยองจึงเดินทางมายังเกาหลี ในช่วงแรกเขาแทบจะไม่มีเงินเลย จึงต้องทำความสะอาดห้องพักโทรม ๆ ที่ทั้งอับและชื้นเพื่อใช้เป็นที่ซุกหัวนอนชั่วคราว ความเป็นอยู่ของเขาแทบจะไม่ต่างจากพวกแรงงานชั้นต่ำ ทั้ง ๆ ที่เขาคือว่าที่ศิลปินของค่ายดัง ก่อนที่จะย้ายไปพักอยู่อพาร์ตเมนท์เดียวกับฮีชอลและคิบอมในเวลาต่อมา ทั้งความเป็นอยู่ที่ต้องกระเบียดกระเสียน อีกทั้งในแต่ละวัน ฮันคยองจะต้องเรียนภาษาเกาหลี เรียนเต้น เรียนร้องเพลง และอีกหลายต่อหลายอย่างที่จำเป็นต้องปูพื้นฐานในการเป็นศิลปินที่ดี ทำให้วัน ๆ หนึ่ง เขาหมดเวลาไปกับการฝึกซ้อมราว 20 ชั่วโมง และมีเวลาพักผ่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เวลาผ่านไปประมาณปีครึ่ง ความพยายามของเขาเริ่มอ่อนแรงลง เพราะสิ่งรอบตัวมันทำให้ชายผู้มีความมุ่งมั่นอย่างเขานั้นเริ่มท้อแท้ การจากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ในที่ที่แสนไกล มันทำให้เขาคิดถึงบ้านจนต้องนั่งร้องไห้อยู่หลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งความลำบากในการฝึกซ้อมที่ค่อนข้างหฤโหดเองก็เป็นอีกส่วนที่กดดันเขาอยู่ คนที่พูดเกาหลีไม่ได้เลยแม้สักคำ ต้องมาอยู่ตัวคนเดียว แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบากอยู่มาก แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็มีแค่การโทรศัพท์กลับไปหาที่บ้านในยามที่ท้อแท้แทบหมดแรง หลายต่อหลายครั้งที่เขาออกปากอยากจะล้มเลิกทุกอย่าง แล้วเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด และใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่นทั่ว ๆไป แทนที่จะมาทนทรมานกับการฝึกที่โหดเลือดตาแทบกระเด็นเช่นนี้ แต่แล้วสุดท้าย มันก็เป็นแค่เพียงความคิด เพราะเขาก้าวมาไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับแล้ว และเพื่อความฝัน เขาได้พยายามกับมันมาจนใกล้จะสำเร็จแล้ว จะให้ละทิ้งมันก็คงจะทำไม่ได้อย่างแน่นอน ฮันคยองอยู่ในเกาหลีด้วยความเหงา ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีใครเข้าใจเขาอย่างแท้จริง อาจจะเพราะว่าเขาเป็นชาวต่างชาติและยังไม่สามารถที่จะปรับความคิดหรือวิถีชีวิตให้กลมกลืนกับชาวเกาหลีรอบตัวได้นั่นเองที่ยังเป็นปัญหาอยู่ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากฮีชอลเพื่อนร่วมวงที่ย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนท์เดียวกันหลังจากเริ่มฟอร์มวงก็ทำให้ทุก ๆ อย่างเริ่มดีขึ้น การมีฮีชอลอยู่ข้าง ๆ ทำให้โลกที่เงียบเหงาของฮันคยองเริ่มมีสีสันขึ้น เพราะฮีชอลจะคอยสอนทุกอย่างให้กับเขา และคอยดูแลฮันคยองแทบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้ แม้แต่เวลาที่เขาจะออกไปซื้อของหรือออกไปข้างนอกก็มักจะชวนฮันคยองออกไปเป็นเพื่อนด้วยทุกครั้ง หลังจากที่ตรากตรำฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลา 2 ปี ฮันคยองก็ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินคนหนึ่งของซูเปอร์จูเนียร์ แต่ในความยินดีนั้น ชีวิตการเป็นศิลปินของฮันคยองก็กลับเหมือนจะพังทลายลงตรงหน้า เมื่อเขาได้รู้ว่าตัวเองไม่สามารถขึ้นโชว์กับเพื่อน ๆ ได้ทุกเวที เนื่องจากติดปัญหาเรื่อง VISA ทำให้เขาสามารถปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ได้แค่เพียง 3 สถานีเท่านั้น และหนำซ้ำก็ยังมีแอนตี้แฟนจำนวนหนึ่งคอยคุกคามและต่อต้าน เนื่องจากเขาเป็นชาวต่างชาติ แต่เขาก็ไม่เคยที่จะปริปากบ่น ต้องเดือดร้อนถึงฮีชอลที่ออกโรงจัดการเหล่าแอนตี้แฟนเสียราบคาบ จนพวกเขาเหล่านั้นไม่กลับมารังควาญชีวิตของฮันคยองอีก แต่ปัญหาก็ยังคงมีไม่จบสิ้น เพราะในช่วงแรกฮันคยองยังไม่ได้เลือกสถานีที่เขาสามารถขึ้นแสดงได้ จึงจำเป็นต้องหยุดพักการแสดงชั่วคราว จนกว่าจะทำเรื่อง VISA เป็นที่เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะกลับมาขึ้นโชว์พร้อมกับเพื่อน ๆ ได้ ทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก จนร้องไห้ออกมา แต่เนื่องจากฮันคยองต้องการที่จะขึ้นแสดงร่วมกับเพื่อน ๆ ในวง เขาจึงได้ขอร้องผู้จัดการและผู้จัดโดยขอใส่หน้ากากขึ้นแสดงบนเวที แต่แล้วก็ต้องถูกฮีชอลดึงไปแล้วถอดหน้ากากออกระหว่างที่ทำการแสดงอยู่ และพยายามผลักดันให้เขาแสดงบนเวทีต่อจนจบ เพราะฮีชอลต้องการที่จะให้ฮันคยองทำในสิ่งที่เขาต้องการนั่นเอง หลังจากที่จัดการเรื่อง VISA เรียบร้อยแล้ว ทำให้ฮันคยองได้กลับมาขึ้นโชว์ได้อีกครั้ง แต่นั่นหมายความว่า เขาสามารถออกทีวีได้ตามที่ทาง VISA กำหนดเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า ทำให้เขารู้สึกแย่และเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างเป็นที่สุด แต่เนื่องจากได้กำลังใจจากเพื่อน ๆ ร่วมวง ก็ทำให้ฮันคยองกลับมาเข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง ในช่วงที่อยู่เกาหลี ในเวลาว่างซีวอนมักจะมาคลุกคลีอยู่กับเขาเสมอ ๆ เนื่องจากจะต้องไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศจีน อันเป็นบ้านเกิดของฮันคยอง ทั้งคู่จึงมาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องภาษากัน โดยซีวอนจะพูดกับฮันคยองเป็นภาษาจีน และฮันคยองก็จะตอบกลับไปเป็นภาษาเกาหลี ... และซีวอน ก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่ฮันคยองรักมาก เนื่องจากซีวอนจะคอยช่วยเหลือเขาอยู่เสมอ ๆ หลายครั้งที่เขาไม่เข้าใจคำถาม คำสั่ง หรือสิ่งที่คนอื่นพูดออกมา ก็จะได้ซีวอนคอยสะกิดบอก หรือคอยอธิบายให้ฟังอยู่ตลอด รวมถึงคอยเสนอความคิดเห็นต่าง ๆ ในเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือ ด้วยนิสัยที่มักจะชอบเป็นห่วงคนอื่น ๆ อยู่เสมอ และเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าสักเท่าใดนัก ทำให้ฮันคยองค่อนข้างจะเกรงใจสมาชิกคนอื่น ๆ ในวง แม้ว่าเขาจะแกล้งคนนั้นคนนี้บ้าง แต่ถ้าหากโดนสวนกลับก็มักจะเป็นฝ่ายยอมให้อยู่เสมอ เว้นแค่ฮีชอลที่ฮันคยองแทบจะไม่เคยยอมให้เลย และเขาก็อาจจะเป็นคนเดียวที่สามารถเอาชนะฮีชอลได้ แม้ว่าจากลักษณะภายนอกแล้ว จะดูเหมือนว่าฮีชอลนั้นปากกล้า บ้าอำนาจ และคอยเอาแต่ใจกับฮันคยองอยู่เสมอ ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่เคยทำได้สำเร็จเลย เพราะเอาเข้าจริงก็ถูกฮันคยองตอกหน้าหงายแทบจะทุกครั้งไป แต่แม้จะมีเรื่องให้เถียงกันแทบจะทุกวัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่ได้สั่นคลอน เพราะเมื่อใดที่ฮีชอลงอน ฮันคยองก็มักจะคอยตามง้ออยู่ตลอด เพราะสำหรับฮันคยองแล้ว ฮีชอลนั้นคือส่วนหนึ่งของชีวิตเขา คือคนในครอบครัวที่เกาหลีของเขา ถ้าหากเขาไม่มีฮีชอล เขาก็ไม่รู้ว่าจะผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมาโดยลำพังได้อย่างไร แต่ถึงจะสนิทสนมกันมากสักเพียงใดก็ตาม สิ่งที่ฮันคยองไม่ชอบมากที่สุด ก็คือ การที่แฟน ๆ จับคู่เขากับฮีชอล และซีวอน ภาพลักษณ์ของฮันคยองนั้นดูจะเป็นชายหนุ่มที่แสนดี อบอุ่น และช่างเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง แต่ในอีกมุม เขาไม่ได้ดีอย่างที่หลาย ๆ คนวาดฝันเอาไว้สักเท่าใดนัก เพราะนับตั้งแต่โดนฮีชอลแฉหลายต่อหลายเรื่อง ก็ทำให้ได้รู้ว่าเขาก็เป็นแค่เพียงผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่มีหลายบุคลิคในตัว ไม่ได้ดีเลิศเลอเพอเฟ็กต์ดังเช่นเจ้าชายในนิทานแต่อย่างใด ... แต่เขาแค่มีความจริงใจ ความห่วงใย และความเอาอกเอาใจให้แค่คนรอบข้างที่หวังดีต่อเขาเท่านั้นเอง และในช่วงหนึ่ง ที่ฮันคยองได้หายหน้าหายตาไป ไม่ได้มาร่วมงานกับเพื่อน ๆ ก็เนื่องจาก วันที่เขานัดติดต่อกับสถานทูตนั้น ฮันคยองไปไม่ทันเวลานัด เนื่องจากในช่วงกลางคืนหลังจากที่กลับมาจากจีน เขาก็ได้พาฮีชอลไปดูหนังเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเพื่อนรัก ซึ่งเป็นหนังผีรอบดึก จึงทำให้ตอนเช้าวันต่อมานั้นไม่สามารถไปพบเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตได้ตามเวลาที่กำหนด จึงทำให้การต่อ VISA ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ฮันคยองจึงสามารถกลับมาอยู่เกาหลีได้เพียงครั้งละไม่กี่วันเท่านั้น และเมื่อเขาได้ทราบถึงโปรเจ็ค "ซูเปอร์จูเนียร์ไชน่า (Super Junior-M)" ขึ้น แน่นอนว่าฮันคยองรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่า การที่จะได้ออกผลงานที่บ้านเกิดของตัวเองอย่างเต็มตัว ฮันคยองไม่เคยคิดว่ามันคือยูนิตย่อย ไม่เคยคิดว่าจะมีใครต่อต้าน ไม่เคยคิดถึงผลกระทบที่จะเกิด เขารู้แค่เพียงว่า ... ในที่สุด เขาก็ได้มีผลงานในบ้านเกิด ได้ร้องเพลงในภาษาที่เขาคุ้นเคย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ... มันกลับไม่ได้สวยหรู หรืองดงามอย่างที่เขาคิด เมื่อมีแฟนคลับจำนวนมากได้ออกมาต่อต้านโปรเจ็คนี้ มันสะกิดให้เขาได้รู้สึก และได้มองย้อนกลับมาถึงความเป็นจริงว่าชีวิตของเขาอยู่ที่ซูเปอร์จูเนียร์ แม้ว่าจะต้องการที่จะทำงานในฐานะคนจีนสักเพียงใด แต่สุดท้ายเขาก็ยังเป็นซูเปอร์จูเนียร์อยู่วันยังค่ำ ฮันคยองจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่สามารถออกความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับโปรเจ็คนี้ได้ ทั้งสนับสนุนและต่อต้าน สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่เพียง ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:30:14

ความคิดเห็นที่ 26 ::: เส้นทางสายชีวิตของเยซอง ::: เยซอง ... เคยพูดเอาไว้ว่า "เขาคือสมาชิกที่มีแฟนคลับน้อยที่สุด!!" เด็กชาย "คิมจงอุน" เกิดและเติบโตที่ชองอัน ในตอนเด็ก ๆ เขาค่อนข้างที่จะเฮี้ยวพอสมควร เพราะเคยตั้งแก๊งกับเพื่อน ๆ แถวบ้าน และเขาก็เป็นหัวหน้าก๊วน เพื่อที่จะต่อสู้กับเด็กกลุ่มอื่นที่ไม่ค่อยจะถูกชะตากัน สร้างความปวดหัวให้กับทางครอบครัวของเขาเป็นอย่างมาก ในตอนเด็กนั้น เขาอยากที่จะได้หุ่นยนต์สักตัว แต่ด้วยความที่พ่อบอกเขาเสมอ ๆ่ ว่าเด็กผู้ชายควรจะออกกำลังกายมากกว่าจะไปนั่งเล่นของเล่นไร้สาระ จึงทำให้จงอุนออกกำลังกายเป็นประจำ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และด้วยความที่เขาแข็งแรง ไม่ชอบเวลาที่เห็นผู้ชายคนไหนด่าทอผู้หญิงนั่นเอง จึงทำให้ในวัยเด็กของจงอุน มีเด็กผู้หญิงมาปลื้มเขาเป็นจำนวนไม่น้อย จงอุนค่อนข้างจะเป็นเด็กหัวดี แต่ไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่ เขาไม่ชอบเวลาที่หันไปมองแล้วเห็นว่ามีอุปกรณ์การเรียนอยู่ใกล้ ๆ ตัว เพราะมันทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดี และอยากให้มีอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา ก็คือ CD เพลงและเครื่องเล่น ด้วยความที่เขาชื่นชอบเสียงเพลงมาก อีกทั้งยังร้องเพลงใช้ได้ แม่ของเขาจึงได้ถามขึ้นในวันหนึ่งว่า ถ้าหากเขาชอบเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ลองไปออดิชั่นกับทางค่ายเพลงดู และก็ได้ไปติดต่อสอบถามถึงรายละเอียดการประกวดมาให้ลูกชายคนโตเสียเสร็จสรรพ แม่ของจงอุนผลักดันเขาทุกวิถีทาง เพื่อจะสานความฝันของลูกชายให้เป็นจริง เมื่อมีการจัดการประกวดขึ้นที่โซล จงอุนและแม่ก็เดินทางมาเพื่อทำการแข่งขัน แต่ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่แปลกใหม่อย่างโซล จึงทำให้สองแม่ลูกต้องหลงทางกันอยู่นานสองนาน แต่ก็ยังโชคดีที่เดินทางไปทันการประกวด ในการประกวด จงอุนร้องเพลงออกมาค่อนข้างดี แต่สำหรับการเต้นแล้ว เขาไม่ค่อยมั่นใจกับมันสักเท่าใดหรืออาจจะไม่มั่นใจเลยก็ว่าได้ เพราะเขาไม่เคยเต้นมาก่อน จงอุนบอกกับตัวเองในใจว่าเขาคงจะได้ที่สุดท้ายเป็นแ่น่ ... แต่ผิดคาด ผลออกมาคือ เขาได้รับรางวัลชนะเลิศมาแบบไม่ได้คาดคิดมาก่อน ซึ่งเขาก็ได้ผ่านการออดิชั่นเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดพร้อม ๆ กับแจจุง (TVXQ) แต่การเป็นศิลปินฝึกหัดนั้นช่างทรมานและยากเย็นกว่าที่คิด หลังเลิกเรียน จงอุนจะต้องนั่งรถไฟจากชอนอันมาฝึกซ้อมกับทางบริษัททุกวันจนดึก และเดินทางกลับด้วยรถไฟขบวนสุดท้าย ตอนเวลา 23.20 น. เสมอ และเพื่อนร่วมเดินทางของเขาก็คือยุนโฮ (TVXQ) (ก่อนยุนโฮจะมาเช่าบ้านอยู่กับทงแฮและฮีชอล) ที่เดินทางกลับด้วยรถไฟเพื่อไปควางจูเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จงอุนเริ่มสนิทกับยุนโฮ เพราะระหว่างทางพวกเขาได้มีอะไรมาพูดคุยกันมากมาย และก็ยังร่วมสร้างวีรกรรมที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมกับการเป็นเยาวชนอีกด้วย นั่นคือการดื่มเบียร์บนรถไฟ จนทำให้นั่งเลยสถานีชอนอันไปถึงดูจอง ด้วยความที่ไม่มีรถกลับ ทำให้จงอุนต้องโทรศัพท์ไปบอกแม่ว่า เขาจำเป็นต้องนอนค้างที่บ้านเพื่อนและใช้เวลาอยู่ที่สถานนีดูจองนั้นทั้งคืน เขายังคงฝึกซ้อมเป็นอย่างหนัก แม้ว่าจะยังไม่รู้ชะตาของตัวเองว่าจะได้เดบิวต์หรือไม่ เพราะแต่ละคนที่เป็นศิลปินฝึกหัดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นที่ 1 มาจากแต่ละเวทีแ่น่นอนว่าทุกคนมีความสามารถไม่น้อยไปกว่ากัน แต่สิ่งที่จะทำให้พวกเขาได้เดบิวต์นั้นก็คือ หลังจากที่ฝึกซ้อมเป็นระยะเวลานานแล้ว ผลงานของใครจะออกมาดีกว่ากัน ... และนั่นอาจจะรวมไปถึง ใครที่ดวงดีกว่าใคร จงอุนมีเพื่อนสนิทในสมัยเป็นศิลปินฝึกหัด คือ ยุนโฮและแจจุง เนื่องจากผ่านการออดิชั่นมาพร้อม ๆ กัน นอกจากนั้น เขากับยองอุน(คังอิน) ก็ยังสนิทสนมกันมาก แต่ด้วยนิสัยบางอย่างของทั้งคู่ ที่ดูจะคล้ายกันในบางส่วนจนเกือบ ๆ จะเป็นคู่แข่งกัน ไม่ว่าจะเป็นชอบการต่อสู้ ชกต่อย และอีกมากมาย ทำให้ยองอุนมักจะแกล้งทำท่าราวกับว่ารังเกียจจงอุนเสมอ เนื่องจากยองอุนรู้จักนิสัยของเพื่อนคนนี้ดีว่ามักจะชอบทำอะไรให้ 'มาก' กว่าชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็น แต่ความจริงแล้ว พวกเขาทั้งคู่ก็ต่างผูกพันและมีกันและกันอยู่ในสายตาเสมอ เพราะแม้ว่าปากของยองอุนจะด่าทอ ผลักไสจงอุน มือจะใช้กำลังกับเขาหรือแม้แต่เท้าที่ก็ยังไม่ละเว้น แต่ทุกครั้งที่มีอะไรเกิดขึ้นกับจงอุน ยองอุนคนนี้ก็มักจะเป็นคนแรกที่มองเห็นเสมอ ด้วยเหตุนี้เอง จงอุนจึงไม่เคยสักครั้งที่จะโกรธเคืองยองอุน แม้จะโดนโขกสับ หรือถูกตบจนหัวแทบหลุดก็ตาม และกับฮีชอลก็เช่นกัน จงอุนค่อนข้างที่จะติดฮีชอลอยู่มาก เขามักจะทำตัวเด็กเวลาที่อยู่กับฮีชอล แต่ด้วยนิสัยที่ชอบโชว์พาวของจงอุน (ถ้าไม่ชอบโชว์พาว คงไม่เป็นหัวหน้าแก๊ง) และอาจจะด้วยความพูดมากส่วนตัวจนออกแนวไร้สาระ ที่ทำให้อีชอลมักจะหาเรื่องว่าจงอุนเสมอ ๆ แต่นั่นก็เกิดจากความสนิทสนมและเอ็นดูในตัวน้องชายคนนี้ เพียงแค่การแสดงออกนั้นดูจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยู่ในใจเท่านั้นเอง และด้วยความที่เขาเป็นคนติดจะสำอางหน่อย ๆ เวลาว่างหรือทุกครั้งที่เห็นกระจก จงอุนก็มักจะหยุดส่องและจัดเสื้อผ้า หน้า ผม ให้เข้าที่เข้าทาง และก็เป็นแบบนี้เสมอ ๆ จนติดเป็นนิสัย หลายครั้งที่เขาเผลอทำมันโดยไม่รู้ตัว จนฮีชอลต้องหันมากัดเอาบ่อย ๆ จงอุนมีความภาคภูิมิใจในความเป็นพวกเลือดกรุ๊ป AB และมักจะพูดถึงตัวเขาและฮีชอลในเรื่องนี้ และท้ายที่สุดก็มักจะโดนฮีชอลว่ากลับมาทุกครั้ง "ถึงเราจะเลือดกรุ๊ปเดียวกัน แต่อย่าเอาชั้นไปรวมเป็นพวกเดียวกับนาย" เพราะเขาพูดถึงมันมากจนทำให้มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเสียแล้ว แม้ว่าจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างเกเรอยู่บ้าง แต่จงอุนก็ไม่เคยที่จะทำตัวไม่ดี หรือออกนอกลู่นอกทางเลย เพราะเพียงแค่ดื่มเบียร์กระป๋องเล็ก ๆ มันก็ทำให้เขาเมาจนแทบลุกไม่ึขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง จงอุนจึงมักจะถูกเพื่อน ๆ ลากไปร่วมวงด้วย แต่ไม่ใช่เพื่อให้เขาไปร่วมดื่ม เพราะเพื่อให้เขาเป็นคนหอบหิ้วเพื่อน ๆ กลับแทนนั่นเอง ส่วนเรื่องบุหรี่ จงอุนไม่แตะต้องมัน เนื่องจากเขาคิดว่ามันจะทำให้เส้นเสียงเสีย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ครั้งแรกที่เขาลองสูบ มันทำให้เขาสำลักควันแทบตายต่างหาก จงอุนได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Sunmoon และได้รับอนุปริญญาไปในช่วงก่อนเดบิวต์เพียงไม่กี่เดือน ในช่วงนั้นเองที่อาการป่วยเพราะนิ่วของเขาได้กำเริบขึ้น ทำให้ใบหน้าของเขาเริ่มบวมอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยความที่เกรงว่าจะเป็นตัวถ่วงและทำให้คนรอบข้างเป็นห่วง เขาจึงเก็บงำเรื่องนี้เอาไว้เพียงคนเดียว ช่วงที่ฟอร์มวงซูเปอร์จูเนียร์ จงอุนได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ "เยซอง" เพื่อใช้ในวงการบันเทิง เพราะเขารักในเสียงเพลง และอยากมีชื่อที่แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่เขามี และก็เริ่มที่จะสนิทสนมกับรยออุค ศิลปินฝึกหัดน้องใหม่ที่เพิ่งผ่านเวทีการประกวดมาได้ไม่นาน เขามักจะใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า "Cloud" ซึ่งแปลว่า "ก้อนเฆฆ" มันมาจากความหมายของนามสกุลของเขาเมื่อเขียนเป็นภาษาจีน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาชื่นชอบก้อนเมฆเป็นพิเศษ ในเวลาที่มีปัญหาหรือไม่สบายใจ จงอุนมักจะระบาย หรือเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเขาให้กับรยออุคฟังเสมอ ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า้น้องชายตัวดีคนนี้นั้นแสบสักเพียงใด เขาก็ยังเต็มใจที่จะเล่า แม้ว่าเรื่องที่เขาเล่าจะถูกนำมาแฉผ่านทางรายการต่าง ๆ อยู่เสมอ เขากับรยออุคมักจะทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง และเีถียงกันในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ เนื่องจากแต่ละคนก็อยากจะเอาชนะ แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจงอุนจะเป็นฝ่ายแพ้แทบทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยที่จะโกรธเพื่อนรุ่นน้องคนนี้จริง ๆ จัง ๆ สักที เพราะเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือใด รยออุคก็มักจะยื่นมือมาให้เป็นคนแรกเสมอ (และก็เป็นคนแรกที่พร้อมจะซ้ำเติมเช่นกัน) หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าจงอุนเป็นคนพูดน้อย ค่อนข้างนิ่ง และเก็บตัว แต่อันที่จริงแล้ว เขาเป็นคนที่บ้า ถึงขั้นที่ฮีชอลเรียกว่า "หมาบ้า" และก็ค่อนข้างที่จะพูดมากถึงมากที่สุด แต่เป็นการพูดออกแนวหาสาระไม่ได้ อีกทั้งยังกล้าและบ้าบิ่น เสียจนยองอุนไม่กล้าเดาว่าถ้าหากต้องมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เพราะจงอุนคงไม่มีทางยอมแพ้ และคงเล่นงานอีกฝ่ายสุดชีวิต จนเขาไม่อยากที่จะคิดสภาพที่จะออกมา จงอุนเคยรู้สึกน้อยใจ เพราะเขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีแฟนคลับน้อยที่สุดในวง นั่นจึงทำให้เขาพยายามที่จะแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้มากขึ้น เพราะที่ผ่าน ๆ มา ด้วยอาการป่วย และเนื่องด้วยเป็นคนอายกล้อง เขาจึงมักจะทำตัวเงียบ ๆ และหลบอยู่ตามมุมเสมอ ๆ แต่ในทุกวันนี้จะเห็นได้ชัดว่า เขากล้าที่จะทำอะไรต่อมิอะไรเวลาอยู่หน้ากล้องมากขึ้นและเริ่มฉายแววโดดเด่นขึ้นมาอย่างมากมาย ทั้งนี้ในช่วงก่อนที่จะออกอัลบัมชุดที่ 2 จงอุนได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออก รูปร่าง การร้องเพลง การเต้น หรือแม้แต่การปฏิบัติตัว ... และเขาก็สามารถทำได้ แม้ว่าจะไม่ครบตามที่หวังก็ตามที และด้วยความบ้าส่วนตัวที่เขามี จงอุนมักจะชอบอะไรที่แปลก ๆ หรือสิ่งที่เขาคิดว่าสะดุดตา ในเมื่อครั้งที่มาเมืองไทยในนาม K.R.Y เขาได้มีโอกาสชมมิวสิควิดีโอเพลงลูกทุ่งของไทย และใครจะเชื่อว่า "อาภาพร นครสวรรค์" จะกลายเป็นไอดอลประจำใจของเขาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา (ร้องเพลงเชฟบ๊ะได้ด้วย เอากะมันสิ -*- ) เส้นทางชีวิตของเจ้าชายแห่งเมฆายังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าท้องฟ้าจะมีพายุ หรือฝนที่ตกกระหน่ำ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมีเอลฟ์คอยเคียงข้าง และคอยปกป้องให้ก้อนเมฆก้อนนี้อยู่รอดปลอดภัย และได้พบเจอกับแสงแดดดันสดใสในทุก ๆ วัน Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:35:12

ความคิดเห็นที่ 27 ::: เส้นทางสายชีวิตของคังอิน ::: ตั้งแต่เล็กจนโตของผู้ชายคนนี้ .. คิมยองอุน เขาเคยฝันอยากที่จะเป็นนักกีฬา เพราะชีวิตตั้งแต่เด็กของเขานั้นอยู่กับสระว่ายน้ำและก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ แน่นอนว่าความฝันของเขาที่มีมาตลอดนั้น คือ การเป็นนักกีฬา เขาออกกำลังกายมาตั้งแต่เล็กและก็ว่ายน้ำมาเรื่อย ๆ และด้วยเหตุนี้เอง จึงมีสาว ๆ รวมถึงผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชายมาชอบเขามากมาย ยองอุนเคยได้รับของขวัญจากรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกเขานั้นชั่งใจอยู่นานสองนานว่าจะรับมันดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็รับไว้เพราะว่าราคาของนั้นมันแพง และเขาก็คงจะไม่มีปัญญาที่จะซื้อมันเอง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามีข่าวออกมาว่าอาจจะมีใจให้กับเพศเดียวกัน หลังจากนั้นในวันวาเลนไทน์ เขาก็จะได้รับช็อกโกแลตมากมาย แต่น่าเสียดายที่กว่า 80% ของผู้ให้ ... เป็นผู้ชาย!! จนกระทั่งอยู่ไฮสคูลปี 2 วันหนึ่ง เขาได้เดินทางมาทัศนศึกษาที่งานประกวดวรรณกรรมที่จัดขึ้นบริเวณธีมปาร์ค และที่นั่นเองที่เขาได้พบกับแมวมองของบริษัทที่ได้ให้นามบัตรแก่เขามา พร้อมกับชักชวนให้เข้าไปออดิชั่นกับทางค่าย นามบัตรที่ได้มาโดยบังเอิญที่ธีมปาร์ค มันทำให้เส้นทางชีวิตของยองอุนแทบจะพลิกผันจากเดิม เพราะเขาเบนเข็มจากการเป็นนักกีฬา มาสนใจด้านการเป็นดารานับตั้งแต่วันนั้น และด้วยที่พ่อแม่ของเขาคอยสนับสนุนในสิ่งที่ลูกชายคนนี้เลือกเสมอ ท่านทั้งสองจึงไม่คัดค้านในการตัดสินใจนี้ และพร้อมที่จะผลักดันให้เขาไปในเส้นทางที่ต้องการ การออดิชั่นครั้งแรกในชีวิตนั้นผ่านไปอย่างไม่ยากเย็นนัก สร้างความประหลาดใจให้กับยองอุนค่อนข้างมาก มันทำให้เขากลับมาคิดทบทวนดูว่าเขาได้รางวัลมาเพราะว่าโชคช่วยหรือไม่ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้วเขาไม่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในด้านนี้มาก่อนเท่านั้นเอง แล้วชีวิตที่เคยเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาที่ใช้เวลาอยู่กับสระว่ายน้ำ ก็กลายเป็นว่าในแต่ละวันหลังเลิกเรียน เขามีแต่การฝึกจนดึกจนดื่น และความฝันที่จะเป็นนักร้องนั้นมันก็เริ่มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งเหล่านั้น ... มันไม่ได้ดูสนุกสนานและงดงามเสมอไป หลังจากที่การฝึกผ่านไปปีแล้วปีเล่า แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพื่อน ๆ ก็ต่างเริ่มสงสัยในตัวของเขาว่าเขาจะได้เดบิวต์แน่หรือ? เขาถูกหลอกหรือเปล่า? หรือว่าเขาโกหกเพื่อนอยู่? ... จนมันทำให้เกิดสงครามน้ำลายย่อย ๆ ระหว่างเขากับเพื่อนอยู่หลายครั้ง แม้ว่าจะเถียงกับเพื่อนไปเช่นนั้นว่าเขามั่นใจว่าจะได้เดบิวต์ แต่ลึก ๆ ในใจเขาก็ยังกลัวและก็เริ่มที่จะถามตัวเอง "จะได้เดบิวต์จริง ๆ เหรอ หรือว่าจะจบลงแค่นี้จริง ๆ" ยองอุนถามตัวเองซ้ำ ๆ ในความเงียบ และเขาก็ได้คำตอบว่าถ้าให้มันจบเพียงแค่นี้ มันก็เท่ากับว่าเขายอมแพ้ ... เขาเกลียดการแพ้ หลังจากนั้นก็มีข่าวเด็กฝึกหัดด้วยกันลาออกไปหลายต่อหลายคน แม้แต่ใครที่เคยสนิทก็ต่างทยอยกันออกไป เนื่องจากทนไม่ไหวกับการฝึกหัดที่แสนสาหัส และดูเหมือนว่าวี่แววการเดบิวต์นั้นจะรีบหรี่ และมองไม่เห็นฝั่ง ... เขาเองก็กลับมาทบทวนอยู่หลายครั้ง เพราะยองอุนคิดถึงความรู้สึกของพ่อและแม่ที่เชื่อใจเขามาตลอด แม้ต่อหน้าท่านทั้งสองจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไร แต่ที่จริงแล้ว เขารู้ว่าท่านเป็นห่วงเขาเสมอ และด้วยคำพูดของเพื่อนที่คอยตอกย้ำ มันก็ทำให้เขวไขว้เขว จนทำให้ผมของเขาร่วงเพราะความเครียด และสิ่งที่สร้างบาดแผลในใจให้เขาอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การถูกเข้ามาถามว่า สนิทกับเด็กฝึกหัดคนอื่น ๆ หรือเปล่า? เพราะมันทำให้เขาขายหน้าเป็นอย่างมากที่โดนถามถึงเรื่องราวของเด็กฝึกหัดคนอื่น ๆ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของตัวเขาเอง เรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในช่วงเวลา 5 ปีของการเป็นศิลปินฝึกหัด จนกระทั่งในวันหนึ่งทางต้นสังกัดเรียกเขาไปคุยในเรื่องโปรเจ็คใหม่ของบริษัท มันทำให้เขาดีใจมาก ที่ความฝันของเขาเป็นจริงขึ้นแล้ว ... ความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมานั้นเห็นผลแล้วก็วันนี้ เขาถามผู้จัดการซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปจริง ๆ แต่ก่อนที่จะได้เดบิวต์ เขาจำเป็นต้องลดน้ำหนักที่พุ่งสูงกว่า 100 กิโลกรัม โดยแต่ละวัน เขาดื่มแค่เพียงน้ำและงดอาหารทุกชนิด ทำเช่นนั้นอยู่เป็นเดือน จนกระทั่งน้ำหนักที่มากนั้นลดลงไปกว่า 26 กิโลกรัม และทำให้รูปร่างที่เคยอ้วนท้วนสมบูรณ์นั้นออกมาดูดีอย่างที่เห็นในช่วงเดบิวต์ใหม่ ๆ ในช่วงที่ทำการฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อน ๆ ในวงนั้น ด้วยความที่แต่ละคนเป็นเด็กผู้ชายในวัยกำลังซน แน่นอนว่ามันคล้ายกับการจับปูใส่กระด้ง ทุกครั้งที่เขาเห็นจองซู (อีทึก) ต้องคอยปวดหัวกับน้อง ๆ ยองอุนจะรู้สึกแย่เสมอ เพราะเขานับถือจองซูมาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน เขาจึงต้องการที่จะแบ่งเบาภาระให้พี่ชายคนนี้บ้าง และเพื่อต้องการให้ในวงนั้นเป็นระเบียบ แต่ละคนไม่เล่นหรือนอกเรื่องจนเกินไป เขาจึงไปขอให้จองซูช่วยแสดงละคร และใช้ตัวเขาเองเป็นคนที่ถูกจองซูทำโทษด้วยการตี ทั้งนี้เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับน้อง ๆ ในวง และเพื่อทำให้จองซูดูเด็ดขาดมากขึ้น เพราะแม้ว่าจองซูจะอายุมากที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด แต่เขาก็ใจอ่อนกับน้อง ๆ อยู่มาก ... และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้พวกเขาซูเปอร์จูเนียร์รักและสามัคคีกันมากขึ้น เพราะเมื่อยองอุนถูกตี แต่ละคนก็พร้อมใจกันยกมือขึ้น และขอให้ตีพวกเขาด้วย หลังจากนั้น ยองอุนก็จะคอยเป็นผู้ช่วยของจองซูเสมอมา เพราะเขารู้ว่าการแบกรับภาระของลีดเดอร์นั้นหนักเพียงใด และยิ่งต้องปกครองน้อง ๆ ที่ซนเป็นลิงถึงสิบกว่าชีวิต มันไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้น ยองอุนจึงรักและห่วงจองซูมากเป็นพิเศษ เขาคิดอยู่เสมอว่า จองซูคือพี่ใหญ่ที่รับบทหนักกว่าทุก ๆ คนในครอบครัว เมื่อใดที่มีปัญหา ด่านแรกที่จะต้องโดนก็คือจองซู และด้วยความที่จองซูเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจในตัวเองนัก เพราะมักจะเอาเวลาไปใส่ใจคนอื่น ๆ เสียมากกว่า ยองอุนจึงต้องคอยทำหน้าที่ดูแลพี่ชายคนนี้แทนตัวของเขา จนก่อให้เกิดเป็นความรักและความผูกพันขึ้นมาทีละน้อย และกลายเป็นคู่หูกันไปในที่สุด จนถึงขั้นบันทึกชื่ออีกฝ่ายด้วยฉายาว่า "คังอินผู้แข็งแกร่งแต่โง่" กับ "อีทึกจอมแก่" และด้วยความที่ยองอุนมีพรสวรรค์ด้านการพูด การแสดง และการเข้าหาผู้ใหญ่ เขาจึงได้รับหน้าที่ MC ดำเนินรายการอยู่เสมอ ๆ และงานที่เขาทำนั้นก็ออกมาค่อนข้างดี ได้รับความนิยม เนื่องจากเขารู้ว่าเวลาใดควรที่จะเล่นหรือควรที่จะจริงจัง และก็ยังรู้จักใช้คำพูดที่ดีและเหมาะสมอีกด้วย จากการที่ได้เป็น MC เป็น DJ ทำให้ยองอุนได้ร่วมงานกับศิลปินในวงการบันเทิงมากมาย เขาจึงได้กลายเป็นที่รักของบรรดารุ่นพี่หลาย ๆ คน รวมถึงเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องที่ก็ต่างชื่นชอบและให้ความสนิทสนมกับยองอุน ดังจะเห็นได้จากรายการต่าง ๆ เขาสามารถทักทายศิลปินต่างค่ายที่มาร่วมรายการได้อย่างสนิทสนมและไม่เคอะเขิน หนำซ้ำที่หลังเวทีก็ยังหยอกล้อกับบุคคลพวกนั้นอีกด้วย แต่ในด้านการเต้นของเขา ยองอุนค่อนข้างที่จะเต้นได้ดีเป็นอันดับท้าย ๆ ของวง ... นั่นอาจจะเพราะถ้าหากเขาเต้นเก่งอีกอย่าง พระเจ้าคงจะคิดว่ามันจะทำให้เขาดูมีความสามารถมากจนเกินไป ... ในช่วงที่ซิงเกิล U ออกมานั้น ยองอุนได้รับอาการบาดเจ็บที่ขา และทำให้ไม่สามารถเต้นไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ได้อย่างเต็มที่ และได้ล้มลงในการขึ้นโชว์ในรายการหนึ่ง ... มันทำให้เขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมอย่างมาก ทั้งบอกว่าเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาอยู่วงเต้น ทั้งเรื่องที่เขาพยายามไม่เต็มที่ หรืออะไรต่ออะไรอีกมากมายที่ปรากฏในหน้าอินเตอร์เน็ต มันทำให้เขารู้สึกท้อแท้และอยากจะร้องไห้ จนได้พูดออกรายการวิทยุที่เขาจัดถึงเรื่องนี้ พร้อมกับขอโทษแฟน ๆ ที่ทำให้ต้องผิดหวัง ... จากนั้น ยองอุนก็ได้ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเพื่อให้ทักษะการเต้นของเขาดีขึ้นจากเดิม ยองอุน ถือเป็นรองหัวหน้าวง ที่คอยดูแลเหล่าสมาชิกในยามที่จองซูไม่ว่างหรือดูแลได้ไม่ทั่วถึง เขาจะมีน้ำใจให้กับเพื่อน ๆ ในวงเสมอ หากใครมีปัญหาอะไร เขาก็มักจะเข้าไปช่วยจัดการความเรียบร้อยให้ในทันที และสิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวันก็คือการสอดส่ายสายตาดูความผิดปกติของเพื่อน ๆ ในวง หากวันใดมีใครสักคนที่แปลกไป เขาจะได้รับรู้มันได้ในทันที ... เช่น การแสดงโชว์ในเพลง Full of Happiness บนเวทีแห่งหนึ่ง ที่คิบอมลื่นล้ม .. ในตอนนั้นคิบอมมีปัญหาเรื่องขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การล้มในครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการไปซ้ำที่แผลเก่าและยองอุนก็เห็นมัน แต่เพราะว่าการแสดงจำเป็นต้องแสดงต่อไปและจองซูก็ยังต้องทำหน้าที่หัวหน้าวงที่จะออกไปพูดอะไรกับแฟน ๆ ดังนั้นเมื่อมีโอกาส ยองอุนก็รีบเข้าไปพยุงร่างของคิบอมเอาไว้ทันที แต่ด้วยนิสัยที่ชอบใช้กำลัง ทำให้สมาชิกค่อนข้างจะขยาดเวลาที่เขาอารมณ์เสีย (ซึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับจงอุน เพราะขนาดโดนด่า โดนตบ ก็ยังจะมาตอแย) แต่ปกติแล้ว ยองอุนจะเป็นคนที่จิตใจดี ขี้สงสาร และคอยยอมให้กับน้อง ๆ เสมอ ในเรื่องที่สามารถยอมได้ เขามักจะตามใจน้อง ๆ เนื่องจากรู้ดีว่าการทำงานในแต่ละวันค่อนข้างหนัก จึงไม่อยากที่จะกะเกณฑ์ในเรื่องส่วนตัวให้มากนัก แต่ถ้าหากมันเริ่มที่จะหลุดออกนอกกรอบจนเกินไป เขาก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาโหด เพื่อที่จะดึงให้พวกเขาเหล่านั้นกลับมาอยู่ในระเบียบอีกครั้ง และในอีกด้านหนึ่งของยองอุน เขารักเด็ก รักสัตว์ ขี้สงสาร และสามารถร้องไห้กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ... เพราะแค่เห็นสัตว์เล็ก ๆ บาดเจ็บ เขาก็สงสารมันจนน้ำตาร่วง หรือแม้แต่การที่แฟนคลับถักเสื้อสเวตเตอร์มาให้ เขาก็ปลาบปลื้มกับมันจนร้องไห้ได้ ... นี่แหละยองอุน ผู้มีความขัดแย้งในตัวเอง ภายนอกของยองอุนอาจจะดูดุหรือไม่ค่อยเป็นมิตร หนำซ้ำยังน่าเกรงขาม จนทำให้เขาเป็นคนที่ฮันคยองกลัวที่สุด แต่ใครจะไปรู้ว่าเขากลับต้องแพ้ให้กับซองมินและรยออุคได้ง่าย ๆ เพราะแค่เพียงซองมินบ่น มันก็ทำให้ยองอุนนั้นต้องถอยทัพกระเจิดกระเจิง (แต่ด้วยความรำคาญ) ส่วนรยออุคนั้นเขาก็รู้ดีว่าอย่าไปต่อปากต่อคำกับเด็กคนนี้ให้มากนัก เพราะถ้าหากใครหลวมตัวไปต่อกรกับรยออุค ก็มักจะโดนสวนกลับมาชนิดว่าหน้าหงายหรือหมอไม่รับเย็บ ... แน่นอนว่า เขาไม่ต้องการที่จะเจอกับสภาพแบบนั้น เพื่อนสนิทของยองอุนนั้นมีอยู่หลายคน ทั้งยุนโฮ (TVXQ) แจจุง (TVXQ) ฮีชอล จองซู รวมไปถึง จงอุน ... แม้ว่าเขามักจะทำท่าราวกับว่าไม่ต้องการให้จงอุนมาอยู่ใกล้ ๆ และพยายามผลักไสให้ไปให้พ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากวันใดที่เขาไม่เจอหน้าของเพื่อนคนนี้ ไม่ได้หาเรื่องว่า หาเรื่องแกล้ง ชีวิตของเขาก็จะเหมือนขาดอะไรไป และเริ่มที่จะอยู่ไม่สุข เพราะที่เขาทำไปทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นการใช้กำลัง มันก็เป็นการแสดงความรักในแบบของเขา เพราะนิสัยของเขากับจงอุนนั้นคล้ายกัน คือ ตั้งแต่เด็กแล้วที่ชอบการต่อสู้และใช้กำลัง ดังนั้นการทักทายของพวกเขาจึงมักจะเป็นการทักทายแบบแรง ๆ มากกว่าที่จะออกแนวนุ่มนวล ... และทั้ง ๆ ที่เขามักจะชอบเล่นมุขและชอบขัด ชอบตัดบทพูด ชอบหาเรื่อง เพื่อนคนนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ถ้าหากให้พูดถึงสมาชิกในซูเปอร์จูเนียร์ เขาจะไม่เคยลืมที่จะพูดถึงเพื่อนคนนี้เลย และวันนี้ จากอดีตนักกีฬา เขาก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นศิลปิน และ MC ที่เจิดจรัสในวงการบันเทิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อนาคตของเจ้าชายอสูรของเขา ก็กำลังรุ่งโรจน์และงดงาม .. และหวังว่าสักวัน เขาจะได้เป็นเจ้าชายในใจของใครหลาย ๆ คน แทนที่จะเป็นเจ้าชายอสูรของอีทึกเพียงคนเดียว Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:37:07

ความคิดเห็นที่ 28 ::: เส้นทางสายชีวิตของชินดง ::: ดงฮีเป็นเด็กที่รักการเต้น และมักจะชอบทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่เสมอ ๆ เขาชอบที่จะเต้นมาตั้งแต่สมัยประถม เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ เพื่อที่จะไปเรียนเต้นด้วยกัน แต่ในใจลึก ๆ ของเขาส่วนหนึ่งก็คิดว่าอยากจะเป็นนักแสดงตลก เขาค่อนข้างที่จะเป็นที่รู้จักในบรรดานักเรียนแถบนั้น เพราะชื่อของดงฮีนั้นโด่งดังไปถึงโรงเรียนอื่น แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นชายทั่วไปที่มีแฟนและใช้ชีวิตธรรมดา ๆ แต่ด้วยความที่ดงฮีนั้นเป็นคนที่มีความพยายามค่อนข้างสูง เมื่อใดที่เขาต้องการอะไรเป็นพิเศษ ก็จะทำงานพิเศษเพื่อหาเงินไปซื้อเอง แม้ว่างานที่เขาทำนั้นจะหนักและเป็นงานที่ใช้แรงงานจนมือแทบพัง แต่เขาก็ยังทำมันด้วยความมุ่งมั่น จนได้เงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ในวันหนึ่งของช่วงไฮสคูล ปี 1 รุ่นพี่ที่รู้จักการได้ขอให้เขาไปอัดรายการแทน เนื่องจากรุ่นพี่คนนั้นดันไม่สบายในวันที่มีการอัดรายการ ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นได้เต้นเป็นแบ็คให้กับศิลปิน จึงได้โทรศัพท์มาไหว้วานให้ชินดงไปทำหน้าที่แทนเขา ... ด้วยเหตุนี้ ดงฮีจึงต้องเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์แถวยออึนยโอเพื่อเต้นประกอบเพลงของฮยอนซองบนเวที หลังจากนั้น ดงฮีก็เริ่มตั้งใจฝึกซ้อมเต้นอย่างจริงจัง พร้อมกับเดินสายเต้นเป็นแดนเซอร์์ตามรายการทีวีต่าง ๆ ของทั้งสถานีของเคเบิ้ลทีวี สถานี KBS รวมไปถึง J Station และ ในมิวสิคคาราโอเกะต่าง ๆ จนกระทั่งในช่วงฤดูร้อนของชั้นไฮสคูลปี 3 เขากับเพื่อนต้องการที่จะหาเงินไปเที่ยวทะเลกันจึงได้เข้าร่วมแข่งขันเต้น เพราะเพียงแค่ต้องการเงินรางวัลเพื่อไปเที่ยวเท่านั้น แต่ผลจากการเต้นครั้งนั้นเองที่ทำให้เขาได้รับนามบัตรใบหนึ่งมา ... มันเขียนไว้ว่า "SM Entertainment" ดงฮีค่อนข้างที่จะตื่นเต้นกับนามบัตรที่ได้มา เขาคิดว่ามันคือโอกาสที่ดีมากแต่ก็ยังคงลังเลใจอยู่ แต่ท้ายที่สุด หลังจากที่คิดอยู่นานสองนาน เขาก็ตัดสินใจที่จะไปลองออดิชั่นดู .. เขาก็ออดิชั่นไม่ผ่านในรอบแรก ดงฮีกลับมาฝึกซ้อมอย่างหนักอีกครั้ง โดยหวังว่าออดิชั่นคราวหน้าจะมีรายชื่อของเขาที่ผ่านเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด .. แต่การออดิชั่นครั้งที่สอง ก็ยังคงสอบตก มันทำให้เขากลับมาคิดเป็นอย่างหนัก ว่าในตอนที่ออดิชั่น เขาทำอะไรลงไป? .. ในการออดิชั่นครั้งที่ 3 ครั้งที่เขาคิดว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาออดิชั่น และครั้งนี้ ดงฮีได้ตัดสินใจทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ ทั้งเต้น ร้องเพลง แสดงมุขตลก รวมถึงการแสดง เขาได้ทำมันอย่างเต็มที่ ... ในตอนที่ถึงเวลาประกาศผล เขาหลับตา กำมือแน่นด้วยความกลัว ... กลัวว่าจะสอบตกเป็นครั้งที่ 3 และชีวิตในเส้นทางนี้ของเขาคงจบลง ณ ตรงนี้ ... แต่แล้วก็มีชื่อเขาที่ผ่านการออดิชั่น ในขณะนั้น ดงฮีอายุ 20 ปีแล้ว ... เขาจึงสามารถที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงการเซ็นสัญญากับทางบริษัท ... เขาไม่เคยบอกที่บ้านเรื่องการไปออดิชั่น และก็ได้โทร.กลับไปบอกแม่ ตอนที่ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว แม้ว่าแม่ของเขาจะยังกังวลกับเส้นทางที่ลูกชายคนนี้เลือก แต่ว่าทั้งสองก็ยังมีความเชื่อมั่นในตัวของลูกชาย ทั้งพ่อและแม่ของดงฮีจึงได้ยอมที่จะตามใจเขาได้ไม่ยาก และสนับสนุนที่จะให้เขาเดินตามเส้นทางที่ฝันนั้นต่อไป ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด ดงฮีค่อนข้างจะประหม่า แม้ว่าเขาจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่ครั้งนี้มันทำให้เขากังวลมาก ด้วยตำแหน่งที่เขาได้มานั้นคือ Best Gag ... ไม่ใช่ด้วยการร้องเพลงหรือเต้นเหมือนคนอื่น ๆ หนำซ้ำก็ยังมาเป็นคนท้าย ๆ ทั้งที่คนอื่นนั้นฝึกหัดด้วยกันมาแล้วเป็นปี 2 ปี หรือมากกว่านั้น มันจึงทำให้เขาต้องพยายามอย่างมาก เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นที่ 1 มาจากหลาย ๆ ที่ด้วยกันทั้งนั้น และทางบริษัท ก็ได้มีการทดสอบมากมาย ... รวมทั้งการให้แสดงบทบาทสมมติอย่างกระทันหัน ... แม้ว่าเขาจะงัดมุขออกมาแสดงสักเท่าไหร่ แต่สุดท้าย มันก็กลายเป็นความน่าเบื่อสำหรับตัวเขา เพราะในแต่ละวันก็มีแค่การฝึก การฝึก และการฝึก ดงฮีฝึกหนักมาก หลายต่อหลายครั้งที่เขาโต้รุ่งจนกระทั่งเช้า และไปหลับเอาบนรถไฟ ... แล้วก็นอนอยู่บนนั้นจนกระทั่งรถวนกลับมาที่เดิมรอบแล้ว รอบเล่า และในที่สุด ดงฮีก็ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินวงซูเปอร์จูเนียร์ร่วมกับเพื่อน ๆ และเขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็น "ชินดง" เนื่องจากชื่อ "ดงฮี" ของเขานั้นดันไปคล้ายกับเพื่อนอีกคนในวง ซึ่งก็คือ "ทงแฮ" ... และนั่นมันอาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ ถ้าหากมีชื่อสมาชิกในวงเขียนและออกเสียงต่างกันแค่เพียงเล็กน้อยแบบนั้น ในการฟอร์มวง ดงฮีได้ช่วยอะไรหลาย ๆ อย่างอย่างมากมาย เนื่องจากเพราะเขาเคยเป็นแดนเซอร์มาก่อน และเพราะคุ้นเคยกับการเต้นมานาน จึงช่วยคิดท่าเต้นให้กับวง และในการแสดงแต่ละครั้งของพวกเขา ท่าเต้นที่พวกเขาเต้นบนเวทีนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากหัวคิดของดงฮีผู้นี้นั่นเอง ในวันที่มีกำหนดเปิดตัววงซูเปอร์จูเนียร์ ซีวอนได้มาบอกกับเขาถึงเรื่องรูปที่ถ่ายออกไปนั้นได้เผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ตแล้ว วันนั้นเขาจึงรีบกลับไปเพื่อดูรูปเหล่านั้นด้วยความดีใจและตื่นเต้น ... แต่ผลมันกลับไม่เป็นดังที่คาดไว้ หลากความคิดเห็นที่มีต่อเขานั้นช่างทำร้ายจิตใจของดงฮีสิ้นดี แทบจะทุกคนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก มากมายที่วิจารณ์เรื่องหน้าตารูปร่างของเขา จากที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อคำพูดของคนอื่นง่าย ๆ แต่วันนั้นมันทำให้เขารู้สึกแย่และเจ็บปวดมากจนไม่อยากที่จะเปิดอินเตอร์เน็ตอีกเลยด้วยซ้ำไป และจากวันนั้นเองที่เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ผู้ชมยอมรับเขา และลบคำสบประมาทที่มีมาออกไป ... เขากลายเป็นดงฮีที่ชอบเต้น รักที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง และยังไม่ลืมความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงตลก ความสามารถของเขา ใช่มีแค่นี้ เพราะหลังจากที่คลุกคลีอยู่กับเพื่อน ๆ แล้ว เขาก็พบว่า ตัวเอง อึนฮยอก และฮีชอลนั้นมีความสามารถที่คล้าย ๆ กัน นั่นคือการแร็พ จึงได้ช่วยกันลองเขียนท่อนแร็พขึ้นมา และมันก็ถูกนำไปใช้ในเพลงต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ Show me your love จนกระทั่งมาถึงเพลงในอัลบั้มต่อ ๆ มา แต่ในความเฮฮาร่าเริงของดงฮี เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บความรู้สึก เพราะเขาไม่อยากให้คนรอบข้างต้องเป็นทุกข์เพราะเขา เขารักทุก ๆ คน และหวังดีกับทุก ๆ คนด้วยใจจริง ดังนั้น เมื่อใดที่เขามีปัญหาก็มักจะยิ้มอยู่เสมอ ๆ และพยายามทำตัวเฮฮา และหาเรื่องตลกมากลบเกลื่อน เขารักแฟนเพลงและมักจะเป็นคนแรกที่มองเห็นแฟนเพลงเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ... ทั้ง ๆ ที่ง่วง ทั้ง ๆ ที่สมาชิกคนอื่น ๆ แทบหมดเรี่ยวแรง และไม่มีใครสักคนที่มีอารมณ์จะลุกมาหยอกล้อกับแฟนเพลงที่ตามไปดูพวกเขา แต่จะไม่มีเหตุการณ์นั้นกับดงฮี เพราะสายตาของเขาจะสอดส่ายไปยังแฟนคลับเสมอ และพร้อมจะยิ้มทักทายทุกครั้งที่มีคนยิ้มให้เขามา แม้ว่าร่างกายเขาจะอ่อนล้าก็ตาม แม้ว่าในแต่ละวัน จะดูเหมือนว่าเขาเอาแต่ทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ และเล่นไปวัน ๆ แต่อันที่จริงแล้ว เขาใส่ใจ และห่วงใยเพื่อน ๆ ในวงทุกคน เขาสามารถเข้ากับคนได้ง่าย และนั่นเองที่ทำให้เขาค่อนข้างจะสนิทกับทุก ๆ คนในวง ... ในคืนที่เกิดอุบัติเหตุ ดงฮีบาดเจ็บน้อยที่สุด เขาเป็นคนแรกที่พยายามจะช่วยเพื่อน ๆ ออกมาจากซากรถ เมื่อมีคนมาช่วย เขาก็จะลุกเดินไปหาเพื่อน ๆ ทุกคน แล้วกุมมือเอาไว้ พร้อมกับให้กำลังใจ ... คล้ายกับว่าเขาไม่เป็นอะไร และมีสติดี แต่ในความเป็นจริง สภาพจิตใจของดงฮีในตอนนั้นย่ำแย่เกินจะบรรยาย เขารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นสภาพของเพื่อนที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างทาง สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ภาพรถที่พังยับเยิน ร่างของคยูฮยอนที่แน่นิ่ง อีทึกที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และฮยอกแจที่เดินกะเผลก ๆ ... เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับพวกเขาเอง ในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ดงฮีฟุ้งซ่านเกินที่จะทนอยู่ในสภาพที่ปกติได้ เขาตัดสินใจเดินทางออกจากโซลเพื่อหนีปัญหา เพื่อที่จะหาที่เงียบ ๆ อยู่คนเดียว และได้ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง เขาไม่ต้องการที่จะรับรู้อะไรทั้งนั้น ... เขากลัว กลัวว่าจะได้รับข่าวร้าย เขาทนไม่ได้ ที่จะให้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด ... ในยามที่ดงฮีมีปัญหา สิ่งที่เขามักจะทำก็คือ การไประบายกับพี่ชายของตัวเอง แต่ในที่สุด ดงฮีก็ได้เดินทางกลับเพราะยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาต้องรับผิดชอบต่อ ... เขากัดฟันเพื่อที่จะเดินกลับเข้ามาพบเพื่อน ๆ กลับมาพบแววตาที่ปวดร้าวเช่นเดียวกับเขา ... มันช่างแสนทรมาน ในวันนี้ ... ชีวิตในเส้นทางบันเทิงของเขาก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ดงฮีหรือชินดง ได้รับการแสดงละครตามที่เคยวาดหวังเอาไว้ และยังมีโอกาสได้มีผลงานเดี่ยวของตัวเอง เขายังต้องไล่ตามความฝันต่อไป เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเราไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแค่เพียงอย่างเดียว Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:39:49

ความคิดเห็นที่ 29 ::: เส้นทางสายชีวิตของซองมิน ::: ในชีวิตวัยเด็กของซองมิน เขามักจะใช้เวลาอยู่กับที่บ้านและแม่ เนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนโต จึงมักถูกเรียกไปเป็นลูกมือในการทำอาหารเสมอ ๆ เพราะแม่ของเขาเป็นแม่ค้าและขายอาหารในตอนนั้น ตอนเด็ก ๆ ซองมินค่อนข้างเป็นคนเงียบ มักจะอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ราวกับในห้องเรียนนั้นไม่มีเขาอยู่ หนำซ้ำก็ยังขี้อายและไม่กล้าแสดงออกอีก แต่เมื่อเข้าชั้น ม.1 ขณะที่เขานั่งดูรายการบันเทิงอยู่นั้น ความฝันที่จะเป็นดาราก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของซองมิน หลังจากนั้น เขาจึงพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากที่ทำตัวเหมือนเป็นอากาศก็เริ่มที่จะทำตัวสดใส ร่าเริง เพื่อให้เข้ากับคนอื่น ๆ ได้ แม้ในช่วงแรกมันจะยังรู้สึกขัด ๆ กับนิสัยที่เคยเป็นมาอยู่บ้าง แต่เขาก็ได้พยายามที่จะทำมันอย่างเต็มที่ แม้จะดีกว่าเดิมแค่เพียงเล็กน้อยก็เถอะ เมื่ออยู่ชั้น ม.2 เขาเริ่มหัดเต้นเบรคแดนส์และหัดร้องเพลงอย่างเอาจริงเอาจัง จนกระทั่งในช่วงวันหยุดฤดูหนาวของชั้น ม.3 ซองมินก็ได้เตรียมตัวอย่างจริงจังเพื่อออดิชั่นในครั้งแรก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อในทีมเต้นที่เขาร่วมวงอยู่ด้วยนั้นมีคนถอนตัว และทีมต้องขึ้นโชว์ในวันเดียวกับที่เขาต้องไปออดิชั่น ซองมินจึงชั่งใจอยู่นานสองนานและตัดสินใจที่จะไปร่วมเต้นให้กับทีมในที่สุด และในวันนั้นเอง เขาก็ได้รับนามบัตรจากแมวมองของ SM Entertainment มาอย่างไม่คาดคิด ในงานที่เขาไปร่วมแสดงกับเพื่อนนั่นเอง และหลังจากนั้น เขาก็ได้เข้าร่วมออดิชั่นกับทางค่ายจนได้มาเป็นศิลปินฝึกหัด และแม้ว่าเขาจะเคยร่วมทีมเต้นกับเพื่อน ๆ แต่พอมาเจอฮยอกแจและได้เห็นเขาเต้นในครั้งแรก มันก็ทำให้ซองมินถึงกับอึ้ง ... เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว การเต้นที่เขาเคยมั่นใจ มันกลายเป็น "ไม่ได้เรื่อง" ไปในทันที ดังนั้น ซองมินจึงพยายามที่จะเต้นให้เก่งอย่างฮยอกแจให้ได้ แต่สิ่งที่หนักหนาสาหัสสำหรับเขาก็มาเยือน เพราะบุคลิกที่ชอบก้มหน้าก้มตา เก็บตัว แถมยังมีบุคลิกที่ค่อนข้างแย่ จึงถูกเรียกไปตักเตือนหลายต่อหลายครั้ง ในกรณีที่เขาไม่สามารถเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ และก็ยังปรับตัวไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนบุคลิกของตัวเองเพื่อที่จะเป็นนักร้อง ซองมินมักถูกเรียกให้ออกไปร้องเพลงต่อหน้าบรรดารุ่นอยู่อยู่หลาย ๆ ต่อหลายครั้ง เพื่อที่จะให้เขาได้ฝึกความกล้า และเริ่มที่จะชินกับการอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาจึงมักที่จะบอกตัวเองอยู่เสมอว่า "เรื่องที่ทำไม่ได้ ก็ต้องทำจนกว่ามันจะทำได้" ในทุก ๆ วัน ซองมินมักจะเลิกซ้อมราว 5 ทุ่ม และกลับบ้านทางเดียวกันกับฮยอกแจ จุนซู และจองซู หลายต่อหลายครั้งที่เขาเหนื่อยจนเผลอหลับไปบนรถเมล์และนั่งเลยป้ายอยู่บ่อย ๆ ทำให้ต้องนั่งรถเมล์สายเดิมซ้ำไปซ้ำมาแบบนั้น ระยะเวลาการฝึกอันยาวนานนั้นค่อย ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ หลายครั้งที่น้องชายอย่างจุนซูถามว่า "เราฝึกกันหนักแบบนี้ แล้วเราจะได้เดบิวต์เร็ว ๆ ใช่มั๊ยฮะ" ... เขาไม่รู้จะตอบเช่นไร นอกจากพยักหน้าแล้วยิ้มให้ เพราะว่าตัวของเขาเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเขาจะได้เดบิวต์หรือเปล่า หรือว่าจะเป็นการฝึกฝนอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แต่แล้วก็เหมือนมีแสงไฟริบหรี่ให้เห็นอยู่ที่ปลายทางที่มืดมิด เมื่อพวกเขาได้ถูกจับมารวมกลุ่มกัน โดยประกอบด้วยสมาชิก 3 คนคือ ซองมิน จุนซู และฮยอกแจ โดยจะเป็นกลุ่มแนว R&B ที่ใช้ชื่อว่า "Danaeb" แต่แล้วก็ถูกยกเลิกไปในที่สุด เมื่อจุนซูมีปัญหาด้านเสียงที่มันแตกมากเสียจนไม่สามารถร้องเพลงได้ไปในช่วงหนึ่ง ซองมินจึงกลับมาใช้ชีวิตเป็นเด็กฝึกหัดที่ไร้สังกัด ไร้กลุ่มอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งเวลาผ่านไป จนเขาอยู่ในชั้น ปี 2 ของไฮสคูล อาจจะเพราะการซ้อมที่หนักมาก ทำให้ซองมินที่เคยตั้งใจเรียนนั้นไม่มีเวลาที่จะทบทวนตำราเรียนเหมือนเก่า เกรดของเขาจึงร่วงลงแทบทุกวิชา สร้างความกังวลให้กับพ่อและแม่เป็นอย่างมาก ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็กังวลกับเรื่องเรียนต่ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน เมื่อขึ้นชั้นปี 3 ปัญหาเรื่องการเข้าเรียนต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัยของซองมินก็เข้ามารุมเร้าจนชีวิตเขานั้นขาดความสุข เกิดเป็นสงครามประสาทกับทั้งพ่อและแม่ จากที่เคยเป็นเด็กพูดน้อย เก็บตัว และพยายามที่จะทำตัวร่าเริงเพื่อเปลี่ยนบุคลิกมาแล้วรอบหนึ่ง ทำให้ซองมินเริ่มที่จะกลับเข้าสู่ภาวะเก็บกดและเคร่งเครียดอีกครั้ง เพราะปัญหาและความกดดันที่เกิดขึ้น และเมื่อกำหนดที่จะได้เดบิวต์นั้นเลื่นออกไป ความคิดที่มีก็ยิ่งสะสมมากขึ้น จนสุดท้ายเขาก็หมดความอดทนกับปัญหารอบตัวที่รุมเร้า โดยทิ้งทุกอย่างและไม่ยอมไปซ้อมอยู่หลายสัปดาห์ สิ่งที่ซองมินกลัวก็คือ การทำให้พ่อและแม่ผิดหวัง แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ความผิดหวังในตัวเอง ด้วยความที่เป็นลูกคนโต เขาจึงเปรียบเป็นความหวังของพ่อและแม่ที่ต้องแบกรับภาระว่าที่หัวหน้าครอบครัวเอาไว้ หนำซ้ำยังต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ อีกด้วย และเมื่อเขาได้คิดทบทวนกับสิ่งที่ผ่าน ๆ มา มันทำให้เขานึกถึงคำพูดที่ว่า "คนที่ผ่านความยากลำบากมามาก จึงจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ" ... เขาจึงหยุดที่จะหนีปัญหาและกลับมาฝึกซ้อมอย่างหนักอีกครั้งหนึ่ง การเรียนของซองมินที่เคยแย่ ก็เริ่มดีขึ้น และในที่สุดเขาก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ สร้างความภาคภูมิใจให้กับพ่อและแม่มากมาย และดูเหมือนทั้งคู่จะดีใจมากกว่าตัวเขาหลายเท่านัก ภาพที่พ่อกับแม่ดีใจจนโทร.บอกเพื่อน ๆ ในเรื่องที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ยังคงติดตรึงในใจของเขาจนถึงทุกวันนี้ จากนั้น ซองมินจึงขยันและตั้งใจเรียนให้มากขึ้น ไม่ได้สนใจแค่เพียงการซ้อมอย่างที่ผ่าน ๆ มา เขาเข้าเรียนทุกคาบวิชาไม่เคยขาด และเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการสอบ จนได้รับรางวัลด้านการเรียนเมื่อผลการสอบเทอมแรกออกมา และในที่สุด วันที่พวกเขารอคอยก็มาถึง หลังจากที่ได้เห็นภาพของเพื่อนร่วมฝึกหัดมาด้วยกัน และน้องชายที่สนิทด้วยอย่างจุนซู ได้เดบิวต์ในนาม TVXQ ไปก่อนหน้าแล้ว ... เมื่อเขาได้ข่าวการเดบิวต์ของตัวเองว่าได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์กลุ่มใหม่ของ SM ก็ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก จนต้องถามคังอินซ้ำหลาย ๆ รอบ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ฝันไป แต่ก่อนที่จะได้เดบิวต์ เขาจำเป็นจะต้องลดน้ำหนักที่ค่อนข้างมากเกินความจำเป็นออกถึง 10 กิโล ดังนั้น ในแต่ละวันเขาจึงควบคุมอาหารของตัวเอง โดยทานแต่เดนจังชีเก (แกงเต้าหู้) ...และไดเอทอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะมันคือด่านสุดท้ายก่อนที่จะถึงจุดหมายที่เขารอคอยมานานแสนนาน ใน 1 วัน เขาจะออกวิ่ง 1 ชั่วโมง อาหารทั้ง 3 มื้อนั้นเป็นเดนจังชีเกกับข้าวครึ่งถ้วย ... รสชาติมันช่างจืดชืดและยังคงติดลิ้น ยากที่จะลืม และในที่สุด วันที่เขารอคอยมานานแสนนานก็มาถึง ซองมินจึงพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะยืนอยู่บนเวทีได้โดยที่ไม่ประหม่า จากเด็กหนุ่มที่เคยทำตัวเหมือนท่อนไม้ที่ไร้ตัวตน เขาพยายามเป็นอย่างมากที่จะแสดงออกและทำให้ผู้คนหันมาสนใจเขา ... พยายามอยู่อย่างนั้น ในช่วงแรก มันอาจจะฝืนอยู่บ้างที่ต้องมาทำตัวโอเว่อร์แอ็คติ้ง ทั้ง ๆ ที่นิสัยจริง ๆ ของเขามันไม่ใช่ ... แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็รู้สึกสนุกกับมันและมันก็ติดเป็นนิสัยของเขาไปเสียแล้วที่เมื่อเจอแฟนคลับผู้หญิง เขาจะต้องทำตัวน่ารักโดยอัตโนมัติ ซองมินกลายเป็นคนที่มี 2 บุคลิกในตัวเอง และบางที เขาเองก็ยังนึกสับสนกับตัวเองอยู่ว่าทุกวันนี้ นิสัยที่แท้จริงของเขานั้นคืออะไร แต่ด้วยภาพลักษณ์ที่ออกมานั้นดูเป็นเด็กที่น่ารักในสายตาแฟน ๆ เขาจึงรู้สึกว่า เขาควรจะน่ารักเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ... และเกิดความรู้สึกว่า "ไม่อยากโต ไม่อยากแก่" ... เมื่อก่อน ซองมินค่อนข้างจะเคร่งเรื่องอาวุโสอยู่มาก รุ่นน้องทุกคนจะต้องเรียกเขาว่าพี่ ... แต่ปัจจุบันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแค่เพียงซีวอนหลุดปากพูดว่า "พี่ซองมิน" เขาก็จะหันไปจ้องตาแทบถลนโดยทันที ... เขายังอยากเป็นเด็กน้อยน่ารักในสายตาแฟน ๆ แต่สำหรับแฟนคลับสาว ๆ ที่อายุมากกว่าเขา เขาจะตามใจพวกเธอมาก หากใครที่อายุมากกว่า แต่ถ้ามันจะมีความสุขหากเธอได้เรียกเขาว่า Oppa ... ซองมินก็ยินยอมที่จะเป็นให้กับเธอ และในเวลาว่าง หากอยู่ที่อพาร์ตเมนท์ หน้าที่ประจำของเขาก็มักจะเป็นพ่อครัวประจำบ้าน เนื่องจากในหอพักนั้น (คนละหอกับฮันคยอง) มีเพียงเขาที่ทำอาหารได้อร่อยที่สุด จึงมักจะเป็นคนคอยทำอาหารให้คนอื่น ๆ รับประทาน และในหลาย ๆ ครั้ง ก็มักจะหาเมนูใหม่ ๆ มาลองทำ ซึ่งโดยส่วนมากก็คงจะหนีไม่พ้น อาหารจำพวก ฟักทอง ... และเหยื่อประจำที่จะโดนเป็นหนูทดลองก็คือ ชินดง นิสัยของซองมินนั้นค่อนข้างจะขี้จุกจิกและขี้บ่น เนื่องจากเขาคลุกคลีอยู่กับแม่มาก จึงติดนิสัยของผู้หญิงมา ... และนิสัยพวกนี้นี่เอง ที่สามารถทำให้จอมโหดของวงอย่างคังอินนั้นขยาดได้ เพราะคังอินสามารถต่อกลอนได้กับทุกคน เว้นแค่เพียงซองมินที่เขาจะพยายามหลีกหนีให้ไกลที่สุด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จงอุน (เยซอง) กับรยออุค นั้นหยอกกันเล่น โดยวิ่งไล่กันไปบนที่นอนของสมาชิกทุกคน แต่ความซวยก็บังเกิดขึ้น เมื่อเตียงนั้นดันหักลง และเป็นเตียงของซองมินพอดี ... คำแรกที่คังอินพูดก็คือ "หักที่เตียงใครไม่หัก ..พวกนาย 2 คนอยู่รับกรรมไปก็แล้วกัน ชั้นเผ่นก่อนล่ะ" ... และก็เป็นไปตามคาด ทั้งรยออุคและเยซองถูกบ่นกันเสียจนหูชา และอีกคนที่เคยเจอมากับตัวก็คือชินดง ที่เผลอไปแกล้งซองมินเข้าและเขาก็ไม่พอใจ จึงกลายเป็นว่า วันนั้นทั้งวันที่ชินดงโดนซองมินบ่น และต่อให้เขาเดินหนี ซองมินก็ยังคงเดินตามเพื่อที่จะบ่น ทำเอาเจ้าหมูน้อยถึงกับประสาทกินเลยทีเดียว และด้วยความที่เขาชอบสีชมพูมาก เมื่อมีแฟนคลับนำของมาให้ สมาชิกทุกคนก็มักจะนำของมากองรวมกันเพื่อที่จะแยกว่าของใครเป็นของใคร แต่ถ้าหากมีของชิ้นใดที่สีชมพู ซองมินจะรีบคว้ามาหอบเอาไว้ในทันที โดยไม่สนว่าจะเป็นของชนิดไหนหรือว่าเป็นของใคร และเพื่อน ๆ ในวงก็รู้ดีว่าสีชมพูนั้นจะต้องยกให้กับซองมินเพียงผู้เดียว ซองมินค่อนข้างจะขี้น้อยใจและหวั่นไหวง่ายกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับแฟนคลับ เขาจึงมักจะถูกเพื่อน ๆ แกล้งล้ออยู่เสมอว่า "ระวังแฟน ๆ ไม่รัก" ... และมันจะกระทบต่อสภาพจิตใจของเขาได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าหากโดนอำหรือโดนล้อเรื่องนี้หนัก ๆ เข้า น้ำตาก็พาลจะไหลเอาง่าย ๆ เมื่อมีเวลาว่างจากงาน ซองมินจะรีบกลับบ้านทุกครั้ง เพราะบ้านของเขานั้นอยู่ห่างจากที่พักไม่มาก และสามารถไปกลับได้ในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ สิ่งที่เขาชื่นชอบมาก นอกจากการทำอาหารและศิลปะการต่อสู้แบบจีน ก็คือ การถ่ายรูป โดยจะมีกล้องส่วนตัวที่มักจะพกไปไหนมาไหนด้วยตลอด และคอยเก็บภาพประทับใจจากที่ต่าง ๆ เอาไว้ รวมถึงภาพแฟนคลับในแต่ละที่ที่เขาไปด้วย แม้ว่าเมื่อก่อน กระต่ายน้อยจะเป็นเช่นไร ... แต่สิ่งที่เขาพยายามก็ได้ประสบความสำเร็จแล้ว การพยายามปรับเปลี่ยนบุคลิกของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็พยายามจนสำเร็จ หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นซองมินในเวลาที่เคร่งขรึม ไร้รอยยิ้ม และเหม่อลอย .. นั่นคืออีกหนึ่งตัวตนที่แท้จริง เป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กของเขา แต่ในเวลาที่เขายิ้ม เขาร่าเริง และทำตัวน่ารัก ๆ เขาก็ไม่ได้เสแสร้งเช่นกัน ในเมื่อเขาพยายามจะน่ารัก เพื่อให้พวกเราได้รัก ... ดังนั้น ก็ควรรักเขาให้มาก ๆ ... กระต่ายน้อยสีชมพู Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:48:06

ความคิดเห็นที่ 30 ::: เส้นทางสายชีวิตของอึนฮยอก ::: ในช่วงอายุ 10-11 ปี เขาได้รู้ถึงความต้องการของตัวเองแล้ว ว่าเขาอยากจะเป็นศิลปิน!!! ฮยอกแจ คือ ชื่อจริงของเขาคนนี้ หนุ่มน้อยขี้เล่นและร่าเริงของซูเปอร์จูเนียร์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดงามของวง เขาก็คือ "อึนฮยอก" หนุ่มแดนซ์ขาแร็พอีกคนของวงนั้นเอง เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วที่ฮยอกแจนั้นชอบการแสดงและก็เริ่มหัดเต้น เขาเริ่มที่จะหัดเต้นตั้งแต่อยู่ชั้นประถมปีที่ 3 เขาชื่นชอบที่จะกางแขนกางขาไปตามจังหวะ เขารู้แค่เพียงว่าเขาชอบที่จะทำแบบนั้น แม้ว่าในทุก ๆ วันเขาจะต้องเจ็บตัว เนื่องจากไม่มีพื้นฐานในการเต้น หนำซ้ำก็ยังมีอีกหลายต่อหลายครั้งที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะการเต้น แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้ความพยายามของเขานั้นลดลงเลย เขาพยายามที่จะหัดเต้นแบบนั้นอยู่ถึง 2 ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง มีการแข่งขันฟุตบอลกับห้องเรียนข้าง ๆ ในช่วงที่อยู่ชั้นประถมปีที่ 5 วันนั้นเองที่เขาได้พบกับเด็กผู้ชายที่ใส่กางเกงสีดำที่ดึงขึ้นสูง สวมเสื้อลายมิกกี้เม้าส์สีแดง และเตะบอลได้ยอดแย่ที่สุด ความประทับใจแรกที่พบกันก็คือ ภาพที่เด็กคนนั้นกำลังตกจากชิงช้า... และเด็กคนนั้น มีชื่อว่า จุนซู (TVXQ) เพื่อนของเขาเล่าเรื่องจุนซูให้ฟังว่าชอบเต้นเหมือน ๆ กับเขา และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่สนใจในการเต้นและฟุตบอลเหมือน ๆ กัน ฮยอกและจุนซูนั้นเรียนคนละห้องในชั้นประถม แต่ก็เป็นห้องที่ติดกัน ... และนั้นมันก็ทำให้ทั้งคู่เริ่มที่จะฝึกซ้อมทักษะด้านการเต้นให้มากขึ้น และพวกเขาก็ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 2 คน ฝึกร้องเพลงและเต้นตามเพลงของวง H.O.T เรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่ของฮยอกแจได้เรียกเขาไปคุยในเรื่องการเรียน เพราะเกรดของเขานั้นแย่ลง แต่เมื่อเขาบอกออกไปว่าเขาต้องการที่จะเป็นนักร้อง แน่นอนว่าถูกแม่ดุกลับมาเสียจนหน้าซีด เพราะสิ่งที่แม่ของเขาต้องการก็คือ การเห็นลูกชายเพียงคนเดียวตั้งใจเรียนและนำเกรดสวย ๆ กลับมาฝากที่บ้านในช่วงปลายเทอม แต่ดูเหมือนสิ่งที่แม่ของเขาบอกจะไม่เป็นผล เพราะตั้งแต่เริ่มฝึกซ้อม คะแนนของฮยอกแจก็เริ่มที่จะดิ่งลงเหวจนเกือบจะลงไปนรก เป็นเรื่องถึงกรรมการนักเรียนที่ต้องเชิญผู้ปกครองมาพบ และครั้งนี้ทั้งพ่อและแม่ของเขาก็ขอร้องให้เขาหันกลับมาสนในการเรียนให้มากขึ้น และล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นนักร้องเสียที ... แต่บังเอิญที่คติประจำใจของเขาคือ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องทำให้จนได้ ... แน่นอนว่า เขาไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจที่มีมาตั้งแต่แรกลงง่าย ๆ ในช่วงที่ยังเรียนมัธยมอยู่นั้น ทั้งฮยอกแจและจุนซูได้ขึ้นเวทีประกวดด้วยกันอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งคู่เป็นเด็กกิจกรรมตัวยงของโรงเรียน แทบทุกครั้งที่มีงาน พวกเขาก็มักจะขึ้นไปปรากฏกายอยู่บนเวทีเสมอ ๆ จนกระทั่งในวันที่มีการแสดงมาถึง เขาและจุนซูต่างก็ขึ้นเวทีด้วยกันในฐานะเพื่อนร่วมวง ในวันนั้นเองที่แม่ได้มาร่วมงานและดูการแสดงของเขา ... จากตอนแรกที่แค่ตื่นเต้น เมื่อเห็นว่าแม่มาดูด้วย ฮยอกแจก็ถึงกับสั่น แต่เขาก็ทำมันออกมาได้ดี และในวันนั้นเองที่ฮยอกแจได้เปลี่ยนความคิดของแม่ที่เคยคัดค้านเขาให้กลายมาเป็นแฟนคลับคนแรกของเขาได้ ในช่วงมัธยมต้น ฮยอกแจและจุนซูได้มาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกัน มันทำให้เขาทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น และด้วยความฝันที่เหมือนกัน ในวันหนึ่งจุนซูก็เดินเข้ามาบอกว่า เขาจะไปออดิชั่น ในปีนั้นเอง ฮยอกแจและจุนซูได้เข้าออดิชั่นพร้อมกัน แต่มีเพียงจุนซูเท่านั้นที่ผ่านการออดิชั่นไปก่อน มันทำให้จุนซูรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก เพราะเขาคิดว่าเขาทิ้งฮยอกแจ แต่ฮยอกแจกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาได้กลับมาฝึกหัดตัวเองอีกครั้งและได้ผ่านการออดิชั่นตามจุนซูไปเป็นศิลปินฝึกหัดในปีต่อมา พวกเขาได้ฝึกซ้อมกันที่ห้องใต้ดินของบริษัท ในช่วงนั้นก็มียุนโฮ(TVXQ) ซองมิน ทงแฮ จุนซู จองซู และเขาที่สนิทกัน เพราะต้องซ้อมด้วยกันหลังเลิกเรียนไปจนดึกทุกวัน แต่ด้วยความซนของเด็กหนุ่มวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ พวกเขาก็ได้สร้างวีรกรรมและความวุ่นวายเอาไว้มากมาย และก็โดนดุไปอีกหลายครั้ง นั่นคือความทรงจำดี ๆ ในระหว่างการเป็นศิลปินฝึกหัด เมื่ออยู่ที่โรงเรียน ฮยอกแจได้ยินคำพูดวิจารณ์เขาต่าง ๆ นานา เพราะส่วนมากคนในโรงเรียนนั้นไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถเป็นนักร้องได้ หลากคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ ได้สร้างบาดแผลมากมายให้กับเขา แม้ว่าจะทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ทุกคำที่ออกมาจากปากคนรอบข้าง มันดังก้องไปในหัวของเขา ... ฮยอกแจจึงตั้งใจเอาไว้ ว่าเขาจะต้องเป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยมให้ได้ จึงพยายามฝึกซ้อมให้หนักขึ้นในแต่ละวัน เป็นเช่นนั้นเรื่อยมา ในระหว่างการเป็นศิลปินฝึกหัด ฮยอกแจและจุนซูได้ขอร้องทางผู้ใหญ่เพื่อให้เขาได้ร่วมวงเดียวกัน และด้วยมิตรภาพของทั้งคู่นี้เอง ที่ทำให้ผู้จัดการใจอ่อนและยอมให้เขาทั้งคู่ รวมไปถึงซองมิน จัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเป็นโปรเจ็ควง R&B ชื่อว่า "Danaeb" และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ความสัมพันธ์ของฮยอกแจและซองมินนั้นแ่น่นแฟ้นขึ้น ฮยอกแจค่อนข้างเป็นห่วงซองมินมาก เพราะซองมินเป็นคนแรก ๆ ที่เขาได้พบในช่วงที่เข้าบริษัทมาใหม่ ๆ ในหลาย ๆ ครั้งหลังจากที่ฝึกซ้อมเสร็จ เขาจะต้องนั่งรถเมล์ไปส่งซองมินที่บ้าน ซึ่งต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง ในขณะที่บ้านของเขานั้นใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น แต่เนื่องจากช่วงนั้น จุนซูได้เกิดอาการเสียงแตกจนไม่สามารถร้องเพลงได้ โปรเจ็คนี้จึงต้องล้มเลิกไปในที่สุด แต่ความสัมพันธ์ของซองมินและฮยอกแจก็ยังคงแน่นแฟ้นอยู่เช่นเดิม หลังจากนั้น ฮยอกแจก็ถูกวางตัวให้เป็นศิลปินคู่กับทงแฮ โดยใช้ชื่อว่า OK จึงทำให้ทั้งคู่ที่เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนั้นมีความสนิทสนมกันมากขึ้นจากเดิม ... และก็อีกเช่นเคย มันถูกยุบไปในเวลาไม่นานนัก แม้ว่าฮยอกแจจะต้องการที่จะเดบิวต์มาก แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ความเป็นห่วงในตัวของเพื่อนรัก เพราะเขากลัวว่าจุนซูจะไม่สามารถกลับมาร้องเพลงได้อีก ... แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่งจุนซูและยุนโฮที่เขาสนิทก็ได้ถูกจับแยกไปเข้าร่วมโปรเจ็ควง "TVXQ" ทั้ง ๆ ที่ฮยอกแจนั้นรอแล้วรอเล่าว่าสักวันเขาจะได้เดบิวต์พร้อมกับจุนซู... แม้ว่าฮยอกแจจะยินดีกับทั้งคู่ แต่ในวูบหนึ่งของความรู้สึก มันก็อดที่จะผิดหวังไม่ได้ แต่เขาก็ไม่แสดงอาการนั้นออกมาให้จุนซูเห็น เพราะฮยอกแจรู้ดีว่าจุนซูเองก็รู้สึกผิดไม่น้อย เพราะครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่มันทำให้เขารู้สึกว่า เขาทิ้งฮยอกแจ เมื่อจุนซูได้เดบิวต์ในฐานะสมาชิกวง TVXQ และเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่ได้รับความนิยม เพลง Hug ของพวกเขาประสบความสำเร็จและติดชาร์ต ฮยอกแจนั้นทำได้แค่เพียงเฝ้าดูความสำเร็จของเพื่อน และกัดฟันอดทนฝึกฝนเรื่อยมาเพื่อที่สักวันจะถึงวันของเขาบ้าง ถึงจะยังมีความหวัง แต่ในใจลึก ๆ ก็อดกลัวไม่ได้ ว่าถ้าหากเขาไม่ได้เดบิวต์ ...จะทำเช่นไร? และหลังจากที่ฝึกซ้อมอย่างหนักมาเป็นเวลา 4 ปี ในที่สุด เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกวง Super Junior มันเป็นโอกาสที่ดีของเขาที่จะพิสูจน์ตัวเองให้คนที่เคยสบประมาทว่าเขาไม่มีทางที่จะเป็นนักร้องได้นั้นได้รู้ว่าเขาสามารถทำมันออกมาได้จริง แต่เนื่องจาก ในวงการบันเทิงของเกาหลีมีพิธีกรและดาราตลกชื่อดังคนหนึ่งชื่อว่า "อีฮยอกแจ" เช่นเดียวกับเขา ทางต้นสังกัดจึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อให้เขาใหม่ เพราะต้องการให้เขาโด่งดังด้วยความสามารถของตัวเอง แทนที่จะอาศัยชื่อที่เหมือนกับคนดังเพื่อไต่เต้าขึ้นมา และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของชื่อ "อึนฮยอก" เมื่อการฟอร์มวงซูเปอร์จูเนียร์ได้เริ่มขึ้น สมาชิกในวงที่บ้างก็สนิทกันมาก่อนแล้วและบ้างก็มีที่เพิ่งเข้ามา ก็ได้ใช้เวลาร่วมกันในการฝึกซ้อม ด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ดีและเป็นมิตรกับคนรอบข้าง หนำซ้ำยังไม่เคยคิดร้ายกับใคร จึงทำให้ฮยอกแจสามารถเข้ากับเพื่อน ๆ ในวงได้อย่างรวดเร็ว และสนิทสนมกับทุก ๆ คนได้ในระยะเวลาอันสั้น ด้วยความที่ฮยอกแจเป็นคนที่ไม่เรื่องมากและไม่ค่อยที่จะโกรธใคร เรียกได้ว่า "ยอมไปเสียหมด" นั่นเอง เพราะอะไรที่เสียสละได้ เขาก็มักจะทำมันอยู่เสมอ จึงทำให้สมาชิกในวงนั้นชอบแกล้งหยอกล้อเขาเสมอ ๆ และสิ่งที่เขาทำก็คือ การเถียงข้าง ๆ คู ๆ อยู่สักพัก หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นการนั่งอมยิ้มและยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นแทน และแม้ว่าเพื่อน ๆ ในวงจะชอบล้อเขาในเรื่องที่ว่า เขาชอบดูวิดีโอเรทเอ็กซ์ก็ตามที แต่ทุก ๆ คนก็ยังคงลงความเห็นว่าฮยอกแจเป็นคนที่บริสุทธิ์ที่สุดในวง ที่ไม่เคยคิดร้ายกับใครและเป็นคนดีของสังคม ... ซึ่งเจ้าตัวก็ได้บอกว่า "เขาไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คิด" แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในสายตาคนรอบข้างเขาก็ยังคงเป็นหนุ่มน้อยที่แสนดีอยู่เสมอ เพราะฮยอกแจนั้นรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับทุก ๆ คนอย่างเคร่งครัด ไม่เว้นแม้แต่กับ ELF ที่เขาได้เคยสัญญาว่า ถ้าหากเขามีความรัก เขาจะบอก ELF อย่างแน่นอน และเขาก็ทำอย่างนั้นจริง ๆ หลังจากที่เขาได้ตกหลุมรักผู้หญิงปริศนาคนหนึ่ง เขาก็ได้มาเขียนไว้ในไซเวิลด์ เพื่อเป็นการบอกให้ ELF รับรู้ตามสัญญาที่ให้ไว้ แต่แล้วก็กลายเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้น เขาจึงได้ลบข้อความนั้นออกจากไซเวิลด์ในเวลา 20 นาทีต่อมา ... แต่นั่นมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาให้ความสำคัญต่อคำพูดและคำสัญญาที่ให้ไว้เป็นอย่างมาก ในวันนี้ของฮยอกแจ เขาได้เดินตามความฝันมาและสามารถทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี ฝีมือการเขียนท่อนแร็พในหลาย ๆ เพลงเป็นผลงานของเขาร่วมกับชินดงและฮีชอล ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เพลง Show me your love นั่นเอง ที่พวกเขาได้ช่วยกันเขียนท่อนแร็พของเพลงด้วยกัน รวมไปถึงเพลงในซิงเกิล Super Junior-T อีกด้วย เขาพูดเสมอว่าเขาคือหนุ่มน้อยผู้เป็นเพชรที่เจิดจรัสแห่งซูเปอร์จูเนียร์ และวันนี้ เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำพูดของเขานั้นไม่ได้เกินจริงไปเลย และก็ยังมี ELF ที่จะยังคอยอยู่เคียงข้าง ช่วยผลักดันให้อัญมณีเม็ดนี้นั้นสว่างสดใสอีกนานแสนนาน Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:51:04

ความคิดเห็นที่ 31 ::: เส้นทางสายชีวิตของทงเฮ ::: ทงเฮเป็นเด็กที่หน้าตาน่ารัก ช่างพูด และช่างเอาอกเอาใจคนรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงไม่แปลกอะไรที่ใครก็ตามที่อยู่รอบตัวเขาจะหลงรักหนุ่มน้อยผู้นี้ได้ไม่ยาก ทงแฮมีพี่ชาย 1 คน ชื่อ "ทงฮวา" ซึ่งเขาบอกว่า ทงฮวาเก่งกว่าเขา ฉลาดกว่าเขา และพ่อแม่ก็รักทงฮวามากกว่าเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเขาต่างหากที่พ่อแม่รักและตามใจมากกว่าทงฮวาเป็นไหน ๆ ไม่ว่าจะอยากได้อะไร ทงแฮก็จะได้มันมาอย่างง่ายดาย ผิดกับทงฮวาที่ต้องเก็บเงินซื้อเอาเอง เขาค่อนข้างที่จะสนิทกับพี่ชายค่อนข้างมากและทงแฮก็เคยพูดเอาไว้ว่าเพื่อนแท้ของเขา ก็คือ พี่ชายของเขาเอง ... เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรหรือว่าเขามีปัญหามีเรื่องทุกร้อนใด ๆ ทงฮวาก็มักจะคอยดูแลและปกป้องเขาเสมอมา นั่นอาจจะเพราะว่าเขามีกันอยู่แค่ 2 คนพี่น้อง จึงถูกสอนมาให้รักกันให้มาก ๆ นั่นเอง ครอบครัวของทงแฮไม่ได้มีฐานะดีมากนัก จัดว่าเป็นครอบครัวที่ฐานะปานกลางของเกาหลี พ่อของเขาเป็นคนขับรถแท็กซี่ ส่วนแม่ของเขาในช่วงนั้นก็เป็นแม่ค้าขายปลา (หรืออะไรนี่แหละที่เกี่ยวกับปลา) แต่พ่อแม่ของเขาก็สนับสนุนความฝันของลูกชายคนเล็กเสมอมา เพราะทงฮวานั้นค่อนข้างเรียนเก่งมาก (และได้ข่าวว่าเขาได้ทุนไปเรียนต่อด้านการแพทย์ที่ต่างประเทศ) และน่าจะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีในอนาคตได้ เหลือเพียงแค่ทงแฮเท่านั้น และเมื่อเขามีความฝันที่ต้องการจะทำ ทั้งพ่อ แม่ และพี่ชาย จึงไม่มีใครคัดค้านเขา ในตอนเด็ก ๆ ทงแฮมีความฝันอยากจะเป็นนักกีฬา แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ชอบที่จะเต้นให้พ่อดูอยู่บ่อย ๆ พ่อเขาจึงบอกให้เขาเข้าวงการบันเทิง แต่ในตอนนั้น เขาก็ยืนยันในคำตอบที่ว่า "อยากเป็นนักกีฬา" จนกระทั่งเข้าเรียนชั้น ม.1 ก็ได้เห็นประกาศออดิชั่นบนปกเทป ความฝันอยากเป็นศิลปินมันจึงเริ่มผุดขึ้นมาในความคิดของเขา และเมื่อเขาบอกพ่อในเรื่องนี้ พ่อของเขาก็ให้เงินมาและสนับสนุนลูกชายคนนี้อย่างเต็มที่ ทงแฮหัดกีตาร์มาตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มจากการยืมของเพื่อนมาหัด จนกระทั่งมีกีตาร์เป็นของตัวเอง และในวันหนึ่ง เขาก็เดินทางมาที่โซลเพื่อออดิชั่นเป็นศิลปินฝึกหัดของ SM Entertainment ในรายการ SM Youngster contest การประกวดครั้งนี้ มีศิลปินหลายคนของ SM ในปัจจุบันที่ร่วมประกวดด้วย ทงแฮได้รางวัลชนะเลิศสาขา Most handsome และ Best of the best เนื่องจากมีหน้าตาที่น่ารักและความสามารถที่ค่อนข้างโดดเด่นนั่นเอง การที่ได้เป็นศิลปินฝึกหัด ทำให้ทงแฮต้องออกมาเช่าหอพักอยู่ที่โซล และหยุดเรียนไปในช่วงหนึ่งเพื่อที่จะได้ฝึกฝนกับทางบริษัท เหตุนี้เอง ทำให้เขาต้องห่างจากทางบ้าน สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่การโทรศัพท์ไป เนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างห่างไกล และตารางฝึกซ้อมค่อนข้างหนัก ทำให้เขาแทบจะไม่ได้กลับบ้าน และไม่ได้เห็นหน้าครอบครัวเป็นระยะเวลาหลายปี และนี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้เขาค่อนข้างอ่อนไหวเมื่อพูดถึงคนในครอบครัวหรือคำว่าบ้าน ในช่วงแรก ทงแฮค่อนข้างสนิทกับจุนซู ฮยอกแจ อิทึก ฮีชอล และยุนโฮ เขาค่อนข้างจะนับถือยุนโฮมากกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นอันรู้กันดีว่า ทงแฮนั้นเป็นเด็กที่ค่อนข้างหัวรั้นพอสมควร แต่เขามักจะมีวิธีการพูดที่น่ารักแทนที่จะโวยวายเอาแต่ใจ เมื่อใดที่เขาโมโห คนรอบข้างส่วนมากมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเป็นตัวอันตรายและไม่ใช่คน คงมีเพียงยุนโฮเท่านั้นที่จะสามารถปราบเด็กน้อยผู้นี้ได้อยู่หมัด ด้วยความที่อยู่ตัวคนเดียวในเมืองใหญ่ การใช้ชีวิตของทงแฮจึงค่อนข้างลำบาก เมื่อเทียบกับเวลาอยู่ที่บ้าน เพราะที่นั่นมันเหมือนกับว่าเขาเป็นเจ้าชายน้อยของพ่อและแม่ แต่ในโซล .. เขาเป็นแค่เด็กชายคนหนึ่งที่เช่าบ้านพักอยู่กับพี่ชาย 2 คนอย่างฮีชอลและยุนโฮ (หลังจากที่เคยอยู่คนเดียวมาก่อนหน้า) โดยหน้าที่ของเขานั้นก็คือการทำความสะอาดบ้านในฐานะน้องเล็ก ส่วนการใช้จ่ายเงินของเขานั้นก็ต้องควบคุมเองและต้องใช้อย่างประหยัด หลังจากฝึกซ้อมในแต่ละวัน ซึ่งเป็นไปอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทงแฮจะไปเดินเล่นหรือทานอาหารพร้อมกับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นศิลปินฝึกหัดด้วยกัน ด้วยความที่เขาค่อนข้างที่จะตัวเล็ก หน้าตาน่ารักและขี้แย จึงทำให้ฮยอกแจและจุนซูมักจะชอบแกล้งอยู่เสมอ ๆ และทำให้เขาต้องร้องไห้อยู่บ่อย ๆ แต่นั่นมันกลับทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาในฐานะเพื่อนยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น การฝึกฝนในฐานะศิลปินฝึกหัดของทงแฮค่อนข้างหนัก มีหลายต่อหลายครั้งที่เขานึกอยากจะวิ่งกลับไปที่บ้านด้วยความคิดถึงครอบครัว แต่เพื่อความฝัน ทงแฮจึงต้องอดทนและดูแลตัวเองเรื่อยมา จากที่เคยเป็นเด็กน้อยที่ขี้แย ทงแฮเริ่มเข้มแข็งขึ้นทีละนิด เขาต้องดูแลตัวเอง ความคิดจึงเริ่มโตขึ้นทีละน้อย แต่ทว่าความน่ารักที่เคยมีมาก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปพูดกับฮีชอลได้ในเวลาที่โมโห แต่ทงแฮก็เป็นหนึ่งคนนั้นที่สามารถเข้าไปพูดคุยกับฮีชอลได้โดยดี และไม่ถูกตะเพิดออกมา ก่อนที่จะมีการเดบิวต์นั้น ทงแฮได้เคยร่วมทีกับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นศิลปินฝึกหัด อย่างฮยอกแจ จองซู และคนอื่น ๆ โดยชื่อที่เคยใช้เป็นชื่อทีมนั้นได้แ่ก่ "OK" "Smile" และ "Pricor" ในการฟอร์มวงซูเปอร์จูเนียร์ ทงแฮก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินฝึกหัดที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในวงนี้ เขาค่อนข้างดีใจมาก เพราะความพยายามที่มีมาหลายปีได้เห็นผลแล้ว ทงแฮจึงทุ่มเทเวลาที่มีเพื่อซ้อมเต้น และหัดร้องเพลงให้มากขึ้น เนื่องจากปกติเขาเป็นคนที่เสียงดี แต่ร้องเพลงเพี้ยน จึงเป็นการบ้านข้อใหญ่ของหนุ่มน้อยผู้นี้ ที่ต้องไปหัดร้องเพลงให้ออกมาดีให้ได้ และในการฟอร์มวงนั้นเอง ทำให้ทงแฮได้พบกับคิบอม เพื่อนใหม่ที่มาจากอเมริกา เขาค่อนข้างที่จะถูกชะตากับเพื่อนใหม่คนนี้มาก ด้วยเหตุที่ทั้งคู่มักจะไปเจอกันโดยบังเอิญที่ห้องซ้อมของบริษัทในช่วงดึก เพราะต่างคนต่างนอนไม่หลับ จึงทำให้พวกเขาได้เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น แต่เพราะคิบอมค่อนข้างพูดน้อย เขาจึงจำเป็นต้องเป็นฝ่ายเข้างไปตีสนิทและชวนคุย นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จนกลายเป็นเพื่อนรักที่แค่เพียงมองตาก็เข้าใจอย่างเช่นทุกวันนี้ เพราะในหลาย ๆ ครั้งที่มีแฟนเพลงให้ของมา และเขาไม่ได้รับมาเพื่อตัวเอง แต่กลับรับมาเพื่อเอามาให้คิบอมเนื่องจากรู้ว่าคิบอมต้องชอบ ทุกครั้งที่มีปัญหา คนที่ทงแฮมักจะคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ รองจากทางบ้านแล้วก็คือ คิบอม ทุกครั้งที่เขาไม่สบายใจ ทงแฮก็มักจะไปขลุกตัวอยู่ที่หอพักของคิบอม และนั่งคุยกันจนถึงเช้า หรือจนกว่าเขาจะรู้สึกดีขึ้น ด้วยความที่ทงแฮเป็นคนขี้เล่น ในการตอบคำถามของเขาหลาย ๆ ครั้ง ก็มักจะตอบไปตามอารมณ์มากกว่าจะตอบไปตามความเป็นจริง เมื่อก่อนทงแฮเคยคิดที่จะลองสูบบุหรี่ แต่เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงในชีวิต เขาก็ไม่คิดจะแตะมันอีกเลย มรสุมครั้งใหญ่ของทงแฮเกิดเมื่อพ่อของเขาป่วยหนัก แต่เนื่องจากตารางงานนั้นค่อนข้างแน่น ทำให้ทงแฮไม่มีเวลาว่างไปเฝ้าพ่อของเขาได้เลย สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่นั่งภาวนาให้พ่อหายดี เพราะพ่อคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ตลอดช่วงเวลาที่พ่อนอนอยู่ที่โรงพยายาล ทงแฮจะโทร.ไปถามอาการทุก ๆ วัน และในวันที่อาการทรุด เขากระวนกระวายมาก เนื่องจากวันนั้นมีงาน สิ่งที่ทำได้ก็คือ พยายามรีบทำงานให้เสร็จ เพื่อที่จะเดินทางกลับไปเยี่ยมพ่อที่ต่างจังหวัด ... แต่พ่อก็รอเขาไม่ไหว ทงแฮกลับไปถึงเมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว มันคือความรู้สึกผิดอันใหญ่หลวงที่ประทับอยู่ในใจของเขา ลึก ๆ ในใจของทงแฮค่อนข้างเจ็บปวด ในวูบหนึ่งของความคิด เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาบอกว่า "คือความฝัน" มันคือทางเลือกที่ผิดหรือเปล่า เพราะไม่เช่นนั้น ในวันนี้ เขาคงได้อยู่กับพ่อ ได้พูดคุยกับพ่อ ก่อนที่จะไม่มีเวลาเหลืออีก เพราะพ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ปอด ทงแฮจึงฝังใจและเกลียดบุหรี่ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เขาสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่แตะต้องบุหรี่อีกต่อไป แต่ความทุกข์ระทมกลับยังไม่จบสิ้น 2 วันต่อมา หลังจากที่ซูเปอร์จูเนียร์เดินทางกลับจากงานศพของพ่อของเขา ฮีชอล พี่ชายอีกคนที่เขารักมาก ก็กลับมาประสบอุบัติเหตุอีกคน ทำให้ความสับสนถาโถมเข้ามาในหัวของทงแฮมากมาย เป็นไปไม่ได้ ... ที่เขาจะไม่คิดโทษตัวเอง ทงแฮค่อย ๆ มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นหลังจากนั้น เขาพยายามทำตัวเข้มแข็ง และร้องไห้ให้น้อยลง แต่แล้วก็ต้องทรุดอีกรอบในวันที่ยุนโฮ พี่ชายสุดที่รักของเขาถูกแอนตี้แฟนทำร้ายนั้นคือวันเกิดของเขาเอง แน่นอนว่ามันเป็นวันเกิดปีที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของทงแฮ วันเกิดที่เขาไม่มีพ่อ วันเกิดที่พี่ชายหนึ่งคนต้องนอนพักรักษาตัว และวันเกิดที่พี่ชายที่รักและเคารพมาโดนทำร้าย ทุกเหตุการณ์มันเชื่อมโยงมาที่ตัวของทงแฮอย่างเลี่ยงไม่ได้ ... หรือเพราะเขาเป็นตัวซวย? แทบทุกคนมุ่งความสนใจไปที่อาการของยุนโฮ จนแทบจะลืมกันไปว่าวันนี้คือวันเกิดของทงแฮ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่มีกะจิตกะใจจะฉลองวันเกิดกับใครเหมือนกัน ในวันนั้น ทงแฮได้ออกไปพบกับคิบอมและไปอยู่ที่หอพักของคิบอมจนกระทั่งเช้า เพราะว่าเขาไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ในช่วงเวลาเช่นนี้ แต่ทุก ๆ อย่างก็เริ่มดีขึ้นอีกครั้ง ฟ้าหลังฝนนั้นเริ่มสดใสขึ้น ทงแฮกลับมาเป็นเด็กร่าเริงตามปกติ หลังจากที่ชีวิตพบแต่เรื่องเลวร้ายมานาน เขาได้เลิกกับเจสสิก้าที่เคยคบหากันมาในช่วงก่อนเดบิวต์ จนกระทั่งเดบิวต์แล้วในช่วงแรก ซึ่งก็เคยมีภาพจูบกันออกมาตำตาตำใจแฟนคลับ แต่ภายหลังก็ได้รับการยืนยันมาจากทางนักข่าวเกาหลีแล้วว่า นั้นไม่ใช่รูปของทงแฮแต่อย่างใด เป็นแค่เพียงคนที่หน้าตาด้านข้างคล้ายเขาเพียงเท่านั้นเอง ทั้งคู่คบกันเรื่อยมา และดี ๆ เลิก ๆ กันอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เลิกรากันด้วยดี และคงไม่มีทางหวนกลับไปอีก เพราะว่าครั้งนี้ ฝ่ายหญิงนั้นยืนยันหนักแน่น และเป็นฝ่ายที่บอกเลิกเองด้วย ทงแฮกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ในวันหนึ่ง ๆ ก็มีแค่เพียงงานกับเพื่อนร่วมวง ทุก ๆ อย่างเหมือนจะลงตัว จนกระทั่งมีเหตุการณ์ที่เขาหลุดปากต่อว่าแฟนคลับที่จีนด้วยคำพูดที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้น ทำให้เขาถูกพักงานชั่วคราว เพื่อให้มีเวลาได้ทบทวนถึงการกระทำที่ตัวเองทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และเพราะเป็นคนใจร้อน ทำให้เขาไม่ทันยั้งคิดอะไรนั่นเองที่ทำให้ทงแฮต้องกลับมาเครียดและรู้สึกแย่อีกครั้ง แม้ว่าจะได้รับกำลังใจจากเพื่อน ๆ ในวงและ ELF แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดอยู่เช่นเดิม และเคราะห์ก็ซ้ำอีกระลอก เมื่อสมาชิกในวงเกิดอุบัติเหตุ สภาพจิตใจที่ไม่ค่อยดีของทงแฮก็กลับมาย่ำแย่อีกครั้ง เขาไม่สามารถออกไปไหนได้เลย แม้แต่จะออกไปเยี่ยมคยูฮยอน ก็ยังถูกห้าม มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานของทงแฮ แต่ในวันนี้ เรื่องราวทุก ๆ อย่างเหลือแค่เพียงความทรงจำ ... ปลาน้อยปิรันย่าก็ยังคงร่าเริงและสดใส แม้จะมีบางครั้งที่เขาอาจทำตัวไม่ดีไปบ้าง แต่มันไม่ก็ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ และก็ยังมีคนที่พร้อมจะรักและให้อภัยเขาเสมอ รอยยิ้มสดใสของผู้ชายที่ชื่อ "อีทงแฮ" จะยังคงอยู่และไม่เลือนหาย ตราบใดที่ยังมี ELF คอยเคียงข้าง Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 23:01:02

ความคิดเห็นที่ 32 ::: เส้นทางสายชีวิตของชีวอน ::: ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าฐานะทางบ้านของสมาชิกรายนี้นั้นเป็นเช่นไร ดังนั้นถ้าหากจะเรียกเขาว่า "คุณชาย" ก็คงจะเรียกได้กันอย่างเต็มปากเต็มคำ เนื่องจากธุรกิจในครอบครัวของชีวอนนั้นค่อนข้างใหญ่ โดยมีธุรกิจหลักของทางบ้านเป็นห้าง Hyundai ซึ่งถ้าหากจัดอันดับความรวยแล้วล่ะก็ ถือว่าได้เป็นอันดับที่ 2 ของเกาหลี รองมาจาก Sumsung เลยทีเดียว ชีวอนเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว เวลาส่วนมากของเขาตั้งแต่เด็กจนโต มักจะอยู่กับแม่และน้องสาวเป็นส่วนมาก แม่ของชีวอนนั้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก เขาจึงเปรียบได้ว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวอีกคนหนึ่งแทนผู้เป็นแม่ เนื่องจากคุณพ่อนั้นก็ต้องมีภาระดูแลธุรกิจอยู่ เรื่องราวในบ้านส่วนใหญ่จึงมักจะหนีไม่พ้นมือของเขาคนนี้ จึงไม่แปลกที่ทุกครั้งที่กลับจากต่างประเทศ เขาจะต้องรีบมุ่งหน้ากลับไปบ้านในทันที ชีวอนเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเข้มงวด พ่อของเขาวาดหวังเอาไว้ว่าต่อไปลูกชายคนเดียวคนนี้จะต้องรับช่วงต่อกิจการของครอบครัว แน่นอนว่าข้อนี้ เขาเองก็รู้ดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าคงหนีชะตากรรมข้อนี้ไม่พ้นอย่างแน่แท้ ชีวอนถูกส่งไปเรียนในโรงเรียนที่ค่อนข้างมีระเบียบตั้งแต่ยังเล็ก นิสัยของเขาจึงถูกขัดเกลามาให้เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพ และมีระเบียบ ซึ่งค่อนข้างต่างจากเพื่อน ๆ ร่วมวง ที่เฮฮา สบาย ๆ อะไรก็ได้ ด้วยการเลี้ยงดู ด้วยสภาพสังคม ทำให้ชีวอนค่อนข้างเป็นคนมีระเบียบ มีการวางแผนในเรื่องต่าง ๆ อยู่เสมอ แต่แทนที่เขาจะถือเนื้อถือตัวตามแบบของลูกคนรวยทั่วไป ชีวอนกลับมีนิสัยที่ติดดินอย่างเหลือเชื่อ เพราะชีวิตที่สุขสบายจนเกินไป ชีวิตเขาถูกจำกัดไว้แค่เพียง บ้าน โรงเรียน ที่เรียนพิเศษ มันทำให้เขานึกอิจฉาเพื่อน ๆ ที่สามารถใช้ชีวิตวัยรุ่นได้ตามต้องการ เขาอยากมีชีวิตเหมือนคนอื่น ๆ ชีวิตแบบคนทั่ว ๆ ไป ด้วยเหตุนี้เอง ชีวอนจึงได้แอบไปสมัครทำงานที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอน หน้าที่ของเด็กปั๊มคือการให้บริการต่าง ๆ แก่ลูกค้า เขามีความสุขมากที่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ก็ทำได้แค่เพียง 4 วัน เพราะในวันที่ 4 ระหว่างที่เขาทำงานอยู่นั้นเอง ปากเจ้ากรรมก็ดันไปขอให้ลูกค้าลดกระจกลง และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อบุคคลที่นั่งในรถนั้นคือ พ่อผู้เข้มงวดของเขาเอง ชีวอนจึงต้องลาออกจากงานในวันนั้น และถูกกักบริเวณในวันต่อมา รวมถึงถูกสอดส่องพฤติกรรมแทบจะทุกฝีก้าว แต่แม้ว่าทางบ้านจะเข้มงวดเพียงใด ก็ยังเปิดโอกาสให้เขาได้ทำอะไรในสิ่งที่ต้องการตามที่พ่อและแม่เห็นว่าสมควร ชีวอนเริ่มหัดเรียนตีกลอง เล่นเปียโน และกีตาร์ตั้งแต่เด็ก และก็ยังหัดว่า้ยน้ำ เรียนเทควันโดมาพร้อม ๆ กัน ความสามารถในด้านกีฬาของเขาค่อนข้างอย่ในระดับสูง จนสอบเทควันโดได้ในระดับสายดำ ดั้งที่ 5 นอกจากนั้นเขาก็ยังเคยแข่งขันระดับประเทศ และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มาแล้ว แน่นอนว่า ความสามารถด้านเทควันโดของชีวอนนั้นมากพอที่จะสามารถเป็นครูสอนเทควันโคเลยทีเดียว และนอกเหนือจากนี้ เขายังเล่นบาสเก็ตบอลเก่งมาก ถึงขนาดเคยเป็นนักกีฬาของโรงเรียนมาแล้วด้วย อนาคตของเขาถูกวางไว้ตั้งแต่ต้น ชีวอนมีโครงการจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลังจากที่เข้าเรียนในชั้นมัธยมปลายแล้ว ดังนั้น เขาจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อจะต้องไปใช้ชีวิตในต่างประเทศเอาไว้ แต่ในวันเปิดภาคเรียน วันแรกที่เขาเป็นนักเรียนไฮสคูลนั่นเอง ระหว่างที่เดินออกจากโรงเรียนเพื่อไปทานกัมจาทังกับเพื่อน ๆ ก็ได้มีแมวมองเดินเข้ามาติดต่อเขาพร้อมกับให้นามบัตรไว้ ก่อนหน้านั้น มันเคยเป็นเพียงความคิดเล่น ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในหัวว่า "ถ้าเขาเป็นดารา มันจะเป็นยังไงนะ" แต่มันก็ได้หายออกไปจากความคิดของเขานานแล้ว ... และก็เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อได้รับนามบัตร ชีวอนติดต่อไปยังผู้ที่ให้นามบัตรแก่เขามา และเริ่มที่จะจริงจังกับการเป็นดาราขึ้นมาแล้ว ชีวอนได้รู้ถึงกำหนดการที่จะต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นอย่างดี เขารู้ว่าพ่อของเขาเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่อยู่ และอะไรต่อมิอะไร เหลือเพียงแค่กำหนดวันออกเดินทางเพียงเท่านั้น แคนาดา 4 ปี ... ตามด้วยญี่ปุ่นอีก 4 ปี ... เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วท้องไส้ของเขาก็ปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก แต่เหมือนกับโชคเข้าข้าง เมื่อช่วงนั้นมีการเข้มงวดเรื่องวีซ่ามากขึ้น และก่อนเรียนจบชั้นมัธยมปลายก็ยังจำเป็นที่จะต้องกลับมาที่เกาหลีอีกครั้งเพื่อเรียนต่อให้จบชั้นมัธยมปลายของที่เกาหลีด้วย (ไม่งั้นจะกลับมาเรียนต่อในมหาลัยที่เกาหลีไม่ได้ หรือไงนี่แหละ) เพราะเหตุนี้ การเรียนต่อต่างประเทศของเขาจึงได้ถูกยืดเวลาออกไป และครั้งนี้ ชีวอนได้เดินเข้าไปเพื่อขอร้องพ่อของเขาอีกครั้ง แน่นอนว่ายังได้รับคำยืนยันเช่นเดิมว่า "ไม่อนุญาต" แต่เพราะความตั้งใจจริงของเขา และเขาได้ให้คำสัญญากับพ่อเอาไว้ว่าจะทำตามที่พ่อต้องการอย่างแน่นอน แต่ว่าเขาขอเลือกเส้นทางนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง ... อย่างน้อยก็ขอให้ได้ลองกับมันดูสักตั้ง พ่อเขาจึงยอมใจอ่อนให้ แต่มีข้อแม้ว่าสิ่งที่เขาเลือกนั้นคือความรับผิดชอบของเขาทั้งหมด จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทางบ้านและเขาจะต้องดูแลความประพฤติตัวเองให้ดี ไม่เช่นนั้น จะต้องออกจากวงการบันเทิงและเดินทางไปเรียนต่อตามสัญญาทันที เป็นเวลานับแรมปีที่ชีวอนพยายามขอร้องทั้งพ่อและแม่ และในที่สุดก็ได้รับอนุญาตมาด้วยความยากลำบาก และได้ออดิชั่นผ่านเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดจนได้ แต่เขาต่างจากสมาชิกในวงคนอื่น ๆ ตรงที่ส่วนมากต่างพยายามเพื่อความฝัน ความกลัวของพวกเขามีแค่ "กลัวจะไม่ได้เดบิวต์" แต่สำหรับชีวอนแล้ว เขากลัวทั้งเรื่องการไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งเรื่องที่พ่อนั้นไม่ได้อนุญาตด้วยความเต็มใจ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตในวงการบันเทิง และไหนจะกลัวเรื่องไม่ได้เดบิวต์อีก นั่นคือภาระอันยิ่งใหญ่ของเขา เพราะชีวอนต้องการที่จะพิสูจน์ให้พ่อของเขาได้เห็นว่าเขาเลือกเส้นทางที่ถูกแล้วและเขาก็ทำได้อย่างที่เขาเคยบอกเอาไว้จริง ๆ ... เขาต้องการให้พ่อยอมรับและปล่อยให้เขาเลือกทางเดินเองเสียที 1 ปีต่อมา หลังจากที่ได้เข้ามาในฐานะศิลปินฝึกหัด ชีวอนถูกส่งไปยังประเทศจีนเพียงลำพัง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้อักษรจีนแม้สักตัวเดียว กว่าเขาจะคุ้นเคยกับภาษาและแยกแยะคำได้ก็กินว่าเป็นกว่า 1 เดือน เขาพยายามเรียนรู้ภาษาจีนอย่างสุดกำลังที่มีเพื่อต้องการอยู่รอดในจีนให้ได้ ... พ่อของเขาสอนเอาไว้เสมอ ว่าการทำอะไรต้องทำให้เต็มที่ ทำให้มั่นใจว่าทำได้ แต่ถ้าหากทำไม่ได้ เรา็ก็ได้รู้ว่าเราทำมันเต็มที่แล้ว ชีวอนใช้ชีวิตอยู่ที่จีนกว่า 6 เดือน จึงได้กลับมายังเกาหลี และเมื่อกลับมา หลากคำพูดจากคนรู้จักของพ่อที่ต่างก็ทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเขาควรจะล้มเลิกความคิดที่จะเป็นดาราที่ไร้สาระ แล้วหันมาสานต่อธุรกิจครอบครัวจะดีกว่า ... คำพูดเหล่านั้นมันทำให้เขาโกรธ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และมันก็ไม่ได้ทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจที่มี มันกลับเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาพยายามมากขึ้นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว หลังจากนั้นไม่นาน ชีวอนก็ได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงด้วยละครเรื่องแรก 18-29 แม้จะไม่ใช่บทที่สำคัญอะไร แต่เขาก็ประทับใจกับงานชิ้นนี้มาก ชีวอนเปิดดูสมุดบัญชีแล้วอมยิ้มให้กับตัวเองอยู่หลายครั้ง ... มันคือเงินก้อนแรกที่เขาหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ไม่ใช่เงินที่แบมือขอจากทางบ้านมา .. และเงินก้อนนั้น เขาก็นำไปบริจาคให้กับโบสถ์ที่เขาไปประจำ เมื่อข่าวเรื่องที่เขานำเงินก้อนแรกในชีวิตไปบริจาคให้กับโบสถ์รู้ถึงหูของพ่อ มันทำให้ชีวอนแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะมันเป็นวันที่พ่อเอ่ยปากบอกว่า ภูมิใจในตัวของเขาและบอกให้เขารับผิดชอบในงานให้ดี พยายามให้มากขึ้นจากเดิม ... มันยากนักที่พ่อของเขาจะเอ่ยปากชมใคร และเมื่อได้รับกำลังใจที่เปี่ยมล้นจากพ่อแล้ว ชีวอนก็ได้ก้าวต่อด้วยความมั่นใจที่มากขึ้นจากเดิม เขาไม่ต้องกังวลกับการเรียนต่อ ไม่ต้องกังวลเรื่องที่พ่อคัดค้านอีกต่อไป แต่ลึก ๆ แล้ว เขาก็ยังคงรู้ตัวดีว่าอย่างไรก็ตามในอนาคตเขาก็ต้องกลับไปรับช่วงต่อจากพ่อและบริหารกิจการของครอบครัว ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า ชีวอนพยายามที่จะควบคุมตัวเองไว้ ในเวลาที่เพื่อน ๆ สมาชิกในวงนั้นต่างเล่นอะไรที่บ้าบอคอแตก ก็มักจะมีแค่เขาเท่านั้นที่อยู่นิ่ง ๆ รักษามาดเจ้าชายอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนทำให้ฮยอกแจนึกรำคาญแทน นั่นไม่ใช่เพราะชีวอนไม่อยากจะเล่นหรือพยายามเก็กให้ดูดี แต่เพราะความเป็นจริงแล้ว เขาไม่สมควรที่จะไปเล่นอะไรแบบนั้นมากกว่า เพราะสายตาที่จับจ้องเขาอยู่ไม่ได้มีแค่แฟนคลับ หรือคนที่ชื่นชอบผลงานของเขาเท่านั้น แต่ยังมีคนรู้จักของพ่อ แม่ รวมไปถึงอีกหลาย ๆ คนที่ร่วมธุรกิจกับทางบ้านของเขาอยู่ แน่นอนว่าเขาต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเองเอาไว้ เพราะเกรงใจพ่อในส่วนหนึ่ง และในอีกส่วนก็คือ เขาต้องพยายามทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือ เพราะมันอาจจะส่งผลต่อการทำงานของเขาในภายภาคหน้าได้ เมื่อชีวอนได้รู้ว่าเขาจะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศจีนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อร่วมถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Muk Gong เขาก็เริ่มที่จะมาคลุกคลีอยู่กับฮันคยองมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะต้องการฝึกภาษาจีนของเขาให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้สื่อสารกับคนในกองถ่ายได้เข้าใจ และด้วยความที่เขาเป็นคนมีน้ำใจ จึงมักจะคอยช่วยเหลือทั้งฮันคยองและคิบอมอยู่เสมอ ๆ เพราะเขาเข้าใจทั้งคู่ดี ที่ต้องจากบ้านมาอยู่ในต่างประเทศโดยปราศจากครอบครัว เพราะตัวของชีวอนเองนั้นก็เคยเผชิญชะตากรรมนี้มาก่อนหน้า ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี ดังนั้น อะไรที่เขาจะสามารถช่วยเพื่อนทั้งสองได้ ชีวอนก็จะไม่รีรอที่จะทำมันเลย กับเพื่อน ๆ ในวง ชีวอนนั้นมีความจริงใจให้กับทุก ๆ คน แต่ติดตรงที่ว่าการอยู่ร่วมกันในหมู่มาก จึงเกิดการชิงดีชิงเด่นกันบ้าง แต่ก็มักจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไร้สาระกันเสียมากกว่า เช่น การแย่งขนม งอนเวลาที่เพื่อนเล่นเกมแล้วไม่เรียก แข่งกันทำอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นการงอนกันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เนื่องด้วยชีวอนมักจะให้ความสำคัญกับเพื่อน ๆ สนิทกับเพื่อน ๆ ในวงทุกคน และเขาก็อยากที่จะเป็นคนสำคัญของเพื่อน ๆ เช่นกัน ดังนั้น เวลาที่มีใครมองข้ามหรือลืมเขาไป ชีวอนก็จะออกอาการงอนทันที และแน่นอนว่าคนที่มักจะโดนบ่อย ๆ ก็คือ ฮีชอลและฮันคยอง เพราะแค่เพียงลืมโทรศัพท์หาเขาเพียงเท่านั้น เขาก็จะงอนและเริ่มทำตัวงอแง (ซะงั้นน่ะ) แม้ต่อหน้าคนอื่น ๆ เขาจะดูเท่ห์และเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นสุภาพบุรุษที่อบอุ่น แต่กับฮีชอลและฮันคยองแล้ว ชีวอนมักจะชอบทำตัวเป็นเด็ก และคอยอ้อนอยู่เสมอ ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาจะไม่แสดงกริยาเช่นนั้นกับคนอื่น ๆ สักเท่าใดนัก นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่ากับพี่ชายทั้งสองแล้ว เขาสามารถที่จะทำตัวเป็นเด็กได้ นั่นเป็นเพราะเขารักและประทับใจในการดำเนินชีวิตที่ไร้กรอบ ไร้ระเบียบ สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเองของฮีชอล เพราะตัวเขาไม่มีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้นั่นเอง ฮีชอลจึงเปรียบเป็นพี่ชายที่เขาต้องปกป้องและก็เป็นฮีโร่ในการใช้ชีวิตของเขาด้วย ส่วนฮันคยองนั้นก็เปรียบเหมือนต้นแบบในความพากเพียร และมีความสามารถในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านอาหาร หลาย ๆ คน อาจจะคิดว่าชีวิตของชีวอนนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องจากทางบ้านมีฐานะที่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เป็นของนอกตัวก็อาจจะไม่สำคัญเท่ากับจิตใจ เพราะในวันนี้ ชีวอนนั้นมีความสุขที่จะอยู่ท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่มีแต่เสียงหัวเราะ และทำงานหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง มากกว่าที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับการเรียน และจมปลักอยู่กับการทำงานเพื่อธุรกิจ ... แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สักวันเขาก็คงจะต้องหันกลับไปเดินทางนั้น แต่ติดอยู่ที่ว่า มันจะช้าหรือเร็ว ก็เท่านั้นเอง Credit : Dra-cool @ SJ : Flying Together Club ll heenimthailand.com จากคุณ : silly_dog เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 23:06:04