รีวิวจากคนไม่มีความรู้และเพิ่งเคยดูหนแรกในชีวิตนะคะ
Review หงส์เหนือมังกร The Musical by aoikotori
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า นี่คือการไปชมละครเวทีครั้งแรกในชีวิต ด้วยเหตุผลหลักคือ ต้องการไปให้กำลังใจโตโน่ เหตุผลลำดับที่สองคือ อยากชมการแสดงของนักแสดงท่านอื่นๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในละครเวที อย่างแบงค์ ครูมืด หรือคุณนภาดา สุกฤต
และจากการไปสัมผัสโรงละครเวทีรัชดาลัยตั้งแต่ตอนแถลงข่าวแล้ว รู้สึกว่าระบบเสียงของโรงละคร มีส่วนทำให้ฟังเพลงเพราะขึ้น เพราะจากที่ดูตามรายการโทรทัศน์ ยังฟังแล้วไม่ค่อยอลังการเท่าตอนที่ไปดูในงานแถลงข่าวเลย
และด้วยความต้องการอรรถรสเต็มที่ จึงได้ตัดสินใจซื้อบัตรแถว D ที่ถัดมาจากแถวหน้าสุด 4 แถว เพราะเกรงว่าแถวหน้าเกิน นอกจากจ่ายเพิ่มแล้วอาจต้องแหงนคอดู 555+
รอบที่เราไปดูนั้นเป็นรอบที่มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษด้วย ในบางครั้งเลยต้องแอบชำเลืองไปอ่านอยู่บ่อยๆ แล้วมันจะมีอะไรไม่รู้มาบังจอที่ขึ้นซับอยู่ประมาณ 15% เลยเซ็งนิดๆ
ละครกว่าจะเริ่มก็ล่อไปเกือบสองทุ่ม ดังนั้น เวลาเลิกเลยเลทไปด้วย กว่าจะออกมาก็ 4 ทุ่มครึ่งล่ะค่ะ
เปิดฉากเรื่องมาอย่างตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยฉากบู๊ที่ดูมีการออกแบบมาเป็นอย่างดี และการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไวมาก
จะไม่ขอเปิดเผยเนื้อเรื่องโดยรวม แต่จะขอเล่าที่ชอบไม่ชอบบางส่วนแล้วกันนะคะ
ส่วนของนักแสดงนำ
แพท สุธาสินี
จากประวัติการเป็นเจ้าแม่มิวสิคัลมาก่อน ทำให้คุณแพทได้รับการคาดหวังสูงจากบทหลิว ซึ่งส่วนตัวถือว่าสอบผ่าน แม้ตอนที่ต้องลดวัยไปเป็นวัยรุ่น คนที่นั่งแถวไกลหน่อยคงจะดูเนียนพอใช้ได้เลยทีเดียว (จากคอสตูมอะไรต่างๆก็พอใช้ได้อยู่) เพราะการร้องเพลงหรือออกเสียงต่างๆของหลิวสมัยวัยรุ่นต่างจากตอนโตเป็นสาวแล้วพอสมควร มีการออกเสียงแบบสะบัดสะบิ้ง และเสียงจะแหลมเล็กกว่า
สำหรับฉากดราม่า รู้สึกว่าแสดงได้ดีมากๆ มีความรู้สึกสะเทือนใจและกดดันตามหลิวไปด้วยจริงๆ
และสิ่งที่เซอร์ไพรซ์สำหรับคุณแพทคือ มีฉากบู๊เยอะกว่าที่คาด แถมมีการแสดงท่าทางแบบตีลังกาอะไรกับเขาเสียด้วย!
ส่วนตัวให้คุณแพท 8/10 เพราะแสดงดีมาก แต่เรื่องร้องเพลงยังไม่ที่สุดอะ (อาจจะเพราะมีคู่เทียบด้วยก็ได้กระมัง - -)
แบงค์ (วงแคลช)
สำหรับแบงค์ ขอบอกเลยว่า บทจางเหาทำให้เราหลงรักแบงค์ 555+
ก่อนนี้ก็ไม่ได้อะไรกับแบงค์มากนะ เพราะหลังๆร้องเพลงโหยหวนมากไปหน่อยในความเห็นเรา (ส่วนตัวชอบแคลชชุดแรกมากที่สุด)
จางเหาเป็นตัวดำเนินเรื่อง และสะท้อนมุมมองแง่คิดอะไรต่างๆในเรื่องสู่ผู้ชม ทั้งเรื่องความไม่รู้จักพอ อำนาจ การแก้แค้น คำว่าพอ และอื่นๆ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนสิ่งต่างๆที่เกิดในเรื่องด้วย
บุคลิกของจางเหาที่ขรึม แต่ไม่แข็งทื่อเย็นชา มีมุมมองที่อ่อนโยน และแอบกุ๊กกิ๊กด้วยซ้ำไป
เสียงร้องของแบงค์ก็เป็นส่วนที่ประทับใจอีกส่วนหนึ่ง ฟังดูมีพลังและได้อารมณ์ มันต่างจากตอนร้องให้กับวงแคลชมาก ใครที่เคยบอกว่าฟังไม่รู้เรื่อง เราว่าเราฟังรู้เรื่องชัดเจนอยู่นะ ประทับใจอยู่ แถมแบงค์ยังร้องเพลงเยอะมากตลอดเรื่องด้วย
(ตอนนักแสดงออกมาขอบคุณช่วงท้าย อยากลุกขึ้นปรบมือให้แบงค์ด้วยซ้ำไปสิน่ะ!)
ให้แบงค์ 9/10 อีกคะแนนหักไปเพราะคิดว่าพัฒนาได้มากกว่านี้อีก รอบหลังๆอาจจะดีมากกว่านี้
โตโน่
ขอบอกเลยว่า เราเซอร์ไพรซ์กับโตโน่มากจริงๆ!
อาจจะเพราะความคาดหวังที่มีต่อนักแสดงหน้าใหม่หมาดๆ ที่ร้องเพลงเพี้ยนกระจายอยู่บนเวทีเดอะสตาร์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มันไม่มากเท่ากับคนอื่นด้วยประการหนึ่งก็ได้
แต่ก็ต้องยอมรับว่า บทตี๋เล็ก ที่ไม่จม และดูเด่นขึ้นมาเพราะว่ามันเป็นโตโน่นี่แหละ
โตโน่ถือว่าเป็นคนที่แสดงแบบมีอินเนอร์นะ ดูแล้วรู้สึกรับรู้ได้ถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ตอนเข้าฉากกับนักแสดงคนอื่นก็ดูเนียนใช้ได้ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นมือใหม่เลย ฉากบู๊ก็ถือว่าทำออกมาได้เนียนตา ซีนที่ถีบพี่แบงค์เต็มๆนี่ติดตามาก 555+
(ทั้งหมดนี่ไม่ได้อวยในฐานะกองเชียร์โตโน่นะเคอะ!!!)
แต่กระนั้น ด้วยบทด้วยแหละ ที่ทำให้เราไม่ชอบตัวละครนี้เท่าไหร่ เป็นตัวละครที่น่าสงสาร ไร้อำนาจ ไม่มีจุดมุ่งหมายชีวิต ดูแล้วไม่แปลกใจที่ไม่ได้เป็นผู้นำ เพราะขาดทุกอย่างที่ผู้นำควรมี
ส่วนที่ต้องติเลยคือ บุคลิกที่ควรปรับปรุง เพราะไอ้อาการหลังค่อมและกางแขนแบบคิงคองยังมีอยู่ตลอดเวลา -*- หรือในบทตั้งใจจะลดความสง่าของตี๋เล็กก็ไม่รู้สิ
สรุปว่า ให้ตี๋เล็ก 7/10 ตัดคะแนนบุคลิกภาพ และอีกสองคะแนนสำหรับการพัฒนา ซึ่งคิดว่าจะมีได้มากกว่านี้อีกเยอะ
ส่วนบทรองๆไปนั้น ถือว่าแสดงได้อยู่ในเกณฑ์ดีทุกท่าน สมกับเป็นนักแสดงมืออาชีพ
แต่ที่ประทับใจและเรียกว่าขโมยซีนสุดๆแม้บทจะน้อยก็ตาม คือคุณ นภาดา สุกฤต ที่พลังเสียงของเธอทำให้คนดูในโรงละครขนลุกเกรียวกันถ้วนหน้า ทั้งในฉากงานศพที่แสนจะโหยไห้ และฉากพร่ำพรรณนาหลังตี๋เล็กตายแล้ว ฟังดูแล้วรู้สึกใจจะขาดตามไปด้วยเลย
(คนนี้แหละค่ะ ที่เราว่า เป็นคู่เทียบที่ทำให้รู้สึกว่าคุณแพทยังไม่ใช่ที่สุด -*-)
ส่วนที่ชอบ
ส่วนที่ชอบที่สุดเลยคือ ฉาก อลังการงานสร้างมากค่ะ ฉากเปลี่ยนไวในเวลาไม่ถึง 1 นาทีก็กลายเป็นอีกฉากไปแล้ว แบบคนละเรื่องอะ แถมยังสวยและสมจริงอีกต่างหาก จนเราฟังธงได้เลยว่า เงินค่าบัตรของพวกเราคงไปเป็นค่าฉากสัก 80% แหงๆ -*-
การดีไซน์การร้อง การเต้นรำ และการแสดงของนักแสดงประกอบก็ลื่นไหลดี ทราบมาว่าเป็นฝีมือของพี่โจ้ ถือว่าทำได้ลื่นไหลดี
ส่วนซีนที่ชอบที่สุด คือซีน ไม่เคยมองข้ามเธอ เพลงที่ตัดออกมามีคุณแพทร้องคนเดียว แต่ตอนเล่นจริง มีโตโน่ร่วมร้องด้วย ลักษณะแบบโต้ตอบกันไปมา ดูซีนนี้แล้วน้ำตาซึมอะ ซึ้งและประทับใจ ขอบอกว่าเพลงนี้โตโน่ร้องดีกว่าไม่เคยมีใครมารักอีก เพราะและได้อารมณ์จริงๆ ตอนร้องประสานก็ไม่หลงคีย์ด้วยอะ อย่างเนียน
(อยากฟังเพลงฉากนี้อีกทำไงดี คุณบอยตัดไฟล์มาให้โหลดเวอร์ชั่นมีโตโน่ด้วยได้ไหม -*-)
อีกฉากที่ชอบคือเพลงที่จางเหาร้องเกี่ยวกับความเพียงพอ ตอนไปอยู่ชนบทกับนางเอกตอนท้ายๆ รู้สึกซึ้งและอบอุ่นดีมาก ฉากนั้นได้เสียงปรบมือจากผู้ชมด้วย
ฉากที่ชอบอีกฉากก็คือ ตอนจางเหาร้องบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ เพลงนี้แบงค์ร้องได้สุดยอดมากค่ะ
ส่วนที่ไม่ชอบ
บทบางช่วง ไม่รู้จะมีมาทำไม เช่น เลิฟซีนของตี๋เล็กที่นัวเนียบนเตียง แบบ ไม่ใช่ว่าหวงโตโน่อะไรนะ แต่รู้สึกว่าไม่เห็นจะสำคัญต่อเนื้อเรื่องเลย มีมาให้มันหวือหวาเล่นๆหรือยังไงกันก็ไม่รู้
อีกฉากก็ตอนที่ตี๋เล็กยิงคนตาย บทร้องช่วงนี้มันหยาบโลนแปลกๆ -*- รู้สึกไม่ค่อยเหมาะกับมิวสิคัลเลย ทำท่าทางแบบเล่นอวัยวะเบื้องล่างอีก ฟังดูไงไม่รู้
รวมๆแล้วชอบใจค่ะ สำหรับการดูละครเวทีเดอะมิวสิคัลครั้งแรก ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก
ให้คะแนน 8/10 เลยแล้วกันค่ะ
ใครยังไม่ได้จองบัตรก็รีบๆนะคะ ของเค้าดีจริงๆ 555+