Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Pete Best มือกลองผู้ไปไม่ถึงดวงดาว

ก่อนอื่น บทความนี้คัดลอกมาจากเวป thaiprog.net  โดยคุณ eric
ผมเห็นว่าน่าสนใจดี เลยขออนุญาตนำมาลงเพื่อเผยแพร่ครับ

----------------------------------------------------------------------


Pete Best ทำอะไรและหายไปไหนหลังจากที่ถูกเขี่ยออกจาก The Beatles อย่างไม่เป็นธรรม ความรุ่งโรจน์ที่หยุดไม่ได้ของ  The Beatles กับความปวดร้าวของ The Beatles ผู้ถูกลืม ผู้ซึ่งพลาดโอกาสความยิ่งใหญ่ในถนนดนตรีอยู่แค่เอื้อม

  พีท เบสท์ ใช้ชีวิตร่วมกับ The Beatles มาตั้งแต่จบจากไฮสคูลขณะที่ยังมีชื่อวงว่า The Silver Beatles จนกระทั่งเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ในเยอรมัน เมื่อ The Beatles กลับมาอังกฤษอีกครั้งนั้นชื่อเสียงของพวกเขานั้นก็เริ่มเป็นที่รู้กันบ้างแล้ว บุคคล 2 คนที่มีส่วนอย่างมากที่สุดในการเปิดประตูสู่ความสำเร็จก็คือ Brain Epestein และ Groge Matin ทั้งสองเป็นผู้ปูทางเดินให้กับ The Beatles และบันไดขั้นแรกที่พวกเขาทำให้กับ The Beatles ก็คือ ไล่พีทออกจากคณะ เหตุผลในขั้นแรกพวกเขาอ้างว่าระดับฝีมือของพีทไม่มีการพัฒนา ถ้าอยากให้ The Beatles มีชื่อเสียงมากกว่านี้ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือเปลี่ยนมือกลองคนใหม่ และ Ringo Starr คือคนที่เหมาะสมกว่า ริงโกรู้จักกับ The Beatles มาก่อนเมื่อตอนที่พวกเขายังหากินอยู่ในฮัมบูกร์ก ซึ่งตอนนั้น ริงโก ก็เล่นดนตรีอยู่ที่นั่นกับคณะดนตรีอีกคณะหนึ่ง และจากจุดนี้เองที่ พีท จึงจำเป็นต้องเดินออกจากวงไป
  ตั้งแต่ พีท เบสท์ ถูกอัปเปหิออกจากวง The Beatles ในปี 1962 ข่าวคราวของเขาเงียบหายไปอย่างไม่มีร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน ไม่มีใครรู้ว่าเขาเจ็บปวดเพียงไร เหตุผลที่พวกเขาหยิบยื่นมาให้นั้น มันกลายเป็นรอยบาปติดตัวเขามาตลอดมาอย่างนั้นหรือ
  ปี 1982 Bog Crane แห่งนิตยสารสำหรับผู้ชายชื่อดัง OUR ได้มีโอกาสคุยเป็นการส่วนตัว กับ พีท เบสท์ ที่ลิเวอร์พูล และเขียนลงตีพิมพ์ในนิตยสาร อุย ฉบับเดือนตุลาคมปีนั้น ตีแผ่เรื่องราวและความรู้สึกส่วนตัวของ พีท ในมุมลึกที่แท้จริงเพื่อรำลึกถึงเขา บีทเทิลส์ผู้ขมขื่น

เครน : คุณมีความรู้สึกยังไงกับการที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของพวกเขา และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการดนตรี
  พีท :  ก็รู้สึกเจ็บ แต่สองปีให้หลังผมทำใจได้ ผมได้พบกับอะไร ๆ มามาก ทั้งร้องทั้งหนาว ทั้งแต่และทั้งดี ตอนที่ผมถูกผลักออกจากวง ผมหาเหตุผลที่สมควรให้กับพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมต้องไปโดยไม่มีใครยอมบอกกับผมก่อน อาจจะเรื่องเงิน ๆทอง ๆนั่นแหละครับที่มันมีความหมายแน่นอนที่สุดไม่งั้นใครจะต้องทนลำบากกันมาจนถึงทุกวันนี้ทำไม
 
เครน  : ในช่วงหลังที่ออกมาจาก The Beatles คุณทำอะไร
  พีท     :  ผมก้พยายามประคับประคองตัวให้ถึงที่สุด หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นแล้ว ผมก็ยังคงอยู่ในธรุกิจบันเทิงนี่แหละ มันก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก็อย่างที่รู้ ๆกัน ในธุรกิจนี้คุณก็ได้แต่หวัง ผมทนอยู่ได้หกปี พอปี 1968 ผมก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าควรจะพอกับมันเสียที ถ้าขืนทำต่อไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มันยิ่งแย่ลงไปทุกที ผมก้มีครอบครัวมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูพวกเขา คุณจะทำอย่างไรเมื่อลูกเมียคุณหิว ผมก็เหมือนกับคนทั่วๆไปที่ต้องคอยปกป้องครอบครัวให้ถึงที่สุด ผมตระเวรหางานทำอยู่นาน หลายๆที่กลับหัวเราะใส่ผมเมื่อผมบอกไปว่าเคยเล่นดนตรีมาก่อน พวกนายจ้างมักจะคอกใส่หาว่าพวกผีเสื้อราตรีไม่สามารถแยกออกว่าอะไรคืองานกลางวัน อะไรคืองานกลางคืน แล้วในที่สุดผมก็กลับไปหาเส้นทางเดิมอีก ก็คืออาชีพนักดนตรีตามถนัด ผมเริ่มต้นหางานใหม่อีกครั้งด้วยการเป็นคนงานให้กับร้านขนมปังแห่งหนึ่ง ผมทำงานอย่างหนักทั้งงานล่วงเวลาและสุดสัปดาห์ และเริ่มห่างเหินจากเพื่อน ๆ เพื่อนหรือ ใช่สิเพื่อนฝูงต่าง ๆของผมในวงการที่ผมเพิ่งให้กับมันก็ค่อนข้างมองผมแปลก ๆ คุณก็ย่อมรู้ว่าคนในวงการมันเสือหิวทั้งนั้น ผลประโยชน์ของพวกเขาจะหมดลงก็เมื่อคุณตกต่ำลงนั่นแหละ แล้วคุณก็จะกลายเป็นคนสาบสูญในสายตาของพวกเขา ผมทำงานได้หนึ่งปี ผมก็เริ่มมีเงินเก็บไม่ต้องทำงานสุดสัปดาห์อีก และเริ่มคบหาเพื่อนใหม่
 
เครน : ตอนแรกก่อนที่จะเป็น The Beatles คุณไปรู้จักกับ จอห์น พอล และ จอร์จ ได้ยังไง
  พีท    : ในร้านของแม่ผมชื่อ Casbah เป็นร้านกาแฟ ตอนนั้นพวกเขาเป็นคณะดนตรีชื่อ The Quarry Men  ทั้งสามคนเล่นกีตาร์ไม่มีมือกลองก่อนหน้านั้นพวกเขามีอยู่คนหนึ่งชื่อ Ken Browns แต่ก็ต้องออกไปเพราะเข้ากันไม่ได้ พวกเขาเล่นดนตรีกันเฉพาะในคือวันเสาร์ พอเลิกเล่นที่ แคสบาห์ แล้ว พวกเขาก็ออกแสดงกับ Larry Parnes  และเปลี่ยนชื่อวงเสียใหม่เป็น The Silver Beatles ต่อจากนั้นก็ได้ไปทัวร์ในสก็อตแลนด์กับ Johny Gentle โดยได้ Stu Sutcliffe เข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วย สทิว เล่นเบสส์ และมือกลองชื่อ Tommy Moore แต่พอจบการทัวร์ครั้งนั้น ทอม ก็ลาออก ตอนนั้นผมมีวงดนตรีอยู่ก่อนแล้วชื่อ Black Jacks เล่นกันใน แคสบาห์ เหมือนกัน แต่ก็อยู่ไม่ได้นานนัก สมาชิกก็ต้องลาออกไปเรียนต่อไปในมหาวิทยาลัย แล้ว พอล ก็โทรมาหาผม เขาต้องการมือกลอง เขาเคยเห็นผมเล่นที่ แคสบาห์ และวันรุ่งขึ้นผมก็ไปลองทดสอบกับพวกเขาดู เราเล่นกันอยู่หกเพลงเราเข้ากันได้ดี หลังจากนั้นเราก็ไปเยอรมันกัน
 
เครน : อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่พวกเขาเอาคุณออกจาก The Beatles พอล อิจฉาคุณที่แฟน ๆมีความนิยมต่อคุณ ? ไบรอัน เอ็พสไตน์ มีความขัดแย้งทางด้านการเงินกับคุณ ? หรือว่า จอร์จ มาร์ติน ไม่ชอบฝีมือกลองของคุณ และต้องการเอา ริงโก เข้ามาแทน ?
  พีท   : ส่วนใหญ่ก็เป็นข่าวลือทั้งนั้นแหละ เหตุที่แท้จริงผมก็ไม่ทราบแน่ชัดนัก ทีแรกก็คิดว่าคงเป็น ไบรอัน ผมไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไรนักตอนที่เขาจะเข้ามาจัดการธุรกิจให้กับเรา ผมปฎิเสธเขาอย่างเสียงแข็ง เราคิดว่าเราจะจัดการกันเองได้ แต่ในที่สุดเขาก็เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยจนได้ เขาหว่านล้อมเราด้วยเกียรติยศ เงิน และชื่อเสียง ซึ่งมันก็คือความหวังของพวกเรา ผมขัดแย้งกับ ไบรอัน ตลอดมา พอ ไบรอัน เข้ามาเขาก็จัดการเปลี่ยนองค์ทรงเครื่องพวกเราทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา บางทีผมโต้ตอบเขาไปอย่างรุนแรนพอหนักเข้าเยาก็หาทางกำจัดผม โดยอ้างว่า จอร์จ มาติน ไม่ต้องการผม เขาจะทำให้ The Beatles ยิ่งใหญ่ แต่ผมคือจุดอ่อนของ The Beatles เขาจะเอา ริงโก สตาร์ร เข้ามาแทน เขาบอกว่า ริงโก เก่งกว่าผม ผมก็ไม่รู้ว่าเขาหมายความอย่างนั้นจริงหรือ เพราะตอนที่พวกเขาทำอัลบั้มชุดแรกก็ยังมีเรื่องวุ่น ๆ เกี่ยวกับมือกลองอยู่เลย นั่นคือเหตุผลเดียวกันกับที่พวกเขาไปอ้างใส่หูแม่ของผมที่บ้าน ทำให้ผมต้องหลีกทางให้กับพวกเขาอย่างไม่มีทางเลือก

เครน : ไอ้เรื่องวุ่น ๆของเขาตอนนั้นเป็นยังไง
พีท  : ตอนนั้นเขาทำชุด Love Me Do กันมีมือกลองสำรองอยู่อีกคนชื่อ Andy White ไวท์ เคยบอกว่าต้องการให้ผมร่วมเล่นกับเขาด้วยแต่พวกเขาไม่ยอม วันที่บันทึกเสียงกันนั้นพวกเขาก็พาเอา
ริงโก เข้าไปเล่นแทนผมเรียบร้อยแล้ว เรื่องตลกก็คือ ต่อมาภายหลังผมเพิ่งรู้ว่า จอร์จ มาตินไม่เคยรู้ความจริง
เลยว่าทำไมผมถึงถูกเขี่ยออกด้วยซ้ำ พวกนั้นเขาทำกันเองและก็หาข้ออ้างกันไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้เหตุผลบ้าบอ
ที่ว่าผมฝีมือไม่ถึงนะ่มันเป็นยังไงพวกเขาไม่เคยคุยกับผมและพูดถึงเรื่องตีกลองของผมเลยแม้แต่ครั้งเดียวจู่ ๆก็บอกขึ้นว่าผม
ไม่ได้พัฒนาฝีมือ

เครน : เขาบอกคุณอย่างไรที่จะเอาคุณออก
พีท  : รู้สึกจะเป็นคืนวันอังคาร พอจบการแสดงที่ Cavern ผมก็ขึ้นรถบัสไปกับ Neil Aspinally เพราะในคืนวันพุธ
ผมต้องไปเล่นกับวงของเขาที่ Chester Ballroom ตอนนั้นผมตะโกนเรียก จอห์น และถามว่าจะไปด้วยกันไหม จอห์น ปฎิเสธ
ตอนออกรถนั่นเองที่ ไบรอัน ก็ก้าวเข้ามาและเขาบอกว่าต้องการพบผมตอน 10 โมงเช้า ผมก็ยังไม่รุ้ว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ พอตอนเช้าผม
ก็แวะไปหาที่ออฟฟิช ท่าทาองของเขาดูกระสับกระส่ายและหวั่น ๆ ที่จะพูดกับผม แต่ในที่สุดเขาก็หลุดปากออกมาว่า "พวกเขาต้องการเอาคุณออก" แล้วผมจะมีความรู้สึกยังไงละในตอนนั้นสมองสมองผมปั่นป่วนไปหมด ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าพวกเขา
คิดเข่นนี้ตั้นแต่เมื่อไร ไบรอัน พูดต่อว่า "พวกเขาพบ ริงโก และ ริงโก เป็นมือกลองที่เยี่ยมกว่า" ผมถามต่อไปว่า "ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใหน"
เขากลับบอกมาว่า "พวกเขามอบให้ผมเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด" จากนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมันมาจากพอล พอล ถามมาว่า บอกผมแล้วหรือยัง พอ ไบรอันวางหู ผมก็ถามเขาว่า "ริงโกจะเริ่มมาเมื่อไหร่" เขาตอบว่า "วันเสาร์นี้" พระเจ้า...ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
เราเล่นดนตรีมาด้วยกัน ไต่เต้าจนมาถึงจุดนี้อย่างยากเย็น แต่สิ่งที่เขาทำกับผมมันเหมือนกับผมไม่เคยเป็นพวกเขาเลย ไม่มีแม้แต่การพูดเป็นการส่วนตัวระหว่างผมและพวกเขา แต่เขากลับส่ง ไบรอัน เป็นคนจัดการแทน

จากคุณ : KeyArNuLive
เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 03:35:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com