|
ในปี 1992 รอธแมนทำเรื่องที่นำไปสู่ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดย 1 ปีก่อน รอธแมนถูกขับออกจากการทำคดีของลูกความคนหนึ่ง เมอเรียล เมธคาล์ฟ (Muriel Metcalf) ซึ่งรอธแมนเคยทำหน้านี้เป็นตัวแทนในคดีของการดูแลและเลี้ยงดูบุตร ซึ่งภายหลัง เมธคาล์ฟ จับได้ว่า รอธแมนคิดค่าบริการเกินราคา หลังจากนั้น 4 เดือน เมธคาล์ฟไล่รอธแมนออกการทำครดี แต่ในภายหลัง รอธแมนถูกจ้างให้ทำงานเป็นตัวแทนของ บ๊อบ บรุทซ์แมน (Bob Brutzman) เพื่อนที่ไม่สนิทของเมธคาล์ฟ โดยที่ เมธคาล์ฟ ไม่ได้ระแคะระคายแต่อย่างใด รายละเอียดของคดีนี้ถูกเปิดเผย เพื่อแสดงให้เห็นว่ารอธแมนมีประสบการณ์ในการทำคดีละเมิดทางเพศในเด็กมาก่อนที่จะทำคดีของไมเคิล ในขณะที่รอธแมนยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเมธคาล์ฟอยู่นั้น เมธคาล์ฟได้กล่าวหาว่า บรุทซ์แมน ทำการล่วงละเมิดทางเพศกับลูก ๆ ของเขา (แต่บรุทซ์แมนให้การปฏิเสธ) ถึงแม้รอธแมนจะรู้เรื่องคดีของเมธคาล์ฟ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนใจจากการทำงานให้กับบริษัทของบรุทซ์แมน
ในปี 1992 รอธแมนหลบหนีจากบรรดาเจ้าหนี้ หนึ่งในนั้นคือบริษัท Folb Management ซึ่งเป็นบริษัทรับเป็นตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รอธแมนเป็นหนี้บริษัทดังกล่าวจำนวนเงิน 53,000 เหรียญ ซึ่งเป็นเงินค่าเช่ารวมดอกเบี้ยสำหรับสำนักงานของเขาบนถนน ซันเซท (sunset) เมื่อบริษัท Folb ยื่นฟ้อง รอธแมนก็ทำการฟ้องกลับ โดยอ้างว่าตึกแห่งนั้น ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเพียงพอ ในเวลากลางคืน มีโจรขึ้นไปขโมยอุปกรณ์สำนักงาน รวมมูลค่า 6,900 เหรียญ ระหว่างการพิจารณาคดี ทนายความของบริษัท Folb กล่าวต่อศาลว่า “คำพูดของคนอย่างนายรอธแมน ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะนำมาพิจารณาคดี” เดือนพฤศจิกายน 1992 บริษัทของรอธแมน ถูกฟ้องล้มละลาย โดยเจ้าหนี้ 13 ราย หนึ่งในนั้นคือ Folb Management มูลค่ารวมหนี้สินของเขาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 880,000 เหรียญ จากการตรวจสอบเอกสารล้มละลาย พบว่า รอธแมนเคยฟ้องร้องเพื่อค่าบริการทางกฎหมายจำนวน 4 แสนเหรียญจากลูกค้าคนหนึ่ง แต่ลูกค้าดังกล่าวเกิดพบว่ารอธแมนจงใจบันทึกรายละเอียดทรัพย์สินของเขา (รอธแมน) ขาดไปเป็นมูลค่า 133,000 เหรียญโดยลูกค้าคนนั้นขู่ว่าจะเปิดโปงรอธแมน “เรื่องที่เขาโกงเจ้าหนี้ของเขา” ซึ่งถือเป็นคดีอาญาที่ร้ายแรง หากรอธแมนไม่ยกเลิกการฟ้องร้อง หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง รอธแมนก็ยกเลิกการฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกค้าคนนั้น
6 เดือนก่อนหน้าที่รอธแมนจะล้มละลาย รอธแมนได้โอนกรรมสิทธิ์รถโรสรอยซ์ของเขาให้กับบริษัท มาโจ (Majo) บริษัทที่เขาตั้งขึ้นมาลอย ๆ โดยสามปีก่อนหน้านั้น เขาได้โอนกรรมสิทธิ์รถให้กับอีกบริษัทหนึ่งคือ Longridge Estate ซึ่งบริษัทลูกของ Tinao Operation บริษัทที่ถือกรรมสิทธิ์บ้านของเขา เอกสารการก่อตั้งบริษัทของรอธแมน แสดงให้เห็นว่า ทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ Longridge และ Tinao ใช้ที่ตั้งที่เดียวกันคือ 1554 ถนน Cahuenga ซึ่งท้ายที่สุดก็พบว่ามันเป็นที่ตั้งของร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง ในฮอลลีวูด
จากคุณ |
:
แอร์ริโกะ
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ต.ค. 53 20:43:46
|
|
|
|
|