ขอไล่เป็นรายเพลงไปเลยแล้วกันนะคะ
Ayyy Girl - ฟังครั้งแรกรู้สึกว่าเพลงนี้มีโน้ตประหลาดๆอยู่บ้าง โดยเฉพาะตอนท่อนฮุค
แต่คิดสภาพว่าไปเปิดในผับตอนกรึ่มๆ ตะโกน มาย คู้ลลลล, a ฟู้ลลลล คงสนุกดีไม่หยอก
ชอบท่อนแรพของ Kanye กับท่อน Ayyy Girl ที่ร้องซ้อนๆกันเป็นเสียงประสาน
แล้วก็ท่อน bridge เป็นต้นไปเพราะแอบมีใส่ adlib เข้าไปนิดนึง
แต่อย่าได้หาใจความกับเนื้อเพลงนี้มากนัก
รวมไปถึงความซ้ำไปซ้ำมาของเนื้อเพลง
สำหรับเราไม่ใช่เพลงที่ประทับใจมากมายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง แค่รู้สึกว่าติดหูได้ไม่ยาก
แต่ก็ทำภาคดนตรีได้ละเอียดดีพอสมควร
(สำหรับการฟังในหูฟัง ถ้าฟังแบบเปิดลำโพงธรรมดาจะไม่ค่อยได้ยิน)
มีเสียงออร์แกนบางๆหลอนๆอยู่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาอยู่ทั้งเพลง
รวมทั้งท่อน Ayyy Ayyy Ayyy ที่จะเพราะยิ่งขึ้นเมื่อฟังโดยใช้หูฟัง
จุดอ่อนอีกอย่างของเพลงคือการค่อยๆเบาเสียงจบ (fade out) ของเพลง
ที่ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเพลงนี้ยังไม่สมบูรณ์
Empty - ชอบการดีไซน์เสียงร้องตั้งแต่ประโยคแรก Girl, I swear ของยูชอน
(เพลงนี้แอบชอบเสียงยูชอนเป็นพิเศษตั้งแต่ต้นเพลงและท่อน bridge)
น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้แฟนๆทั้งสามคนมักจะพูดว่าขออะไรก็ได้ในอัลบั้มนี้นอกจาก Autotune
แต่กลายเป็นว่าเพลงนี้ที่น่าจะเรียกได้ว่าโดน Autotune เยอะที่สุด กลายเป็นเพลงโปรดของใครหลายๆคน
อาจจะเป็นเพราะก็ยังรู้สึกว่าเป็นการทำ Autotune ที่ยังคงเนื้อเสียงและเอกลักษณ์เสียงแต่ละคนได้อยู่
ส่วนที่ชอบที่สุดของเพลงนี้คือจังหวะติดหูมากๆ รวมไปถึงภาคดนตรีที่ลงตัวกับเสียงร้องพอดี
นอกจากเมโลดี้จะสวยแล้วยังแต่งเสียงสังเคราะห์ได้ค่อนข้างลงตัวในทุกท่อน ไม่จำเจดี
แอบมี adlib ของจุนซูที่ฟังแล้วก็สงสัยว่าจะมีทุกเพลงเลย เป็นลายเซนต์ส่วนตัวมากๆ
นอกนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเพลงนี้สำเนียงภาษาอังกฤษทุกคนดีที่สุดในอัลบั้มก็ว่าได้
ฟังออกแบบชัดถอยชัดคำดี
แต่แอบขัดใจกับเสียงบี้ๆของแจจุงกับคำว่า Empty 
Be My Girl - มาถึงเพลงที่ฟังสบายๆบ้าง
เพลงอาจจะมีสะดุดสำเนียงประหลาดๆหลายที่หน่อย
ทำไมเพลงนี้ไม่รู้จะวิจารณ์อะไรเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าเพลงก็น่ารักฟังสบาย
แต่ไม่มีอะไรให้ประทับใจ
สารภาพว่าบางทีก็กดเลยผ่านเพลงนี้ไปเลย เพราะมันซ้ำไปซ้ำมาเกินไป
แถมแอบรำคาญเสียงจี๊ดๆเหมือนนกร้องเสียงแหลมๆที่อยู่ในเพลง
Still in Love - เพลงเดี่ยวของแจจุงที่เจ้าตัวแต่งทำนองเอง
คงลายเซนต์ทุกประการไว้อย่างครบท้วน เมโลดี้สวย ให้ความรู้สึกลึกลับ
เริ่มต้นมาด้วยเสียงน้ำไหล เปิดเสียงร้องมาด้วยเสียงต่ำๆ ที่ปกติไม่ค่อยได้ฟังแจจุงร้องแบบนี้
ไถโน้ต R&B อย่างที่เจ้าตัวชอบ เสียงเศร้าๆบาดใจ
แต่จุดอ่อนมากๆของเพลงนี้กลับกลายเป็นท่อนฮุคที่เหมือนเป็น anti-climax ของเพลง
เพราะมันเบา ไร้พลังการควบคุม ซ้ำไปซ้ำมา
ยังดีที่ช่วงหลัง bridge เจ้าตัวใส่ adlib เข้าไป (ชอบตรงนี้ที่สุดแล้ว)
ท่อน A, B น่าจะใส่อารมณ์ได้มากกว่านี้อีก
แต่ตอนนี้ยังร้องเหมือนพยายามร้องให้ชัดก่อน + เน้นกับการไถ่โน้ตมากไปหน่อย
เลยรู้สึกว่ายังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากนัก เพราะร้องชัดไปหมดทุกคำเลย
(จริงๆแล้วชอบเพลงนี้มากเลย เพราะถูกจริตกับเพลงหลอนๆมาก)
I Can Soar - เพลงเดี่ยวของจุนซูที่เจ้าตัวแต่งทำนองเองเช่นกัน
ออกแนว Gospel เหมือนเป็นเพลงพาขึ้นสวรรค์หลังจากที่เพลงก่อนหน้านี้พาลงหลุมดำมืดไปแล้ว
เพลงนี้เน้นให้เห็นถึงความสามารถด้านการควบคุมไดนามิคการร้องของจุนซู
ฟังแล้วนึกถึงเพลงประกอบการ์ตูนดิสนีย์
ส่วนตัวรู้สึกว่าภาคดนตรีบางไปนิด ถ้าใส่เพิ่มเสียงเครื่องสายน่าจะทำให้เพลงดูยิ่งใหญ่กว่านี้
รวมไปถึงเพิ่มเสียงประสานตอนท้ายให้กลายเป็น Gospel แบบจ๋าๆไปเลย
(แอบชอบเสียงประสานของยูชอน แต่ไม่ชอบเสียงน้องผู้หญิงเท่าไหร่)
ที่ชอบที่สุดคือการออกเสียงประโยคสุดท้าย I Can Soar ฟังแล้วลอยๆดี
แต่ยังรู้สึกว่าเพลงนี้ธรรมดาไปนิด
I Love You - เพลง R&B ที่มีคงเอกลักษณ์เมโลดี้สวยๆแบบยูชอนไว้อย่างครบถ้วน
เพลงนี้เครื่องสายที่คลอเพราะมาก ตั้งแต่เริ่มท่อนแร็พของ Flowsik เลย
จังหวะเก๋ดี ชอบการดีไซน์เสียงของยูชอนมากจริงๆ ใช้เสียงหลบไปหลบมาเกือบทั้งเพลง
แอบมีแจจุงมาเย้เย จิ๊ดนึง กับ จุนซูมาช่วยร้อง adlib ตอนท้ายด้วย เพิ่มสีสันดี
ตอนท้ายๆเพลงนี้ใช้เสียงสั่นๆเหมือนกับกำลังขอร้องให้สาวกลับมาหาตัวเองจริงๆ
แต่ฟังเพลงนี้ฟังแล้วหลอนคำว่า I Love You ไปหน่อย
(แค่ฮุคเดียวก็ I Love You เกิน 10 รอบแล้ว)
Be the One - วกกลับมาที่เพลงจังหวะหนักๆ
การดีไซน์เสียงร้องแบบเก๋ๆ โดน Autotune นิดๆ
เหมาะกับการเอาไปเปิดเต้นสนุกๆในผับอีกเพลง
ชอบจังหวะ แต่รู้สึกว่ายังร้องสนุกกว่านี้ได้อีกนิด
(หลังจากฟังร้องสดแล้วก็ยิ่งรู้สึกเลยว่าพอร้องกระแทกเสียงมากขึ้นเพลงสนุกขึ้นอีกเยอะเลย)
ส่วนของ Remix ขอว่าไม่วิจารณ์อะไรมากแล้วกันนะคะ เพราะปกติไม่ใช่คนชอบ Remix เท่าไหร่
(จริงๆเหมือนจะเขียนสั้นลงเรื่อยๆ 
)
Ayyy Girl (Remix) - ตัด Rap ของ Kanye West แล้วก็เติมเสียงสังเคราะห์เข้าไปอีกบวกเพิ่มความเร็วก็สนุกไปอีกแบบ
ให้อารมณ์ไปอวกาศได้อีก
Empty (Remix) - เป็น remix ที่ชอบพอๆกับแบบปกติเลย (หรืออาจจะชอบมากกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ)
ได้ฟังเสียงยูชอนกับจุนซูชัดขึ้นด้วย
แต่คราวนี้เอาเสียงแจจุงจับเข้า Autotune หมด คำว่า Empty เลยบี้ไปตาม Autotune แต่กลายเป็นเก๋ดี
จังหวะสนุกกว่าต้นฉบับมากพอสมควรเลย
Be My Girl (Remix) - เสียงหลอนๆ ให้อารมณ์ว่าไปเต้นกับสาวในผับ เมาๆกรึ่มๆหน่อย
สนุกไปอีกแบบ กลายเป็นเพลง dance ไปเต็มๆ
แต่หลอน Baby Baby Baby มากๆ
โดยรวมอัลบั้มนี้มีจุดที่ขัดๆอยู่มากๆคือท่อนฮุคของแต่ละเพลง ซ้ำไปซ้ำมามากเกินไป
รวมไปถึงสำเนียงที่ยังมีติดๆอยู่บ้างบางจุด บางเพลงเหมือนยังไม่มั่นใจกับการออกเสียง
หรือยังตีความเพลงไม่ค่อยดีนัก ถ้าเน้นหนักเบาได้มากกว่านี้ตรงส่วนของการร้องน่าจะทำให้หลายๆเพลงดีกว่านี้
แนวเพลงออกอเมริกันจ๋า แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ด้านเมโลดี้ในเพลงที่แต่งกันเองไว้อยู่
ถ้าให้คะแนนคงอยู่ประมาณ 6.5 เต็ม 10
เพลงไม่แย่แต่ไม่ได้ดีถึงขั้นว่าฟังแล้วรู้สึกว่าติดใจตั้งแต่ครั้งแรก
ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวอัลบั้มยังขาด X-factor ที่จะทำให้มันโดดเด่นกว่าอัลบั้มอื่นๆ
สารภาพว่าถ้าไม่ใช่แฟนๆสามหนุ่มอาจจะเมินๆไปไม่เหลียวแล
คือเพลงสนุก แต่ยังไม่ถึงขนาดว่าจะต้องฮิตติดตลาดในทันที
ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งความหวังกับอัลบั้มนี้ไว้มากเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นสำหรับเราถือว่าสอบผ่านมาตรฐานส่วนตัวในระดับหนึ่งค่ะ
เรื่องสำเนียง...ขอแอบแปะคลิปเพลงภาษาอังกฤษที่ทั้งสามคนเคยร้องไว้ก่อนจะไปอัดเสียงอัลบั้มนี้แล้วกันค่ะ
(ฟังดีๆจะรู้สึกว่าสำเนียงในอัลบั้มนี้ดีกว่าเดิมมากแล้ว 
)
I Have Nothing
[ชวนวิจารณ์] เมื่อ East Meets West ในอัลบั้ม The Beginning: JYJ ร่วมงานกับ Kanye West & Rodney Jerkins
