ความคิดเห็นที่ 1 ตอน 2 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 13:52:10

ความคิดเห็นที่ 2 ตอน 3 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 13:52:32

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนนึงแจกฟรี เพื่อสร้างตัวตนบนโลกดนตรี ไม่หวังผลกำไร แค่มีคนชอบก็พอใจแล้ว ส่วนนึงเขาอยากขายบนอินเตอร์เน็ต แต่ไม่ได้อยากแจกฟรีบนอินเตอร์เน็ต ซีดีก็ขายไม่ออก ยอดโหลดถูกลิขสิทธิ์ก็ไม่เดิน ก็หวังงานโชว์กันไปนะ 55 จากคุณ : I LOVE FAMICOM เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 14:52:06

ความคิดเห็นที่ 4 เทปนี้ผมก็ได้ดูเมื่อวันศุกร์ครับ รายการ 108 music ของจารย์ปราชญ์ ได้ความรู้เยอะเลย แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 53 15:15:34 จากคุณ : love mika เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 15:13:21

ความคิดเห็นที่ 5 โหวตหน่อยเป็นไร จากคุณ : Tailogy เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 15:58:41

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณคุณ Tailogy ครับ จะได้มีกระทู้เกี่ยวกับวงการดนตรีของไทยที่ดีๆ ขึ้นไปเป็นกระทู้แนะนำบ้าง แหะๆๆ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:17:25

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ดูอยู่เหมือนกัน โลกเปลี่ยนไป วงการดนตรีก็เปลี่ยนไปเนอะ ปรับตัวตามกันทันมั้ยหว่า ร่วมด้วยช่วยโหวตครับคุณกึ่งฯ จากคุณ : -djP@T- เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:19:34

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากๆครับ T-T (พอดีว่าไม่ได้ดู T-T) จากคุณ : Xscape เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:34:10

ความคิดเห็นที่ 9  ข้ามห้องมาโหวตให้  จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:34:11

ความคิดเห็นที่ 10 ดีใจที่มีรายการดนตรีดีๆสำหรับนักดนตรีและคนทั่วไปอย่าง 108music ชอบเนื้อหาสัปดาห์ที่ผ่านมามากเรย... เป็นกำลังใจให้กับคนดนตรีดีๆทุกคนครับ... จากคุณ : กีต้าร์ยืม เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:39:19

ความคิดเห็นที่ 11 โหวดให้ครับ จากคุณ : RadiorA เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:40:37

ความคิดเห็นที่ 12 อยากให้นักดนตรี และคนรักดนตรีทุกคนได้ดูจริงๆครับรายการตอนนี้ จากคุณ : Pattz_SPCU เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:55:39

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตค่ะ จากคุณ : rina (sinein_nop) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 16:58:57

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ โหวต และ ถูกใจ เรียบร้อยครับ จากคุณ : หยกเอง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 17:14:54

ความคิดเห็นที่ 15 กฏหมายมีอยู่ อยู่ที่ว่าจะเอาจริงหรือป่าว ไม่ใช่แค่จับคนขายซีดีเก่าไปเข้าคุก จากคุณ : TrojanTHM เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 17:30:23

ความคิดเห็นที่ 16 โหวตให้ครับ จากคุณ : สนุกคิด เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 18:02:36

ความคิดเห็นที่ 17 Good Kratoo. จากคุณ : JEDIYUTH เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 18:11:35

ความคิดเห็นที่ 18 คอนเสิร์ต-ร้องสด มากขึ้น เหมือนสมัยก่อนที่ขอเพลงจาก DJวิทยุ เพื่ออัดเสียงเพลง ทั้งๆที่เสียงสุดจะห่วยกว่าแผ่นเสียง โลกเปลี่ยนจริงๆ จากคุณ : where the money is. (อะแฮ่ม) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 18:13:23

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ  ไม่มีโอกาสได้ดูพอดี  ได้อะไรเยอะเลยครับเทปนี้ :-) จากคุณ : ถังเจ๋อ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 19:17:12

ความคิดเห็นที่ 20 เดี๋ยวนี้แค่ทำเพลงเพราะ มันไม่พอที่จะทำให้ขายได้แล้ว ต้องอาศัยการสร้างแบรนด์ สร้างให้เกิดความภักดี จากคุณ : mueit เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 20:00:50

ความคิดเห็นที่ 21 -ได้ดูพอดี ชอบฟังทั้งความคิดเห็นและฝีมือดนตรีของหลายท่านสุกี้เองก็มีสไตล์การเล่นกีตาร์ที่น่าฟังไปอีกแบบจากคุณโอม อ.ปราช และคุณซัน -ชอบมากกับรูปหุ่นข้างคุณโอม น่าจะเป็นความรำลึกของโอมถึง" คุณเต๋อเรวัติ" งดงามครับ ได้มีโอกาสดูคอนฯเต๋อที่อินดอร์ฯพร้อมกับการการเล่นกีตาร์ร่วมกันของ ยอดฝีมือ ณ.เวลานั้นอัสนีย์และหนุ่มโอมดาวรุ่ง  มีติ๊ก ชิโร่ตีกลอง ประทับใจฝีมือวงที่เล่นแบ็คอัพให้คุณเต๋อวันนั้นมาก -ติดตามกันต่อไป ถึงแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดแต่ก็มีสิ่งดีดี สิ่งที่ไพเราะให้เราได้เลือกชื่นชมตามรสนิยมของแต่ละคนอยู่เรื่อยๆ อาจจะดูง่ายในการนำเสนอ แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับการเลือกหามาเสพเพราะมีให้เลือกเยอะ จากคุณ : xam เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 20:20:41

ความคิดเห็นที่ 22 ดนตรีสมัยนี้มันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว...ตั้งแต่แนวเพลงเปลี่ยนไป ก็หวังว่าจะอนุรักษ์เพลงไทยต่อไปนะ T-Pop T-Rock T-Indy สู้ๆ!!! จากคุณ : เป็นมือใหม่อ่ะค่ะ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 20:34:01 A:223.206.158.24 X: TicketID:288102

ความคิดเห็นที่ 23 บร๊ะเจ้าของพวกเรา แกรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้ว ชาบู ชาบู จากคุณ : cobainlover เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 20:56:16

ความคิดเห็นที่ 24 ขอชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับตัวป้า มาดอนน่าหน่อยนะคับ เรื่องเงินนั้นคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับ เจ๊มะดัน แต่ที่ป้าแกย้ายสังกัดเพราะหลายๆ เหตุผลทั้งที่หลุดออกมาจากปากเจ๊แกเอง และที่เป็นความลับ อีกเหตุผลนึงเท่าที่จำได้คือ เจ๊ป้าแกอยากมีหุ้นในวอร์เนอร์ ด้วย การขอซื้อ แต่ทางวอร์เนอร์ปฏิเสธ นั่นเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้เจ๊ไม่คิดจะต่อสัญญาอีก ชีถึงกับหลุดปากออกมาตอนโปรโมท ฮารด์แคนดี้ ใน แอล แมกกซีนว่า .. "หลังจากร่วมงานกันมากว่า 25 ปี ฉันคิดว่าฉันสมควรได้เป็นหุ้นส่วน มากกว่า เป็นแค่บุคคลกรในบริษัท" แล้วพอย้ายไปไลฟ์เนชั่นก็ขอซื้อหุ้น 10 % จากไลฟ์เนชั่นทันที จากคุณ : davish1980 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 21:49:45

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้า Marshall McLuhan ได้เห็นปรากฎการณ์ดนตรีทุกวันนี้ก็คงบอกว่า นั่นไง เหมือนที่ตรูว่าไว้แล้วไม่มีผิด พอสื่อมันเปลี่ยน พฤติกรรมคนก็เปลี่ยน จากคุณ : I will see U in the next life. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 22:18:21

ความคิดเห็นที่ 26 ชอบดูรายการนี้  และถูกใจกระทู้นี้ "ร่วมด้วยช่วยโหวตค่ะ" จากคุณ : โปรดเหลือคณานัป เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 22:39:30

ความคิดเห็นที่ 27 โลกเราเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ สิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวได้เท่านั้นที่จะเป็น surviver จริงๆแล้ว วงการดนตรีอาจไม่ได้ตาย มันอาจแค่ปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบันเท่านั้น คนในวงการที่ปรับตัวไม่ทันต่างหากที่กำลังจะตาย ดูแต่ มาดอนน่า ซิ เธอยังปรับเลย(ขอบคุณข้อมูลคุณ davish1980) ขอเป็นหุ้นส่วนนี่ใครจะทำตามบ้างเธอคงไม่ว่าหรอก 5555 จากคุณ : เพราะฟ้าไม่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 22:49:34

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยค่ะ  ทุกวันนี้โลกออนไลน์ทำให้เราเข้าถึงเพลงได้ง่ายขึ้น  วงการเพลงต้องปรับตัวให้ทันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปให้ได้ จากคุณ : glorious เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 23:09:28

ความคิดเห็นที่ 29 ความฝันของผมยังไม่ตายครับ - -V โหวต!!! ขอบคุณพี่กึ่งฯมากๆครับ  สุดยอดดดด จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 23:18:00

ความคิดเห็นที่ 30 ดูตั้งแต่วันนั้นเหมือนกันครับ อึ้งกับสิ่งที่เห็น และตีแผ่ แต่ก็เข้าใจกับมันในไม่นานครับ ความเห็นส่วนตัว ดนตรี เป็นศิลปะ ที่ดิ้นได้ตามกาลเวลา หรือจะอยู่เหนือกาลเวลาก็ได้ การยืนอยู่ของมัน ไม่ได้ขึ้นกับการตลาดเสมอไป อุตสาหกรรมตาย แต่เพลงดีๆจะยังไม่ตาย ผมเชื่อว่างั้นครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 53 23:20:45 จากคุณ : -นักเลงเพลงสยาม- เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 23:19:45

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นรายการที่ดีจริง จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 23:24:58

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ อยากคุยเรื่องนี้อยู่พอดี ผมว่าวงการเพลงในยุคนี้มันก็ไม่ได้มืดไปหมดซะทุกด้านนะ ผมว่าวงการเพลงไทยเราพัฒนาในหลายๆด้านด้วยซ้ำ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 23:46:16

ความคิดเห็นที่ 33 ดูเสร็จแล้วก็เกิดความสับสนในตัวเอง ว่าตกลงตัวเราต้องการแบบไหนกันแน่ ซีดีก็กระหน่ำซื้อ ยูทิ้ว ก็ดูตลอด จากคุณ : zong12 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 01:13:40

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วเกาหลีเค้าอยู่เหนือปรากฎการณ์นี้รึเปล่า หรือเขาปรับตัวได้ดีกว่า ทั้งที่เขาเพลงก็มีให้โหลดให้ฟังทั่วไปในเน็ต แต่แฟนคลับต้องซื้อของแท้อย่างน้อยคนละแผ่นสองแผ่น หรือซื้อมากกว่านั้นเพื่อให้ได้รางวัลยอดขายสูงสุด เพื่อให้ศิลปินที่ชอบดีใจ เขาไม่ได้ซื้อแผ่นเพราะเพลงมันดีหรอกหรอ ผมจึงคิดว่าการตลาดและสื่อสำคัญกว่า เหมือนหนังไทยดีๆแต่เจ๊ง ล่าสุดอินทรีแดง กับหนังที่ไม่มีอะไรเน้นโปรโมตอย่างเดียว จากคุณ : mueit เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 02:38:50

ความคิดเห็นที่ 35 -การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ จากเขียนโปรแกรมโดยใช้บัตรเจาะ เมนเฟรม ใช้เนื้อที่ห้องใหญ่โต โทรศัพท์เคลื่อนที่หิ้วที่ไหล่เอียง เดี๋ยวนี้แค่ฝ่ามือเอง -แต่คนรุ่นใหม่ของเราคุ้นเคยและเติบโตมากับสิ่งเหล่านี้ เด็กจะเล่นดนตรีเก่ง เร็วขึ้นเรียนรู้ได้จากหลายแหล่งมีตัวอย่างและการสอนและเครื่องมือช่วยอยู่ ในอินเตอร์เน็ตก็เยอะ ความต้องการประสพความสำเร็จจะทำให้เกิดการ แข่งขันและสร้างผลงานที่ดีหลากหลายออกมาเอง รวมถึงการตลาดและการ แบ่งรายได้แบบใหม่ซึ่งเราอาจไม่คุ้นเคย แต่ก็เอาใจช่วย และรอดูผลงานอยู่ เราเองก็อาจมีสิ่งที่ชอบมากขึ้น ก็ต้องปรับตัวเองในการ ค้นหาผลงานที่ชอบ และสนใจต่อไป ทุกวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นสะดวกขึ้นสำหรับคนชอบฟังเพลงอย่าง เราแล้วครับ ในทางธุรกิจเดี๋ยวก็มีหนทางที่หลากหลายเองล่ะครับ จากคุณ : xam เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 07:46:12

ความคิดเห็นที่ 36 น่าสนใจและน่าติดตาม.... จากคุณ : พี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 08:45:26

ความคิดเห็นที่ 37 นอกเรื่องฮะ อ.ปราชญ์นี่เคยออกเทป หรือร้องเพลง หรือยังไงฮะ ผมอยากทราบประวัติ เพราะคนนับถือแกเยอะ ผมสงสัย จากคุณ : Robbie_God เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 09:56:40

ความคิดเห็นที่ 38 อยากรู้จริงๆว่าต่อไปข้างหน้า(คราวนี้น่าจะหลายสิบปี)...ถ้าหมดจากยุค download หรือ youtube แล้วจะเป็นอะไรต่อ จากคุณ : Dr.Pepper เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 10:46:17

ความคิดเห็นที่ 39 การเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าสิ่งไหนๆ ครับ และเท่าที่เห็นเป็นสิ่งที่ดีที่วงการเพลงมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น การค้นหาที่ง่ายขึ้น ฯลฯ แต่สิ่งที่ไม่ดีที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงคือการเอาความง่ายนั้น เป็น "ความมักง่าย" ครับ ... นี่ต่างหากที่เป็นห่วงและกังวลกัน.. ไม่ได้กังวลกับความเปลี่ยนแปลงกันหรอกครับ นักดนตรี คนทำเพลง ก็ต้องปรับตัวให้เป็นไปตามสิ่งที่เปลี่ยนไปอยู่แล้ว ส่วนผู้บริโภคนั้น ถ้าไม่มักง่าย ก็คงไม่มีปัญหาอะไร มันจะเป็นการดีมากๆ ที่มีการเข้าถึงง่ายแบบนี้ ได้ฟังเพลงใหม่ง่าย ได้รู้จักศิลปินมากขึ้น search หาง่ายขึ้น ชอบแล้วซื้อ ... ชอบแล้วโหลดถูกกฎหมาย ปัญหาคือ .. ฟังแล้วไม่ซื้อ ชอบแล้วโหลดเถื่อน ซื้อผี .. นี่ล่ะครับ ปัญหาตัวจริง แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 53 11:55:46 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 53 11:49:37 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 11:08:20

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ จขกท นะคะที่เอามาให้ดู จากคุณ : yunkyak เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 12:37:09

ความคิดเห็นที่ 41 พูดได้ ตรงประเด็น และ โดนใจมากๆ จากคุณ : ยอยศทศกัณฐ์ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 14:09:48

ความคิดเห็นที่ 42 โลกไอที.....เปลี่ยนโลกเก่าทั้งหมด ไม่รวมโลกของดนตรีด้วย ต้องมาปรับความคิดผิด-ถูกกันใหม่  ตอนนี้ดาวน์โหลดก็ก้ำกึ่งผิด-ถูก....โทษใครไม่ได้จริงๆ ...T T จากคุณ : aey3 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 15:36:59

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณค่ะ ดูจบแล้ว เห็นด้วยกับคุณยุทธนา ว่าสิ่งต่างๆที่มาใหม่ทดแทนสิ่งเก่าๆเรื่อยๆ ที่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ รายการแรกๆเลยนะ ที่เริ่มยอมรับพฤติกรรมผู้บริโภคเพลงใหม่ๆได้ ^ ^ จากคุณ : aey3 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 15:55:01

ความคิดเห็นที่ 44 คอนเสริ์ต สู่ แผ่นเสียง แผ่นเสียง สู่ เทปคาสเซ็ต เทปคาสเซ็ต สู่ แผ่นซีดี แผ่นซีดี สู่ ไฟล์ดิจิตอล . . . มันอยุ่ที่ว่าเราทำดนตรีไปเพื่ออะไร มันเป็นเรื่องที่ คนทำเพลง ค่ายเพลง คนฟังเพลง เถียงกันเท่าไหร่ก็ไม่มีวันจบครับ ถ้ามองในมุมของ "คนทำเพลง" ก็จะพูดออกมาในมุมหนึ่ง "ค่ายเพลง" ก็จะพูดออกมาในมุมหนึ่ง "คนฟังเพลง" ก็จะพูดออกมาในมุมหนึ่ง รายการนี้ยัง "ขาด" มุมมองในด้านของ "คนฟังเพลง" มันไม่ใช่ปัญหา ที่เป็นปัญหาเพราะความคิดของคนบางคนที่ยังยึดติด แบบนี้ก็ต้องปรับตัว เลิกอคติกับการดาวน์โหลดเพลงให้ได้เสียก่อน นักดนตรีรุ่นใหญ่บางคนยังไม่สามารถยอมรับฝีมือเด็กสมัยนี้ได้เลย เห็นเด็กที่รุ่ง ๆ ก็ใช้ความแก่ความเก๋าของตนข่มเด็ก แทนที่จะส่ง้สริม อ่าว นอกเรื่องซะละ อิอิ : ) จากคุณ : SuicideJumper เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 18:35:55

ความคิดเห็นที่ 45 กล้วยหน่อใหม่ ก็เกิดจากกอที่ตายไปแล้ว สู้ๆ ครับ ศิลปินทั้งหลาย จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 21:54:29

ความคิดเห็นที่ 46 แล้ว Vampire Record จะเจ๊งมั้ยครับ จากคุณ : DKR เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 00:44:03

ความคิดเห็นที่ 47 "มันจะไม่มีศิลปิน แบบ ดังเกินจริงอ่ะ ศิลปินบางคนมันดังเกินความจริงนะ มันดังเพราะ กระบวนการที่มีอะไรอยู่มากมาย" พี่ซัน จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 10:20:23

ความคิดเห็นที่ 48 คำว่า "เกินจริง" นี่หมายถึง ฝีมือ รึเปล่าครับ ถ้าใช่ผมก็คิดว่าไม่จำเป็นที่ ต้องดัง ตามฝีมือ มันมีปัจจัยอีกมากหลาย ครับ ไม่งั้นคนที่บริหารเก่งที่สุดต้องเป็น นายก ครับ เป็น รมต. เป็น ผู้ว่าฯ ไม่ใช่คนที่ PR เก่งที่สุด หรือมี Backup ดีที่สุด ฯลฯ ดนตรี ไม่ได้ตาย มันยังคงอยู่ เพียงแต่คนเริ่มสนใจในมุมมองใหม่ๆ ของดนตรี อาจเป็นมุมมองที่ถูกใจ หรือดี สำหรับใครบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นเหมือนกัน ยิ่งถ้าตัดเรื่อง เงิน ออกไป ผมว่า ดนตรีมันยังอยู่ตรงนั้น ของมันครับ ดูอย่างเพลงร็อค เมื่อก่อน วงร็อคเมืองนอกจะมาจาก ดนตรีบลู แต่ปัจจุบัน มันเหมือนจะไม่ใช่ วิญญาณร็อคในบทเพลงจึงแห้งแล้ง ดังเช่นปัจจุบัน สำหรับคนรุ่นก่อนไงครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 53 15:34:34 จากคุณ : ผีเพื่อนหงส์ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 15:33:00

ความคิดเห็นที่ 49 เพื่อนหวันของผมเคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าสู้มันไม่ได้ ก็เป็นพวกเดียวกับมันซะ" จากคุณ : ก็นพนะ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 18:05:33

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับ โบโน่ อารมณ์ ความรู้สึก บรรยากาศ ในวงการเพลงแบบสมัยก่อนมันไม่มีอีกแล้ว ศิลปินบางคนที่ดังเกินจริงนี่หน้า ซิด วิเชียส ลอยมาก่อนเพื่อนเลย จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 21:24:33

ความคิดเห็นที่ 51 ก่อนอื่น ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ โลกเปลี่ยนไป  แต่ยังไงศิลปะดนตรีก็ยังอยู่  แต่จะเป็นอย่างไรคงต้องตามกันต่อไป  อีกหน่อยซีดี ก็กลายเป็นของสะสม ปล.  ชอบรูปที่คณ กึ่งยิงกึ่งผ่านถ่ายนะค่ะ จากคุณ : เอื้องเงินหลวง (เอื้องเงินหลวง) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 22:34:18

ความคิดเห็นที่ 52 คห.37 อ.ปาดเคยออกอัลบั้ม Prach Conception เคยซื้อเทปมาฟัง จากคุณ : สโนว์ไวท์ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 17:34:33 A:61.90.94.13 X: TicketID:290687

ความคิดเห็นที่ 53 อาจจะมาช้าไปหน่อย ตามมาโหวตครับพี่ ของดีๆแบบนี้ต้องให้ทุกคนได้ดูกัน จากคุณ : gOlf :-) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 23:00:20

ความคิดเห็นที่ 54 ลองพูดแบบนี้ราวๆ 3-7 ปีที่แล้วสิครับ มีหวังโดนด่าเปิง ทุกๆ ฝ่ายก็เอาแต่ท่องคาถาไล่ "ผี" ทั้งนั้น ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้พอผีมันเฮี้ยนไม่หยุดก็กลับลำกันยกใหญ่ ที่กล้าพูดเพราะผมเคยพูดถึงประเด็นเหล่านี้จำนวนมากมาอย่างต่ำๆ ก็ 2-3 ปีแล้วอ่ะครับ แล้วก็ได้รับแรงต้านมาก การวิเคราะห์หลายๆ อย่างที่ คนดังๆ พูดในรายการผมก็เคยพูดมาแล้ว (ใครตามอ่านที่ผมเขียนหรือถกเถียง ก็คงเห็น) ที่เห็นมาพูดๆ กันในคลิป ผมคิดว่าความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เทคโนโลยีค่อนข้างน้อยกันนะครับ เหมือนความรู้จำกัดอยู่ที่ปลายศตวรรษที่ 20 กัน คือ ผมไม่ได้จะข่มอะไร แต่ถ้าคุณมองประวัติศาสตร์ดนตรีของมนุษย์ (เอาแค่ตั้งแต่มีดนตรีคลาสสิคก็ได้ ไม่ต้องย้อนกันถึงสมัยยุคหิน) ยาวมา คุณก็จะเห็นว่า ประวัติศาสตร์ของการบันทึกเสียง และธุรกิจที่หากินกับการบันทึกเสียงมันสั้นมากๆ สั้นเหลือเกิน มันพึ่งเกิดต้นศตวรรษที่ 20 เองนะครับ การเอาการบันทึกเสียงมาเป็นฐานของธุรกิจเนี่ย แล้วไอ้การฟังเพลงเป็นอัลบั้มมันก็พึ่งปรากฏช่วงปี 1960's กัน ก่อนหน้านั้นกว่าครึ่งศตวรรษเขาฟังซิงเกิลกันเป็นหลัก เพราะ เทคโนโลยีที่เอื้อกับการขาย (คือมันราคาถูกเมื่อผลิดมากๆ) มันบรรจุเพลงได้แค่ไม่กี่นาที และคนก็ชินกับแบบนั้นมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 กว่าจะเริ่มเปลี่ยนรสนิยมก็กลางศตวรรษเข้าไปละ คิดดูละกันครับคนมันฟังเพลงเป็นอัลบั้มอยู่แค่ไม่กี่สิบปีเอง ถ้าคิดบนฐานของประวัิติศาสตร์การฟังเพลงอันยาวนานของมนุษย์ พวกประเด็นย่อยๆ อย่างประวัติศาสตร์กีต้าร์ไฟฟ้า หรือประวัติศาสตร์การสังเคราะห์เสียง ก็มีเกร็ดสนุกๆ เยอะครับ คงไม่ขอเล่าในที่นี้ แต่คร่าวๆ คือเทคโนโลยีพวกนี้ เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้โดนต่อต้านเท่าไร เพราะ มันพยายามเลียนแบบไอ้ิสิ่งที่ดำรงอยู่แล้ว กีต้าร์ไฟฟ้าแรกๆ นี่มันมาในดนตรี Jazz ครับ และ Sound ที่ออกมาคนสมัยนั้นก็บรรยายว่ามันคล้ายเครื่องเป่า คือมันต้องทำให้คนเข้าใจผ่านการเลียนแบบสิ่งที่คนคุ้น กว่ามันจะมี Sound เอกลักษณ์ก็สักพักใหญ่ (เรื่องนี้ยาวครับ พูดแล้วติดลม) ผมว่าประเด็นที่หลายๆ คนไม่ได้พูดคือ การที่ "วงการดนตรี" หรือที่ผมอยากจะเรียกว่า อุตสาหรกรรมดนตรีกระแสหลัก มากกว่า นั้นเปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งมันเกิดจากโลกแคบๆ ของธุรกิจดนตรีไทยด้วย ที่เกิดมาในยุค 1980's เท่านั้นเอง ถ้าคุณอยู่ในโลกภาษาอังกฤษ คุณก็จะเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นทุกทศวรรษ 1960's ก็เปลี่ยน 1970's ก็เปลี่ยน 1980's ก็เปลี่ยน ดังนั้นวงการดนตรีที่เคยรู้จักนี่ตายทุกทศวรรษครับ ถ้าไม่เชื่อ ลองนึกถึงปรากฏการณ์ The Beatles และการเริ่มขายงานเป็นอัลบั้มในยุค 1960's นึกถึงปรากฏการณ์ของ Stadium Rock ในอเมริกายุค 1970's และนึกถึง MTV ในยุค 1980's ครับ สิ่งเหล่านี้เปลี่ยน "วงการดนตรี" อย่างมหาศาลในยุคของมันครับ ส่วนช่วงระหว่าง 1980's -1990's นี่ต้องยอมรับว่าในแง่โครงสร้างพื้นฐานมันค่อนข้างนิ่งพอควร แต่เปลี่ยนในแง่รายละเอียด (กระแส Alternative Rock) ธุรกิจดนตรีไทยมันเกิดในยุคนี้ไงครับ มันเลยรู้สึกว่าช่วง 20 ปีที่มันดำรงอยู่นิ่งๆ มันช่างยาวนานเหลือเกิน สิ่งที่ผมอยากจะเสริมนิดในเชิงปริมาณจากที่ว่าๆ กันในคลิปก็คือ ในสมัยก่อน ยอดขายเทปนี่มันหลักแสนเป็นปกตินะครับ ขายได้เกินครึ่งล้างนี่ก็จัดว่าไปประสบความสำเร็จแล้ว สมัยนี้เหรอครับ ขายได้หลักหมื่นก็เทพสุดๆ ขายไ้ด้หลายพันก็สุดยอดแล้ว อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่นี่ได้ยินมาจากหลายๆ แหล่งจริงครับ อย่างจะชี้ให้เห้นเฉยๆ ในเชิงปริมาณว่ายอดขายมันเปลี่ยนไปจริงๆ สมัยนี้อย่าหาคนยอดขายเป็นล้านเลยครับ หาคนที่ยอดการเข้าชมใน Youtube ถึงล้านดีกว่า ต่อมาคือประเด็นที่ซีเรียสมาก ในคลิปหลายๆ คนคิดว่าการเล่นสดเป็นทางออกของ "ศิลปิน" สมัยนี้ ผมว่าพูดแบบนี้ผิวเผินมากครับ สิ่งที่มันละเลยไปมีเยอะมาก ประการแรก ยอดการดูคอนเสิร์ตสมัยนี้น้อยลงกว่าสมัยก่อนนะครับ ประการที่สอง สิ่งที่อุ้มพวกคอนเสิร์ตใหญ่ๆ นี่ไม่ใช่การซื้อตั๋วนะครับ แต่เป็นสปอนเซอร์ ดังนั้นสิ่งที่อุ้มธุรกิจดนตรีอยู่ก็คือธุรกิจชนิดอื่นครับ ไม่ใช่ผู้บริโภคสักเท่าไหรหรอก นี่นำมาสู่ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญสุดๆ ครับ มันคือ ประเด็นที่ว่าส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจดนตรีโดยรวมกับธุรกิจบันเทิงอื่นๆ มันเปลี่ยนไปครับ พูดภาษาชาวบ้านกว่านั้น ก็คือสมัยนี้ แทนที่คน (โดยเฉพาะวัยรุ่น) จะเอาเงินมาซื้อแผ่น เงินจำนวนนั้นก็ไหลไปดูหนัง ซื้อคอม ซื้อมือถือ ซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก หรือกระทั่งกินข้าวแพงๆ แทน ไม่ก็กินเหล้าครับ อันนี้ประเด็นที่เกิดขึ้นจริงๆ แต่ผมไม่เห็นมีใครยก งานวิจัยต่างประเทศชี้ชัดเจนครับ ว่าธุรกิจกดนตรีตอนนี้มันไม่ใช่ธุรกิจบันเทิงที่ยิ่งใหญ่แบบที่มันเป็นตอนช่วงครึ่งหลังศตวรรษที่ 20 อีกแล้ว มันหากินกับวัยรุ่นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว คือ ต้องเข้าใจว่าวัยรุ่นฝรั่งแสดงตัวตนผ่านดนตรีมานมนานมาก อินเตอร์เน็ตและสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มันสร้างพื้นที่แสดงตัวตนแบบใหม่ๆ ขึ้นมาครับ ดังนั้นประเด็นความเปลี่ยนแปลงมันไม่ใช่แค่ที่แสดงผลงานดนตรีเยอะขึ้นครับ แต่ประเด็นคือคนมันไม่ได้แสดงตัวตนผ่านดนตรีเหมือนเดิมอีกแล้ว และนั่นส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจดนตรีในธุรกิจบันเทิงโดยรวม ไ้อ้นี่แหละเรื่องใหญ่จริงๆ และ อนาคตของคนที่ทำมาหากินกับดนตรีควรจะคิดหนักครับ เพราะสถานการณ์มีแต่จะแย่ลง ส่วนคนที่ DIY ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะ ผลของตรงนี้หลักๆ คือทุนมันจะไม่ไหลมา แต่ถ้าคุณอยู่เองได้ แต่สิ่งที่ต้องยืนหยัดไว้สำหรับวัฒนธรรมดนตรีร็อคคือการเล่นสดครับ ผมกล้าพูดเลยว่ามันแย่ลงพอสมควรเลย อย่าโดนลวงหลอกด้วยปริมาณคอนเสิร์ตครับ จงดูจำนวนคนในแต่ละคอนเสิร์ตแล้วคุณจะเห็นอะไรบางอย่าง ถึงเวลาหรือยังที่เราควรจะรณรงค์ให้คนออกมาดูคอนเิสิร์ต ดูโชว์ ดูงานใ้ต้ดินกันเยอะขึ้น อย่างจริงจัง? สุดท้ายขอฝากประเด็นว่า สมัยนี้มันมีมิติอีกอย่างที่ชัดครับ คือ การนำเสนอตัวตนของวงดนตรีในสมัยนี้ มันเป็นเรื่องการการทำให้ ฟังและดู ครับ คือ ผมไม่อยากให้คิดบนฐานของ หู อย่างเดียว ผมอยากให้คิดถึงตาด้วย คนที่ดังใน Youtube ไม่ได้เล่นออกมาฟังดูดีอย่างเดียวนะครับ แต่ต้องเล่นออกมาดูดีด้วย ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องคิดจึงไม่ใช่แค่สุนทรียภาพทางเสียง แต่เป็นทางสายตาด้วย ฝากไว้เท่านี้ก่อนครับ จากคุณ : FxxkNoEvil เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 23:21:39

ความคิดเห็นที่ 55 เคยอ่านคอมเมนท์ของท่าน FxxkNoEvil มาจากห้องร็อคอยู่บ้าง แต่จาก คห.57 นี่โดนจริงๆครับ สุดยอดคร้าบ จากคุณ : นายขนมตุ๋น เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 02:31:56

ความคิดเห็นที่ 56 นึกถึงกล้องถ่ายรูป พอมีกล้องดิจิตอล บริษัทฟิล์มที่เคยยักษ์ใหญ่ก็ล้มตายทีเดียว จากคุณ : ดินสอปากกา เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 16:11:34

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับ จากคุณ : logarithm เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 19:23:58

ความคิดเห็นที่ 58 ขาใหญ่ยังงงกันอยู่ ช่างเค้า ขาเล็กสู้ต่อนะ ... คุณสู้ ผมก็สู้ ... อย่าไปฟังป๋าเค้ามาก .... ต่ำสุดที่คุณควรทำคือ ซีดี ถ้าคุณไม่ทำ ผมต้องร่ำรวยแน่ๆเลย เพราะไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร .... ซีดีที่เพิ่งซื้อเมื่อเย็นนี้ ... ไหมไทยคอนเสิร์ต Bangkok Symphony - บัวขาว มัน ใหญ่ มาก Parinam Music Compilation # 2 เมื่อวานซื้อ ... มหาจำเริญ (ฟังได้รอบเดียว มีคนขอซื้อต่อ ... เดี๋ยวหาใหม่) สวีทนุช จิดา เดี๋ยวพิมพ์เสร็จ จะนั่งคิดอีกทีว่าจะสั่งแผ่นเสียง Buddhist Holiday ดีมั้ย ... ได้ยินว่าจะไม่ทำซีดีแน่ๆ .... ..... ดนตรีไม่ตายแน่ๆ ... แต่คนทำดนตรี ... ก็มาๆ ไปๆ กันอยู่เรื่อยๆ เห็นบ่นๆกัน แต่ก็มีงานออกมากันตลอด คนฟังอย่างผม สบายมากๆ ไม่เรื่องมาก ... มีบนแผง ก็ซื้อมาฟัง ถ้าไม่มีให้ผมซื้อเลย ผมก็มั่นใจว่า อันที่มีอยู่ ก็ยังฟังได้ ..... สบายๆ จากคุณ : มันซ่าน เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 00:51:23