PANTIP.COM : C10013748 ภาพเบื้องหลังและการโชว์เพลงของ Ayyy Girl ของ JYJ จากการจัดโชว์เคสที่นิวยอร์คแบบแจ่มๆ โดย MTV-K คร้า ^^ [เพลงเอเชีย]

ความคิดเห็นที่ 8

ใช่คะ.......-_-''' ไลฟ์นี้ปวดตับกับปาร์กที่สีกับพี่แดนเซอร์สาวที่สุดละคะ เหอๆๆ

ก็เขาสนิทกัน.....(ฮึกๆ โปรยเสน่ห์ไปทั่วเชียวนะยะ)

[พิเศษ] สัมภาษณ์ทีมเต้นของ JYJ: Telisha Shaw โดย DBSKnights

สัมภาษณ์โดย Rachel (MrCKDexter)
ถ่ายภาพโดย Anthony Cabaero

การทัวร์คอนเสิร์ตกับ JYJ ในอเมริกาและแสดงในคอนเสิร์ต JYJ Worldwide Concert in Seoul ทำให้แดนเซอร์อย่าง Telisha Shaw กลายเป็นแคสซี่คนใหม่อย่างกระตือรือร้น

เพียงแค่ 2 วันหลังจากเธอกลับมาถึง LA ทำให้ยังคงมีอากาศเจ็ทแล็กอยู่เล็กน้อย Telisha ตกลงที่จะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ DBSKnights เธอตื่นเต้นมากที่จะได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานกับแจจุง ยูชอน และจุนซู (ซึ่งเธอเรียกพวกเขาว่า “JJ Micky และ Jun”) ก่อนหน้านี้ Telisha เคยได้ร่วมแสดงบนเวทีกับศิลปินอย่าง Janet Jackson, Christina Aguilera และ Green Day แต่ประสบการณ์ของเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการเต้น ซึ่งเป็นเหมือน “รักครั้งแรก” ของเธอเท่านั้น Telisha ยังเคยแสดงในละครโทรทัศน์เรื่อง Weeds และ It’s Alwasy Sunny in Philadelphia รวมทั้งในหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง Step Up 2; The Streets as Felicia ด้วย

DBSKnights: คุณเข้ามาร่วมงานกับ JYJ ได้อย่างไร?

Telisha Shaw: ฉันมีคนรู้จักใน LA ที่เคยร่วมงานกันมาก่อน อยู่ดีๆ เขาก็โทรมาหาฉันและถามว่าฉันรู้จักใครที่พอจะออกแบบท่าเต้นให้กับวงใหม่ที่พวกเขากำลังทำงานด้วยหรือเปล่า ฉันเลยคิดถึง Jeri (Slaughter) ทันที จากมิตรภาพของเราและผลงานของเค้า ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดโดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับการเต้นของศิลปิน …ฉันแนะนำเขาให้กับงานนี้ และทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง … [ผู้จัดของ JYJ] ตกหลุมรักเขา และหลังจาก Jeri เข้ามามีส่วนร่วม เขาก็เอาฉันไปเป็นแดนเซอร์ในทีม… เป็นขั้นตอนที่เร็วมากเลย (หัวเราะ)

เนื่องจาก JYJ ทั้งสามยุ่งอยู่ในเกาหลี Jeri Slaughter จึงส่งภาพวิดีโอท่าเต้นไปให้พวกเขาเรียนรู้ ในขณะเดียวกัน ทีมเต้นก็เริ่มซ้อมใน LA ไม่กี่วันก่อนหน้าที่โชว์เคสในนิวยอร์คเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน จะเริ่มต้นขึ้น พวกเขาก็ได้พบกันที่สตูดิโอแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค

Telisha: ตอนนั้นเองที่เราเรียนรู้ถึงพลังจากความตั้งใจในการทำงานของพวกเขา (power of their work ethic) เพราะปกติแล้วเวลาคุณส่งของแบบนี้ไปให้ศิลปิน 9 ใน 10 ครั้ง พวกเขาไม่ได้ดูมันแล้วก็มาซ้อม และคุณจะบอกได้เลยว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ [JYJ] รู้ท่าเต้นดีกว่าพวกเราเสียอีก พวกเขาแก้ท่าเต้นให้พวกเรา ฉันจำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่ง จุนเข้ามาและก็เริ่มแบบว่า “ไม่นะ อันนี้ต้องตรงนี้” และพวกเราก็แบบ “นี่นายล้อเล่นหรือเปล่า?” (หัวเราะ)

Telisha: ตอนนั้นเองที่เราเรียนรู้ถึงพลังจากความตั้งใจในการทำงานของพวกเขา (power of their work ethic) เพราะปกติแล้วเวลาคุณส่งของแบบนี้ไปให้ศิลปิน 9 ใน 10 ครั้ง พวกเขาไม่ได้ดูมันแล้วก็มาซ้อม และคุณจะบอกได้เลยว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ [JYJ] รู้ท่าเต้นดีกว่าพวกเราเสียอีก พวกเขาแก้ท่าเต้นให้พวกเรา ฉันจำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่ง จุนเข้ามาและก็เริ่มแบบว่า “ไม่นะ อันนี้ต้องตรงนี้” และพวกเราก็แบบ “นี่นายล้อเล่นหรือเปล่า?” (หัวเราะ)

จากนั้นเป็นต้นมา Telisha Shaw ก็รู้ว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะต้องเป็นเรื่องพิเศษ “มันเหมือนเป็นการสร้างครอบครัวเล็กๆ – ครอบครัว JYJ – พวกเราได้ยินมาว่าการทำงานกับพวกเขานั้นน่าประหลาดใจขนาดไหน …แต่ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในห้อง ทุกอย่างก็รับรู้ได้เลย” เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน เธอทวีตว่า “ขอบคุณพระเจ้า/จักรวาลนี้…จนถึงตอนนี้นี่เป็นงานที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้มา” ( “Thank you God/Universe…thus far this is the best gig I’ve ever had.”)

DBSKnights ถามเธอว่าอะไรทำให้นี่เป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดของเธอ

Telisha: มันยากมากที่คุณจะเจอศิลปินที่พร้อมทุกอย่างซึ่งมีทั้ง
a) พวกเขาแสดงตัวตนจริงๆ ต่อหน้าคุณ
b) พวกเขาไม่กลัวที่คุณจะฉายแสงรอบๆ ตัวเขา และยังมีปัจจัยอื่นอีกที่คุณไม่ค่อยได้เจอมากนัก

จากทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่เคยได้ทำงานที่มีพลังด้านบวกมากขนาดนี้ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เป็นลบหรือเป็นจุดอ่อนของทีม ถึงแม้จะมีเวลาที่แต่ละคนอ่อนล้าหรืออย่างที่คุณน่าจะรู้ มีวันหนึ่งที่อยู่ดีๆ คุณก็ทำพลาดไปเสียหมด แต่ก็จะมีคนคอยเคียงข้าง ช่วยเหลือกัน

ฉันเคยเต้นกับ Janet (Jackson) มาก่อน และด้วยความสัตย์จริง นั่นถือเป็นมาตรฐานที่สูงเอามากๆ เนื่องจากหลักในการทำงานของเธอ และเธอเป็นคนที่น่ารักจนน่าแปลกใจ และไม่น่าเชื่อว่างานนั้นจะโดนแซงขึ้นไป ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะมีอะไรที่ดีกว่านั้น แต่ก็มีด้วยประสบการณ์ในครั้งนี้

Telisha อธิบายว่าก่อนหน้าเดือนตุลาคม เธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับ K-Pop และไม่รู้เลยว่าวงการแฟน K-Pop นั้นฝังรากลึกไปขนาดไหน เมื่อ US Tour เริ่มต้นขึ้น Telisha และทีมเต้นคนอื่นๆ ต่างก็ช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ‘เมื่อเราไปถึงนิวยอร์ค พวกเราต่างก็มีเพื่อนและญาติที่มาดูโชว์ และพวกเขาก็พูดกันว่า “อืม แถวมันยาวไปสองสามหัวมุมถนนเลย” ฉันก็แบบ “ไม่มีทาง คุณพูดเกินจริงแน่ๆ”‘

หลังจากผ่านทัวร์ไปอย่างรวดเร็ว จากนิวยอร์ค เวกัส และลอสแองเจลลิส หลังจากโชว์ที่ Galen Center ใน LA Telisha และทีมเต้นของ JYJ ก็ขึ้นเครื่องบินไปที่โซล (พวกเราอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวของ USC และก็ไปขึ้นเครื่องเลย ฉันถึงขั้น “โว้ว นี่เหมือนร็อคสตาร์เลย!” (หัวเราะ)) พอถึงโซล พวกเขาก็เริ่มซ้อมสำหรับสองวันสุดท้าย 27, 28 พฤศจิกายน

Telisha: ในวันแรก เจเจไม่มีเสียง ทุกคนเลยกังวลกับเรื่องนั้นมาก ทุกคนต่างผลัดกันป่วยเพราะแต่ละคนก็เหนื่อยกันมาก ฉันไม่รู้ว่าคนทั่วไปจะเข้าใจหรือเปล่าแต่โชว์ที่ Jeri ทำที่โซลกับทีมงาน Slaughterhouse ของเขานั้น ปกติแล้วใช้เวลาสองเดือนในการซ้อม แต่เรามีเวลาเพียง 9 วันร่วมกัน พวกเรารู้ดีกว่ามีท่าเต้นและโชว์บางอย่างที่เหมือนกับโชว์ใน US แต่เราก็มีสมาชิกใหม่ในทีมเพิ่มเข้ามา ดังนั้นการสอนพวกเขา เรียนรู้ท่าทางใหม่ๆ และพวกเราก็ทำมันทั้งหมดนั้นในช่วง 9 วันเท่านั้น

นอกจากเวลาที่มีจำกัดมากแล้ว ทีมโปรดักชั่นยังเจอปัญหารุนแรงจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ถึงแม้ว่า Jamsil Olympic Stadium จะถูกคลุมไว้ด้วยหลังคาสำหรับ JYJ Concert แต่หลังคานั้นฉีกขาดและต้องปลดลงมาเนื่องจากหิมะและลูกเห็บในช่วงเช้าของวันที่ 27 ทั้งผู้แสดงและผู้ชมต่างก็ต้องเผชิญกับสภาวะดังกล่าว

Telisha: ตอนที่เราซ้อมด้านนอก ฉันใส่เลกกิ้ง 3 ชั้น มีถุงน่อง เสื้อ 3 ตัว แล้วก็เสื้อกั๊ก… แต่การที่ต้องเหลือแค่เสื้อเกาะอก เลกกิ้ง 1 ชั้น กระโปรงสั้น และบู๊ทส์ (สำหรับโชว์) และต้องไปยืนอยู่ตรงนั้นระหว่างอินโทร ฉันได้แต่ “Oh my God!” มีน้ำแข็งตรงบันไดแล้วก็มีหิมะบนพื้นด้วย

พอเราลงมาจากเวที คุณน่าจะเข้าใจ คุณพยายามที่จะหาฮีทเตอร์ เพียงเพื่อให้คุณอุ่นขึ้นมาอีกนิด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันหนาวขนาดที่ว่าฉันไม่รู้สึกถึงนิ้วมือตัวเองด้วย แต่คุณก็ต้องทำมันต่อไปและพยายามทำให้เป็นโชว์ที่ดีที่สุด

Telisha และ ทีมเต้นของ JYJ ต่างก็ประทับใจกับแฟนๆ ที่เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตที่โซล “นี่เป็นกลุ่มแฟนตัวจริงตรงนั้น เพราะแฟนๆ ต่างก็ ‘ฉันจะแข็งอยู่แล้วแต่ฉันจะนั่งตรงนี้ดูโชว์จนจบ’ พวกเขาเป็นเหมือนกลุ่มทหารจริงๆ เลย”

DBSKnights: มีความแตกต่างระหว่างแฟนๆ ในอเมริกาและแฟนๆ ในเกาหลีบ้างไหม?

Telisha:ไม่นะ ไม่มี ดูรวมๆ แล้วแฟนๆ ก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นสองพันคนหรือสองหมื่นคน พวกคุณต่างก็รู้สึกได้ถึงความเอาจริงเอาจัง ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกา (หรือเกาหลี) สำหรับเรื่องความเอาจริงเอาจังแล้วเนี่ย โดยเฉพาะความภาคภูมิในการเป็นแคสซี่ ไม่มีความแตกต่างเลยสำหรับฉัน เหนือไปกว่านั้นมันเป็นระบบการสนับสนุนอันเข้มแข็ง และฉันรู้ว่าแฟนๆ ต่างเดินทางและมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ได้เห็น

DBSKnights: การฉลอง Thanksgiving (เทศกาลขอบคุณพระเจ้า) ที่โซลเป็นอย่างไรบ้าง?

Telisha: มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย พวกเราแค่เดินเข้าไป…มันเป็นหนึ่งในวันที่เรากำลังคิดว่า “เป็นวัน Thanksgiving ที่นี่หรือที่บ้านนะ?” เราคิดไม่ออก จนในที่สุดฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่า “โอ้ โน้ มัน Thanksgiving ที่นี่นี่นา” พวกเขาดูแลพวกเรา หาไก่งวงให้ ฉันไม่รู้เลยว่าไก่งวงนั้นมันมาจากไหน! เรามีมื้อเย็นแบบ Thanksgiving ที่อร่อยพอควรเลย

ตอนนั้นจุนสอนวิธีเล่นกลให้พวกเราหลังเวทีด้วย เขาเก่งเรื่องไพ่กลแล้วก็ใช้มือเล่นกลจริงๆ นะ! พวกเราต่างก็หัวเราะแบบว่า “Oh my god!” พวกเราไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไง (หัวเราะ)

DBSKnights: จากข้อความทวิตของคุณ ดูเหมือนจุนซูจะอยู่กับแดนเซอร์มากกว่าใช่ไหมคะ? เป็นอย่างนั้นใช่หรือเปล่า?

Telisha: เจเจกับจุนอยู่กับพวกเรามากที่สุด… มิกกี้สุดยอดมากเรื่องการหายตัว มันประมาณว่าคุณอาจจะกำลังติดพันอยู่กับการสนทน และก็มองเห็นเขาอยู่อีกฝั่งนึงของห้อง พอคุณหันกลับไปมองอีกทีจะพบว่า “มิกกี้หายไปไหน?ใครเห็นมิกกี้บ้างมั้ย? เค้าไปไหนแล้วเนี่ย?” (หัวเราะ) เค้าเก่งมากเรื่องหายตัว มันกับว่าเค้าระเหยหายไปเลย ฉันจำได้ว่าตอนงานเลี้ยงฉลองเสร็จงาน เค้าก็เป็นอีกแล้ว พวกเราต่างก็ “นายเห็นมิกกี้มั้ย? โอเค ว้าว เค้าหายไปแล้ว”

จุนจะอยู่กับพวกเราแน่นอนและก็เจเจด้วย เจเจเป็นคนขี้เล่นมากค่ะ เค้าเอาห่วงของนักกายกรรมมาเล่นแล้วก็ทำอะไรฮาๆ มันตลกมากๆ เลยค่ะ (หัวเราะ) … พวกเขาเป็นคนที่วิเศษมากค่ะ ชายหนุ่มที่แสนวิเศษที่น่าร่วมงานด้วย พวกเขาสมควรได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าได้มาแล้วค่ะ

อาหารโปรดอย่างหนึ่งของ Telisha คือ กิมจิ ตอนที่ JYJ รู้เรื่องนี้พวกเขาพากันแหย่เธอ “พวกเค้าคิดว่าฉันล้อเล่น แต่ไม่เลย ฉันชอบมันจริงๆ ค่ะ ดังนั้นทุกครั้งที่พวกเค้าออกมา พวกเค้าจะประมาณว่า “Teli!”– ฉันอดขำไม่ได้ที่พวกเค้าเรียกชื่อเล่นฉัน– แล้วบอกว่า “เราเห็นนะ! คุณควรหยุดกินอาหารของคนอื่นได้แล้ว!” (หัวเราะ)

Telisha พูดสั้นๆ เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษของ JYJ ให้ฟังและฉันก็ประหลาดใจที่เห็นเธอเคารพพวกเขาในฐานะศิลปินอย่างมาก “ฉันคิดว่ามันเป็นการต่อยอดเพื่อสื่อสารกับแฟนๆ ค่ะ และทำให้เพลงของพวกเขาเข้าถึงแฟนๆ ในวงกว้างมากขึ้น” เธอบอก DBSKnights “ฉันคิดว่ามันน่าจะลำบากทีเดียว… เมื่อต้องออกเสียงและสื่อสารสิ่งที่คุณคิดออกมา แต่คุณทำไม่ได้ — ฉันรู้ว่าบางทีพวกเขาก็ท้อแท้บ้างนิดหน่อยที่ไม่สามารถสื่อสารมันออกมาได้ พวกเขาเป็นแบบนั้น พวกเขาเป็นนักร้อง แต่ฉันก็มั่นใจว่าพวกเขาจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นไปอีกเพราะมันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้พวกเค้าสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นด้วยดนตรีของเขา”

DBSKnights: สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ของ JYJ บ้างคะ?

Telisha: สำหรับแฟนๆ ของ JYJ ฉันต้องขอขอบคุณพวกเขาที่ให้การต้อนรับฉันอย่างดีและคอยสนับสนุนหนุ่มอย่างยอดเยี่ยม พวกเขา (JYJ) เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากและเป็นศิลปินที่สุดยอดจริงๆ ที่น่าร่วมงานด้วย ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้ทำงานร่วมกับพวกเขาอีก ฉันทนรอไม่ไหวที่จะได้เจอทุกคนอีกครั้ง ฉันตื้นตันและมีความสุขมากๆ ที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนแบบนี้ และฉันคิดว่ามันมหัศจรรย์มาก ฉันชอบมากค่ะ ฉันชอบมันมากจริงๆ และฉันทนรอไม่ไหวที่จะได้มีประสบการณ์แบบนั้นอีกครั้ง

Telisha บอกว่า “ฉันหมกมุ่นมากๆอยู่กับการเป็นแคสซี่หน้าใหม่อยู่ค่ะตอนนี้ และรู้สึกตื่นเต้นมากที่ทุกคนต้อนรับฉันเป็นอย่างดีมากๆเลย!” ทุกคนต้อนรับเธอได้ที่ at @telishashaw ในเดือนธันวาคมนี้ Telisha จะได้ร่วมงานกับ Free Sol ศิลปินของ Justin Timberlake พวกเราจะตั้งตารอคอยผลงานใหม่ๆ ของคุณค่ะ Telisha!

ยินดีต้อนรับสู่วงการแฟนคลับ พวกเราดีใจที่คุณมาเป็นส่วนหนึ่งของเราค่ะ!

Rachel@DBSKnights.net

Source: DBSKnights.net
แปลไทย: 3rebelangels.wordpress

จากคุณ : fukaze

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 15:43:01

ความคิดเห็นที่ 10

เบื้องหลังอันสุดท้ายเเระ (มั้ง)

[แปล] เบื้องหลังทัวร์ JYJ The Beginning: บทสัมภาษณ์ เชน ยุน (Shane Yoon)

APA ได้คุยกับเชน ยุน (Shane Yoon) และ อาร์เดน โช (Arden Cho) ถึงเรื่องประสบการณ์การเป็นพิธีกรให้งานโชว์เคสของ JYJ
โดย Mai Nguyen

(APA คือ แมกกาซีนออนไลน์ ชื่อ Asia Pacific Arts ของมหาวิทยาลัย University of Southern California – สถานที่จัดโชว์เคสที่ลอส แองเจลลีส)

ถึงแม้จะยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าที่คอนเสิร์ตจะเริ่ม แต่ Galen Center ของ USC สถานที่จัดโชว์เคส The Beginning Tour ใน LA ของ JYJ ก็เต็มไปด้วยแฟนๆ ที่มาต่อแถวกันยาวเหยียดมองไม่เห็นหางแถว ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างตื่นเต้นในระหว่างที่เข้าแถวรอประตูเปิดอยู่ในความหนาวเหน็บ มันทำให้ฉันนึกไปถึงความบ้าคลั่งในงานดนตรีเกาหลีอื่นๆ ที่ฉันเคยไปมา ฉันคิดกับตัวเองว่า “อ่า นี่สินะคือพลังของ K-Pop”

ก่อนที่จะถึงเวลาของโชว์เคสที่ทุกคนตั้งตารอคอย เชน ยุน และ อาเดน โช ให้เวลากับเรามาพูดคุยถึงบทบาทของพวกเขาท่ามกลางความคลั่งไคล้นี้ ในฐานะพิธีกรที่แอลเอ หน้าที่ของพวกเขาคือการแนะนำศิลปิน สัมภาษณ์ศิลปินในช่วงตอบคำถาม และคอยดูแลให้การแสดงเป็นไปอย่างราบรื่น
เป็นที่รู้จักจากบทบาทในซี่รี่ส์ตลกออนไลน์เรื่อง KTown Cowboys ยุนเป็นทั้ง “นักแสดง พิธีกร นักคิดแนวขำขัน และมีเอก ลักษณ์เฉพาะตัว” เห็นได้จากทวิตเตอร์ของเขา โชวเป็นนางแบบและนักแสดงที่เมื่อเร็วๆ นี้เป็นนางแบบให้กับ Clinique และรับบทนำในหนังของ Ryan Higa เรื่อง Agents of Secret Stuff

Asia Pacific Arts(APA): คุณทั้งสองคนมาเป็นพิธีกรของ JYJ ได้ยังไงคะ?

Shane Yoon (SY): ผมสนิทกับ Rich Nam ที่เป็นประธานของ Entitled Entertainment ครับ (รบอจ.-บริษัทที่รับผิดชอบเรื่องโชว์เคสของสามหนุ่มที่อเมริกา) เค้าโทรมาถามผมว่าผมสนใจจะเป็นพิธีกรให้ JYJ มั้ย ผมเลยตอบไปว่า “ได้สิ แน่นอนไม่มีปัญหา”

Arden Cho (AC): หลังจากนั้นพวกเค้าก็เจอชั้นกลางถนน

SY: ที่จริงพวกเราลงโฆษณาใน Craigslist น่ะ (รบอจ -เว็บประกาศหางาน ขายของ) (หัวเราะ) เปล่าๆ จริงๆ แล้วเขาถามผมว่าผมรู้จักพิธีกรหญิงคน ไหนบ้างมั้ยที่คล่องภาษาเกาหลี เพราะว่าตัวผมเองก็พูดเกาหลีไม่ได้ 100% เหมือนกัน และผมคิดว่ามันคงจะดีถ้ามีพิธีกรเป็นชาย-หญิง ที่นิวยอร์คพวกเขาได้ Julie Chang มา เธอเป็นนักข่าวของ Fox News ส่วนที่ ลาสเวกัส กับ ลอสแองเจลลิส ผมจึงแนะนำอาเดนไป…ไม่น่าเลย (มุกตลก)

APA: พวกคุณรู้จัก JYJ มาก่อนหน้างานนี้หรือเปล่าคะ?

SY: ไม่ครับ ตอนที่ Rich โทรมาหาผมนั้นผมไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ผมเลยไปลองหาในอินเตอร์เน็ตและพบว่าพวกเขามาจากวงดังที่ผมเคยได้ยินมาก่อนชื่อ ทงบังชินกิ (동방신기).

AC: ตอนนี้เค้ากลายเป็นแฟนตัวยงเลยค่ะ!

SY: ผมไม่รู้จักพวกเขามาก่อน ผมเลยเริ่มลองฟังเพลงของพวกเขาบางเพลงและคิดว่า “อ้า พวกเค้าก็ใช้ได้นี่” พวกเขาดูเหมือนจะเป็นแค่บอยแบนด์ที่แตกออกมาจากบอยแบนด์อีกวง คงรุ่งได้สักพักเดี๋ยวก็ร่วง แต่ว่ากว่าผมจะเริ่มรับรู้ว่าพวกเค้าแตกต่างออกไปจากวงทั่วๆ ไปก็ตอนที่ผมไปเจอคน 4,000 คนต่อแถวรอเข้าโชว์เคสที่นิวยอร์คนั่นแหละ ผมประหลาดใจมากที่ฐานแฟนเพลงของพวกเค้าหลากหลายมาก ผมนึกว่าจะมีแต่เด็กเอเชียเท่านั้นแต่ไม่ใช่เลย แฟนๆ มีตั้งแต่เด็กๆ อายุแค่ 12 ปีไปจนถึงสุภาพสตรีอายุ 40 กว่า พวกเขาบินมาจาก แคนาดา ญี่ปุ่น และ อเมริกาใต้ นั่นมันบ้าชัดๆ! (รบอจ. -ในทางที่ดีค่ะ)

AC: ชั้นคิดว่ามันน่าสนใจมากเลยที่ได้เห็นความแตกต่างหลากหลายแบบนี้ ชั้นประทับใจมากค่ะ ที่จริงชั้นคิดว่าโชว์ที่เวกัสมีคนเอเชียน้อยกว่าที่อื่นด้วยนะคะ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าในคอนเสิร์ตของศิลปิน K-Pop คนที่ไปดูก็คงจะมีแต่คนเกาหลีทั้งนั้น ซึ่งนั่นมันไม่จริงเลย

SY: แม้แต่แม่ผมยังเป็นแฟน JYJ เลย

APA: คุณแม่คงดีใจมากเลยใช่มั้ยคะที่คุณได้งานนี้น่ะ

SY: แม่โทรหาผมไม่หยุดเลยครับ วันละสี่ครั้งได้ แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย แม่จะถามผม อย่างเช่น “JYJ เป็นยังไงบ้างลูก” และผมจะตอบไปว่า “อ่า แม่ครับผมอยู่ในห้องอาบน้ำครับ” (หัวเราะ)

APA: คุณช่วยอธิบาย JYJ ในฐานะศิลปิน (performer) และพวกเขาแบบปกติในชีวิตประจำวันได้ไหมคะ?

SY: ผมเติบโตมากับศิลปิน K-Pop ครับ ผมเคยได้ยินเรื่องสัญญาบ้าบอของศิลปินในวงการบันเทิงมาก่อนว่า คุณไม่สามารถทำอะไรตามใจได้ ดังนั้นผมจึงคิดว่าพวกเค้าน่าจะเป็นพวกหัวสูงเอาแต่ใจนิดนึง แต่ที่จริงแล้วพวกเค้ามีบุคลิกลักษณะนิสัยที่ดีมากๆ เลยครับและยังถ่อมตัวมากๆ ด้วย พวกเค้าทำงานหนักมาก และช่วงที่ทัวร์นั้นแต่ละคนก็ไม่สบายอยู่ด้วยแต่พวกเค้าก็ยังพยายามออกไปเดินเที่ยวชมเมือง ตื่นแต่เช้ามาให้สัมภาษณ์ และสร้างการแสดงที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถบอกได้เลยว่าโชว์ของพวกเค้าจะยอดเยี่ยมมาก พวกเค้าได้พลังมาจากกผู้ชม พวกเค้าเป็นศิลปิน (performer) ที่แท้จริง — ของแท้เลยครับ

AC: ชั้นคิดว่าพวกเค้าติดดินมากกว่าที่ทุกคนคิดไว้เยอะเลยค่ะ พวกเค้าเป็นคนตลกและประหลาดๆ ในแบบของพวกเค้าเอง พวกเค้าเป็นชายหนุ่มและคนธรรมดาที่อยากเล่นสนุกและต้องการให้คนอื่นสนุกไปด้วย

SY: คุณดู Micky Christmas รึยัง? มันแสดงให้เห็นเลยว่าพวกเค้าเป็นคนแบบไหนน่ะ (หัวเราะ)

APA: คุณมีเรื่องอะไรของพวกเค้าที่อยากเล่ามั้ยคะ?

AC & SY: อืมม…. อะไรที่เราเล่าให้พวกคุณฟังได้บ้างนะ?

APA: มีเรื่องลับๆ เยอะขนาดนั้นเลยหรอคะ?

SY: มีอย่างนึงเกี่ยวกับจุนซูที่ผมพบว่ามันน่ารักมากเลย คือ เค้าเป็นคนที่สนใจเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษมาก

AC: OH MY GOD SUN! [ประโยคประจำตัวของจุนซู]

SY: เค้าถามคำถามผมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเยอะแยะมากมาย และเค้าก็จริงจังกับมันมากด้วยครับ เค้าอยากพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง บางทีมันจะเป็นเพราะเค้าโดนคนหัวเราะเยาะเรื่องนี้มาหลายปีน่ะครับ (หัวเราะ)

AC: เค้าน่ารักมากเลยค่ะ! บางทีชั้นพูดอะไรแบบ “Oh, never mind.” (โอ้ ไม่เป็นไรจ๊ะ) เค้าก็จะถามชั้นว่า “มันแปลว่าอะไรหรอครับ?” ชั้นก็จะตอบไปแบบ “โอ้ ไม่ ไม่ คำนี้ถ้าแปลเป็นเกาหลีโดยตรงความหมายมันจะไปคนละทางเลยนะ อธิบายยากมากเลย” ท้ายที่สุดเค้าก็จะเข้าใจความหมายของมันแล้วก็บอกว่า “อ๋อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง!” และเค้าก็จะตื่นเต้นไปกับเรื่องนี้มากเลยค่ะ

APA: แล้วเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ของ JYJ เป็นไงมั่งคะ
[ คุณ Will จาก Entitled Entertainment เดินเข้ามา]

Will: แฟนคลับน่ารักมากครับ พวกเค้าโทรมาหาเราและบอกว่าพวกเค้าต้องการช่วยเหลืองานของทางทีมงาน ไม่ใช่แค่ช่วย JYJ เท่านั้น ที่นิวยอร์คพวกเค้าเสนอตัวทำอาหารให้ทีมงานทานด้วยครับ ถึงแม้ว่าทางเราจะจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว พวกเค้าก็ยังคงอยากทำอยู่ ปกติแฟนคลับจะอยากได้พวกของมีลายเซ็น แต่มันน่าประหลาดใจมากครับที่ได้เห็นพวกเขาเสนอความช่วยเหลือที่จะช่วยทีมงานอย่างพวกเรา

AC: พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนใครก็ตามที่ช่วยเหลือ JYJ หลังการแสดงครั้งแรก JYJ ก็มีแอนตี้แฟนอยู่บ้าง แต่แฟนๆ ก็ปลอบพวกเขาว่า “ไม่ต้องเสียใจนะ ไม่ต้องไปกังวลกับคนบ้าที่เกลียดพวกคุณนะ” เรื่องที่แฟนๆ ใส่ใจมากที่สุด คือ สุขภาพและความเป็นอยู่ของพวกเขา และหวังให้พวกเขามีช่วงเวลาที่ดีที่อเมริกา มีแฟนๆ มากมายที่จะหมกมุ่นอยู่กับการขอถ่ายรูปและลายเซ็น แต่แฟนๆ เหล่านี้แสดงออกถึงความรัก ความลึกซึ้งและห่วงใยมากกว่า

SY: แฟนๆ หลายคนทวิตหาผมเรื่องกระรอกบินได้เยอะมาก ผมก็งง “อะไรนะ?” ในภาพทางการของ JYJ ใน iTunes มิกกี้ใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่มากซึ่งมันทำให้เค้าดูเหมือนกระรอกบิน (หัวเราะ) พวกเขาฉลาดและหลักแหลม ไม่ใช่แฟนซื่อบื้อๆ ที่เอาแต่กรี๊ดใส่ทุกสิ่งทุกอย่าง อ่า แต่พวกเค้าก็กรี๊ดเยอะเหมือนกัน (ฮ่าๆ) ผมพยายามจะอ่านข้อความที่ทุกคนส่งตอบมานะครับ ผมคิดว่าถ้าไม่มีแฟนๆ เหล่านี้ วงการบันเทิงก็คงเกิดขึ้นไม่ได้น่ะครับ

APA: เราสังเกตเห็นว่าข้อความทวิตของคุณเหมือนปล่อยระเบิดลูกย่อมๆ ลงในทวิตเตอร์เลย (รบอจ – ออกแนวเกิดการทวิตจำนวนมหาศาลเพราะทวิตเค้าไรงี้อะค่ะ)

SY: ผมก็ตกใจเหมือนกันครับ มันเริ่มมาจากตอนนั้น Allkpop เขียนบทความเรื่องที่ผมกับอาร์เดนจะไปเป็นพิธีกรในงาน แล้วพวกเขาก็ใส่ทวิตเตอร์ของเราลงไปด้วย โทรศัพท์ของผมจะมีข้อความส่งมาบอกทุกครั้งที่มีคนมาฟอลโล่วผม และถึงแม้ว่าผมจะชาร์ตแบตแล้วนะครับ โทรศัพท์ผมก็แบตหมดอยู่ดีเพราะว่าทั้งคืนนั้นมีคนมาฟอลโล่วผมกว่า 600 คน ก่อนหน้านั้นผมมีคนตามแค่ประมาณ 100 คนเองเพราะผมเพิ่งทดลองใช้มันดูว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้ผมมีคนฟอลโล่วมากว่า 5,000 คนแล้วครับ

AC: ชั้นคิดว่า [JYJ] ก็ตื่นเต้นเหมือนกันที่แฟนๆ เค้ามาฟอลโล่วพวกเราค่ะ

SY: พวกเรากลายเป็นคนส่งข่าวแบบไม่เป็นทางการ และพวกเราก็สามารถทำให้แฟนๆ รับรู้เรื่องราวเบื้องหลังได้ ผมไม่คิดว่าแฟนๆมีโอกาสพบตัวจริงของพวกเขามากนัก ยกเว้นคนส่วนน้อยมากที่บังเอิญเจอพวกเขาที่ล็อบบี้โรงแรมน่ะครับ

AC: พวกเรายังคอยรายงานสิ่งที่แฟนๆ ตอบโต้ให้ JYJ ฟัง พวกเขาชอบฟังมันค่ะ พวกเขามีคนฟอลโล่วมากเกินจนถ้าพวกเค้าตอบใครคนใดคนหนึ่งไป คนอื่นๆ ก็จะอยากให้พวกเขาตอบด้วยบ้างเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยค่ะ แต่พวกเขาก็ชอบที่จะได้ฟังว่าแฟนๆ พูดคุยอะไรบ้าง

APA: หลังจากทัวร์จบลงแล้วพวกคุณจะยังใช้ทวิตเตอร์ต่อไหมคะ?

SY: ตอนที่มีคนมาฟอลโล่วผมล้นหลามชั่วข้ามคืน ผมก็คิดว่าพวกเค้าคงมาตามผมเพราะ JYJ แต่ถ้าผมสามารถนำเสนอความตลกแบบผมและตัวตนของผม บางคนอาจจะตามผมต่อก็ได้หลังจากที่คอนเสิร์ตจบไปแล้ว ผมคิดว่าพอคอนเสิร์ตจบพวกเค้าคงจะเลิกตามแต่ผมก็ได้รับการตอบรับที่ดีนะครับ ผมพยายามจะขโมยแฟนๆ ของ JYJ มาเป็นแฟนๆ ของผมบ้าง (หัวเราะ) มันก็จะเป็นการประสานโลกสองโลกเข้าด้วยกันได้อย่างดีนะครับ ผมว่าผมดึงดูดแฟนๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักได้มากกว่านะ เพราะหนุ่มๆ จะทวีตเป็นภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี นานๆ ทีถึงจะทวีตเป็นภาษาอังกฤษ ผมว่าแฟนคนชอบที่เราอัพเดตข้อมูลต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษแบบเฮฮาน่ะครับ ผมพยายามลองทำอะไรแปลกใหม่แล้วรอดูว่าผมจะเอาตัวรอดไปได้มั้ย ในเมื่อคนเกาหลีค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องบางเรื่อง อย่างเช่น ที่ผมทวีตไปว่า “ผมจะออกไปที่ซ้อมหลังจากอาบน้ำ[ฝักบัว] กับ JYJ แล้ว” แน่นอนว่าผมไม่ได้อาบจริงๆ หรอก [AC แทรกขึ้นมาว่า: ที่จริงเค้าอาบค่ะ] แต่ปรากฎว่าแฟนๆ ชอบครับที่ผมพูดอะไรเพ้อเจ้อน่ะ

APA: จากที่ฉันพอรู้มา Elbowyeish (John) คือ คนที่เล่นทวิตเตอร์คนนึงที่ใช้ “ไข่” บังหน้าและคอยอัพเดตเรื่องราวของสามหนุ่มเหมือนกัน คุณพอจะบอกเราเกี่ยวกับชายลึกลับคนนี้ได้ไหมคะ?

AC: เขาไม่ใช่ใครๆ ที่ใครๆ คิดว่าใช่น่ะค่ะ เค้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานหรือวงการเลยโดยสิ้นเชิง

SY: เค้าเป็นเพือนหนุ่มๆ ครับ และเค้าอยากเห็นหนุ่มเติบโตในสายอาชีพนี้ เค้าถือเป็นคนส่งข่าวแบบไม่เป็นทางการอีกคนนึง เค้าเข้าถึงหนุ่มๆ และเรื่องต่างๆ ได้มากกว่า พวกเราอยากจะช่วยส่งให้สามหนุ่มเป็นที่รู้จัก พวกเราเลยคิดขึ้นมาว่า “มาทำให้งานที่แอลเอมันแบบบ้าคลั่งกันไปเลย!” คำถามที่นิวยอร์คจะเป็นคำถามพื้นๆ มากกว่า แต่ตอนนี้เรารู้จัก JYJ มากขึ้นและรู้ว่าพวกเขาขี้เล่นขนาดไหน พวกเราเลยอยากได้คำถามที่ทำให้พวกเค้าโดดเด่นขึ้นมาได้ เราเริ่มการทวีตนี่แบบขำๆ แต่กลายเป็นว่ามันทำให้เกิดกระแสขึ้นอย่างมาก อ่อ แล้วที่เค้าเป็น “ไข่” ก็เพราะตอนที่แฟนๆ ถามว่าเค้าเป็นใคร ผมตอบไปว่า “เค้าเป็นไข่นี่เห็นๆอยู่” เพราะทวิตเตอร์จะตั้งรูปไข่ให้อัตโนมัติ แฟนๆ ดูจะชอบใจมาก หลังจากทุกอย่างก็กระจายออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ครับ

APA: คุณคิดว่ากระแสเกาหลีกับอิทธิพลของมันที่มีต่ออเมริกาทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?

SY: ผมว่ามันสุดยอดมากเลยนะ ผมเคยฟังรายการเพลงเกาหลี และผมก็ได้ภาษาเกาหลีเยอะมากมากจากการไปร้องคาราโอเกะ ตอนที่ผมจบมัธยมปลายผมก็ไม่ได้ติดตามมันอีก แต่การได้ไปคอนเสิร์ตนี้และได้เห็นแฟนๆ ที่นิวยอร์คทำให้ผมประหลาดใจถึงอิทธิพลของกระแสเกาหลีอย่างมาก ไม่ว่าจะชนชาติไหน แฟนๆ ทุกคนรู้คำพูดทักทายเป็นภาษาเกาหลีและประโยคอีกสามประโยค ผมถามบางคนว่าไปเรียนมาจากไหนพวกเค้าตอบว่า “เรามีเพื่อนที่แนะนำเราให้รู้จัก K-Pop และ JYJ สุดยอดมาก เรารักพวกเขาค่ะ” มันเป็นการทำให้เด็กๆ มีสิ่งยึดเหนี่ยว ที่จริงมาไม่ใช่แค่เสียงเพลงของ JYJ เท่านั้น – แต่ยังเป็นเรื่องความรู้สึกเป็นเจ้าของ/เป็นส่วนหนึ่ง เปรียบได้กับที่หนุ่มๆ มีทีมกีฬา สาวๆ ก็มีบอยแบนด์ของพวกเธอ (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกเค้า(แฟนๆ)นะ และผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงแบบไหนที่สามารถทำให้คนต่างชาติต่างภาษาสามารถมาอยู่ร่วมกันได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีครับ มันมหัศจรรย์มากใช่มั้ย?

AC: ชั้นคิดว่ามีดูดีมากเลยที่ได้เห็นการเติบโตของวงการบันเทิงเอเชียนและเอเชียน-อเมริกัน ที่นี่เราจะได้เห็นงานต่างๆ อย่างเช่น KoreAm talent show, Kollaboration, และ ISA* ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกคนทำเพื่อสนับสนุนศิลปะจากเอเชีย ตัวอย่างเช่น คอนเสิร์ต ISA พวกเขาเชิญ Jay Park มาเพื่อเพิ่มมุมมองด้านเกาหลีเข้าไปในเรื่องราวแบบอเมริกัน ชั้นคิดว่าสิ่งที่สำคัญคือการผสมผสานความสามารถพิเศษแบบเอเชียให้เข้ากับเอเชีย-อเมริกัน ฉันหวังให้ JYJ ได้ประสบความสำเร็จ เราอาจจะเริ่มจากศิลปินหนึ่งกลุ่ม เป็นสอง เป็นสามไปเรื่อยๆ และฉันหวังว่าทุกคนจะให้การสนับสนุนพวกเค้าต่อไปค่ะ

credit: asiapacificarts
shared by: sharingyoochun.net
แปลไทย: 3rebelangels.wordpress

หมายเหตุ

- KoreAm talent show – โชว์ที่จัดโดยนิตยสารKoreAm ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของสังคมเกาหลี-อเมริกา โดยร่วมมือกับองค์กร Kollaboration

- Kollaboration คร่าวๆ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยองค์กรไม่หวังผลกำไรและนักเรียนเชื้อชาติเอเชียเพื่อส่งเสริมวัยุร่นผ่านกิจกรรมด้านศิลปะและความบันเทิงต่างๆ

- ISA ย่อมาจาก The International Secret Agents Concerts ค่ะ ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา

ภาพ เชน ยุน และ อาร์เดน โช จากความอนุเคราะห์ของ Shane Yoon และ ArdenCho.com

จากคุณ : fukaze

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 15:57:38