ส่วนอันนี้ อ่านไปยิ้มไป ขอบคุณคนทำรีวิวนะคะ
*****************************************************************
Review: KyuJong & YoungSaeng AND Story in Thailand
Date: 11 ธันวาคม 2553
Venue: รอยัล พารากอน ฮอลล์ 3
กรี๊ดดดดด เย็นวันนี้เรามีนัดกับ 2 หนุ่มคยูจงและยองแซงแห่ง SS501 ที่งาน KyuJong & YoungSaeng AND Story in Thailand ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 3 ค่ะ แต่..เอ๊ะ แล้วเราไปนัดสองหนุ่มตอนไหนกันล่ะนี่ แฮะๆ ก็ตอนที่สองหนุ่มให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ยังไงล่ะคะ ที่ทั้งคู่เชิญชวนมาร่วมให้กำลังใจกันเยอะๆ เราเลยขอทึกทักเอาเองแล้วกันว่ามีนัดกับสองหนุ่ม ^^ ก่อนมางานนี้เราเลยต้องขอทำการบ้านด้วยการไปนั่งฟังเพลงของหนุ่มๆ เปิดอินเตอร์เน็ตตามติดทวิตเตอร์ และซ้อมกระแอมกระไอให้คอโล่งๆ จะได้มีแรงกรี๊ดให้เต็มที่กันไปเลย
ได้เวลาพอเหมาะ เราก็รีบไปที่งานแบบชิวๆ (รีบแต่ชิวนี่นะ เอ่อ ออกไปแต่ไก่โห่เลย ชิวมาก) กะว่าจะขอไปเป็นคนแรกๆ ซะหน่อย แต่พอไปถึงหน้างาน โอ้โห แฟนคลับของสองหนุ่มมารอกันเพียบเต็มลานเลย บรรยากาศหน้างานก็เริ่มที่จะสนุกสนานกันแล้ว เราเองก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้วล่ะ ก็แหมๆๆ วันนี้นอกจากจะได้ฟังสองหนุ่มร้องเพลงเพราะๆแล้ว ยังจะได้ดูหนุ่มๆ ทำอาหารไทยกันอีกด้วย เลยลุ้นอยู่ว่าพวกเขาไปหัดทำอาหารไทยชนิดไหนมาให้แฟนๆ ลองชิมกันนะ
และเมื่อ VTR แนะนำตัวคยูจงกับยองแซงเริ่มขึ้น บรรยากาศความตื่นเต้น สนุกสนานก็เรียกได้ว่าแทบระเบิดออกมาเลยทีเดียว แท่งไฟสีเขียว สีประจำวงของพวกเขาสาดแสงราวกับแสงสะท้อนยอดคลื่นเหนือทะเลยามดึกในช่วงฤดูหนาว มันสวยงามมากๆ เลยค่ะ เสียงกรี๊ดต้อนรับดังกระหึ่ม แล้วสองหนุ่มคยูจงและยองแซงก็ปรากฏตัวขึ้นกลางเวทีในชุดสูทสีดำสุดเท่ พร้อมกับเพลงโปรดของใครหลายๆ คนอย่าง Becouse Im a fool เพลงประกอบละครเรื่อง Boys Over Flowers ที่หนุ่มฮยอนจุงเพื่อนซี้ร่วมแสดงไว้ และถึงแม้ว่าเดิมเพลงนี้นั้นจะเป็นเพลงที่ร้องกันสามคน (คยูจง ยองแซง และฮยองจุน) แต่ทั้งสองหนุ่มก็ตั้งอกตั้งใจร้องและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างดี จบเพลงแบบประทับใจไปทั่วทั้งฮอลล์
เมื่อจบเพลงแล้ว สองหนุ่มก็กล่าวทักทายแฟนๆ และร่วมพูดคุยกันหลากหลายคำถาม โดยมี DJ ภูมิและคุณบีล่ามสาวแสนน่ารักมาร่วมพูดคุยด้วย พวกเขาพูดคุยอะไรกันบ้าง เราเก็บมาฝากหมดเท่าที่จะพอฟังออกนะคะ (แบบว่าเสียงกรี๊ดสาวๆ แต่ละคนดังมาก จนบางครั้งก็ฟังพลาดน่ะค่ะ)
DJ ภูมิ : เป็นยังไงบ้างครับหนุ่มๆ แฟนคลับมาเยอะขนาดนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง แล้วมีอะไรอยากจะทักทายกับสาวๆ บ้างมั้ย
KJ&YS: ดีใจมากๆ เลยครับ ที่ได้เจอกันอีกครั้ง เวทีวันนี้จะสนุกมากๆ อยากให้เพื่อนๆ ทุกคน สนุกกันเยอะๆ นะครับ
DJ ภูมิ : เพลงที่จบไปเมื่อกี้เพราะมากๆ เลย อยากให้แนะนำหน่อย
YS: เพลงเมื่อซักครู่คือเพลงประกอบละคร BOF ครับ ชื่อเพลง Becouse Im a fool ตัวเพลงพูดถึงคนที่โง่ แต่ผมน่ะ เป็นคนฉลาดนะครับ
DJ ภูมิ : การมางานที่เมืองไทยถือว่าเป็นการจัดประเทศที่สองต่อจากประเทศเกาหลี อยากถามว่าทำไมถึงเลือกเมืองไทยเป็นประเทศที่สอง แล้วคิดยังไงกับแฟนคลับชาวไทยบ้าง
KJ&YS : ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าพวกเราคิดถึงแฟนๆ ที่เมืองไทยมากเลยครับ แล้วก็อยากกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้งนึง คือตอนนี้ที่เกาหลีหนาวมากเลยครับ เลยคิดถึงประเทศไทยที่อบอุ่น พวกผมก็เลยเลือกมาที่นี่เป็นประเทศที่สองครับ
DJ ภูมิ : ผมได้ยินมาว่าสาวเกาหลีน่ารักมาก แล้วสาวไทยล่ะ น่ารักสู้สาวเกาหลีได้หรือเปล่า
KJ: แน่นอนครับ สาวไทยน่ะ ยิ้มแล้วสวยมาก เพราะว่าสเป็คของผมกับเพื่อนๆ น่ะ ชอบสาวยิ้มสวยอยู่แล้ว แล้วทุกคนก็ยิ้มสวยมากๆ เลย สวยกว่าสาวเกาหลีอีกนะครับ
ทักทายพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ดีเจภูมิก็พาสองหนุ่มและแฟนๆ เข้าสู่ช่วงกิจกรรมแรก เป็นกิจกรรมเลือกเปิดแผ่นป้ายตัวอักษรของคำว่า THAILAND แล้วตอบคำถามด้านหลังแผ่นป้าย ซึ่งคำถามต่างๆ จะเป็นคำถามที่แฟนๆ ส่งกันเข้ามา
คยูจงเป็นคนเลือกป้ายคำถามตัว A ก่อน คำถามคือ รู้จักผลไม้ไทยอะไรบ้าง และอยากทานผลไม้อะไร คยูจงบอกว่า ผมชอบทานมังคุดมากเลยครับ ช่วงที่ดีเจภูมิกับคุณบีพูดถึงมังคุด คยูจงก็หัดพูดคำว่า มังคุดๆ แก้มป่องๆ น่ารักมากๆ เลยเชียว จากนั้นคยูจงก็บอกต่อว่า ทุกครั้งที่มาเที่ยวเมืองไทย ผมก็จะดื่มน้ำชนิดนี้ มันคือน้ำแตงโมปั่นครับ ที่เกาหลีก็มีน้ำแตงโมปั่นนะครับ แต่ว่าที่ไทยเนี่ย มันอร่อยมากๆ เลยครับ
คำถามต่อมายองแซงเลือกตัว T ถามว่า มาเมืองไทยครั้งนี้ พูดภาษาไทยอะไรได้บ้าง แล้วอยากจะพูดอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง ยองแซงทำท่าคิดหนัก ก่อนจะบอกว่า ภาษาไทยมันยากมากเลยนะครับ ก่อนขึ้นเวทีผมก็ได้เรียนบางคำมา แต่พอขึ้นมาแล้วผมตื่นเต้นมากเลยครับ งั้นขอเลือกคำนี้แล้วกัน น่ารักจัง ดีจูมิเลยขอให้ยองแซงพูดใหม่อีกครั้ง แฟนๆ จะได้ชื่นอกชื่นใจ ยองแซงเลยจัดให้ตามคำขอ ทีนี้มาแบบฟูลอ๊อปชั่น ทุกคนน่ารักจัง พร้อมผายมือเป็นท่าประกอบย้ำให้ชัดๆ ว่าทุกคนน่ารักจริงๆ
คำถามต่อมา คยูจงรับหน้าที่เลือกตัวอักษร L ถามว่า คิดว่าตัวเองน่ารักตรงไหน และเพื่อนเราเนี่ย น่ารักตรงไหน คยูจงบอกว่า ผมคิดว่าผมน่ารักตอนที่ผมยิ้มครับ ภาพก็ซูมไปที่รอยยิ้มของคยูจง ส่วนยองแซงบอกว่า ผมเป็นคนที่หน้าเด็กมากเลยครับ สองหนุ่มยังผลัดกันชมอีกยาว แต่เราจนปัญญาจริงๆ เสียงกรี๊ดดังมากๆ เลยฟังไม่ถนัด รู้แต่ว่าพวกเค้าผลัดกันชม ผลัดกันเชียร์ น่ารักกันมากๆ เลยค่ะ
ต่อมายองแซงเลือกคำถาม H ถามว่า ชอบเพลงไหนของ SS501 มากที่สุด และเพราะอะไร ยองแซงบอกว่า ที่จริงแล้วผมก็ชอบทุกเพลงเลยนะครับ เพราะมันคือเพลงของพวกเรา แต่ถ้าจะให้เลือกเพลงนึงล่ะก็ ขอเลือกเป็นเพลง Love Like This แล้วกันนะครับ เพราะเป็นเพลงที่สนุก และทุกคนก็จะสามารถเต้นไปด้วยกันได้ แล้วไหนๆ ก็พูดเรื่องเพลง ดีเจภูมิเลยขอให้ร้องโชว์ซักท่อนนึง ทำเอาเจ้าตัวทำท่าหนักใจนิดๆ แต่ก็ร้องออกมาให้ฟังท่อนนึงตามคำขอ หนุ่มยองแซงบอกว่า เพราะเพลงนี้เป็นเพลงเร็วครับ พอไม่มีดนตรีประกอบเนี่ย ผมก็เลยเขิลที่จะร้องออกมา แล้วยังเต้นก็ไม่ได้อีกด้วยนะครับ อืมมมม... หันมาถามแฟนๆ ว่า อยากเห็นผมร้องเต้นเพลงนี้มั้ย ลองลุ้นดูนะครับว่าวันนี้จะมีโชว์เพลงนี้หรือเปล่า
และคำถามสุดท้ายแถมมาพิเศษก่อนหมดช่วง คยูจงเลือกข้อ I ถามว่า ชอบเพลงของวงสาวๆ เพลงไหนมากที่สุด คำถามนี้โดนใจแฟนๆ และเรามากเป็นพิเศษ ก็แหม พูดถึงเพลงและท่าเต้นของเกิร์ลกรุ๊ปเนี่ย มันก็ต้องมีลุ้นจะได้เห็นสองหนุ่มลุกขึ้นมาเต้นๆ บ้างหละจริงมั้ย คยูจงบอกว่า ชอบหมดเลยครับ เพราะทุกวงก็มีความสามารถ อย่างเพลง Bo Peep Bo Peep ของ T-ara พูดจบเพลงก็ดังขึ้นทันที คยูจงไม่ทำให้ผิดหวัง ลุกขึ้นมาเต้นโชว์ซะเลย ดีเจภูมิกลัวยองแซงจะน้อยหน้า เลยขอให้เต้นโชว์บ้าง เพลง Gee ก็ดังขึ้นทันที แรกๆ ยองแซงก็เขิลๆ อายๆ กว่าจะลุกขึ้นมาได้ แต่พอหายเขิลแล้วก็วาดลวดลายซะเจ้าของเพลงอาจจะต้องขอซูฮกให้เลยทีเดียว
เห็นสองหนุ่มเต้นได้ขนาดนี้ เลยขอให้เต้นคู่กันเลย เพลง Lupin ก็ดังขึ้นทันที แต่สองหนุ่มได้แต่นั่งมองหน้ากันแล้วส่งสัญญาณผ่านสายตาประมาณว่า เต้นยังไงล่ะนี่ จำได้ป่าวเพื่อน ท่ามันยังไงนะ และมองกันไปมา ส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กแบบงง เลยตกลงหันมายกนิ้วชี้จ่อปากทำเสียง ชู่วๆ กันแทน ประหนึ่งอยากบอกแฟนคลับว่า อย่าเพิ่งเชียร์ครับ ผมจำท่ากันไม่ได้ แต่พอเพลงหยุดไปกลับลุกขึ้นมาเต้นกันได้ซะอย่างนั้น เอากะสองหนุ่มเค้าซิ
พอหมดกิจกรรมแรกก็เข้าสู่ช่วงการโชว์เพลงโซโล่ของแต่ละคน ยองแซงนำเพลงเพราะๆ อย่าง I Love U Im Sorry มาขับกล่อมให้แฟนๆ ได้เคลิ้มไปกับเสียงหวานๆ ปนเศร้า แต่ยังไม่ทันไร คยูจงก็นำเพลงจังหวะกลางๆ พร้อมแด๊นเซอร์ 4 คน และท่าเต้นเท่ๆในเพลง Never Let U Go มาเปลี่ยนบรรยากาศให้ออกมาแบบเซ็กซี่ๆ นิดๆ ส่งให้เวทีร้อนแรงขึ้นมาทันที และร้อนแรงยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่กิจกรรมต่อไป เอ...หรือต้องบอกว่าเผ็ดร้อนดี เพราะกิจกรรมที่ว่านี้มันคือการแข่งขันกันตำส้มตำนั่นเอง
ก่อนสองหนุ่มจะเริ่มแข่งขันกัน ยองแซงบอกว่า ปกติอยู่หอเดียวกันแล้วเค้าก็ทำอาหารให้คยูจงกินด้วย ส่วนคยูจงบอกว่าก็พอจะทำอาหารเป็นอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่งานนี้สองหนุ่มต้องมาตำส้มตำแบบไทยๆ จะไหวกันมั้ยเนี่ย
การแข่งตำส้มตำครั้งนี้จะมีผู้ตัดสินที่เลือกมาจากแฟนคลับผู้โชคดี 3 คน พออุปกรณ์มาถึง แค่หนุ่มๆ จับมันขึ้นมา แฟนคลับก็กรี๊ดเสียงดังลั่น ท่าทางสองหนุ่มเองไม่มีใครยอมใครเลย มุ่งมั่นกันมากๆ คยูจงเริ่มจะใส่พริกกับกระเทียมลงไปแล้วตำอย่างเมามันส์จนเราเริ่มคิดว่านั่นคยูจงจะตำส้มตำ หรือตำน้ำพริกกันแน่ กะให้แหลกละเอียดเลยใช่มั้ย
หันไปมองฟากยองแซงกันบ้าง ก่อนที่จะเริ่มลงมือก็ได้หยิบพริกมาลองชิมดูก่อน เผ็ดใช่มั้ยล่ะยองแซง^^ คยูจงแอบชะโงกหน้ามาเห็นพอดี เลยลองหยิบมาชิมดูบ้างเหมือนกัน แต่สงสัยจะชิมหนักไปหน่อย อีกอย่างคยูจงคงลืมไปว่านี่มันพริกของไทย ไม่ใช่พริกเกาหลี รู้ตัวอีกทีก็เผ็ดแทบแย่ เหงื่องี้แตกพลั่กๆ เลย ตำส้มตำกันไปได้พักใหญ่แล้วก็ยังดูท่าว่าจะไม่หายเผ็ด
ระหว่างที่คยูจงวุ่นวายกับการตำส้มตำและความเผ็ดที่ต้องเผชิญ ยองแซงก็ตำส้มตำไปแบบสบายๆ และดูท่าว่าการที่ทำอาหารเป็นนั้นจะช่วยได้เยอะ เพราะทั้งคลุกเคล้า ทั้งตำประหนึ่งได้ลองหัดทำมาก่อนแล้วเป็นอย่างมาดี แต่ดั๊นหันมาบอกคุณบีล่ามสาวว่า ผมรู้สึกเหมือนกำลังทำกิมจิเลย เอ่อ ยองแซงคะ ส้มตำกับกิมจิ เหมือนกันมากเลยค่ะ (ฮา) งานนี้นอกจากสองหนุ่มจะสนุกสนาน แฟนๆ จะเพลิดเพลิน ดีเจภูมิก็ยังได้วิ่งวุ่นไปทางนู้นทางนี้เป็นโค้ชจำเป็นช่วยแนะนำช่วยชิมให้สองหนุ่มตลอดเลย จนเสร็จเรียบร้อยกันแล้ว ดีเจภูมิถามสองหนุ่มว่ายังมั่นใจกับฝีมือตัวเองกันอยู่มั้ย คยูจงเลยตอบว่า มั่นใจมากๆ
เกณฑ์การตัดสินมี 2 ส่วน คือหน้าตาของส้มตำ (ไม่ใช่หน้าตาของสองหนุ่มนะ) ที่เราเห็นว่าของคยูจงดูจะมีสีสันละม้ายคล้ายส้มตำแบบ Original Version มากกว่าของยองแซงอยู่นิดหน่อย (สงสัยยองแซงจะใส่ถั่วน้อยไปนิด เพราะเห็นว่าใส่ไปแค่ 2 เม็ด 555) และรสชาติที่แฟนคลับผู้โชคดี 3 คนจะเป็นคนตัดสิน (ยังสงสัยอยู่ว่าโชคดีจริงๆ ใช่มั้ย เพราะเราแอบเห็นยองแซงแอบชิมแล้วส่ายหน้าก่อนที่จะตักใส่จานน่ะ 555) ซึ่งสุดท้ายคยูจงก็ชนะไปด้วยคะแนน 2:1 ส่งผลให้ยองแซงเป็นฝ่ายโดนลงโทษให้ดื่มน้ำประหลาดๆ (สำหรับสองหนุ่ม แต่มันธรรมดาๆ สำหรับพวกเรา) น้ำที่มาให้เลือกมันมีน้ำใบบัวบก น้ำเสาวรส และน้ำอีกชนิดที่สีออกแดงๆ ม่วงๆ ยองแซงเลือกดื่มน้ำเสาวรสไป (คยูจงแอบหลอกว่ามันคือน้ำกล้วยหอม เอ่อ ยองแซงคงจะเชื่ออ่ะค่ะคยูจง)
ยองแซงที่เพิ่งดื่มน้ำแปลกๆ หมดแก้วไปหันมาบอกว่าเค้าไม่เคยได้ลองกินส้มตำเลย ก็เลยไม่รู้ว่ารสชาติของมันเป็นยังไง ทำให้ต้องแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนคยูจงที่ชิมพริกไปก่อนหน้านี้บอกว่าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพริกของไทยจะเผ็ดมากขนาดนี้ มันเผ็ดมากๆๆๆ แต่ที่ได้ลองตำส้มตำก็สนุกมากๆ เลย อยากจะลองทำอาหารไทยอื่นๆ ดูอีกด้วย
หลังจากแข่งกันตำส้มตำไปแล้วเรียบร้อย ยองแซงก็นำ VTR ฝีมือการถ่ายทำ ตัดต่อ และเลือกเพลงประกอบด้วยตัวเองมาโชว์ให้แฟนๆ ได้เห็นถึงช่วงเวลาสนุกๆ แบบส่วนตัวๆ ที่ยองแซงและคยูจงไปเที่ยวอเมริกามาด้วยกัน จากนั้นยองแซงก็กลับมายึดเวทีและทำให้ร้อนแรงขึ้นอีกครั้งด้วยเพลง Find โชว์พลังเสียงในแบบที่แฟนๆ ต้องทึ่งกันไปเลย จบเพลงนี้ไปชนิดที่ว่าเราต้องขอปรบมือให้ดังๆ กับพลังเสียงของยองแซงเลยค่ะ และเพราะเพลงที่เลือกมาโชว์นี้ไม่เหมือนกับงานที่เกาหลี ยองแซงเองก็อยากให้ทุกคนได้สนุกสนานไปด้วยกันได้ ก็เลยเลือกเพลงนี้มาโชว์เสียเลยนั่นเอง
จากนั้นก็เปิด VTR อีกตัวเป็นภาพที่จะได้เห็นมุมต่างๆ ในวันว่างๆ ของสองหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการไปเล่นเบสบอลของยองแซง คยูจงไปเที่ยวสวนสนุก ภาพการซ้อมเต้น หรือสองหนุ่มช่วยกันเก็บห้องรกๆ ให้เข้าที่ เปิดเผยแง่มุมส่วนตัวในแบบที่แฟนๆ แทบไม่มีโอกาสได้เห็นกันเลย ยังไม่ทันรู้ตัว VTR ก็จบลง และคยูจงก็โผล่มาท่ามกลางแฟนๆ พร้อมเพลง Wuss Up ทำเอาสาวๆ ปั่นป่วนกันไปทั่ว ก่อนจะเดินกลับไปโชว์ร้องเต้นอย่างเต็มที่บนเวทีอีกครั้ง แต่พอจบเพลงนี้กลับมีบรรยากาศฮาๆ ปนน่ารักเมื่อคยูจงบอกว่าเมื่อครู่นี้ตอนที่กำลังเดินมาบนเวทีสร้อยข้อมือของเขาหายไป หากใครเก็บได้(จากข้อมือ) ช่วยเอามาคืนด้วย เพราะว่ายืมเค้ามา ต้องเอาไปคืนน่ะ สาวที่สอยสร้อยไป เอ้ย เก็บสร้อยได้จึงรีบวิ่งเอามาคืนให้ เลยได้รับอ้อมกอดของคยูจงแทนคำขอบคุณที่นำสร้อยมาคืน เอ่อ อืมม คุ้มแฮะ คราวหน้าเราจะลองหาทางเก็บสร้อยบ้างดีมั้ยเนี่ย (ฮา) ล้อเล่นนะคะ และเผอิญว่าใน VTR มีช่วงนึงที่ยองแซงซ้อมเต้นเพลงของเรนด้วย เลยถูกขอให้เต้นโชว์ ยองแซงก็จัดให้เต็มที่ตามคำขอ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของงานในที่สุด
ในช่วงสุดท้ายนี้ แฟนคลับได้เตรียมคลิปแบบ UCC น่ารักๆ ที่ถ่ายทำกันเอง ตัดต่อกันเองมาฝากสองหนุ่ม ทำเอาทั้งคู่ประทับใจกันแบบสุดๆ ยองแซงถึงขนาดเอ่ยปากว่าทำได้ดีกว่าของตัวเค้าเยอะเลย ส่วนคยูจงเองก็รู้สึกขอบคุณแฟนๆ มากๆ ที่ทำคลิปมาฝาก เห็นในคลิปมีข้อความเขียนว่าที่เมืองไทยก็มีสวนสนุก งั้นคราวหน้าจะมาเที่ยวสวนสนุกด้วยแน่ๆ สัญญากันแล้วนะคยูจง แฟนๆ ชาวไทยไม่ลืมสัญญากันง่ายๆ หรอกนะ และเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่ทำคลิปมาฝาก สองหนุ่มเลยมอบของขวัญให้ตัวแทนแฟนคลับที่นอกจากจะได้ของแล้ว ยังได้อ้อมกอดอุ่นๆ ของสองหนุ่มไปอีกด้วย
ยังค่ะ ยังไม่หมดเท่านี้ สองหนุ่มยังมีของขวัญมาให้อีก 2 รางวัลสำหรับผู้โชคดี ซึ่งรอบนี้มีผู้โชคดีเป็นสาวไทย 1 คน และสาวเกาหลีที่มาอยู่เมืองไทยได้ 6 เดือนแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะมาให้กำลังสองหนุ่มอีก 1 คน และเพราะตอนนี้เข้าสู่หน้าหนาว สองหนุ่มเลยเตรียมครีมมาเป็นของขวัญพร้อมกับลองทาให้เองกับมือ แต่สงสัยจะกลัวว่าสาวๆ ท้าลมหนาวไม่ไหว เลยช่วยกอดให้อุ่นกันไปทั้งกายทั้งใจเป็นที่อิจฉาของแฟนๆ กันเลยทีเดียว
และก่อนที่จะจบงาน สองหนุ่มได้ฝากข้อความทิ้งท้ายไว้ถึงแฟนๆ ชาวไทยทุกคน คยูจงฝากไว้ว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก ผมรู้สึกขอโทษที่กลับมาช้าไป อยากมาอีกให้เร็วกว่านี้ ก็ขอให้ปีหน้านี้จะเป็นปีที่ดีของทุกคนนะครับ ตัวผมเองปีหน้าจะมีงานละคร ก็อยากจะฝากให้ช่วยเป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ ส่วนยองแซงทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าไม่มีทุกคน แฟนมีตติ้งครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น ขอโทษที่บอกว่าจะมาทุกวันเลย แต่ก็ไม่ได้มาซะที อยากขอบคุณทุกๆ คนที่คอยให้กำลังใจพวกเรามาตลอด และอยากจะขอให้เป็นกำลังใจให้พวกเราตลอดไปด้วยนะครับ ก่อนจะปิดท้ายงานจริงๆ ด้วยเพลง Wing Of World และจดหมายจากสองหนุ่มไปอย่างสุดประทับใจทั้งศิลปินและแฟนๆ
Special Thanks:
Piya for text
Yok!ez for pix
ที่มา: www.talkateen.com หากมีการนำออกไปใช้ กรุณาลงเครดิตของเว็ปให้ครบถ้วนด้วยนะคะ