|
3. The Revivalists : Vital Signs (9.5/10)
อีกหนึ่งวงอเมริกัน 6 ชิ้น ที่หน้าไม่ใหม่นัก จากเมือง New Orleans ดาวทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ Louisiana แต่ฝีมือทำเพลงถือว่าเข้าขั้นเลยทีเดียว ต้องบอกว่าครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับ Vital Signs อัลบัมชุดที่สองอย่างเป็นทางการของวง ความรู้สึกแรกคือ อะไรวะ?? พวกเอ็งจะเล่นแนวไหนกันแน่ หากจะบอกว่าแนว จับฉ่าย ก้อคงไม่ผิดนัก เพราะว่า แต่ละเพลงลักษณะการร้อง ดนตรี ท่วงทำนอง มันมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่า มันไม่ควรจะมาอยู่ในอัลบัมเดียวกัน และก้อจากศิลปินวงเดียวกัน The Revivalists ก่อตั้งกันมาตั้งแต่ปี 2007 ภายหลังจากนิวออร์ลีนถูกเฮอร์ริเคนคาทรีน่าถล่ม สมาชิก 6 หนุ่ม ต่างคนต่างที่ แต่ได้มารวมกันปักหลักทำเพลงกันในเมืองนี้ แต่เรียกว่าได้อิทธิพลจากดนตรีโซลในแถบ Southeastern มาแบบเต็มๆ มีบางรีวิวระบุว่าแนวดนตรีของ The Revivalists เป็น Soulful Danceable Rock หากจะขยายให้ฟังเอากันตั้งแต่แทร็คแรก Not Turn Away มาแบบ Southern Rock มีเครื่องเป่าบวกเสียงประสานแทรกอยู่ในท่อนฮุค Short of Tears เพลงร็อคจังหวะโจ๊ะๆ ที่มี loop ของ Saxophone วิ่งไลน์เป็นพระเอกซ้อนอยู่เป็นแบ็คกราวน์ ทั้งสองเพลงนี้ทำให้นึกถึงงานเก่าๆ ของ Counting Crows ผสมกับลูกบ้าอย่าง Cake (ลองนึกเอาเสียงของ Adam Duritz ไปร้องแจมกับ Cake!!) แทร็คที่ 3 Catching Fireflies นี่มาแบบโซลร็อค ได้อารมณ์ประมาณฟังงานของ Dylan, Rollin Stone หรือแม้กระทั่งกลิ่นของ Van Morrison ที่ล่องลอยให้เห็นอยู่บ้าง Souls Too Loud เมนสตรีมร็อคแอนด์โรล ที่มีจังหวะและทำนองติดหู ยิ่งช่วงหลังแจมกันมันหยด แทร็คที่ 5 Purple Heart นี่ขึ้นอินโทรขึ้นมาทั้งซาวน์บลูส์และไซคีเดลิกเลย พอท่อนฮุคกลายเป็น grunge ซะงั้น 555
ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ สุดยอดมันส์จริงๆ (ได้อารมณ์เหมือนตอนฟัง 99 Problems ของคุณฮิวโก้ครั้งแรก) Straw Man เพลงอคูสติกช้าๆขึ้นแบบ Neil Young ตีคู่กับเสียงเปียโน ที่ติดหูตั้งแต่ฟังเที่ยวแรก กลายเป็นประมาณเพลงช้าๆสไตล์ LifeHouse แทร็คที่ 7 Ride the Earth เพลงนี้ซาวน์กรันจ์ชัดเจนที่สุดแล้วล่ะครับ หากเปลี่ยนนักร้องมากเป็นอีตา Scott Weiland นี่มันงานของ Stine Temple Pilot ชัดๆ!! เพียงแต่เพลงมันทำให้ฟังง่ายขึ้นและดู soft ลงมาบ้างก้อจากเครื่องเป่ากับเมโลดี้สวยๆเป็นช่วงๆ และแล้วพอเข้าแทร็คที่ 8 Appreciate Me I & II นี่เล่นปรับอารมณ์ไม่ทันเลยครับ คิดว่าอยู่ดีๆ พี่แกคงอยากจะลองเปลี่ยนมาเล่น Indie Rock เอาใจเด็กๆตามกระแสบ้าง ซึ่งก้อต้องยอมรับว่า สอบผ่าน ขึ้นมา Indie พอเข้า part 2 พี่แกกลับลากจังหวะช้าแล้วแทรก Funk กับเรียกเร็กเก้เข้ามาเสริม แล้วเมื่อมันบวกกับเสียงร้องๆแหบๆพร่าๆของ David Shaw นักร้องนำแล้ว ทำให้เพลงดูมีอะไรแตกต่างไปจากวง indie อื่นๆ Dont Get Caugh Up กลับมาเป็นร็อคที่มีทั้งจังหวะเร็กเก้ ฟังกี้ บวกกับกรันจ์ซาวน์กลางเพลง เช่นเดียวกันหากเอาเสียงของตา Anthony Kiedis มาร้องแทน ก้อเอาไปใส่ไว้ในอัลบัมของ RHCP ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงเลย Two Ton Wrecking Ball เพลงช้าๆอีกหนึ่งเพลงในแบบ Southern Rock อีกครั้ง แทร็คสุดท้าย Hurricane Winslow นี่อารมณ์ขึ้นมาแบบคันทรี่เลย แต่ก้อได้เครื่องเป่ามาทำให้เพลงน่าฟังและลดความเป็นลูกทุ่งลงไปได้บ้าง ประมาณ The Eagles ในยุคแรกๆ
หลังจากฟังจบทั้งอัลบัมวนไปวนมาอยู่ 4-5 เที่ยว (ตอนนี้คงได้เป็นสิบแล้ว) ความรู้สึกที่ได้จากงานชุดนี้คือ ความน่ารัก สีสัน และ ความสนุกสนาน ของผู้คนและบรรยากาศในเมืองนิวออร์ลีน ซึ่งหากใครมีโอกาสเคยไปสัมผัสดินแดนวูดูแถบนี้คงจะนึกออกได้ไม่ยาก หากคุณคิดถึงงานแบบมีจิตวิญญาณ จริงใจๆ ไม่มีจริตจก้าน ลูกทุ่งๆ ติดดินหน่อยๆ ในแบบที่มีทั้งอารมณ์ Rock n Roll, Soul, Jazz, Funk, Reggae, Grunge, Alternative, Country หรือกระทั่ง Indie ก้อตาม ต้องบอกว่า อย่าพลาดงานชิ้นนี้โดยเด็ดขาด!!
จับฉ่าย ชามนี้ไม่ใช่ จับฉ่าย ประเภทที่คนสมัยก่อนจับยัดอะไรลงมาเพื่อกินประทังชีพ แต่กลับเป็นแกง จับฉ่าย ประเภทที่ถูกปรุงรสเพื่อเสริฟในภัตตาคารเหลาต่างหาก!! ดนตรีแบบมั่วซั่วประเภทที่ฝรั่งเค้าใช้คำว่า Jam Band มีอะไรจับยัดลงมาหมด ไม่ได้แปลว่ามันจะออกมาไม่ดีเสมอไป หากถึงนำมาจัดเรียงอย่างมีชั้นเชิง ด้วยหัวคิดสุดแสนบรรเจิดอย่างเช่นงานของ Revivalists ชิ้นนี้ มันจะเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซได้เลยไม่ยาก อัลบัม Vital Signs ชื่อที่ทางการแพทย์ หมายถึง สัญญาณชีพ หรือสัญญาณมีชีวิตทั้งหลาย ทั้งความดัน ชีพจร จังหวะการหายใจและการเต้นของหัวใจ จะถูกปลุกเร้าขึ้นมาแน่ๆระหว่างที่คุณกำลังเสพย์งานชิ้นนี้ เสมือนเดินอยู่ท่ามผู้คนบนถนน Bourbon Street ในเทศกาล Mardi Gras ลองคิดดูแล้วกันว่าจะสุขขนาดไหน!!
จากคุณ |
:
cunut
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ธ.ค. 53 17:57:52
|
|
|
|
|