ความคิดเห็นที่ 1 Phone Company -- Murray Called Everyone BUT 911 Updated 1/06/11 at 2:45pm Two reps from the phone company testified in the hours surrounding the revelation that Michael Jackson was lifeless in bed, Murray was texting and calling lots of people, but never called 911. The records show Murray was sending and receiving multiple texts.  Two particularly interesting ones at 12:03 and 12:04 PM ... the person Murray was texting was in Texas. It's unclear if the texts had anything to do with the two women in Murray's office who went to a storage facility to retrieve boxes. Murray also sent data at 12:15 and 12:18 and another text at 12:53. Murray also called a number of people, including his girlfriend, Nicole Alvarez, but the only record shows 1:08 PM.  This is inconsistent with what law enforcement tells TMZ -- that he was on the phone with Alvarez just after 12 noon and when Murray realized MJ was in distress he dropped the phone. จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 09:11:04

ความคิดเห็นที่ 2 UCLA Docs -- Michael Was DOA Two doctors from the UCLA Medical Center testified ... Michael Jackson was dead on arrival, yet Dr. Murray told them "not to give up easily and try to save the patient." Dr. Richelle Cooper testified when Jackson arrived at UCLA there was "no signs of life." Dr. Cooper added Murray was not forthcoming about the drugs administered to MJ.   Cooper says Murray copped to giving Michael lorazepam, but made no mention of Propofol. And this was interesting.  Cooper says MJ weighed 136 lbs. Dr. Thao Nguyen testified Dr. Murray denied giving Michael any sedatives or narcotics, other than the lorazepam. จากคุณ : PK (myriostigma) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 09:12:24

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : SIMONBIRCH เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 12:22:57

ความคิดเห็นที่ 4 รีบพิมพ์ก่อนที่เจ้านายจะกลับมา ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้จ้า m(_ _)m ขอบคุณคุณ PK มากๆสำหรับการรายงานข่าวอย่างต่อเนื่องนะคะ ขออนุญาตเพิ่มเติมเนื้อหาที่สรุปมาจากเว็บนี้ด้วยค่ะ http://sprocket-trials.blogspot.com/ http://www.justice4michaeljackson.com/day03.php การให้ปากคำ วันที่ 3 ---> Martin Blount หน่วยกู้ชีพอีกคนหนึ่ง เข้ามาถึงจุดเกิดเหตุคนสุดท้าย เนื่องจากเป็นคนขับรถให้เพื่อนหน่วยกู้ชีพ ซึ่งมัวแต่จอดรถอยู่จึงเข้ามาช้ากว่าคนอื่น ให้การว่ามะเร่ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ยาใดๆแก่ไมเคิล และรออยู่แค่หนึ่งนาทีเท่านั้นจึงรีบแจ้ง 911 หน่วยกู้ชีพรีบเข้าให้การช่วยเหลือไมเคิลอย่างเต็มความสามารถ แต่ก็พบว่าไม่มีสัญญาณชีพจรแล้ว ร่างกายเย็นเฉียบ ดูจากสภาพที่ปรากฏ เขาลงความเห็นว่าร่างนั้นได้สิ้นใจแล้ว (เขาบอกว่าตอนแรกก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นไมเคิล) นอกจากนี้ เขายังสังเกตเห็นขวดยาและเข็มฉีดยาในห้อง อีกทั้งยังเห็นมะเร่เก็บขวดยาใส่ถุง แต่เขาไม่รู้ว่าถุงนั่นถูกนำไปไว้ที่ไหนแล้ว เขาให้การว่ารู้สึกแปลกใจที่เห็นขวดยาและเข็มฉีดยาที่มีขนาด 24 gauge เนื่องจากมะเร่ยืนยันว่าไม่ได้ให้ยาใดๆแก่ไมเคิลเลย เมื่อเคลื่อนย้ายร่างไปที่รถฉุกเฉินแล้ว แต่มะเร่ยังไม่มาที่รถ เขาจึงมองไปที่หน้าต่างห้องนอน เห็นมะเร่กำลังเดินวนอยู่รอบห้องนั้น หน่วยกู้ชีพให้การว่า ไมเคิลไม่ได้มีอาการบ่งชี้ว่าติดยาแต่อย่างใด ทนายถามว่าทำไมถึงหาเส้นเลือดดำไม่เจอ ที่หาไม่เจอเพราะผอมแห้งแบบคนติดยาใช่ไหม เขาแย้งว่าเคยเจอกรณีของคนติดยาและมีรอยสักด้วยแต่ก็ยังหาเส้นเลือดดำเจอ ทนายต้อนให้เขายอมรับว่าแม้กระนั้นก็หาให้เจอยากใช่ไหม ซึ่งเขาก็เห็นด้วย สรุปคือต้องการกล่อมให้ทุกคนเชื่อว่าไมเคิลติดยา.. ว่างั้นเหอะ - -? ---> เจ้าหน้าที่จากบริษัท I PHONE และ SPRINT CELL PHONE (โทรศัพท์ที่มะเร่ใช้ในวันเกิดเหตุ) จำนวนการโทร 26 ครั้ง ตั้งแต่เวลาประมาณ 7 โมงเช้าถึงประมาณบ่ายโมง ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ ไม่มีการโทรแจ้ง 911 แต่อย่างใด!!! ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ ไม่มีการโทรแจ้ง 911 แต่อย่างใด!!! ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ ไม่มีการโทรแจ้ง 911 แต่อย่างใด!!! เด๋วมาต่อนะคะ ขอพักแป๊บนึง ตอนนี้มึนกับศัพท์ศาลและภาษากฎหมายมาก >< ป.ล. แก้ไขช่วงเวลาที่ใช้โทรศัพท์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 22:35:19 จากคุณ : Winter Wonderland เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 15:59:38

ความคิดเห็นที่ 5 แง่ววว เจ้านายกลับมาแร้นนน ต่อได้อีกนิ๊ดดด ---> Dr. Cooper แพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน UCLA ให้การว่า เธอไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับไมเคิลจากมะเร่เท่าไหร่ ส่วนไมเคิลเองก็ได้เสียชีวิตตั้งแต่มาถึง ร.พ. แล้ว แต่ก็ยังพยายามทำการกู้ชีพต่อ เป็นเวลาอีก 1 ชั่วโมง 26 นาที เนื่องจากมะเร่บอกว่ารู้สึกได้ถึงสัญญาณชีพจรของไมเคิลตอนมาถึง ร.พ. แต่ไม่มีเจ้าหน้าในห้องฉุกเฉินคนใดที่รู้สึกได้ถึงสัญญาณชีพจรดังกล่าวเลย เธอถามมะเร่ว่าเกิดอะไรขึ้น มะเร่ตอบว่า อยู่ๆไมเคิลก็เกิดหัวใจหยุดเต้นไปซะงั้น (Cardiac Arrest) มะเร่รายงานว่าไมเคิลมีสุขภาพดี แต่นอนไม่ค่อยหลับ เธอถามว่ามะเร่ได้ให้ยาอะไรแก่ไมเคิลบ้าง มะเร่บอกว่ามี Lorazepam, Flomax, และ Valium (ไหนแกบอกหน่วยกู้ชีพว่าไม่ได้ใช้ยาอะไรเลยไง - -") มะเร่บอกว่าให้ยา Borazapam ไป 2 mg. (ตรงนี้แหล่งข่าวน่าจะเขียนผิด เห็นทำเครื่องหมายไว้ว่าไม่แน่ใจตัวสะกด เพราะรีบรายงานสดจากศาล เห็นเค้าบอกว่ามีบางช่วงที่ฟังไม่ถนัดด้วย จริงๆแล้วเราว่าน่าจะเป็นยา Lorazepam ตามข้อมูลที่คุณ PK แปะไว้มากกว่า) เมื่อถูกถามถึงการใช้ยา Propofol เธอบอกว่า มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ว่า การให้ยา Propofol นั้น จะต้องมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญต่างๆในการตรวจวัดชีพจร ความดัน ตลอดจนปฏิกิริยาอื่นๆของร่างกาย รวมทั้งจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้ได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต และเธอเองก็ไม่เคยพบเจอกรณีที่หมอให้ยาชนิดนี้แก่คนไข้ที่บ้านเลย ส่วนการกู้ชีพในห้องฉุกเฉินนั้น เธอให้การว่า เธอได้ปฏิบัติการเฉพาะในส่วนของภาวะหัวใจหยุดเต้นเท่านั้น เด๋วคืนนี้มาต่ออีกรอบนะคะ จากคุณ : Winter Wonderland เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:50:20

ความคิดเห็นที่ 6 ลืมบอกไปว่า มะเร่ไม่ได้เอ่ยถึงยา Propofol กับ Dr. Cooper แต่อย่างใด ส่วนยา Lorazepam นั้นตอนแรกให้ไป 2 mg. ต่อมาก็ให้ไปอีกโดสนึง แต่ไม่ได้ระบุว่าเท่าไหร่ Dr. Cooper เองก็อยากรู้ว่ามะเร่ให้ยาอะไรไปบ้าง จะได้วินิจฉัยถูกว่าเหตุน่าจะเกิดจากอะไร แต่ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรจากมะเร่มากนัก (ขออภัยที่แปลรั่วบ้าง ลืมบ้าง ตามประสาวัยทอง แหะๆ) มีอีกส่วนนึง เป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา Propofol กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงนี้ไม่กล้าแปลจริงๆ คืออ่านแล้วเหมือนจะเข้าใจ แต่ไม่ชัวร์ ขออนุญาตรอเพื่อนๆที่อ่านแล้วเข้าใจก็แล้วกันนะคะ ---> Dr. Thao Nguyen แพทย์ด้านหัวใจประจำหน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยขั้นวิกฤต ให้การว่า มะเร่ได้ไม่พูดถึงยา Propofol กับเธอเลย มะเร่บอกว่าไมเคิลมีปัญหานอนไม่หลับ จึงให้ยา Adavan [Mirazapam] ไป 4 mg. ซึ่งเธอให้การว่ายาจำนวนดังกล่าวไม่มีผลร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิต (ชื่อยาตรงนี้คิดว่าแหล่งข่าวคงจะถอดเสียงอ่านมาผิดเช่นกัน เพราะถามอากู๋แล้วไม่มียาชื่อนี้ ถ้าอ้างอิงจากที่มะเร่บอก Dr. Cooper ข้างต้น ก็น่าจะเป็นยาตัวเดียวกันที่ชื่อ Ativan [Lorazepam] ค่ะ) เธอถามมะเร่ว่า ได้ให้ยาดังกล่าวกับไมเคิลตอนกี่โมง มะเร่ตอบไม่รู้ เธอถามมะเร่ว่า ไมเคิลมีอาการทรุดลงตอนกี่โมง มะเร่ตอบไม่รู้ เธอถามมะเร่ว่า ไมเคิลหยุดหายใจตอนกี่โมง มะเร่ตอบไม่รู้ เหตุผลที่มะเร่ตอบไม่รู้คือ มะเร่บอกว่า "ไม่มีนาฬิกา" (ณ จุดนี้ อิฉันเพลียใจมาก ไมเคิลจ่ายค่าจ้างเดือนละเกือบห้าล้านบาท [$150,000] แต่มะเร่ไม่มีนาฬิกาใช้ คิดได้ไงเนี่ย!!! แล้วโทรศัพท์แกทั้งสองเครื่องมันไม่มีโหมดบอกเวลาเร๊อะ -*-) Dr. Nguyen ทำการปั๊มบอลลูนหัวใจเพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง แต่เมื่อความพยายามไร้ผล จึงประกาศว่าไมเคิลเสียชีวิตแล้ว T^T ---> Dan Myers นักสืบสวนประจำกองปราบ ให้การเกี่ยวกับบุคคลที่มะเร่โทรหาในวันเกิดเหตุ ซึ่งจะมีบางคนถูกเรียกตัวขึ้นสอบปากคำด้วย ขออนุญาตจบการสรุปประเด็นของการสืบพยานในวันที่สามแต่เพียงเท่านี้นะคะ ถ้ามีเวลาลองอ่านต้นฉบับอีกทีเพื่อความชัวร์ค่ะ ตอนนี้มึนมาก >< แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 16:20:14 จากคุณ : Winter Wonderland เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 23:02:40

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับข่าวครับผม จากคุณ : BuscompanyteR เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 01:14:44