ความคิดเห็นที่ 1 จะเรียกว่ามันเป็นอัลบั้มเพลงคงไม่เต็มปากเต็มคำ เพราะงานนี้ออกขายในรูปแบบสมุดบันทึก มีทั้งรูปถ่ายแบบสบายๆของทั้งสามคนและมีส่วนที่เป็น essay เขียนถึงเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาอย่างสั้นๆ รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงแต่ละเพลงด้วยค่ะ อัลบั้มนี้จะมีส่วนที่ขึ้นชาร์ทเพลงด้วย และไปขึ้นชาร์ทหนังสือด้วย เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าจำนวนที่ขายได้จะงงๆนิดนึง เพราะจริงๆแล้วแฟนๆที่เกาหลีส่วนใหญ่เน้นไปซื้อในร้านหนังสือค่ะ อยากให้เป็น Bestseller ในร้านหนังสือมากกว่าขึ้นชาร์ทเพลง ^^" (มีเพื่อนแอบบอกว่าจริงๆแล้วถ้าจะไปรีวิว Music Essay น่าจะไปตั้งห้องสมุดก็ได้ แต่คนคงงงว่าคืออะไร) หลักฐานว่าไปวางขายในร้านหนังสือจริงๆค่ะ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 20:49:38

ความคิดเห็นที่ 2 นี่คือตัวอย่างข้างใน ที่เล่นเอาแฟนๆหลายคนอยากจะซื้อสองเล่ม เก็บไว้หนึ่งเล่ม และเอาไปเป็นไดอารี่ส่วนตัวอีกหนึ่งเล่ม จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 20:50:54

ความคิดเห็นที่ 3 มาถึงส่วนงานเพลงกันบ้าง จริงๆแล้วมีคุณ toshi ช่วยลงไว้ในกระทู้นี้แล้ว http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C10164065/C10164065.html (ขออนุญาตลงอีกทีเพราะมีเรื่องที่อยากเขียนถึงอัลบั้มนี้ในรีวิวเยอะจริงๆค่ะ เลยขอมาตั้งกระทู้แยก) อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ชื่อกระทู้เลยว่านี่เป็นงานจากฝีมือและหัวใจ นอกจากพวกเขาจะทั้งแต่งเอง ทำเพลงเองแล้ว เนื้อเพลงทั้ง 6 เพลงไม่ใช่เพลงที่เขียนถึงความรักชายหญิงธรรมดา แต่เป็นการเล่าเรื่องชีวิตของพวกเขา หรือสิ่งที่พวกเขาต้องการแสดงออกมาผ่านทางเสียงเพลง คำเตือน คลิปเพลงที่จะลงในกระทู้นี้จะมีแค่เพลงที่ 5 กับ 6 เท่านั้นนะคะที่มีคนอัพแบบ High Quality ออกมาแล้ว ส่วนเพลงที่ 1-4 ยัง rip ออกมา bit rate ต่ำกว่าในตัวอย่างพรีวิวที่ออกมาเพลงละ 1 นาทีค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าใครใช้หูฟังละเอียดๆหน่อยจะรำคาญที่มันยังไม่ค่อยชัดได้ ข้อแนะนำ อัลบั้มนี้ควรใช้หูฟังหรือเครื่องเสียงดีๆฟังค่ะ เพราะความดีอย่างหนึ่งของเพลงในอัลบั้มนี้คือมิกซ์เสียงละเอียดมาก รายละเอียดดนตรีหลายอย่างไม่อาจฟังได้จากลำโพงคอมพิวเตอร์ทั่วไป และ ควรใช้หูฟังที่จับเสียงเบสได้ดี ถ้าใช้หูฟังไอพอดจะทำให้เพลงไม่สนุกหรือดีเท่าที่ควรค่ะ เพลงเสียง bass จะหายไปเยอะเลย (หูฟังไอพอดที่แถมมากับพวก ipod, iphone ทั้งหลายมีข้อเสียคือจับเสียงสูงแหลมมากกว่าเสียงทุ้มต่ำค่ะ) Tracklist 1. Mission 2. Nine 3. Pierrot 4. Fallen Leaves 5. ID.S 6. 이름없는 노래 Part1 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:09:50

ความคิดเห็นที่ 4 1.  Mission Composed and Arranged by Kim Junsu Lyric by Zuno (Kim Junho พี่ชายฝาแฝนจุนซู) Rap Lyric by Park Yuchun (เพลงนี้ก็มี Essay เขียนประกอบนะคะ ไว้มีคนแปลมาแล้วจะเอามาลงความเห็นนี้ค่ะ) แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 22:00:48 แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 21:44:48 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:14:52

ความคิดเห็นที่ 5 เนื้อเพลง Mission Yeah brand new JYJ another history you just pule it off (pull it off??) เย่ JYJ โฉมใหม่ กับอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่เธอทำสำเร็จ 다시 한번 시작되는 나의 stage เวทีของฉันเริ่มขึ้นอีกครั้ง 뜨거워진 조명 아래 ภายใต้แสงไฟเจิดจ้า 밀려오는 feel yo!! MY SCREAMING ความรู้สึกพวยพุ่ง  เสียงหวีดร้องของฉัน 심장의 스며오는 나의 music เพลงของฉันซึมแทรกเข้าในใจฉัน Let’s get it party! Tonight! Crazy มาสนุกกันคืนนี้ ให้เมามัน I gotta dance now ฉันจะเต้นละนะ 날 hot 하게 만드는 bulah bulah melody (oh  oh oh) ท่วงทำนอง บูลา บูล่า มันทำให้ฉันเร่าร้อน โอ้ โอ โอ 알 수 없는 이끌림에 beat it beat it crazily (oh  oh oh) แรงดึงดูดลึกลับที่ทำให้รัวจังหวะอย่างเมามัน โอ้ โอ โอ You made me feel me shock! เธอทำให้ฉันช็อค I must feel this ฉันต้องรู้สึกอย่างนี้ 내 몸에 주문을 걸어본다 LET’S GO I cast a spell on my body ฉันร่ายมนต์ใส่ร่างฉัน ไปลุยกัน! Mission make it mission let’s go Mission make it make it go เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ลุยกัน เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ป่ะ! (make it ความหมายตรงๆ คือทำให้สำเร็จ) I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I want u screaming JYJ verse 2 เอ้า ทุกคนช่วยกันกรีดร้อง JYJ verse 2 움직이는 내 손짓에 ด้วยท่าทางขยับมือไม้ของฉัน 내 호흡(법) 빠져 빠져 봐 baby ลมหายใจฉัน มา.. มาตกหลุมรักฉัน 흔들리는 니 몸짓은 ท่าทางยักย้ายเรือนร่างของเธอนั้น Give up Give Up Give up Give Up SHAKING พอเถอะ พอ พอ พอ หยุดยักย้าย 요동치는 내 몸짓에 ท่วงท่าเคลื่อนไหวของฉัน 함성이 들려온다 สร้างเสียงกู่ร้อง 이제는 나의 stage ตอนนี้คือเวทีของฉัน WHAT’S THAT, BABY!! WHAT YOU, BABY!! มันคืออะไรที่รัก เธอคืออะไร 날 취하게 만드는 쿵치탁 리듬 (oh oh oh) จังหวะ “BANG  Chi TAK” ทำให้ฉันเมามึน โอ้ โอ โอ 알 수 없는 이끌림에 beat it beat it crazily (oh  oh oh) แรงดึงดูดลึกลับที่ทำให้รัวจังหวะอย่างเมามัน  โอ้ โอ โอ You made me feel me shock! เธอทำให้ฉันช็อค I must feel this ฉันต้องรู้สึกอย่างนี้ 다시 한번 주문을 걸어본다 LET’S GO ร่ายมนต์อีกครั้ง Mission make it mission let’s go Mission make it make it go เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ลุยกัน เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I want u screaming JYJ ..DANCE NOW!!! เอ้า ทุกคนช่วยกันกรีดร้อง JYJ ..DANCE NOW!!! (rap – ที่แต่งด้วยเวลาห้านาทีของยูชอน) Probably you’re money is unpublic สงสัยไม่มีใครได้เห็นความหน้าเงินของเธอ (unpublic ไม่มีในพจนานุกรมภาษาอังกฤษนะคะ – -”) Try to save my life like a PUPPY and CREAM พยายามทำมาช่วยชีวิตฉันอย่างลูกหมากับครีม (- -” ) Another Hot Movie Character BUMBLEBEE ประหนึ่งตัวละครสุดดังอย่าง BUMBLEBEE* Treat me like a SLAVE and I pray is it HALLOWEEN ทำกับฉันอย่างกับทาส ฉันได้แต่ภาวนาว่ามันคือวันฮัลโลวีน TRICK or TREATS oh please don’t even try TRICK or TREATS** โอ้ว อย่าคิดแม้แต่จะลอง to pull my head own your way ที่จะปั่นหัวฉันให้คิดแบบเธอ Brand New Person. A man? กลายเป็นคนอีกคน, ลูกผู้ชายงั้นหรือ? So F*** off!!! No more talk!!! ไสหัวไปซะ!!! ไม่ต้องพูดแล้ว!!! 날 hot 하게 만드는 bulah bulah melody (oh  oh oh) ท่วงทำนอง บูล่า มันทำให้ฉันเร่าร้อน โอ้ โอ โอ 알 수 없는 이끌림에 beat it beat it crazily (oh  oh oh) แรงดึงดูดลึกลับที่ทำให้รัวจังหวะอย่างเมามัน โอ้ โอ โอ You made me feel me shock! เธอทำให้ฉันช็อค I must feel this ฉันต้องรู้สึกอย่างนี้ 마지막 주문을 걸어본다 LET’S GOOOOOOOOOOOOO มนต์สุดท้าย ฉันร่ายล่ะนะ LET’S GO Mission make it mission let’s go Mission make it make it go เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ลุยกัน เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I want u screaming JYJ ~ ONE MORE TIME เอ้า ทุกคนช่วยกันกรีดร้อง JYJ ~ ONE MORE TIME Mission make it mission let’s go Mission make it make it go เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ลุยกัน เป้าหมาย พุ่งชน เป้าหมาย ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I must go make it mission Let’s go mission make it go ฉันต้องไปให้ถึง เป้าหมาย ไปกัน เป้าหมาย พุ่งชน ป่ะ! I want u screaming JYJ ..DANCE NOW!!! เอ้า ทุกคนช่วยกันกรีดร้อง JYJ ~ DANCE NOW Picture credit: DC Korean/Eng Subs by: LSTandJYJ Eng/Thai by: 3rebelangels.wordpress หมายเหตุ *BUMBLEBEE ความหมายตรงตัวคือ ผึ้งขนาดใหญ่ แต่ในที่นี้เข้าใจว่า ยูชอนน่าจะหมายถึงหุ่นตัวเอกจากหนังเรื่อง Transformers ดูบัมเบิ้ลบีสุดหล่อได้ที่นี่ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=H8Nun9HGgBw ** Trick or Treat เป็นธรรมเนียมในวันฮัลโลวีน เด็กๆ จะแต่งตัวแฟนซีไปเคาะตามประตูบ้าน พอเจ้าของบ้านเปิดประตูๆ เด็กจะบอกว่า Trick or Treats หมายถึง จะให้ขนม(Treat) มาดีๆ หรืออยากจะโดนแกล้ง (Trick) ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะให้ขนมลูกอมเด็กๆ กันค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 23:27:43 แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 23:26:31 แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 21:29:56 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:29:10

ความคิดเห็นที่ 6 2. Nine Music & Lyric by Kim Jaejung เพลงที่แจจุงแต่งให้กับการรวมกันครบรอบ 9 ปีของสมาชิกในวง เจ้าตัวบอกว่าใช้คอร์ดเบสิคพื้นฐานที่ยูชอนเคยสอนไว้ตั้งแต่เริ่มสอนเปียโนเค้าใหม่ๆ (ยูชอนเป็นครูสอนเปียโนของแจจุง แต่ทั้งสองคนก็อ่านโน้ตดนตรีไม่ได้ เพราะยูชอนก็เป็นพวกที่สอนตัวเองเหมือนกัน ไม่ได้ไปเรียนกันเป็นเรื่องเป็นราว ปกติทั้งสองคนแต่งเพลงด้วยการเล่นคอร์ดและเมโลดี้ แล้วอัดเสียงไว้ ไม่ได้เขียนโน้ตลงสมุดโน้ตเป็นเรื่องเป็นราว) (เพลงนี้ไฟล์เสียงไม่ชัดอย่างยิ่งค่ะ ไว้ได้แบบชัดๆแล้วจะเอาลิ้งค์ใหม่มาใส่ให้นะคะ) แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 21:43:56 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:42:04

ความคิดเห็นที่ 7 NINE 너는 사랑이란 걸 아니? คุณรู้ไหมว่าอะไรที่เรียกว่ารัก? 아냐 사실 나도 모르겠어 ไม่ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่รู้เรื่องนั้นเหมือนกัน 단지 모르는 게 Ye แค่ไม่รู้เท่านั้นเอง 가슴이 뜨겁고 막 뛰고 자꾸 눈물이 흘러 나 ใจของฉันร้อนรุ่มแต่ฉันก็ยังคงวิ่งต่อไปและวิ่งขึ้นไป 어떻게 해야하는 거니. ฉันควรจะทำเช่นไร? 찾아가 무릎 꿀으면 되니 หรือว่าฉันควรไปคุกเข่าอ้อนวอน? 나도 모르게 Ye ฉันไม่รู้เหมือนกัน 계속 너를 찾고 또 뛰고, 걷다 보면 또 제자리야 ฉันยังตามหาเธอและวิ่งต่อไป ฉันกลับมาสู่จุดเริ่มต้นถึงแม้ฉันจะเดินต่อไป Do not you love me. Do not you want to forget. เธอรักฉันไม่ใช่หรือ หรือว่าเธออยากจะลืม 새로 시작하려 해도 ถึงแม้ว่าฉันอยากจะเริ่มต้นใหม่ 쉽게 되지가 않는 우리 사랑 มันดูเหมือนจะไม่ง่ายเลยสำหรับความรักของเรา 내 기억. 추억들~ ความทรงจำของฉัน ความทรงจำอันแสนหวาน 더 이상 감출 수조차 없는 내가 되었으니~ ฉันกลายเป็นคนที่ไม่สามารถปิดบังมันไว้ได้อีก 지난 날은 잊어~ ลืมวันคืนเก่าๆ 오직 서로만 지켜 가면 돼 พวกเราเพียงแค่ต้องการสองเราเท่านั้น 이제 우린 알 수 있잖아. รู้ว่าเราต่างก็รู้กันใช่ไหม 말하지 않아도 알잖아 เรารู้ถึงแม้ว่าเราไม่ได้พูดมันออกมา 매일, 멀지 않던 어제만 소리 치면 되 พรุ่งนี้เราจะร่ำร้องถึงเมื่อวานซึ่งไม่ได้ห่างไกลนัก 말하지 못해서 미안해 ฉันขอโทษที่ฉันไม่สามารถพูดมันได้ 사랑한다 그대여 ฉันรักคุณ ที่รักของฉัน 몇 번이고 전화도 해봤어 อาจมีหลายครั้งที่ฉันพยายามจะโทรไป 무슨 말을 할까 고민했어 ฉันคิดมาตลอดว่าจะพูดอะไร 나도 모르게 Ye~ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน 잠을 자고 일어날 때도 계속 너를 찾게 되는 거야 ถึงแม้ฉันนอนหลับไปและตื่นขึ้น ฉันก็ไม่สามารถหยุดตัวเองจากปรารถนาที่จะตามหาคุณ 날 봐 지금의 나를 봐 มองฉัน มองที่ฉันในตอนนี้ 너무나 변해버린 내 모습 좀 어색하지만 기다려 ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกแปลกๆ เพราะฉันได้เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน รอ 너무 멀어지지 말자 내 앞에 세상과 약속할테니 อย่าได้ห่างกันไกลเกินไป ฉันสัญญาไว้กับโลกข้างหน้าของฉัน taken from Lyrics Book distribted at venue credit: inhye87 @ Onetvxq.com แปลไทย: 3rebelangels.wordpress แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 23:36:34 แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 21:47:40 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:47:22

ความคิดเห็นที่ 8 3. Pierrot Music & Lyric by Kim Jaejung เกร็ดของเพลงนี้: Pierrot (ปิเอโรต์) คือตัวละครในละครใบ้ (pantomime) เรื่องหนึ่ง ซึ่งมาจากการแสดงของคณะละครใบ้อิตาเลียนที่ปารีสช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ต่อมากลายเป็นตัวละครที่รู้จักกันเป็นทั่วไปในวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก ซึ่งแสดงออกมาในลักษณะตัวตลกที่เศร้าโศก ใส่หน้ากากสีขาว ปิเอโรต์มอบความรักทั้งหมดให้กับ Columbine ผู้ทำร้ายใจเขาและทิ้งเขาไปอยู่กับ Harlequin ปกติแล้ว Pierrot ถูกมองว่าเป็นคนโง่ที่จงรักภักดีและซื่อตรง (ถ้าดูจากแฟนแคมที่แสดงในคอนเสิร์ตจะเห็นแดนเซอร์ใส่หน้ากากตัวละครนี้) มีคนตีความว่า “I’m not a pierrot” หมายถึง “ฉันไม่ใช่คนโง่” ด้วย แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 21:52:05 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:50:39

ความคิดเห็นที่ 9 삐에로 (Pierrot) Oh~ Oh~~~~~~~~ 난 너의 Pierrot 정말로 웃겨 ฉันในฐานะปิแอร์โรของคุณ มันเป็นเรื่องตลกจริงๆ 너에게 다 받쳐 찌들어 จิตใจของฉันซึมซับทุกอย่างมาจากคุณ มันทำให้จิตใจฉันสกปรก 낸 눈 앞에 our bro 돈 앞엔 뭣도 없는 ต่อหน้าฉัน เป็นพี่น้องของฉัน  ต่อหน้าเงิน ฉันเป็นธาตุอากาศ 완전한 넌 pro 제대로 p.s.m. คุณเป็นมืออาชีพที่สมบูรณ์แบบ เป็น p.s.m. ตัวจริง 아직 어린 내께 또 무슨 짖을 하게 또 คุณจะทำอะไรกับฉันซึ่งยังเยาว์อีก 이 더러운 손 좀 치워 เอามือสกปรกของคุณออกไป 상대도 하지마 อย่าแม้แต่คิดจะมาเผชิญหน้า 어제의 우리가 아냐 พวกเราไม่ได้เป็น”เรา”คนเดิมเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว 눈 감아도 보여 ฉันยังเห็นมันถึงแม้ฉันจะหลับตาลง 난 이제 master ตอนนี้ฉันเป็นนายตัวเอง 끝없이 파고 들어오는 건 no. no ค้นคว้าหาทุกสิ่งราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ 그 정도 화보 따위에 가두려하지마 อย่าได้พยายามพิสูจน์มันด้วยโชคดีหรือร้ายในแบบนี้ 세상을 잘 봐. 너무나 멋져 มองดูโลกใบนี้ให้ดีซิ มันงดงามยิ่งนัก no. just do not touch me ไม่ อย่ามาสัมผัสฉัน I’m not a pierrot ฉันไม่ใช่เจ้าโง่(ปิเอโรต์)นะ 더 넓은 하늘을 등지고 살고 싶어 ฉันอยากจะใช้ชีวิตภายใต้แผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่ 자류를 알고 싶어 더 높이 fly fly ฉันอยากจะรู้ถึงความหมายของอิสรภาพ พุ่ง ทะยานสูงขึ้นไปอีก 나만의 새각이 있어 นั่นก็แค่ความคิดเกี่ยวกับตัวฉันเอง 나만의 인생이 있어 นั่นก็แค่ชีวิตของฉันเอง 감옥 같은 그 때 추억하기 싫어 ฉันเกลียดที่ต้องคิดถึงวันเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรงขัง 영원히 Bye bye bye บ๊าย บาย ตลอดกาล 너만의 그 생각 집어쳐 โยนความคิดเห็นแก่ตัวของเธอทิ้งไป 너의 그 핑계 집어쳐 โยนคำแก้ตัวของเธอทิ้งไป 죽도록 더 고통스러운 날들로 가득할 테니까 เพราะนั่นจะยิ่งเติมเต็มวันเวลาเหล่านั้นไปด้วยความทรมานและความเจ็บปวด No future. No freedom. ไร้อนาคต ไร้อิสรภาพ It’s just like a chase for us but it doesn’t matter มันเหมือนเพียงการไล่ล่าสำหรับเรา แต่มันไม่สำคัญแล้ว now we’re just gonna walk our way for the rest of my life ตอนนี้เราแค่เพียงจะเดินไปตามทางของเราจนจบชีวิต credit: inhye87 @ Onetvxq.com แปลไทย: 3rebelangels.wordpress แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 23:40:59 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:52:41

ความคิดเห็นที่ 10 4. Fallen Leaves Music & Lyric by Kim Junsu เพลงนี้จุนซูบอกว่าใครหลายๆคนอาจจะตีความหมายเพลงถึงความรักระหว่างชายหญิง แต่เพลงนี้ไม่ได้หมายถึงความรักชายหญิง ต่อมามีคนใกล้ชิดของ JYJ คนหนึ่งเขียนบอกเลยว่าเพลงนี้จุนซูตั้งใจแต่งไปถึงความสัมพันธ์ของ JYJ กับแฟนๆและเพื่อนอีกสองคน... (คลิปนี้ bit rate ต่ำมากๆค่ะ ถ้าได้แบบชัดใสกิ๊งแล้วจะมาแก้ลิงค์ให้ค่ะ) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:58:27

ความคิดเห็นที่ 12 เอาไปเลย 3 กีบ !!! จากคุณ : Joker_KS เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:02:21

ความคิดเห็นที่ 13 5. ID.S. Music & Lyric by Kim Jaejung ID.S. ย่อมาจาก IDeal Scenario เพลงนี้เป็นเพลงแตกลูกมาจาก Pierrot หลักฐานอยู่ที่ท่อนที่แจจุงเริ่มร้องจะมีเสียงเปียโนติ๊งๆ โน้ตเหมือนกับที่เริ่มต้นและคลออยู่ในเพลง Pierrot (แจจุงทวิตบอกว่าต้องแตกออกมาเป็นสองเพลงเพราะพวกเขาไม่มีเพลงเร็วร้องในคอนเสิร์ต ทั้งๆที่จริงๆแล้วเริ่มแรก Pierrot เป็นเพลงเปียโนช้าๆซึ้งๆ) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:08:39

ความคิดเห็นที่ 14 เว้นไว้ลงเนื้อเพลง ID.S. จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:09:49

ความคิดเห็นที่ 15 이름없는 노래 Part 1 Music & Lyric by Park Yuchun   เพลงไร้ชื่อที่เนื้อเพลงเหมือนเรื่องเล่ามากกว่าเนื้อเพลง...ตีแผ่เรื่องราวอะไรหลายๆอย่างที่คาดกันว่าจะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อันไปอีกพักใหญ่ๆ...     แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 01:26:32 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:14:51

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาตปาด  ไม่ผิดหวังกับ 3 หนุ่มจริงๆ   ขอบคุณ คุณgibt  ที่มาลงรายละเอียดของทุกเพลงให้ได้ทราบครับ จากคุณ : toshi เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:18:09

ความคิดเห็นที่ 17 (คำแปลอันนี้มาจากเนื้อเพลงที่เขียนลงไว้ใน essay นะคะ ที่ร้องจริงจะมีท่อนที่ต่างออกไปนิดหน่อย) A Song Without a Name PART 1 เพลงไร้นาม ตอนที่ 1 ผมเคยบอกคุณเรื่องนี้หรือเปล่า หลังจากช่วงเวลาฝึกฝนสองสามเดือนในปี 2003 พวกเราสมาชิกในทีมเสร็จสิ้นภารกิจชิ้นแรกของเราอย่างง่ายดาย ในปี 2004 พวกเราเป็นทีมที่แข็งแกร่งแห่งเดือน ได้รับความสำเร็จนับไม่ถ้วน แต่พวกเราไม่ได้พอใจอยู่เพียงแค่นั้น พวกเราไม่สามารถเก็บกักตัวเองไว้ได้และพวกเราเริ่มอยากจะได้มากกว่าเดิม 2005 พวกเราเริ่มทำงานในต่างประเทศ พวกเราคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ดีเหมือนที่เป็นในเกาหลี ความพยายามแรกของพวกเรา พวกเราได้รับผลที่แย่ที่สุดเท่าที่มันจะเป็นไปได้ และนั่นคือช่วงเวลาที่ความมั่นใจของผมเริ่มลดลง ภาษาที่เราไม่อาจพูดได้ ทุกวันพวกเราจะอยู่แต่ในที่พักหรือไม่ก็ที่ทำงาน การกักขังที่พวกเขาอ้างว่ามันไม่ใช่การกักขัง บอกว่ามันดีต่อพวกเราเอง ความอ้างว้าง น้ำตา ความโกรธเกรี้ยวอันมากมายมหาศาล สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียว พูด ว่าเราจะไม่แยกจากกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พูด ว่าเราควรจะอยู่ด้วยกันตลอดไป พูด ว่าเราควรจะทำในสิ่งดีๆของกันและกัน พวกเราพูดสิ่งเหล่านี้ในใจของเราและวิ่งต่อไป วันหนึ่ง ในที่สุดพวกเราก็ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่เราต้องการจริงๆ พวกเราแต่ละคนหยิบโทรศัพท์และติดต่อครอบครัวของเราและเพื่อนๆ ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง จากนั้นเป็นต้นมา ทุกสิ่งก็เริ่มเป็นไปด้วยดี แผ่นซีดีขายได้เป็นแสนๆ ชนะรางวัลทุกรางวัลที่มีอยู่และเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแรงงานของเรา มันรู้สึกราวกับว่าถึงแม้เราจะร้องไห้ น้ำตาเหล่านั้นก็หยดอย่างเบาบาง เหตุที่เรามีความสุขยิ่งกว่าความสำราญหรือความเศร้า พวกเรา ผู้ซึ่งไม่เคยยอมแพ้และวิ่งต่อไปจนถึงที่สุด เหตุผลที่เราเข้มแข็งยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นเพราะพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน คุณเปลี่ยนไปแล้ว (ผมไม่สามารถอยู่ในจุดนั้นได้ตลอดกาล) ผมจะเป็นคนแรกที่หันหลังให้กับคุณ (ผมไม่สามารถเช็ดน้ำตาได้ตลอดไป) ผมจะเรียกชื่อคุณออกมา ถึงแม้ว่าคุณจะออกห่างไปไกลเรื่อยๆ (บินขึ้นไปให้สูงเสียดฟ้า) พวกเราได้วิ่งมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อพวกเราถูกห้่อมล้อมไปด้วยไปด้วยกำแพงสูงใหญ่อันไม่ได้คาดฝัน ความคิดที่ว่า “มันช่างมืดหม่นอย่างนี้มาตลอดหรือเปล่านะ” วนเวียนอยู่ในหัวของผมมานาน ครั้งหนึ่ง เมื่อมันเกิดขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น และหนี้สิ้นที่พอกผูน สถานการณ์กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง CEO ของเราเคยพูดกับพวกเราครั้งหนึ่งว่า บอกผมหากคุณต้องการสิ่งใด เพราะว่าเราจะเป็นครอบครัวของกันและกันตลอดไป บอกผมหากคุณต้องการสิ่งใด เพราะว่าจำคำเหล่านั้นได้ ผมจึงรวบรวมความกล้าโทรหาเขาและขอให้เขาช่วย ถึงแม้ว่าผมจะมีความรู้สึกแปลกในใจ เขาเป็นคนเดียวที่ผมสามารถเชื่อใจได้ในตอนนั้น เพราะว่าเราเป็นครอบครัวที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป ถึงแม้ว่าผมได้รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากเขา สิ่งที่ผมได้รับทั้งหมดคือการปฏิเสธอย่างเย็นชา คำพูดของเขาทำให้ผมโกรธมาก แต่ผมอดกลั้นไว้และขอให้เขาช่วยอีกครั้ง เขาวางสายใส่ผม ผมไม่สามารถหยุดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบหน้าได้ ผมไม่สามารถคิดอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่ครอบครัวที่ผมเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าเขาเป็น จนกระทั่งถึงตอนนั้น เมื่อเขาต้องการเรา เราเป็นครอบครัวของเขา เมื่อเราต้องการเขา เรากลับกลายเป็นคนแปลกหน้า สิ่งที่น่าอัศจรรย์ไปมากกว่านั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อได้ยินว่าในที่สุดเราก็ประสบความสำเร็จในต่างประเทศและนำพาซึ่งผลลัพธ์มูลค่ามหาศาลที่ไม่อาจคาดคิดถึงได้ ฤดูใบไม้ผลิผมเดินเข้าไปในบริษัทเพื่อจะรับค่าแรงของผม สมาชิกในทีมของเราต่างก็มองกันและกันด้วยสายตาที่ตื่นเต้น เราชมเชยกันเองว่าพวกเราทำงานหนักกันมามากแค่ไหน แต่ยอดบัญชีที่เราได้รับบอกว่าเรายังคงค้างหนี้ ผมคิดว่าผมเห็นตัวเลขผิดไป ดังนั้นผมเลยตรวจมันอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างรวมอยู่เป็นค่าใช้จ่าย ให้ตายซิ ทำไมเงินทั้งหมดกลับกลายเป็นค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายอะไรกันที่ทำให้เงินจำนวนมากขนาดนั้นหายไป? ผมไม่อาจเชื่อสายตาตัวเอง ดังนั้นผมจึงขอให้พวกเขาแสดงรายละเอียดของบัญชีที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขาบอกผมว่าพวกเขาจะเอามาให้ผมดู แต่สุดท้ายแล้วผมไม่เคยได้เห็นแผ่นกระดาษพวกนั้น เนื่องจากผมได้แต่ทำงานเท่านั้น คำถามทั้งหลายเติบโตขึ้นในใจผมเมื่อเวลาผ่านไป อาการปวดหัวมีมากขึ้นเมื่อสมาชิกในทีมของเรามารวมตัวกันและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าหากผมจะพูดได้เป็นครั้งสุดท้าย สิ่งที่พวกเราทำให้บริษัท เป็นสิ่งที่สำหรับบริษัทจริงๆเท่านั้นซินะ? แน่นอน เอาเป็นว่ามันใช่ก็แล้วกัน พวกเราจะใจดี จะปล่อยมันไว้อย่างนั้น พวกเราจะลืมมันไปซะ สำหรับบริษัท และสำหรับพวกเราเอง ที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง พวกมันไม่ใช่สิ่งที่คุณควรจะพูดกับเรา พวกคุณกำลังวางแผนเพื่อทำให้เราผิดหวังจริงๆจนถึงหยดสุดท้ายเลยหรือไร? เมื่อคุณโทรมา สิ่งเดียวที่คุณทำคือพูดจาลับหลังสมาชิกคนอื่นในวงให้เราฟัง มันยากที่จะเชื่อคุณ นี่เป็นเหมือนกับสิ่งที่รุ่นพี่ของเราเคยบอก พวกเขาแค่อยากจะเก็บคนที่ทำเงินเอาไว้ รุ่นพี่คนหนึ่งบอกผมว่าครอบครัวที่บริษัทพูดถึงมาตลอด จะทำให้มันกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะอยู่รอดได้ถ้าหากเราออกจากบริษัท คำพูดเหล่านั้นไม่ยอมออกไปจากความคิดผมเสียที ถึงแม้ว่ามันจะมีอีกหลายสิ่งที่ผมอยากจะพูด ผมคงไม่สามารถพูดได้เพราะผมรู้สึกท้อแท้เมื่อคิดถึงว่าคงมีบางคนที่จะทรมานพวกเรายิ่งกว่าเดิมเมื่อเพลงนี้ออกมา ไม่ว่าอย่างไร ถึงแม้ว่าชีวิตจะยากเย็น พวกเราจะทำงานหนักและทำให้ได้ดี พวกเราจะพยายามยิ้มถึงแม้ว่าเราจะทนทรมานต่อไปเพราะคนบางคน ความพยายามของเราไม่ใช่ความพยายามเพื่อผลิตสินค้าเท่านั้น มันเป็นความพยายามที่ถูกผลักดันจากความคิด ที่ว่าเราอยากจะตายโดยไม่เสียดายเมื่อเราจากโลกนี้ไป -บันทึกเหตุการณ์โดยยูชอน- ใช่ ในที่สุด มันคือ JYJ เมื่อวานและวันพรุ่งนี้ ถึงแม้ว่าผมจะได้คิดถึงมันมาตลอดทั้งวัน ผมสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างแต่ก่อนกับตอนนี้ ขณะที่ผมอายุ 25 ผมจะวางปากกาด้ามนี้ลงแล้ว แต่ผมมันก็เบาใจลง ณ ตอนนี้ เพราะว่าผมสามารถรู้สึกได้ถึงความรักจากแฟนๆของพวกเรา ผมกำลังคิดถึงการแบ่งปันสิ่งที่ผมได้เก็บไว้ในใจตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นเรื่องง่าย แต่ผมก็เบาใจลงได้ ผมมีความสุขเพราะพวกเรามีแฟนๆของเราเป็นครอบครัวของเรา ผมคิดถึงพวกคุณทั้งหมดเช่นนั้น ผมรักพวกคุณ พวกคุณจะเชื่อพวกเราจะถึงที่สุดได้ไหม คุณจะบอกเราว่าคุณรักเรา เราจะทำงานให้หนักขึ้นตลอดไป เพื่อให้คุณสามารถอยู่เคียงข้างเรา เพราะเรายังคงมีพวกคุณ และพวกคุณยังคงมีเรา ผมสัญญา ผมจะแสดงให้คุณได้เห็นทุกอย่างในที่สุด ใช่ครับ พวกเราคือ JYJ “พวกคุณได้สร้างกำแพงปราสาทและปิดประตูอย่างแน่นหนา พวกเขาต่างบอกว่าความรักไม่ใช่การกักขัง รักคือการให้อิสระโบยบินไป แต่ผมไม่ได้คาดหวังมากมายขนาดนั้น สำหรับพวกเรา ที่คุณได้สร้างขึ้น คงไม่มีค่าแม้กระทั่งครึ่งของครึ่งของเสี้ยวนั้น เราไม่ใช่อะไรเลยนอกจากกบในกะลาตลอดกาล” (ตัดมาจากละครเวที “Mozart!”) ถึงแม้ว่าผมจะมีเรื่องราวอีกมากมายที่อยากจะพูด ผมจะหยุดที่ตรงนี้ Source: [DC Gall] Translation credits: jeeelim5@tohosomnia.net Shared by: tohosomnia.net Do not remove/add on any credits แปลไทย: 3rebelangels.wordpress จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:18:41

ความคิดเห็นที่ 18 ก่อนจะรีวิวและวิจารณ์อย่างเป็นการเป็นงาน ขอลงข้อความที่เขียนโดย JYJ ใน Music Essay ส่วนที่มีคนแปลมาแล้วนะคะ (ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมกันมาค่อยทยอยลงไว้ได้เลยค่ะ) For You... เพื่อคุณ .. เขียนโดย แจจุง ตอนนี้ที่นิวยอร์คพรุ่งนี้จะเป็นการแสดงครั้งแรกในนิวยอร์ค ไม่ซิ ในอเมริกา พบกับแฟนๆชาวอเมริกัน ใจผมสั่น นอนไม่หลับเพราะความคาดหวัง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำอะไรผิดไป ถึงแม้ว่าเราไม่มีในสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ มันมีโอกาสที่เราจะไม่สามารถพบกับแฟนๆใน US ได้ (T/N หมายถึงปัญหาเรื่องวีซ่า) แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกภูมิใจกับพี่ของพวกเรา ประธาน ไม่ว่าใครทำให้เราได้มา พวกเราจะแสดงให้เห็นถึงตัวจริงของเรา ให้พวกคุณที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ พวกเราจะร้องเพลงต่อไป เพื่อคุณ Eng Trans: jyjlove1111 via twitter แปลไทย: 3rebelangels.wordpress แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 22:30:19 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:26:44

ความคิดเห็นที่ 19 Our Story เรื่องราวของพวกเรา เขียนโดย: จุนซู สวัสดีครับเพื่อนๆ พวกคุณจะฟังเรื่องราวของพวกเราไหม? พวกเราเป็นเด็กที่มีความฝันมากมาย พวกเรารักเสียงเพลงมากๆ ร้องเพลงจากใจ อยากจะพบเจอกับเพื่อนๆหลายๆคน จากวันที่เต็มไปด้วยเหงื่อจากการฝึกซ้อมและค่ำคืนที่สว่างไสวในห้องอัดเสียง พวกเรามีครอบครัวที่ทุกข์ทรมานมาด้วยกันและมีเพื่อนๆมากมาย ในที่สุดพวกเราได้เห็นผลของความพยายามจากเลือดและเหงื่อ ด้วยตาและมือของพวกเราเอง เพราะเป็นกังวลว่าพฤติกรรมของพวกเราจะทำให้จิตใจของครอบครัวเจ็บปวด เราประพฤติตัวอย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคำของครอบครัวอย่างไร้เงื่อนไข ครอบครัวบอกเราเสมอว่า อย่าได้ไปมองโลกภายนอกและปิดหูจากเสียงที่ได้ยินซะ ทุกอย่างคือความบาดหมาง ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก และในวันหนึ่ง มีความจริงมากมายถูกเปิดออกมา พวกเรา เด็กที่อยู่ในร่างผู้ใหญ่ ก็สับสนกับความจริงมากมาย และไม่สามารถควบคุมตัวเราเองไว้ได้ ในเวลาชั่วพริบตาเรากลายเป็นผู้ใหญ่ เรามองออกไปยังโลกกว้างถึงแม้ว่าจะถูกขอไม่ให้มองออกไป เราฟังถึงแม้ว่าเราจะถูกบอกไม่ให้ฟัง เราเติบโตขึ้นจนถึงเวลาที่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือเรื่องโกหกและอะไรคือความจริง ครอบครัวที่เราได้รู้จักจนถึงตอนนั้น ไม่ใช่ครอบครัวที่เราเคยคิดถึงมาตลอด หัวใจของเราบอบช้ำและความคิดของเราก็ย่ำแย่ ไม่สามารถเชื่อใครได้ และความเปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ที่เราไม่เคยคาดถึง เราค่อยๆรับรู้ มองดูที่ตัวเราเองที่กำลังเปลี่ยนแปลงและสูญเสียความฝันไป นี่ไม่ใช่ที่ๆเราควรจะอยู่ มันควรจะมีโลกที่กว้างกว่าและสว่างไสวยิ่งกว่า ถ้าหากมันไม่มีโลกใบนั้น เราจะสร้างมันขึ้นมาด้วยเพลงของเรา นอกรั้วของคนที่เรียกกันว่าครอบครัว “ที่ไม่ใช่ครอบครัว” เราตัดสินใจว่าจะสร้างรังใหม่ รังที่สามารถเยียวยาวิญญาณอันเจ็บปวดและความฝันของเรา ตอนนี้พวกเรากำลังสร้างรังของเรา เพื่อนของเรากลายเป็นครอบครัว และมีครอบครัวใหม่มากมาย ถึงแม้ว่าจะมีการขัดจังหวะจากคนที่เคยเป็นครอบครัว ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัวใหม่ เราจะร้องเพลงอีกครั้ง วันแรกที่พวกเรามาร้องเพลงอีกครั้ง น้ำตาไม่อาจหยุดไหล พวกเราอยากจะร้องเพลงอีกครั้งและก็ทำเพลง ตอนนี้เราสามารถพบครอบครัวอีกครั้งบนเวที (T/N ไม่ใช่ในโทรทัศน์) แต่เรากำลังได้ทำในสิ่งที่รักอย่างที่ใจเรานำพาไป ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่า มีเพียงแค่คนที่รักคนอื่นและเชื่อใจในคนอื่น จึงจะสามารถฝันถึงความฝันและมีความหวังได้ ครอบครัวของผมเต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ และเรื่องราวของเราจะคงมีต่อไป พวกคุณจะฟังเรื่องราวของเราตลอดไปเลยไหม? Eng Trans: jyjlove1111 via twitter แปลไทย: 3rebelangels.wordpress จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:29:19

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านกระทู้นี้ .. นอกจากทำให้เสีย gift แล้วยังทำให้เสียน้ำตาด้วย T^T จากคุณ : MysticMicky เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:56:27

ความคิดเห็นที่ 21 ขออนุญาตวิจารณ์ทั้งตัวเพลงและการทำอัลบั้มนี้นิดนึงนะคะ (จริงคิดว่าคงยาว ) เคยมีแฟนเพลงต่างชาติคนหนึ่งบอกกับก่อนหน้าอัลบั้มนี้เราว่า เค้ายังไม่นับ JYJ เป็น "ศิลปิน" เพราะการเป็น "ศิลปิน"ในความหมายของเค้า ไม่ใช่แค่การแต่งเพลง ร้องเพลง แต่กินความหมายถึงการกำหนดทิศทาง "ดนตรี" และ "เนื้อร้อง" ที่กลั่นออกมาเป็น "เพลง" สำหรับเค้าศิลปินคือคนที่สามารถแสดงออกถึงทั้งความรู้สึก ความคิดและวิญญาณของเพลงนั้นๆออกมา ในขณะเดียวกัน JYJ ก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการเอาเพลงที่ตัวเองแต่งลงในอัลบั้มเท่านั้น เพราะพวกเขาไม่ได้แต่งเพลงเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นศิลปิน แต่พวกเขาแต่งเพลงเพราะความชอบ ความสนุก พวกเขายินดีที่จะร้องเพลงที่คนอื่นแต่งเพื่อที่จะทำให้คนฟังได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด (แต่เรากับเพื่อนๆอีกหลายคนก็แอบคิดว่า...หรือว่าอัลบั้มนี้ JYJ จะหาคนแต่งเพลงให้ไม่ได้ เลยแต่งเองซะเลย ) จริงๆเพลงที่ 1-5 เคยฟังแบบที่อัดจากคอนเสิร์ต แต่เสียงไม่ชัดเพราะเป็น Fancam ซึ่งก็มีทั้งที่ถูกใจมากและน้อยคละกันไปในตอนนั้น พอมาได้ฟัง preview แบบ 1 นาทีแล้วก็เจอว่างานนี้มิกซ์เสียงกันได้น่าสนใจทุกเพลงเลย Mission - มีเสียงรถ เสียงปิดประตู ไขกุญแจ สตาร์ทเครื่อง เร่งเครื่อง แล้วก็ดริ๊ฟท์ ชน ตูม ตอนแรกนี่ทำให้นึกถึง Fast and the Furious เลย เหมาะเป็นเพลงประกอบมากๆ เพลงจังหวะมันๆ เน้นบีทหนักๆ เพลงนี้ถ้าไม่มีหูฟังหนักเบสจะไม่สนุกเท่าที่ควรค่ะ (เคยลองใช้หูฟังไอพอดแล้วแอบไม่ถูกใจ) ชอบจังหวะกลองของเพลงนี้มากๆ และก็ชอบ you make me feel SHOCK! ออกเสียงได้น่าหมั่นเขี้ยวมากๆ เหมาะกับการเป็นเพลงเปิดตัว รวมไปถึงท่อนแร็พของยูชอน (ที่เมื่อกี้พยายามจะเอาเนื้อเพลงลง แต่ติดคำ เอฟ ยู ซี เค เลยทำเอาพี่พันป่วนไม่ยอมให้ลง) แต่พอมิกซ์หลังท่อนแร็พให้มีช่วงหยุดหายใจนี่แอบสะดุดหยุดหายใจไปจริงๆ เป็นเพลงเร็วแต่ยังคงสไตล์โหยหวนไว้ได้อย่างคงเส้นคงวามากๆ (อันนี้เคยมีเพื่อนผู้ชายที่ชอบเพลง W มากๆเรียกไว้ว่าเป็นสไตล์โหยหวน) ขอโค้งให้จุนซูที่เป็นคนแต่งเพลงนี้เลยค่ะ เหนือความคาดหมายมาก เพลงเร้าใจจริงๆ ฟังแล้วใจเต้นตุบๆ อยากลุกขึ้นมาเต้นด้วยมากๆ Nine - เนื่องจากเพลงนี้ยังไม่ชัดเท่าไหร่ เลยยังไม่อยากวิจารณ์มาก แต่ครั้งแรกที่ฟังเราคิดถึงเพลงประกอบพิธีปิดเอเชี่ยนเกมส์เลย (วันที่ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกคือวันปิดเอเชี่ยนเกมส์พอดีค่ะ) เนื่องจากแจจุงบอกว่าใช้คอร์ดเพลงพื้นฐาน เพลงเลยฟังเนิบๆเรียบๆไปนิดนึงสำหรับเรา ชอบเสียงคอรัสทั้งสามคน แต่มีจุดที่น่าแก้ไขคือตรงที่แจจุงจะร้องไถขึ้นเสียงสูง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไฟล์ไม่ชัดด้วยหรือเปล่า ประกอบกับเหมือนแจจุงแอบเสียงแหบ มีเพี้ยนนิดๆ โน้ตไถลออกนอกลู่นอกทางไปหน่อย ฟังแล้วลุ้นมากค่ะ อย่างกับลุ้นร้องสดเลย ^^" Pierrot - ชอบตั้งแต่เมโลดี้ของเปียโนติ๊งๆที่ขึ้นมาแล้ว และรายละเอียดเพลงที่เหมือนจะกลายเป็นลายเซนต์ของแจจุงไปแล้ว เพลงนี้เล่นรายละเอียดเยอะมาก บางคนอาจจะบอกว่าซาวด์มันรกไปด้วยซ้ำ เพราะมีทั้งเปียโนรองรับเสียงกลองหนักๆ เสียงลมวิ้วๆ และเสียงร้องที่ใส่ซ่อนเสียงประสานไว้เยอะมากๆ เพลงนี้ร้องกันได้ใส่อารมณ์มันมาก...No Future No Freedom ท่อนพูดของยูชอน และแอบใส่แอดลิบโหยหวนกันเช่นเคย ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่เราชอบมากที่สุดอีกเพลง (มีแฟนๆฝั่งยุโรปบอกว่าถ้าแต่งเนื้อเพลงภาษาอังกฤษใส่เพลงนี้ น่าจะดังในแถบยุโรปได้ไม่ยาก) Fallen Leaves - เพลงความหมายดีๆ แนวมิวซิคอลที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนแต่งคือจุนซู แต่เพลงนี้ไฟล์เสียงที่มาออกแนวไม่ชัดมากๆค่ะ ขอรอแบบชัดๆแล้วจะเขียนถึงดีๆอีกที ตอนนี้เสียงเปียโนช้ำไปหน่อย แต่ร้องกันแบบทำเอาแฟนๆที่รู้ความหมายเพลงร้องไห้กันไปหลายคน ID.S. - จริงๆสิ่งที่แฟนๆกลัวกันมากที่สุดสำหรับงานเพลงของ JYJ คือ Autotune แต่สำหรับเราแล้วเพลงนี้กลายเป็นเพลง Autotune เก๋ๆ ออกแนวคลับแดนซ์สไตล์เพลงสแกนดิเนเวียนไปเลย โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ความสวยของเมโลดี้ไว้ด้วยเปียโนคลอ ท่อนกลางเพลงที่เป็นเสียง Autotune กลายเป็นท่อนที่ทำให้เราสะดุดหูกับเพลงนี้ (ตอนฟังครั้งแรกนั่งดูรูปแจจุงใน intermodulation กับเพื่อนและน้องอยู่ ทั้งสามคนพร้อมใจกันสะดุดกับท่อนนั้นเลย) รายละเอียดดนตรีเยอะมากๆ เป็นอีกเพลงที่เก๋มากค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะได้ฟังเพลงอย่างนี้ แต่แอบคิดว่าร้องให้กระชับได้มากกว่านี้จะเจ๋งขึ้นไปอีก (แอบคิดว่าแจจุงได้อิทธิพลมาจาก T-Pain รึเปล่า เลยแต่งเพลงออกมาแนวๆนี้) Unnamed Song - ขึ้นมาด้วยแอดลิบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของแจจุง เสียงแร็พดุดันกึ่งรันทดของยูชอน เสียงใสๆหวานๆของจุนซูสลับกับแจจุง (ท่อนเสียงจุนซูที่มีเสียงอีกสองคนหลอนๆอยู่ด้านหลังเพราะสุดๆเลย) ที่แอบประหลาดใจที่สุดคือแร็พแบบเบาๆของแจจุง เพลงนี้ยาวถึง 8 นาที แต่เป็นเพลงที่ฟังได้เรื่อยๆเลยทั้งๆที่คอร์ดซ้ำๆ มีจุดที่โดนเซนเซอร์ในเนื้อเพลงไปเยอะมาก อาจจะทำให้เสียงขัดๆแปลกๆไปบ้าง แต่ถ้าได้อ่านเนื้อเพลงแล้วจะเข้าใจค่ะ...ว่าเพลงนี้ตั้งใจเขียนมาระบายจริงๆ มันเลยขึ้นๆลงเหมือนชีวิตคน ชีวิตของ JYJ ที่ตั้งใจเล่าออกมา โดยรวมๆขอให้ 8.5/10 แล้วกัน จริงๆชอบมากๆ แต่ยังมีช่องให้พัฒนาขึ้นไปอีกมากอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของการทำเพลงเอง และการดีไซน์เสียงร้อง แต่ส่วนที่ชอบมากคือเพลงส่วนใหญ่ไม่สามารถตีตราลงไปได้ว่าเป็นเพลงในแบบ K-Pop หรือ J-Pop หรือเพลงฝั่งตะวันตก แต่เป็นเหมือนส่วนผสมของทุกอย่างที่พวกเขาได้รับมาจากการฟังเพลงและร้องเพลงในช่วงชีวิตที่ผ่านมา กลายเป็นงานในแบบ JYJ เอง เพลง 6 เพลงนี้อาจจะไม่ใช่เพลงที่สมบูรณ์แบบหรือเพลงที่ถูกใจใครหลายๆคน แต่เป็นเพลงที่ JYJ กำหนดเอง เหมือนจะบอกว่าต่อไปนี้ พวกเขาจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ตัวตลกที่ถูกใครชักใยไว้อีกแล้ว เป็นอีกก้าวที่น่าภาคภูมิใจสำหรับแฟนๆ เราอาจจะยังพูดไม่ได้ว่าพวกเขาสลัดภาพลักษณ์ความเป็นไอดอลไปจนหมดแล้ว แต่นี่ก็เป็นอีกก้าวที่ทำให้เห็นว่าทั้งสามคนคือคนดนตรีที่กำลังพิสูจน์ตัวเองให้พวกเราได้เห็นว่าไม่ต้องมีค่ายใหญ่สนับสนุน แต่พวกเขาก็มีความสามารถด้านดนตรีและการร้องเพลงมากพอที่จะอยู่รอดในวงการบันเทิงต่อไปได้ น่าติดตามว่าต่อไปพวกเขาจะร้องและแต่งเพลงแบบไหนให้พวกเราได้ฟังกันอีก เพราะจากแนวเพลงนี่คาดเดากันไม่ถูกเลยจริงๆ ใครฟังแล้วรู้สึกอย่างไรมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ อยากรู้ความเห็นทั้งคนที่ติดตามพวกเขามาตั้งแต่สมัยเป็นดงบัง แฟนๆใหม่ๆ หรือคนที่แวะเข้ามาฟังโดยไม่ใช่แฟนค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 23:20:29 แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 23:15:18 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 23:10:48

ความคิดเห็นที่ 22 อัลบั้มนี้ชอบทุกเพลงอีกแล้วค่ะ  ก็แหมๆๆ  เป็นอัลบั้มแห่งความภูมิใจที่น้องทำเองทุกอย่างนะคะ ปลื้มตั้งแต่แต่งเพลงเองแล้ว นี่ทั้งเรียบเรียง ทั้งโปรดิวซ์เอง แล้วเค้าจิไม่ปลื้มมากๆ ได้อย่างไร โดยส่วนตัวที่ฟังทั้งหมด ชอบเพลงเร็วมากกว่าเพลงช้า ยังไม่ได้ฟัง "ไร้นาม" อย่างตั้งใจด้วยค่ะ ตอนนี้ก็เลยชอบเพลงเร็วมากกว่า ทั้งปิเอโรกะมิสชั่นที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าชอบเพลงไหนมากกว่ากัน มันพีคมากๆ ทั้ง 2 เพลงเลย   ส่วน IDS แต่ก่อนเฉยๆ กะเพลงนี้มากๆ แต่พอตัวชัดๆ ออกมา  ก็เพิ่งมาค้นพบเสน่ห์ของเพลงนี้ แม้จะขัดใจกะออโต้จูนนิดหน่อย มันเก๋ และทำให้ร้อง ว้าว! ไม่เถียงเลย แต่เค้าก็อยากฟังเสียงน้องแบบแ่จ่มๆ นี่นา ตอนนี้เลยสับสนกับตัวเองในเพลงนี้ว่า ตกลงตรูชอบที่มันออโต้จูนเก๋ๆ หรือไม่ชอบกันแน่ว๊า 555 ส่วนเพลงช้า ยังไม่ได้ฟัง "ไร้นาม" แบบตั้งใจๆ เลยไม่รู้ว่าฟังแล้วจะชอบมั้ย (ที่รู้ๆ ชอบเนื้อหาเป็นบร้าเลย) แต่กะอีก 2 เพลง ชอบเพลง Nine มากกว่าหน่อยค่ะ  ก็เพลงน้องจุนมันอืดๆ แบบมิวสิคคอลอ่ะ ฟังแล้วก็นึกถึง I can saor มาอืดๆ สไตล์เดียวกันเลย ก็เลยชอบเพลง Nine มากกว่า แต่จะว่าไป ก็ยังฟังไม่ละเอียดพอ ต้องไปตั้งสติฟังอีกอ่ะค่ะ ดังนั้นเค้าวิจารณ์ไม่ได้ (อคติมันเยอะด้วยอ่ะ แบบความรักทำให้เราอคติเข้าข้าง 555) จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 23:45:51

ความคิดเห็นที่ 23 หนังสือแถมซีดีเล่มนี้   สำหรับเรามันไม่ใช่แค่ไดอารี่  หนังสือความเรียง  และเพลงอีกหกเพลง   แต่มันคือสิ่งที่แทนความรู้สึกและตัวตนของน้อง พอได้ฟังเพลงทั้งหกเพลง  ทำให้เรารู้สึกเหมือนเข้าใกล้น้องมากขึ้น  เข้าใจน้องมากขึ้น  เข้าใจทั้งตัวตน  ความรู้สึกนึกคิด  และเข้าใจว่าทำไมน้องถึงออกจากบริษัทนั่นมา ถ้าน้องยังอยู่ที่นั่น  เราจะไม่ได้ฟังเพลงแบบนี้  จะไม่ได้เห็นน้องทำเพลงแบบนี้  หรือเพลงแบบนี้ที่น้องแต่งก็คงเอาไปเปลี่ยนแปลงเพื่อความพอใจของค่ายขนไม่ใช่เพลงของน้องอีกต่อไป นอกจากอารมณ์  และความรู้สึกที่เต็ทเปี่ยมในแต่ละเพลง  สิ่งที่เรารู้สึกอีกอย่างคือ  อิสรภาพที่เรารู้สึกได้จากเพลงน้อง น้องแต่งเพลงที่ตัวเองอยากแต่งผสมผสานกับประสบการณืในชีวิต ศิลปินที่ชอบ  ซึ่งโอกาสแบบนี้  คงไม่เคยเกิดกับน้องในเกาหลีมาก่อน สำหรับแต่ละเพลงขอวิจารณ์ดังนี้้ค่ะ Mission - เป็นเพลงที่จังหวะมันมากกกกกก  เหมาะจะเป็นเพลงเปิดตัวจริงๆ  เราชอบเสียง  ตื้ดๆๆๆๆที่คลออยู่ตลอดทั้งเพลง เหมือนคนสีไวโอลินแบบสั้นๆซ้ำกันไปมา  จังวะกลองก็สนุกและมันส์มาก   Nine - เพลงจังหวะฟังสบาย  เหมือนท้องฟ้าใสตอนหน้าหนาว แต่เพลงนี้เราชอบเวอร์ชั่นไลฟ์มากกว่านะ   เวอร์ชั่นสตูดิโอจะมีจุดสะดุดอยู่นิดๆ  และการใช้เสียงบางช่วงดูไม่เนียนเท่าที่ควร Pierrot - มันคือ"เพลงแจจุง" เด่นเรื่องการอะเรนจ์ละมิกซ์เสียงมากๆลายเซ็นชัดเมือนเคย  เป็นเพลงที่ซับซ้อนคอดๆ เหมือนเอาผ้าหลายๆชื้นมาเย็บต่อๆกันบางมุมอาจจะดูรก  แต่ดูอีกด้านมันก็สวยและมีสีสันมากๆ  เราชอบท่อนที่น้องเน้นคำลงเสียงหนักๆ  ตอน  ByeBye  เนี่ย  สะใจสุดๆ Fallen Leaves - มันคือเพลงไล่คีย์เสียงของน้องค่ะ แทบไม่ีท่อนประสานเลย  เริ่มจากเสียงระดับธรรมดาๆแล้วค่อยๆสูงขึ้น  ให้อารมณืน้องกำลังร้องมิวสิคคัลโดยตัวละครสามคน  ร้องโต้ตอบกันไปมา น้องไล่โน้ตกันได้ดีนะคะ  แอดลิปก็แจ่ม  ท่อนพีคคือท่อนที่จุนซูร้องคีย์สูงสุดนั่นแหละค่ะ  น้องร้องเสร็จก็ร้อง  เฮ้อออ  ตามเลยทีเดียว  แบบ  สูงดีจังนะจุนซู ID.S. - เป็นเพลงในสตูดิโอเวอร์ชั่นที่เราชอบที่สุด  มิกซ์เสียงเจ๋งคอดดดดดดด เพลง Autotuneก็จริงแต่เป็นเพลงที่่เก๋เอามากๆ รายละเอียดมันยุบยิบไปหมด  แตสำหรับเราไม่รกเลย  มันเนียนไปหมดเลยอ่ะ  บางท่อนคนที่ร้องคอรัสอยู่ดีๆก็เลื่อนมาเป็นเสียงหลักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  อารมณืวงแหวนเบมิวอุสมั้ง ชอบเพลงนี้มาก  ฟังวนไปมาทั้งวันเลย  ตรงที่เป็นเสียงเบสตีบๆ  กับเสียงเปียโนที่ตลอกรุ๋งกริ๋งๆ ก็ชอบมาก Unnamed Song - ตอนเราฟังเพลงนี้รอบแรกเรานั่งน้ำตาไหล   เราไม่รู้หรอกนะ  เพลงแต่ละท่อนหมายความว่ายังไง   แต่เสียงของน้องเอง  มันแสดงถึงบาดแผล  ความเจ็บปวด  ความผิดหวัง ความเศร้้าเสียใจ ความโกรธที่อยู่ภายใน เพลงในแต่ละส่วนอาจจะฟังดูประหลาด  แปลก  และไม่เข้ากัน  แต่มันคือเพลงแห่งความรู้สึก   เหมือนเห็นน้องมานั่งเล่าเรื่องต่อหน้าเราเลยทีเดียว โดยรวมให้ 9.0/10 เพลงบางเพลงยังมีมุมที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้   แต่เรื่องอารมณ์ที่ภ่ายทอดมาในแต่ละเพลงเราให้เต็มสิบเลยนะ  มันไม่ใช่แค่เพลงที่ฟังแล้วก็ฟังไปสนุกไป  ซึ้งไป  แต่มันมีจิตวิญาณของคนทำเพลงในแต่ละเพลงจริงๆ อัลบั้มนี้เป็นก้าวแรกในโลกแห่งดนตรีที่น้องทั้งสามคนกำลังจะสร้างขึ้นมาเอง  ดนตรีของน้องเอง  โลกที่น้องสร้างด้วยตัวเอง  เราก็จะรอผลงานชิ้นต่อๆไปที่น้องจะเปิดโลกของน้องให้เราเข้าไปอีกครั้งนะคะ  ^^ จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 00:05:28

ความคิดเห็นที่ 24 จขกทจ๋า... (รู้สึกว่าเค้าโดนพาดพุงไปเยอะนะ 555) Their Rooms Music Essay... ทำให้...เมื่อเห็นแพคเก็จ จากที่ตั้งใจจะซื้อชุดเดียว ต้องเปลี่ยนใจซื้อสองชุดโดยพลัน ทำให้...ตอนแรกที่ไม่ได้อะไรกับ ID.S. มาก ไปๆ มาๆ ชอบเพลงนี้ที่สุดแล้ว สะดุดกับท่อน autotune เก๋ๆ นั่นแหละ แจจุงเจ๋งจริงวุ้ย ทำให้...คนที่ไม่ชอบ autotune แบบเรา กลับลำมาชอบเพลงที่ใช้ autotune เยอะๆ มากที่สุดในอัลบั้มอีกแล้ว (ก่อนนี้คือ Empty จาก The Beginning) ทำให้...เพลงที่มีแต่ท่อนแร้พ + ภาษาที่ฟังไม่ออก และความยาวถึง 8 นาที กลายเป็นเพลงฟังได้เพลินๆ ซะงั้น ยูชอนเริ่ด! ทำให้...เมื่อได้ฟังบางเพลงแล้วอยากเข้าไปกอดจุนซู เสียงน้องฟังแล้วรู้สึกถึงความปวดร้าวในใจน้องจริงๆ ทำให้...มานั่งคิดว่า ฉันตามผลงานนักร้อง แต่ทำไมต้องไปเฝ้าชาร์ตร้านหนังสือล่ะเนี่ย  (อัลบั้มหน้าจะออกอะไรแถมซีดีอีกลูก?) ทำให้...ทึ่งในความสามารถของ JYJ ทั้งสามคน พัฒนากันอีกแล้วนะ ^^ ทำให้...หน้าบาน ปลาบปลื้ม ภูมิใจกับเด็กสามคนนี้ เมื่อตอนเห็นเครดิตอัลบั้ม ทำให้...สงสัยว่า คราวหน้าสามคนนี้จะงัดอะไรมาโชว์อีก ตื่นเต้นกับพัฒนาการจริงๆ สุดท้าย ทำให้...อยากดูไลฟ์กับตาตัวเองแล้วววววววววว มาเปิดคอนเสิร์ตซะทีสิ!!! >.< คิดอะไรไม่ค่อยออก เอาไปสั้นๆ พอนะ ^^" แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 00:17:33 จากคุณ : AlwaysSmiles เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 00:16:39

ความคิดเห็นที่ 25 อัลบั้ม JYJ Music Essay: Their Rooms  ราคาประมาณพันกว่าๆ แต่ผลงานที่กลั่นออกมาจากตัวตนของคนหนุ่มที่อายุเพียงแค่ 20 กว่าๆ   ประเมินค่าไม่ได้ ขอบคุณน้องที่สู้เพื่อตัวเอง ขอบคุณที่สร้างผลงานดีๆออกมา ขอบคุณที่ทำให้เรารู้ว่า  เราภูมิใจที่เลือกรักและสนับสนุนน้องต่อไป ปล...เอ้ยยย  ไม่ได้แอบขายของน้องเน้อ  ฮาๆๆ จากคุณ : Kim Nooknick เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 00:35:35

ความคิดเห็นที่ 26 คำแปลเพลงไร้ชื่อจากเวอร์ชั่นที่ร้องในเพลงค่ะ ยกมาจากบ้าน JYJ ในบันเทิงเกาหลีนะคะ   [Trans] เพลงที่ไม่มีชื่อ part 1 (เวอร์ชั่นซีดี) credit lyrics: DCtvxq_gall twitter  แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง (walking along with JYJ @ pantip) (T/N: ตรงไหนที่มีเครื่องหมาย == เป็นคำที่ละไว้ ไม่ได้มีในเวอร์ชั่นเดิมเหมือนกันค่ะ) ผมเคยพูดเรื่องนี้มาก่อนหรือยัง? ในปี 2003 หลังจากผ่านการฝึกซ้อมและผ่านเวทีแข่งขันมาแล้ว  และในปี 2004 เมื่อเราไม่อยากจะพอใจกับการเป็นศิลปินหน้าใหม่ประจำเดือนและทำผลงานได้ดีที่สุด พวกเราต้องการมากกว่านั้น  ในปี 2005 เราเดบิวต์ในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และคิดว่ามันจะง่ายเหมือนในเกาหลี  อัลบั้มซิงเกิ้ลแรกขายได้เพียง 4,000 ก็อปปี้ เราสูญเสียความมั่นใจและถึงจุดต่ำสุดของชีวิต ภาษาญี่ปุ่นช่างยากต่อการเรียนรู้ วันแล้ววันเล่าที่ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านกับที่ทำงาน  กักขังเราไว้โดยอ้างว่ามันดีกับพวกเราเอง ความเหงา น้ำตาที่ไหลรินและความโกรธเกรี้ยวทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน  เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม  "เรียนรู้สิ่งดีๆ จากกันและกันนะ" พวกเราพูด ในที่สุด เราทำได้ดีอย่างที่หวังไว้  เราโทรหาครอบครัวและเพื่อนๆ    วันนั้นมาถึงแล้วนะ แล้วทุกอย่างก็ไปได้สวยหลังจากนั้น  เรากวาดรางวัลทุกอย่างและรับรู้ได้ถึงความนิยมที่มีให้แก่เรา เราร้องไห้ แต่ร้องเพราะความสุขใจ  เหตุผลที่ทำให้เราเบิกบาน มากยิ่งกว่าสุขทุกข์ใดๆ ก็เพราะพวกเรา ผู้ไม่เคยยอมแพ้และพยายามต่อไปเรื่อยๆ  เป็นหนึ่งเดียวกันและเข้มแข็งมากกว่าอะไรทั้งหมดที่เรารู้จัก สำหรับคุณที่เปลี่ยนไปแล้ว  (ผมไม่สามารถจะยืนอยู่ที่เดิมได้ตลอดไป)  ผมจะหันหน้าหนีไปจากคุณ  (ผมปล่อยให้น้ำตาหยดลงมาไม่ได้)  ผมจะเรียกชื่อของคุณเรื่อยๆ ยามที่คุณเดินจากไป (ทำให้ผมบินผ่านฟากฟ้านั้น)  ผมวิ่งตามถนนไปเรื่อยๆ  แต่ชะงักเมื่อเจอกับกำแพงสูงใหญ่  ผมคิดว่าว่าโลกนี้มันจะมืดมนได้สักแค่ไหนนะ  มันเคยมีช่วงหนึ่งที่ ผมรับมันไม่ไหวอีกแล้ว == หนี้สินที่พอกพูนขึ้น  แต่แล้วผมก็จำคำพูดที่ == เคยพูดมาก่อน  "อะไรก็ตามที่คุณต้องการ == เราจะเป็นครอบครัวกันเสมอ  = ถ้าคุณต้องการ = อยากจะยืมเงินจากเรา เราให้ยืมได้เลยโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย"  *บอกผมเลยนะ ถ้าต้องการอะไร* คำพูดเหล่านั้นทำให้ผมกล้าที่จะขอร้องเขา  มันรู้สึกแปลกๆ แต่ก็มีเท่านั้นที่ผมจะพึ่งพาได้ แม้ว่ามันจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่เราก็เป็นครอบครัวที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป  "== จะจ่ายดอกเบี้ยคืนไหมล่ะ? ถ้าจ่าย ผมก็จะลองคิดดู" ผมโมโหกับคำพูดนี้มากก็แต่ขอร้องอีกครั้งหนึ่ง  เขาวางหูใส่ผม  ผมหยุดน้ำตาไม่ให้ไหลไม่ได้  ความคิดที่ว่าครอบครัวที่ผมเชื่อใจมากตลอดนั้นไม่ใช่อย่างที่คิด ทำให้ผมสับสน  ตอนที่เขาต้องการเรา เราเป็นครอบครัว แต่ตอนนี้เราต้องการเขา เราเป็น == มีเรื่องให้ประหลาดใจใหม่ทุกๆ วัน ผมได้ยินว่าการแสดงต่างประเทศของเรานั้นได้รับความนิยมเกินคาด ผมดีใจมากตอนที่ไป ==  เราต่างมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น และชื่นชมกันและกันที่ทำงานอย่างหนัก  '- 40 ล้านวอน (35,000 เหรียญสหรัฐ') ปรากฏอยู่ใน == ที่เราได้รับวันนั้น ผมคิดว่าต้องมีอะไรผิดแน่ๆ และมองดูใหม่อีกครั้ง ให้ตายเถอะ เงินมันไปเป็นค่าใช้จ่ายหมด? เวรเอ๊ย มันจะหายกลายเป็นค่าใช้จ่ายไปหมดได้ไง? ผมไม่อยากจะเชื่อ จึงขอดูรายละเอียด ==  พวกเขาบอกว่าได้ แต่เราก็ต้องกลับไปทำงานโดยไม่ได้ == นานวันเข้า ความสงสัยมีมากขึ้นทุกที  ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ยิ่งปวดหัว คำสุดท้ายที่ผมอยากจะพูดน่ะเหรอ? == ของฟุ่มเฟื่อยที่หยิบยื่นให้ == กับ == แลกมา == โดย ==? มันเป็นของของขวัญที่ให้อย่างจริงใจเพื่อ == งั้นเหรอ? ซื้อในนามของ == เพื่อลดหย่อนภาษีงั้นสิ? ทุเรศ! ด้วยทัศนคติเลวๆ แบบนี้ คุณทำ == กับรุ่นพี่เหรอ? สำหรับคุณที่เปลี่ยนไปแล้ว  (ผมไม่สามารถจะยืนอยู่ที่เดิมได้ตลอดไป)  ผมจะหันหน้าหนีไปจากคุณ  (ผมปล่อยให้น้ำตาหยดลงมาไม่ได้)  ผมจะเรียกชื่อของคุณเรื่อยๆ ยามที่คุณเดินจากไป (ทำให้ผมบินผ่านฟากฟ้านั้นไป)  อืม ถ้าบอกว่าพวกเขาเป็นอย่างงั้น พวกเราผู้ใจดีจะปล่อยๆ มันไปบ้าง  เราจะลืมมัน เพื่อครอบครัวที่อยู่ด้วยกันมานานปี  แต่มันไม่ถูกนะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณควรจะพูดกับเรา "คุณจะทำให้เราผิดหวังไปจนถึงที่สุดเลยหรือไง?" มันไม่น่าเชื่อ - พวกเขาแค่โทรมาคุย == พวกรุ่นพี่พูดถูก พวกเขาต้องการคนที่สามารถ == คำพูดพวกนั้นยังคงตามมาหลอกหลอนผม  "ถ้าเขา [มิกกี้] == ทำอะไรผิด == มัน ==" ตอนที่คุยกับ 'ครอบครัว' ของผมในอดีต  มีเรื่องที่ต้องเล่าอีกมากมาย แต่หลังจากเพลงนี้ออกไป  ผมจะไม่พูดอีกเพราะมันทำให้ผมหงุดหงิดเวลาคิดว่าพวกเขาจะทำยังไงหลังเพลงนี้ออกไป แม้ว่ามันจะยากแต่เราก็ทำงานกันอย่างหนัก  แม้ว่าจะมีคนพยายามก่อกวน แต่เราก็พยายามจะยิ้ม ผมไม่ได้มานะพยายามเพราะอยากจะเป็นคนดี เป็นมนุษย์ที่ดี  ผมมานะพยายามก็เพราะไม่อยากจะหวนคิดเสียใจอะไรในวันที่ผมตาย ใช่ครับ สุดท้ายแล้วก็คือ JYJ เมื่อวันและวันพรุ่งนี้ ผมขบคิดทั้งวัน  สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกแตกต่างระหว่างอดีตกับตอนนี้ก็คืออายุที่มากขึ้นเป็น 25 ปี ผมจะวางปากกาลงแล้วนะ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ผมรู้สึกได้ถึงความรักจากแฟนๆ ดังนั้น... ผมจะปลดปล่อยสิ่งที่เก็บไว้เป็นภาระในซอกมุมของจิตใจ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องง่าย แต่ผมก็รู้สึกสบายขึ้น เรามีความสุขเพราะเรามีครอบครัวใหม่เป็นแฟนๆ  คิดถึงพวกคุณเสมอ... ผมรักคุณ เพราะงั้นเชื่อในตัวพวกเราไปจนวันสุดท้ายนะ  บอกว่าคุณรักผม  ยืนอยู่ข้างกันนะ เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเสมอ  เราจะมีคุณ ตราบใดที่คุณยังมีเรา เราสัญญาว่าจะเสี่ยงทุกอย่างเพื่อแสดงให้คุณเห็น  ใช่ครับ พวกเราคือ JYJ "สร้างกำแพงและปิดประตูให้แน่นหนา รักไม่ใช่การผูกมัด  รักคือการปล่อยไปอย่างอิสระ ไม่เคยคาดหวังเพียงนั้น ข้า ซึ่งเจ้าเป็นผู้สร้างมา มีค่าเป็นชนชั้นเพียงครึ่งของครึ่งนั้น  ไม่ใช่สิ่งอันใด นอกจากผูงกบในบ่อน้ำตลอดกาล" (จากละครเพลง "โมสาร์ท!") แม้ว่าจะมีเรื่องราวอีกหลายร้อยเรื่องที่ผมอยากจะเล่า  แต่วันนี้พอเท่านี้ก่อนนะครับ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 00:41:51

ความคิดเห็นที่ 27 ขออนุญาตร่วมด้วยช่วยวิจารณ์ด้วย สารภาพว่านี่เป็นครั้งแรกที่ออกตัวต่อหน้าสาธารณชนว่าติดตามสามหนุ่มนี่อยู่ อย่าเรียกว่าแฟนคลับเลยค่ะ เรียกว่าแฟนเพลง(+ละคร+ผลงานอื่นๆ) น่าจะดีกว่า ชื่นชอบเพลง และการแสดงบนเวทีของ DBSK ตั้งแต่ตอนยังไม่มีปัญหา จนเกิดปัญหาก็ยังติดตามอยู่...ตราบใดที่หนุ่มๆ ยังออกผลงานมาให้เสพ เราก็จะตามเสพต่อไป ^^ สาเหตุที่ทำให้ทนไม่ไหวต้องออกมาคอมเมนต์อะไรสักนิดกับอัลบั้มนี้ เพราะรู้สึกผิดและเป็นหนี้สามหนุ่มนี้อยู่มากค่ะ ยิ่งเห็นความตั้งใจจริง และความพยายามในอัลบั้มนี้ของทั้งสามคน เพื่อทำเพลงออกมาให้ฟังแบบชนิดที่เรียกว่าแทบจะโซโล่เดี่ยวทั้งอัลบั้มแล้ว มันเลยเกิดความรู้สึกว่า ถ้าเราจะสละเวลาที่ก็พอจะมีอยู่ และออกจากพื้นที่ส่วนตัวในโลกไซเบอร์ที่ซ่อนตัวแบบเงียบๆ มาพักใหญ่ มาเขียนอะไรถึงผลงานที่คนทำตั้งใจมากๆ ชิ้นนี้สักนิด มันก็คงเป็นการตอบแทนแบบหนึ่งที่แฟนเพลงอย่างเราจะทำได้ นอกเหนือไปจากการอุดหนุดผลงานที่ชื่นชอบ (ไม่ได้ซื้อทุกอัลบั้มค่ะ เพิ่งทำงานหาเงินเอง เพราะงั้นต้องเลือกเฉพาะที่คิดว่าคุ้มแล้วจริงๆเท่านั้น) ในเมื่อคนทำตั้งใจขนาดนี้ ผู้บริโภคอย่างเราจะไม่ทำอะไรบ้างก็รู้สึกจะสบายเกินไปนิดค่ะ...รู้สึกผิดลึกๆ อยู่มากโข เอาล่ะค่ะ เริ่มเลยแบบผู้ไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับดนตรีสักนิด...อาจจะยาวสักหน่อยนะคะ ปัญหาของเราคือเขียนอะไรสั้นๆ ไม่ค่อยเป็นค่ะ Music Essay: Their Rooms เริ่มที่ตัวอัลบั้มก่อน...เอ่ออออออ แปลกกว่านี้มีอีกมั้ยคะ ออกมาด้ายยยยยย แฟนเพลงลำบากนะคะที่จะระบุว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เนี่ย มันต้องอยู่ในหมวด CD หรือ BOOK เวลาไปส่องตามเวบออนไลน์น่ะค่ะ เฮ้อ! แต่เอา...จะพยายามทำตัวให้ชินกับความคิดแหวกๆ ของผู้ชาย 3 คน...จริงๆ หนูขายไดอารี่แถมเพลงฟังเล่นๆ ใช่มั้ยลูก? สำหรับชื่ออัลบั้ม ส่วนตัวแล้วชอบคำว่า Music Essay มากกว่า Their Rooms เพราะรู้สึกว่าห้องของฉัน มันก็เป็นคำดาดๆ ดื่นๆ ที่มักจะใช้กันเวลาเป็นชื่อผลงานต่างๆ (โดยเฉพาะผลงานเพลง) อยู่แล้ว อาจจะไม่ใช่คำนี้ แต่ก็มักจะมีคำประเภทที่ว่า เรื่องของฉัน ตัวตนของฉัน ความรู้สึกของเรา อะไรประมาณนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งแน่ใจได้ว่า 100 ทั้ง 100 ไม่ทั้งหมดหรอกที่จะเป็นตัวตนจริงๆ มันย่อมเป็นตัวตนที่ผ่านการเลือกสรรมาแล้วทั้งนั้น เพราะแน่นอนว่าในอัลบั้มหนึ่งมันต้องมีคนนู้นคนนี้มากำกับเยอะแยะ...ต้นสังกัดเอย โปรดิวเซอร์เอย สไตลิสต์เอย มากมายหลายสิ่ง สุดท้ายตัวตนที่ศิลปินอยากจะแสดงออกไปนั้นจะเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้...แต่อัลบั้มนี้ก็วางใดได้อยู่หน่อยที่ดูจากเครดิตแล้ว...ยังไงหนู 3 คน ก็กุมอำนาจไว้เกือบหมดแล้วใช่มั้ยลูก...แต่คำว่า Music Essay นี่สิ...สำหรับเราที่ไม่ได้กว้างขวางอะไรในวงการดนตรีนัก คำนี้มันเตะหู และเตะตาจริงๆ ตอนเห็นครั้งแรก เพราะส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าศิลปินน้อยคนนักที่จะร้อยเรียงเรื่องราวของเพลงในอัลบั้มไว้ด้วยกันได้ทั้งหมด เพราะงั้นอัลบั้มส่วนใหญ่ที่เราเห็นจึงมักจะเป็นการจับเอาเพลงเพราะๆ ที่ปนกันทั้งเพลงเร็ว และเพลงช้ามารวมไว้ด้วยกัน มากกว่าจะยึดอยู่กับ Theme หรือ ชื่อของอัลบั้มนั้นจริงๆ ทำให้ที่ผ่านมา เวลาฟังเพลงจึงมักฟังเป็น "เพลงๆ" ไปมากกว่า แต่อัลบั้มนี้บอกได้เลยว่าเป็นอัลบั้มแรกที่สัญญาว่าต่อไปจะฟัง "ทั้งอัลบั้ม" พร้อมๆ กัน อาจจะเพราะติดตามเรื่องราวของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดก็ได้ เลยทำให้ "อิน" กับเรียงความฉบับดนตรีเรื่องนี้เป็นพิเศษ และรู้สึกว่ามันเป็น มากกว่า Their rooms แต่มันเป็น Their life และตัวตนของทั้งสามคนจริงๆ...สรุปว่า ไอเดียและคอนเซ็ปต์ของ "Music Essay" นี่เท่ห์ และเก๋กู้ดมากๆ เลยค่ะ JYJ Mission เพลงนี้ชอบมากตั้งแต่ดู Fancam คอนเสิร์ตแล้ว...ชอบการแสดงที่ท่าเต้นดูเหมือนไม่มีอะไรมาก ไม่ได้มีท่าหวือหวามากมายอะไร แต่ในภาคดนตรีและการใช้เสียงทำให้มันดูมี "อะไร" ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถ เสียงกลาง การกระแทกหรือลากเสียงในบางจุด ฟังแล้วฮึกเหิม และสนุกแบบทุกครั้งที่เปิดฟังจะต้องโยกหัวตามโดยไม่รู้ตัว แถมแอบกลั้นหายใจทุกครั้งที่จบท่อนแร็พปาร์ค การที่เพลงนี้มีท่อนฮุคซ้ำๆ ทำให้ติดหูได้ง่าย และเผลอฮัมขึ้นมาบ่อยๆ เวลาว่างๆ Mission make it mission let’s go Mission make it make it go I must go make it mission Let’s go mission make it go I must go make it mission Let’s go mission make it go I want u screaming JYJ verse 2 ชอบท่อนนี้มากจริงๆ แบบไม่มีเหตุผล ฟังแล้วรักเลย 555+ ถือว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมากที่สุดในอัลบั้มตอนนี้เลย(ไม่แน่ว่าฟังๆ ไปอันดับอาจมีเปลี่ยนแปลง) อยากเห็นน้องโชว์เพลงนี้บนเวทีที่ไม่ใช่คอนเสิร์ตดูบ้าง เพราะส่วนตัวคิดว่าเพลงนี้เหมาะกับการเล่นคอนเสิร์ตมากๆ มันทำให้บรรยากาศดูสนุก และเสียงคนดูในคอนฯ เองก็ช่วยให้เพลงนี้มันส์มากกกกก ก็เลยอยากจะรู้ว่าถ้าเอาเพลงนี้ไปโชว์บนเวทีรายการเพลง ที่โฟกัสอยู่ที่รายละเอียดของการแสดงและท่าเต้นมากๆ แถมบรรยากาศก็คงไม่บิ้วท์เท่าในคอนฯใหญ่ น้องจะโชว์เพลงนี้ออกมายังไง สู้คอนเสิร์ตได้หรือไม่ Nine ตอนแรกที่ได้ยินจากคอนเสิร์ตไม่ชอบเพลงนี้เลย...อาจจะเพราะคาดหวังมากไป เนื่องจากชอบคนแต่งเป็นพิเศษมากกกกกกกกก(จะว่าเมนแจก็ไม่ว่ากันค่ะ^^) และค่อนข้างจะเชื่อมั่นกับเพลงช้าของสามคนนี้สุดๆ ว่าต้องออกมาเพราะ แต่ความรู้สึกแรกที่ได้ฟังจากคลิปคือ...แจมันแต่งเพลงอะไรฟระ? เสียงปาร์คท่อนแรกฟังไม่รู้เรื่อง ส่วนอื่นๆ ของเพลงก็ได้ยินแต่เสียงกลองกับเสียงร้องเป็นห้วงๆ ทำนองเพลงมันไปหนายยยยยยยยยยยยย จนกระทั่งได้ฟังเวอร์ชั่น Preview 1 นาที...โอ้แม่เจ้า! มันเพลงเดียวกันแน่เหรอ ทำไมมันเพราะขึ้นผิดหูอย่างนี้??? จนได้ฟังเพลงเต็มๆ รู้สึกว่าคุณภาพของเสียงจะด้อยกว่าเวอร์ Preview เล็กน้อย(ไว้จะรอตัวเต็มๆ เสียงแจ่มๆ อีกที) แต่โดยรวมแล้วเพราะค่ะ เป็นเพลงฟังได้เรื่อยๆ อาจจะไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด ส่วนที่ชอบมากที่สุดคือช่วงท่อนที่ทั้งสามคนประสานเสียงกันค่ะ ชอบมากกว่าท่อนเดี่ยวของแต่ละคนเยอะ ท่อนเดี่ยวรู้สึกเหมือนมันไม่พอดียังไงก็ไม่รู้โดยเฉพาะช่วงต้นเพลง แต่พอร้องด้วยกันแล้วนี่แหละใช่เลย...นอกจากนี้ สิ่งที่ชอบมากที่สุดในเพลงนี้คือความรู้สึกของเพลงค่ะ เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึก "บวก" มากๆ อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัว ฟังแล้วเหมือนเพลงนี้กำลังบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ความทรงจำที่สวยงาม และความหวังที่ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เป็นความรู้สึกจากการฟังเพลงล้วนๆ โดยยังไม่ได้อ่านเนื้อเพลงพร้อมคำแปลใดๆ ยิ่งอ่านคำแปลแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกว่าคิดถูก...สำหรับเราเพลงนี้ "สวย" ค่ะ ทั้งด้วยทำนอง เนื้อร้อง...และ "ความคิด" ของคนแต่งเพลงนี้ขึ้นมา Pierrot เพลงนี้ชอบความหมายค่ะ ภาคดนตรีค่อนข้างเฉยๆ สำหรับเรา ถึงจะรู้สึกว่ามันมิกซ์ได้เก๋ดี...แต่ก็ยังไม่เข้าหูเท่าไหร่ แต่ชอบการใช้คำเปรียบเปรยค่ะ...รู้สึกว่าเพลงนี้มันลึกซึ้ง ความหมายแฝงเยอะ รู้สึก "ฉลาด" สารภาพว่าตอนแรกคิดว่าเพลงนี้ปาร์คแต่ง พอรู้ว่าเป็นแจเท่านั้นแหละ.......แม่เจ้า!!! แจจุงแต่งเพลงแบบนี้ได้ด้วย 555+ ปกติเห็นแต่แต่งเพลงบัลลาดซึ้งๆ ไม่ก็เพลงแปลกๆ อย่าง 9095 ไงคะ ชอบการเล่นคำว่า pierrot และลักษณะการวางเสียง ความรู้สึกที่ได้จากเพลงนี้คือน้องมีจุดยืนที่ค่อนข้างชัดเจน แน่นอนว่าความรู้สึกผิดหวังจากคนรอบๆ ตัวยังคงมีอยู่ แต่น้องไม่จมไปกับมันแล้ว...ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกได้ว่า น้องมองสิ่งรอบตัวด้วยความเข้าใจถึงความเป็นจริงของโลก และสันดานของคนมากขึ้น และพร้อมจะบอกให้ทุกคนรู้ว่า ตอนนี้ฉันโตแล้วนะ...โตแบบที่โตจริงๆ ไม่ใช่เด็กที่คอยจะบอกว่าฉันโตแล้วๆๆๆ ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ น้องโตทางความคิดและทัศนคติที่มีต่อโลกจริงๆ ไม่ได้เกรี้ยวกราด ตัดพ้อโชคชะตา แต่น้องกำลังบอกว่า "ตอนนี้ ฉันรู้ทันคุณแล้วนะ หน้ากากของคุณ คำหลอกลวงของคุณ มันใช่กับฉันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว"...แต่จะว่าไป อยากฟังเพลงนี้ในภาคเปียโนช้าๆ ซึ้งๆ แบบที่แต่งไว้ตอนแรกเหมือนกันนะคะ อยากรู้ว่าความรู้สึกที่ได้จากเพลงมันจะต่างไปมั้ย? Fallen Leaves เพลงนี้เมโลดี้งาม ดนตรีเพราะ เสียงร้องสุดยอดค่ะ แต่............มันเศร้าเกินไปอ่ะ ฟังแล้วบรรยากาศรอบตัวหมองลงไป 30% แต่นี่แหละเพลงที่อยากฟังจากน้องทั้ง 3 คน ถ้าในอัลบั้มนี้ไม่มีเพลงช้าๆ ซึ้งๆ แบบนี้สักเพลงหนึ่งจะเป็นอะไรที่ผิดหวังมาก เพราะน้องสามคนโดดเด่นมากเรื่องเพลงช้า และการใส่อารมณ์ลงไปในเพลงและทุกๆ คำร้อง...เข้าใจว่าถ้าเป็นเวอร์ชั่นชัดๆ ทั้งเสียงน้องและเสียงดนตรีคงใสกิ๊งกว่านี้ล้านเท่า เป็นอีก 1 เพลงที่เชื่อว่าไม่ว่าจะเอาไปร้องที่ไหนจะต้องสะกดคนดูอยู่ แบบทุกคนเงียบสนิทแล้วมีแต่เสียงผู้ชายสามคนนี้กับดนตรีเท่านั้นแน่ๆ...เป็นอีกเพลงที่ท่าเอาไปทำเป็นเพลงประกอบละครรักโรแมนติกซึ้งๆ คงจะดังและทำให้คนดูร้องไห้ตามได้ไม่ยากเลย ID.S. ตอนฟังเพลงนี้ครั้งแรก โดยยังไม่รู้ข้อมูลใดๆ เชื่อมั้ยเราสับสนมากระหว่างเพลงนี้กับ Pierrot ว่าเพลงไหนเป็นเพลงไหน เอ๊ะ! หรือมันเป็นเพลงเดียวกัน จนมารู้ทีหลังว่าอ้อ...มันเป็นเพลงที่แบ่งภาคกันมานี่เอง มิน่า 555+ แต่ถ้าเทียบกันแล้วเราชอบภาคดนตรีและซาวด์ต่างๆ ของเพลงนี้มากกว่า Pierrot นะ ในขณะที่ Pierrot จะชอบภาคการร้องและอารมณ์เพลงมากกว่า...ID.S. เลยเป็นเหมือนเพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังเรื่อยๆ สำหรับเรา ฟังแบบไม่เอาความ เน้นแค่ดนตรีที่ถูกหู แม้ว่าจะ Autotune แต่เราก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ กลับชอบเสียอีก Unnamed Song เฮ้ออออออออ ฟังเพลงนี้แล้วต้องถอนหายใจยาวๆ แต่งเข้ามาได้ยังไงลูก 8 นาทีกว่า แถมยังแร็พซะค่อนเพลง...เหนื่อยแทน บอกตรงๆ ว่าตอนเพลงยังไม่ออก เห็นแต่เนื้อเพลงมาเป็นตับยังกับจดหมายระบายความในใจ ก็คิดไปแล้วว่าเพลงนี้มันต้องแร็พทั้งเพลงแน่ๆ (ส่วนตัวไม่ค่อยถูกจริตกับเพลงแร็พเท่าไหร่ค่ะ) ปรากฏผิดคาดแฮะ...เพราะมีส่วนที่เป็นเมโลดี้อยู่มากพอสมควร ทำให้เพลงนี้เพราะอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะท่อนของแจจุงกับจุนซู...ท่อนปาร์คละไว้ ฟังน้องแร็พไม่ออกและไม่ทันอยู่แล้ว รู้แต่ว่า "แร๊งงงงงงงงงงงส์" 555+ กับอีกอย่างที่เหนือความคาดหมาย...คิมแจจุงแร็พค่ะ!!! ยาวด้วย ไม่น่าเชื่อ ถึงจะยังสู้ปาร์คไม่ได้(บอกกันตรงๆ) แต่ก็พัฒนาขึ้นจาก wrong number อย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนว่าพัฒนาจากตอนแร็พด้วยความจำเป็นใน rising sun คอน a-nation อยู่มากโข หุหุ...เพลงนี้คงไม่วิจารณ์อะไรมาก เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวคงต้องมีคำวิจารณ์จากคนอื่นๆ โดยเฉพาะเพื่อนพ้องน้องพี่ family sm ออกมาอีกมากมาย  แค่นั้นปาร์คคงต้องรับรู้จนหูแฉะแล้ว...แต่ในฐานะแฟนเพลง ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าเพลงนี้มันเป็นเพลงที่เขาต้องการ "ระบาย" จริงๆ ซึ่งมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะระบายความรู้สึกอะไรออกมาบ้าง และน้องก็คงรู้และเตรียมรับผลทั้งดีและร้าย(น่าเป็นทางร้ายมากกว่า)ที่จะตามมาอยู่แล้ว...เพราะงั้น เคารพในการตัดสินใจของน้องค่ะ จะไม่บอกว่าที่น้องออกตัวแรงขนาดนี้ดีหรือไม่ดี...มันเป็นเรื่องของน้อง เป็นสิทธิ์ของน้องที่จะกระทำได้...ตอนแรกแปลกใจอยู่นิดๆ ที่เพลงใหม่ในคอนเสิร์ตไม่มีเพลงที่ปาร์คแต่งเลย ทั้งๆ ที่เป็นมือวางอันดับต้นๆ ในเรื่องแต่งเพลง...ที่ไหนได้ปาร์คยูชอนจัดเต็มครับ 555+...เอาเหอะ ใครจะว่าไงก็ช่าง แต่พี่ว่าเอ็ง "กล้า" ดีว่ะยูชอน แต่กล้าแล้วจะ "ดี" หรือ "ไม่ดี" นี่พี่ไม่รู้นะ  ^^ สรุป...อัลบั้มนี้สำหรับเรา "คุ้ม" และรู้สึกฟังแล้วพัฒนาทั้ง "สมอง" และ "จิตใจ" ได้อย่างไม่เสียดายเงินและเสียดายเวลาที่เปิดฟังค่ะ ถ้าจะให้คะแนนคงให้ซัก 8.5/10 เราเป็นคนให้คะแนนยาก และยังอยากเหลือที่ไว้ให้อีก 1.5 เพราะคิดว่านี่เป็นเพียงก้าวแรก (นับก้าวแรกเพราะเป็นครั้งแรกที่น้องได้ลุยด้วยตัวเองจริงๆ อัลบั้มอินเตอร์นั้นไม่นับ) น้องยังมีให้เห็นถึงการลองผิดลองถูกอยู่หลายอย่าง แต่เด็กพวกนี้เรียนรู้เร็วค่ะ...คิดว่าทั้งสามคนจะต้องพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เส้นทางบนถนนสายดนตรีของน้องยังอีกยาวไกล ดูจากความตั้งใจและฝีมือแล้ว พัฒนาอีกหน่อย ถึงจะไม่เป็นนักร้องก็เชื่อว่าคงยังสามารถทำงานเบื้องหลังสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาได้อย่างไม่ยากเย็น อยากให้น้องได้เห็น Feedback ของอัลบั้มที่มากกว่ายอดขายและคำชื่นชมของแฟนคลับจัง...โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกคำวิจารณ์จากแฟนๆ ต่างชาติ หรือคนในวงการดนตรีต่างๆ ที่ไม่ถูกภาพลักษณ์ความเป็นไอดอลหรือความเป็น "เทพ" ของน้องครอบไว้ เพราะสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คน "สร้างสรรค์" งานพัฒนาไปได้ก็คือคำวิจารณ์นี่แหละค่ะ ขอแค่คนวิจารณ์ช่วยวิจารณ์อย่างมีสติ อย่ามีอคติหรือฉันทาคติมากเกินไปก็พอ จุนซู...อัลบั้มนี้น้องได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการแต่งเพลงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองเพลงที่น้องจุนแต่ง เพราะมากๆๆๆ แล้วก็ค่อนข้าง...จะว่ายังไงดี เป็นเพลงสำหรับตลาดทั่วไปมากกว่าของแจกับปาร์ค เพลงของน้องเลยดูจะติดหูและฮิตได้ง่าย นอกจากนี้เสียงน้องในอัลบั้มยังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น อยากจะยกความดีนี้ให้ musical น้องควบคุมเสียงได้ดีขึ้น ไล่คีย์ได้เนียน ที่สำคัญเอาเรื่องอารมณ์เพลงอยู่หมัด ทั้งที่แต่ก่อนก็แทบจะทำได้ดีไม่มีที่ติอยู่แล้ว...ดีใจที่จุนซูเป็นแก้วที่ยังไม่ที่ว่างให้น้ำเติมอยู่เสมอ เป็นคนที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเองเลยจริงๆ ยูซอน...ทั้ง 6 เพลง ทำให้ได้เห็นการใช้เสียงของปาร์คที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะความสามารถในการแร็พและแต่งท่อนแร็พ...อีกอย่างที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนก็คือน้องดูมั่นใจมากขึ้น การแร็พของยูซอนไม่งึมงำๆๆๆ แล้ว(ถึงพี่จะยังฟังไม่ออกอยู่ดีก็ตาม) เหมือนน้องรู้ว่าน้องจะร้องอะไร น้องต้องการจะสื่อสารอะไรไปยังคนดู รู้สึกเหมือนทุกคำที่น้องร้องออกมา มันไม่ใช่แค่เสียงร้องตามโน้ต แต่เหมือนเหมือนน้องกำลัง "พูด" อยู่กับทุกคนต่างหาก...ที่สำคัญ เพลงนั้นของยูชอน สุดยอดดดดด!!! แจจุง...สุดที่รักไว้ท้ายสุด แจคงจะเอาดีทางด้านการแต่งเพลงได้แน่ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการทำดนตรี ลายเซ็นต์ของแจจุงเริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้นจนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว ในขณะที่ภาคของอารมณ์และความลึกซึ้งของเพลงแจก็ทำได้ดีขึ้น มีแง่มุมที่ซับซ้อน ที่ต้องคิด ต้องตีความ ในหลายๆ ส่วน...ไม่รู้สินะ ฟังเพลงแจแล้วรู้สึกเหมือนว่าจริงๆ แล้วแจเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้งกว่าภาพที่คนภายนอกมองเยอะมาก...ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากเห็นผลงานอื่นๆ ของแจจุงอีกเร็วๆ อยากจะลุ้นว่าจะได้ฟังเพลงแบบไหนจากแจอีก สู้ๆ นะ JYJ ^^ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 01:47:39 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 01:21:40 จากคุณ : +mosminly+ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:07:37

ความคิดเห็นที่ 28  ตอนแรกที่ฟัง ID.S. แบบ LQ ได้ยินแจร้องว่า I want you in my "PANTS" baby.....   เฮ่ยยยยยย เอาจิงๆเร๊อะแจจุ๊งงงงงงงงงงงง (ไร้สาระมากอ่ะความเห็นนี้) จากคุณ : KoMoDo*wu เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:41:20

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อได้ไปตั้งใจฟังเพลง "ไร้นาม" แบบตั้งใจๆ แล้ว ก็ค้นพบว่า ในบรรดาเพลงช้าทั้งหมดตอนนี้ ชอบเพลงไร้นามทีุ่สุดเลย ด้วยเมโลดี้ ความโหยหวนแบบปล่อยเต็มที่ และเนื้อหากระแทกใจ โฮกกกกกกกกกกกกก ปร๊ากขรา ขอเพลงอย่างเน้อีกได้ม้ายยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:50:14

ความคิดเห็นที่ 30 อยากจะให้กีฟ หลายคำตอบเลย และน้องบิ๊กด้วย แต่มันหมดไปแล้ว -.,- ให้คำขอบคุณดีกว่าทำให้รู้เรื่องรายละเอียดของเพลงเยอะเลย ปกติ เป็นคนแค่ฟัง แต่แยกแยะไม่ออก -*- ไม่เคยฟังเพลงเกาหลีมาก่อนด้วย เพิ่งมาเริ่มฟังของโทโฮ ตอนหลังนี้เองที่ซื้อมาก็ช่วงที่ออกที่ญี่ปุ่นนี่เอง กับที่แสดงคอน ที่มาชอบเพราะชอบเสียงนู๋แจมากกก จะว่าไปชอบเสียง มากกว่าตัวอีก พอมาอ่านหลายความเห็นต้องกลับไปฟังเพลงของเจ้า สามแสบนี้แล้วนึก ความเห็นต่างๆ อืมม์ ใช่แหะ ขอบคุณน้องบิ๊กที่ตั้ง กระทู้ดีๆๆ นะคะ จากคุณ : yahalone เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:51:10

ความคิดเห็นที่ 31 #28 กำลังว่าจะกลับไปแก้ความเห็นตัวเองเลย...ข้อประหลาดของอัลบั้มนี้ก็ยังคงเป็นที่ภาษาอังกฤษนี่แล...I want you in my plans ของแจจุง + สารพัดแร็พภาษาอังกฤษที่ต้องตีความหมายหลายตลบของยูชอน = =" จริงๆแอบอยากเมนต์เพิ่มอีกนิด เมื่อกี้นั่งฟังเพลงไม่มีชื่อเงียบๆแล้ว...รู้สึกเหมือนโดนค้อนทุบ...ไม่รู้ทำไมให้ความรู้สึกทั้งรันทด ทั้งเจ็บปวด ทั้งสวยงามไปได้ในเวลาเดียวกัน มันอึดอัดเหมือนอยากจะร้องไห้ #27 อ่านเพลินเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^ #25 เค้าสั่งมาไม่ถึงพันน้า >< (เราพยายามลงเนื้อเพลง fallen leaves แล้วพี่พันกลืนความเห็นไปอ่ะค่ะ ไม่รู้ติดคำว่าอะไร ส่วนเนื้อเพลง ID.S. ขอติดไว้ก่อนนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาฟังเพลงด้วยนะคะ _/|\_) จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 01:55:05

ความคิดเห็นที่ 32 ยิ่งฟังยิ่งทำให้คิดถึงพวกคุณ คิดถึงทุกๆอย่าง ขอบคุณนะคะที่เอามาลงให้ได้คิดถึงกัน จากคุณ : NaYoMi เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 02:05:35

ความคิดเห็นที่ 33 ส่วนตัวไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านดนตรีเลยวิจารณ์ไม่ค่อยเป็น แต่ส่วนตัวชอบทุกเพลงของสามหนุ่มเลยคะ (เอียงได้อีก555+) ชอบมากที่สุดคงจะเป็นเพลง Nine + Fallen Leaves ส่วนตัวชอบฟังเพลงแบบบีบคั้นอารมณ์ ฟังเพลงไปอ่านความหมายไปน้ำตาไหลเลย >.< ขอเป็นกำลังใจให้ JYJ สู้ๆนะ เราจะขอร่วมเดินทางไปกับสามหนุ่มในเส้นทางสายนี้ค่ะ ขอบคุณกระทู้แนะนำดีๆนะคะ ปล.ปาร์คจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาฟังเพลงไม่มีชื่อ ที่ตัวเองแต่งแบบตั้งใจอีกรอบนะ ปล2.ขอฝากถึงกิ๊กคนแรก น้องกัน จ้า พี่ฟ้ายังชอบหนูอยู่นะแต่ขอแบ่งที่ในหัวใจให้สามหนุ่มคนนี้เข้าไปด้วยนะ Edit. เพิ่มเติมค่ะ หลังจากฟังเพลงไม่มีชื่อของปาร์คอย่างตั้งใจ ขอบอกชอบเพลงนี้มากๆ ฟังเพลินมากๆ ชอบเสียงเปียนโน แต่เนื้อเพลงเจ็บปวดใจจริงจริ๊ง คาดว่าปาร์คแร๊พเพลงนี้จบอาจจะเป็นลมได้ 555 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 19:13:11 จากคุณ : RGC_นางฟ้าน้อย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 02:14:51

ความคิดเห็นที่ 34 มาให้ความเห็นในฐานะคนที่ไม่ใช่แฟนเพลงนะคะ จริงๆรู้จักพวกเขามานานแต่ไม่เคยสนใจเลย เพราะเคยลองฟังเพลงแล้วแต่ก็ไม่ใช่แบบที่เราชอบ ก็เลยเฉยๆไป หลังจากฟังทุกเพลงไปหนึ่งรอบ จะบอกว่าชอบเพลงช้าทุกเพลงของอัลบั้มนี้เลยค่ะ แบบฟังครั้งแรกแล้วก็ชอบเลย ติดหูแล้วก็เพราะมาก ชอบมากๆเลยค่ะ ส่วนเพลงเร็วก็ฟังได้เรื่อยๆ คือไม่ได้รู้สึกว่าชอบมากแบบเพลงช้า แต่ก็ชอบมากกว่าเพลงจากอัลบั้ม The Beginning มากเลยค่ะ จากคุณ : gamE_bbb เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 02:14:59

ความคิดเห็นที่ 35 "แต่เรากับเพื่อนๆอีกหลายคนก็แอบคิดว่า.. หรือว่าอัลบั้มนี้ JYJ จะหาคนแต่งเพลงให้ไม่ได้ เลยแต่งเองซะเลย" แอบคิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรเนอะ หนึ่งสมองสองมือ..ถ้าพยายาม.. ก็ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้ ยังไม่มีเวลาฟังเพลงแบบตั้งใจ(ช่วงนี้งานเข้ามากมาย) ไว้รอฟังจากซีดีเลยดีกว่า ฟังแล้วคงตอบความรู้สึกได้ว่าชอบมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่เคยได้ยินมาบ้างจากคอนเสิร์ต ก็สะดุดหูกับเพลง ID.S. ค่ะ จากคุณ : ต้นไม้กับสายน้ำ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 02:41:48

ความคิดเห็นที่ 36 Music Essay ความแปลกใหม่ที่มาเป็นไดอะรี่แถม CD เพลง แถมเปิดห้องเชิญชวนแม่ๆเข้าไปนอนด้วยอีก จะมีใครเถียงมั้ยคะว่าไม่อยากเข้าห้องนั้น 5555 ออกตัวไว้ก่อนค่ะเรื่องวิจารณ์เพลงไม่ค่อยถนัดนัก หลายๆคนข้างบนวิจารณ์ไว้ดีเหลือเกิน ส่วนใหญ่เราจะฟังอย่างเดียว แต่ฟังอัลบั้มนี้แล้วสะดุดหูกับ Mission มาตั้งแต่เวอร์ชั่นคอนเสิร์ตแล้วค่ะ ขึ้นต้นมาด้วยเสียงยูชอน Yeah brand new JYJ ฟังแล้วให้อารมณ์คึกคัก สนุกสนาน ด้วยความที่ส่วนตัวชอบเพลงจังหวะสนุกๆ อยู่แล้ว   เสียงเครื่องสายในเพลงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงอะไรวานผู้รู้ช่วยตอบที มันดูเข้ากันได้ดีกับเสียงกลองมากๆ จุนซูเยี่ยมมากค่ะกับการ Composed and Arranged เพลงนี้ อยากเห็น Performance เพลงนี้บนเวทีตามรายการเพลงอย่างที่คุณ +mosminly+ บอกด้วยค่ะ ต้องเจ๋งมากแน่ๆ อีกเพลงที่ฟังแล้วค่อนข้างชอบก็คือ IDS ค่ะ ดนตรีแปลกแหวกแนวเหมือนคนแต่งไม่มีผิด ชอบตรงเสียงร้องตอนขึ้นต้นเพลงของจุนซู (ที่ไม่ใช่เสียงคอรัส) ฟังดูเหมือนแมวร้อง หง่าวๆ 5555 สงสัยอยู่กะแมวมาก (อันนี้ความคิดส่วนตัวล้วนๆ) Nine เป็นเพลงฟังง่ายๆ สบายหูดีค่ะ แต่แอบขัดใจเสียงปาร์คตอนขึ้นต้นเหมือนกัน ในคอนฯนี่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนบ่นอะไร แต่ในเวอร์ Studio ก็ชัดเจนขึ้น ความพิเศษของเพลงนี้อยู่ที่เนื้อหาที่แจจุงสื่อออกมา ไม่รู้ว่าใช้เวลาในการแต่งนานมั้ย Fallen Leaves เพลงนี้ได้ยินปุ๊บ หน้าจุนซูลอยมาทันที เป็นโลโก้มากๆ สำหรับเราเพลงนี้ช้าไปหน่อย แถมฟังแล้วมันดูเศร้าจัง Pierrot ประสานเสียงกันได้ไพเราะมาก ถึงแม้จังหวะจะค่อนข้างสนุกสนาน ส่วนเพลงไร้นามนั้น ถ้ามีโอกาสอยากจะถามปาร์คว่า ตอนแร๊พนี่หายใจทางไหนคะ บ่นอะไรยืดยาว ตั้ง 8 นาที ทำนองเพลงในแต่ละท่อนมันเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่พอฟังหลายๆรอบมันก็เพลินๆดีนะ เหมือนได้ฟัง 3 หนุ่มระบายความอัดอั้นตันใจให้ฟัง ความแปลกอยู่ตรงที่ชวนเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมแร๊พด้วยนี่แหละ นานๆจะได้ฟังถึงแม้จะคนละนิดก็เถอะ เอาเป็นว่าฟังวนไปวนมาหลายรอบละ ชอบทุกเพลงเลย ถูกจริตกับเพลงของ 3 คนนี้ด้วยค่ะ ทั้งเสียงร้องและแนวเพลง ทำให้รู้สึกว่าอยากจะเสียตังค์ซื้อมาไว้ในอ้อมอกซักเล่ม (2 เล่มคงไม่ไหว) สุดท้ายนี้ขอบคุณน้องบิ๊กนะคะสำหรับการรีวิว เขียนดีมากเช่นเคย กิ๊ฟหมดไปแล้วก่อนเวลาอันควร ติดไว้เดือนหน้านะคะ จากคุณ : ดวงจันทร์สีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 03:38:50

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่เคยวิจารณ์อะไรแบบนี้มาก่อน ความรู้สายดนตรีก็เท่าหางอึ่ง แต่ก็อยากพิมพ์ความคิดเห็นบ้างอะไรบ้างอ่ะเนาะ T.T 1 Mission ฟังจากพรีวิวแล้วตอนแรกกะว่าคงจะชอบน้อยสุดในอัลบั้มแหงๆ (เป็นพวกไม่ค่อยชอบเพลงเร็วๆจังหวะหนักๆแบบนี้เท่าไหร่ค่ะ) แต่ผิดคาด ตอนนี้มิชชั่นเมคคิทเมคคิทมิชชั่นๆๆหลอนหูมากกก ติดงอมแงมมม คิมจุนซู หนูวางยาคนฟังหรือไงคะ??? You Make me feel SHOCK นี่น่าร้ากกก อมยิ้มทุกทีเลยกะท่อนนี้ จุดที่ชอบเป็นพิเศษอีกจุดก็ “So f*** off! No more talk!” สะใจจริงจริ๊งงงง (แอบคิดเล่นๆว่า ท่อนแรพทั้งหมดนั่น จริงๆปาร์คแกก็อยากพูดประโยคนี้ล่ะมั้ง? 555)   2. Nine เพลงที่ฟังแล้วให้อารมณ์มองโลกแง่ดี สดใส แต่ก็แอบเหงานิดๆ เหมือนกับในความเศร้านั้นเรายังยิ้มได้ อะไรประมาณนั้น ตอนฟังจากแฟนแคมว่าชอบแล้ว แต่พอฟังเวอร์ชั่นนี้กลับชอบมากขึ้นไปอีกค่ะ ฟังแล้วอมยิ้มบางๆได้ เสียอย่างเดียวที่ท่อนแรกปาร์คร้องคีย์ต่ำ เสร็จแล้วก็ต่อด้วยเสียแจซึ่งสูงขึ้นมาเลยขัดกันแว่บหนึ่งในความคิดของเราอ่ะนะคะ ^^” 3 Pierrot ชอบมากค่ะ ทั้งๆที่ตอนฟังจากแฟนแคมแล้วเฉยมากกกกก แบบ อืมมมมม อ่ะนะ 555 แต่พอฟังแบบชัดๆแล้วก็ชอบจริงๆ ชอบเสียงเปียโนตอนเริ่มมาก เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ติดหูได้ง่ายทีเดียวนะ มาลองแอบตั้งใจฟังดูแล้วก็รู้สึกว่ารายละเอียดเยอะจริงๆ เนื้อเพลงก็มีอะไรลึกๆอยู่ สมกับเป็นคิมแจจุงจริงๆค่ะ ยกนิ้วให้ >U<b 4 Fallen Leaves ฟังแล้วน้ำตาจะร่วง ;_; เพลงแบบนี้แหละที่เราชอบ แบบว่า ช้าๆ เศร้าๆ บีบคั้นอารมณ์ เป็นเพลงที่โชว์เสียงทั้งสามคนเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรคอมเม้นต่อค่ะ ชอบมาก!!! (อดีตเพลงที่ชอบอันดับหนึ่งของอัลบั้ม ก่อนจะมาโดนเพลงไร้ชื่อแซงโค้งสุดท้ายค่ะ) 5 ID.S เพลงเร็วที่ชอบที่สุดในอัลบั้มเลยค่ะ ทั้งๆที่ประกาศตัวไปแล้วว่าเป็นสายแอนตี้ออโต้จูนแท้ๆ แต่เพลงนี้เรายอมค่ะ มันไม่ฟังดูน่าหงุดหงิดเหมือนออโต้จูนปกตินะ ทำไมไม่รู้ (หรือเพราะเป็นเสียงสามคนนี้หนอ? ความลำเอียงหรือเปล่านะ? - -) ชอบตั้งแต่เสียงจุนจังตอนต้นเพลง I want you in my place, baby~~~ แล้วค่ะ ตอนฟังพรีวิวนี่ รู้เลยว่าจะต้องชอบเพลงนี้แน่ๆ 555 แล้วก็ติดหูตรง “เดียล, เดียล, เดียล, ไอเดียล, มาย ซีนารีโอ้, โอ้” ด้วยค่ะ ชอบจริงๆ (แอบเห็นมีคนแซวว่า I want you in my PANTS ด้วย 55555555 เราอุตส่าห์ฟังตามเนื้อเพลงที่อ่านนะ เจออันนี้เข้าไป ทีนี้ท่อนแจก็ฟังเป็น PANTS ไปแล้ววว 55555) 6 เพลงไร้ชื่อของปาร์คยูชอน เพลงนี้คุณชายแกใส่เต็ม บ่นยาวแปดนาที พระเจ้า ช่องทางการหายใจ (รูจมูก) ใหญ่สินะ *โดนแม่ๆปาร์คไล่ฆ่า....เค้าล้อเล่นน้า><* เพลงนี้สำหรับเราพรวดขึ้นมาอันดับหนึ่งทันทีที่ฟังจบค่ะ เพราะความรู้สึก อารมณ์ดิบๆที่ปาร์คถ่ายทอดออกมา ความรู้สึกกดดัน ผิดหวังผ่านเสียงแร็พดุๆของปาร์ค สลับกับเสียงร้องหวานๆปนเศร้าของสองคิม และมีแร็พมืดหม่นๆของแจแซมมานิดหน่อย (แจแรพดีขึ้นเนอะ>.<) บวกกับเสียงเปียโนที่คลอเรื่อยๆ มันทำให้เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า เพลงที่เราฟังอยู่นั้นมันยาวถึง 8 นาที เพลินจริงๆ (แม้จะเพลินแบบมืดหม่นๆเครียดๆทั้งเพลงก็เถอะ 555) ...แอบสารภาพว่า หงุดหงิดเล็กน้อยที่เพลงโดนเซนเซอร์อ่ะ มันรู้สึกกระตุกง่ะ T^T  ฮืออออออออ Their Room: Music Essay ถือเป็นก้าวย่างที่น่าติดตามของสามหนุ่มจริงๆค่ะ โดยเฉพาะตอนที่เราได้เห็นเครดิต มันรู้สึกปลื้มนะ สิ่งที่ทั้งสามคนนี้อยากจะสื่อออกมา พวกเขาก็สามารถพูดออกมาโดยไม่มีใครมีคอยปิดกั้นใดๆอีก (ดูอย่างเพลงไร้ชื่อนั่นเป็นต้น อยากจะยาวแปดนาทีก็เอาโลดดด 555) พวกเขาเป็นนายของตัวเอง ได้ก้าวเดินด้วยขาทั้งสองข้างของตัวเอง และได้มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำจริงๆ คนเป็นแฟนๆอย่างเราก็มีความสุขด้วยเช่นกันค่ะ ^^ ตอนนี้รอของมาถึงไทย ฮืออออออ T^T อยากได้แล้ววว ...ดูไม่ค่อยเหมือนรีวิว เหมือนเรามาเวิ่นอะไรไม่รู้มากกว่า (ฮา~ ขอโต๊ดค่าา เวิ่นยาวเชียว>.<) ขอบคุณคุณบิ๊กนะคะที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเปิดพื้นที่วิจารณ์(และเวิ่นเว้อ แหะๆๆ) แล้วก็ขอบคุณคุณ toshi ด้วยค่ะที่ตั้งกระทู้โน้นขึ้นมาแนะนำเพลงของสามหนุ่ม >.< ปล. กีบหมดนะคะ รอต้นเดือนหน้าน้า >.< (พี่พันน่าจะมีระบบเบิกกีบล่วงหน้าเนอะ 5555) จากคุณ : Tsuchinoko* เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 04:01:59

ความคิดเห็นที่ 38 แวะมาเม้าด้วยคน แต่มาแบบสรุปนะคะ ก๊ากกกก - เพลงที่ติดหูติดใจตั้งแต่ตอนคอนเสิร์ตและยังยังเห็น Live เพลงนี้บนเวทีต่างๆ คือ เพลง Mission  (ชอบทั้งตัวการเรียบเรียงเพลง วางเสียงร้อง และท่าเต้น เราว่าท่าเต้นยากนะคะเปลี่ยนท่าทุกจังหวะและแทบไม่หยุดเลย (แก่ๆ อย่างเค้าคงต้องเต้นแค่ Be my girl remix flashmob ต่อไป ) - เพลงที่ในคอนเสิร์ตสนใจน้อยที่สุดเพราะมันงึมงำๆ แต่กลับชอบขึ้นมากๆ และฟังซ้ำๆ คือ เพลง Nine (ชอบเสียงป๊ากตอนต้นเพลงมากๆ) - เำพลงที่พออ่านเนื้อเพลง(ก่อนได้ฟังเพลง) แล้วไม่คาดหวังไว้ว่าจะเป็นเพลงที่อยากฟังเ้รื่อยๆ คือเพลง 이름없는 노래 Pt 1 แต่พอฟังแล้วติดใจมาก คงจะชอบเหมือนคนอื่นๆ คือตรงไล่คอร์ดเปียโนด้านหลัง ตรงท่อนร้อง และเสียงประสาน แรพป๊าก และแรพแจจุงที่หาช่องเสียงไว้แรพเจอแล้ว เย้ เย้ (แอบดีใจที่ฟังไม่ออกก็ตอนนี้ถ้าฟังออกอาจจะอินเวลาฟังเกินไป) ตอนนี้ก็รอว่าเมื่อไหร่ไดอารี่เล่มนี้จะบินมาถึงมือ จะได้ฟังชัดๆ ซะที (และหวังว่าที่โดนเซ็นเซอร์จะหายไป....) แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 09:43:52 จากคุณ : yessir เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 09:42:25

ความคิดเห็นที่ 39 พิมพ์ยาวไม่เก่งเท่าชาวบ้าน แต่อยากลองเขียนให้ครบทุกเพลงดูสักครั้งค่ะ ความรู้สึกเราหลังฟังเพลงครบทุกอัลบั้มคือ อัลบั้มนี้เป็นตัวของตัวเอง เพราะไม่มีค่ายมาขีดเส้นให้ทำเพลงแนวตลาดแบบเมื่อก่อน เป็นอัลบั้มที่คนซื้ออย่างเราก็ภูมิใจไปด้วย สิ่งหนึ่งที่เราชอบตอนมาเป็น JYJ คือถึงจะมีเพลงที่มีAutotune แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกรำคาญ เราคิดว่าเป็นเพราะเสียงหนุ่มๆไม่ได้หายไปด้วยค่ะ 1.Mission เพลงนี้ควรจะเรียกว่าเป็นSoloจุนรึเปล่าคะ (หรือเพราะเราดูแต่แคมจุนเป็นหลัก) เพลงนีเหมาะกับจุนมาก ท่าเต้นสวย แค่ฟังอินโทรก็ชวนให้ลุ้นระทึกอย่างบอกไม่ถูก ภูมิใจกับRapที่แต่งภายใน 5 นาทีของยูชอนด้วยค่ะ ชอบคำว่า Halloween ด้วยวิธีการออกเสียงแบบChunlish 2.Nine สารภาพว่าเฉยๆค่ะ อาจเป็นเพราะฟังแบบไม่ค่อยชัด แต่พอได้อ่านเนื้อแล้วอารมณ์มันตามมาเลยค่ะ เดี๋ยวไปฟังอีกหลายๆรอบก่อน 3.Pierrot ตอนฟังในแคม เพลงนี้เราชอบมากที่สุดนะคะ ไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะชอบตั้งแต่ชื่อเพลง การเปรียบเทียบ แต่สงสัยว่า p.s.m.ย่อมาจากอะไร ตอนฟังในคอนรู้สึกว่าเร็ว แต่พอเป็นซีดีแล้วรู้สึกว่าช้าลง เป็นจังหวะกลางๆ ซึ่งเราว่าก็แปลกไปอีกแบบ 4.Fallen Leaves มาแนวจุนจังจริงๆด้วยค่ะ เพราะมากๆ T^Tจำได้ว่าดูในแคมแล้วตอนท้ายเห็นจุนซูน้ำตาซึม ยิ่งรู้ความหมาย รู้ว่าเขียนให้ใคร มันทำให้เพลงเพราะขึ้นเรื่อยๆ 5.I.D.S. ชื่อเพลงรู้สึกเหมือนชื่อยาเสพติดยังไงไม่รู้ -///- แต่ก็เป็นเพลงแรกๆที่ดูในแคมแล้วชอบ 6.เพลงไร้นาม บอกตามตรงว่าการที่นับวันรออัลบั้มนี้ เพราะเพลงนี้เลยค่ะ อยากรู้ว่าเป็นยังไง แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ T^T เนื้อเพลงอย่างเจ็บปวดค่ะ โดนทำขนาดนี้ แต่ก้ยังอยู่มาได้นานขนาดนี้ด้วย T^T สามหนุ่มอดทนกันมาก แต่หงุดหงิดตรงที่เซ็นเซอร์เสียงค่ะ ตอนแรกนึกว่าโหลดเวอร์ชั่นไม่ค่อยดีมา หรือเป็นที่ไอพอดเราเริ่มป่่วงแล้ว -*- เซ็นเซอร์อาร้ายยย ขำในทวิตทีน้องๆบิกกันว่าถ้าปาร์คแรพเพลงนี้ต้องสะพายถังออกซิเจนด้วย ถึงเป็นเหงือกก็หายใจไม่ทัน (ฮา) เสียงจุนซูกับเสียงแจจุงทำเราขนลุกเลยค่ะ ถ้าได้ฟังกับหูสดๆจะเพราะขนาดไหนกันนะ T^T ปล.ขอบคุณกระทู้นี้ ที่ทำให้รู้สึกว่าต้องหาหูฟังใหม่เพื่ออัลบั้มนี้รึเปล่า แหะ แหะ จากคุณ : Yo-Ga-Akeru เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:55:26

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบอกความรู้สึกตัวเองหลังจากฟังเพลงทั้ง 6 เพลงไปแล้วบ้างนะคะ อาจจะรวบรัดไปนิดเพราะเขียนอธิบายไม่เก่ง ประกอบกับความรู้ในด้านดนตรีไม่มีเลย แต่เป็นพวกชอบฟัง ถ้าถูกจริตก็จะบอกชอบ ตรง ๆ ตามนั้นค่ะ ขอตัดความสัมพันธ์ในฐานะแม่ยกเจวายเจออกไปและขอแปลงร่างเป็นติ่งหูที่เพิ่งจะจิ้มฟัง แบบไม่สนใจใครหน้าไหนก่อนนะคะ 55555 หลังจากโหลดมาทั้งหมดและเพลงแรกที่รันขึ้นมาก็คือ 이름없는 노래 Pt 1 เพลงบ้าอะไรเนี่ย ฟังไม่ออกซักคำมีแต่แร๊ปกับคั่นระยะด้วยท่อนร้อง แต่มันไอ้สองอย่างนั่นมันบีบหัวใจมาก ๆ เสียงแร๊ปทุ้ม ๆ ที่มีแบล็คกราวเป็นเสียงตึ๊บ ๆ ให้จังหวะ แล้วมากระชากตับกับเสียงร้องคั่นหวานชวนปวดตับ แม้จะไม่รู้ว่าทั้งหมดมันคืออะไร แต่สิ่งที่เพลงนี้ทำให้เรารู้สึกคือ การบอกเล่าอะไรบางอย่างที่เจ็บปวด ร้าวราน แปดนาทีว่านานแต่ก็เลิกฟังไม่ได้ มันเหมือนพวกเค้ากวักมือให้มาดูบาดแผลของพวกเค้าสิ T^T ยกให้เป็นเพลงบีบหัวใจที่สุดเพียงแค่ได้ฟังแม้จะไม่รู้ความหมายเพลง (ยิ่งได้รู้ความหมายเพลงนี่หดหู่ไปเลยค่ะ) Pierrot เพลงมีจังหวะอีกเพลง แม้จะไม่ได้ชวนให้ยิ้มร่า แต่ก็ขยับได้กับเพลงนี้ค่ะ(ออกตัวก่อนว่าเป็นพวกชอบฟังเพลงมีจังหวะตึบ ๆ ให้โยกหัวไปมานะคะ เพราะงั้นเพลงเนิบ ๆ โชว์พลังเสียงเราจะไม่ค่อยอะไรมากค่ะ (แม้จะรักจุนจังสุดหัวใจก็เถอะนะ T^T)) เพลงนี้ฟังได้เรื่อย ๆ ส่วนที่ชอบที่สุดคือส่วนประสานเสียงตอนต้นเพลงค่ะ :) ID.S เค้าชอบเพลงนี้!! >.<  จังหวะแบบนี้ใช่เลย พอขยับขาโยกหัวตามได้ โดยเฉพาะการร้องรับส่งประสานกัน 5555 คิดว่าเพลงนี้จะติดหูได้ไม่ยากค่ะ ฟังรอบแรกอาจจะปล่อยผ่านแต่ถ้าฟังเรื่อย ๆ เชื่อว่าหลายคนต้องบุ๊คมาร์คเพลงนี้ไว้แน่ ๆ (เหมือนเราตอนนี้) ปล.ชอบท่อนโหยหวนที่เข้ากับท่อนทีร้องเร็วได้อย่างประหลาด Fallen Leaves เพลงโชว์ดนตรีและเสียงร้อง  เพลงหวานเศร้าที่ชวนให้นึกถึงฤดูใบไม้ร่วง อะไรบางอย่างที่ผ่านไปแล้วแต่ก็ยังหวนให้ เพลงนี้ฟังเรื่อย ๆ สำหรับเราค่ะ Nine เปิดมานึกถึงเพลง secret garden ที่เป็นเพลงประกอบหนัง เจอร์รี่ แม็คไกวร์ เทพบุตรรักติดดิน (- -*)  ไม่ได้ว่าเหมือนนะคะ แต่ใจมันไพล่ไปคิดถึงซะงั้น (- -**) เหนื่อย ... ฟังเพลงนี้แล้วเหนื่อย เหมือนลุ้นไปกับคนร้องด้วย เพลงเพราะมาก แต่ให้ฟังบ่อย ๆ นี่ต้องใช้แรงใจมากเลยค่ะ (นี่ไม่นึกถึงเนื้อร้องนะคะ) ด้วยเสียง จังหวะ ชวนให้นึกถึงการ "ดำเนินไป" ของอะไรซักอย่าง ที่แม้ตอนนี้ก็ยังไม่หยุด แล้วนึกถึงคนที่เคยเพียรพยายามปีนขึ้นภูเขาแล้วมาบอกเล่าให้เราฟังว่ามันต้องใช้ความพยายามและเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน ... ปัจจุบันก็ยังปีนอยู่สินะ - -* Mission แนะนำว่าควรใช้เพลงนี้เป็นเพลงปลุกใจในการออกรบค่ะ - -* จริง ๆ ยิ่งเสียงไวโอลิน(มั้ย) ที่สีเป็นจังหวะเร้า ๆ เนี่ย + เสียงกลองตึ๊บ ๆ ไม่ใช่แค่โยกหัวขยับขาแล้ว งานนี้ถึงขึ้นลุกมาดิ้นกันได้ง่าย ๆ เลยค่ะ  เป็นเพลงที่ชอบมากอีกเพลงค่ะ ( 5555 ถูกจริตมันต้องเพลงอย่างนี้สินะ) จุดเด่น : การประสานเสียง  แล้วเสียงทั้งสามก็ไม่ธรรมดา เพลงทั้งหมดสามารถเปิดฟังรวดเดียวได้โดยไม่รู้สึกว่ามันโดดจากกัน แปลกอยู่เหมือนกันแฮะ แต่ก็ตามนั้นค่ะ เพราะดูเหมือนในแต่ละเพลงก็ส่งทอดต่อไปสู่เพลงอื่นได้ด้วย (งง ๆ เนอะ) และ ถ้าเทียบกับอัลบั้มโกอินเตอร์อัลบั้มที่แล้วอันนี้ลงตัวกว่าเยอะมากค่ะ ...(กลับสู่โหมดแม่ยก) เอาใจช่วยผู้ชายทั้งสามคนและจะกลับไปนั่งเฝ้ายอดขายลุ้นให้อัลบั้มนี้ขายดิบขายดีสมกับที่ตั้งใจทำกันมาก ๆ นะจ๊ะ(ความตั้งใจไม่ต้องบอกกันก็พอรู้ค่ะ ผลงานมันฟ้อง!) ปล.ที่ไม่ค่อยมีงานนี่คงเป็นผลดีเนอะ เอาสมองกับสองมือมาลงกับงานเพลงจนได้เพลงเจ๋ง ๆ อย่างนี้ออกมา โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปล.2 ไหนว่ารวบรัด -*- จากคุณ : midnight train เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 10:57:48

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณ จขกท. มากๆเลยค่ะ ที่เขียนกระทู้รีวิวดีๆแบบนี้ จัดเต็มจริงๆค่ะ ข้อมูลเพียบ เราอยากให้กีฟคห.27คุณ +mosminly+ มากๆเลยค่ะ หลายจุดมากที่เราคิดเหมือนกันเลย แต่เสียดาย เดือนนี้กิฟเราหมดแล้ว เอาใจไปแทนก่อนนะคะ^^ เราไม่ได้มีความรู้เรื่องดนตรีอะไรเลย ขอพูดถึงตามความรู้สึกส่วนตัวแล้วกันนะคะ อัลบัมนี้เราชอบตั้งแต่ไอเดียการทำเป็นสมุดเล่าเรื่องราวแถมเพลงเลยค่ะ เก๋มากๆเลย ส่วนตัวเนื้อเพลงที่น้องทั้งสามแต่ง เราประทับใจกับสไตล์การแต่งเนื้อร้องแบบใช้การเปรียบเทียบในการแต่งเพลงที่สุดเลย ทั้งท่อนแรพในเพลงมิชชั่น เนื้อเพลง pierrot ของแจจุง และเนื้อเพลง fallen leaves ของจุนซู มันให้ความรู้สึกว่า ผู้แต่ง ฉลาดจัง มันดูล้ำลึกอ่ะ (จริงๆแล้วเคยประทับใจมาตั้งแต่มนุษย์ขนมปังขิง ในเพลง my girlfriend ของยูชอน) - เพลงที่เราฟังครั้งแรกแล้วติดหูที่สุดคือเพลง mission และ IDS ชอบจังหวะดนตรีของทั้งสองเพลงเลยค่ะ ชอบออพชั่นเสริมต่างๆที่มีในเพลง ยิ่งเพลง mission นี่ฟังแล้วหึกเหิมมาก นอกจากชอบดนตรีแล้วยังชอบท่าเต้นมากๆด้วยค่ะ เท่ห์จริงจัง - เพลง Pierrot เพลงนี้เราชอบเนื้อร้องมากๆ ส่วนเรื่องดนตรีเราว่าเรารู้สึกเฉยๆค่ะ - เพลง nine เพลงนี้เห็นมีบางคนบอกว่าไม่ชอบเสียงยูชอนในท่อนแรก แต่เรากลับคิดว่าท่อนแรกของยูชอน เป็นส่วนที่เราชอบที่สุดในเพลงนี้ซะงั้น 555 เหตุผลคือ เรารู้สึกว่ายูชอนเลือกใช้เสียงต่ำแบบนี้เพื่อให้ได้ความรู้สึกแบบเก่าๆ มันตรงกับคอนเซปอารมณ์เพลงที่แจจุงจะสื่อดีค่ะ - เพลง fallen leaves เพลงนี้ตอนฟังครั้งแรกที่เป็นในคอนเสริต์เรารู้สึกว่าเพลงนี้มันช้ามากไปนิด เลยทำให้ตอนแรกไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่พอมาฟังแบบชัดๆแล้ว เราชอบเสียงร้องของน้องทั้งสามมาก และชอบความหมายของเนื้อเพลงมากเช่นกัน เนื้อเพลงนี้สะท้อนถึงตัวตนผู้แต่งได้ดีจริงๆค่ะ บริสุทธิ์ และมีความหวังตลอดเวลา มันคือเค้าเลย คิม จุนซู - เพลงไร้นาม 8 นาทีของผู้ชายไม่ธรรมดาปาร์ค ยูชอน คิดได้ไงนี่ เนื้อเพลงมันคือ เรียงความดีๆนี่เอง 555 เหมือนเค้าจะบอกแฟนๆว่านี่คือเหตุผลที่เค้าตัดสินใจทำแบบนี้ เค้าไม่ได้ตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบนะ แต่มันเกิดมาจากหลายเหตุการณ์ที่มันสะสมมานานจนนำมาสู่การตัดสินใจเด็ดขาดในวันนี้ ชอบยูชอนแรพมากๆ และเราชอบท่อนที่จุนซูร้องแล้วมีเสียงอีกสองคนข้างหลังเหมือนจขกท.เลยค่ะ เพราะสุดๆไปเลยเนอะ ท่อน Mozart ที่จุนซูร้องก็ได้อารมณ์มากๆ เพลงช้าเราชอบเพลงนี้ที่สุดเลยค่ะ มันไม่ได้เป็นเพลงที่เพราะที่สุด แต่มันมีความประทับใจหลายอย่างๆในเพลงนี้ค่ะ^^ สุดท้าย JYJ Fighting ค๊า ประทับใจกับผลงานของพวกเค้าจริงๆเลย ก็มันเป็นงานที่ใช้ใจทำนี่เนอะ คอนเซปก็เก๋ดีด้วย จากคุณ : i_aom เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:31:06

ความคิดเห็นที่ 42 กระทืบ Like ให้เพลง Mission ค่ะ  มันส์มากกกกกกก จากคุณ : Kimmonnuii เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:07:21

ความคิดเห็นที่ 43 ตั้งใจเข้ามาอวยล้วน ๆ  (555) เนื่องจากมิมีความรู้ด้านดนตรีเลย ได้ยินเพลงในอัลบั้มนี้ครั้งแรก จากคลิปที่แฟน ๆ เอามาแชร์ตั้งแต่คอนเสิร์ตครั้งแรกของสามหนุ่มในนาม JYJ ที่โซล เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตั้งแต่ตอนนั้นก็คิดแบบลำเอียงและเข้าข้างสุด ๆ ว่า ไพเราะมาก แต่ขอโทษเถอะค่ะ แค่เด็กสามคนนี้กระแอมดิฉันก็ว่าไพเราะ  ในตอนนั้นได้ฟังแค่ 5 เพลง ซึ่งทั้ง 5 เพลงไม่มีเพลงของน้องมิกเลย ยังแอบคิดอยู่ว่า จะไม่มีเพลงที่ประพันธ์โดยปาร์คยูชอนได้อย่างไร เพิ่งมาเข้าใจตอนนี้นี่เอง ^^ จากการที่สามคนนี้ได้เริ่มเข้าสู่โลกทวิตเตอร์ ก็เลยทำให้ยิ่งอินไปกับการทำอัลบั้มนี้มาก ๆ ถ้าจำไม่ผิดตอนที่เด็ก ๆ ยังไปโชว์เคสกันที่เซี่ยงไฮ้ แจจ๋าและจุนจังยังทวิตถามกันเลยว่า แต่งเพลงเสร็จหรือยัง คิมน้องมีคุยทับคิมพี่นิดนึงว่า เพลงผมแต่งเสร็จแล้วนะ ส่วนคิมพี่ตอบกลับน้องไปว่า เพลงของพี่ขออีกนิดเพราะรู้สึกว่าเนื้อเพลงที่แต่งตอนนี้ยังสื่อความรู้สึกลงไปไม่หมด  (ซึ่งคิดเอาเองว่าเพลงนั้นน่าจะหมายถึงเพลง NINE) เข้าเรื่อง ๆ จะบอกว่าประทับใจตั้งแต่ชื่อ Their Room : Music essay แล้วค่ะ แม้ใจจริงอยากให้ตั้งเป็น Our Room อันหมายถึง ห้องของเรา (ห้องของพี่กับน้องทั้งสามก็เถอะ)  แค่ชื่อก็ถูกจริตกับพี่แล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้องห่วงเลย NINE ชอบเพลงนี้มากเป็นพิเศษ ตอนที่ได้ยินครั้งแรก อารมณ์เหมือนที่น้องบิ๊กบอกคือ น่าจะเอาไปเป็นเพลงประกอบพิธีปิดเอเชียนเกมส์ได้เลย  แถมตัวเองยังมีจินตนาการเนื้อร้องเองในเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกต่างหาก "ไม่มีผู้แพ้ มีแต่ผู้ชนะ ชนะในน้ำใสใจจริงมิตรภาพที่ทุกคนมีต่อกัน อย่าได้เอาเหรียญทอง เงิน ทองแดงมาตัดสินเลย ทุกคนคือผู้ชนะอย่างแท้จริง" ตอนนั้นนั่งจินตนาการเนื้อเพลงไปจนจบเพลงเลย แต่ไม่กล้าพิมพ์ให้ได้อ่านกัน แบบว่า เขิน >- -* Fallen Leaves ฟังแล้วรู้สึกถึงความเป็นจุนซู๊ จุนซู (ก็แหงละ จุนซูเป็นคนแต่งนี่ **)  ฟังแล้วเหมือนค่อย ๆ ดึงให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมและอินไปกับบทเพลงมาก ๆ ยิ่งได้รู้ความหมายของเพลงแล้ว น้ำตาไหลแทบไม่รู้ตัว Mission เพลงนี้ทำให้นึกถึงท่าเต้นอันดุดันแบบน่ารัก ฟังแล้วรู้สึกถึงความฮึกเหิม จนอยากลงไปเต้นด้วยเลย Pierrot  ชอบจังหวะทำนอง และเนื้อเพลง โดยเฉพาะท่อน “ต่อหน้าฉัน เป็นพี่น้องของฉัน  ต่อหน้าเงิน ฉันเป็นธาตุอากาศ” I.D.S.  ชอบจังหวะค่ะ แบบว่าสามารถโยกตามได้เล็ก ๆ แต่พองาม เพลงไม่มีชื่อ  ฟังเพลงนี้ไป นั่งอ่านคำแปลที่ปริ้นออกมาไปด้วย ได้อารมณ์สุด ๆ อินมาก ๆ  ฟังเพลงไป ในใจก็บ่นไปด้วย ดู ดู๊ ดู ดูมันทำกับน้องฉัน ดูมันทำ ดูมันทำ  แต่พอฟังเพลงนี้จบเกิดความรู้สึกขึ้นมาอย่างหนึ่งค่ะ อยากช่วยผายปอดให้ยูชอน อร๋ายยยยยยยยยยย สรุปโดยรวม (ยังกล้ามาสรุป)  ชอบทุกเพลงในอัลบั้มนี้มาก ๆ ค่ะ  ชอบเพราะทุกเพลงกลั่นออกมาจากสมองและหัวใจของน้อง ชอบที่น้อง ๆ มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการทำอัลบั้มนี้ ชอบที่เห็นน้อง ๆ พยายามที่จะสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ออกมาให้พวกเราได้ชื่นชม  ทางข้างหน้าแม้จะยังยากลำบากอยู่แต่มั่นใจว่าน้อง ๆ จะก้าวต่อไปได้ด้วยพลังแห่งความสามารถของพวกเค้าเองและด้วยพลังแห่งรักของแฟน ๆ ที่พร้อมจะสนับสนุนพวกเค้าค่ะ I LOVE YOU, JYJ JYJ FIGHTING !!! จากคุณ : ณรัฐ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:22:10

ความคิดเห็นที่ 44 จะมีโอกาสที่ 3 หนุ่มนี่  comeback stage  บ้างไหมเนี่ย    อยากดูจริงๆให้ตายเถอะ จากคุณ : toshi เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:22:23

ความคิดเห็นที่ 46 lovlove จากคุณ : love (jyjycforeverlove) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:39:58

ความคิดเห็นที่ 47 ได้ฟังเพลงเต็มๆ ชัดๆ ครบ 6 เพลง ต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องดนตรีเลยแม้แต่น้อย รู้แค่ว่าชอบ หรือไม่ชอบเท่านั้น  เริ่มแรกที่ฟัง รู้สึกไม่ค่อยชินหูเท่าไหร่แหะ ที่ชอบเลยในตอนแรกมีแค่เพลง Nine เท่านั้น แต่พอฟังไปเรื่อยๆ หลายๆรอบ เฮ้ย แม..ร่ง เจ๋งอ่ะ ทำเองเกือบหมดเลยหรอเนี่ย ไอ้เด็กน้อยอายุยังไม่ถึง 30 เนี้ยนะไม่รู้จะพูดว่าอะไรนอกจาก ...พวกนายแน่มาก!! และนอกเหนือสิ่งอื่นใดเราสัมผัสได้แล้ว ถึงคำพูดปร๊ากในเพลงไร้ชื่อที่ว่า "มันคือความพยายามที่ขับเคลื่อนโดยความคิดว่า เราอยากจะตายโดยไม่มีความรู้สึกเสียดายตอนจากโลกนี้ไป" พวกเขากำลังทำอย่างนั้นจริงๆ... ปล.เพลงไร้ชื่อของปร๊าก ต้องแอบถือคำแปลไว้ด้วยขณะฟัง ^^" แต่ท่อนร้องเสียงแจจ๋ากับจุนจังบาดจิตซาบซึ้งไปถึงทรวง T^T ปล.2 ได้อ่าน review เพลง ยิ่งอยากไปคอนเสิร์ตแว้วววววว เมื่อไหร่จะมา อยากฟังแบบแสดงสดดดดด ซาวว์เต็มๆเจ๋งๆ คาดว่าต้องหลงรักเพลงหนุ่มเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เหมือน Ayy Girl (สารภาพว่าไม่ชอบเลยตอนที่ได้ฟังครั้งแรก แต่พอไปงาน showcase เฮ้ยมันก็เพราะดีนี่หว่า เพลงเดียวกันเหรอเนี้ย งงกับตัวเอง) ตกใจ!! เห็นคห.บนนึกว่าเม้นท์ผิดบ้าน ตรูเข้ามาเม้นหัวขอ review เพลงนี่ ไหงกลายเป็นละคร เงง!! แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 14:53:23 จากคุณ : ChoCojunk เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:50:47

ความคิดเห็นที่ 48 ขอโทษคุณ jyjycforeverloveนะคะ  แต่โพสต์เรื่องละครน้องมินในกระทู้การวิจารณ์เพลงของ  JYJ มันดูแปลกๆไปหรือเปล่า เหมือนคนกลุ่มนึงกำลังคุยเรื่องนึงกันดีๆ บรรยากาศไปกับเรื่องนั้นแล้วอยู่ๆมีเรื่องอื่นทะลุกลางปล้องขึ้นมา  ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อที่คุยอยู่เลย   ตอนแรกนึกว่าคุณ jyjycforeverlove โพสต์ผิดกระทู้  แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ หรือจริงๆจะโพสต์ในกระทู้ข่าวฟ้องร้องหรือเปล่าคะ  ??? จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:52:25

ความคิดเห็นที่ 49 คห. 45 เราว่าคงโพสผิดบ้านแน่ๆเลย ^_^''' ขออนุญาตกดลบนะคะ จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:53:31

ความคิดเห็นที่ 50 กีบหมด ติดไว้ก่อนนะบิ๊กกุ ^^" ความรู้ทางดนตรีไม่มี 555 แต่เป็นคนชอบฟังเพลงตามความชอบ งั้นว่ากันตามความรู้สึกจากการที่ได้ฟังละกันนะคะ ^^ 1. Mission ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน ได้ดูแฟนแคมในคอนเสิร์ตเปิดตัว เป็นเพลงจังหวะสนุกๆ คึกคักและดูฮึกเหิมเหมือนกับเจ้าของเพลงผู้ทำดนตรี ^^ มันไม่ใช่แค่เพลงจังหวะสนุก มันมีความแรงของจังหวะดนตรี ที่ต่อกันไปให้ไม่ทันได้พักหายใจ แล้วมีการสอดไลน์ประสานขึ้นลงซ้อนกันรับกันเป็นอย่างดีจนจบเพลง จังหวะเก๋ดี ยิ่งได้ท่อนแร็พปาร์คมากระตุ้นความร้อนแรง เลยเป็นเพลงที่ทำให้ประทับใจโดยรวมครบครันค่ะ เนื่องจาก performance ในคอนเสิร์ตทำไว้ได้ดีมากเช่นกัน ^^ 2. Nine เพลงนี้ให้กลิ่นอายดนตรีในแบบฉบับเดิมๆ ของน้องๆ มาก แต่เหมือน คห. บน ชอบเสียงร้องท่อนแรกของปาร์ค  โดยรวมเป็นเพลงฟังสบายๆ สำหรับเราค่ะ แต่เอียงความชอบไปที่ ที่มาของเพลงมากกว่า ^^ 3. Pierrot เป็นเพลงที่ฟังครั้งแรก ทำนองเพลงน่ารักจังเลย แต่พอได้อ่านเนื้อเพลง - -* มันตรงกันข้ามกับทำนองเพลงโดยสิ้นเชิง ^^" คนเขียนเพลงนี้ก้อผิดคาดมาก เพราะเดาไว้ว่าเป็นอีกคน  โดยรวมชอบมากค่ะ เป็นอีกเพลงที่มีจังหวะเก๋ๆ ติดหูกับ bye bye bye  ^O^  เนื้อเพลงเริ่ด (อีกแล้ว) ค่ะ 4. Fallen Leaves เนื่องจากเป็นคนที่ชอบฟังเพลงช้ามากกว่าเพลงเร็ว เพลงนี้เลยชนะเลิศสำหรับอัลบั้มนี้  จะว่าเอียงโดยส่วนตัวก้อได้ >.< หลายคนอาจบอกว่า มันเศร้าไป แต่... ก้อมันเป็นเพลงเศร้านี่เนาะ ฮ่าๆๆๆ เพลงนี้เมโลดี้สวยตั้งแต่ ตึ๊งแรกของโน๊ต บวกกับเนื้อเพลงที่เจ้าตัวคนเขียนได้ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้เป็นอย่างดี ฟังครั้งแรกก้อน้ำตาไหลได้เลย จุนซู ผู้เต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งความคิดถึงและความหวัง ปลายทางแห่งฝันนี้ของน้องจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหน และ เมื่อไหร่กันนะ T.T ท่อนสุดท้ายของเพลงในซีดีเวอร์ชั่น ปวดร้าวมาก รู้สึกไปถึงคำว่า น้ำตาตกใน เพราะเสียงสุดท้ายในเพลงที่ขาดหายไปอย่างนั้น .... 5. ID.S เป็นอีกเพลงที่ตอนนี้กำลังให้ความสนใจในตัวของดนตรีมาก เหมือนกับหลายๆ คน ในเรื่องของออโต้จูน ที่ในเพลงนี้กลับทำออกมาได้อย่างใสๆ ไม่รกจนเกินไป กลับกลายเป็นเสน่ห์ของเพลงนี้ไปด้วยซ้ำ จังหวะเก๋ไก๋มากมาย ชอบเสียงร้องลากยาวๆ ของจุนซู ที่มีการเล่นซาวนด์ให้มันดูเวิ้งๆ (อธิบายยากจัง -*-) แล้วเพลงนี้น้องเล่นเสียงหรุบต่ำด้วย >.<  แจจ๋าทำดนตรีเพลงนี้ได้เริ่ดมากค่าลูก ^O^ 6. 이름없는 노래 Part1 เพลงนี้ตอนแรกฟังที่ทำงาน ไม่สามารถจับรายละเอียดได้มากนัก แว่บแรกคือ กลับไปอ่านเนื้ออย่างเดียวดีกว่า - -* เพราะมันดูตีกันไปหมดเลย แต่พอได้ฟังตัวชัดๆ แล้ว ... เป็นเพลงที่บีบคั้นจิตใจดีค่ะ ปลดปล่อยออกมาแบบอิสระในตัวโน๊ตมากๆ จะเรียกได้ว่า จุดเด่นอยู่ที่การแสดงออกทางความรู้สึกคงจะได้ ส่วนเนื้อร้อง ... ไม่ต้องบอกก้อรู้ว่า ทุกคนคงเทคะแนนให้กับความใจกล้าของปาร์ค ยูชอน ที่กล้าตีแผ่เรื่องราวของตัวเองผ่านช่องทางเดียวที่สามารถจะทำได้ในตอนนี้ คือ ผ่านทางบทเพลงของพวกเค้าเองแบบนี้ล่ะ สุดแล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่ เพราะเรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับเจ้าตัวคนแต่ง ดังนั้นคนอื่นจะวิจารณ์ไปทางไหน เชื่อหรือไม่ คงไม่ใช่เรื่องของตัว ฮุๆ  แจจ๋า การเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่งของน้อง มันแสดงให้เห็นผลของความพยายามแล้วนะลูก แจจ๋าสามารถเป็นนักแต่งเพลงที่ดี เป็นคนทำดนตรีได้เยี่ยม พัฒนาการทักษะการเต้นของนู๋ก้อไม่ได้แพ้ใครเลย อย่าร้องไห้อีกเลยนะ กำลังใจทุกดวงตรงนี้ส่งตรงไปให้นู๋ทุกเวลานะลูก  ชอนนี่ ปาร์ค ยูชอน ขี้แยคนนั้น หายไปแล้ว ^^ ดีใจที่ชอนนี่ก้าวผ่านความกดดันหลายๆ อย่างมาได้อย่างเข้มแข็ง วันนี้ยูชอนได้พิสูจน์ให้คนอื่นเห็นแล้วว่า ความสามารถของนู๋ไม่ได้น้อยไปกว่าใคร ความมานะพยายามที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ทำให้ยูชอนมีมุมมองหลายๆ อย่างที่กว้างออกไปได้เป็นอย่างดี ยูชอนสามารถแต่งเพลงที่สื่อทุกความรู้สึกในใจออกมาได้ดีเยี่ยม ที่สำคัญจากคอนเสิร์ตที่ผ่านมา แสดงให้เห็นได้ชัดถึงความแข็งแรงบนเวที ที่น้องสามารถร้องและเต้นได้อย่างคงที่ได้ดีมากกว่าเดิมหลายเท่านัก  ยิ้มให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ นะยูชอนนี่ เพราะยิ้มของนู๋ ทำให้ใครหลายๆ คน พร้อมที่จะมีกำลังใจสู้ไปพร้อมๆ กันกับพวกนู๋นะ พวกเราทางนี้จะอยู่กับนู๋ด้วยความเชื่อมั่นเสมอ ไม่ปล่อยมือไปไหนแน่นอน จะอยู่เพื่อบอกรักปาร์ค ยูชอนไปอย่างนี้ทุกๆ วัน >.< จุนซู ตัวเล็กของมามี๊ อวยกันไม่หมด ฮ่าๆๆ เด็กน้อยที่เต็มไปด้วยความคิดที่เป็นบวก เปี่ยมไปด้วยความฝัน และแฝงไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้ เหนื่อยมั๊ยลูก ..... ทุกสิ่งอย่างที่จุนจังทำ มันทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า นู๋เป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพมากแค่ไหน  ความไม่ย่อท้อ และความตั้งใจที่จะตอบแทนแฟนๆ ด้วยการทำทุกผลงานออกมาให้ดี ด้วยจิตและวิญญาณ มันคือนิยามน้อยๆ ของเด็กคนนี้เนอะ >.< อยากให้ปลายทางฝันทุกอันของนู๋เป็นจริงได้ในเร็ววันนะลูก อย่าได้ท้อถอย จงเป็นคนที่อยู่ด้วยความฝันที่สวยงาม และมีความหวังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานที่แรงกล้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะมันจะทำให้นู๋ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งอย่าง ... พวกเราทางนี้จะเป็นกำลังใจให้ดวงตะวันดวงนี้ฉายแสงเฉิดฉายไปให้ยาวไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้  จากคุณ : Rainbow's Girl เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:06:26

ความคิดเห็นที่ 51 อย่าเพิ่งเข้าใจผิดค่ะ ดิฉันแค่ส่งมาอัพเดทข่าวแค่นั้นเพราะจริงๆแล้ว ดิฉันมีรูปJYJ เยอะ จนไม่รู้จะส่งข่าวอะไรมาให้ เพราะทุกคน มีข่าวเหมือนกันหมดแล้ว ก็ขอโทษด้วยนะค่ะ เพราะบางครั้งอยากจะส่งข่าวคราวต่างๆ ของJYJ หรือ TVXq ไม่รู้ว่าจะเข้า กระทู้อันไหน เพราะตั้งแต่ต้นที่สมัครเป็นสมาชิกก็เข้าแต่JYJ อย่างเดียว ถ้ายังไงก็แนะนำด้วยแล้วกันนะค่ะ ขอโทษด้วยนะค่ะ ทุกคน (ดิฉันก็เป็นแฟนคลับของJYJ TVXQ เหมือนกันค่ะ) จากคุณ : JYJYC FOREVERLOVE (jyjycforeverlove) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:22:27

ความคิดเห็นที่ 52 ^ ^ แนะนำอย่างง่ายที่สุด คือ คุณควรอ่านหัวกระทู้ที่เค้าตั้งขึ้นมา เพียงแค่นั้น คุณจะไม่สามารถหลงประเด็นได้เลยค่ะ ^^ จากคุณ : Rainbow's Girl เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:25:58

ความคิดเห็นที่ 54 เอารีวิวจาก อคป มาฝากค่ะ (เมื่อกี้ลงลิ๊งแล้วความเห็นหาย กระซิกๆ) [Review] ‘Their Rooms’ by JYJ by Rowdyruff on January 25, 2011 at 4:12 am When Jaejoong, Junsu, and Yoochun – or JYJ – waved goodbye to Dong Bang Shin Ki, I was a little worried, mainly because they no longer had that easy access to the high production value that SM Entertainment provides.  As far as audible quality goes, SM spends a ridiculous amount of money to make their artists sound extremely good (don’t quote me on that), and let’s be honest, 95% of the time they do.  Not only that, but JYJ were faced with the absence of two key singers – one bass and one tenor, and I mean, what’s a burger without buns?  Of course, those two members (Changmin and Yunho) faced a far more challenging road ahead of them without their main vocalists there to fill in the voids.  Both ways, the dynamics changed,  and it was going to be interesting to hear exactly how they would manage to divvy up their parts.  More so in HoMin’s case than JYJ. But unlike their brethren, JYJ have had the opportunity to expose themselves and gain a little more experience as a three-member ensemble.  Last fall, they released “The…” in Japan, and it was the first time we heard JYJ without the other two members (on a recording).  As always, they reached #1 on the Oricon charts, and at this point, charting at number one should not come as a surprise to anybody.  Rather than going back home to Korea though, they packed their bags and flew to America, where the sound of “The…” was noticeably replaced with a more Americanized style with hopes to break into the US market.  JYJ released “The Beginning” in October with the help of American producer/rapper Kanye West and renowned producer Rodney “Darkchild” Jerkins. To put it lightly, their American foray was messy.  Both the marketing and content of the album were way off base from the standards I had held in my mind for JYJ,  and I know that if they had a clear plan of attack, things would have gone a little more smoothly.  There were two or three songs on “The Beginning” worth salvaging, and okay, it wasn’t the worst thing ever, but one thing was certain: We still didn’t have a clear idea of what kind of sound would be definitive of JYJ. Now Jaejoong, Junsu, and Yoochun are back in Korea with their latest EP, “Their Rooms“, and I should point out the emphasis on ‘their’, because they basically did everything: composed, wrote, sang, everything. To say this mini album is impressive just doesn’t cut it.  I sincerely forgive them for the mess and a half that was “The Beginning” because “Their Rooms” is exceptionally done, especially for the aforementioned fact that they did everything on it. Oh, and by the way, I’ve introducing a rating system. 01.  “Mission” The first track on “Music Essay” opens the doors wide open to Yoochun whispering, “yeah, brand new JYJ“,  and a simple string section playing a mysterious, staccato riff that starts sounding pretty cool once the beat kicks in.  Though the lyrics triggered several rounds of laughs (it’s K-pop, what else is new?), I couldn’t help but let myself be engulfed by the pounding beats and catchy chorus.  “Mission” isn’t necessarily groundbreaking, but it’s nonetheless an impressive upbeat thriller.  It feels very K-pop but without really crossing the lines of gimmicks and tackiness. 4.5/5 02.  “Nine” “Nine” is a nice mixture of lush vocals with soaring melodies and a really pretty instrumental.  There’s just enough going on for it to not be considered a ‘filler’ track.  It also helps if you’re a sucker for good ballads, like myself, especially ones sung by people who were gifted with gorgeous voices.  Jaejoong, the head honcho who wrote and composed this, constructed a very engaging chorus that not only sticks, but transmits emotions well beyond the language barriers. The only glaring place worth revising is the song’s opening lines.  Yoochun, buddy, that’s not the right octave. 3.9/5 03.  “Pierrot” What a name.  “Pierrot” is a mid tempo song chock-full of Junsu singing his head off to the word ‘pierrot’ and words that rhyme with it.  He sounds amazing though, and if you’re a fan of his adlibs, you’ll enjoy this song.  The break left room for improvement; the instrumental started doing something interesting and then… nothing. Having said that, there’s a lot of other elements at play that add substance to this piece.  Like Yoochun’s pre-chorus line or the spacious instrumental.  I’ll be spinning this song a few dozen times this week. 4/5 04.  “Fallen Leaves” The thing about this particular number is not so much the song, but JYJ’s interpretation.  It’s one thing to hit the right note and another to understand ‘how’ to hit it, and well, JYJ know how to do it like nobody’s business.  All three members have moments within this song where they shine and sound absolutely amazing.  I mean, the way they ease into the notes and hold them out just a hair melts my insides. I’m a little iffy about the instrumental on this ballad though.  String sections tend to tick me off because they are always over the top and massive-sounding.  I think a smaller ensemble would have been a better complement.  Imagine a cello/bass line playing through the verses! *Dies* That is if they decided to use a real orchestra. 3.9/5 05.  “I.D.S.” You want me in your what?!  Oh, plans?  Phew, I thought Junsu meant something a little more… lewd.  “I.D.S.” is the only song so far that features auto-tune, but it’s scarcely used, so no worries.  It’s in here more for effect rather than fixing any bad singing.  It’s JYJ; bad singing does not exist.  The synths sound vaguely familiar, but I just can’t put my finger on it. Overall, the song is pretty simple, with the exception of the middle 8, which is the most gorgeous thing ever.  Then it goes back to the same hypnotizing rhythm. 3.5/5 06.  “Untitled Song Part 1” This song will impact listeners, if you know the lyrics, in ways that don’t really apply to me.  I’m not going to get into the content of the words, but it is pretty clear that Yoochun’s rap is rooted in a particular emotion that seems to smear right over the lyrics.  While the rap is somewhat passive-aggresive, the soft beat and added vocals serve as a really powerful complement. 3.9/5 - For a mini-album in K-pop, this is perfectly paced and brilliantly composed.  Not a single song falls short or gets lost among the others.  From one song to the next, there’s a strong sense of cohesion and it feels like the perfect amount of songs with just the right amount of energy in each.  JYJ has  proven that they don’t need the luxury of a high brow agency to produce amazing work, and actually, the fact that their sound isn’t at all like it was under DBSK helps it remains refreshing and thoroughly enjoyable. Overall Rating:  4.7/5 Recommended Tracks: Mission, Pierrot, Nine จากคุณ : yessir เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:00:17

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณที่เขียนกระทู้นี้นะค่ะ อ่านเพลินเชียว ^^ ขอชมกระทู้แบบนี้นะค่ะ เพราะอ่านแล้วแต่ละคนฟังดนตรีกันละเอียดจริงๆ บางรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เราฟังข้ามไปพอมาอ่านแล้ว เราต้องกลับไปฟังอีกรอบ ทำให้เราเก็บรายละเอียดได้เยอะขึ้นจริงๆ ขอบคุณทุกความเห็นด้วยค่ะ^^ เลยขอมาเขียนความเห็นของเราบ้างนะค่ะ mission - จังหวะมันส์มากก เนื้อติดหูจริงๆ ชอบท่าเต้นตอนเพอร์ฟอร์มด้วย ฟังแล้วรู้สึกตื่นตัว อยากลุกมาเต้น ID.S - ชอบดนตรีตั้งแต่ท่อนแรกก็ติดหูดีแล้ว ฟังแต่ครั้งสองครั้งก็หลอนเสียง ติ้ด ติ้ด แล้ว แล้วสไตล์เพลงก็แปลกแตกต่างจากเดิมเลยสร้างความประทับใจใหม่ๆด้วย ส่วนตัวไม่ชอบออโต้จูนแต่เพลงนี้ทำได้ดีค่ะ ทำให้เพลงดูมีมิติขึ้น ฟังไปฟังมาตอนนี้ชอบเพลงนี้มากสุดในอัลบั้มเลย^^ Fallen Leaves - เพลงเศร้ามาก แต่ก็อบอุ่นมาก เพลงนี้โชว์เสียงของสามหนุ่มเพียวๆ ชอบการใช้เสียงของยูชอนที่ร้องเพลงนี้ รู้สึกเข้ากับคิมพี่คิมน้องได้ดี Pierrot - เพลงนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ ฟังครั้งแรกคิดว่ายูชอนเป็นคนแต่งเพลงนี้ แต่ปรากฏว่าเป็นแจ รู้สึกผิดคาดจริงๆ ชอบเสียง โอ โอ ตอนท้าย nine - เพลงนี้ในคอนฟังแล้วเฉยๆ ไม่ได้สะดุดมากมาย แต่พอออกเป็นสตูดิโอเวอร์แล้วชอบมากกว่า ชอบช่วงท่อนโซโล่ของแต่ละคนมากกว่าท่อนรวม เพราะท่อนรวมรู้สึกเสียงน้องจุนโดดออกมาเยอะไปนิด เพลงไร้นาม พาท1 - เพลงนี้ตอนแรกที่เนื้อออกมาแล้วอึ้งไปเลย เพราะเนื้อยาวสมเป็น essay จริงๆ แล้วดูไม่มีท่อนฮุกเลย เป็นแบบแรพไปเรื่อยๆซึ่งไม่ชอบสไตล์นี้เท่าไหร่ แถมเพลงยาวตั้ง 8 นาทีน้องจะร้องมายังไงเนี่ยย! พอได้ฟังเพลงจริงๆแล้วเพลินมาก เพราะมีเสียงหวานๆของคิมพี่คิมน้องสอดแทรก ตามมาด้วยแรพแจ ซึ่งฟังตอนแรกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะได้ฟังแจแรพ เหมือนเดินอยู่ดีๆมีเพื่อนออกมาจ้ะเอ๋! เลยทำให้เพลงนี้มีลูกเล่น ฟังได้ไม่เบื่อจนกระทั้งจบเพลง แต่แอบเหนื่อยแทนยูชอนจริงๆ 55 โดยรวมชอบอัลบั้มนี้มากก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทั้งหมดออกมาจากฝีมือของน้อง ทำให้เราปลื้มใจและภูมิใจไปกับมัน ทั้ง 6  เพลงของอัลบั้มทุกเพลงมีความหมายและมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ทำให้ตอนฟังอัลบั้มนี้ข้ามแทรคไม่ได้เลย ทุกทีจะเจาะฟังแต่แทรคที่ชอบ อัลบั้มนี้อาจไม่ดีที่สุดยังมีบางจุดที่ยังสะดุดอยู่ แต่ก็เห็นพัฒนาที่มากขึ้นของน้องทั้งสาม ทำให้เราคาดหวังงานชิ้นต่อไปของน้อง ว่าจะมีอะไรออกมาให้เราได้ฟังกันอีกบ้าง ^^ เป็นกำลังใจสามหนุ่มให้สร้างงานที่เป็นตัวน้องจริงๆออกมาให้ฟังกันอีกนะค่ะ จากคุณ : Muminnie เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:12:36

ความคิดเห็นที่ 56 # 31  คุณ gibt   แอบตกใจว่าตัวเองซื้อแพงกว่าชาวบ้านเค้า สรุปว่าจำราคาผิด  ไปจำอันก่อนที่ limited นู่น  ฮาๆ โอ๊ยยยย  give หมด  ใครมีเหลือยืมก่อนได้ป่ะเนี่ย  5555+ give หมด เครียด กินเหล้า  เฮ้ยยยย ไม่ช่ายยยยยย ^^ ชอบอ่านที่ทุกคนช่วยกันวิจารณ์เพลงน้องนะคะ ขอปลื้มเป็นพิเศษกับคุณ gibt และคุณ +mosminly+ ค่ะ เห็นด้วยค่ะ Nine >>> "สวย" Pierrot >>> "ฉลาด" ส่วน เพลงไร้นาม  มันบีบใจไอ้ตรงเนื้อร้องเนื้อแร๊พที่แหละ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 19:59:09 จากคุณ : Kim Nooknick เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:52:38

ความคิดเห็นที่ 57 T______T จากคุณ : aka shuri เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:57:49

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ^ ^ จะร้องไห้ทะมายยยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:15:17

ความคิดเห็นที่ 59 คิดถึงลูกเพร่อะดิ๊ ^^ จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:51:57

ความคิดเห็นที่ 60 ^ ^ T.T จากคุณ : Rainbow's Girl เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:58:47

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีดีนะคะ ส่วนตัวแล้ววิจารณ์เพลงไม่เป็น ไม่มีความรู้ เอาว่าฟังแล้วชอบก็พอค่ะ ฟังครบทั้ง 6 เพลงแล้ว ชอบที่สุดก็ Mission ชอบตั้งแต่ที่ได้ดูแฟนแคมจากคอนแล้วค่ะ ชอบทุกอย่าง ทั้งเพลง จังหวะ และการเต้น ส่วนเพลงไร้ชื่อนี้ฟังแล้วเหนื่อยแทนมิก แอบคิดว่าถ้ามีการแสดงสด เพลงนี้แต่ละครั้ง มิกจะร้องเหมือนเดิมทุกคำหรือปล่าว.. จากคุณ : mickytikky เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:01:18

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ อ่านแล้วมันตื้อๆ น้ำตาจะไหลไงไม่รู้ ชอบ Nine มากๆ แต่ตอนนี้ Pierrot ก็ติดหูอยู่ จากคุณ : สะใภ้แห่งอาราธอร์น เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:41:15

ความคิดเห็นที่ 63 อยากจะรีวิวกะเค้าบ้าง แต่หลังจากฟังครบทุกเพลงแล้ว มิอาจสามารถบอกออกมาเป็นสาระได้ 555 มันออกไปทางเพ้อมากกว่า งั้นขอเพ้อเพลงที่ชอบมากๆๆในอัลบั้มละกันนะคะ Nine ชอบท่อนปาร์คท่อนแรกของเพลงมากกกกกกกกก ส่วนตัวคือเสียงปาร์คยูชอนทำให้ตัวเองรู้สึกอุ่นอ่ะ แล้วเสียงในท่อนนี้ก็ทำให้รู้สึกแบบนั้นค่ะ แต่พูดถึงเพลงนี้ เสียงปาร์คมันโดดมาคนเดียวอ่ะกับท่อนแรกนี่พอเปลี่ยนมาท่อนแจกับจุนซู ยังกะคนละเพลงแหนะ ^^ Fallen Leaves ชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้มนี้ ฟังไปฟังมานึกถึง autumm in my heart ขึ้นมาซะงั้น 555 ชอบดนตรีเพลงนี้ ชอบดนตรีแบบนี้ ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองจะลอยขึ้นไปเรื่อยๆ ชอบจัง แต่คือมันเป็นเพลงเศร้าใช่ป่ะคะ 555 อันนี้พูดถึงอารมณ์ที่ได้รับหลักจากฟังเพลงล้วนๆๆ (บอกแล้วว่าหาสาระมิได้) เพลงที่คุณไม่รู้ว่าชื่ออะไร เพลงนี้อ่านคำแปลก่อน(แบบไม่ฟังเพลง)น้ำตาแตก แล้วมาฟังเพลงจริงจัง(แบบไม่อ่านคำแปล) ขำแหละ แปลกๆหูอยู่ นึก่วาปาร์คสะอึกหรือเสียงเป็นอะไร อ่านเจอในกระทู้นี้ อ๋อ เซนเซอร์  ถ้าฟังคราวหน้าต้องไปบิ๊วอารมณ์ตัวเองใหม่ ,ปยช เค้าขอโทษตัวนะ   ปล1. ต่อจากนี้คาดว่าความดราม่าจะบังเกิดอีก แต่มิเป็นไรนะ ทุกเพลงที่ได้ฟังวันนี้มันทำให้ภูมิต้านทานเรามีเพิ่มขึ้น ดีซะอีกเหมือนเค้าได้แบ่งปันความรู้สึกที่ผ่านมาให้เราฟังด้วย เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันเลย อ๊ายยยย 555   ปล2. อยากให้ถึงคอนไวๆๆจังค่ะ  อยากเต้น be my girl อยากฟังเพลงอื่นนอกจากอัลบั้มนี้ด้วย โดยเฉพาะ I Love You ของปาร์ค กับ โซโล่ของแจจุงกับจุนซูใน SKK ที่สำคัญอยากฟังแจร้องเพลงช้าง 5555 จากคุณ : วายเอสหนึ่งเก้าแปดหก* เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 23:16:06

ความคิดเห็นที่ 64 แอบโผล่มาบอกว่าวันนี้ได้ JYJ Music Essay: Their Rooms มาอยู่ในมือแล้วเรียบร้อย พอฟังจากแผ่นซีดี (ริบ 320bps แบบ highest quality) แล้วทุกเพลงใสกิ๊งกกว่าที่ลงในกระทู้นี้มากๆค่ะ โดยเฉพาะเพลงช้าอย่าง Nine, Fallen Leaves รวมไปถึงเพลงที่มีเสียงเปียโนคลออย่าง Pierrot เพลงช้านี่เพราะบาดใจกันเลยทีเดียว... จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 00:43:54

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งได้ Music Essay มากอดเมื่อวานนี้เอง  แต่เป็นคนบรรยายไม่เก่งอ่ะ ทำไงดี  555  พิมพ์ไปเรื่อยเปื่อยอย่าว่ากันเนอะ เอาเป็นว่าบอกได้คำเดียวว่าปลื้มมมมมมมมค่ะ  ยังไม่ต้องฟังเพลงหรอก  แค่เห็นอันนี้ PRODUCER Kim, JaeJung, Park, Yuchun, Kim, Junsu DIRECTOR Kim, JaeJung, Park, Yuchun, Kim, Junsu ALL LYRICS &COMPOSED;BY Kim, JaeJung, Park, Yuchun, Kim, Junsu ARRANGED BY Kim, JaeJung, Park, Yuchun, Kim, Junsu แค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้ว  ภาพข้างในก็หล่อ น่ารัก อย่างที่เราเห็นๆกันนี่แหละค่ะ  ตอนนี้เรากำลังทยอยจดคำแปละใส่กระดาษแล้วสอดไว้ในเล่ม  ไม่กล้าเขียนลงไปเยอะอ่ะ  เพราะถ้าเขียนลงไป รอยเขียนมันก็จะไปอยู่บนหน้าถัดไปด้วย ทำให้หน้าสามหนุ่มเป็นรอย  ทำไม่ลงจริงๆค่ะ โอเช กลับมาที่เพลงดีกว่าเนอะ  เราวิจารณ์เพลงไม่เป็น เอาตามความรู้สึกแล้วกันนะคะ 1 Mission เพลงนี้ทำให้เราใจเต้นตึกๆเลยค่ะ เต้นตามจังหวะไม่แน่ใจว่าเบสหรือกลอง (แยกไม่เป็น) ฟังแล้วสนุก อยากโยกตาม  ขนาดฟังที่ทำงานเรายังแอบขยับขาตามเลย 555+ ถือว่าเป็นเพลงเร็วที่ใช้ได้เลย สำหรับเราเราว่าลงตัวนะ   คิมจุนซู เก่งมากจ้า 2. Nine นี่ก็เป็นอีกเพลงที่เราชอบนะ  ฟังแล้วรู้สึกอารมณ์ดี  สบายใจ  อยากเอาเพลงนี้ขึ้นไปฟังบนยอดตึกสูงๆ แล้วมองออกไปเห็นวิว เห็นท้องฟ้าไกล  มองอนาคตที่สดใสข้างหน้า  รู้สึกเหมือนได้กำลังใจทั้งๆที่ฟังไม่ออก ถือว่าเป็นเพลงที่ให้ความสุขกับเราได้ค่ะ  คิมแจจุง เก่งมากจ้า 3. Pierrot อยากบอกว่า นี่คือเพลงที่เราชอบมากที่สุดในอัลบั้มค่ะ ฟังแล้วรู้สึกอยากบิน  ไม่ใช่บินธรรมดานะคะ  บินแบบติดไอพ่นเลยค่ะ เหมือนว่า พวกเราจะไปแล้วนะ  อย่ามาจับซะให้ยาก ไม่มีอะไรมาหยุดเราได้แล้ว Fly fly  คิมแจจุงเก่งอีกแล้ว ^_^ 4. Fallen Leaves เพลงนี้ก็ชอบอีกแล้ว แม้ว่าเราจะไม่รู้ความหมาย แต่มันเศร้า เหงา ไม่ถึงกลับทำให้เราน้ำตาคลอหรอกค่ะ  แต่มันรู้สึกโหวงๆในใจ เหมือนบางอย่างมันถูกพรากไปจากเรา  เรื่องเสียงร้อง ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ  ฟังเอาเองเถอะ   สุดยอดเลย คิมจุนซู 5. ID.S ฟังเพลงนี้ฟังแล้วมันแปลกดีอ่ะค่ะ  มันให้ความรู้สึกแปลกใหม่ จับทางไม่ถูก  แล้วก็บอกไม่ถูกด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบ 555+    แต่ว่า  เก่งมากๆนะคิมแจจุง ล้ำมาก 6. 이름없는 노래 Part1 เพลงนี้  ถ้าอ่านเนื้อไปด้วยฟังได้ด้วย จะได้อารมณ์มากเลยค่ะ  เพลงนี้แหละทำให้เราน้ำตาซึม  ฟังแล้วรู้สึกเจ็บ  ไม่ต้องรู้เนื้อทั้งหมดหรอกค่ะ  แค่คร่าวๆ แล้วฟังเสียงที่ยูชอนแรพ  แต่ละท่อน  มันเหมือนทุกอย่างจะระเบิดออกมา  ถึงจะแรพเกือบทั้งเพลงแต่ก็ลงตัวนะคะ รวมกับเสียงร้องของแจกับจุนจังแล้ว  มันรู้สึกถึงความเจ๊บปวด เหนื่อยล้า  ปาร์คยูชอนก็เก่งมาก เพราะสามารถแรพออกมาได้หลายอารมณ์  คือมันเป็นแรพที่สื่ออารมณ์ได้อ่ะค่ะ  ท่อนแรกๆจะระบายความอึดอัดต่างๆ  แต่ท่อนท้ายๆกลับดูมีพลัง  เรารับรู้ได้นะ  หรือเพราะใจเราสื่อถึงกันก็ไม่รู้ 555+ ปาร์คยูชอน สุโค่ย แล้วก็  อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกอ่ะค่ะ  อัลบั้มนี้จะดีมากถ้าเปิดฟังกับแผ่น แล้วใช้เครื่องเสียงดีๆ  ถ้าใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ลองซื้อหามาฟังนะคะ  เราว่า สำหรับคนที่ชอบฟังดนตรีและเสียงร้องจริงๆ  เราว่าไม่ผิดหวังค่ะ สุดท้ายนี้ ไม่รู้จะดราม่าอะไร  เอาเป็นว่า รักแลภูมิใจในตัวสามแสบมากนะจ๊ะ ^_^ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 08:22:15 จากคุณ : Ammy_Chan เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 08:20:29

ความคิดเห็นที่ 66 อ่านจนถึง คห.65   รำพึงรำพันตัวเอง ทำไม ผมเหมือนกาในฝูงหงส์เลยอ่ะเนี่ย  เป็น ผช. คนเดียวเลย 55     จากคุณ : toshi เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:18:37

ความคิดเห็นที่ 67 คุณ toshi ทำไมเรียกตัวเองว่ากาในฝูงหงส์ล่ะค่ะ เป็นผู้ชายคนเดียวในหมู่สาวๆไม่ดีหรอคะ อิอิ คุณ toshi ยังไม่เห็น comment เพลงเลย  ในมุมมองของผู้ชาย เพลงเป็นยังไงบ้างคะ พอโอเคไหม ^_^ จากคุณ : Ammy_Chan เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:39:26

ความคิดเห็นที่ 68 คห.66 ค่ะ อย่าน้อยใจไป 555 ไม่รู้เป็นไรเวลาเห็น ผช. มาชื่นชมวงเรา เราจะปลื้มมากมาย ^^ เราวิจารณ์เพลงไม่เป็นอ่ะ ไม่มีทักษะด้านคนตรีซักนิด เรียกว่าไม่กระดิกเลยทีเดียว ที่ฟังเพลงไปคือคิดไปเองว่าเพราะ ก็ฟัง ฮะๆๆ แต่อยากบอกว่า อัลบั้มนี้คุ้มค่าแก่การมีไว้ในครอบครองมาก เราชอบทุกเพลงเลยโดยเฉพาะ Pierrot กับ เพลงไม่มีชื่อ (ตอนแรกฟัง เพลงมันดูขาดหายไปคิดว่าเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ที่จริงโดดดูดเสียงหรือนี่ แต่ก็เพราะอยู่) อีกเพลง คือ mission ทำเอาอยากไปลงคอร์สเรียนเต้น เป็นส่วนตัวกับ jyj เลย >< ดูแฟนแคมแจจุงเพลงนี้ กรี๊ดดดด มาก พูดกับเพื่อนว่า แจเต้นเป็นแล้ว แจเต้นเป็นแล้ว(แจบอก ผมเต้นเป็นอยู่แล้วนะ = =) 555 แบบไม่เคยเห็นแจเต้นเพลงอะไรที่มันมีไลน์เยอะขนาดนี้ มีท่าทุกจังหวะ อิอิ ปล. กระทู้นี้แจกกิฟท์กระจายยยยยย อยากดูคอนที่ไทยๆๆๆ ^^ จากคุณ : อยากฝันต่อจากเมื่อคืน เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 10:24:29

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณหลายๆคำวิจารณ์คะ ทำให้ได้สังเกตุอะไรหลายๆอย่างตอนฟังเพลงอีกเยอะเลย อ่านแล้วแบบทำไมตรูไม่เคยฟังอะไรได้ลึกซึ้งขนาดนั้นเลย 55555 ฟังตอนที่ปล่อยมา 10วิ(หรือเปล่า?) ครั้งแรกยังคิดว่าอูยย ทำเองได้ขนาดนี้ก็เริ่ดมากๆๆๆๆๆๆแระ มาฟังเต็มๆ โอยๆๆๆ นี่ทำเองจริงๆรืออออ เก่งคะ จัดเต็มมาทุกรายละเอียดจริงๆ เพลงช้าก็เพราะ เพลงเร็วก็มันส์ JYJ ไฟติ้งน้าาา จุนลูกกกกก ภูมิใจในตัวจุนม๊ากกลูก เก่งๆๆๆ เรื่องงานไม่เคยผิดหวังกะลูกชายคนนี้เลยจริงๆ จากคุณ : kawita เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:50:55

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ Fancam เพลง Mission ประกอบคำบรรยายของคุณ อยากฝันต่อจากเมื่อคืน จากคุณ : ต้นไม้กับสายน้ำ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 11:52:41

ความคิดเห็นที่ 71 อยากเข้ามากรี๊ดว่าของถึงมือแล้วค่ะ อ๊ายย เร็วกว่าที่คิดไว้มากเลยยย >w< ขอตัวไปฟังแบบชัดๆก่อนนะค้าาา ~ ปล. คุณ toshi ค้า มีคุณ aka shuri บนโน้นอีกคนเป็นเพื่อนคุณค่ะ 555 จากคุณ : Tsuchinoko* เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:14:38

ความคิดเห็นที่ 72 อิจฉาคนได้แผ่นแล้ว อยากฟังแบบเสียงใสกิ๊งๆบ้างแล้วนะ TT cr:kyobobook จากคุณ : vanmnn เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:46:56

ความคิดเห็นที่ 73 อยากได้ค่ะ อยากสนับสนุนแผ่นแท้ เอ๊ย หนังสือแท้สินะ เอิกๆ จะมีขายที่บ้านเราเมื่อไหร่เนี่ย ใจร้อนๆๆ เพลงเพราะทุกเพลงเลย เราชอบ รอวันได้เห็นสามหนุ่มยืนบนเวทีแบบสง่าผ่าเผยอีกครั้ง อิอิ จากคุณ : sasuke_hikaru เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 16:55:15

ความคิดเห็นที่ 74 วิจารณ์เพลงไม่เป็นค่ะ รู้แต่ตอนนี้ตัวเองชอบเพลง Mission กับ 이름없는 노래 Part 1 มากมายย เพลงอื่นยังไม่ได้ฟังแบบจริงจังเลย แหะๆ ตอนนี้ยังละจากสองเพลงข้างต้นไม่ได้ รู้สึกว่าพวกเพลงช้าตอนร้องสดจะมีพลังมากกว่าแบบสตูดิโอ แทบจะรอชมคอนเสิร์ตน้องในประเทศไทยไม่ไหวแล้ว >< ผลงานที่สามหนุ่มเจวายเจสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง 8วามประทบใจให้สิบเต็มสิบเลย จากคุณ : i'll always return เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 17:59:49

ความคิดเห็นที่ 75 โถ่ๆๆ คุณโทชิก็  นู่นไง คุณชูริ ลูกน้องของลูกเพร่ป๊ากก็เป็นปู้จายนะคร้า จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 18:11:31

ความคิดเห็นที่ 76 @ คุณ Ammy_Chan     ไม่สันทัดเรื่องการวิจารณ์เลยครับ   รู้แต่ว่าทำงานไปเปิดให้วนเล่นเพลงแต่อัลบั้มนี้อ่ะครับ  ชอบมันไปหมด เหมือนได้กินอาหารครบ 5 หมู่  ไม่ต้องไปขวนขวายหาวิตามินกินเพิ่มละ  5555 @ คุณ Tsuchinoko   คุณ piya-chan แหมมมมม  รู้สึกดีใจจริงๆ ที่ทั้งกระทู้ยังมีปู้ชายเพิ่มมาอีก 1 คน    5555 จากคุณ : toshi เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 21:46:48

ความคิดเห็นที่ 77 ออกตัวก่อนแรงๆว่า...ความรู้เรื่องดนตรีเป็นศูนย์ (แต่เป็นแคส รักเทพ ปลื้ม JYJ และยุนมินนะ) เวลาฟังเพลงจะใช้ความรู้สึก มีสามระดับคือ ชอบ ไม่ชอบ และเฉยๆ ฟังครบทั้ง 6 เพูลงแล้ว ยังไม่มีเพลงไหนถูกใจเลย ถ้าถึงขั้นบอกว่าชอบก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก >"< แต่ก็ไม่ถึงขั้นฟังซ้ำไม่ได้หรือไม่ชอบแต่อย่างใด โดยส่วนตัวประทับใจเพลง "Fallen Leaves" ที่สุด ฟังแล้วรู้สึกถึงความเป็นคิมจุนซู มันซึมมากับเนื้อร้อง ทำนอง สุดท้ายขอให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวสุด 6.5/10 แล้วกัน ปล* ขอบคุณ จขกท. นะค่ะสำหรับคำแปล ฟังเข้าใจขึั้นเยอะเลย โดยเฉพาะเพลงตาปาร์ก(Unnamed Song) ปล*2 แจจ๋า..เสียงใสมากกกกกก ชอบน้ำเสียงแจที่สุด (เอ่ยนามถึงซักหน่อยเดียวแจจะน้อยใจ พูดถึงแต่ตาปาร์กกับโลมา) จากคุณ : bioppa เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 21:51:46

ความคิดเห็นที่ 78 5555  แต่ถ้าไปคอนเนี่ย ก็จะได้เห็น fanboy แบบเป็น boy แต๊ๆ  หลายคนอยู่นะคะ ไม่เหงาแน่ จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:18:09

ความคิดเห็นที่ 79 ขอตอบสั้น ๆ คำเดียวค่ะว่า "รัก"ผลงานชิ้นนี้ของสามแสบนี่เลยล่ะค่ะ ยิ่งอ่านความหมายของเพลงไร้นามแล้ว ... เจ็บปวด และอยากจะขอโทษพวกเค้าสักล้านครั้ง ... ที่ไม่เคยรับรู้รอยแผลในใจของพวกเค้ามาก่อนเลยจนถึงวันที่เกิดเรื่อง นับวันรอ Music Essays ... จะมาถึงมือ ^^ อยากถามด้วยค่ะว่าจะมีขายในร้านหนังสือในไทยมั้ยคะ อย่างคิโนะคุยะ จากคุณ : natgabig เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:15:23

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่มีความรู้เรื่องเพลง ครับ - Fallen leaves ทำผมน้ำตาเอ่อ . . .ตอนฟังครั้งแรก เสียงเซีย . .กิ๊งๆ เสียงแจกลมๆ เสียงมิคแหบช้าๆ. . . . ท่อนจบ ทาชี ซีจัก แบบหมดลมมัน. . . - Unnamed ตอนแรกอ่านเนื้อเพลงก่อน แล้วก็งงว่า มันก็แร็พหมดเลยนี่ แล้วจะทำเพลงกันยังไงให้ออกมาเพราะกันนะ พอมาฟังแล้ว . . . ชอบมากครับ ทำได้ไงอ่ะ เมโลดี้เพราะ ท่อนเซียกับแจนั่นมันเทพ ผสานกับความกร้าวของมิคในท่อนแรพ ทำให้ออกมาแล้วมัน กลมกลืน(อันนี้ความเห็นผมนะ ไม่มีความรู้เรื่องเพลงครับ แต่ชอบฟังเพลงแนวโชว์เสียงอยู่แล้วครับ) ส่วนเรื่องเสียงที่โดนเซ็นเซอร์ ผมว่า เป็นเสน่ห์ดีนะ เพราะมันเซ็นเซอร์ได้เป๊ะจังหวะดีครับ 5555) - ID.S ผมไม่ค่อยเข้าใจคำว่า Auto tune เท่าไหร่ แต่ผมชอบเพลงนี้เหมือนกันครับ ชอบเสียงเซีย(อีกแล้ว??) มันเข้ากันกับ auto tune ที่เป็นแบ็คอยู่มากๆๆๆๆๆ เพลงอื่นๆ จะไปฟังต่อนะครับ ^^ ปล.ผมชอบคิม จุนซูว ตั้งแต่ Timeless แล้วหล่ะครับ เพราะฉะนั้นอย่าสงสัยว่าทำไมผมชอบพูดถึงเสียงเซีย เสียงเซีย 5555 ปล1.เวลาผมไป concert ตอนtvxq ผมก็ไปดูคนเดียวครับ(ตอนแรกก็เขิล แต่เข้าไปก็ ไม่สนนะครับ 5 5 5 5 5 5 เพราะผมตั้งใจไปดูconcert ก็เลยไม่สนใจใครเลย  5 5 5 5 5 แต่ก็แอบเกรงใจเพราะผมตัวค่อนข้างสูง แต่มัวแต่เกรงใจผมก็ไม่ได้ดู โอย conflict) จากคุณ : Jinggala เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:26:56

ความคิดเห็นที่ 81 ในนี้มีปู้ชายสามคนแล้วนะ อิอิ  ^_^ จากคุณ : Ammy_Chan เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:21:15

ความคิดเห็นที่ 82 ส่วนตัวไม่ชอบเพลง autotune เหมือนกันค่ะ แต่คราวนี้ชอบ IDS มากๆๆ ฟังพอๆกับ pierrot เลย จากคุณ : JaeChun เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 13:54:07

ความคิดเห็นที่ 83 กระทู้ดูดกิ๊ฟกระจายยยยย ^^ เป็นรีวิวที่อ่านแล้วอยากได้มาครอบครองมากๆ ว่าแต่... ต้องไปตามล่าแถวไหนเนี่ย ร้าน CD หรือ ร้านหนังสือ 555 แต่ยังไงจะหามาฟังให้ได้เลย ส่วนตัวหูไม่กระดิกเท่าไหร่ วิจารณ์ก็ไม่เป็น ฟังเพราะชอบมากกว่า แล้วก็ยังฟังไม่ครบทุกเพลงเลย แต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่าเพลง JYJ ดูโตขึ้น และหลุดจากกรอบมากขึ้น ยอมรับว่าตอนแรกที่ฟังบางเพลง แล้วงงว่า "เพลงไรฟ่ะ" แต่พอฟังๆ ไป อุ้ย มันเพราะดีแฮะ ยิ่งได้ดูพวก live หรือได้รับรู้ว่าน้องๆ ต้องต่อสู้มาเท่าไหร่ ยิ่งนับถือในความกล้า ผลงานจะบอกเองว่าน้องๆ จะเป็นตัวจริงในวงการเพลงได้ขนาดไหน JYJ Fighting อีดิต: หลังจากฟังครบทุกเพลงแล้ว เราชอบ "Nameless song" ค่ะ ไม่ได้อ่านเนื้อร้องมาก่อน ไม่รู้ว่าพูดอะไร แต่รู้สึกเหมือนเค้ากำลังระบายอะไรสักอย่างที่เศร้ามากๆ โดยเฉพาะช่วงท่อนของ..แจจุงหรือจุนซู รู้สึกมันบาดหัวใจจัง เพลงอื่นฟังไปก็เพราะขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าจะชอบทุกเพลงในอีกไม่นาน อ้อ..ทำไมเราฟังไม่เห็นมีเซ็นเซอร์ตรงไหนเลย กำลังหาเนื้อเพลงอยู่ว่ามันตรงไหน ยังไง งง แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 54 06:46:54 จากคุณ : anegi เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:33:11

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่ค่อยรู้เรื่องเพลงเหมือนกันค่ะ แต่อยากมีส่วนร่วมอะนะ ขอไม่วิจารณ์นะค่ะ แค่มาบอกลำดับการชอบเพลงละกันนะค่ะ ฟังครั้งแรก(ในคอนเกา) 1 Mission (ชอบมากกกก) 2 Pierrot 3 Nine 4 Fallen Leaves 5 IDS เพลงไร้ฃื่อยังไม่มี พอได้ฟังในซีดีแล้ว เปลี่ยนมาเป็น 1 Mission ชอบเพลงนี้มาก ชอบท่าเต้น ส่วนตัวชอบเสียงไวโอรินมากมันทำให้เพลงดูน่าตื่นเต้นดีอะ ชอบมากกกกกกก 2 IDS จาก 5 มา 2 บอกไม่ได้ว่าทำไมชอบ มันแบบว่าถึงจะ autotune ก็เถอะแต่ก็ได้คัดหูมาก มันแบบว่าเสียงสามคนเนียนกันมาก คิมแจเก่งที่สุด 3 Fallen Leaves ชอบแนวนี้อยู่แล้วอะค่ะ แบบฟังแล้วเหนื่อยใจแทนจุนจังเลยอะ 4 Nine แอบไม่ชอบเสียงปาร์คช่วงแรกนิดหน่อย แต่เราคิดว่าปาร์คตั้งใจร้องคีย์นี้ แต่ก็ไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไร แต่ท่อนฮุกชอบมากอะ มันติดหูดีชอบ 5 Pierrot น่าสงสารเพลงนี้จาด 2ลงมา4 ไม่ใช่ไม่ชอบนะแต่ชอบอันอื่นมากกว่า 6 เพลงไม่มีชื่อ ยังไม่ได้ฟังเลยค่ะ แต่อ่านคำแปลแล้ว จิตตกกันเลยที่เดียว นี้มันชีวิตนักร้องอันดับหนึ่งของเอเชียเหรือเนี้ยยยยยยย เห็นชอบกันทุกคนเดียวจะไปหาฟังบ้างแล้ว อิอิอิ สรุป ชอบอัลบั้มนี้มากแค่ชื่อก็กินขาด JYJ Music Essay: Their Rooms   และอีกอย่าง เครดิตอัลบั้ม แค่เห็นก็ภูมิใจแล้วค่ะ น้องๆทำให้เราภูมิใจในตัวพวกเค้ามากๆๆ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 17:48:58 จากคุณ : merciaom เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:47:34

ความคิดเห็นที่ 85 วิจารณ์เพลงไม่เป็น  ไม่มีความรู้ด้านดนตรีเลย  รู้แต่ว่าชอบเพลงนั้นๆ ถ้ามานโดนใจ ซึ่งมันหลากหลายแนวจัง..  อย่างเพลงสไตส์ทงบังฯ มาเป็นแบบ เจวายเจ.. ฟังแล้ว อ้าว..ไม่เหมือนแนวเพลงเดิมๆที่น้องๆเคยร้อง  มานแปลก..แหวกจากที่เคย แต่ว่าเพราะน่ะ..   ไม่เคยสงสัยความสามารถในการแต่งเพลงของยูชอนเลย  แร๊พได้ระเบิดเต็มด้วยความรู้สึกเหมือนเคย แต่เพลงเวอร์ของจุนซู และแจจุง  ในอัลบั้มนี้ ทำเราตะลึงในความสามารถ  แบบ..โห ทำได้ขนาดนี้เลย?   ยิ่งดูเครดิตแล้ว..เอ่อ  สามลูกแกะเจ๋งสุดๆ  ซึ่งบางทีเราเขิลนะ  ที่เรียกน้องๆ ว่าวงเทพฯ  แต่ตอนนี้..พยักหน้า เห็นด้วยๆ 5555 ยิ่งแจจุง..คนที่เราชอบมากๆ  เรารู้สึกเอาเองว่าแจพัฒนาการด้านดนตรี และการแต่งเพลงดูจะช้ากว่าเพื่อน..  แต่ไง๋ทำเพลงได้ถูกใจเป็นบร้าฟระ? ล้ำลึกมาก.. ความกล้าของสามแสบมานประทับใจเราตั้งแต่กล้าฟ้องสังกัดโหด  กล้าเดินออกมาพร้อมเจออนาคตที่ไม่แน่นอน..เพียงจะสู้ความอยุติธรรม และต้องการอิสระภาพ.. ตอนนี้เพิ่มความประทับใจขึ้นไปอีก  เดินออกมาแล้วสามารถเปิดแนวดนตรีของตัวเองได้แบบนี้  เทพโก๊ดดดด ต่อไป.. ความสามารถด้านดนตรีของน้องๆจะต้องพัฒนาขึ้นไปอีก  หวังเหลือเกินจะได้ฟังเพลงเจ๋งแจ๋วจากน้องๆอีก.. ขอบคุณ จขกท.และเพื่อนๆมากๆค่ะ  ที่ทำให้เข้าใจตัวเพลงในอัลบั้มนี้ได้ลึกซึ้งขึ้น.. จากคุณ : B.Out! เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 23:16:44

ความคิดเห็นที่ 86 วิจารณ์ไม่เป็นนะค่ะ ><  รู้แต่ว่าจากที่ไม่เคยสนใจจะฟัง IDS เลย แต่พอได้ฟังครั้งนึงแล้ว โอ๊ยยเพลงนี้เเหละ ชอบที่สุดในอัลบั้มเลย จากที่เหมือนจะชอบมิชชั่นมากที่สุด ไม่แล้วค่ะ เพลงนี้มาวิน 55555 มันเหมาะมันเข้ากับออโต้จูนจริงๆสิให้ตาย 5555555  รองลงมาคงเป็นเพลง 9 ชอบเวอร์ชั่นสตูดิโอมากกว่า มันดูมีรายละเอียดมากกว่า อาจด้วยที่ฟังๆมาเป็นแฟนแคมเลยไม่ได้ยินอะไรเท่าไหร่ พอมาฟังแบบซีดี หลงรักเพลงนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกก   สุดท้ายยย  ภูมิใจในตัวน้องๆมากๆเลย ก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ จากคุณ : joyleeko เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 54 21:42:05

ความคิดเห็นที่ 87 ปกติวิจารณ์เพลงไม่เป็นค่ะ แต่ฟังแล้วชอบค่ะ และคุ้มค่าที่รอผลงานจากเขา เ้ด่นๆที่ชอบคือ 3 เพลง 1.Missoin 2.Nine 3.เพลงไม่มีชื่อ ไม่รู้จะอธิบายความชอบออกมาเป็นคำพูดแบบไหน แต่แนวเพลงที่มีความเป็นตัวตนของเขา เนื้อเพลงมีความหมาย และมันออกมาจากความตั้งใจจากคนทำเพลงที่จริงจังกับงานเพลง อาจดูเหมือนเข้ามาอวยศิลปินที่ชอบหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่าอวยจริงแต่เพราะของเขามีคุณภาพและดีจึงกล้าอวยเนาะ ใครยังไม่เคยฟัง ลองเปิดใจรับฟังนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าเพลงที่กลั่นกรองออกมาจากหัวใจของผู้ชายที่เข้มแข็งสามคนนี้ มันดีพอที่คุณจะติดตามผลงานของเขาต่อไปค่ะ จากคุณ : ลอนทราย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 09:08:50

ความคิดเห็นที่ 88 คห79 เข้ามาบอกว่า มีขายที่ไทยแล้ว แต่ไม่ใช่ร้านหนังสือ มันคือ Boomerang  แต่แพงกว่าที่เกาเกือบสองเท่า TT ^ ^ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 54 12:33:21 จากคุณ : TORFUNFANTIC เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 12:14:05

ความคิดเห็นที่ 89 เราเองถึงแม้จะไม่ได้ติดตามน้องสามคนนี้ตั้งแต่ดงบังเริ่มจนถึงจุดสูงสุด เพิ่งรู้จักน้องเค้าตอนมีข่าวออกมาว่าน้องๆถูกต้นสังกัดฟ้องถูกแบนงานต่างๆ มาถึงตอนนี้ได้เห็นความพยายามของน้องที่แสดงออกให้เห็นว่าน้องไม่ใช่หน้าตาใสๆแต่งตัวหล่อๆให้สาวกรี๊ดไปวันๆ น้องทำให้เราเห็นว่าน้องเป็นเด็กที่มีความฝัน พยายามเดินตามความฝันของตัวเองและทำทุกอย่างให้ความฝันของตัวเองเป็นความจริงขึ้นมา ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไร น้องสามคนก็พร้อมจะยอมรับและเดินเข้าไปหามันอย่างไม่เกรงกลัวอุปสรรคใดๆ พยายามและพยายามทำทุกอย่างที่น้องสามารถทำได้ให้ออกมาดีที่สุด เราขอชื่นชมน้อง JYJ จากส่วนลึกที่สุดของจิตใจในฐานะที่น้องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับเด็กยุคใหม่ที่เป็นฐานแฟนเพลงของน้อง ให้รู้จักสู้ เข้มแข็ง อดทนและไม่ทอดทิ้งความฝันขอตัวเอง ไม่ว่าต้องเจอกับอะไรก็พร้อมเผชิญหน้า ถ้าบอกน้องได้ เราอยากบอกน้องว่า "Let's walk together; you never walk alone. No matter what happens we still have each other until the end of time." ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันนะ JYJ  ~~~~ Fighting !!! จากคุณ : Cocochan เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 15:38:23

ความคิดเห็นที่ 90 อ่านเนื้อเพลง A Song Without a Name PART 1 แล้วเศร้า T____T จากคุณ : rebirth เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 15:57:20