|
องก์ที่ 2 ฉากแรก
ในนิมิตนั้น อริยวรรต (พิษณุ นิ่มสกุล) กษัตริย์แห่งแคว้นมคธเห็นนางผู้เลอโฉมกำลังกรีดเสียงร่ำร้องรำพันเกลียดชังความงามของตนเอง
เสียงโหยหวนของความรันทดแห่งนางถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลง จุฬาตรีคูณ จนอริยวรรตสะดุ้งตื่นจากฝัน และมุ่งตามหา นางในฝัน ในกรุงพาราณสี
ที่แท้ นางในฝัน ของกษัตริย์อริยวรรตคือ ดารารายพิลาส (พริมรตา เดชอุดม) ธิดากษัตริย์แห่งแคว้นกาสี กรุงพาราณสี ขณะที่ผู้ชมละคร กว่าจะรักกันได้ สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล กำลังชื่นชมกับฉากที่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันไปสู่เรื่องราวตามจินตนิยายของพนมเทียน เสียงของวิทิต (สุเมธ) ผู้กำกับละครเวทีก็เข้ามาในฉาก แท้ที่จริงแล้ว ฉากเมื่อสักครู่ที่เพิ่งผ่านไปคือการซ้อมแบบเหมือนจริงในละครเวทีเรื่อง จุฬาตรีคูณ
เชื่อว่าผู้ชมหลายคนคงจะเข้าใจว่าในองก์ 2 นี้คงจะเป็นละคร จุฬาตรีคูณ ที่แยกขาดจากองก์แรก เพราะนักแสดงที่จะต้องแสดงละครเรื่อง จุฬาตรีคูณ ต่างก็สวมเครื่องแต่งกายอย่างชาวภารตะ ไม่ว่าจะเป็น พิษณุ นิ่มสกุล, พริมรตา เดชอุดม, รัชพล แย้มแสง, ณัฏฐ์นรี มะลิทอง, วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล และ มฤษฏ์ เดชไกรศักดิ์ ละครซ้อนละครยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันแสดงจริง ท่ามกลางเรื่องราวของคนหน้าและหลังเวที !! เหลือบางเพลง เช่น ปองใจรัก ที่ยังต้องดำเนินต่อไปในการแสดง เรื่องใด ฉากใดที่กล่าวเล่าอ้างไปแล้วกับการ ซ้อม จะไม่นำมากล่าวถึงอีก แม้การร้อยเรียง ละครซ้อนละคร เรื่องนี้จะเหมือนภาพที่ถูกซอยแบ่งไป - มาระหว่างสังคมปัจจุบันกับการแสดงละครเวที จุฬาตรีคูณ ทว่าทุกอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนโดยทุกประการ
ใครที่มีโอกาสชม กว่าจะรักกันได้ สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล แล้ว ย่อมสัมผัสได้ถึง รส ที่ถูกนำมาร้อยเรียงได้อย่างเหมาะสม งดงามและเต็มอิ่มภายใต้บทเพลงของสุนทราภรณ์กว่า 20 เพลง ก่อนละครจะรูดม่านในแต่ละรอบนั้น ทีมงานนักแสดงได้ส่งมอบเพลงพิเศษ เริงลีลาศ (รวมหมู่นักแสดง) ไปให้ผู้ชมทุกรอบเพื่อส่งต่อความสุข เสียงปรบมือดังกึกก้องโรงละครตอกย้ำให้เห็นความสำเร็จอันงดงาม จนมูลนิธิสุนทราภรณ์และบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย ตัดสินใจเพิ่มอีก 1 รอบ เวลา 19.30 น. ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554 ที่จะถึงนี้ เพลงนำ - ละครตาม ละครเรื่องนี้ตั้งใจที่จะนำเสนอ บทเพลงของสุนทราภรณ์ ในโอกาส 100 ปีชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนานเป็นลำดับแรก โดยมี ละครเวที เป็นส่วนที่ 2 และ ฉาก แสง สี เสียง เป็นองค์ประกอบในส่วนที่ 3 นอกจาก 5 เพลงเอกจากละครเรื่อง จุฬาตรีคูณ อันได้แก่ จุฬาตรีคูณ, จ้าวไม่มีศาล, อ้อมกอดพี่, ใต้ร่มมลุลี, ปองใจรัก ที่เขียนทำนอง - คำร้อง โดย เอื้อ สุนทรสนาน และแก้ว อัจฉริยะกุลแล้ว การให้ความสำคัญต่อภาคส่วนของชีวิตปัจจุบันถึง 70 % ทำให้สามารถนำเพลงอื่นๆ ของสุนทราภรณ์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของละครเวทีเรื่องนี้ได้ ผลงานของครูเพลงอื่นๆ ที่อยู่ในละครเรื่องนี้ และให้ทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน เช่น ขอให้เหมือนเดิม, กว่าจะรักกันได้ (พรพิรุณ) , ถึงอย่างไรก็ไม่เหมือนเดิม (รังษีรัตน์), ครวญถึงเจ้า (เทอด วรรธนา), ศรรัก (เล็ก โตปาน), มองอะไร, เสียแรงรักใคร่, พรานล่อเนื้อ (แก้ว อัจฉริยะกุล), ไม่ใกล้ไม่ไกล (สมศักดิ์ เทพานนท์), จำได้ไหม (ธาตรี), คนเรารักกันมาก, แสนงอน, เริงลีลาศ (ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ) มีเพียง 2 เพลงนี้เท่านั้นที่ครูเอื้อไม่ได้สร้างทำนอง แต่เป็นเพลงของคณะสุนทราภรณ์ คือ จุดไต้ตำตอ (ธนิต ผลประเสริฐ- สมศักดิ์ เทพานนท์ ) และบุพเพสันนิวาส (เวส สุนทรจามร - สุรัฐ พุกกะเวส ) เพลงจากเสียงนักแสดงละครเวทีเรื่องนี้ไม่ได้จัดทำเป็น อัลบั้ม ด้วยมิวสิคัลจะสมบูรณ์และสนุกต้องฟังโดยผ่านการชมการแสดงเท่านั้น แต่ ทุกเพลง จากละครเรื่องนี้ ทางบริษัทเมโทรแผ่นเสียงและเทป (1981) จำกัดที่ถือลิขสิทธิ์เพลงสุนทราภรณ์อยู่ได้จัดทำอัลบั้ม สุนทราภรณ์ Original และ Retro กว่าจะรักกันได้ ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว เพลงจากละครเวทีเรื่องนี้มี ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน เป็น Music Director และ อู๋ ธรรพ์ณธร ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา เป็น Producer & Sound Designer
จากคุณ |
:
Whalephant
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ม.ค. 54 12:57:03
|
|
|
|
|