|
ดึกดื่นค่ำคืนอันเงียบสงัดที่ผ่านมาคืนหนึ่ง ผมได้หยิบงานที่ฮิตที่สุดในโลกมาฟังอย่างต่อเนื่องเสมือนหนึ่งจะให้เลี่ยนตายกันไปข้างกับซีดีชุดพิเศษของบริษัท RCA หรือบริษัท Sony-BMG ในปัจจุบัน ที่ตั้งชื่อชุดไว้ว่า Pachelbels Greatest Hit -- The Ultimate Canon
ในซีดีแผ่นนี้ ทาง RCA ในอนุกรม Red Seal ได้แนะนำ (หรือกล่าวซ้ำ) ว่า แคนอนของพาเคลเบลเป็นหนึ่งในท่วงทำนองที่เป็นที่นิยมฟังกันมากที่สุดตลอดกาล! การถูกใช้ในธุรกิจภาพยนตร์และทีวี ไปตลอดจนพิธีกรรมในโบสถ์และงานมงคลสมรส ประหนึ่งแคนอนจะเป็นซาวนด์แทร็คของชีวิตพวกเราไปเสียแล้ว และ RCA ได้จัดรวบรวมแคนอน (ของพาเคลเบลในสังกัด RCA) ไว้ทั้งหมด 15 เวอร์ชัน ผ่านการบรรเลงและการตีความที่หลากหลายรูปแบบทั้งจากวงดุริยางค์, เปียโน, วงเครื่องสายสี่ชิ้น, เดี่ยวฟลูต, เดี่ยวกีตาร์, วงเครื่องลมทองเหลืองและแม้แต่มีเสียงร้อง... RCA บอกว่า 70 กว่านาทีแห่งการสะกดจิตด้วยแคนอนจะเป็นเจ็ดสิบกว่านาทีแห่งความปรีดิ์เปรมเกษมสานต์! ว่ากันถึงอย่างนั้น!!
Track 1 -- เริ่มต้นด้วยการบรรเลงของ Jean-Francois Paillard CO ของ Jean-Francois Paillard ในรูปแบบของวงเครื่องสายขนาดย่อมซึ่งเป็นรูปแบบยอดนิยมที่คุณผู้อ่านหลายท่านชื่นชอบและผ่านหูกันมามากที่สุดในตลาดแผ่นซีดี ส่วนตัวผู้เขียน ผมเคยฟังฌ็อง-ฟร็องซัวร์ ไพยา กับวงของเขามาก่อนแล้ว แต่เป็นคนละเวอร์ชันกันในสังกัด Erato ของ Warner และรู้สึกว่า ความเอิบอิ่มของเครื่องสายและความสมดุลในสีเสียงของวงในสังกัด Erato จะสู้ที่ไพยาทำกับ RCA แผ่นนี้ไม่ได้ และแน่นอนว่า ผมเพลิดเพลินไปกับสีเขียวอ่อนๆ ของทุ่งหญ้าที่ระบัดระบายอย่างอ้อยอิ่งเนิบช้าบนเนินเขาสล้างในท่ามกลางหมอกบางๆ ของเวลาเช้าตรู่จากไพยาเป็นอันดี...ประมาณว่า หากคุณผู้อ่านแอบไปเยี่ยมผู้เขียนถึงห้องฟังของเขา คุณผู้อ่านจะเห็นชายพร่องเกศาผู้หนึ่งโยกตัวเองไปมาบนเก้าอี้ด้วยท่าทีเต้นรำแบบเงอะๆ งะๆ ไปในจินตนาการอันเพ้อพกข้างต้นของเขาเลยทีเดียว (ว่าเข้าไปน่าน HA HA)
Track 2 -- เป็นการบรรเลงเดี่ยวฟลูตของ James Galway ซึ่งเป็นนักฟลูตที่มีชื่อเสียง (ผมชอบเขาบรรเลงฟลูตโซนาตาของ J.S. Bach มากๆ) ครั้งนี้ เขาบรรเลงร่วมกับ Munich Radio O ของ John Georgiadis ซึ่งคุณผู้อ่านอายุมากๆ หน่อย (อาจจะมากกว่าผู้เขียนด้วย) น่าจะต้องจำวาทยกรจอจิอาดิสขวัญใจศาสตราจารย์เจตนา นาควัชระได้ด้วย เพราะเขาเคยมาคุมวง Bangkok SO อยู่ในระยะหนึ่ง แลสำหรับแคนอนของกัลเวย์ก็ได้ให้ความรู้สึกค่อนข้างหวีดหวิวระคนหม่นเหงาขึ้นมานิสนึงเมื่อเทียบกับ Track I ซึ่ง MRO ของจอจิอาดิสครั้งนี้ ได้ทำหน้าที่เพียงเบสคอนตินิวโอพื้นหลังอันบางเบาให้กับกัลเวย์เท่านั้น...
Track 3 -- เป็นการบรรเลงด้วย Piano Duo หรือเปียโน Four-hands โดยคณะ Peerless 2x2 ในบุคเลตให้ข้อมูลเพียงว่าเป็นแคนอนสำหรับการบรรเลงบน Basso Ostinato ซึ่งออซตินาโต เราหมายถึงการแปรทำนองหรือจังหวะของกราวนด์ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งในงานนี้เรียบเรียงโดย Angay (เขาให้ข้อมูลมาเท่านี้) จากการฟัง เราพบโดยคาดเดาได้ไม่ยากว่า ผู้บรรเลงหนึ่งท่านจะทำหน้าที่สร้างแนวกราวนด์เสียงต่ำเป็นจังหวะพื้นให้กับอีกผู้บรรเลงหนึ่งที่ดำเนินทำนองหลักเสียงสูง และจากการรับฟัง ผมชอบลักษณะการเหลื่อมกันของตัวโน้ตไล่เลียนด้วยเปียโนจากคณะ Peerless 2x2 นี้อยู่พอดู เพราะชัดใสจนมองเห็นการไล่เลียนได้กระจ่าง มีวรรคมีตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรียบง่าย แม้ความตรงไปตรงมาในความเรียบง่ายอาจจะไม่ถูกใจผู้แสวงหา Virtuositic (So What?)
Track 4 -- ถูกตั้งชื่อว่า Canon of the Three Stars ซึ่งเรียบเรียงโดย Isao Tomita บรรเลงโดย The Plasma SO ของผู้เรียบเรียง เป็นงานบรรเลงที่ใช้อุปกรณ์ Synthesizer หรืออุปกรณ์สร้างเสียงดนตรีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตัวโน้ตเหมือนมีแสงสีประกอบประหนึ่งการแสดง Lights & Sounds ในยุค 80s ฟังเอาเพลิดเพลินได้ ไม่ต้องจริงจังมาก...
Track 5 -- ถูกตั้งชื่อว่า How, Where, When? ซึ่งเรียบเรียงดนตรีโดย John Dankworth และมี Cleo Laine เป็นผู้แต่งคำร้อง How, Where, When? ในแทร็คนี้ แดงก์เวิร์ธได้กัลเวย์มาบรรเลงฟลูตร่วมกับวงของเขา คุณผู้อ่านจะได้ฟังกัลเวย์เปิดทำนองให้ลายเนร้องฮาว แวร์ และ เว็น ฯลฯ ซ้ำไปซ้ำมาตลอดความยาวประมาณสามนาทีกว่าในลักษณะของเสียงร้องหล่อๆ แบบนักร้องแนวป๊อบยุค 80s ชวนเพลิดเพลิน...
Track 6 -- ถูกตั้งชื่อว่า Earth Angel สำหรับการบรรเลงด้วยวงเครื่องสายสี่ชิ้น ผมขี้เกียจจะไปสอบทานผู้เรียบเรียง รู้แต่ว่าบุคเลตได้ระบุชื่อเพียง Nordli กับ Williams เท่านั้น งานในแทร็คนี้ เราได้วง The Hampton SQr ซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงมาก มาบรรเลงแคนอนในรูปแบบเชมเบอร์สำหรับเครื่องสายสี่ชิ้นอันมีไวโอลินสอง, วิโอลาหนึ่ง และเชลโลหนึ่ง... การบรรเลงเร่งจังหวะเร็วขึ้นมาจนเกือบกระฉับกระเฉง ทำนองของแต่ละเครื่องทั้งหมดเหมือนจะบรรเลงคลอกันไปในลักษณะแห่ตามกันเป็นก้อนๆ แทนที่จะแยกลักษณาการของทำนองแบบไล่เลียนแบบกระจ่างชัดอันมีกราวนด์เบสเป็นพื้นหลังเหมือนคติเดิม เป็นการบรรเลง SQr ที่ไม่สร้างความทึ่งแต่อย่างใด ผมอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นการเรียบเรียงที่ทำได้ไม่โปร่งใสนักสำหรับเครื่องสี่...
Track 7 -- เป็นการบรรเลงแคนอนสำหรับเครื่องลมทองเหลืองที่เรียบเรียงโดย Frederic Mills หนึ่งในสมาชิกของ The Canadian Brass อันมีชื่อเสียง ซึ่งงานชิ้นนี้ประกอบด้วยเสียงจากทรัมเป็ต, แตรฮอร์น, ทรอมโบน และทูบา... ผมไม่รู้จะพูดถึงการบรรเลงเทียบกับความรู้สึกที่ได้จากการฟังอย่างไรดี อาจจะกล่าวเพียงว่า ทรัมเป็ตและแตรฮอร์นได้สร้างความโอ่อ่าและความน่าเกรงขามขึ้นมาสำหรับแคนอน อาจจะเป็นแคนอนที่เจ้ายศเจ้าอย่างอยู่บ้างแต่ไม่มาก ว่าไปก๊อสง่าผ่าเผยนะแต่ทว่าทื่อมะลื่อในการแสดงออกอยู่พอดู (HA HA) นี่เป็นความพยายามของแคเนเดียนบราสที่น่ายกย่องทีเดียว...
(ยังมีต่อ แต่ตอนนี้ ผมขออนุญาตไปทานข้าวน๊า...หิวแระ :-p)
^_______________^
จากคุณ |
:
St@rGazer
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.พ. 54 21:39:35
|
|
|
|
|