|
ไปเจออันนี้มาค่ะ เอามาให้อ่านกันเล่นๆ
........................................................................................................ เปิดยุทธการปั้น บี้ เดอะสตาร์ ของบอย ถกลเกียรติ
Love, I Need Somebody Love อยากขอสักคนเพื่อ Love ให้หัวใจ ไม่ว่างงาน
อยากมี someone someone กุมมือฉันเวลาไปไหน
เพลงฮิตคุ้นหูที่พอได้ยินแล้วก็ต้องนึกถึงเขา
บี้ เดอะ สตาร์ หรือ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว
แม้รางวัลที่ได้ติดไม้ติดมือจากเวทีเดอะ สตาร์ ปี 3 จะแค่ตำแหน่งรองชนะเลิศ พลังเสียงก็ไม่ถึงกับโดดเด่น การเต้น การแสดงไม่ถึงกับเฉียบขาด
ถ้าเทียบกับบางคนที่โดดเด้งครองคะแนนนิยมขวัญใจมหาชนชาวเรียลิตี้ คะแนน บี้ ก็ยังตกเป็นรอง
แต่ทำไม บี้ ถึงมาได้ไกลขนาดนี้
3 อัลบั้มเพลง 2 ละคร (รอยอดีตแห่งรัก และ หัวใจศิลา) 2 ละครเวที (บัลลังก์เมฆ, ข้างหลังภาพ) 1 ซิทคอม (นัดกับนัด) และ 2 รอบคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิมแพค อารีนา
พ่วงด้วยตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ให้กับ 3 แบรนด์ ได้แก่ ForemostHi-5, Sony cyber-shot w200 และล่าสุดกับ i-mobile Hitz101 และ Hitz 201
ถ้าตัวเลขเหล่านี้มีน้ำหนักอยู่บ้าง ความดังของ บี้ ก็คงไม่น่าจะแค่ว่าเพราะเป็น เด็กปั้น ของชายผู้อยู่เบื้องหลังความดัง อย่าง บอย- ถกลเกียรติ วีรวรรณ
เห็นแววของบี้มาตั้งแต่ตอนแข่งเดอะ สตาร์ รู้สึกว่าเด็กคนนี้มันต้องมีดี เพราะร้องเพลงก็งั้นๆ เพี้ยนด้วยซ้ำในบางครั้ง แต่ทำไมคนถึงได้ชอบกันนัก คือคำตอบของ บอย เมื่อถูกถามว่าทำไมเลือก บี้ ขึ้นมาปั้น
ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ บี้ ดังขึ้นมาได้ บอย สรุปหลักใหญ่ๆ ว่ามีอยู่ 3 เหตุผล
เรื่องที่หนึ่ง คือ พรสวรรค์ และ ความสามารถ ซึ่งมีอยู่เป็นทุนเดิม ตรงจุดนี้บอย อธิบายเสริมว่า เป็นสิ่งที่พระเจ้าให้มา ทุกคนมีไม่เท่ากัน ตั้งแต่ หน้าตา, บุคลิก จนถึงเสน่ห์เฉพาะตัวนั้น บอยเปรียบให้เป็น เมล็ด ที่รอวันเพาะขึ้นให้เติบโต
ถัดจากนั้นจะมีอีกสองปัจจัยที่เข้ามาประกอบพร้อมๆ กัน คือ เรื่องการฝึกฝน และ โอกาส
การฝึกฝน คือการขยายพรสวรรค์ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น อยู่ที่การฝึกซ้อม ความตั้งใจ และ ระเบียบวินัย ขณะที่เรื่องของโอกาสนั้น มันอธิบายลำบาก เพราะบางครั้งก็เกิดขึ้นมาแบบที่กำหนด หรือ คาดหมายอะไรไม่ได้
ตอนจบจากเดอะสตาร์ ไม่มีใครคิดว่าบี้จะออกอัลบั้มเป็นศิลปินเดี่ยวได้ ขนาดที่ว่าแกรมมี่ก็ไม่เอา บอกว่ายังทำไม่ได้ แต่เราเห็นว่าเด็กมีแวว ก็เลยบอกทางแกรมมี่ไปว่า ถ้าพี่ไม่เอา ผมเอากลับมาทำเองนะ บอยเล่า
การที่จัดคิวงานพระเอกละครเรื่อง รอยอดีตแห่งรัก ให้กับบี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าบี้ยังไม่พร้อมสำหรับงานละครนั้น บอยให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องของ ไทม์มิ่ง เพราะตอนนั้นกระแสเดอะสตาร์เริ่มจะจางแล้ว หากว่าปล่อยไปโดยไม่ให้บี้ได้มีงานออกหน้าจอบ้าง ก็เท่าเริ่มใหม่
ละครทีวีเรื่องแรก บี้เล่นแข็งทื่อมาก แต่ก็ต้องรีบฉวยจังหวะไว้ ด้วยความที่เชื่อว่าคนดูจะให้อภัยพระเอกหน้าใหม่
แต่สำหรับเรื่องต่อมา คือ หัวใจศิลา นั้น เรียกว่าเริ่มต้นไม่สวยนัก
ผู้กำกับมาเล่าให้ผมฟังแบบเครียดมาก เล่าว่าวันแรกที่เปิดกล้อง บี้เล่นแย่มาก แย่ขนาดที่ผู้กำกับปาบทใส่ เราฟังแล้วก็เออ ไม่ได้แล้ว บี้ต้องเรียนการแสดง ซึ่งจะเห็นเลยว่ามีพัฒนาการดีขึ้น ขนาดที่ผู้กำกับแฮปปี้มาก ในวันปิดกล้อง บอกว่าพอใจมาก
นั่นคือ กุญแจสำคัญ ดอกที่สอง ความตั้งใจฝึกฝน คือ ข้อดีของบี้ ซึ่ง บอย บอกว่า บี้ เป็นเด็กที่พร้อมเรียนรู้
กับคำถามที่ว่า ถ้าบี้ไม่ได้เกิดจากเวทีเดอะสตาร์ แล้วจะยังดังได้อย่างนี้หรือไม่ นั้น
มุมมองของนักปั้นผู้นี้ ถือว่า เวที เดอะสตาร์ จะว่าไปก็ไม่ต่างอะไรกับการทำวิจัยกับคนหมู่มาก ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ซึ่งก็เป็นการสกรีน หรือ วัดผลมาแล้วระดับหนึ่ง ว่าคนไหนน่าจะถูกใจ
แต่ถ้าถามว่า คะแนนนิยมที่บี้ได้จากเดอะสตาร์ มีผลกับความดังตอนนี้หรือไม่นั้น บอย มองว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะแฟนคลับของบี้วันนี้ มีประเภทที่ไม่เคยดูหรือรู้จักบี้ ในเดอะสตาร์เลยก็ไม่น้อย
ที่สำคัญกว่าคะแนนโหวตนั้น ก็ คือ การพัฒนาตัวเองของ บี้
ตอนจะออกอัลบั้ม3 ก็บอกบี้เลยว่า จะมาหน่อมแน้ม ขายความใส ความสดใหม่ เหมือน 2 ชุดแรกไม่ได้แล้ว บี้ต้องร้อง ต้องเต้นให้ได้ดีกว่าเดิม แข็งแรงกว่าเดิม แล้วก็ต้องฟิตกว่าเดิม
เงื่อนไขที่ว่า ถ้าหุ่นไม่เฟิร์ม จะไม่ออกอัลบั้มให้ ก็เกิดขึ้น และเป็นเหตุให้ บี้ เดินเข้าออกฟิตเนสอย่างเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากผัดผ่อนอยู่เป็นระยะๆ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าง
รากฐานที่แน่น คือ สิ่งที่บอยเชื่อมั่นว่าอยู่ในตัวบี้ และจะเป็นปัจจัยสำคัญ ชี้วัดว่า บี้ จะเดินไปได้ไกลสักแค่ไหน
เรื่องของความพร้อมที่จะปรับตัวและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด จะต้องไม่หายไป ในฐานะ คนบันเทิง ของบี้
ถึงแม้ว่า วันนี้ เทรนด์ เคป็อป จะเข้ากันดี จนอาจบอกได้ว่า จังหวะพอเหมาะกันกับการแจ้งเกิดของ บี้
แต่หากว่า วันข้างหน้า เคป็อป ถูกตีตราว่า เอ้าท์ บี้ก็ต้องพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนไป โดยยังมีรากฐาน ความเป็น บี้ ซึ่งบอยเชื่อว่าแข็งแรงอยู่แล้วในระดับหนึ่งเป็นการต่อยอด
ตอนนี้ เชื่อว่าบี้ค่อนข้างมีรากฐานที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่ฉาบฉวย ภาษาในวงการเรียกว่า Fad คือหมายถึงอะไรที่มาไวไปไว ยิ่งกว่าแฟชั่น บี้จะต้องไม่เป็นอย่างนั้น และสิ่งที่จะทำให้บี้เดินต่อได้ ก็คือ การฝึกฝนเท่านั้น บอยกล่าวสรุป
โอกาสของ บี้ ว่าจะโด่งดังค้างฟ้าได้หรือไม่นั้น คงไม่ใช่วันนี้ หรือ พรุ่งนี้ ที่จะตอบได้
แต่ขึ้นกับว่า บี้ จะครองคะแนนความนิยมในใจมหาชนได้แค่ไหน
เพราะ
แท้ ไม่แท้ คงต้องดูกันไปนานๆ
เรื่อง : ปานใจ ปิ่นจินดา
จากคุณ |
:
พริบดาว
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มี.ค. 54 01:17:15
|
|
|
|
|