ความคิดเห็นที่ 1 ที่ จขกท. พูดถูกต้องเลยค่ะ ถ้าสถานีต้องเลือกระหว่าง JYJ กับ SM ยังไงก็ต้องเลือก SM อยู่แล้ว ระหว่างเด็ก 3 คน กับค่ายทีมีศิลปินเด่นๆ ใครก็ต้องเลือกค่ายไว้ก่อนนั่นแหละ แต่ถ้าบอกว่า SM ไม่ได้ทำอะไร สถานีกลัวไปเอง ข้อนี้ไม่เห็นด้วย ถ้าตามข่าวดูก็จะพอรู้ว่า SM ทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ JYJ ออกอากาศได้ เป็นการบีบให้สถานีต้องเลือกข้างค่ะ ที่ผ่านมาหลายสถานีก็กล้าเอามาออกนะ เช่น KBS ให้เล่นละคร+ออกรายการ+โชว์ตอนงานประกาศรางวัล, MBN, SBS ก็มีบ้าง แต่ส่วนมากมักไม่ใช่รายการหลักหรือ live show ของสถานี และเกือบทุกครั้งที่ JYJ ไปออกรายการ มักต้องมีเหตุเลื่อนหรือยกเลิกแบบไม่ค่อยมีเหตุผล แม้แต่นักกฎหมายหรือนักการเมืองทางเกาหลีเอง ก็ยังออกมาพูดเรื่องนี้ บางครั้งพุ่งเป้าไปที่ SM เลยด้วย ส่วนตัวคิดว่า JYJ น่าจะชนะการฟ้องร้อง แต่ก็ยังออกสื่อไม่ได้มากอยู่ดี ตราบใดที่ SM ยังมีศิลปินดังๆ อยู่ เพราะวงการเพลงหรือแม้แต่วงการภาพยนตร์ของเกาหลีเอง มีการใช้อิทธิพลอยู่สูงมาก และถ้า SM ไม่ทำอย่างนี้ เราเชื่อว่าจะมีศิลปินฟ้องแบบ JYJ อีกเป็นพรวน ดังนั้นต้อง "เชือดไก่ให้ลิงดู" ค่ะ แต่ผลชี้ขาดของศาล จะทำให้ SM หมดข้ออ้างและสถานีก็น่าจะให้โอกาสมากขึ้น SM เองก็รู้ว่าไม่ควรบีบสถานีมากเกินไป ถ้าวันหนึ่งสถานีบอยคอร์ต SM บ้าง SM นั่นแหละที่จะแย่เอา ศิลปินที่ดังๆ อยู่ตอนนี้ ถ้าไม่ได้สถานีช่วยดัน เราก็ไม่เชื่อว่าจะดังได้มากเหมือนกัน หลังศาลตัดสิน น่าจะได้เห็น JYJ ออกสื่อมากขึ้น แต่คงไม่มากเหมือนศิลปินคนอื่น ดังนั้นถึงสิ่งที่แฟนคลับทำ ยังไงก็ไม่มีวันชนะ...อืม.. เราว่าไม่มีใครชนะอย่างแท้จริงหรอก JYJ ถ้าชนะก็บอบช้ำเยอะจากข่าวลือแย่ๆ สารพัด SM เอง(รวมถึงอีก 2 คนด้วย) ถึงจะออกสื่อได้ แต่ก็คงมีคนแอนตี้อยู่ไม่น้อย ตัวเราเองไม่ใช่แฟนคลับตัวยงอะไร แต่เราว่าเราเชื่อว่าแฟนคลับปัจจุบันสนับสนุนสิ่งที่ JYJ ทำ เพราะยอมรับความคิดของศิลปินและเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง (ไม่ว่าใครจะว่าไม่ถูกต้องก็ตาม) และพร้อมจะสู้ไปด้วยกัน เมื่อเรื่องจบ แฟนคลับกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่รักเหนียวแน่นมาก เหมือนเพื่อนที่ฝ่าฟันอะไรด้วยกันมาเยอะ ตัวศิลปินเองเมื่อได้รับความรักขนาดนี้ (และหลังชนฝาขนาดนี้) ก็น่าจะมีแรงผลักให้ต้องทำงานด้วยความตั้งใจและพัฒนาตัวเองให้ดีให้ได้ ถึงต่อไป JYJ จะไม่สามารถดังได้อย่างที่เคยเป็น แต่ทั้งสามจะเป็นศิลปินที่มีแนวของตัวเอง และมีฝีมือมากพอที่จะอยู่ในวงการได้ยาวค่ะ เราเชื่ออย่างนั้น อีกเรื่อง ถึงสงครามระหว่าง JYJ กับ SM จะยังต้องสู้กันอีกยาว แม้จะหลังศาลตัดสินแล้วก็ตาม แต่กรณี JYJ หรือแม้แต่ศิลปินอื่นๆ ที่ออกมาฟ้องร้อง เริ่มทำให้หน่วยงานรัฐหรือแม้แต่สังคมหันมาสนใจ อย่างน้อยเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งคือ สัญญาของศิลปินในค่าย SM ทั้งหมด ถูกทบทวนใหม่ค่ะ ถือเป็นชัยชนะเล็กๆ ที่ทั้ง JYJ และแฟนคลับร่วมกันสู้ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ จากคุณ : anegi เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 15:51:46

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นหัวกระทู้แล้ว ตั้งใจอ่านจนจบนึกว่าจะหาทางร่วมมือ มีข้อเสนอแนะดี ๆ แก่ JYJ ในการที่ต้องได้ออกสื่อ  ออกรายการทางทีวี แต่กลับว่าน้อง ๆ เขาชะงั้น ทำไมหล่ะค่ะ คุณพูดถูกทุกอย่างค่ะ แต่อาจจะไม่ถูกใจคนที่สนับสนุน JYJ  ใครหล่ะจะเลือกเด็ก 3 คน(คุณเรียกว่าเด็ก 3 คน) กับบริษัทค่ายยักษ์ใหญ่   แต่จากแหล่งข่าว  จากการให้สัมภาษณ์ไม่ว่าจะเป็นนักจัดรายการ นักกฎหมาย นักการเมือง ยังออกมาพูดว่า SM แทรกแซงการออกอากาศรายการต่าง ๆ ของ JYJ  (อันนี้เข้าใจว่าคุณจั๋วหัวแล้วว่าคุณไม่สนใจมากมาย)  เพราะฉะนั้นคุณอาจจะตกข่าวไปเราไม่ว่ากัน  ก่อนหน้านี้ SM ร่วมกับสมาคมมีหนังสือเวียนไปยังสถานีโทรทัศน์ แม้แต่เคเบิลขอความร่วมมือในการไม่ให้ JYJ ออกอากาศ ถ้าแน่จริงอย่าทำซิค่ะ สู้กันแบบแฟร์ ๆ  เด็ก 3 คน SM จะมากลัวอะไรนักหนา คุณมีเงินโปรโมทไป ทำไป  ศิลปินค่ายคุณจะออกรายการทั้งวันทั้งคืนก็ทำไป แล้วสถานีโทรทัศน์ เขาไม่มีรายได้เฉพาะโฆษณาเพลง โปรโมทเพลงหรอกคุณ รายได้มาจากละคร เกมส์โชว์มากมาย ๆ   เราขอแสดงความคิดเห็น ก็คือ JYJ เขาก็จ่ายภาษีเหมือนกัน สิทธิในการรับการบริการของรัฐย่อมมีเหมือนกับคนอื่น ทำไมต้องไม่ให้ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์ เพราะอาชีพของ JYJ คือ ศิลปิน  ศิลปินก็ต้องมีเวทีแสดง สถานีโทรทัศน์เป็นของรัฐ ในเมื่อ JYJ เสียภาษีเหมือนคนอื่น ๆ ทำไมกีดกันไม่ให้ออกรายการต่าง ๆ   วงการบันเทิงทุกที่ก็เอารายได้ ผลประโยชน์เป็นตัวตั้ง  คุณธรรม  จริยธรรม เป็นตัวลวง เพราะฉะนั้นการที่ JYJ ไม่ได้ออกรายการต่าง ๆ ก็เพราะผลประโยชน์  เราเข้าใจ ถ้าคิดว่า SM มีนักร้อง นักแสดงเด่น ๆ มากมายมากลัวอะไรกับเด็ก 3 คน สู้กันตัวต่อตัวซิคะถ้า JYJ ไม่เด่น ไม่ดี ผลงานไม่เข้าตา ก็จบไปไม่เห็นต้องหวั่นไหวอะไร ซิว ๆๆๆ อย่ามาพูดว่า SM ไม่ได้ขัดขวางการออกอากาศของ JYJ เราอีกคนขอไม่เชื่อ จากคุณ : kkn.jeed เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 17:23:39

ความคิดเห็นที่ 3 นั่นสิ ทำไม sm กลัวเด็กแค่ 3 คนอย่าง jyj จากคุณ : acjokers เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 18:05:04

ความคิดเห็นที่ 4 เอสเอ็มไม่ได้กลัวค่ะ น้องเองก็ไม่ได้จะอยากยิ่งใหญ่กว่าเอสเอ็ม แต่เอสเอ็มคงไม่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างให้ศิลปินอื่นๆ ได้ทำตามกระนั้นเลยเหยียบให้จมอย่าให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากกันต่อไปจะเป็นผลดีกะบอสัดมากกว่ามั๊งค่ะ ไม่ไ้ด้ไรนะ แค่อยากบอกว่าปีที่ทงบัง(เวอร์ชั่น5คน)คัมแบคเกาหลีจริงจัง กำไรปีนั้นของเอสเอ็ม65%มาจากวงนี้วงเดียว(ไม่แน่ใจว่าตัวเองจำผิดรึเปล่านะคะ) คุณคิดดูถ้าน้องออกไปอย่างสบายๆลัลลลาไปอยุ่กะบอสัดไหนใครๆก็อยากได้เพราะผลประโยชน์มันกองอยุ่ตรงหน้าอยู่แล้ว หรือเป็นนายตัวเองก็ได้ แต่ด้วยว่ามีปัญหากะบอสัดใหญ่แบบนี้ใครจะกล้าให้ความช่วยเหลือเพราะรู้ๆกันอยุ่ว่าเอสเอ็มตามล้างตามเช็ดมาขนาดไหนตั้งกะสมัยHOTแล้ว สามคนที่ออกไปก็ดับเลยเพราะบอสัดก็เล่นเส้นนี่แหละ คุณคิดดูบอสัดที่ไหนจะปล่อยกำไรตัวเองไปอยุ่กะบอสัดอื่นง่ายๆละคุ๊ณณณณณณ 65%เลยนะ ถ้าคิดแบบไม่เอาไรมากหารรายตัวแล้วคูณ3=39%โหบอสัดไหนได้ไปรวยตายห่า ใครจะปล่อยไปแบบสงบสุขละค่ะ ไหนๆก็ไหนๆ เหงียบให้จมตายคาตรีนไปเลยดีกว่าสะใจกำไรบอสัดอื่นก็ไม่เพิ่มด้วย แถมยังได้เชือดไก่ให้ลิงดูอีก ปล.ถ้าบอกว่าเอสเอ็มอยู่เฉยๆไม่ทำไรกะการออกทีวีหรือโชว์ของน้องสามคนเลย เราอีกคนไม่เชื่อค่ะ เหอะ ถ้าไม่ทำไรเลยรายการจะยกเลิกเป็นว่าเล่นเรอะ เอสเอ็มอมวังเคียงบ๊อกมาพูดก็ไม่เชื่อออออ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 54 18:26:54 จากคุณ : มองดูท้องฟ้า....ไม่เป็นเช่นเคย เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 18:23:45

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่า จขกท วิเคราะห์ขาดดีนะคะ คือในโลกของความเป็นจริง sm คงไม่ปล่อย JYJ ไปง่ายๆหรอก เรียกว่ากัดไปจนวันตายเลยจะเหมาะกว่า ถึงสุดท้ายจะมีคำสั่งศาลตัดสินว่า jyj ชนะแล้วก็เถอะ ใครจะไปยอม เป็นเราก็คงไม่ยอมเหมือนกัน ความถูกต้องบางทีมันก็เอามาใช้กับธุรกิจ กับเรื่องเงินๆทองๆไม่ได้หรอก แล้วคิดว่าตัว jyj ก็รู้ดีว่าออกมาแล้วจะเป็นยังไง แต่ก็ยังออกมา อันนี้คนนอกที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับอย่างเรา ก็นับถือใจพวกเขาเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็ยังมีใครซักคนที่ออกมาเรียกร้อง ก็ดูเป็นการจุดประกายที่ดีของวงการบ้านเค้า sm ไม่ได้กลัว เพียงแต่มีอำนาจ ก็ใช้ไปให้เต็มที่ ขัดขวางอะไรได้ก็ทำหมดแหละค่ะ เรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น จะไปหวังให้สถานีโทรทัศน์เลือก เค้าก็ต้องเลือกข้าง sm เลือกค่ายใหญ่ที่มีศิลปินเยอะอย่างนั้นมากกว่าเป็นธรรมดา ปลอดภัยไว้ก่อน ไม่มีใครอยากเสี่ยงทำลายความสัมพันธ์กับค่ายใหญ่ แล้วเลือก jyj หรอกค่ะ แต่ส่วนตัวก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ถ้าสถานีใหญ่ๆร่วมมือกันพา jyj มาออก แล้ว sm จะทำยังไง แต่โอกาสเกิดคงยากมากๆ แต่ในปัญหาที่เกิดมากมาย ก็มีเรื่องดีๆอยู่นะคะ ตอนนี้ก็จะเห็นว่า jyj ก็ยังมีแฟนคลับที่ตามอยู่ แล้วก็เป็นแฟนคลับที่เข้มแข็งมากๆด้วย แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 54 18:40:48 จากคุณ : gamE_bbb เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 18:39:54

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับคอมเม้นบนๆ ตามที่กล่าวกันมาค่ะ เอสเอ็มอาจจะแพ้คดี แต่ในเรื่องในวงการ เอสเอ็มยังไงก็มีไพ่เหนือกว่า สำหรับเรานะ ลุ้นใจขาดดิ้นเลยให้เจวายเจออกทีวีน่ะนะ ตามประสาคนชอบ แต่เอาจริงๆ 3 คนอยู่แบบนี้ก็ชิลๆ ดี มีความสุขดีนะ ไม่ต้องไปโหมงานหนักนู่นนี่ งานไหนอยากทำก็รับ ไปเที่ยวบ้างสังสรรค์บ้าง ในเรื่องของการทำเพลงก็ได้ไปแสดงที่หลายๆ ประเทศ แถมยังได้ออกไอเดียเต็มที่กับผลงานของตัวเอง ดูเป็นมนุษย์มากกว่าการได้นอนวันละไม่กี่ชั่วโมง โหมงานหนัก ออกทีวีไม่เว้นวันอีกค่ะ อิสระที่แลกกับการไม่ได้ออกทีวี มันก็คุ้มค่านะ ป.ล. ตอนนี้เราอยากเห็นละครมิคกี้เรื่องใหม่เร็วๆ  อิอิ  เราเชื่อในความสามารถของพวกเขาทั้งสามคนนะ  คนมีความสามารถใครจะไม่ต้องการ จากคุณ : orangeade เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 19:14:57

ความคิดเห็นที่ 7 "สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร....  คำว่าแพ้  ไม่ได้ถูกใส่ไว้ในพจนานุกรมของแฟนคลับ JYJ " แฟนคลับ JYJ ไม่มีทางชนะ SM ได้ อย่างที่ จขกท ว่าหรือเปล่า  อันนี้ไม่อาจทราบได้...รู้แต่ว่า.... " ถ้าอยากชนะ  อย่าหวังว่าจะชนะได้ง่ายๆ   SMคงต้องเหนื่อย  และเหนื่อยหนักด้วยถ้าหวังชัยชนะ...แฟนคลับ JYJ ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ อย่าคิดว่าจะชนะพวกเราได้โดยคุณไม่สูญเสีย..... ถ้าพวกเราจะแพ้  คุณก็คงเป็นผู้ชนะที่สะบักสะบอมที่สุด... " จะชนะ JYJ คงต้องข้ามศพเหล่า แฟนคลับ JYJ ไปก่อน....พวกเราไม่มีวันยอมให้ข้ามผ่านไปได้ง่ายๆ สิ่งที่ จขกท พูดถูกก็คือ...  การวิเคราะห์ว่าเป็นการวัดกันระหว่าง  แฟนคลับ JYJ และ SM .... ใช่แล้ว  สิ่งนี้ทำให้เรื่องระหว่าง JYJ กับ SM เป็นเรื่องรองลงไปเลยทีเดียว....เพราะนอกเหนือกระบวนการทางกฏหมายตามขั้นตอนคดีความระหว่าง JYJ และ SM แล้ว   ที่เหลือนอกจากนั้นไม่มีการตอบโต้ใดๆจาก JYJ สิ่งที่เห็นนอกจากนี้ก็คือ  กลุ่มคนที่ออกมาชนกับ SM ในหลายๆครั้งที่ผ่านมา....  คือ แฟนคลับ  JYJ นั่นเอง...ในทุกวิถีทาง  แต่ก็ยังไม่หมดทุกทาง   เรายังมีอีกหลายมาตรการแน่นอน แล้วจะได้รู้กันว่า ....   พวกเราทำอะไรได้ขนาดไหน  เพื่อ JYJ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 54 19:27:58 จากคุณ : DekJae Xinmei (rainyjerry) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 19:25:39

ความคิดเห็นที่ 8 ศิลปินอยู่ได้เพราะแฟนคลับ................ระหว่าง JYJ กับแฟนๆก็ประมาณนี้ละนะ อืม.....สาวๆ ไปเจอ JYJ ตอนเมษากันนะคะ ^_^ \/ จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 20:17:51

ความคิดเห็นที่ 9 เท่าที่จขกท.วิเคราะห์มาก็เห็นด้วย และมีเหตุผลมากๆ นะคะ แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าอาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างไม่มากก็น้อย คือ ภาพลักษณ์ของประเทศเกาหลีค่ะ เพราะถ้าผลออกมาว่า SMแพ้ แต่ยังแสดงอำนาจเหมือนเดิม จะทำให้ภาพพจน์ความยุติธรรมของประเทศเสียหาย จากทั่วโลกที่กำลังจับตามองกันอยู่ และอาจจะเกิดการบีบบังคับมาจากภาครัฐได้บางอย่าง เหมือนที่ผ่านมา เช่น การบังคับแก้ไขสัญญาใหม่ทุกagency เป็นต้นค่ะ ก็เลยคิดเอาเองว่า ความพยายามของเหล่าแฟนๆ ในกิจกรรมต่างๆ ในตอนนี้ จะเน้นบางส่วนนอกเหนือจากการโปรโมทไปที่กฏหมายค่ะ เพราะต้องการดึงอำนาจรัฐเข้ามา ให้ช่วยเหลือในสิ่งที่ jyj ไม่มี คือ อิทธิพลในวงการ และอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้บ้างค่ะ อันนี้เป็นสิ่งที่หวังไว้นะคะ ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นยังไง แต่เป็นกำลังใจให้ในความลำบากของ jyj และแฟนๆ ค่ะ จากคุณ : TallyMee (TallyMee) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:45:19

ความคิดเห็นที่ 10 I don't care about SM Entertainment. JYJ is a revolutionist. จากคุณ : I-want-to-be-a-Revolutionist (tiktokthailand) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 23:47:41

ความคิดเห็นที่ 11 ศิลปิน SM ไม่ได้ออกทีวีสักสองปี คนก็ลืม ^^ เพราะวงการบันเทิงไม่ได้มีแค่ศิลปิน ... ยังมี นักแสดง พิธีกร และผู้ประกาศข่าวอยู่อีกมากมาย (ลองนับหัววงการบันเทิงไทยดูก็ได้ ว่าใครได้ออกทีวีมากกว่ากัน ระหว่างศิลปินแกรมมี่ กับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ศิลปิน) ^^ ท้ายที่สุด เจ้าของช่องคือคนกุมบังเหียน ^^ จากคุณ : I-want-to-be-a-Realist-Thinker (tiktokthailand) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:03:08

ความคิดเห็นที่ 12 เรามองในส่วนของเรานะ อาจจะเหมือนหรือต่างกับความคิดของเหล่าแฟนคลับ หรือจขกท.หรือเปล่าเราไม่แน่ใจ เรามองว่าหลายคนกำลังคิดว่าช่องทีวีต้องง้อค่ายเพลง แต่เมื่อดูถึงความเป็นจริงในอดีต ค่ายเพลงต้องง้อทีวี แม้ปัจจุบันเหล่าค่ายเพลงยักษ์ใหญ่จะมี power พอตัว แต่เราก็คิดว่า ก็ยังต้องพึ่งทีวีเหล่านี้อยู่ดี โดยเฉพาะหากยังคิดว่าจะ "ยึดครองตลาดในประเทศ" จริงอยู่ถ้าดูกว้าง ๆ อาจคิดว่า มันเป็นการเลือกระหว่าง JYJ กับ เด็ก SME แต่ JYJ มีความพิเศษอย่างหนึ่งในสายตาเรานะ เพราะมี 2J ที่ถูกดันให้เป็นที่ชื่นชอบของคนเกาหลี ดังนั้นหากเราเป็น SME ก็คงจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เพราะอะไร!!! เพราะเมื่อหากคนเหล่านี้กลับมา นั่นหมายความว่าคะแนนนิยมของเด็กตัวเองอาจจะลดน้อยลง แฟนคลับอาจมองว่าไม่ว่าดาว 5 ดวงจะอยู่ที่ไหนแฟนคลับก็สนับสนุนเสมอ แต่เราว่า SME คงไม่มองงั้น จริงที่สนับสนุน 5 ดวง แล้ว 2 ดวงที่มีตอนนี้จะด้อยค่าลงไปเปล่า + เด็กคนอื่น ๆ จะถูกลดค่าลงไหม ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคืออย่าให้กลับมาอาจเป็นการดีกว่าไหม และที่ลืมเสียไม่ได้คือการที่ JYJ ก็ทำแสบกับ SME พอตัวทีเดียว เรื่องเหล่านี้อาจไม่มีปัญหา หาก JYJ ไปดังที่อเมริกา แต่ที่มันมีปัญหาเพราะ JYJ กลับมาเกาหลีและญี่ปุ่น ยกตัวอย่างกรณีคล้าย ๆ กับแต่ปัญหาไม่ใหญ่โต นั่นคือ ป๋าเกิง ทำแสบกับ SME ไหม ก็พอตัว แต่ตอนนี้หากินที่ไหน จีน ดังนั้น SME จะตามไปรุกรานไหม คงไม่ แล้ว ป๋าเกิง เด่นพิเศษไหม ก็ไม่อีก ฐานเกาหลีก็เรียกได้ว่าปิดไปเลย SME เลยเหมือนปล่อยไป ปล. ในความคิดเรา ตราบใดที่ JYJ ยังไม่ไปเป็นทหาร หรือคดียังไม่จบ เรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ จากคุณ : nongatom เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:29:32

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับ จขกท. ค่ะ ว่าถ้า สามช่องหลัก ของเกาหลี กล้าที่จะนำ JYJ มาออกทีวีแล้วหล่ะก็ SM คงไม่กล้าแบน ทีวีสามช่องนี้หรอกค่ะ  เพราะถ้า SM ถอนตัวไอดอลค่ายตัวเอง ออกจากรายการต่าง ๆ  ต้องอย่าลืมว่า ปัจจุบันนี้ มีไอดอลค่ายอื่นอีกมากมาย หน้าใหม่ ๆ ที่รอเสียบแทน  ถ้าช่องทีวีหลักทั้งสามช่อง  กล้าที่จะงัดข้อกับ SM เราคิดว่าจะเป็น SM เองที่จะไม่กล้าแบนช่องทีวีค่ะ และก็เห็นด้วยกับ คห.9 ค่ะ ว่าการกดดันจากแฟนคลับ ในด้านภาพลักษณ์ของประเทศเกาหลี น่าจะมีผลกับเรื่องนี้ได้เหมือนกัน  เพราะประเทศเกาหลี มอง ดารา ศิลปิน เป็นสินค้าส่งออก ทำรายได้เข้าประเทศอยู่แล้ว  การที่มีบริษัทใด บริษัทหนึ่ง  ทำตัวเป็นมาเฟียในวงการ ในสายตาแฟนคลับต่างชาติ  นี่เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังมาก ส่วนตัวเรา ก็ไม่ได้ต้องการให้ JYJ ต้องไปออกรายการทุกช่อง เล่นเกมส์โชว์ หรือทุกรายการ เพียงแต่ว่า รายการเพลง ที่ศิลปินควรจะได้โอกาสในการโปรโมท   JYJ ก็ควรจะได้โอกาสนั้นด้วย  โดยไม่มีการกีดกัน เหมือนกรณี QTV ที่ถ่ายทำไปแล้ว แต่กลับไม่ได้ออกอากาศ   มันแค่หงุดหงิด และอยากรู่ว่า ถ้าจะไม่ฉาย แล้วจะถ่ายไปทำป๊ะอะไร จากคุณ : Will U marry me เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:34:59

ความคิดเห็นที่ 14 นิดนุง บางทีก็รู้เหมือนเป็นในไปเป่าครับ อย่าพึ่งตัดสินอะไรเลย บางทีอาจเป็นข่าวที่นักข่าวเค้านั่งเทียนเขียนก็เป็นได้ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือ คนที่แปลข่าวมาจากภาษาเกาหลีี ใส่ไข่เพิ่มเพื่อเข้าข้างศิลปิน คุณรู้ไหนในญี่ปุ่น มีศิลปินดังๆที่ไม่ยอมออกรายการโทรทัศน์ หลายคนและหลายวงมาก ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ไม่ยอมออกเองครับ ไม่ได้มีใึึครบังคับให้เค้าไม่ออก เพราะส่วนใหญ่ในสายตาศิลปินพวกนั้น เขาจะมองว่าการออกทีวีโปรโมทคือการขายหน้าตา เพราะฉะนั้น พวกเค้าจะขายเฉพาะผลงาน อย่างรายแรก คือ Misia บัตรคอนเสิร์ตของชีนี้ ทองชัดๆครับ ใครๆก็ออกไปดูเธอทั้งนั้น และเท่าที่ผมดูเธอมา ผมไม่เคยเห็นเธอออกรายการทีวีจำพวก มิวสิคสเตชั่น อะไรแบบนี้เลย หรือ Bump of chicken ที่ระยะหลังๆมานี้ เปิดตัว อันดับเกือบตลอดกระนั้นพวกเขาก็ออกทีวีนะ แต่ไม่เคย แสดง Performance ออกอากาศเลยแค่นั้นเอง รายสุดท้ายนี้แรงครับ ป้า Yumi Matsutoyo รายนี้ก็แทบไม่เคยออกทีวีรายการไหนเลย แต่ยอดขายแกไปนั่งอยู่ใน Top5 ของนักร้องทั้งประเทศญี่ปุ่นได้ยังไงก็ไม่ทราบ แถมมีอัลบั้ม ขายได้เกิน1ล้าน ติดต่อกัน ถึง 10 ปี (1990 - 1999) อีก!! สรุปคือ อย่าพึ่งด่วนสรุปอะไรจากข่าว และ อย่าคิดมากที่พวกเขาไม่ได้ออกทีวีเลยครับ ขนาดไม่ออกยังดังจะตายอยู่แล้ว---!! -_- ปล. มีคนบอกว่า ลีซูมานอยู่เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น ผมละขำครับ ทั้งๆที่ตอนแรก แฟนๆศิลปิน SM เกลียดคนๆนี้จะตาย จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:57:47

ความคิดเห็นที่ 15 เจ้าของกระทู้จะกลับมาตอบไหมเอ่ย แต่ละคนเมนต์กันยาวเชียว ^^" อ่านแล้วแอบงงนิดหน่อยค่ะว่าเจ้าของกระทู้ต้องการจะสื่อว่าอะไรเอ่ย? จริงๆแล้วก็เป็นอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า SM อาจจะไม่จำเป็นต้องบีบสื่อให้ทำตามแต่สื่อก็ต้องคำนวณแล้วว่าเอาออกไปจะคุ้มไหมกับปัญหาที่จะตามมา ตอนนี้ JYJ เลยได้เป็นเน็ตไอดอลและไอดอลของช่องข่าว และสื่อข่าวต่างๆที่ไม่ใช่สื่อบันเทิง ยิ่งยูชอนได้เล่นละครก็ยิ่งทำให้ JYJ เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของวงการละคร ซึ่งจริงๆแล้วสำหรับวงการบันเทิงเกาหลี พวกนักแสดงยังถือว่ามีสถานะเหนือกว่านักร้องไอดอลอยู่กลายๆ ส่วนตัว JYJ เองก็ยังได้โฆษณาชิ้นใหญ่ๆมาอยู่ในมือ อย่างเช่น LOTTE DUTY FREE ที่ต่อสัญญากับพวกเขาไปด้วยซ้ำ แล้วก็แปลกที่ไม่เอาวงจาก SM เลย มาเอา JYJ ไปรวมกันวงอื่นและนักแสดงชั้นนำคนอื่นๆ หรืออย่างเครื่องสำอาง Nature Republic ที่เห็นกันชัดๆกับอำนาจซื้อของแฟนคลับที่ทำให้ Nature Republic มีรายได้เพิ่มขึ้นเยอะ ทั้งๆที่อยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา เลยไม่ค่อยแน่ใจค่ะว่างานนี้จะออกหัวหรือก้อย เพราะถ้าพูดถึงอำนาจที่แท้จริงก็ยังอยู่ในมือผู้บริโภค แต่ผู้บริโภคจะแสดงอำนาจอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ (เมนต์งงๆด้วยความง่วง) #14 แฟนคลับคิดมากก็เพราะตัวศิลปินก็บอกเองด้วยค่ะว่ามันน่าเสียดายที่พวกเขาเป็นคนเกาหลี แต่กลับไม่สามารถออกรายการเพลงในประเทศเกาหลีเองได้ พวกเขาก็อยากจะโปรโมทงานของตัวเองค่ะ แถมศาลเองก็ตัดสิน และเห็นแล้วว่ามีการแทรกแซงจาก SM และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงๆ แต่คำแปลคำตัดสินของศาลยาวมากๆ เลยยังไม่มีใครมีแรงพอจะแปลเป็นภาษาไทย ^^" แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 01:09:12 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 01:07:15

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับ คห 14 นะคะ เราว่า เอาการโปรโมตแบบญี่ปุ่นมาใช้ในเกาหลีไม่ได้หรอกค่ะ เพราะขนาดนิชคุณเองยังยอมรับในรายการวู้ดดี้เลยว่า ที่พี่เขาติด 2PM เนื่องจากหน้าตามาก่อน แล้วที่สังเกตมาเนี่ย วงการเกาหลีเน้นการออกอากาศทางทีวีมากค่ะ เป็น 1 วิธีในการโปรโมทที่สำคัญมาก ดังนั้นถ้าต้นสังกัดเล็กๆโอกาสดังยากนะคะ ยกเว้นเพลงโปรโมทจะดังจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น วง The BOSS หน้าตาดีทั้งวง ร้องเพลงดีทั้งวง ติดแค่เพลงโปรโมทไม่ค่อยดี ค่ายเพลงเล็กและโปรโมทน้อยมากๆค่ะ ไม่ดังสักที ส่วน IU ค่ายเพลงก็เล็กค่ะ กว่า IU จะมาดังเปรี้ยงก็ตอนเพลงที่เธอร้อง 3 octaves ค่ะ ดังนั้นสรุปได้ว่า การโปรโมททางทีวีสำคัญมากในเกาหลีค่ะ และเราก็คิดว่า JYJ อยากออกอากาศทางทีวีมากๆ แต่ไม่มีโอกาสค่ะ และก็ยังดีค่ะ ที่ JYJ ยังมีงานละครและละครเพลงให้เห็นหน้าตากันอยู่บ้างค่ะ คาดว่าคงจะมีผลต่อการตัดสินใจอะไรหลายอย่างของช่องในอนาคตค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 01:13:59 จากคุณ : tyrosine เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 01:11:51

ความคิดเห็นที่ 17 มุมมองผมอาจจะขัดใจแฟนๆ JYJ ถ้าตัวคุณเองเป็นผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ คุณอยากจะเสี่ยงไหมครับ เสี่ยงที่จะเอา JYJ มาออกอากาศ แล้วมีโอกาสสูงที่จะเป็นศัตรูกับ SME ในเมื่อวิถีทางที่เป็นอยู่ในตอนนี้ยังทำให้กิจการทำกำไรได้อยู่ตัว กำไรที่เพิ่มขึ้นจาก JYJ จะเท่าไหร่กันเมื่อเทียบกับการเสีย SME หลายๆวงรวมกัน ผู้บริหารเค้าก็ต้องเซฟตัวเองนะครับ ต้องหาเงินเลี้ยงลูกเมีย ไม่ใช่นักเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องที่ 3 สถานีหลักจะร่วมมือกันนั้นผมคิดว่าคงไม่เกิดครับ เนื่องจากผมคิดว่าเรื่องของ JYJวงเดียวมันค่อนข้างเล็กครับในสายตาสถานีโทรทัศน์ ถ้าจะเกิดขึ้นคงต้องรอให้เกิดกรณีแบบ JYJ หลายๆวงอ่ะครับ ประมาณว่า SNSD SJ SHINee เป็นแบบ JYJ ออกมาจาก SME กันหมด ปล. ผมชอบทั้ง TVXQ เก่า ปัจจุบัน และ JYJ นะครับ จากคุณ : Shapley เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 02:33:35

ความคิดเห็นที่ 18 ป๊าดดดดด ไปกันใหญ่แล้ว ผมไม่ได้กะจะมาว่า JYJ เลยสักนิด อย่างที่ผมบอกไปแล้ว ผมไม่เคยสนใจฝั่งไหนทั้ง TVXQ หรือ JYJ เลย แต่อะไรรู้มั๊ยที่ทำให้ผมหันมามองวงนี้นิดๆ เพราะพวกคุณหน่ะแหละ แฟนคลับ JYJ ผมชื่นชมพวกคุณนะ เหนียวแน่นดี แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าตามสื่อต่างๆ เหมือนอย่างเมื่อก่อน ที่ไปออกรายการต่างๆ ทำให้แฟนคลับสามารถติดตาม และหลายคนก็เกิดความประทับใจในสมาชิก TVXQ (เก่า) ผมก็พูดไม่ถูกเหมือนกันแหะว่าผมจะสื่ออะไร 555 สำหรับผมที่เป็น"คนนอก" + คิดแปลกกว่าชาวบ้านเค้า เอาเป็นว่าผมขอนำเสนอมุมมองใหม่ก็แล้วกัน ไม่แน่ว่าอาจมีการพูดถึงไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าซ้ำก้ขอโทษละกันเด้อ เพราะผมไม่ได้ติดตามวงนี้จิงๆ -*- ขอกลับมาอธิบายหนทางที่ผมได้เกริ่นไว้แล้วตอนตั้งกระทู้ อย่างที่ทุกคนทราบ หนทางที่คุณจะชนะ SM ได้ ก็คือ "การทำให้ ช่องใหญ่ 3 ช่อง ออกอากาศ JYJ และจำเป็นจะต้องเป็นทั้ง 3 ช่องเลย" เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะชนะ จะมาเริ่มขอแพลมทีละนิด เอามันขอออกช่องนี้ก่อนละหว่ะ อันนี้ไม่ได้นะ เหตุผลก็ดังที่เคยได้พูดมาแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วเหมือนกันว่ามันยากมากกกกกกกกกกกกกกกกก จะพูดพร่ำเรื่องคุณธรรม มันได้แค่บ่น ขอเอาจิงจังไปเลย วกกลับมาใหม่ เราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ ไอ้ที่ผมคิดมันอาจเว่อไป มันอาจเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน ก่อนอื่นถามว่า แฟนคลับ JYJ รัก JYJ แค่ไหน สอง แฟนคลับ JYJ มากหรือน้อยแค่ไหน และเหนียวแน่นกันแค่ไหน ถ้าผ่าน ก็เริ่มเลยละกัน เริ่มจากตกลงกันก่อนเลยระหว่างแฟนคลับ งดเสพ 3 ช่องนั้น เพื่อทำให้เค้าเห็นว่า แฟนคลับ JYJ มีเยอะหรือมี Power แค่ไหน ประการแรกนี้ถ้าไม่ผ่านก็แสดงว่า JYJ ยังไม่คุ้มพอที่จะเสี่ยง ถือเป็นอันพับโปรเจค แต่ถ้าได้ผล จะทำให้รู้ว่าเรตติ้งรายการต่างๆของเค้าตกไปขนาดไหน ถือเป็นการประกาศศักดาของ JYJ + แฟนคลับ ทีนี้แหละ เราก็จะมีข้อเสนอไปบอกพวกเค้าได้ว่า การที่คุณจะเสี่ยงแบบนี้มันคุ้มค่านะ เช่น ปัจจุบัน มีคนดูทีวี 100 คน มี3ช่องก้แบ่งช่องละ30 30 30 ถ้าเหลือ 2 ช่อง ตามหลักแล้วมันไม่ 50 50 ห่รอก เพราะอีกช่องไม่ 0 แน่นอน อาจะเป็น 20 40 40 หรืออย่างแย่ก็  เหลือ พันธมิตรกับ SM มันช่องเดียว เป็น 15 15 70 หรือ 20 20 60 อะไรก็ว่าไป แต่ถ้าหากว่าคุณเสี่ยง ถ้าเกิดผลล่ะ คุณจะได้ฐานทั้ง SM + JYJ เลย อาจมีคนสนใจหันมาดูทีวีเพิ่มขึ้น เป็น 200 คนหล่ะ แบ่งกันคนละ 65 65 65 เลยนะ เหนือสิ่งอื่นใด ก็ต้องทำให้เค้าประจักถึงพลังของ JYJ ว่าคุ้มค่าแก่การลงทุน อย่างที่บอก ถ้าทั้ง 3 ช่องนั้นเห็นถึงจุดนี้แหละกล้าทำ SM ก้ทำอะไรไม่ได้ และแน่นอน ก็จะยังคงป้อนศิลปินออกสื่อเหมือนเดิม หลายๆความเหนนั้นพูดถึงว่า ถ้า SM ปล่อย JYJ ไป SM ก็จะเสียรายได้ลง ถูกต้อง เพราะงั้น SM จึงต้องแทรกแซง เป็นแหตุผลที่ปกติมากสำหรับ ธุรกิจ จริงๆแล้วผมเอาใจช่วยซะด้วยซ้ำไป เพียงแต่ไม่อยากให้แฟนคลับลำพอง ยกตัวอย่างเช่น คห 7 ขอยกมาทั้งชุด และผมขอตอบเพียงไม่กี่บรรทัดละกัน "ณ เวลานี้ การที่ JYJ ยังไมได้ออกอากาศ ถึงแม้ว่า SM จะทำหรือไม่ทำอะไร ทั้งๆที่ JYJ หรือแฟนคลับ JYJ จะทำอะไรไปมากขนาดนั้นก็ตาม มันก็ยังถือว่า SM ชนะอยุ่ดี และยังคงเป็นอยู่แบบนี้ จนกว่าจะถึงวันที่ JYJ ได้ออกโปรโมทตามปกติ เมื่อนั้นแหละถึงจะบอกว่า คุณชนะ SM แพ้" ความเห็นของผมอาจเป็นการคิดไรไปเพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อยก็ได้ แต่มันคุ้มค่าแก่การเริ่มทำอะไรบางอย่างให้คนที่คุณบอกว่าคุณรัก เราเห็นจุดหมายแล้วนิ แค่เรายังไม่เห็นวิธีที่จะไปถึง นั่นไม่ได้หมายความว่าจุดหมายไม่มีอยุ่จริง เพราะฉะนั้น ผมถึงถามตั้งแต่แรกแล้วว่า "แฟนคลับ JYJ รัก JYJ แค่ไหน? และ แฟนคลับ JYJ มากน้อยและเหนียวแน่นกันแค่ไหน?" จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 02:53:54

ความคิดเห็นที่ 19 ข้างบนยาวไปเนอะ ขอตัดตอนหน่่อย แต่จะขอเริ่มความคิดมุมใหม่(อาจจะเก่า แต่หลายๆคน คงเลิกหวังแล้ว) คือการให้กลับมารวมตัว 5 คน เหมือนเดิม กลับ SM ว่าสัญญากันใหม่ เริ่มต้นใหม่ เชื่อมั๊ยว่า SM พร้อมรับกลับ แต่ถ้าจะพูดกันอยู่ว่า "คับที่พออยุ่ได้ คับใจอยุ่ยาก" หรือว่า ใช้งานหนัก นุ้นนี่นั่น เงินน้อย ไม่คุ้ม หรืออะไรก็ว่ากันไป ก็คงทำไม่ได้ กรณ๊นี้อ่ะนะ ผมเชื่อว่า SM ไมได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น ไม่งั้นพวกเค้าคงไม่ดัง กล้าฟันธงมั๊ยว่า ถึงไม่ได้อยู่ที่ SM ยังไงก็เกิด ฝีมือขนาดนี้ หน้าตาแบบนี้ ผมคนนึงหล่ะที่ไม่กล้า อีกอย่างถ้า SM แย่จิง ทำไม อีก 2 ถึงไม่ออกตามไปด้วย ไหนจะ Boa ต่อสัญญา เรื่องเงินผมเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญจิงๆ แต่ไอ้ที่บอก ใช้งานหนัก ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ จิ๊บๆ กำลังดังต้องรีบตักตวง ผมว่าคนเคยดังอีกมากมาย ยอมที่จะกลับมาทำงานหนักแบบไม่คิดชีวิต หากเค้าสามารถกลับมามีชื่อเสียงแล้วปั้มเงินมากๆได้อีกครั้ง ศิลปินดัง บริษัทได้ แล้วใครว่า ศิลปินไม่ได้อะไรด้วย ดงบังโด่งดังมีชื่อเสียง ไม่ใช่ว่าเพราะ SM ดัง แต่ SM ดัง เพราะ ดงบังดัง ศิลปินในค่ายดัง การกลับ SM เป็นหนทางที่ง่ายกว่าเยอะ เพียงแค่ให้ 3 คน JYJ เปลี่ยนใจ ดงบังก็ได้กลับมาเป็น 5 คนอย่างเก่า แฟนคลับก้ไม่แตกแยก รายได้ SM มากขึ้น ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง ไม่ต้องกลัวศัตรูคู่แข่ง แน่นอนว่า การกลับมาคราวนี้ ร่างสัญญากันใหม่แน่นอน SM ยืดหยุ่นขึ้นแน่ๆ ผลประโยชน์เข้าศิลปินมากขึ้นแน่นอนจากเหตุการนี้ ทั้งหลายทั้งปวง ต้องขอโทษที่อาจทำให้ขัดใจแฟน JYJ แต่ผมไม่ได้มีความประสงด์ร้ายเลยแม้แต่น้อย อยากให้กำลังใจ แต่ไม่อยากให้มีความมั่นใจมากเกินไปนัก ทำอะไรที่คิดว่ามันเป็นประโยชน์สำหรับทางออกดีกว่า ไม่ใช่แค่พร่ำเพ้อบ่น สุดท้ายก็ได้แค่เป็นการเล่นอินเตอเนทของคนๆนึง ไม่เกิดผลอะไร (ผมพูดแรงไปป่ะ -*- ขอโทดละกัน) โลกนี้มันซับซ้อน ทุกอย่างต้องใช้เงิน โลกหมุนด้วยเงินทุน เงินทุนมาจากผู้ยอมจ่าย ผู้ยอมจ่ายเพราะเป็นผู้เสพ ผู้เสพก็เสพมาจากผู้หาเงิน จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 03:24:42

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องจะกลับ SM หรือไม่ เราปล่อยให้ JYJ เป็นคนตัดสินใจค่ะ พวกเค้ารู้ดีที่สุดว่าต้องการอะไร เราเป็นแค่คนที่สนับสนุนศิลปินที่รัก ในทางที่เค้าเลือกแล้ว แค่นั้นเองค่ะ ส่วนตัวเราไม่อยากให้กลับค่ะ ถ้าจะรวมกัน 5 คน อยากให้อีก 2 ออกมาจาก SM (แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้) ในเรื่องบอยคอร์ตสถานีเป็นเรื่องที่ยากมากค่ะ และมีผลเพียงน้อยนิด เพราะคนดูมีทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ แต่ถ้าบอยคอร์ต SM ทำได้ง่ายกว่ามากค่ะ จากคุณ : anegi เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 09:25:00

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าจะให้กลับ SM เพื่อจะได้กลับไปรวมกันเป็น 5 แล้วได้ออกทีวี ได้โปรโมทเหมือนที่เคย แฟนคลับอย่างเราขอเลือกตาม JYJ แบบทุกวันนี้ดีกว่า ค่ายนี้น่ะ แฟนๆ ไม่ชอบสักเท่าไหร่ ตั้งแต่สมัยที่หนุ่มๆ เองก็ยังอยู่ในค่ายแล้ว ประวัติค่ายหลายๆ อย่างทำให้รู้สึกอย่างนั้น หลายคนยังแปลกใจว่าทำไมน้องๆ มันเป็นเด็กดีอยุ่ในโอวาทจังฟระ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ ไม่มีบ่น ไม่มีปริปาก มาเจออีกทีน้องก็ฟ้องซะแล้ว แต่ก็ไม่แปลกใจที่ฟ้อง มีแต่แปลกใจที่เมื่อเรื่องราวเปิดเผยขึ้น สัญญาถูกแบออกมา ก็ได้แต่อึ้งว่า นี่มันเลวร้ายกว่าที่เราเคยรู้อีกเหรอไงเนี่ย ช็อคค่อดๆๆๆ เพราะที่เคยคิด เคยรู้สึกมา ก็ไม่ค่อยปลื้มอยู่แล้ว ส่วนใครที่จะออกหรือไม่ออก มันเป็นเรื่องของเหตุผลที่แต่ละคนมีค่ะ ข้อจำกัดของคนเราไม่เท่ากัน และทุกคนมีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง เอาสมาชิกในวงมาเทียบกัน และจะบอกว่า มันคงไม่เลวร้ายนักหรอก เพราะก็มีคนไม่ออกนิ มันไม่ได้หรอกค่ะ อย่างที่บอกแหละค่ะ ว่าแต่ละคนมีข้อจำกัดต่างกัน และจุดสิ้นสุดของความอดทนก็ต่างกัน รวมถึงปัจจัยเกื้อหนุนก็ต่างกันด้วยค่ะ แต่สำหรับค่ายนี้ ยังไงแฟนๆ อย่างเราก็ยังรู้สึกขอบคุณเค้าที่เลือกน้องเรามาปั้นนะคะ ในส่วนนี้ก็ยังคงขอบคุณเค้าอยู่ เพราะถ้าไม่มีเค้า เราก็อาจจะไม่ได้มีวันที่ได้ติดตามวงอย่าง JYJ ในปัจจุบัน เพราะแต่ละคนก็คงวิ่งตามความฝันตัวเองไม่ลดละ และอาจจะไม่ได้มารวมกลุ่มกัน แต่เค้าเชื่อว่า ต่อให้ SM ไม่ได้หยิบมาปั้น  เด็กพวกนีั้ก็ยังจะไล่ตามความฝันตัวเองต่อไปได้ มีเส้นทางของตัวเองได้ แม้จะไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะดังเหมือนอย่างนี้หรือเปล่า แต่ถนนดนตรีพวกเค้ามันทอดยาวแน่ๆ ค่ะ กระทู้นี้มันก็เป็นการแชร์ความคิดกันอ่ะนะคะ อย่างเราก็ไม่ได้มองว่าจขกท.ว่าอะไร JYJ และเราก็คิดว่าแฟนๆ JYJ ที่มาตอบ ก็รู้สึกเหมือนกับเรา แต่เพราะมันเป็นการแชร์ข้อมูล และเพราะมันเป็นเรื่องที่มีประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหว ดังนั้นการคอมเม้นท์ต่างๆ มันจึงดูจริงจัง และตึงเครียดนิดๆ  แต่ก็คิดว่าดีนะคะ ที่มีพื้นที่ให้ทั้งคนที่ไม่ใช่แฟน และเป็นแฟนคลับได้ออกมาร่วมพูดคุยกันค่ะ จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 09:56:20

ความคิดเห็นที่ 22 กลับเอสเอ็ม? ตลกอ่ะ ทุกวันนี้เราอยู่กับโลกแห่งความจริงที่สุดแล้วค่ะ ดังนั้นจึงไม่หวังเรื่องกลับไปรวม 5 คนแน่ๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่า 3 กลับ หรือ 2 ออก เอาเท่าที่เห็นทุกวันนี้น้องก็มีความสุขดีกับการทำงานทุกอย่าง จะขาดบ้างก็เรื่องปัญหากัีบค่ายเก่า ที่ส่งผลต่อเรื่องการออกสื่อออกทีวีนี่แหละ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่แฟนๆหวังมากก็เท่านั้น และแฟนๆไม่ใช่แค่พร่ำบ่นไปวันๆแน่ๆ มีความพยายามจัดทำสถานีทางอินเตอร์เนตกันเองเพื่อการเผยแพร่ผลงานของน้องๆอีกทาง มีการทำ bus ad หรือแฟนที่ญี่ปุ่นก็ทำโฆษณาให้น้องขึ้นตึกใหญ่ๆตามเมืองใหญ่ๆหลายแห่งในญี่ปุ่น ด้านกฏหมายก็มีการทำ petition สำหรับแฟนเกาหลีและแฟนต่างชาติ เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมและการบังคับของศาล ซึ่งตรงนี้ได้ผลไปแล้วด้วยซ้ำในส่วนของเรื่องการปรับสัญญาของศิลปินเอสเอ็มทั้งค่าย เราอ่านบทความของแฟนเกาหลีที่เขียนไว้ว่า แฟนคลับของน้องสามคนอยู่กับน้องมานานและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไปพร้อมๆกัน เราไม่ใช่แฟนในสมัย H.O.T ที่ทำได้แค่ไปประท้วงหน้าตึกเอสเอ็ม และผลมีเพียงว่าสังคมมองว่าเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ทำอะไรไร้สาระนัก แต่ตอนนี้แฟน JYJ กำลังพยายามทำอะไรที่แตกต่าง การผูกมิตรกับทนายความและนักเขียนชื่อดังที่คนเกาหลีให้ความเคารพ และเมื่อพวกเขาเหล่านั้นออกมาพูดถึงความไม่เป็นธรรมที่ JYJ ได้รับ ก็ถูกจับตามองโดยคนในสังคมเป็นอย่างมาก รวมทั้งถ้าทุกวันนี้แฟนคลับไม่ออกมาเคลื่อนไหวกระจายข่าว ข่าวลือไร้สาระที่เอสเอ็มพยายามป้ายสีน้องอาจมีคนเชื่อไปแล้วมากมายก็ได้ (เช่นเรื่องการลงทุนเครื่องสำอางหรือการเซ็นสัญญากับค่ายใหม่ ที่ศาลตัดสินแล้วว่าน้องไม่ผิด) ทั้งหมดนั่น เราไม่หวังว่าจะชนะเอสเอ็มได้ง่ายดายหรอก อย่างที่มีคนเคยบอก การต่อสู้ครั้งนี้ถึงใครชนะก็ได้แผลกันไปทั้งคู่ แต่เราก็ภูมิใจนะว่าเป็นการต่อสู้เพื่ออะไรหลายๆอย่างที่ดูมีศักดิ์ศรี เป็นศิลปินตัวเล็กๆและแฟนคลับที่กล้างัดข้อกับค่ายใหญ่ ได้สิทธิการทำงานเป็นนักร้องเป็นศิลปินที่สามารถออกเสียงมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ในผลงานการทำงานของตนเองได้เต็มที่ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องทำทุกอย่างที่ค่ายสั่งเหมือนที่เคยเป็น แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 10:51:01 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 10:48:29 จากคุณ : vanmnn เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 10:42:05

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่ามันก็ต้องดูไปนานๆ อ้ะ (ก็หนังเรื่องนี้มันยาว มีหักเหลี่ยมกันตั้งหลายรอบ ทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลี) แต่เบื้องต้นคือ คงต้องรอให้ศาลตัดสินก่อน เรื่องไม่ได้ออกอากาศสำหรับวงเจวายเจ ก็น่าจะมีผลมากๆ  เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสินเป็นทางการ แต่พอศาลตัดสินแล้วก็คงได้ออกสื่อนั่นแหละ ช่องทางต่างๆ คงไม่ลำบากเท่าตอนนี้ ด้วยพลังของแฟนคลับที่มีอยู่แล้วด้วย  จะให้อำนาจมืดทำให้ศิลปินหายเงียบเข้ากลีบเมฆคงเป็นไปไม่ได้ ถึงวงการบันเทิงเกาหลีใต้เองจะเต็มไปด้วยเส้นสาย และอิทธิพลไม่ต่างกับวงการอื่น แต่ก็ยังอยู่ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย  ถ้าเป็นเกาหลีเหนือก็ว่าไปอย่าง เหอะๆๆ ปล อ้อ ออกตัวเลยเราเป็นแฟนของดงบังใหม่ (ถึงจะไม่ดังมากอะไร ขายได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ตามอัตภาพ )  ก็ไม่อยากให้กลับมาเป็นห้าคนค่ะ  เหมือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันไกลเกินไปมากแระ แล้วเราก็ค่อนข้างพอใจกับทุกวันนี้ และพูดได้เต็มปากเลยว่า ภูมิใจกับสิ่งที่โฮมินได้ตัดสินใจ ก็ยังหวังว่าพอแก่ๆ กันไป ห้าคน คงมีมานั่งกินโซจู  รำลึกถึงอดีต คุยเรื่องราวที่แต่ละคนได้เจอมาในช่วงที่ห่างกันไป พอแระ ตอนนี้หวังแค่นี้แหละ ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งที่หวังไว้ในอนาคตต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ส่วนฝั่งสามคน เรานับถือความเป็นนักสู้ของแฟนคลับเขานะ  เคสนี้มันเหมือนเดิมพันด้วยศักดิศรี  ตัวเราไม่ได้อะไรกับศิลปินอย่างที่บอก แต่กับแฟนคลับเจวายเจบางคน นี่ต้องยกนิ้วให้เลย สามารถมาก   และที่เห็นด้วยสุดๆ คือ สงครามนี้ไม่มีผู้ชนะอย่างแท้จริง  นอกจากค่ายที่เสียผลประโยชน์แล้ว ตัวศิลปินเองด้วยทั้งห้าคน กับแฟนคลับบางส่วนที่ก่อดราม่าไม่เว้นแต่ละวัน แต่ถึงจะอย่างนั้นก็มีข้อดีมากมายเหมือนที่แฟนๆ เจวายเจ เขียนไว้ข้างบนเช่นกัน ปล เราอาจจะโดนด่าได้ ที่พิมพ์ประโยคนี้ออกไป  ส่วนตัวจริงๆ ต้องขอบคุณเจวายเจด้วยที่ฟ้อง และขอบคุณโฮมินเช่นกันที่ไม่ฟ้อง จริงๆ แล้ว สองกับสามมันก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดนักหรอก  555 แม้ว่า ศิลปินที่สร้างความประทับแรกได้มากสุดของเราก็คือห้าคนตอนที่ เดบิวเพลง HUG  นี่แหละ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 08:52:58 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 22:20:15 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 16:13:26 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 12:50:01 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 11:56:42 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 11:54:19 จากคุณ : may (mayro) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 11:38:19

ความคิดเห็นที่ 24 อึดอัดนะครับ ให้กีบ จขกท กับทุกความเห็นของ จขกท ไม่ได้ จากคุณ : army_kapp เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 11:42:31

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นกระทู้ที่แต่ละคห.ยาวมากๆ  เท่าที่เราติดตามข่าวของทาง JYJ มานะคะ  คือว่าครั้งนี้เนี่ย  มีนักเขียน  นักกฎหมาย  นักข่าว ค่อนข้างจะเขียนข้อความที่ตำหนิเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เค้าบอกว่าสถานีโทรทัศน์ 3 ช่องหลักนี้เป็นของรัฐบาล  อยู่ได้เพราะภาษีประชาชน แต่กลับตัดสิทธิ์การออกรายการของ JYJ มันก็น่าแปลกนะคะ  ออกในช่วงข่าวได้  แต่ไม่สามารถออกในช่วงบันเทิงได้ บางทีได้ออกช่วงข่าวนี่อาจจะได้แฟนคลับเพิ่มหรือทำให้ผู้คนที่ไม่เคยสนใจกลับมาสนใจก็ได้นะคะ  มันก็โอเคนะ  ฮ่าๆๆๆๆ อันที่จริงเรามองว่าในปัจจุบันนี้ความมีอำนาจของไอดอลจากค่าย SM มันไม่เท่าเมื่อก่อนแล้วนะ  เพราะมีไอดอลจากค่ายอื่นอีกมากที่เป็นตัวเลือก เราว่าอาจจะไม่ถึงขนาดไม่มีวันเอาชนะในศึกนี้ได้ด้วยแฟนคลับอย่างเดียว  แต่เราคิดว่าถ้าศาลตัดสินให้ JYJ ชนะคดี แล้วยังคงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น  มันอาจจะทำให้ผู้คนบางส่วนหันมาสนใจ  แล้วอาจจะทำให้เกิดกระแสสังคมก็ได้นะคะ ถึงสุดท้ายจะได้มาแค่ไหน  แต่เราก็ถือว่าแฟนๆกับตัว JYJ เองก็ได้สู้ถึงที่สุดแล้วล่ะค่ะ  JYJ โชคดีมากที่มีแฟนคลับรักและพยายามหาหนทางต่อสู้ไปด้วยกันขนาดนี้ อ้อ  เรารักทั้ง 5 สนับสนุนทั้ง 5 แต่เราไม่เคยคิดที่จะให้ JYJ กลับไปค่ายนั้นเพื่อให้เป็น 5 หรอกนะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 12:14:50 จากคุณ : munamm เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 12:00:01

ความคิดเห็นที่ 26 ขอนิดนึง เรื่องกลับไปค่าย SM หลังจากที่ได้รู้ในรายละเอียดเรื่องสัญญา (ตามที่ปรากฎในศาลแล้วมีการแปลออกมา)  รวมถึงการกีดกันต่าง ๆ + กับ คำสัมภาษณ์ ถึงจะอยากให้กลับไปรวม  5 แต่เราก็ถามตัวเองเหมือนกันว่า เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะกลับไปร่วมงานกันได้อีกเหรอ ถ้าเอาทั้ง 5 ไปเขย่ารวมกันใหม่ ส่วนผสมนี้มันจะยังกลมกล่อม ได้เหมือนเดิมไหม๊ เราคนนึงหล่ะที่ไม่ต้องการให้ JYJ กลับไป SM   เรายอมที่จะไม่เห็น JYJ ปรากฏตัวทางทีวี ดีกว่า  ที่จะให้ JYJ กลับไปอยู่กับ SM และทางศิลปินเองก็คงจะยากค่ะ  ที่ผ่าน ๆ มาศิลปินที่ออกจากค่ายนี้ ไม่เห็นมีใครกลับไปสักคน แนวทางที่แฟนคลับกำลังทำในทุกวันนี้ เราไม่สามารถการันตีได้ว่า แฟนคลับจะชนะ เพียงแต่หวังว่า อะไร ๆ มันจะดีขึ้นกว่านี้ จากคุณ : Will U marry me เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 12:41:36

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ค่อยรู้เรื่องวงการทีวีเกาหลีเท่าไหร่ แต่ที่อ่านมาคิดว่าจริงๆ SM ก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดนั้น คือในส่วนของรายการเพลงในทีวีเกาหลีก็อาจจะใช่ แต่ส่วนอื่นอย่างละครอะไรนี่ทำอะไรไม่ได้เลย เลยทำให้ยังมีละครอยู่บ้าง มีสปอนเซอร์จ้างถ่ายโฆษณา อย่างนึงที่เราไม่รู้คือมีข่าวบ้างมั้ยคะ คือข่าวทีวีที่พูดถึงกิจกรรมของ JYJ น่ะค่ะ เช่นข่าวงาน showcase ข่าวละคร ฯลฯ ต่างจากกรณีของค่ายจอห์นนี่ที่ญี่ปุ่น เพราะที่จอห์นนี่มีอิทธิพลกับวงการทีวีญี่ปุ่นมาก เพราะเด็กในค่ายนั้น ครอบงำทุกส่วนในวงการบันเทิงอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่วงการเพลง ถ้าโดนค่ายนี้แบน ก็จะเสียพระเอกละครไป 20 คน และเสียรายการทีวีต่างๆไปอีกมาก เพราะรายการทีวีที่ใช้เด็กจอห์นนี่เป็นพิธีกรประจำตอนนี้มีประมาณ​ 30 กว่ารายการได้มั้ง คิดว่าตรงนี้อิทธิพลคับวงการทีวีญี่ปุ่นมากกว่าที่ SM เป็นกับวงการทีวีเกาหลีอยู่หลายช่วงตัว (แต่ในวงการญี่ปุ่น คิดว่าประตูการกลับไปออกสื่อหลักของ JYJ ปิดตายกว่าที่เกาหลีซะอีก) เรื่องของ JYJ ในทีวีเกาหลีตอนนี้ ก็คงมีปัญหาแต่เฉพาะกับรายการเพลง เพราะเท่าที่รู้มาแบบคนที่ไม่ใช่แฟนฝั่ง K จริงจัง ก็คิดว่าไม่แปลกที่ SM ยังมีอิทธิพลตรงนั้น เพราะนักร้องของทาง SM ก็มีหลายวงอยู่ และดูท่าจะเป็นวงแม่เหล็กของรายการเพลง แต่ถ้าจะให้รายการเพลงของช่องทีวีทุกช่องรวมตัวกันงัดข้อกับ SM เราคิดว่ามันเป็นไปได้ยากค่ะ หนึ่งคือมันก็เหมือน Prisoner's Dilemma ใน Game Theory http://en.wikipedia.org/wiki/Prisoners_dilemma#Strategy_for_the_classic_prisoner.27s_dilemma  ผลประโยชน์​ของการเอา JYJ มาออกเทียบกับผลเสียเราก็ไม่แน่ใจว่ามันจะมีมากกว่าจริงมั้ย แต่ต่อให้มีมากกว่า ตามเกมของ Prisoner's Dilemma แต่ละรายการก็ไม่เสี่ยงเอา JYJ มาออกอยู่ดี เพราะต่างรายการต่างก็ไม่แน่ใจว่ารายการเพลงของช่องอื่นจะร่วมมือกันต้าน SM จริงรึเปล่า สองก็คือเท่าที่อ่านมา วงการเพลงเกาหลีค่อนข้างเล่นพรรคพวก อิงบริษัท อิงค่ายอยู่พอสมควร ดูจากการที่มีองค์กรนู้นนี้ออกมาให้สัมภาษณ์เข้าข้าง SM และเรียกร้องให้คนในวงการทำเป็นตัวอย่าง เพราะกลัวว่าระบบการปั้นไอดอลที่มีมานาน ฝังรากลึกจะต้องเปลี่ยนไปเพราะกรณี JYJ พวกโปรดิวเซอร์รายการเพลงตามช่องต่างๆก็คงเป็นคนที่ใกล้ชิดกับระบบแบบนี้ล่ะค่ะ ก็อาจจะกลัวการเปลี่ยนแปลง และเข้าข้างพรรคพวกกันเอง เลย"เต็มใจ"ร่วมกับ SM ในกรณีของ JYJ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 13:32:40 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 13:06:28

ความคิดเห็นที่ 28 อย่าเพิ่งซดมาม่ากันเลยนะคะ ช่วงนี้กินในบอร์ดนอกจนอืดไปแล้ว ^^" แอบเห็นด้วยกับคุณ NAJ ว่าประตูทางญี่ปุ่นดูจะปิดตายมากกว่าทางเกาหลีอีก (ยกเว้นลุงจอนจะสนใจรับเพื่อนยามะพีและเพื่อนๆของเพื่อนยามะพีไว้ดูแลอีกสามคน) อย่างที่หลายๆคนพูดไปแล้วว่าในเกาหลีเอง กลุ่มที่มีผลประโยชน์ร่วมกับทาง SM และอยากจะเชือดไก่ให้ลิงดู ก็มีอยู่จำนวนมากค่ะ และเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการเพลงเกาหลีแน่ๆ เรื่องการจับมือรวมกันของสามช่องยักษ์ใหญ่ของเกาหลีนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ยาก เพราะก็ต้องพิจารณาถึงผลกำไรของแต่ละรายการ อย่างที่คุณ Shapley บอกด้วย แต่อีกนัยหนึ่ง จริงๆแล้ว JYJ ก็ไม่ได้ถึงขนาดโดนตัดจากช่อง แต่โดนตัดจากรายการเพลงมากกว่า (มีข่าวลือกันมาด้วยซ้ำว่าฝ่ายข่าว/ละคร กับฝ่ายเพลง ในช่อง KBS ทะเลาะกันเองเพราะเรื่องนี้) แต่จริงๆแล้วส่วนอื่นๆของเกาหลีรวมไปถึงกระแสสังคมก็กลับมาเข้าข้าง JYJ ค่อนข้างมาก เห็นได้จากการเล่นข่าวและการออกมาเคลื่อนไหวของคนมีชื่อเสียงในแต่ละวงการ อย่างนักกฎหมาย นักเขียน หรือแม้กระทั่งนักแสดง ที่ทุกคนที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับยูชอนก็ออกมาพูดสนับสนุนพวกเขาโดยตลอด แฟนๆ JYJ เองก็เคลื่อนไหวไม่หยุดยั้งค่ะ ตอนนี้ที่เกาหลีเองมีการล่ารายชื่อลง petition เพื่อให้ JYJ ได้ออกสื่อตามคำสั่งศาลที่ห้ามไม่ให้ SM เข้ามาแทรกแซงงานของสามหนุ่มและให้อิสระการทำงานกับ JYJ อย่างเต็มที่ ส่วนแฟนๆต่างประเทศเองก็เพิ่งจะมีการลงชื่อส่งศาลและหน่วยงานรัฐที่เกาหลีกันไป ซึ่งกลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากสื่อสิ่งพิมพ์ของเกาหลีพอสมควรเลยค่ะ มีคนจะไปสัมภาษณ์และทำสกู๊ปทีมงานที่ช่วยทำ petition ของแฟนๆอินเตอร์ในเกาหลีด้วย ส่วนตัวเรายังคิดอยู่ด้วยซ้ำว่าต่อให้ศาลตัดสินคดีความไปจบแล้ว เรื่อง JYJ จะไม่ได้ออกโทรทัศน์ก็คงจะมีต่อไป เพราะถ้าหาก JYJ กลายเป็นตัวอย่างของคนที่ออกจากค่ายแล้วประสบความสำเร็จ เชื่อได้ว่าจะมีคนตามกันออกมาอีกเรื่อยๆ หากทางค่ายไม่ปรับปรุงตัวต่อไป (แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้เหมือนจะปรับอะไรหลายๆอย่างให้ได้ดีแล้ว) เรายอมรับว่า SM เป็นค่ายที่เก่งมากๆค่ะ แต่ "เก่ง" =/= "ดี" ในแง่จริยธรรม บรรษัทภิบาลของบริษัทนี้เป็นที่รู้กันว่าห่วยติดอันดับต้นๆของเกาหลีตั้งแต่สมัยรุ่น H.O.T. และ Shinhwa ในส่วนที่ว่า...ถ้าไม่ได้อยู่กับบริษัท หรืออยากจะออกไปก็ขอให้คิดไว้เลยว่าจะไม่ได้เกิดในวงการ หรือจะต้องโดนเล่นงานไม่ให้ได้ออกโทรทัศน์ และ SM ไม่เคยง้อค่ะ ตั้งแต่สมัย H.O.T. แล้ว เพราะพวกเขาคิดว่าเดี๋ยวก็จะสร้างวงใหม่ขึ้นมาได้ การที่ JYJ จะฟ้อง พวกเขาคิดไว้แล้วด้วยซ้ำว่าอาจจะต้องออกจากวงการบันเทิงไปตลอดชีวิต เรามองว่าปัจจัยที่มีผลทำให้พวกเขาตัดสินใจอย่างนั้นมันต้องเป็นเรื่องใหญ่มากๆที่พวกเขารับไม่ได้กับชีวิตอย่างนั้นแล้วจริงๆ ซึ่งสมาชิกทั้ง 5 คนอาจจะรู้สึกไม่เหมือนกัน บางคนทนได้ บางคนทนไม่ได้ ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นว่าฟ้องแค่ 3 คน จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 13:59:47

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับความเห็นของ จขกท นะค่ะ สถาณการณ์นี้ยังยืดเยื้ออีกยาวนานต่อให้ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้ว โอกาสที่ JYJ จะโปรโมตกิจกรรมได้เหมือนนักร้องคนอื่นๆก็คงยาก และเราก็คิดว่าสถาณการณ์นี้เป็นสิ่งที่ JYJ และคนที่ตามข่าวคาดไว้อยู่แล้วว่าจะเจอกับอะไร แต่เค้าก็ยังตัดสินใจที่จะสู้กับมัน^^ เราก็จะสู้ไปด้วยกัน จะว่าไปความเห็นเราสิ่งที่ JYJ เจออยู่ตอนนี้ยังดีกว่าที่เราคิดไว้มากๆนะ เป็นเพราะฐานแฟนที่เหนียวแน่น และช่วยกันทำเพื่อ JYJ นี้แหละ ตอนแรกเราคิดว่าน้องจะเงียบหายไปมากกว่านี้ซะด้วยซ้ำ ขอบคุณงานเดี่ยวของน้องด้วยที่กระแสตอนรับดีทำให้สร้างฐานแฟนใหม่ๆเพิ่มขึ้น ทั้งงานละครของมิค ละครเวทีของจุนซู ทำให้ JYJ มีงานละคร มีงานโฆษณาเข้ามาเรื่อยๆ เราถือว่าโอเคสำหรับน้องนะ   เรื่องการออกทีวีของ JYJ พวกรายการวาไรตี้อะไรนี้เราไม่ได้ให้สำคัญมากนักเพราะตั้งแต่สมัยยังไม่ฟ้อง น้องก็ออกรายการวาไรตี้ไม่บ่อยอยู่แล้วค่ะ ออกเยอะช่วงแรกๆที่เดบิวซ์ แต่พอช่วงอยู่่ตัวแล้วจะออกเฉพาะช่วงโปรโมตซึ่งก็มีไม่กี่รายการเองที่ไปออก แต่ที่เราเสียดายก็คือรายการเพลงที่นำสิ่งที่นักร้องควรได้รับสิทธิในการโปรโมตเพลงมากกว่า งานหลักของน้องก็คือนักร้อง เราเสียดายที่เค้าไม่มีโอกาสได้นำเสนอผลงานได้อย่างเต็ม (ที่สำคัญคือเราหาดูไลฟ์แบบชัดๆไม่ได้เลย-*-) ตอบคุณ NAJ ข่าวของ JYJ ยังถูกนำเสนอในรายการข่าว ตอนโชว์เคสนี้ข่าวนำเสนอน้อยมากกหรือแทบจะไม่มีเลย ตั้งแต่สมาคมออกหนังสือเวียนยับยั้งไม่ให้ JYJ ออกอากาศ แต่ช่วงหลังมานี้ก็ดีขึ้น ตอนงานคอน งานละครก็มีรายงานข่าว (ที่เกาหลีเค้าเรียก JYJ ว่า ไอดอลให้ห้องข่าว ^^ ค่ะ) จากคุณ : Muminnie เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 14:09:20

ความคิดเห็นที่ 30 อ่า ขอโทดจิงๆ ที่ออกความเห็นอะไรไปแบบไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของวงการบันเทิงเกาหลี ถึงผมจะเป็นคนนอก แต่ที่ผมตั้งกระทู้นี้มา ผมหวังดีจริงๆนะ เพียงแค่เรามองกันคนละมุม ไอ้ที่ผมคอยบอกว่าให้มองโลกแห่งความเป็นจริงนั่นอ่ะ พวกคุณส่วนใหญ่เท่าที่โพสมาจะตัดพ้อไปก่อนว่าวิธีที่คิดมามันเป็นไปไม่ได้ มันก็อาจจะจริงที่มันจะยากมากถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ และคุณก็คิดไปแล้วเองแบบมีเหตุผลอย่างเสร็จสับว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผมถามคุณตั้งแต่ต้นไว้แล้ว คุณรัก JYJ มากแค่ไหน? บอกว่าให้คอยดูพลังของแฟนคลับ JYJ ให้ดีนะ แล้วพวกคุณหล่ะมีมากน้อยแค่ไหน และเหนียวแน่นกันแค่ไหน แต่พวกคุณไม่มั่นใจ ไม่มีแรงพลักดันมากพอ แล้วก็ให้เหตุผลมาคอยสนับสนุนตลอดว่ามันเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง พวกคุณมองในด้านนั้น มันก็อาจจะจริง ซึ่งผมก็ได้กล่าวไปแล้วตั้งแต่ที่ตั้งกระทู็ว่ามันยากแค่ไหน พวกคุณมองโลกแห่งความเป็นจริงในส่วนของวิธีทางแก้ไขว่ามันเป็นไปไม่ได้และคอยโทษต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือ SM ที่ผมบอกว่ามองคนละมุม เพราะว่า ผมเข้าใจ SM ความเป็นจริงของโลกธุรกิจ วงการมายา เรื่องของผลประโยชน์ ที่มาของต้นเหตุความขัดแย้ง (JYJ + แฟนคลับ + คุณธรรม + ความถูกผิด แค่นี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้หรอกนะ) เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ได้ค่อยอ้างไปถึง SM เท่าไหร่ ว่าทำนุ้นทำนี่ ทำอะไรให้เกิดอะไร ผมจึงเน้นย้ำและคอยให้เหตุผลเสมอว่าสิ่งที่พวกคุณจะทำให้เกิดได้นั้น ได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับคุณเอง การเปลี่ยนแปลงผู้อื่นมันเริ่มทำได้ยากกว่าการเปลี่ยนแปลงตนเองอยุ่แล้ว รอให้ศาลตัดสิน รอให้คนหันมามอง รอให้ SM ถอนตัว รอ.... อย่าบอกว่า แค่นี้ก็ดังจะตายอยู่แล้ว ไม่ได้อยากให้ดังมากไปกว่านี้ แค่นี็ก้ขายเพลงได้มากอยุ่แล้ว ชอบที่น้องค้ามีอิสระ ทำอะไรที่อยากทำ งั้นก็ไม่ต้องโปรโมท ถ้าอยู่อย่างนี้แล้วพอใจ เพราะยังไงๆ แฟนคลับ JYJ ก็ยังคงสนับสนุนอยู่ดีใช่มั๊ยหล่ะ ความปรารถนาของคุณที่ร่วมกับ JYJ แรงกล้ามากขนาดไหน ทุกวันนี้ SM แทรกแซงอะไร(อันนี้ผมไม่รู้จิงๆ ขอโทดด้วย) ไหนบอกคุณบอกว่า SM ไม่มีอำนาจมากขนาดนั้นนิ ขู่หรอ ถ้าให้ออกรายการเราถอนหุ้น ถ้าให้ออกเราเผาบ้าน ถ้าให้ออกเราจะฆ่าคุณ คิดว่าขู่แบบนั้นหรอ หรือว่าแค่ถ้าให้ออกรายการ เราจะไม่ส่ง ศิลปิน SM มาร่วม ถ้าขู่แค่ไม่ส่งศิลปินมาร่วม แล้วยังทำให้ช่องใหญ่ยังไม่นำ JYJ ออกรายการเพลงได้ ณ ตอนนี้เนี่ย การพูดครั้งเดียว ที่ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ ถึงแม้ว่าศาลจะตัดสินว่าผิด ถ้าแทรกแทรง แต่ตอนนี้ทุกคนรู้เงีื่อนไขของ SM แล้ว คิดว่าเค้ายังจะกล้าเสี่ยงอยู่มั๊ย อันนี้ก็ไม่รู้เหมอืนกัน แต่มันก็ได้แค่รอ เหมือนเดิม อย่างที่ คห 21 ว่าไว้ ว่ากระทู้นี้ แชร์ความคิด แต่เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน ผมมาให้กำลังใจว่า หนทางมี (แต่มันยาก) และคอยเตือนว่าอย่ามั่นใจว่าเรามีดีมากขนาดนั้น วิธีการให้ออก 3 ช่องนั้นมันยาก คุณต้องสุ้กับ 3 ช่องนั้น และ SM คุณต้องสู้กับรากฐานวงการบันเทิงเกาหลี แต่นั้นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ชนะได้ ในฐานทิฐิของคุณที่ตั้งแง่ว่ายังไงก็จะไม่กลับ กับวิธีที่จะกลับไปรวมกัน 5 คนที่ SM อันนี้เป็นเรื่องของการเปลี่ยนความคิดของ JYJ และแฟนคลับเท่านั้น ผมก็บอกแล้วว่า สัญญาทาศที่เกิดขึ้น กลับไปคราวนี้ว่าสัญญาใหม่ที่ดีกว่าเดิมสิ ตกลงกันใหม่ หาทางให้เข้าหากันได้ ทำไมพวกคุณถึงคิดว่า ถึงกลับไปก็ใช้สัญญาตัวเดิม "พอเห็นสัญญาทาศที่ทำไว้ ก็ไม่อยากให้กลับ จะกลับ SM เพียงเพื่อ/แค่/จะให้ครบ 5 คน ไม่เอาดีกว่า" ทำไมล่ะ ทำไมเรื่องกลับ SM ต้อง"ปล่อย"ให้3คนนั้นตัดสินใจ ถูก ไอ้เรื่องที่จะกลับไม่กลับ 3 คนนั้นต้องตัดสินใจเอง แต่ไอ้ที่ว่าปล่อยไปแบบนั้นหน่ะหรอ แล้วบอกว่าเคารพการตัดสิน มันเหมือนกัน เพื่อนเราทะเลาะกะแฟน เราบอกว่าเราแคร์เพื่อนมาก แต่เราปล่อยให้เค้าคิดเองคนเดียวโดยไม่ยุ่ง ไม่ให้คำแนะนำหรือช่วยคิดเลยหรอ เราจะบอกเค้าว่า มันเป็นคนไม่ดี เลิกกับมันอ่ะดีแล้ว ก็จะกลับมาถามใหม่ว่า มันเป็นคนไม่ดีจริงหรอ มันเป็นคนไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ มันไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขกันได้เลยหรอ คุณคิดว่า 2 คนทะเลาะ คุณเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แล้วสนับสนุนให้หักกัน แน่นอนว่าถ้าหักกันก็เป็นศํตรูกันแน่นอนในโลกของธุรกิจ และอยากให้ฝั่งคุณชนะ ซึ่งมันยากอยู่ กับการที่คุณจะไกล่เกลี่ยให้กลับมาคืนดีกัน ปรับความเข้าใจกัน หาทางอยู่รว่มกันอย่างมีความสุข จากเหตุการณ์นี้ ตั้งแต่แรก จนถึงตอนนี้ ผมไม่รุ้ว่าใครอยากให้เกิดอะไรขึ้น ใครอยากให้ JYJ ได้ออกอากาศโปรโมท ใครอยากให้ JYJ โลดแล่นในวงการบันเทิงได้ปกติไม่มีใครขัดขวาง ใครอยากให้ SM แพ้อย่างไม่เป็นท่า ผมไม่รู้หรอกนะ แต่สำหรับผม ตั้งแต่แรกที่รู้ข่าว จนถึงตอนนี้ ผมอยากให้เป็นอยู่อย่างเดียว ผมอยากให้กลับไปเป็น 5 คนเหมอืนอย่างเก่า และปรับสัญญาใหม่ซะ ให้เป็นที่พอใจสำหรับทุกฝ่าย ทั้งศิลปินและ SM การจับมือกันเสมอ ง่ายกว่า การเอาชนะโดยการทำให้ศํตรูแพ้ พอบอกอย่างนึงก็บอกว่ามันยาก พอบอกอีกอย่างนึงก็บอกว่าอดีตมันแย่ ผมไม่เข้าใจจริงๆ คุณรัก JYJ มากแค่ไหน? แฟนคลับ JYJ มีมากน้อยและเหนียวแน่นกันแค่ไหน? ถ้ามันไม่มากขนาดนั้น มันก็คงทำได้อยู่แค่นี้ อย่างที่เป็นอยุ่อย่างนี้แหละ ซึ่งคุณควรเผื่อใจเอาไว้ และยอมรับมันได้บ้าง จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 14:27:26

ความคิดเห็นที่ 31 เราก็ยอมรับได้นะคะ  เราคิดว่าแฟนเจวายเจที่มีตอนนี้ ก็ได้ทำหน้าที่ตัวเองในฐานะแฟนที่ดีอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่เราคงไม่สามารถไปกำหนดจิตใจใครได้ และเราก็มีความสุขแล้วสำหรับผลตอบรับแบบนี้ ต่อไปจากนี้ เราก็จะพยายามในส่วนของเราเพื่อเจวายเจต่อไป ไม่ได้คาดหวังว่าผลกลับมาจะยิ่งใหญ่ค่ะ แค่จะมีคนยอมรับในความสามารถของสามหนุ่มบ้าง แค่นี้ก็ดีใจแล้ว (ต่อให้เค้าคนนั้นจะไม่คิดเป็นแฟนเพลงหรือแฟนคลับด้วยนะ แค่ยอมรับและเข้าใจก็พอแล้ว) จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 15:02:23

ความคิดเห็นที่ 32 ตอบในฐานะที่ไม่ใช่แฟน JYJ ไม่ใช่แฟนเกาหลี แต่เป็นแฟนของไอดอลญี่ปุ่นวงนึงที่ก็สู้กันมาไม่ใช่น้อย พูดตรงๆเป็นวงไอดอลที่ผ่านอุปสรรคและวิกฤติมามากที่สุดด้วยซ้ำ เราว่าแฟน JYJ สู้กันมามากและเหนียวแน่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนะคะ ถ้าแฟน JYJ ไม่เหนียวแน่นกันจริงๆ ไม่ยืนระยะซัดกับ SM มาเป็นปีๆได้แบบนี้หรอก ถ้า JYJ ไม่มีแฟนคลับ มีแค่ความสามารถของตัวเองล้วนๆ SM เป่าเบาๆก็เป็นผงในวงการไปแล้ว แต่การต่อสู้มันก็ต้องอยู่บนหนทางที่เป็นไปได้ ไม่อย่างงั้นก็เสียแรงเปล่า เอาเวลาและกำลังไปต่อสู้ในหนทางที่มันเป็นไปได้มากกว่าไม่ดีกว่าเหรอ จะสู้กับใคร จะผลักดัน กดดันอะไรใคร เราก็ควรต้องมีข้อมูลที่มากพอสมควร และต้องดูด้วยว่า สิ่งที่เราจะผลักดันให้เค้าทำน่ะ มันจะเกิดประโยชน์กับเค้ามั้ย จะให้รวมตัวกันกดดันกับสามสถานีหลัก เป็นความคิดที่น่าสนใจและเป็นทางรอดหนึ่ง แต่ถ้ามองจากมุมของรายการเพลงทั้งสามสถานีหลักนั่นแล้ว มันจะคุ้มจริงๆเหรอ อธิบาย Prisoner's Dilemma แบบง่ายๆ มีนักโทษสองคนโดนตำรวจเรียกไปสอบสวน ถ้าทั้งสองคนไม่ปริปากทั้งคู่ ก็จะติดคุกกันแค่ขั้นต่ำ 6 เดือน แต่ถ้าสารภาพทั้งคู่ จะติดคุกกัน 5 ปี แค่อ่านตรงนี้แล้ว ใครๆก็น่าจะเห็นว่างั้นก็เงียบมันซะทั้งคู่สิ จะเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่เมื่อมองจากมุมของนักโทษแต่ละคน ถ้า A สารภาพแต่ B ไม่สารภาพ A ก็ไม่ต้องติดคุก ถ้า A ไม่สารภาพแต่ B ดันสารภาพ คราวนี้ล่ะ A ซวยเลย ติดคุกเป็น 10 ปี ถ้าเราเป็น A มองตัวเลือกแบบนี้แล้ว เราก็ต้องเลือกที่จะสารภาพไว้ก่อน เพราะเราไม่แน่ใจว่า B จะทำยังไง กรณีนี้ก็แบบเดียวกันกับสามสถานีหลักและ JYJ ถ้าสามสถานีหลักรวมตัวกันได้จริงๆ ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกสถานีมากกว่า แต่ทั้งสามสถานียังไงก็ต้องมีสถานีนึงที่ลังเลและมีแรงจูงใจมากกว่าที่จะไม่ทำตามข้อตกลง เพราะถ้าสถานีนึง"โกง"ข้อตกลง สถานีนี้ก็จะรับประโยชน์จาก SM ไปเต็มๆ ในขณะที่อีกสองสถานีต้องแบ่งผลประโยชน์จากแค่ของ JYJ ซึ่งผลประโยชน์จาก JYJ ที่ต้องแบ่งครึ่งกัน มันไม่คุ้มกับการเสียเด็กในสังกัด SM ไปทั้งหมด ตราบใดที่แต่ละสถานียังไว้ใจกันเต็มร้อยไม่ได้ ก็ไม่มีสถานีไหนกล้าเสี่ยงหรอกค่ะ แล้วสถานีจะฟังแฟนคลับเหรอ โลกที่ว่าแฟนคลับเป็นผู้สนับสนุน ขับเคลื่อนได้ทุกอย่าง มันไม่จริงเสมอไปหรอกค่ะ วงการธุรกิจบันเทิงมันมีอะไรที่ลึกกว่านั้น ความสัมพันธ์ที่สร้างกันมาหลายสิบปี ความเชื่อในวงการที่ยึดถือกันอยู่มานาน แล้วผู้บริหารของแต่ละสถานี แต่ละรายการก็ต้องมองอะไรเป็นเงินเป็นทองกันทั้งนั้น ต้องมองความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ใช่มองความถูกต้อง หรือเอาใจแฟนคลับแค่กลุ่มเดียว การเสี่ยงที่จะเสียรายได้ก้อนโตและเสียความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่ใช่วิสัยที่นักธุรกิจพวกนี้จะกระทำค่ะ มันไม่ใช่ว่ามองว่ายากแล้วไม่ทำ แต่มันคือการมองความเป็นจริงจากมุมของทุกฝ่าย มองว่าแต่ละฝ่ายเค้ามีทางเลือกอะไร มีเหตุอะไรที่เค้าจะทำหรือไม่ทำทางเลือกนั้นๆ กรณีนี้ ทางเลือกของแต่ละสถานี มันน่าจะคุ้มและปลอดภัยกว่าที่เค้าจะเลือกอยู่ข้าง SM ต่อให้แฟนคลับ JYJ สู้กันขนาดไหน ถ้าเสนอผลประโยชน์ที่ดีกว่าไม่ได้ ยังไงเค้าก็ไม่ทำหรอกค่ะ (นอกจาก SM จะยิงตัวเอง ไปมีเรื่องขัดแย้งกับแต่ละสถานี นั่นก็อีกเรื่องนึง) เรื่อง sponsor โฆษณา การแบนไม่เอาศิลปินไปออกรายการไม่น่าจะเกี่ยวกับการออกอากาศโฆษณา คือถ้าสินค้าหนึ่งเอา SNSD ไปเป็นพรีเซนเตอร์ ถึงช่องทีวี XYZ (มั่วชื่อ) จะมีปัญหากับ SM แต่ถ้าสินค้านั้นอยากจะซื้อเวลาโฆษณามาลง ช่อง XYZ ก็ไม่ปฏิเสธ และ SM ก็ไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ ฉะนั้นการที่จะมีสินค้าไม่อยากจ้างศิลปิน SM เพราะมีปัญหากับช่องทีวี อันนี้ไม่น่าจะมีผลนัก ส่วนการกลับไป SM ไม่ต้องมองที่ JYJ หรอกค่ะ มองจากมุม SM ก็พอ เราเชื่อว่าถึงตรงนี้ SM ก็ไม่อยากได้ 3 คนนี้กลับมาแล้ว ไม่ว่าจะในฐานะอะไร เพราะถ้ายอมให้เรื่องจบกันง่ายๆ มันจะเป็นตัวอย่างที่วงรุ่นหลังจะทำตามกันหมด SM จะเสียหายในระยะยาว และที่สำคัญคือ"เสียหน้า"อย่างรุนเรง ซึ่งจากที่อ่านๆดู เรื่องหน้าตาในสังคมเกาหลีถือเป็นเรื่องใหญ่ ฆ่าได้หยามไม่ได้แบบนั้น ยอมให้กลับมาง่ายๆ ทำสัญญากันใหม่ ก็เท่ากับยอมรับว่า"แพ้" ไม่ใช่จับมือกันเสมอ บริษัทใหญ่อย่าง SM ที่ผู้บริหารก็ดูท่าว่าจะ ego สูงจัดแบบนี้ ไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้ค่ะ สิ่งที่ SM ทำ เท่าที่รู้คือมีการปรับสัญญากันใหม่กับศิลปินอื่นๆในค่ายแล้ว แต่ถ้าจะให้อ้าแขนรับ JYJ กลับมาอยู่ในสังกัด แก้วมันร้าวเกินประสานแล้วล่ะค่ะ กดดันกันออกสื่อ งัดทุกวิธีมาใส่กันในศาล คนในค่ายทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กมีดราม่ากับ JYJ ใน Twitters จะให้กลับไปลัลล้า Happy กันเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเกินจุดนั้นไปแล้วค่ะ ถ้าศาลตัดสินให้ SM ชนะ SM ก็เอา JYJ กลับมาดองในสังกัดก็แค่นั้น คราวนี้ล่ะหายจากวงการของจริง แล้วก็คงเรียกร้องค่าเสียหาย เอาเปอร์เซนต์จากงานตอนนี้ของ JYJ กันจนกระอักแน่นอน สิ่งที่แฟน JYJ น่าจะทำได้ดีที่สุดตอนนี้ คือสิ่งที่เค้ากำลังพยายามทำกันอยู่ เพื่อไม่ปล่อย JYJ กลับไปโดนดอง คือการสร้างกระแสสังคมเพื่อกดดัน SM หรือจริงๆก็คือกดดันศาลเกาหลีนั่นแหละ พยายามให้ข้อมูลทางด้าน JYJ ออกสื่อให้มากที่สุด ให้ผู้มีอำนาจตัดสินได้รับรู้มากที่สุด เผื่ออาจจะส่งผลกับการตัดสินใจและตัดสินคดีประวัติศาสตร์นี้ของ SM และ JYJ edit เพิ่มข้อความนิดนึง เราว่าแฟนคลับ JYJ รัก JYJ มาก และเหนียวแน่นกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วล่ะค่ะ แต่ถึงแฟนคลับจะมีมาก รักมาก พยายามมาก แต่ยังไงก็มีจำนวนไม่มากพอหรอก การที่จะกดดันช่องทีวีถึงสามช่อง แฟนคลับแค่เรือนแสนคงไม่มีอำนาจขนาดนั้น ต้องหลักหลายล้านล่ะ แล้วในความเป็นจริงมันจะมีมั้ย เป็นไปได้มั้ย ที่จะมีวงไอดอลที่แฟนคลับ hardcore มีจำนวนขนาดนั้น hardcore ในที่นี้ คือมีเพียง JYJ วงเดียวเท่านั้น ทำทุกอย่าง ทุ่มเต็มที่เพื่อ JYJ วงเดียว วงอื่นไม่อยู่ในสายตา เพราะถ้าไปชอบวงอื่นด้วย ถ้าวงอื่นที่ชอบไปออกรายการทีวี จะไม่ยอมดูเพราะ JYJ จริงอะ ยังไงก็ต้องมีดูกันบ้างล่ะค่ะ แล้วถ้าเป็นอย่างงั้น การ boycott สถานีทีวีเพื่อกดดันมันก็ไม่ได้ผล edit แล้ว edit อีก -_-" คือรวมๆเราเห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้นะคะ แต่คำพูดที่ว่าแฟนคลับรัก JYJ แค่ไหน เหนียวแน่นแค่ไหน อันนี้อ่านแล้วเจ็บแทนแฟนคลับ JYJ ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ใช่เลยสักนิด (แฟนๆ JYJ เองก็น่าจะรู้) เพราะเราว่าเค้าสู้กันเต็มที่ และเค้าพยายามกันมามาก และเป็นช่วงเวลาสองปีที่กดดันกันเหลือเกิน พออ่านเจอเหมือนมีคนมาบอกว่าคุณยังสู้กันไม่พอ คุณยังทำกันไม่เต็มที่ อ่านแล้วมันจุกแทนอะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 15:56:25 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 15:48:49 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 15:37:26 จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 15:29:37

ความคิดเห็นที่ 33 เราว่าประเด็นที่จะให้สามช่องมาจับมือกันมันเป็นไปไม่ได้อะ คืออยู่ๆคงไม่มานั่งประชุม จับมือกันสามบริษัทหรอก แต่ละช่องนี่บิ๊กๆทั้งนั้น ผลประโยชน์มากมาย อยู่เฉยๆก็ดีอยู่เเล้วหนิ ศิลปินขึ้นเวที เงินไหลมาเทมา ซึ่งศิลปิน sm ก็ครองฐานแฟนคลับใหญ่มากและแข็งแรงมากอยู่ เช่น sj snsd สองวงนี้ทำกำไรมหาศาลไม่รู้เท่าไหร่ และเราว่าฐานแฟนคลับไอดอลที่มากที่สุดก็ยังเป็นของ sm อยู่ จากสองวงนี้นี่แหละ แต่ละช่องคงไม่หาเรื่องทำอะไรให้มันยุ่งยากขึ้นมาหรอก แล้วแต่ละช่องก็คงระแวงกันเองว่าใครจะเล่นลูกไม้อะไรจากเรื่องนี้รึเปล่า จะร่วมมือกันแบน sm จริงๆหรือเปล่า ไม่มีใครเชื่อใจกันหรอก ส่วนแฟนคลับของjyj และทงบังนี้เข้มแข็งมากๆ เห็นชัดเลยเรื่องพลังของแฟนคลับเนี่ย แล้วก็เรื่องที่ศิลปินต้องพึ่งแฟนคลับขนาดไหน ถ้าเป็นศิลปินอื่นที่ไม่ใช่ jyj ฟ้อง ไม่มีฐานแฟนคลับที่เข้มแข็งนี้ขนาดนี้นี่คงดับไปนานแล้ว แต่ถึงจะมีแฟนคลับเป็นแสนขนาดนี้ มันก็ยังยากที่จะต่อกรกับช่องบิ๊กๆแบบนั้นได้ ยกเว้นจะช่องเหล่านั้นจะแบนsm ทั้งค่าย เราว่าอันนี้อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาบ้าง เพราะถ้ารวมๆแฟนคลับของทุกวงในค่ายแล้ว ก็เป็นล้านๆอะ เค้าคงไม่อยู่เฉยกันแน่ๆ ส่วนที่บอกว่าให้กลับมาเป็น 5 คนเหมือนเดิม ยิ่งยาก เป็นไปไม่ได้เลยด้วยเอาจริงๆ ถ้าsm เอาสามคนนั้นกลับมา ทั้งสามคนคงโดนเล่นหนักกว่าเก่า เป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือให้บีบเล่นแน่ๆ เพราะทำแสบไว้เยอะ ค่ายคงไม่ปล่อยให้อยู่สบาย ทีนี้แหละนรกกว่าเก่าแน่ แล้วทั้งสามคนเค้าก็คงไม่อยากกลับมาอยู่เเล้ว เรื่องมันล่วงเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว และตอนนี้เค้าก็ดูมีความสุขกับชีวิตดี ได้ทำนู่นทำนี่ที่อยากทำ ชีวิตสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน เค้าจะเดินกลับไปหานรกทำไมอะ จากคุณ : SugarBun เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 16:16:47

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ คุณ NAJ นะครับที่หยิบยก Prisoner's Dilemma มาอธิบาย ถือเป็นความรู้เพิ่มเติมสำหรับผมเลยครับ อธิบายเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ห้องหว้ากอเลย ^_^ จากคุณ : Shapley เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 16:30:16

ความคิดเห็นที่ 35 #30 อ่านความเห็นคุณแล้วสรุปว่าในความคิดของคุณ  I-want-to-be-a-Filmmaker หนทางที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดที่จะให้ JYJ ได้ออกสื่อ คือพวกเขาควรจะต้องกลับไปรวมกัน 5 คนและตกลงกับ SM เพื่อจะได้กลับไปอยู่ในค่ายเหมือนเดิม และได้ออกสื่อเหมือนเดิม ใช่หรือเปล่าคะ? ซึ่งหากจะทำอย่างนั้นคุณมองว่าแฟนๆควรมีส่วนร่วมช่วยกดดันทางฝ่าย JYJ ให้ยอมเจรจาและหันหลังกลับไปรวมกับค่าย SM? จริงๆแฟน JYJ ส่วนหนึ่งที่เคยเป็นแฟนดงบังชินกิมาก่อน ก็เคยคิดอย่างนั้นอยู่บ้างนะ (บางคน) แต่เห็นความพยายามหลายๆอย่างของ SM แล้วก็คิดว่าทาง SM เองพูดแต่ว่าอยากให้เอากลับมารวมกัน แต่พยายามทำลายชื่อเสียงสามคนนี้ออกสื่อโดยโบ้ยว่าพวกเขาออกมาฟ้องเพราะความโลภที่เกิดจากธุรกิจเครื่องสำอางตั้งแต่เริ่มมีการฟ้องร้องเลยค่ะ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้ต้องการ JYJ กลับไปเท่าไหร่ เรามองว่าแฟนๆเองช่วยได้ในระดับหนึ่งนะคะ และทำไปมากแล้ว ที่ถามว่าการต่อรองกับค่ายโทรทัศน์ไม่มีหรือไร คำตอบคือมีค่ะ อย่างที่เขียนไป ณ จุดนี้แฟนๆที่เกาหลีกำลังล่ารายชื่อเตรียมยื่นศาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกันอยู่ มันอาจจะดูเหมือนว่าไม่มีผลอะไร แต่อย่าลืมว่าที่หน่วยงานภาครัฐของเกาหลีเข้าไปยุ่งกับการเปลี่ยนแปลงสัญญาของไอดอลทั้งค่าย และทุกค่าย มันเริ่มมาจากการล่ารายชื่อของแฟนๆดงบังชินกิเมื่อปี 2009 หลังจากที่ JYJ ฟ้องร้องได้ไม่นาน โชคดีที่เกาหลีมีทั้งนักข่าวหันมาสนใจและคนที่เข้ามาช่วยในวงการแฟนคลับที่เกาหลีตอนนี้ มีทั้งทนายความที่เป็นที่รู้จักกันในวงการกฎหมาย เขาเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของแฟนคลับไปแล้ว โดยคิดเงินน้อยมากถึงแทบจะไม่คิดเลย และคนที่ร่าง petition ให้กับแฟนๆอินเตอร์เซนต์ก็เป็นคนที่ทำงานองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน ซึ่งเข้ามาในฐานะแฟน แต่ร่วมกันใช้ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแฟนๆ และกำลังผลักดันให้เป็นการเคลื่อนไหวของสังคมที่เกาหลีค่ะ พวกเขาบอกเองว่าคดีนี้เป็นเรื่องของสังคมและอนาคตของลูกหลานที่อยากจะเข้าไปในวงการบันเทิงที่เกาหลีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีแฟนๆ JYJ ที่เปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์ทางอินเตอร์เน็ตให้พวกเขาโดยใช้ทุนตัวเอง มีการรวบรวมเงินโปรโมท JYJ ทั้งที่เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น  สุดท้ายแล้วเราก็ช่วยในส่วนที่เราทำได้ค่ะ โปรโมทพวกเขาเท่าที่เราทำได้ แต่เรื่องงานของพวกเขา บางส่วนมันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถไปแตะได้จริงๆ มันเกินกว่าฐานะ "แฟนคลับ" ด้วยซ้ำไป สำหรับเราแล้วสิ่งที่แฟนๆทำได้จริงทุกคนคือสนับสนุนผลงาน ไปดูคอนเสิร์ต ซื้ออัลบั้ม คอยพูดถึงเรื่องดีๆของพวกเขาและแก้ไขข่าวลือเสียๆที่ออกจากบริษัทเก่า ส่วนโปรเจคที่พูดๆไปก่อนหน้านี้มันก็ถือว่าเยอะมากๆแล้ว (หรืออาจจะเกินไปแล้ว) ในฐานะแฟน คือถ้าเป็นคนอื่น เรากล้าพูดเลยว่าพวกเขาดับไปนานแล้ว ต่อให้มีชื่อเสียงมาก่อนแค่ไหนหรือว่าเก่งแค่ไหนก็ตามที นี่ไม่ได้ออกทีวี ไม่ได้ออกวิทยุก็เปิดคลื่นเอาเองซะเลย เราเคารพการตัดสินใจจริงๆค่ะ ถ้าพวกเขาคิดว่าตัดสินใจดีแล้ว อุปสรรคที่มันเกิดขึ้น เราก็คงโทษได้แค่การตัดสินใจของทั้งสามคนและคนที่สร้างอุปสรรคนั้นขึ้นมา คงโทษแฟนๆไม่ได้หากจะเห็น SM เป็นหนึ่งในคนที่สร้างอุปสรรคที่ว่าขึ้นมา เพราะมันไม่ได้เป็นการกล่าวโทษแบบลอยๆนะคะ หลักฐานก็มี ศาลก็เห็นและตัดสินว่าเห็นแล้ว และจะสั่งปรับ SM ด้วยซ้ำ ถ้าการทุ่มเทให้ในฐานะแฟนคลับคือเข้าไปกดดันศิลปินให้กลับไปรวมกับค่ายที่พวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีความสุข และคนในค่ายที่ออกมาสาดใส่กันอย่างชัดเจนแล้ว เพื่อให้พวกเขาได้ไปออกรายการ ได้โปรโมท เราขอเลือกสนับสนุนพวกเขาในทางที่เราพอจะทำได้โดยไม่ขัดกับความคิดของเราแล้วกันนะคะ ปล. คุณ NAJ คะ เราจบคณะเดียวกันแน่ๆเลย ^___^ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 16:58:47 จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 16:57:51

ความคิดเห็นที่ 36 สงสัยผมคงผิดประเด็นไป ไอ้ที่ว่าจับสามช่องมันมาร่วมมือคือวิธีที่สามารถชนะได้ ยาก....ใช่  เพราะอะไร เพราะตามทฤษฏี ใช่ แต่ผมไม่ได้หมายความว่างั้น ผมไม่ได้ว่ายากเพื่อให้ล้มเลิกไม่ทำ เพราะเราไปคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ 3ช่องนั้นมีส่วนที่จะต้องเสี่ยงถ้ากล้าเสี่ยงแล้วล้มเหลว นั่นมันเรื่องของเค้า จับมือกัน win ไม่ได้ ก้เรื่องของเค้า ถ้าช่องไหนกล้าเสี่ยงก็เรื่องของเค้า ประเด็นคือ JYJ ไม่มีอะไรจะเสีย ถ้ากล้าเสี่ยงสักราย รายนั้นขาดทุนชัวร์ นั่นก้เรื่องของเค้า แต่เราล่ะ เย้ๆๆๆ เราได้โปรโมทแล้วช่องนึง ถ้ากล้าเสี่ยงสองช่องล่ะ ขาดทุนสองราย ก็เรือ่งของเค้าอีกนั่นแหละ แต่เย้ๆๆๆ เราได้ออกสองช่องแล้ว แต่ถ้าเค้าเล็งเห็นว่าถ้าร่วมมือกันแล้วได้รับกำไรเพิ่มขึ้นแบบชัวร์ๆ เราก็จะได้ออกทั้งสามช่อง ถ้าเค้าไม่ร่วมมือทั้ง 3 ช่อง ก็จะเป็นเหมือนอย่างตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง (ไม่มีไรให้เสียแต่แรกอยู่แล้ว) คงไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว รอละคำตัดสินของศาลต่อไป เล่นทางนั้นทางเดียว ผมหวังดี แต่คงเน้นผิดประเด็นจนเกืดการเข้าใจผิด ผมไม่ได้จะมาบอกว่าสิ่งที่ทำกันอยุ่มันเปล่าประโยชน์ ไอ้ที่ทำๆอยู่ก้ทำไปเถอะ สนับสนุนอยุ่แล้ว เน้นไปทีศาลตัดสินว่า SM ผิด แล้วก็"คิด"ว่า"เมื่อนั่นสังคมคงจะเห็นอะไรบ้าง เมื่อสังคมจะเห็นอะไรบ้างก็"หวัง"ว่า JYJ จะได้รับโอกาสที่ดีขึ้น นั่นคือสิ่งที่เรายังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังศาลตัดสิน แต่บางวิธีที่มันแก้ไขได้ ก็แค่ลองๆ มันซะเหอะ ถ้าไม่ได้ผลอะไร เราก็ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วใช่มั๊ยล่ะ ง่ายๆ ไม่ได้ผล เราไม่แย่ไปกว่านี้ ได้ผล เราได้ออกทั้งหมด ได้ผลส่วนเดียว เราได้ออกช่องเดียว ได้ผลสองส่วน เราได้ออกส่องส่วน มันคุ้มที่จะลองมั๊ย? หรือความคิดและเหตุผลที่เข้าที่เข้าทางทั้งหมดที่คอยบอกเราว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันทำให้เราไม่อยากริเริ่ม มันคงจะเหนื่อยอย่างแน่นอน ถ้าเราจะเริ่มที่จะทำมัน สุดท้าย ผมขอเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกัน ผมไม่ใช่แฟนคลับดงบังชินกินะ และผมก็ประทับใจแฟนคลับมาก่อนตัวศิลปินด้วยซ้ำ ถึงค่อยไปเริ่มหาว่าเค้ามีอะไรให้คนหลายคนชื่นชอบมากขนาดนี้ ผมไม่รู้นะว่านิสัยเค้าเป็นไง เพราะผมไม่ได้ดูรายการวาไรตี้ของดงบังเลย เคยดูแค่รายการเดียวเมื่อนานมาแล้วคือ X-men แต่ตอนนี้ผมชอบ live เพลง Love in the Ice กับ Bolero ที่ญี่ปุ่นมาก เพราะดีนะ เสียงดีด้วย ชอบมากกว่าวงตอนที่เพลงมันเต้นๆ ปล. ผมไม่ได้พูดเลยแม้แต่น้อยว่าให้ไป "กดดัน" JYJ ให้กลับ SM แค่บอกว่ามันมีทางเป็นไปได้มัียในการกลับไป หรือว่าเราพร้อมสนันสนุนและเป็นกำลังใจให้นะ ถ้าคิดที่จะกลับไป ถ้าแฟนๆหัวชนฝาว่าไม่ให้กลับ มันก้ยิ่งไม่มีทางไปกันใหญ่ แล้วไอ้ที่ว่า แฟนคลับ รัก JYJ แค่ไหน? แฟนคลับ JYJ เหนียวแน่นแค่ไหน? ผมไม่ได้พูดเพื่อบั่นทอนอะไรเลยนะ ผมแค่ให้พวกคุณถามตัวเอง ส่วนจะได้คำตอบแบบไหนให้ตัวเอง อันนี้ผมไม่รู้ แค่จะบอกว่ายังต้องเหนื่อยแบบนี้อีกนาน และอาจเหนือ่ยมากขึ้นกว่าเดิมด้วย รักมากพอที่เหนื่อยมากขึ้นไปกว่านี้มั๊ย ให้ถามตัวเองเพื่อที่จะกระตุ้นให้กล้าเริ่มทำในสิ่งที่หลายคนหรือแม้แต่ตัวเองจะบอกว่ามันเป็นไปไมได้ กลับมาย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้มีเจตนาร้าย และผมก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ JYJ หรือ SM หวังว่ากรณีจะจบได้ดีกว่านี้ และไม่ค้างคา แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 17:17:51 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 17:12:36 จากคุณ : I-want-to-be-a-Filmmaker เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 17:02:44

ความคิดเห็นที่ 37 ต้องขอโทษด้วยนะคะที่อ่านและตีเจตนาผิดไป เราอ่านแล้วงงๆจริงๆค่ะ แต่เข้าใจนะว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่อยากอธิบายว่าแฟนๆก็ทำไปเยอะแล้วจริงๆ และถึงแม้แฟนๆ JYJ อาจจะบอกว่าไม่อยากให้กลับไป SM แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆเราเชื่อว่าหลายๆคนเลยก็รู้ดีว่าถ้าตัว JYJ เองคิดอยากจะกลับไปค่าย พวกเราในฐานะแฟนเพลงแฟนคลับก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ตอนนี้เราคงสนับสนุนได้ตามอัตภาพของเราเองเท่านั้น ส่วนเรื่องช่องที่เกาหลีอาจจะต้องรอให้แฟนๆที่เกาหลีดำเนินการต่อไปค่ะ จากคุณ : gibt เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 17:19:45

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านคห.แรกๆของจขกท.แล้วเข้าใจว่า เสนอความคิดเห็นเท่านั้น  แต่พออ่านๆไปช่วงหลังเริ่มงง เพราะดูเหมือนจขกท.จะชี้ว่า น้องสามคนน่าจะกลับไปอยู่กับเอสเอ็มเพื่อให้เรื่องมันจบ(ถึงจะไม่ได้บอกว่าให้ "กดดัน"น้องก็เถอะค่ะ) อ่านแล้วเราเข้าใจนัยยะของเจ้าของกระทู้ว่าอย่างนั้น  ก็เลยเริ่มงงอ่ะ  ฉะนั้นเราก็ชักไม่แน่ใจว่าเข้าใจสิ่งที่คุณจขกท.ต้องการสื่อแค่ไหนนะคะ โดยส่วนตัว แฟนๆจวจ.ตอนนี้พร้อมที่จะเคียงข้างน้องต่อๆไปไม่ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนานแค่ไหน  อีกอย่างถึงน้องจะชนะคดี แต่ก็ใช่ว่าจะสบาย  เพราะเราเชื่อเหมือนหลายๆคนว่า เอสเอ็มไม่ปล่อยไปแบบสบายๆหรอก  กัดไม่ปล่อยแน่นอน  ทั้งต่อหน้าและลับหลังล่ะ  แฟนๆก็คงไม่ละทิ้งน้องไปไหนแน่นอน  และมันยิ่งมีความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ฟันฝ่ามาด้วยกันน่ะ เรื่องช่องสถานี เราไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะได้ไปออกในลักษณะของการร้องเพลงมากนัก  มันก็อย่างที่หลายๆคนว่า คือ มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์เต็มๆ ใครจะเสี่ยงกันล่ะ  แต่ถ้าเป็นงานอื่นๆ เช่นละคร น่าจะยังมีโอกาสสำหรับน้องอยู่บ้าง และทำให้เปิดฐานแฟนกว้างขึ้นด้วยซ้ำ  สังเกตง่ายๆจากกรณีพ่อปาร์คยูชอนที่เล่นละครจนทำให้มีฐานแฟนคลับในรุ่นป้าๆเพิ่มมากขึ้นจากการดูละคร  แล้วทำให้เป็นอีกหนึ่งกลุ่มพลังที่หันมาให้ความสนใจกรณีการฟ้องร้องของน้องๆ สิ่งที่เรามองอีกอย่างคือ น้องเหมือนกำลังก้าวข้ามความเป็นไอดอลไปสู่การเป็นศิลปินแล้วล่ะ  อาจจะทั้งด้วยช่วงวัยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งความสามารถหลากหลายที่ประจักษ์มากขึ้น  ชัดเจนขึ้น  อย่าง ปาร์คเล่นละคร  จุนลูกได้แสดงละครเวที  แจก็กำลังเป็นผู้อำนวยการเวทีคอนรอบโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น(เมืองไทยเป็นที่แรกค่ะ อิอิ)  การออกทีวีอาจไม่จำเป็นต้องมากมายเหมือนไอดอลต่างๆ (แต่ก็อยากให้ได้ไปออกบ้างรัยบ้างอยู่ดี) น้องก็อยู่ได้ค่ะ แต่ถ้าได้ออกทีวีบ้าง มันก็น่าจะทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น   แฟนๆทำให้น้องเต็มกำลังมาตั้งแต่มีคดีฟ้องร้อง  และเราเชื่อว่าจะทำกันต่อไปแน่นอนค่ะ ส่วนเรื่องกลับไปอยู่เอสเอ็ม ถ้าน้องจะกลับไปเราก็คงยอมรับการตัดสินใจนั้น  แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าน้องไม่มีวันกลับไปแน่นอน  กลับไปก็ถูกดองแน่ละ  เสียดายความสามารถ  และโดยส่วนตัวเราก็ไม่อยากให้น้องกลับไปเหมือนกัน.... เหตุผลหนึ่งที่น้องๆยังอยู่มาได้จนถึงตอนนี้  นอกจากมีแฟนๆที่เหนียวแน่นแล้ว ความสามารถส่วนบุคคล บุคลิกภาพส่วนบุคคลก็มีส่วนอย่างมากค่ะ  เพราะต่อให้แฟนๆดันแค่ไหน ถ้าความสามารถไม่ดีจริง ก็คงรอดยากเหมือนกัน เง้อออ ไม่ได้เม้นท์เยอะๆแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย.... อ่อ....ดีใจนะคะที่ทู้นี้ไม่มีมาม่า...เบื่อแล้ว  แลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างมีสติจะดีกว่านะคะ ^^ จากคุณ : boovoo เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:38:43

ความคิดเห็นที่ 39 ที่เจ้าของกระทู้พูดมาก็มีทั้งส่วนที่ราเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนะคะ เราขอตอบสองสามประเด็นแล้วกัน เราว่าการกลับ SM  ไม่ใช่การแก้ปัญหานะ  เรามองว่าการกลับเอสเอ็มก็เหมือนการกลับเข้าเรือนจำห้องมืดปิดตายไปเลยแหละ  SM  ก็ไม่คงแค่  "กลับมาเลย  ยินดีต้อนรับ  ดีใจๆ" หรอกมั้งคะ ตอนนี้แผลมันสาหัสทั้งคู่  ต่อให้หายก็กลายเป็นแผลเป็น มองหน้ากันยังไงก็ไม่ติดหรอกค่ะ  ทั้งในส่วนของบริษัท  ศิลปินร่วมค่าย  หรือแม้แต่ตัวน้องที่อยู่ในค่ายเอง   จากบทสัมภาษณ์ต่างๆที่ออกมา  รอยร้าวมันยากจะประสานแล้วล่ะค่ะ ตัวน้องสามคนเอง  ก็ทำใจไว้ประมาณนึงตอนที่ตัดสินใจฟ้องแล้วค่ะ   คิือขนาดจะไปเป็นชาวไร่ชาวนาเลย   ที่น้องอยากออกเพราะอยากให้แฟนๆได้เห็นน้องมากขึ้นมากกว่า      แฟนที่อยู่ห่างไกลที่มาดูน้องตามคอนเสิร์ตไม่ได้  การออกทีวีก็จะได้ช่วยให้แฟนๆเหล่านี้หายคิดถึงกัน แล้วถ้าได้โปรโมตตามปรกติ  คนจะได้รู้ว่าน้องมีผลงานใหม่ๆเมื่อไหร่  แค่นั้นล่ะค่ะ   แต่ถามมว่าตัวน้องทุกข์มากไหมกับการไม่ได้ออกทีวีรายการเพลง  รายการวาไรตี้  ก็คงไม่ได้ทุกข์มากขนาดนั้น  อารมณ์ออกแนวเสียดายมากกว่า แต่โดยทั่วไป  ดูจากท่าทางของเด็กตอนนี้ก็มีความสุขตามอัตภาพดีนะคะ ตัวแฟนเองก็ทำเท่าที่ทำได้แหละค่ะ   ไม่ใช่ว่าเขาไม่พยายามหรือพยายามไม่พอ   และในความคิดของเราสิ่งที่แฟนๆทำให้ JYJ มันมากกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้มากเลยนะคะ   การยื่นคำร้องต่างๆนี่เราไม่แปลก  แต่เราอึ้งกับการทำโฆษณาติดรถยัส  120  คัน   และรถไฟใต้ดิน   การทำสถานีวิทยุอินเตอร์เนตด้วยทุนสวนตัว ทั้งหมดนี้ค่าใช้จ่ายสูงมากนะคะ ถ้าไม่่รักกันจริงไ่ม่ลงทุนกันขนาดนี้หรอก ไม่รวมกับการทำกิจกรรมการกุศลต่างๆในชื่อศิลปิน  ทำมากจนเป็นข่าว  และทำให้เรื่องเจวายเจเป็นกระแสสังคม    ส่วนนึงก็ต้องขอบคุณฟนคลับรุ่นใหญ่ของยูชอนด้วยล่ะค่ะ ที่เป็นตัวนำ  เจ้าของไอเดียในหลายๆสิ่ง แล้วก็  อย่าดูถูกทีมแปลข่าวของ  เจวายเจนะคะ ข่าวนึงแปลกันสิบถาษา และมีศูนย์กลางในการแปลข่าวด้วย  ก็บหลักฐานต่างๆไว้ย่างแน่นหนา  เอามาใช้ยันได้ตลอด   สุดท้าย  เราค่อนข้างพอใขกับสภาพน้องในตอนนี้   (ถ้าไม่นับเรื่องการไม่ได้ออกทีวีนะคะ)  น้องๆมีอิสระในการทำส่งต่างๆ เพลงที่น้องแต่งก็เป็นสมบัติของน้องเอง ไม่ต้องโดนค่ายเอาไปปู้ยี่ปู้ยำ อยากแต่งเพลงแบบไหนก็แต่ง ไม่มีกรอบอะไรมาบังคับ น้องได้ทำในสิ่งที่อยากทำมานาน   ได้เล่นละครที่ผ่านการพิจารณาของตัวเอง  ได้เล่นมิวสิคคัลชั้นเลิศ  ได้แสดงความสามารถทางดนตรีและทางด้านศิลปะอย่างเต็มที่   มีชีวิตอิสระ  ได้ทรีทแฟนคลับอย่างดีแบบที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน มีเวลาให้ครอบครัว   ได้เที่ยวเล่นเวลาไหนก็ได้ตามใจปรารถนา  ออกไปกับเพื่อนอะไรยังไงก็ได้  อยากทำอะไรก็ทำ  มีแฟนที่รักเขาอย่างแท้จริงและจะอยู่คียงข้างไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และเาคิดว่า สิ่งเหล่านี้น้องคงไม่ยอมแลกกับการได้ไปออกทีวีเท่านั้นหรอกค่ะ จากคุณ : sweetest เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:48:02

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านหลายๆความเห็นแล้วชอบมากค่ะ ถกกันแบบไม่มีดราม่า ^^ ส่วนตัวเราิคิดว่าเอสเอ็มก็มีอิทธิพลในวงการบันเทิงเกาหลีพอตัวอยู่ ศิลปินในค่ายก็แนวหน้า คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงเสียผลประโยชน์หรอก อารมณ์แบบ ก็เห็นใจนะแต่ช่วยอะไรไม่ได้ เราเองเป็นแฟนคลับ ที่ทำได้ก็สนับสนุนกิจกรรม ผลงานของเจวายเจ เรื่องท้อมั้ย คงไม่อะค่ะ เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็มีความสุข ถึงจะไม่ได้เห็นสามคนบ่อย เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ทดแทนด้วยการเห็นมุมที่ไม่เคยได้เห็น ที่สำคัญคือพวกเค้าก็แสดงออกว่าไม่คิดเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ ที่เป็นแบบนี้ แต่ยังไงซะ การได้ออกรายการโทรทัศน์ก็เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยเจวายเจในหลายๆด้าน ทั้งการโปรโมตและอื่นๆ จากคุณ : i'll always return เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 15:17:27

ความคิดเห็นที่ 41 เราพอเข้าใจคุณจขกทนะคะ ทางออกที่คุณเสนอมาดูเห็นผลชัดเจนที่สุดแต่ในทางปฏิบัติอาจจะทำได้ยากที่สุด ขอบคุณคุณจขกทด้วยนะคะที่ช่วยเสนอไอเดีย มีอีกก็เสนออีกได้ค่า แต่ก็ใช่ว่าตอนนี้ใช่ว่าแฟนๆ น้องไม่พยายามนะคะ สิ่งที่แฟนๆ ทำอยู่คือทำในสิ่งที่เราควบคุมได้เอง และเห็นผลได้จริง เผื่อว่าจะมีคนไม่ได้ตามข่าว เราเลยรวบรวมโปรเจคที่กำลังดำเนินการอยู่มาให้ดูค่ะ ไม่มีสื่อให้ออกแฟนๆ จัดให้เอง ตามคอนเซปต์ "If you need a miracle, we'll make one for you" (เราตั้งให้เองในฐานะแฟนๆละครซองกยุนกวาน ฮ่าๆ) โปรเจคแฟนเกาหลี  โฆษณาตามสถานีรถไฟใต้ดิน เริ่มเดือนนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน 19 สถานีรอบกรุงโซล http://3rebelangels.wordpress.com/2011/03/07/seoul-jyj-subway-ads/  โฆษณาข้างรถเมล์หนึ่งเดือนเพิ่งหมดไปค่ะ - แวบนึงในรายการรันนิ่งแมน http://www.youtube.com/watch?v=DWGeoXKmr48 - http://3rebelangels.wordpress.com/2011/01/27/busads-lets-go-together-jyj-if-we-walk-to-gether-therell-be-a-way/  Internet Broadcasting Station http://www.ilovejyj.com http://3rebelangels.wordpress.com/2011/03/05/110305-jyj-internet-broadcast-special-airing-jaejoongs-day-yoochuns-day-junsus-day/ แฟนต่างชาติ  International Petition of Human and Labor Right for JYJ http://3rebelangels.wordpress.com/2011/03/01/news-foreign-fans-submit-petition-for-jyj-right/ จากคุณ : yessir เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 16:36:34

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ ^ แฟนๆ ทำอะไรกันเยอะมาก จนจะกลายเป็น activist กันทั้งแฟนดอมแล้วค่า เสริมนิดนึง... รถเมล์ที่แปะโฆษณาสนับสนุนเจวายเจนั้นมีรวมกันแล้วร้อยกว่าคันในเมืองใหญ่ของเกาหลีนะคะ ^^ (ข้างบนตอบกันยาวมากแล้ว ขอมาสั้นๆ แค่นี้แหละ ^^) แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 16:43:54 จากคุณ : AlwaysSmiles เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 16:40:57

ความคิดเห็นที่ 43 ต้องเรียกว่า แฟนๆ ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำกันจนกลายเป็นการสร้างสรรค์วัฒนธรรมแฟนคลับใหม่ๆ ชนิดที่คาดไม่ถึงว่าจะสร้างสรรค์กันได้ขนาดนี้เลยทีเดียวค่ะ จากคุณ : piya-chan เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 21:06:39

ความคิดเห็นที่ 44 ถึงมันอาจจะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ที่อาจจะไม่มีผลอะไรมากนักในสายตาคนทั่วไป แต่สิ่งที่ JYJ fans รู้สึกได้ก็คือ อย่างน้อยก็ได้ทำเพื่อคนที่ตัวเองรัก และได้ต่อสู้ไปด้วยกัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา ส่วนประเด็นอื่น ก็อย่างว่าโลกความจริง ผลประโยชน์ต้องมาก่อน จากคุณ : JaeChun เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:06:17

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาตอนตลาดวายอีกแล้ว 555+ 2 ปีมานี้ JYJ Fan ค่ะ เราผ่านอะไรกันมามากมายจริงๆเนอะ แม้จะเหนื่อย มีน้ำตาบ้าง แต่ตอนนี้เรายังคงยิ้มได้กันอยู่ ^^ อ่านหลายความคิดเห็นแล้วน้ำตาแทบไหล โดยเฉพาะท้ายๆของคุณพี่หวาน เราไม่รู้หรอกค่ะว่าเราสู้พอหรือยัง แต่เราจะเราสู้สุดตัว สุดแรงใจที่เราจะทำได้ แล้วก็สู้ต่อไปด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับแนวคิดนะคะ ป.ล. JYJ Fan ซ้อมเต้น flash mob กันหรือยังค่าาา (ไม่เกี่ยวกับกระทู้แต่อย่างใด แหะๆ) จากคุณ : cHocoLate IcE cReam CaKE เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:15:40

ความคิดเห็นที่ 46 อ่า อยากเสริมอีกนิด คือว่า ที่บอกว่าทำไมถึงมีคนอื่น วงอื่น ไม่ฟ้องแล้วอยู่ต่อใช่มั้ยคะ เราได้ยินมาว่า พวกเค้าบางคนได้รับหุ้นจาก SM เป็นของขวัญ ซึ่งทำหลังจากเหตุการณ์ฟ้องร้อง ซึ่งอันนี้ขอออกตัวว่าจำไม่ได้ว่าใครได้ไปบ้าง แต่นี่ก็คงเป็นกลยุทธ์ของ SM ที่จะดึงคนไว้กับตัวเองด้วยมั้งคะ จากคุณ : AlwayLuvJae เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 54 14:27:22

ความคิดเห็นที่ 47 #46 เคย ได้ยินมาว่า โบอา กับคังตะ นะคะที่ได้แบ่งหุ้น อันนี้ได้ยินมาจากเพื่อนตอนที่มีกรณี ชินฮวาอะคะ  แต่เราว่าอาจจะไม่ใช่กลยุทธ์ SM อย่างเดียวแต่อาจเป็นกลยุทธ์ศิลปินด้วยมั้งคะ ประมาณว่า ถ้าไม่มีข้อเสนอดีกว่านี้ ฉันไม่ต่อสัญญา เค้าก็ต้องหาข้อเสนอที่ดีๆมาให้อยู่แล้ว อันนี้เดาเอา เห็นจากดาราหลายๆคนไม่ต่อสัญญาช่อง แล้วไปหาช่องที่ข้อเสนอดีกว่าอะคะ แหะๆ ^^ ในแง่ของธุรกิจ เรื่อง "เงิน" ยังไงก็ต้องมาก่อนอยู่แล้วค่ะ ถ้ามองในมุม SM มีแค่ทางเดียวคือ เหยียบให้จมดินอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมากเลย เราว่า JYJ ได้ทำงานเพลงที่พวกเค้ารัก  มีแฟนให้การสนับสนุนมากมาย เค้าก็ดีใจแล้วนะคะการได้โปรโมทออกทีวี มันเหมือนการได้เพิ่มช่องทางให้คนนอกที่ไม่ใช่แฟนคลับได้เห็นผลงาน เป็นการขยายฐานแฟนคลับ มากกว่า แต่ว่า ถ้าทำงานในเกาหลี การไม่ได้ออกสื่อเลย ก็เหมือน ไม่ได้เดบิวต์ อย่างเป็นทางการ มันเป็นอะไรที่ำลำบากมากที่คนจะรู้จักจริงๆ  กรณีนี้ เห็นด้วยกับหลายๆคห.เลยว่า ยังไงก็ต้องสู้ ส่วนเรื่องช่อง ทั้งหลายเราไม่แน่ใจนะคะ แต่ว่าถ้าพูดเรื่อง sponsor ยังไงรายการต่างๆ ก็อยู่ได้ด้วยค่าโฆษณา สปอนเซอร์ต่างๆอยู่แล้ว ไม่มีคนดูรายการ โฆษณาไม่เข้า รายได้ไม่มี เพราะงั้นเป็นไปไม่ได้ที่ว่าแบนด์ช่องแล้ว SM จะไม่ให้ศิลปินไปโฆษณาน่ะค่ะ เพราะว่า รายได้มันมาเห็นๆอยู่แล้ว เผลอๆ รายได้ค่าโฆษณาของศิลปิน มากกว่ารายได้จากยอดขายอัลบั้มซะอีกมั้งคะ จากคุณ : AcapellaNance เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 03:08:06

ความคิดเห็นที่ 48 มาตอนตลาดวาย 55+ สำหรับเรา ณ เวลานี้ เราเชื่อว่าทั้งสามคนมีความสุขดีค่ะ อาจจะนอยด์ ๆ บ้าง เสียดาย เสียใจไปบ้าง ที่ประเทศตัวเองแท้ ๆ กลับแสดงให้แฟน ๆ ดูไม่ได้ แต่พวกเค้าก็น่าจะทำใจยอมรับได้แล้วแหละค่ะ แล้วก็ ... เจวายเจไม่จำเป็นต้องออกสื่อหรอกค่ะ เจวายเจเค้ายึดพื้นที่หัวใจเราเต็มตัวค่ะ อ้อ ... อีกสองคนก็ยังอยู่ในใจนะคะ เราสนับสนุนทั้งห้าคน แต่เราเลือกสู้ไปกับเจวายเจค่ะ จากคุณ : natgabig เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 02:13:59