Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Review : Katherine Jenkins Live in Bangkok ติดต่อทีมงาน

ช่วงหลังๆนี้ ผมได้ดูแต่คอนเสิร์ตร็อคซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คอนเสิร์ตที่จะไปดูในครั้งนี้ ต้องปรับหูเปลี่ยนโหมดใหม่จากร็อคเป็นเพลงคลาสสิคกับคอนเสิร์ตของสาวสวยเสียงดี Katherine Jenkins ร่วมกับวง Bangkok Symphony Orchestra งานมีขึ้นในวันพุธที่ 23 มีนาคม 2554 จัดที่ หอประชุมใหญ่, ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

Katherine Jenkins เกิดวันที่ 29 June 1980 ที่เมือง Neath, Wales เป็นนักร้องสาวชาวเวลส์ เสียง mezzo-soprano ร้องเพลงได้หลากหลายแนว เช่น Crossover, Classical, Operatic pop มีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของวงการเพลง

ในคอนเสิร์ตนี้ การร้องของเธอแบ่งออกเป็น 4 ช่วงสลับกับการบรรเลงเพลงของวง Bangkok Symphony Orchestra อำนวยเพลงโดย Anthony Inglis วาทยากรผู้มีชื่อเสียงชาวอังกฤษ

- หลังจากวง BSO บรรเลงเพลงโหมโรง ช่วงแรก Katherine Jenkins ออกมาด้วยชุดราตรีสีชมพูปักเลื่อม สวยงาม ดูโดดเด่นมาก Bring Me to Life เป็นเพลงแรกที่นำมาขับร้องเป็นเพลงดังของ Evanescence วงร็อคจากอเมริกา ต่อด้วยเพลง Nella Fantasia และเพลง Una voce poco fa

-ช่วงที่สอง เธอใส่ชุดเกาะอกสีแดง ร้องเพลง Habanera, I Believe เพลงจากอัลบัม Believe ที่เธอร้องคู่กับ Andrea Bocelli และเพลง I Will Always Love You ( L'amore Sei Tu )

-หลังจากพักเบรก Katherine Jenkins ออกมาในชุดราตรีผ้าพาดไหล่ขวาสีม่วงเปลือกมังคุด พร้อมกับเพลง La vie en rose , Hallelujah และเพลง Love Never Dies เป็นเพลงที่ Sir Andrew Lloyd Webber ได้เลือกให้เธอมาเป็นผู้ขับร้องในการบันทึกเสียงเพลงหลักของละครเพลงเรื่อง Love Never Dies ซึ่งเป็นละครเพลงภาคต่อจาก Phantom of the Opera ที่ผู้คนเฝ้ารอกันอย่างมาก Katherine ร้องเพลงนี้ได้อย่างละเมียดละไม ไพเราะมากครับ

-ช่วงสุดท้ายเธอปรากฎกายในชุดเกาะอกสีขาวปักเลื่อมทั้งตัว ต้องบอกว่าสวยงามมากๆ กับเพลง Till There Was You , Angel เพลงของ Sarah McLachlan ที่เธอนำมาร้องได้น่าฟัง และเพลงจากภาพยนตร์สุดคลาสสิคที่ฟังแล้วขนลุกเหมือนต้องมนต์สะกดกับเพลง Parla Piu Piano  - Love Theme From The Godfather

ที่จริงแล้วตามโปรแกรมจบด้วยเพลง The Godfather แต่ Katherine ก็กลับออกมาอีกครั้งกับการขับขานบทเพลงอย่าง Time to say Goodbye เป็นการปิดท้ายคอนเสิร์ตในครั้งนี้ครับ

Programme

Rossini : Overture William Tell

Bring Me to Life
Nella Fantasia
Rossini : Una voce poco fa
From the opera Il Barbiere di Siviglia

Verdi : Prelude to Act 1 La Traviata
Mascagni : Prelude to the opera Cavalleria Rusticana

Bizet : Prelude to the opera Carmen
Bizet : Habanera
From the opera Carmen
I Believe
I Will Always Love You

- Intermission –

Weber : Overture Der Freischutz

La vie en rose
Hallelujah
Love Never Dies

Mussorgsky : Night on a Bare Mountain

Till There Was You
Angel
The Godfather
Time to say Goodbye

แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 54 16:06:52

 
 

จากคุณ : เต็งเช็งเหลียง
เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 11:37:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com