[แปลไทย] จางฮาจิน อดีตเด็กฝึกค่าย SM เีขียนเล่าถึงเจสสิก้าในหนังสืออัตชีวประวัติของเธอ
|
 |
Sica unnie story เรื่องของพี่สิก้า
ในตอนกลางดึกวันหนึ่ง
เวลาที่ฉันร้องเพลง จะมีความทรงจำเรื่องนึงที่ฉันนึกถึง
ตอนค่ำวันหนึ่ง เป็นวันที่ฉันเป็นเด็กฝึกมาอย่างน้อยหนึ่งปีแล้ว ในขณะที่ฉันฝึกซ้อมอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น พอฉันไปดู ก็พบว่ารุ่นพี่คนนึงโทรมาหา
"พี่อยู่ที่ห้องซ้อมตรงชั้นใต้ดินนะคะ มาหาพี่หน่อยได้มั้ย?"
หืม? อะไรกันน่ะ? ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่านะ? ฉันแปลกใจที่จู่ๆ พี่คนนี้ก็โทรมา และรู้สึกกลัวนิดหน่อยด้วย
พอฉันลงไปถึงห้องซ้อมชั้นใต้ดิน ก็พบรุ่นพี่รออยู่ตามลำพังคนเดียว
"มาแล้วเหรอ? กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะเมื่อกี้นี้?"
"ฝึกซ้อมอยู่ที่ชั้นบนน่ะค่ะ"
"งั้นเหรอคะ? ร้องเพลงให้พี่ฟังหน่อยได้มั้ย?"
ทำไมพี่คนนี้จู่ๆ ก็มาบอกให้ฉันร้องเพลงนะ? ฉันรู้สึกอายที่จะร้องเพลงต่อหน้าคนที่ร้องเพลงเก่งมากอย่างรุ่นพี่คนนี้ เพราะฉันยังมีข้อบกพร่องมากมายที่ต้องฝึกอีกเยอะ พี่เค้าเรียกฉันมาเพื่อจะหาข้อตำหนิเรื่องทักษะการร้องเพลงและดุฉันหรือเปล่านะ?
ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ในเมื่อรุ่นพี่สั่งมา จะปฏิเสธก็คงไม่ได้ ฉันก็เลยร้องเพลงที่ฉันกำลังฝึกซ้อมร้องอยู่ในช่วงนั้นค่ะ ชื่อเพลง "Start" ของคุณ Park Kiyoung(พัก กียอง) บอกตามตรงฉันเขินและรู้สึกอายตอนที่ร้องเพลงออกไป
'รุ่นพี่จะแกล้งฉันเหรอเนี่ย?'
ฉันแอบคิดแบบนี้นิดๆ
เพลงนี้มันยาวขนาดนี้เชียวเหรอ? ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งฉันร้องจบเพลง รุ่นพี่ไม่กระดุกกระดิกเลยแม้แต่นิดเดียวและตั้งอกตั้งใจฟังฉันร้อง ในที่สุด เพลงที่รู้สึกว่ายาวแสนยาวยังกับไปปีนยอดเขาเอเวอเรสต์มา ก็จบลง ทีนี้ฉันก็จ้องไปที่รุ่นพี่และคิดว่าจะทำยังไงต่อดี
"อืม... น้องร้องดีขึ้นมากเลยค่ะ แต่พี่ก็ยังคิดว่า พลังจากท้องยังมีไม่มากพอ พี่จะบอกแบบนี้ดีมั้ยว่า เสียงร้องออกมาจากคออย่างเดียว? พี่ว่ามันคงจะดีขึ้นเนอะถ้าน้องฝึกซ้อมการใช้ท้อง(เปล่งเสียง)ให้มากกว่านี้ จะฝึกให้ท้องมีพลังมากขึ้นนี่ก็ ต้องออกกำลังกายช่วงหน้าท้องให้มากๆ ค่ะ น้องทำได้ใช่มั้ย?"
"อ๋อ พี่เค้าเรียกเรามาเพื่อจะสอนเราร้องเพลงนี่เอง!"
ในวินาทีนั้น ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก!
พูดกันตามตรงก็คือ นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ฉันได้รับคำแนะนำเป็นการส่วนตัวจากรุ่นพี่ที่เป็นเด็กฝึกด้วยกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเด็กฝึกนั้นจะน่าอึดอัดขัดเขินอยู่สักหน่อยในหลายๆ ทาง ไม่ว่าเขาหรือเธอจะเป็นรุ่นพี่หรือว่าแก่กว่าเราก็ตาม พวกเขาก็จะไม่พูดถึงเรื่องการร้องเพลงและการเต้นกับเด็กฝึกคนอื่นๆ มากนัก พวกเขาอาจจะกังวลว่าเด็กฝึกคนอื่นๆ จะเห็นว่าพวกเขาอวดเก่งหรือเปล่าก็เป็นได้
รุ่นพี่คนนี้ไม่รู้ถึงความจริงในข้อนี้ค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณมากเพราะเธอเองก็อาจจะกังวลอยู่จนกระทั่งเธอโทรหาฉันก็ได้
"นี่นะคะ ฟังดู ตรงท่อนนี้ ควรจะร้องแบบนี้นะ"
พี่สาวคนนี้ร้องเพลงเดิมให้ฉันฟังด้วยตัวเธอเอง และค่อยๆ ร้องให้ฟังเป็นตัวอย่างไปทีละวรรคจนจบเพลง ฉันยังคงลืมเรื่องนี้ไม่ลงจนถึงวันนี้ค่ะ เป็นการให้คำแนะนำที่อบอุ่นและจริงใจอย่างที่สุดที่ฉันเคยได้รับ ในช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กฝึกอยู่
เพื่อเป็นการส่งท้าย ฉันอยากกล่าวคำทักทายถึงคุณๆ ผู้หญิงเหล่านี้ที่ฉันได้ใช้ช่วงเวลาสามปีที่สดใสที่สุดในช่วงวัยรุ่นของฉันร่วมกับพวกคุณค่ะ
พี่เจสสิก้า เธอเป็นคนที่ฉันได้ใช้วันเวลาฝึกฝนอยู่ด้วยนานที่สุดในชีวิตเด็กฝึกของฉัน ในตอนแรกเธอไม่ค่อยพูดและเธอดูสวยเก๋มีระดับสุดๆ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปหาเธอ ฉันจำได้ถึงช่วงเวลาที่ฉันไม่กล้าพูดกับเธอแม้ว่าจะอยากพูดก็ตาม เพราะภาพลักษณ์ที่ดูเย็นชาของเธอนั่นเอง เพราะงั้นจึงใช้เวลาสักช่วงหนึ่งกว่าที่เราจะได้เป็นเพื่อนกัน แต่หลังจากที่เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ฉันก็พบว่าเธอแคร์ฉันมากค่ะ ฉันไม่ลืมวันเวลาที่เธอช่วยสอนให้ฉันร้องเพลงได้ดีขึ้น และสอนฉันด้วยการร้องให้ฟังเป็นตัวอย่างเลย เธอไม่ค่อยพูดมากนัก แต่คุณรู้ไหมคะว่าเวลาที่เธอเปิดปากพูด เธอจะมุ่งตรงเข้าประเด็นทันที และถ้อยคำของเธอก็ดูมีอำนาจชักจูงค่ะ
พี่เจสสิก้าในมุมมองของฉัน ถ้าจะให้บรรยายด้วยคำคำเดียว ก็เหมือนกับหัวหอม ยิ่งได้รู้จักเธอมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งได้เห็นเสน่ห์ที่หลากหลายมากมายในตัวเธอค่ะ
Translated by 오이사랑싴@soshified.com แปลไทยโดย : wobwab Source: Sosiz.net , but originally from DC Yoona Gallery
----------------------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 54 14:29:56
จากคุณ |
:
ว้อบแว้บ*
|
เขียนเมื่อ |
:
25 มี.ค. 54 14:28:39
|
|
|
|