ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมดนตรีได้ถูกกระตุ้นด้วยอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของ 2NE1 ซึ่งถูกกล่าวกันว่าเป็นอัลบั้มที่ดีอัลบั้มหนึ่ง
จนทำให้บางบริษัทถึงกับต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายอัลบั้มออกไป เพื่อเลี่ยงการวางอัลบั้มตรงกับ 2NE1
ในอัลบั้มแรกที่ออกมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
รวมถึงแผนการปล่อยเพลงไตเติ้ล 3เพลง อย่าง Cant Nobody, Clap Your Hands, และ Go Away
อย่างไรก็ตาม ทั้ง3เพลงนี้ก็ไต่ขึ้นไปอยู่อันดับที่1-3 ของชาร์ตเพลง อีกทั้งเพลงอื่นๆอย่าง Im Hurt, Im Busy และ Love is Ouch
ก็ขึ้นเป็น Top 10 ของชาร์ตด้วยเช่นกัน
สมาชิกวงได้ให้สัมภาษณ์กับ Yeonhap เรื่องการที่มียอดจองอัลบั้ม 120,000 ก็อปปี้ และความปรารถนาอย่างแรงกล้าบนเวที
พวกเธอโชว์ความมั่นใจของตัวเอง พร้อมกับกล่าวว่า "เราต้องการโชว์เพลงและสไตล์ต่างๆที่มีพัฒนาการขึ้นกว่าเมื่อก่อน"
"Hip Hop ระดับกลางๆคือเสน่ห์ของพวกเราค่ะ" = อีก1เหตุผลที่ทำให้ 2NE1 ได้รับความสนใจอย่างมากมาย ด้วยอัลบั้มใน1ปีที่ผ่านมา
ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง I Dont Care and Fire' อีกทั้งพวกเธอได้ทำออกมาให้ดีที่สุด
โดยการไม่ค่อยเข้าร่วมในรายการวาไรตี้ เพื่อรักษาความสด และใหม่ของภาพลักษณ์ตัวเองไว้
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องบันทึกไว้เลยก็คือสมาชิกได้เลือกแนวเพลงฮิพฮอพ และเลือกเส้นทางที่แตกต่างจากGirl Group วงอื่นๆ
พวกเธอดึงดูดแฟนเพลงผู้หญิงด้วยภาพของหญิงแกร่งในเพลงของพวกเธอ
ลีดเดอร์ CL กล่าวว่า "ฮิพฮอพเป็นสีสันหลักของเพลงYG ท่านประธานยางอยากให้พวกเราแสดงถึงเสน่ห์ของวงผู้หญิงที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเพลงฮิพฮอพ
ฉันว่านี่เป็นเหตุผลที่ท่านประธานต้องทดสอบพวกเรามากกว่าบิ๊กแบง"
'Can't nobody' จัดอยู่ในประเภท 'เพลงแข็งแกร่ง' อย่างไรก็ดี อย่างเพลง 'Go Away'นั้นมีบีทที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน
และ 'Clap Your Hands' ที่มีจังหวะแบบฮิพฮอพ มีเมโลดี้ที่คนคุ้นเคย
จากฮิพฮอพ ไป เร้กเก้ , ร็อค และ RnB สมาชิกแต่ละคนต่างก็มีจุดแข็งในดนตรีแบบของตัวเอง
พวกเธอกล่าวว่าการที่พวกเธอได้แสดงสิ่งที่ยอดเยี่ยมของตัวเองออกไปนั้น ต้องขอบคุณโปรดิวเซอร์ของYG , ทั้ง Teddy และ Kush
ดาร่ากล่าวว่า "ด้วยความสัตย์จริง เพลงฮิพฮอพไม่เข้ากับเสียงฉันเลยค่ะ พี่เท็ดดี้จะพยายามหาท่อนที่เหมาะกับฉันในเพลง'Can't nobody'
อย่างการที่เค้าทำให้ฉันในเพลง 'Fire' ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันจึงสามารถปิดบังจุดอ่อนของตัวเองได้"
กง มินจิ หรือที่รู้จักกันในนาม 'ผู้ช่วยเสริมเสียงต่ำ' ซึ่งได้แสดงทักษะทั้งด้านการร้อง และการแร็พ
ร่วมกับ CL ผู้ซึ่งได้รับเลือกว่าเป็น 'testable voice' (เสียงคุณภาพ เหมาะกับทุกแนวดนตรี ประมาณนี้อ่ะค่ะเห็นแม่ยกช่วยกันแปลความหมาย ^ ^)
อย่างไรก็ดี เสียงของพวกเธอนั้นก็ไม่ได้โดนเสียงอันทรงพลังของปาร์ค บอม กลบแต่อย่างใด
"พวกเค้าพูดว่า เราเหมือนตุุ๊กตาเอเชียจากรายการโชว์" = ในระหว่างที่ 2NE1 พักกิจกรรมนั้น พวกเธอก็ไม่ได้หยุดพักผ่อนแต่อย่างใด
นั่นเป็นเพราะว่า พวกเธอต่างก็ยุ่งอยู่งานเพื่อเดบิวที่อเมริกา ร่วมกับ will.i.am แห่งวง Black Eyes Pea
เมื่อครั้งที่ จีนู แห่งวง Jinusean ได้โชว์ MV ให้will.i.amดู , เขาก็สนใจขึ้นมาทันที และขออาสาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับพวกเธอ
สมาชิกทุกคนต่างก็ใช้เวลาในเดือนเมษายนของปีที่แล้ว กับการอัดเพลงร่วมกับ will.i.am เป็นเวลาร่วม1สัปดาห์ที่ บ้าน/สตูดิโอของเขา ที่LA
"Will.i.am บอกกับเราว่าพวกเราเหมือนตุ๊กตาเอเชียที่มาจากรายการโชว์ ฉันเดาว่าเขาสนใจภาพลักษณ์แบบเอเชียของเรา
เราเคยกินซุปไก่เกาหลีแล้วก็กิมจิด้วยกันค่ะ วิลไอแอมสนใจในเสียงของ กายากึม(เครื่องดนตรีพื้นเมือง คล้ายๆกู่เจิง(?)เป็นเครื่องสายค่ะ)ตอนที่ดูวีดีโอค่ะ
พอเราได้มาทำงานร่วมกัน เขาพยายามทำเพลงให้เข้ากับ2วัฒนธรรม" ซานดาร่ากล่าว
ส่วนสมาชิกคนอื่นๆก็ได้เล่าถึงวิธีการอัดเพลงในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
"เราอัดเพลงภาษาอังกฤษทั้งหมด10เพลง และทุกเพลงทำโดยตัววิลไอแอมเอง หรือไม่ก็เป็นตัววิล และทีมงานคนอื่นๆค่ะ
ที่เกาหลีเราแบ่งเพลงออกเป็นพาร์ทๆ แล้วก็อัด แต่will.i.amยุติการอัดเพลงหลังจากให้เราร้องไปซะหลายรอบ
ตั้งแต่ที่ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้ที่อัดมาแล้ว เราเสียใจกันมากเลยล่ะค่ะ" CL กล่าว
เมื่อเราพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ สมาชิกต่างก็กล่าวว่า "จนถึงตอนนี้ เรายังไม่เชื่อเลยค่ะว่าได้ทำงานร่วมกับwill.i.am"
"เราอยากจะมอบความหวังให้กับผู้คนที่กำลังมองหาความฝันของตัวเองอยู่" = สมาชิก2NE1ต่างก็ต้องละทิ้งชีวิตปกติเพื่อเดบิวเป็นนักร้อง
CLที่ต้องครอปเรียนตั้งแต่อยู่ชั้นม.ปลายปี2 , หลังจากสอบปลายภาคผ่านเป็นที่เรียบร้อย เมื่อ2ปีก่อน และกง มินจิ ที่ดรอปเรียนในชั้นม.ปลาย
CL กล่าวว่า "มันก็น่าเสียใจเหมือนกันนะคะ ที่เราไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้ แต่มันเป็นอาชีพที่มีความสุข
ที่ก่อเป็นพลัง100%เต็มในตัวฉันค่ะ ฉันไม่เสียใจค่ะ"
กง มินจิกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า "เวทีก็เหมือนกับยาเสพติดค่ะ ตั้งแต่ที่การร้องเพลงและการเต้นกลายมาเป็นสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันหาอยู่ตลอดเวลา
ฉันจะหลงเสน่ห์ของพวกมันตลอดเวลาที่ได้อยู่บนเวที วันนี้ฉันถูกผู้ชมกระตุ้นในแสดงออกอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะค่ะ"
ทั้งคู่เห็นตรงกันว่า ต้องการที่จะเป็น "ตัวอย่างที่ดี" ตั้งแต่ที่ได้มาอยู่ในอุตสาหกรรมเพลง
"เราอยากเป็น icon มากกว่าจะเป็น idol ตั้งแต่ที่ได้นำเสนอเพลงดีๆออกสู่สาธารณชนในฐานะนักร้อง
เราอยากหยิบยื่นความหวังให้กับคนที่ทำตามความฝันของตัวเอง เราอยากเป็นตัวอย่างความมั่นใจ เพื่อเป็นตัวแทนให้กับผู้ใหญ่ค่ะ" CLกล่าว
Source: Nate & Yeonhap News
Credit :: clbaddestfemale
Thai trans :: blackjack home @ pantip