ความคิดเห็นที่ 1 กรณีของ "นิชคุณ" (NichKhun) อย่างไรก็ตามการแบ่งส่วนรายได้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อย ที่แตกต่างกันไปตามแต่ข้อสัญญาของแต่ละกลุ่มศิลปิน โดยสำนักข่าวแห่งเกาหลีใต้ เลือกใช้หนุ่มไทย นิชคุณ หรเวชกุล แห่งบอยแบนด์ 2PM เป็นกรณีศึกษาในประเด็นนี้ โดยเมื่อเร็วๆนี้ นิชคุณเพิ่งได้งานโฆษณาไอศครีมยี่ห้อหนึ่งในเกาหลีใต้ จากนั้นก็เดินทางไปถ่ายทำโฆษณาในเมืองไทย หลังจากกลับมาเกาหลีใต้เขายังไปปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ และได้ร่วมแสดงทีวีซีรีส์เรื่องหนึ่งด้วย ซึ่งจากงานต่างๆเหล่านี้มีข้อมูลว่า นิชคุณต้องแบ่งรายได้จากโฆษณาไอศครีมให้กับเพื่อนๆสมาชิกวง 2PM ของเขาอย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่รายได้จากงานโฆษณาในเมืองไทยเป็นส่วนของนิชคุณแต่เพียงคนเดียว นอกจากนั้นค่าตัวในการปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ต่างๆ ยังจะถูกแบ่งให้กับสมาชิกคนอื่นๆของ 2PM เช่นเดียวกัน แต่สำหรับค่าตัวจากงานแสดงจะเป็นของ นิชคุณ เพียงคนเดียว ซึ่งการแบ่งเงินรายได้ลักษณะนี้มาจากข้อสัญญาที่ระบุเอาไว้ว่ารายได้ ส่วนตัวของสมาชิก 2PM แต่ละคน ต้องถูกแบ่งให้กับสมาชิกทุกคนเท่าๆกัน แต่สำหรับนิชคุณจะมีข้อยกเว้นสำหรับงานในประเทศไทย อันเป็นบ้านเกิดของเขา ที่นักร้องหนุ่มชื่อดังสามารถรับเงินได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเป็นงานที่มาจากชื่อเสียงความนิยมโดยส่วนตัวของเขาเอง ดังมากได้มาก ดังน้อยได้น้อย อย่างไรก็ตามยังมีเอเยนซี่บางแห่งที่ใช้ระบบอื่น รวมถึงหลักการที่ว่าใครมีชื่อเสียงและงานมากกว่า ก็สมควรจะมีรายได้มากกว่า รวมถึง SM Entertainment เอเยนซี่ยักษ์ใหญ่ ที่มีนักแสดงนักร้องในสังกัดมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มบอยแบนด์ และเกิร์ลกรุ๊ป ซึ่งแต่ละวงต่างก็มีสมาชิกบางคนมีชื่อเสียง และงานมากกว่าเพื่อน ๆ หลายเท่า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในกรณีนี้ก็คือ ยุนอา (YoonA) และ แทยอน (Taeyeon) จาก Girls' Generation หรือ คิมฮีซอล (Kim Hee Chul) และ อีทึก (Lee Tuek) จาก Super Junior ที่มีงานส่วนตัวมากกว่าเพื่อนๆอย่างเห็นได้ชัด และกลายเป็นที่มาของรายได้ก้อนโตกว่าเพื่อนด้วย พนักงานในบริษัทเอเยนซี่คนหนึ่งยอมรับว่า วิธีการแบ่งรายได้แบบนี้ ทำให้สมาชิกแต่ละคนมีรายได้แตกต่างกันมาก และบางทีก็สร้างบรรยากาศแปลกๆขึ้นมาระหว่างวงได้เหมือนกัน "เพราะส่วนต่างรายได้ระหว่างสมาชิกคนที่ได้ เงินมากที่สุด กับน้อยที่สุด ใน Super Junior มีช่องว่างมาก ทำให้บางทีความรู้สึกของสมาชิกแต่ละคนในการรวมกลุ่มกันก็ค่อนข้างแปลกๆอยู่เหมือนกัน " แต่ก็เป็นเรื่องยุติธรรมเมื่อมองในมุมว่า สมาชิกคนดังกล่าวต้องทำงานมากกว่าเพื่อน ถึงจะได้รายได้มากกว่า จากคุณ : amen 23 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 07:44:23

ความคิดเห็นที่ 2 เช่นเดียวกับในกรณีของ Pledis Entertainment ต้นสังกัดของ After School ที่มี ยูอี (UEE) และ ปาร์กกาฮี (Park Ka Hi) เป็นสมาชิกที่มีงานส่วนตัวแซงหน้าเพื่อน ๆ ในวง และ Core Contents Media ต้นสังกัดของ T-ara ที่ ฮัมอึนจอง (Eun Jung) และจียอน (Ji Yeon) เป็นดาวเด่น ก็เลือกที่จะใช้หลักการ "ตัวใครตัวมัน" เช่นเดียวกัน แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างสำหรับ Core Contents Media ที่ตัวของบริษัทจะเป็นผู้รับรายได้ในส่วนของการร่วมรายการวาไรตี้ต่างๆของนักร้องนัก แสดงในสังกัดไปทั้งหมด เพราะบริษัทมองว่าการปรากฏตัวในรายการลักษณะนี้ก็ถือว่าเหล่าดารานักร้องได้ โปรโมตตัวเองไปแล้ว นอกจากนั้นเงินที่ได้รับจากรายการวาไรตี้ยังเป็นจำนวนที่น้อยมาก เหล่าเด็กในสังกัดจึงไม่ค่อยจะติดใจทวงถามอะไรกับรายได้ส่วนนี้ ข้อสรุปคนวงใน "วิธีไหนก็สร้างปัญหาได้ทั้งนั้น ในตอนท้าย KBS อ้างความเห็นจาก "คนวงใน" ผู้หนึ่งว่าคงไม่สามารถตัดสินได้ว่า รูปแบบการแบ่งรายได้ระหว่างสมาชิกในกลุ่มศิลปินแบบใดจะดีกว่ากัน เพราะต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน "ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน มันก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ ในกรณีที่สมาชิกทุกคนต้องแบ่งรายได้เท่าๆกัน คนที่ทำงานมากที่สุดก็จะบ่นมากที่สุด ในทางตรงกันข้ามถ้าเลือกในแบบรายได้ของใครของมัน คนที่ดังน้อยที่สุด และมีรายได้น้อยที่สุด ก็จะบ่นมากที่สุด เรื่องของเรื่องก็คือวงไอดอลพวกนี้เกิดง่าย และแตกกันได้ง่ายมาก" Credit : blike.net จากคุณ : amen 23 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 07:45:54

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวคิดว่า เรื่องจริงตามข้อสัญญามันมีรายละเอียดปลีกย่อย ของย่อย ของย่อยลงไปอีกนะ เรื่องการรับงานเนี่ยมันอาจจะจำแนกประเภทของงาน เช่นงานโฆษณา งานโชว์ตัว งานโทรทัศน์ วาไรตี้ รายการ งานคอนเสิร์ต งานพิธีกร งานแสดง งานจับฉ่ายต่างๆ แต่ละตัวงานก็น่าจะมีรายละเอียดลงไปอีก ส่วนตัวไม่คิดว่า อย่างนิชคุณรับงานมา ที่เกาหลี ไม่ว่างานไหนก็ต้องแบ่งครึ่งใช่ปะ อันนี้พูดตรงๆ นะ คือคำพวกนี้มันซื้อใจไง ฟังแล้วโอ้ย นิชคุณได้ใจไปเลย แต่ในความจริง มันอาจจะมีประเภทของงานที่นิชคุณอาจจะได้รับเต็มๆ ตามเจ้าของงานเลือก..ก็อาจจะเป็นไปได้นะ แต่นิชคุณยังไม่ใช่ประชากรเกาหลีใช่ปะ นิชคุณถือพาสปอร์ตอะไรอะ? ไม่รู้นะ แต่คิดว่ารายได้ของนิชคุณ น่าจะโดนหักโน้นหักนี่มากกว่าคนอื่นอีก จากคุณ : เพลงz เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 08:01:45

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ นิชคุณถือหนังสือเดินทางไทยค่ะ เห็นด้วยกับตอนจบของบทความ ไม่ว่าจะแย่งแบบไหน ก็เกิดปัญหาขึ้นได้ทั้งนั้น จากคุณ : กระต่ายเมืองกรุง เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 08:25:14

ความคิดเห็นที่ 5 ขอแปะข้อความเล็กๆ น้อยๆ จากซูเปอร์จูเนียร์แล้วกันนะคะ สมาชิกวงซุเปอร์จูเนียร์ได้ตกลงกันไว้ว่า มันเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนในวงจะได้รับรายได้เท่าเทียมกันโดยไม่สนว่าใครหาเงินได้มากกว่า เพราะพวกเขาคือทีมเดียวกัน  เพราะฉะนั้น สมาชิกวงซุเปอร์จูเนียร์คนที่มีรายได้มากสุดจากการทำกิจกรรมเดี่ยวจะต้องเป็นคนจ่ายค่าอาหารมื้อดึกให้กับสมาชิกคนอื่นๆในวง ในช่วงแรกที่เพิ่งเดบิวต์ อีทึก คิมฮีชอล และคังอิน ได้รับความนิยมมากในรายการวาไรตี้โชว์ ทำให้ทั้งสามมีรายได้มากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ พวกเขาได้แบ่งรายได้ของตัวเองให้กับสมาชิกคนอื่นๆ แม้เยซองจะยืนกรานปฏิเสธว่า “นายและพวกพี่ๆต้องทำงานหนักมากถึงได้เงินพวกนั้นมา พวกเราจะรับมันได้ยังไง”  แต่คังอินก็เกลี้ยกล่อมสมาชิกว่า “พวกเราคือทีมเดียวกัน ถ้าฉันใช้เงินนี่เพื่อความสุขของตัวเองคนเดียว ฉันจะอยู่ในทีมไปเพื่ออะไร” สมาชิกในวงโต้เถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า สมาชิกคนที่มีรายได้มากสุดจะเป็นคนจ่ายค่าอาหารมื้อดึก ไม่ว่าสมาชิกในวงจะอยากทานอะไรก็ตาม สมาชิกที่ได้รับรายได้มากสุดจะต้องเป็นคนจ่ายค่าอาหารทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า หรือ ขาหมู พวกเขาทานอาหารหลายอย่างมาก แต่การไปทานอาหารข้างนอกจะมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นพวกเขาเลยทานแต่อาหารที่มีบริการส่งถึงบ้านเท่านั้น อย่างช่วงนี้พวกเขาก็ใช้บริการพนักงานส่งของให้ส่งอาหารให้ Source: High Cut Magazine Translated by Minnie @ SUJUISM.BLOGSPOT.COM TAKE OUT WITH THE FULL CREDITS DO NOT ADD YOUR  NAME TO THE CREDITS แปลโดย AmLoveSJ   การจ่ายค่าอาหารอาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะคะ แต่สำหรับไอดอลที่รายได้น้อยมักได้กินแต่อาหารง่ายๆ ถูกๆ อย่างคิมบับหรือรามยอน และค่าครองชีพที่สูงในเมืองโซล มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ สำหรับเราสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทำให้ SJ อยู่กันแบบเป็นครอบครัว และอยู่ด้วยกันได้นานกว่า 5 ปีแบบนี้ค่ะ แล้วเรื่องรายได้ เราว่า SJ ตอนนี้กระจายรายได้ๆ พอๆ กันแล้วนะคะ ตอนแรกๆ อาจใช่ แต่ตอนนี้ ทุกคนพยายามหาจุดเด่น แล้วทำงานในสาขาที่หลากหลาย คนที่อาจไม่เด่นในวาไรตี้ก็ขายเสียงร้องแสดงละครเวทีอะไรแบบนี้ หรือกระจายรายได้เป็นยูนิตย่อย อย่าง Super Junior M ไปยังตลาดต่างประเทศค่ะ บริษัทนี้เค้าเก่งเรื่องขยันหางานให้ทำอยู่แล้วล่ะค่ะ ส่วนวงอื่นๆ เราว่าก็เหมือนเค้าว่าอ่ะแหละ แบบไหนก็มีข้อดีข้อเสียทั้งนั้นแหละค่ะ สิ่งสำคัญคือความเข้าใจในวงค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 54 09:42:25 จากคุณ : yuikuzoo เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 09:16:49

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นไอดอลนี่มันลำบากเหมือนกันแฮะ จากคุณ : RgimEian เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 10:18:59

ความคิดเห็นที่ 7 #5   “พวกเราคือทีมเดียวกัน ถ้าฉันใช้เงินนี่เพื่อความสุขของตัวเองคนเดียว ฉันจะอยู่ในทีมไปเพื่ออะไร” ชอบคำพูดของคังอินจัง เป็นเราใครพูดแบบนี้น้ำตาร่วงแน่ๆ จากคุณ : รักลิง ณ จุดนี้ (LoveYul) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 12:29:35

ความคิดเห็นที่ 8 สมมติถ้าเราอยู่ในกลุ่มไอดอลที่ต้องแบ่งรายได้เท่ากัน แล้วเราเป็นคนที่งานเดี่ยวน้อยสุดหรือดังน้อยสุด เราคงรู้สึกแย่เหมือนกัน เหมือนเอาเปรียบเพื่อน แต่ถ้ามันแก้ไขอะไรไม่ได้ เราก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ให้สามารถช่วยสร้างรายได้ได้บ้าง เราชอบเหตุผลของการแบ่งเท่ากันอยู่ข้อหนึ่ง ที่บอกว่าคุณโด่งดังจากการเป็นสมาชิกวง ดังนั้นรายได้ก็ควรเข้ามาที่วง และแบ่งให้เพื่อนๆ ที่ร่วมทำงานหนักมากับคุณ แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าเราทำรายได้น้อยสุด เราก็จะรู้สึกแบบที่บอกไปข้างต้น การแบ่งรายได้ของใครของมันก็มีข้อดีของมันอยู่ แต่ละคนตั้งใจทำงานและหน้าที่ของตัวเองไป คนที่งานน้อยก็ต้องตั้งใจพัฒนาตัวเองเป็นปกติ แต่ถ้ารู้สึกว่าพอใจกับรายได้ที่มีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมาก แค่ตั้งใจทำหน้าที่หลักของตัวเองให้ดี แต่เชื่อว่าทุกคนก็ยังให้ความสำคัญกับวงมาเป็นอันดับหนึ่งเหมือนเดิม เพราะชื่อเสียงของวงก็ยังเป็นภาพลักษณ์หลักของสมาชิกแต่ละคนอยู่ดี ส่วนเรื่องสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกในวง คนที่รายได้มากสุดอาจใช้วิธีซื้อพวกของกินของใช้ส่วนรวมมาไว้ที่หอเยอะๆ หรือพาเพื่อนไปเลี้ยงข้าวเป็นบางโอกาส การซื้อของขวัญให้กันบ้างก็เป็นเรื่องสำคัญ แสดงให้เห็นถึงน้ำใจและการแบ่งบัน จากคุณ : บ่อน้ำร้อน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 12:43:48

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่าวิธีทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อยก็แฟร์ดีค่ะ สมมติคนที่ดังสุดงานเยอะสุดได้ 5 งาน ในขณะที่เราได้งานเดียว แล้วรายได้ที่เราได้มันเท่ากับเพื่อนที่ทำงานหนัก5งาน เป็นเราๆก็รู้สึกแย่อะค่ะ เหมือนอยู่เฉยๆ ก็ได้เงินเท่ากัน ในขณะที่เพื่อนทำงานงกๆ ทั้งวี่ทั้งวัน กดดันเหมือนกันนะแบบนี้ เป็นใครๆก็ต้องคิดบ้างว่านี่ฉันเอาเปรียบเพื่อนรึเปล่า แต่ถ้าแบ่งตามงานที่ทำ ถ้างานน้อยก็จะได้รู้จักพัฒนา หาจุดเด่นของตัวเอง พอใจกับรายได้ที่ได้มาตามความสามารถ ก็อาจจะไม่กดดันเท่าไหร่ อืม แต่คิดๆดู ถ้าคนที่แทบไม่มีงานเดี่ยวเลยก็จะลำบากสำหรับวิธีนี้ เพราะส่วนแบ่งจากค่าอัลบั้มมันก็น้อยจริงๆ ยิ่งวงคนเยอะนี่ จริงๆแต่ละระบบมันก็มีข้อดีข้อเสียเนอะ คนที่งานเยอะ   ส่วนนึงก็ต้องให้เครดิตกับวงด้วยที่ทำให้มีคนรู้จัก มีคนจ้างไปทำงานนู้นงานนี้ แต่เห็นไอดอลส่วนใหญ่เค้าก็ดูมีความสุขกันดี(มั้ง)  ทั้งระบบแบบ jyp และ sm วิธีแบบเอสเจดูเวิคค่ะ เหมือนประนีประนอมกัน คนรายได้มากก็เลี้ยงน้องเลี้ยงเพื่อนในวงไปตามโอกาส อยู่เหมือนพี่เหมือนน้อง แบบนี้ทำให้รักใคร่ผูกพันกันดี สำหรับเอสเอ็มนี่ สมมติแทยอนเป็นดีเจ ก็ได้รับไปเดี่ยวๆเต็ม แล้วถ้ายุนอาแสดงละครก็ได้รับเดียวๆรึเปล่าคะ หรือต้องหาร แล้วพรีเซนเตอร์สินค้า mcรายการประจำ ถ้าเป็นคนเดียว ต้องหารให้เพื่อนๆด้วยรึเปล่า หรือว่ามันแล้วแต่คนจ้างแต่ละงานอีกที แล้วรายการวาไรตี้ที่ไปออกนี่ได้เงินมั๊ยคะ เห็นเค้าบอกว่าไม่ได้ อย่างไปออก family outing คลุกดินคลุกโคลนอย่างงนั้นนี่ไม่ได้เลยเหรอ จากคุณ : SugarBun เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 13:25:00

ความคิดเห็นที่ 10 ดูเหมือนว่าสาวๆไม่เคยพูดเรื่องการแบ่งรายได้ แต่ถ้าให้เดาน่าจะงานใครงานมันตามระบบของ SM มากกว่า และคิดว่าพวกเธอคงพ้นช่วงที่จะมาคิดเรื่องใครเงินมากเงินน้อยกันแล้ว งานเดี่ยวของแต่ละคนในระยะหลังๆ ก็มีไม่มาก เรียกว่าปี 10 - 11 ผมว่างานเดี่ยวหรือคนสองคน ลดลงไปมาก ค่อยทยอยถอดออกทีละงานสองงาน จนถึงตอนนี้เรียกได้ว่าไม่มีเลย เนื่องจาก SM มุ่งงานเพลงเป็นหลักแล้วตอนนี้ คอนญี่ปุ่นอีก 10 รอบ ก็คงเหนื่อยเอาการ สำหรับงานรายการวาไรตี้ คิดว่าถ้าเป็นแขกรับเชิญ ไม่น่าจะได้เงินอะไรมาก ทางรายการน่าจะถือว่าเป็นโอกาสให้โปรโมทตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นผู้ดำเนินรายการประจำ เช่น พวก IY , family Outing ก็น่าจะได้มากกว่าหน่อย(เท่าไรไม่รู้) ถ้าสังเกตได้ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้สาวๆไปออกวาไรตี้น้อยจริงๆ คือ มันคงพ้นช่วงการโปรโมทตัวเองไปแล้ว ต่างจากสมัยปี 09 ที่เห็นหน้าแทบจะทุกอาทิตย์ งานที่ได้เงินเป็นน้ำเป็นเนื้อที่สุด น่าจะเป็นงานโฆษณา ซึ่งผมว่าสัดส่วนรายได้จากตรงนี้น่าจะมากที่สุด และส่วนใหญ่งานโฆษณาของสาวๆ ก็เป็นงานกลุ่มซะเยอะด้วย ยกเว้นบางคนที่มีงานเดี่ยวเยอะๆ อย่างยุนอา แต่งานอย่าง Dior ยุนอาก็ไม่ได้ทำ เพราะติดสัญญาอื่น สุดท้ายรายได้เฉลี่ยๆ มันก็อาจจะอยู่ในระดับที่ไม่ได้ต่างกันแบบฟ้ากับเหวอะไรมากมาย  ทั้งหมดนี้ ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : โอบ๊อท เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 14:59:01

ความคิดเห็นที่ 11 สาวๆ ก็คงใช้ระบบของ SM ผลตอบแทนตามจำนวนงาน สำหรับสาวๆ เราว่าอยู่กันเป็นครอบครัว พี่ๆ ดูแล เลี้งดูปูเสื่อน้องๆ อย่างดี เพื่อความสุขในครอบครัวและวัฒนธรรมในครัวเรือนของโซชิ ถึงแม้คาดว่าเจ้าเหม่งจะมีรายได้มากที่สุดในทีม แต่เชื่อว่าพวกพี่ๆ ยินดีจ่ายค่าอาหารต่างๆ เอง ดูได้จากภาพที่เจ้าเหม่งจอมแสบเดินเสงี่ยมตามคุณหนูเข้าร้านอาหาร หรือรายการอะไรสักอย่างที่สาวๆ เล่าว่าไปทานอาหารกันแล้วอยู่ๆ ยัยหนูก็แย่งจ่ายค่าอาหารพวกพี่ตกใจกันยกใหญ่ โดยให้เหตุผลว่าพี่ๆ เลี้ยงมาตลอดหนูก็โตแล้วจะเลี้ยงพี่ๆ บ้าง และสาวๆ มีกองทุนโซชิที่มียายหนูเป็นผู้เรียกเก็บจากพี่ๆ สำหรับผู้ที่มาสาย ลา ขาดงานโดยไม่มีข้อยกเว้น ได้ยินว่าเก็บได้หลายล้านวอน ถึงไม่มีคนจ่ายใช้กองกลางก็ได้อยู่ จากคุณ : เช้าวันจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 20:55:58 A:124.122.78.66 X: TicketID:281156

ความคิดเห็นที่ 12 <<รบกวนแทรกนอกเรื่อง>> คุณเช้าวันจันทร์ค่ะ (ความคิดเห็นที่ 11) รายการอะไรค่ะ อยากดูค่ะ อันนี้เพิ่งเคยได้ยิน เรื่องน้องซอเลี้ยงพี่ ช่วงนี้ชอบน้องมากเลยค่ะ หารายการเก่าๆ ของซอจูมาดู ค่ะ ถ้ามีใครทราบวานช่วยบอกหน่อยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^ ============ ขอบคุณ คุณ LoveYul มากๆ ค่ะ (^_^) บอกทางให้อีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 17:56:13 จากคุณ : joy ohlanla เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 03:56:23

ความคิดเห็นที่ 13 น้องซอพูดในรายการวิทยุคะ ส่วนรายการอะไรวันไหน เดี๋ยวหาเจอ เดี๋ยวกลับมาบอกให้คะ เพราะตอนนี้ออนมือถืออะคะ ไม่ได้เปิดคอม ^^ ***เจอแล้วคะ [100210] Shim Shim Tapa Radio - SNSD คะ บอร์ดSSFC มีซับให้โหลดคะ v v v แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 17:32:58 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 16:17:37 จากคุณ : เขียนบน iPhone (LoveYul) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:40:36

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ มี โหลด ซับไทย ปะครับ หาได้ที่ไหนครับ ขอบคุณล่วงหน้าที่ตอบครับ จากคุณ : amen 23 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:25:51

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเราสาวๆ น่าจะใช้ระบบของ SM นะคะ แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องเงินหรืองานเดี่ยวต่างๆ สาวๆมีโฆษณาเข้ามาก็ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่มี 2009 รายได้ที่แบ่งกันน่าจะเยอะมากๆ เรื่องเลี้ยงข้าวยิ่งไม่น่ามีปัญหาใหญ่ ได้ยินมาว่ามีนางนึง ป๋ามากกกกก อิอิ จากคุณ : บี - อาร์ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 17:33:21

ความคิดเห็นที่ 16 รายได้ของสาวๆเกือบทุกคนไม่น่าจะต่างกันมากนะคะ เพราะรายได้จากโฆษณา จากอีเวนท์ก็ได้กันทั้ง 9 คน   งานพิธีกร ดีเจ ละคร วาไรตี้ เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว ถอนตัวออกหมด เน้นไปที่งานเพลงอย่างเดียวเลย จากคุณ : paint_my_love เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 19:16:18

ความคิดเห็นที่ 17 สรุปว่าสาวๆของเราตอนนี้ ถ้ารวยเราก็รวยด้วยกัน ถ้ากินแกลบก็กินด้วยกัน เพราะรายได้เท่ากันทุกกรณีแล้วซินะ (ฮ่าๆ ขำขำนะคะ) จากคุณ : ซาราง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 19:33:55